CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    + + + เกือบได้มาลา + + +


    ล้อเลียนกระทู้ข้างล่างของจุ๊บซะงั้น อิอิ



    ศุกร์ที่แล้ว มีภารกิจเดินทางไปต่างเมืองเพื่อประชุม

    ค่ำวันพฤหัส โทรไปสั่งจองรถยนต์รับจ้างสาธารณะล่วงหน้าจากศูนย์วิทยุเจ้านึง ให้รถมารับตอนตีห้า

    ตีสี่ครึ่งวันศุกร์ ศูนย์วิทยุก็โทรมาแจ้งเลขทะเบียนรถที่จะมารับ เป็นการปลุกผมให้ตื่นไปในตัว ผมก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยในไม่ถึง 20 นาที พอตีห้าเป๊ะ ก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน

    ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย ยัดกระเป๋าเข้าท้ายรถไม่ได้ เพราะติดถังแก๊ส ก็เลยเอากระเป๋าวางไว้ข้างตัวที่เบาะหลัง ไม่เป็นไร ยังไงก็นั่งคนเดียวอยู่แล้ว

    รถออกจากหน้าหมู่บ้าน ก็วิ่งเลียบถนนพระราม 3 ไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วปานกลาง ซัก 100 กม./ชม. เพราะเป็นเช้ามืดวันหยุด รถว่างมาก

    พอถึงแยกที่จะเลี้ยวซ้ายไปสาธุประดิษฐ์ หรือถ้าตรงไปก็จะลอดใต้สะพานพระราม 9 ก็มีทางเลือกสองทาง ให้เลี้ยวซ้ายไปสาธุประดิษฐ์ หรือขึ้นสะพานข้ามแยกตรงไป ซึ่งถ้าจะไปแบบไม่อ้อม ก็ต้องเลี้ยวซ้ายไปขึ้นทางด่วน

    พี่คนขับแกคงเกิดสับสนในชีวิต ประมาณจะซ้ายดี หรือตรงดี ... คิดอยู่จนใกล้จะถึงสะพานยกระดับอยู่แล้ว ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ สุดท้าย พี่เค้าเลยแทงกั๊ก คือไม่เลี้ยว และไม่ตรง

    รถก็พุ่งปีนราวสะพานแบบผ่ากลาง กวาดป้ายต่างๆ ที่บอกให้ชิดซ้ายชิดขวาซะทางนึง และป้ายห้ามรถเล็กพวกมอเตอร์ไซค์ขึ้นสะพานลอยกระจายข้ามรถไป ...

    จนตัวรถคร่อมราวสะพานแล้ว ก็โชคดีกระมัง ที่ฝั่งขวาของรถหนักกว่า คือมีทั้งคนขับร่างท้วม และกระเป๋าผมอีกราว 15 กก. รถเลยเอียงขวาเอาด้านข้างถูกับพื้นถนนบนสะพานไถลไปราวๆ 50 เมตร ก่อนที่จะเริ่มขวางลำและพลิกกลับมาเอาล้อลงใหม่ด้วยแรงเหวี่ยงของความเร็วที่รถวิ่งมา และไปหยุดหมดฤทธิ์ที่ราวสะพานด้านขวา

    ผมเปิดประตูแบบต้องใช้แรงถีบช่วย ก่อนออกมาสำรวจว่ารถที่นั่งมาเป็นยังไงบ้าง ก็พบว่ากระจกแตกหมดทุกบาน สีข้างด้านขวายุบไปทั้งแถบ หน้ารถยุบเข้ามาครึ่งนึงได้ ส่วนล้อทั้งสี่แบะออกแบบทางใครทางมัน

    ผมเดินอ้อมไปดูคนขับ ช่วยกระชากประตูเปิด เท่าที่ดูภายนอก พี่เค้าก็ไม่เป็นอะไรมาก มองไปในรถก็เห็นว่าวิทยุรับส่งในรถยังทำงาน ผมก็เลยบอกให้พี่เค้าวิทยุแจ้งศูนย์ซะ ส่วนผมต้องรีบไปสนามบิน คงต้องเรียกรถใหม่ แล้วก็ลาเค้ามาเรียกรถใหม่เพื่อไปสนามบินต่อ


    ******************************


    วินาทีที่เห็นว่าพี่คนขับแทงกั๊กแน่ๆ ผมทำตัวเป็นเฟอร์นิเจอร์แบบเข้ามุม เอาตัวแนบเข้ามุมห้องโดยสารรถไว้ มือซ้ายโหนราวจับเหนือประตู ส่วนมือขวาก็ยันกระเป๋าเดินทางไว้แน่น พอในจังหวะที่รถพลิกเอาข้างขวาลงฟาดพื้น ผมก็เสียววาบ มองผ่านกระจกหลักว่ามีรถตามมาทิ่มซ้ำหรือไม่ ... โชคดีที่ไม่มี ไม่งั้นก็คงสวดมนต์ยังไม่ทันจบบทก็คงไปซะก่อนแล้วละ

    - โชคดีที่ยังเช้ามาก และเป็นวันหยุด ไม่มีรถตามมาเสียบด้านหลัง
    - โชคดีที่มีกระเป๋าเดินทางวางข้าง ทำให้ผมมีที่ยึด และไม่มีที่ว่างให้ตัวผมเหวี่ยงไปมาที่เบาะหลังตอนรถตะแคงอยู่
    - โชคดีที่พลิกขวา ไม่ใช่ซ้าย เพราะถ้าพลิกซ้าย ฝั่งที่ผมนั่งจะร่วงลงมาจากสะพานที่ความสูงประมาณเกือบสองเมตร

    และที่โชคดีกว่านั้น ผมมีเพียงรอยฟกช้ำเขียวนิดหน่อยที่ข้อมือขวาขนาดซักเท่าหัวแม่โป้ง กับที่สะโพกอีกขนาดเท่ากัน ซึ่งคงเกิดจากการกระแทกกับกระเป๋านั่นแหละ


    ****************************


    ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน ก็นั่งคำนวณคร่าวๆ รวมทุกกรมธรรม์ ทั้งที่บริษัททำให้ ทั้งแบบปกติและแบบที่ประกันเดินทางที่ซื้อเพิ่มคุ้มครอง ประกันส่วนตัว ... เจ้าปัน-ปันจะมีทุนอยู่ประมาณ 5 ล้านกว่า ... อดไป หุหุ


    ก็เกือบจะต้องบอกลากันซะแล้วนะเพื่อนชาวหลังห้อง แต่ถ้าไปจริง ผมคงไม่สามารถมาบอกลาที่กระทู้ได้หรอกนะ คงต้องอาศัยไปบอกด้วยตัวเองแทน อุอุ ฮ่าฮ่าฮ่า


    แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 49 12:40:35

    แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 49 12:39:10

    จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 13 พ.ค. 49 12:37:57 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป