ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มจากแผนผังก่อนละกันนะคะ.. จะได้เข้าใจง่ายขึ้น จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 12:27:44 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพไม่ชัด.. ต้องขอโทษด้วยนะคะ.. เครื่องสแกนเสียไปนานแล้วค่ะ.. เลยต้องใช้กล้องถ่ายรูปแทน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 12:28:31 ]

ความคิดเห็นที่ 3 พระอิศวร กายสีขาว พระศอ (คอ) สีดำเนื่องจากดื่มน้ำพิษที่เกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของบรรดาเทวดาและอสูร มีสามตา ตาที่สามอยู่กลางพระนลาฎ (หน้าผาก) ซึ่งปกติจะปิดอยูเสมอ และหากลืมตานี้ขึ้นเมื่อใดจะสามารถเผาผลาญสรรพสิ่งได้ ทรงมงกุฎน้ำเต้ากาบ ทัดพระจันทร์เป็นปิ่น มีนาคเป็นสังวาลย์ อาวุธคือตรีศูล (สามง่าม) สถิต ณ เขาไกรลาศ ประทับอยู่บนหลังโคอุศุภราชนามว่า นนทิ หรือศังกายาน เจ้าแห่งสัตว์จัตุบาททั้งหลาย มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่น ศุลี, ศิวะ, พระสยมภูวญาณ เป็นต้น พระมเหสีคือพระอุมา มีโอรส 2 องค์ คือ พระขันทกุมาร (เทพเจ้าแห่งสงคราม) และพระพิฆเณศ (เทพเจ้าแห่งศิลปะ) ชาวฮินดูนับถือพระอิศวรว่าเป็นเทพเจ้าสูงสุดในบรรดาเทพทั้งสาม บทบาทที่สำคัญในเรื่อง 1. เป็นผู้ประทานพรหิรันตยักษ์ให้สามารถม้วนแผ่นดินได้ ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ชาวโลก จึงต้องให้พระนารายณ์ลงไปปราบหิรันตยักษ์ โดยแปลงเป็นหมูป่าขวิดฆ่าหิรันตยักษ์จนตาย 2. ประทานพรแก่นนทกยักษ์ หรือนนทุก ยักษ์ที่ทำหน้าที่ล้างเท้าให้เทวดาที่มาเฝ้าพระอิศวร โดยขอให้มีนิ้วเพชรสามารถชี้ผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายได้ จนพระนารายณ์ลงไปปราบนนทุก 3. ให้พระพายซัดอาวุธเข้าปากนางสวาหะจนนางตั้งครรภ์และให้กำเนิดหนุมาน 4. เป็นผู้ขว้างงาช้างปักอกทศกัณฐ์ ขณะที่ทศกัณฐ์กำลังไล่ฆ่ากุเปรัน 5. ยกนางดาราให้แก่สุครีพเป็นบำเหน็จในการช่วยยกเขาพระสุเมรุร่วมกับพาลีให้ตั้งตรงได้ และฝากนางดาราไปกับพาลี ซึ่งพาลีก็สาบานกับพระนารายณ์ว่าจะไม่ล่วงเกินนาง แต่ก็ผิดคำสาบาน ทำให้พาลีต้องเสียชีวิตด้วยศรของพระราม 6. เมื่อครั้งเจ้าเมืองบาดาลชื่อริรุณหกไปเฝ้าพระอิศวรแล้วถูกตุ๊กแกล้อเลียน จึงขว้างตุ๊กแกด้วยสังวาลย์ทำให้เขาพระสุเมรุเอียง ต่อมาทศกัณฐ์สามารถชลอได้ จึงทูลขอพระอุมาเป็นรางวัล พระอิศวรจำต้องยกให้ แต่ทศกัณฐ์ก้ไม่สามารถล่วงเกินพระอุมาได้ จึงได้นำมาคืนและขอนางมณโฑไปแทน 7. เป้นผู้ประทานศรพรหมมาสตร์ให้แก่อินทรชิต 8. เป็นผู้ช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้พระรามกับนางสีดาคืนดีกัน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 12:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พระอุมา ธิดาท้าวหิมวัต (เทพเจ้าแห่งเขาหิมาลัย) กับนางเมนุกา เป็นพระมเหสีของพระอิศวร มี 2 ภาค คือ ภาคใจดี และภาคดุร้าย ภาคใจดี มีผิวกายสีเหลือง ชื่อว่า พระอุมา (แสงสว่าง) บรรพตี (บารพตี) เคารี (เหลืองกระจ่าง) เหมวดี ซึ่งมีสิริโฉมงดงามมาก ภาคดุร้าย มีผิวกายดำ หน้าตาดุร้าย น่าเกลียดน่ากลัว ชื่อว่า ทุรคา (ผู้เข้าถึงมิได้) กาฬี, ศยามา (ดำ), จัณฑี, จัณฑิกา (ดุร้าย) เป็นต้น ในภาคนี้มนุษย์มักบูชากันด้วยวิธีการร้ายกาจต่างๆ เช่น ฆ่าคนเพื่อบูชายัณ หรือด้วยอาการลามกต่างๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 12:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 พระนารายณ์ กายสีม่วงดอกตะแบกมีสี่กร ทรงมงกุฎชัย อาวุธคือ สังข์ ตรี คทา และจักรซึ่งพระอิศวรประทานให้ มเหสีคือพระลักษมี ทรงครุฑเป็นพาหะ ประทับ ณ เกษียรสมุทรบนหลังอนันตนาคราช เป็นเทพผู้รักษาโลก ดังปรากฏในเรื่องนารายณ์สิบปางอันเป็นเรื่องราวการอวตารของพระนารายณ์ที่ลงมาปราบยุคเข็ญในแผ่นดิน ดังนี้ 1. มัตสยาวตาร เกิดเป็นปลาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเกิดน้ำท่วมโลก และนำพระเวท (คัมภีร์พราหมณ์) กลับมาคืนพระพรหม 2. กูรมาวตาร เกิดเป็นเต่าเพื่อช่วยรองรับเขามันทระมิให้พื้นโลกทะลุจากการที่บรรดาเทวดาและพวกอสูรใช้กวนน้ำอมฤต 3. วราหาวตาร เกิดเป็นหมูเพื่อฆ่าหิรันตยักษณ์ผู้ม้วนแผ่นดินทั้งสี่ทวีปให้จมลงใต้มหาสมุทร เพราะไม่อยากให้มนุษย์มีที่อยู่อาศัย 4. นรสิงหาวตาร เกิดเป็นตัวนรสิงห์ (สัตว์ที่มีหน้าเป็นสิงห์ ตัวเป็นคน) เพื่อปราบหิรัณยกศิปุ น้องชายฝาแฝดของหิรันตยักษ์ 5. วามนาวตาร เกิดเป็นพราหมณ์เตี้ยเพื่อปราบท้าวพาลีจอมยักษ์ผู้มีจิตใจโหดร้าย รุกรานมนุษย์และเทวดา แย่งชิงเอาแผ่นดินไปครอบครองจนหมดสิ้น 6. ปรศุรามาวตาร เกิดเป็นพราหมณ์ลูกชื่อราม ต่อมาพระอิศวรประทานขวานเพชรให้จึงได้ชื่อว่า ปรศุราม เพื่อปราบท้าวอรชุนที่เบียดเบียนพวกพราหมณ์ ฤาษีและนักบวช 7. รามจันทราวตาร เกิดเป็นพระราม โอรสท้าวทศรถและนางเกาสุริยา เพื่อมาปราบทศกัณฑ์ 8. กฤษณาวตาร เกิดเป็นท้าวกฤษณะในเรื่องมหาภารตะ หรือสงครามภารตะยุทธ 9. พุทธาวาชตาร เกิดเป็นพระพุทธเจ้าโดยถือว่าพระพุทธองค์เป็นปางหนึ่งของพระนารายณ์อันเป็นปางปัจจุบัน 10. กัลกยาวตาร เกิดเป็นพระกัลกิมีผิวขาว ทรงม้าขาวมือถือดาบเพื่อมาปราบปรามคนพาลบนโลกมนุษย์ เมื่อสิ้นกลียุคแล้ว ปางนี้จึงยังมาไม่ถึง และนับเป็นปางสุดท้ายก่อนที่โลกจะแตกดับไป [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 13:03:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 พระลักษมี กายสีทอง มเหสีของพระนารายณ์ กำเนิดจากฟองน้ำเมื่อครั้งที่บรรดาเทวดาและอสูรช่วยกันกวนเกษียรสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤต นางได้ผุดขึ้นมาจากเกษียรสมุทร จึงได้นามว่าชลธิชา (เกิดแต่น้ำ) และถือดอกบัวจึงได้นามว่าพระปัทมา เป็นต้น เมื่อพระนารายณ์อวตาร ก็มักจะไปกำเนิดเป็นคู่หรือญาติสนิท เช่น ในปางวามนาวตาร กำเนิดเป็น นางกมลา ในปางปรศุรมาวตาร กำเนิดเป็น นางธรณี ในปางรามาวตาร กำเนิดเป็น นางสีดา ในปางกฤษณาวตาร กำเนิดเป็น นางรุกมิณี พระลักษมีนั้นนับถือว่าเป็นตัวอย่างแห่งนางที่งามทั้งรูปและกิริยา เป็นผู้นำมาซึ่งความเจริญ จึงได้ชื่อเรียกอย่างอื่นอีกเช่น พระภัควดี พระโลกมาตา เป็นต้น [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 13:06:41 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระพรหม กายสีแดง มีสี่พักตร์จึงเรียกว่า จตุรมุข แปดหู (อัษฎกรรณ) แปดกร พระเศียรสวมมงกุฏ พระกายคล้องยัชโญปวีต (สายเครื่องหมายของวรรณะพราหมณ์) ไทยเรียกว่า สายธุรำ สวมมาลัยดอกไม้สีขาว เครื่องนุ่งห่มสีขาว พระมเหสี คือพระสุรัสวดี สถิตย์ ณ พรหมพฤนทา มีชื่อเรียกอย่างอื่นอีก เช่น พรหมธาดา หรือธาดา (ผู้สร้าง), อาตมรู (ผู้เกิดเอง), ประชาปติหรือประชาบดี (ผู้เป็นใหญ่ในหมู่มนุษย์), สยมภู เป็นต้น ทรงหงส์เป็นพาหนะ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 13:10:07 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พระอินทร์ กายสีเขียว เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีชายา 4 องค์ คือ นางสุชาดา สุจิตรา สุนันทา และสุธรรมา อาวุธคือวัชระ (สายฟ้า) ศรและพระขรรค์ สถิต ณ ปราสาทเวชยันต์ ทรงช้างเอราวัณ (ช้าง 33 หัว) เป็นพาหนะ มีหน้าที่กำกับดูแลให้น้ำฝนแก่มวลมนุษย์ ชอบให้ความช่วยเหลือคนดีที่ตกทุกข์ได้ยาก มีชื่อเรียกอย่างอื่น เช่น เพชรปาณี, มัฆวาน, เทวินทร์, อมรินทร์, สหัสนัยน์ เป็นต้น [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 13:12:21 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะน้อง nods เด๋วไปหามาอ่านมั่งดีก่า อยากเป็นเจ้าของ จากคุณ : s_manavvan - [ 26 พ.ค. 49 14:40:12 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณนะคะ จากคุณ : รั้วหน้าบ้าน - [ 26 พ.ค. 49 15:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 พระราม พระราม คือ พระนารายณที่อวตารลงมาเกิดเป็นโอรสของท้าวทศรถกับนางเกาสุริยาแห่งกรุงอโยธยาเพื่อปราบทศกัณฐ์ โดยมีพระอนุชาต่างพระมารดา 3 พระองค์ คือ พระพรต พระลักษณ์ และพระสัตรุด ซึ่งทุกพระองค์ต่างรักใคร่กันเป็นอย่างดี มเหสีคือนางสีดา อาวุธคือศร 3 เล่มที่พระอิศวรประทานให้คือ พรหมมาสตร์, อัคนิบาต และพลายวาต พระรามได้ศึกษาศิลปศาสตร์จากสำนักฤาษีสวามิตร (วิศวามิตร) ต่อมาเป็นผู้ยกศรรัตนธนูได้สำเร็จจึงได้อภิเษกกับนางสีดา และพานางกลับมายังกรุงอโยธยา ระหว่างทางได้พบและต่อสู้กับรามสูร ยักษ์ผู้ถือขวานเพชรเป็นอาวุธจนได้รับชัยชนะ รามสูรยอมถวายศรให้แก่พระราม และพระรามได้ฝากศรนั้นไว้กับพระพิรุณ ภายหลังจึงนำมาใช้ต่อสู้กับทศกัณฐ์ ต่อมาพระรามไม่ได้ขึ้นครองกรุงอโยธยา ต้องออกบวชเดินป่าเป็นเวลา 14 ปีตามคำขอของนางไกยเกษีมเหสีองค์หนึ่งของท้าวทศรถ โดยนางขอให้ท้าวทศรถมอบราชสมบัติให้โอรสของนางคือพระสัตรุด ซึ่งท้าวทศรถจำต้องปฏิบัติตามเพราะเคยสัญญาว่าจะยอมทำตามที่นางขอทุกประการเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่นางเคยช่วยเหลือโดยใช้แขนสอดล้อแทนเพลารถที่หักลงไปในระหว่างการทำสงครามกับยักษ์ปทูตทันต์จนได้รับชัยชนะในการทำศึกครั้งนั้น ในการเดินป่านั้น นางสีดาและพระลักษมณ์ได้ร่วมเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วย วันหนึ่งนางสำมนักขาน้องสาวของทศกัณฐ์ บังเอิญมาพบพระรามก็เกิดหลงรักจึงเข้าไปเกี้ยวพาราสีและทำร้ายนางสีดาพระลักษมณ์โกรธจึงดัดจมูกและหูของนางสำมนักขาทิ้ง นางสำมนักขาโกรธแค้นมากจึงไปบอกให้พี่ชายคือพระยาขรและพระยาทูษณ์ไปฆ่าพระราม แต่พระยาขรและพระยาทูษณ์กลับเป็นฝ่ายถูกพระรามฆ่าตาย ดังนั้นนางสำมนักขาจึงไปยุยงทศกัณฐ์ผู้เป็นพี่ชายคนโตให้หลงใหลรูปโฉมของนางสีดา เนื่องจากรู้ว่าทศกัณฐ์มีนิสัยเจ้าชู้ชอบผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม เมื่อทศกัณฐ์แอบมาลักพาตัวนางสีดาไปไว้ยังกรุงลงกาแล้ว จึงเกิดทำศึกสงครามกันหลายครั้งเพื่อแย่งชิงตัวนางสีดาระหว่างฝ่ายพระราม ซึ่งมี 3 ทหารเอก คือ หนุมาน สุครีพ และองคต เป็นกำลังสำคัญร่วมกับกองทัพวานรจากเมืองขีดขินและเมืองชมพู และฝ่ายทศกัณฐ์ซึ่งนำบรรดาญาติพี่น้องพันธมิตรและบริวารยักษ์ทั้งหลายเข้าต่อสู้ แต่ในที่สุดฝ่ายธรรมะย่อมชนะอธรรม ศึกครั้งสุดท้ายทศกัณฐ์ต้องศรของพระรามพร้อมๆ กับที่หนุมานขยี้กล่องดวงใจทศกัณฐ์จึงเสียชีวิต [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 16:06:47 ]

ความคิดเห็นที่ 12 นางสีดา กายสีนวลจันทร์ ทรงมงกุฎกษัตรี นางสีดา คือพระลักษมีมเหสีของพระนารายณ์ที่อวตารลงมาเกิดเพื่อเป็นคู่ของพระราม ครั้งเมื่อนางมณโฑได้กลิ่นข้าวทิพย์ซึ่งฤาษี 5 ตน กวนให้มเหสีทั้งสามของท้าวทศรถเสวย นางมณโฑเกิดความต้องการอยากลิ้มรสบ้าง ทศกัณฐ์จึงให้นางกากนาสูรแปลงเป็นกาไปขโมยข้าวทิพย์มาให้ นางกาโฉบมาได้เพียงครึ่งก้อน เมื่อนางมณโฑเสวยข้าวทิพย์นั้นไปก็ทรงครรภ์ และให้กำเนิดเป็นนางสีดา เมื่อแรกเกิดนางสีดาร้องว่า "ผลาญราพณ์" ถึงสามครั้ง พิเภกได้ทำนายว่า นางเกิดขึ้นมาเพื่อล้างผลาญเผ่าพงศ์ยักษ์ให้หมดสิ้นไป ทศกัณฐ์จึงสั่งให้นำนางใส่ผอบลอยน้ำไป ฤาษีชนกหรือท้าวชนกจักรวรรดิซึ่งออกบวชมาพบเข้า จึงนำนางไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม และฝังดินฝากนางไว้กับพระแม่ธรณีไว้เป็นเวลาสิบหกปี นางสีดาจึงถือว่าเป็นลูกของพระแม่ธรณีด้วย ต่อมาวันหนึ่งพระฤาษีชนกเกิดความเบื่อหน่ายในการบวช คิดกลับไปปกครองบ้านเมืองตามเดิม ได้ไถผอบนางสีดาขึ้นมาจากดินตั้งชื่อให้ว่า สีดา (แปลว่า รอยไถ) นางสีดาเป็นผู้มีความงดงามมาก จนแม้ท้าวมาลีวราชผู้ทรงอุเบกขายังกล่าวชมนาง หลังจากท้าวชนกจักรวรรดิกลับไปถึงมิถิลานครแล้ว มีความปรารถนาจะให้นางมีคู่ครอง จึงประกาศป่าวร้องไปยังบรรดากษัตริย์ทั้งหลายให้มาลองยกศรศิลปชัย ซึ่งมีมหาธนูโมลีและเกราะคู่บ้านคู่เมือง ผู้ใดสามารถยกได้สำเร็จก็จะได้อภิเษกกับนางสีดา ในที่สุดพระรามเป็นผู้ที่ยกได้สำเร็จจึงได้อภิเษกกับนางและพากลับมายังกรุงอโยธยา เมื่อพระรามออกบวช นางสีดาก็ติดตามไปด้วยพร้อมกับพระลักษมณ์ จนกระทั่งถูกทศกัณฐ์ลักพาตัวไปไว้ยังกรุงลงกา นางสีดาเคยถูกผู้อื่นแปลงกายให้เหมือนถึง 2 ครั้ง 1. ทศกัณฐ์ใช้ให้นางเบญกายแปลงเป็นนางสีดาตายลอยตามน้ำมาเพื่อลวงให้พระรามเข้าใจผิดคิดว่านางตายแล้วจะได้ยกทัพกลับไป 2. อินทรชิตให้สุขาจารแปลงเป็นนางสีดาแล้วนำไปฆ่าต่อหน้าพระลักษมณ์เพื่อลวงให้เข้าใจผิด เมื่อเสร็จศึกลงกาแล้วนางได้ครองราชย์ร่วมกับพระราม แต่เคราะห์ของนางยังไม่หมดสิ้น เนื่องจากนางอดูลซึ่งเคยเป็นข้ารับใช้ของทศกัณฐ์คิดหาทางแก้แค้นแทนทศกัณฐ์ แปลงกายเป็นมนุษย์ สมัครเป็นนางกำนัลของนางสีดาแล้วใช้อุบายหลอกให้นางเขียนภาพทศกัณฐ์ให้ดู เมื่อเขียนภาพแล้วไม่สามารถลบออกได้จนพระรามมาพบเข้า เกิดความระแวงแคลงใจคิดว่านางยังมีจิตผูกพักกับทศกัณฐ์อยู่ แม้ว่านางจะแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลุยไฟก็ตาม พระรามก็ยังไม่เชื่อ สั่งให้พระลักษมณ์นำตัวนางไปประหาร แต่พระลักษมณ์ปล่อยนางเข้าป่าไป ซึ่งในขณะนั้นนางได้ตั้งครรภ์แล้ว ต่อมานางสีดาได้อาศัยอยู่กับฤาษีวัชมฤคแล้วให้กำเนิดโอรสชื่อว่า พระมงกุฎ พระฤาษีชุบกุมารขึ้นมาอีกองค์หนึ่งมีหน้าตาเหมือนกันให้ชื่อว่า พระลบ นางสีดาได้เลี้ยงดูกุมารทั้งสองมาด้วยกันเพื่อให้เป็นพี่น้องและเพื่อนเล่นกัน ต่อมาพระรามได้พบกับพระมงกุฎและพระลบ เมื่อรู้ว่าเป็นพ่อลูกกันพระกุมารทั้งสองจึงหนีไปหาพระฤาษีวัชมฤคจนพระรามได้พบกับนางสีดา พระรามสำนึกในความผิดของตนจึงขอคืนดี แต่นางยังโกรธ และไม่ยอมคืนดีด้วย แต่ยอมให้พระรามพาพระกุมารทั้งสองกลับไปยังกรุงอโยธยา ภายหลังพระรามคิดวิธีหาทางคืนดีกับนาง โดยทำอุบายเป็นสิ้นชีวิตแล้ว นางสีดาตกใจรีบมาเยี่ยมพระศพ พระรามจึงรีบออกมาจากโกศและจับนางไว้ นางสีดาโกรธแล้วอธิษฐานขอแทรกแผ่นดินหนีไปยังเมืองบาดาล พระรามจึงรีบติดตามไปอ้อนวอนขอคืนดีด้วยโดยมีพระอิศวรช่วยเกลี้ยกล่อม ในที่สุดพระรามและนางสีดาก็คืนดีกันและกลับมาเสวยราชย์ร่วมกันอย่างมีความสุข [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 16:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 13 พิมพ์นานๆ แล้วเมื่อยจังค่ะ.. พอเท่านี้ก่อนดีกว่า.. ถ้าอยากให้เอามาลงเพิ่มก็บอกนะคะ.. ส่วนเรื่องหนังสือ.. ซื้อได้ก็ดีค่ะ.. น่าเก็บจริงๆ ภาพสีค่อนข้างเยอะ (แต่ไม่ทั้งหมด) อีกอย่าง.. น๊อตซื้อมาตั้งแต่ตอน ม.ปลาย แล้วน่ะค่ะ.. ไม่รู้ตอนนี้จะยังมีขายอยู่รึเปล่านะคะ (ราคา 285 บาทค่ะ) จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 16:09:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มี ภาคที่เจอ อุลตร้าแมน มะ หนูน๊อต อิอิ อยากดูอีกรอบคิดถึงสมัยเด็ก ๆ หนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์   อุทัยเทวี  กิ้งก่ากายสิทธิ์เอย  วุ้ย หาดูยากแล้วสมัยนี้ จากคุณ : flywithbird - [ 26 พ.ค. 49 17:35:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ป้าขยันพิมพ์จังเยยย... จากคุณ : สิงหราช - [ 26 พ.ค. 49 17:50:27 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ผ่านมาอ่าน โห...........ขอบคุณค่ะ นึกถึง คุณ nods อุตส่าห์พิมพ์แล้วขอเก็บกระทู้ไว้ดีกว่า เผื่อให้หลานๆ ที่บ้าน ดูด้วย จากคุณ : 010101 - [ 26 พ.ค. 49 19:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พระลักษมณ์ กายสีทอง หนึ่งพักตร์ สองกร ทรงมงกุฎชฎาเดินหน เดิมเป็นพญาอนันตนาคราชที่ประทับของพระนารายณ์ในเกษียรสมุทร แบ่งภาคมาเกิดเป็นโอรสของท้าวทศรถและนางสมุทรเทวี เป็นพระอนุชาของพระราม มีน้องร่วมพระมารดาคือพระสัตรุด ในการเดินป่าออกบวชเป็นเวลา 14 ปีนั้น พระลักษมณ์ได้ติดตามมาด้วยเพื่อช่วยคุ้มครองภัยให้พระรามกับนางสีดา และในการทำศึกกับกรุงลงกา พระลักษมณ์ได้ออกไปรบกับกองทัพของทศกัณฐ์อย่างกล้าหาญถึง 3 ครั้งคือ 1. พระลักษมณ์ออกรบกับกุมภกรรณ จนต้องหอกโมกศักดิ์และหนุมานช่วยแก้ไขได้สำเร็จ 2. พระลักษมณ์ออกรบกับอินทรชิต จนต้องศรพรหมาสตร์และหนุมานช่วยแก้ไขได้สำเร็จ 3. พระลักษมณ์ออกรบกับทศกัณฐ์ จนต้องศรกบิลพัทและหนุมานช่วยแก้ไขได้สำเร็จ นับว่าพระลักษมณ์เป็นผู้มีความกล้าหาญ เสียสละและจงรักภักดีต่อพระรามอย่างแท้จริง เมื่อเสร็จศึกแล้วพระรามโปรดให้พระลักษมณ์ไปครองเมืองโรมคัล จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 20:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 พระพรต กายสีแดงชาด ชาติเดิมคือจักรของพระนารายณ์ อวตารมาเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถกับนางไกยเกษีครองกรุงไกยเกษร่วมกับพระสัตรุด เมื่อทราบข่าวว่าท้าวทศรถพระบิดาจะทำพิธีราชาภิเษกพระราม จึงเดินทางมายังกรุงอโยธยาพร้อมกับพระสัตรุด ครั้นถึงกรุงกลับได้ทราบว่าพระรามต้องออกไปเดินดงเป็นเวลาสิบสี่ปี โดยมีนางสีดาและพระลักษมณ์ติดตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท้าวทศรถสิ้นพระชมน์ จากการตรอมพระทัยที่ต้องพรากจากพระราม โดยมีสาเหตุจากการที่นางไกยเกษี ผู้เป็นพระมารดาต้องการให้พระพรตครองกรุงอโยธยา พระพรตโกรธพระมารดามากและถวายคำสัตย์ปฏิภาณว่า เมื่อครบสิบสี่ปีแล้วพระรามยังไม่เสด็จกลับมาจะกระโดดเข้ากองไฟตาย ครั้นเสร็จศึกกรุงลงกาแล้วพระรามจึงยกพลกลับ และในระหว่างที่พระรามกำลังเดินทางกลับนั้น พระพรตได้ยกกระบวนพยุหไปรอรับสามกษัตริย์กลับคืนยังกรุงอโยธยา ต่อมากรุงลงกาเกิดกบฏ พระรามโปรดให้พระพรตและพระสัตรุดยกทัพไปปราบจนสำเร็จ แล้วพระพรตยังยกทัพตามไปรบท้าวจักรวรรดิถึงกรุงมลิวัน เมื่อเสร็จศึกกรุงมลิวันแล้วจึงยกทัพย้อนไปเยี่ยมกรุงลงกาอีกครั้งก่อนเดินทางกลับกรุงอโยธยา แล้วกลับมาปกครองกรุงไกยเกษตามเดิม เมื่อพระรามออกเดินดงครั้งหลัง พระพรตก็เป็นผู้เฝ้ากรุงอโยธยาจนพระรามกลับมา ครั้นทราบข่าวว่ากรุงไกยเกษเสียทีแก่ท้าวคนธรรพ์นุราชแล้วพระรามโปรดให้พระพรตยกทัพไปชิงเมืองคืนพร้อมกับพระสัตรุด พระมงกุฎและพระลบ เมื่อเสร็จศึกได้เมืองคืนแล้วจึงกลับมาปกครองกรุงไกยเกษร่วมกับพระสัตรุดตามเดิม [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 20:20:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 พระสัตรุด กายสีม่วงอ่อน หนึ่งพักตร์ สองกร ทรงมงกุฎยอดเดินหน ชาติเดิมคือคฑาของพระนารายณ์ อวตารมาเกิดเป็นโอรสท้าวทศรถและนางสมุทรเทวี เป็นน้องร่วมพระมารดากับพระลักษมณ์ เมื่อกรุงลงกาเกิดกบฏ พระรามโปรดให้ไปปราบกบฏร่วมกับพระพรต ครั้นเสร็จศึกกรุงลงกาแล้วพระพรตยกทัพเลยไปยังกรุงมลิวันแห่งท้าวจักรวรรดิ พระสัตรุดได้ออกรบ 3 ครั้ง คือ 1. รบกับสุริยาภพ ต้องหอกเมฆพัทของสุริยาภพจนสลบ และพิเภกแก้ไขจนฟื้นขึ้นมา 2. รบกับบรรลัยจักร ต้องศรเหราจักรมัดตัวไป สุครีพ หนุมาน องคตและนิลพัท เข้าไปช่วยเหลือแก้หลุดออกมาได้ 3. รบกับนนยุกพักตร และได้ชัยชนะฆ่านนยุพักตร์ตาย หลังเสร็จศึกแล้ว พระรามโปรดให้ไปครองกรุงไกยเกษร่วมกับพระพรตตามเดิม [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 20:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ทศกัณฐ์ ยักษ์กายสีเขียว สิบพักตร์ ยี่สิบกร ทรงมงกุฏชัย ปากแสยะ ตาโพลง อาวุธคือตรีศูล เดิมคือยักษณ์นนทกหรือนนทุก ที่กลับชาติมาเกิดเพื่อต่อสู้กับพระนารายณ์ซึ่งอวตารมาเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา โอรสของท้าวลัสเตียนกับนางรัชฎา มีน้องร่วมมารดา 6 ตน คือ กุมภกรรณ พิเภก ขร ทูษฐ์ ตรีเศียร และนางสำมนักขา เป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกา ทศกัณฐ์นิสัยชั่วร้ายและเจ้าชู้มีชายาและนางสนมมากมาย เช่น นางกาลอัคคี นางมณโฑ สนมหนึ่งพันตน แม้แต่กับสัตว์เดียรัจฉาน เช่น ช้างและปลา ก็ยังแปลงกายไปสมสู่ด้วย และไม่เว้นแม้แต่ลูกเมียคนอื่นก็ยังมีความปรารถนา เช่น รู้ว่านางสีดาเป็นชายาของพระรามก็ยังมีความปรารถนาและลักพาตัวมาไว้ยังกรุงลงกา จนเป็นสาเหตุให้ต้องทำศึกกับพระราม จนบรรดาญาติมิตรและบริวารพากันเสียชีวิตไปจนหมดสิ้น และในที่สุดตนเองก็ถูกพระรามฆ่าตาย เมื่อทศกัณฐ์ครองกรุงลงกาแล้ว มีชื่อเสียงเลื่องลือในความดุร้ายและมีฤทธานุภาพถึงกับใช้เทวดาได้ จึงเป็นที่น่าเกรงขามแก่บรรดาเทวดาและนักบวช ตามปกติทศกัณฐ์มีหน้าเดียว สองมือเหมือนคนสามัญ ต่อเมื่อแผลงฤทธิ์จึงมีสิบหน้ายี่สิบมือ ญาติและมิตรที่ทศกัณฐ์ใช้ให้มาช่วยต่อสู้กับกองทัพของพระรามมีดังนี้คือ 1. ให้นางเบญกายแปลงเป็นนางสีดาลอยตามน้ำมาเพื่อให้พระรามเข้าใจผิดและยกกองทัพกลับไป 2. ให้นางสุพรรณมัจฉาบุตรสาวที่เกิดจากนางปลา พาบริวารไปขนหินที่หนุมานและนิลพัทนำพลวานรมาถมสมุทรเพื่อทำเป็นถนนข้ามไปยังกรุงลงกาไปทิ้งเสีย แต่ในที่สุดหนุมานก็ได้นางสุพรรณมัจฉาเป็นเมีย 3. ให้ภาณุราชไปพลิกแผ่นดินหมายจะกลบกองทัพของพระราม แต่ถูกหนุมานฆ่าตาย 4. ให้ไมยราพณ์สะกดกองทัพของพระราม และจับพระรามไปขังไว้ที่เมืองบาดาล แต่หนุมานตามลงไปช่วยไว้ได้ และฆ่าไมยราพณ์ตาย 5. กุมภกรรณพยายามพูดตักเตือนให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดาคืนให้แก่พระราม แต่ทศกัณฐ์ไม่เชื่อ กุมภกรรณจึงจำต้องยกทัพไปต่อสู้กับกองทัพของพระรามอีก 4 ครั้ง จนในที่สุดก็ต้องสิ้นชีวิตด้วยศรของพระราม 6. ให้อินทรชิตยกทัพไปต่อสู้กับกองทัพของพระรามถึง 5 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ และในที่สุดก็ต้องสิ้นชีวิตด้วยศรของพระราม 7. ให้มูลพลัมและสหัสสเดชะ พันธมิตรของตนยกทัพไปต่อสู้กับกองทัพของพระราม แต่ก็ถูกหนุมานฆ่าตาย 8. ให้แสงอาทิตย์ยกทัพมาช่วยรบ แต่ก็ถูกองคตฆ่าตาย 9. ให้สัทธาสูรกับวิรุณจำบังสู้รบกับหนุมาน แต่ก็ถูกหนุมานฆ่าตายทั้งคู่ 10. ให้ทัพนาสูรเข้าต่อสู้กับกองทัพของพระราม แต่ก็เสียชีวิตด้วยศรของพระราม 11. ให้ทศคีรีวันและทศคีรีธร บุตรที่เกิดจากนางช้างเข้าสู้รบกับกองทัพของพระราม แต่ทั้งคู่ก็เสียชีวิตด้วยศรของพระลักษมณ์ ศึกครั้งสุดท้าย ทศกัณฐ์แปลงกายเป็นพระอินทร์เข้าต่อสู้กับพระราม แต่ต้องศรของพระรามพร้อมๆ กับหนุมานนำกล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาบดขยี้ ทศกัณฐ์จึงสิ้นชีวิตลง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 20:45:19 ]

ความคิดเห็นที่ 21 นางมณโฑ กายสีขาว ทรงมงกุฏกษัตรี มเหสีของทศกัณฐ์ มีโอรสธิดาด้วยกัน 3 องค์ คือ อินทรชิต นางสีดา และไพนาสุริยวงศ์ ชาติเดิมเป็นกบอาศัยอยู่ใกล้กับอ่างน้ำนมของพระฤาษีสี่ตน คือ อตันตา วชิระ วิสูตร และมหาโรมสิงห์ ซึ่งบำเพ็ญพรตอยู่ ณ เชิงเขาหิมพานต์เป็นเวลาสามหมื่นปี โดยมีโคนม 500 ตัวเลื่อมใสศรัทธาในความเพียร ทุกๆ เช้าโคนมเหล่านี้จะพากันหยดน้ำนมลงในอ่างให้พระฤาษีฉันเป็นอาหาร เมื่อพระฤาษีฉันเสร็จแล้วจะแบ่งน้ำนมให้นางกบเพื่อยังชีพเสมอมา วันหนึ่งนางนาค (ลูกพญากาลนาค) แอบขึ้นมาสมสู่กับงูดิน พระฤาษีสี่ตนบังเอิญมาพบเข้า เห็นว่าไม่เหมาะสมที่นาคซึ่งเป็นสัตว์ตระกูลสูงจะมากระทำเช่นนี้  จึงเอาไม้เคาะที่หางและกลางลำตัวของนางนาค นางนาคตกใจลืมตาขึ้นเห็นพระฤาษีก็รู้สึกละอาย จึงรีบหนีกลับไปเมืองบาดาล เมื่อกลับไปถึงเมืองบาดาลแล้ว นางนาครู้สึกโกรธแค้นพระฤาษีมากและเกรงว่าพ่อของตนรู้เรื่องเข้าอาจได้รับโทษถึงตาย จึงคิดฆ่าพระฤาษีโดยกลับขึ้นมาคายพิษใส่ไว้ในอ่างน้ำนมนั้น ฝ่ายนางกบเห็นนางนาคกระทำเช่นนั้น จึงคิดจะแทนคุณพระฤาษีที่แบ่งน้ำนมให้ตนทุกเช้า ตัดสินใจตายแทนโดยกระโดดลงไปในอ่างน้ำนมและขาดใจตายเพราะพิษนาคนั่นเอง เช้าวันต่อมาเมื่อพระฤาษีมาพบเข้าเกิดความสงสารจึงเป่ามนต์ให้ฟื้นขึ้นมาถามดู เมื่อนางกบเล่าความจริงให้พระฤาษีฟัง พระฤาษีมีใจกรุณาจึงช่วยกันชุบนางกบให้เป็นหญิงสาวที่มีรูปโฉมงดงามมาก ให้ชื่อว่ามณโฑ (แปลว่ากบ) แล้วนำไปถวายพระอิศวร พระอิศวรประทานนางให้เป็นข้ารับใช้พระอุมามเหสีของพระองค์ นางมณโฑปฏิบัติตัวดีจนเป็นที่รักใคร่ของพระอุมา จึงประทานพรให้น้ำนมของนางสามารถรักษาผู้ป่วยหนักที่ใกล้ตายหรือที่ต้องศาสตราวุธให้หายดังเดิมได้ เมื่อครั้งที่ทศกัณฐ์ช่วยยกเขาไกรลาสให้ตั้งตรงได้สำเร็จ พระอิศวรประทานนางให้ทศกัณฐ์เป็นรางวัลตามคำขอ แต่ในระหว่างทางที่จะพากลับไปยังกรุงลงกา ได้ถูกพาลีชิงเอานางไปเป็นชายายังกรุงขีดขิน และมีบุตรกับพาลีชื่อองคต ภายหลังทศกัณฐ์จึงได้นางมณโฑกลับคืนมาเป็นมเหสี เมื่อทศกัณฐ์สิ้นชีวิต พิเภกได้ครองกรุงลงกาสืบต่อมา พระรามประทานนางมณโฑให้เป็นมเหสีฝ่ายซ้ายคู่กับนางตรีชฎามเหสีฝ่ายขวา [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 26 พ.ค. 49 20:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ ชอบ รามเกียรติ์ กับ สามก๊ก แต่ไม่เคยได้มีโอกาสอ่านซักเรื่อง ได้อ่านเรื่องย่อแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น จากคุณ : นธี - [ 27 พ.ค. 49 05:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 23 อ่าน สนุกดีอ่ะ  เยอะมาก     ตอนเรียนไม่ได้เรียนเยอะมากหรอก  เค้าไม่ค่อยเน้นยังไงก้อไม่รู้ จากคุณ : Sfumato - [ 27 พ.ค. 49 09:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 24 จำไม่ค่อยได้แล้วนะเนี๊ย ขอบใจจ๊ะน้อง น๊อด จากคุณ : โอ-ต่อ - [ 27 พ.ค. 49 10:19:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 พิเภก ยักษ์กายสีเขียว หนึ่งพักตร์ สองกร ทรงมงกุฎน้ำเต้ากาบ ปากแสยะ ตาจระเข้ เป็นน้องทศกัณฐ์ ชายาคือนางตรีชฎา มีธิดาชื่อนางเบญกาย เดิมเป็นพระเวสสุญาณเทพบุตรจุติลงมาเกิดตามคำบัญชาของพระอิศวร เพื่อช่วยในการทำศึกของพระราม เมื่อพิเภกโดนทศกัณฐ์ขับไล่ออกจากกรุงลงกาแล้ว ได้เข้ามาสวามิภักดิ์ต่อพระรามโดยทำหน้าที่คอยบอกความลับต่างๆ ของฝ่ายทศกัณฐ์ และช่วยแก้ไขเหตุร้ายให้แก่กองทัพของพระราม บทบาทสำคัญของพิเภกในเรื่องรามเกียรติ์ 1. เป็นผู้ทำนายหลังจากนางสีดาเกิดแล้วร้อง "ผลาญราพณ์" ถึงสามครั้งว่านางจะเป็นผู้ทำลายล้างวงศ์ยักษ์ 2. หลังจากที่หนุมานเผากรุงลงกาแล้ว ได้เตือนให้ทศกัณฐ์ส่งนางสีดาคืนให้พระราม แต่ทศกัณฐ์ไม่เชื่อ พร้อมทั้งขับพิเภกออกจากเมือง พิเภกจึงมาสวามิภักดิ์กับพระรามจนกระทั่งเสร็จศึกลงกา 3. เมื่อนางเบญกายแปลงเป็นนางสีดาตายลอยตามน้ำมา และถูกหนุมานจับได้ พิเภกเป็นผู้ทูลให้พระรามประหารชีวิตธิดาของตนเสีย แต่พระรามทรงยกโทษให้เพราะเห็นแก่พิเภก 4. เป็นผู้ที่บอกให้หนุมานช่วยนำพระรามขึ้นมาจากเมืองบาดาล หลังจากถูกไมยราพณ์เจ้าเมืองบาดาลสะกดทัพและจับตัวไปขังไว้ 5. เป็นผู้บอกให้หนุมานไปเอาตัวยามารักษาพระลักษมณ์เมื่อคราวถูกหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ และหอกกบิลพัทธของทศกัณฐ์ 6. เป็นผู้บอกวิธีทำลายพิธีลับคมหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ พิธีชุบศรพรหมาสตร์ของอินทรชิต พิธีหุงน้ำทิพย์ของนางมณโฑ และพิธีอุโมงค์ของทศกัณฐ์ 7. เป็นผู้ที่ช่วยแก้ไขหนุมานจากการถูกศรนาคบาศ และศรพรหมาสตร์ของอินทรชิตฟาดจนสลบไป 8. เป็นผู้ที่บอกให้หนุมานนำกล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาทำลายเสีย เมื่อเสร็จศึกแล้วพระรามแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ครองกรุงลงกาต่อจากทศกัณฐ์ได้นามว่า ท้าวทศคีรีวงศ์ และประทานนางมณโฑเป็นชายาฝ่ายซ้าย นางตรีชฎาเป็นชายาฝ่ายขวา ภายหลังถูกไพนาสุริยวงศ์ลูกติดท้องของนางมณโฑกับทศกัณฐ์ก่อกบฏและจับพิเภกขังไว้ แล้วตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงลงกา ต่อมาพระรามให้พระพรต พระสัตรุด และหนุมานยกทัพมาปราบจนสำเร็จและให้พิเภกครองกรุงลงกาสืบมา แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 49 18:38:58 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 27 พ.ค. 49 18:34:12 ]

ความคิดเห็นที่ 26 อินทรชิต ยักษ์กายสีเขียว  หนึ่งพักตร์ สองกร ปากขบ ตาโพลง เขี้ยวคุด (เขี้ยวดอกมะลิ) ทรงมงกุฎชฎาเดินหน โอรสทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เดิมชื่อรณพักตร์ ชายาคือนางสุวรรณกันยุมา มีโอรส 2 องค์ คือ ยามะลิวันและกันยุเวก ศึกษาวิชาศิลปศาสตร์ ณ สำนักพระฤาษีโคบุตร เมื่อได้เรียนมนต์ "มหากาลอัคคี" (มนต์ซึ่งบูชาเทพเจ้าทั้งสาม) แล้วนั่งภาวนาอยู่ท่าเดียวจนครบ 7 ปี เทพเจ้าทั้งสามจึงเสด็จลงมาประทานศรให้ดังนี้ พระอิศวร ประทาน ศรพรหมาสตร์ และบอกเวทย์แปลงกายเป็นพระอินทร์ให้ พระพรหม ประทาน ศรนาคบาศ และให้พรว่า เมื่อจะตายต้องตายบนอากาศ และอย่าให้ศีรษะขาดตกถึงพื้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ไหม้สรรพสิ่งได้ จึงต้องนำพานแว่นฟ้าของพระพรหมมารองรับไว้ สรรพสิ่งจึงจะปลอดภัย พระนารายณ์ ประทาน ศรวิษณุปาณัม ให้อินทรชิต ต่อมารบกับพระอินทร์ได้รับชัยชนะ ทศกัณฐ์จึงเปลี่ยนชื่อให้เป็นอินทรชิต (แปลว่า ผู้พิชิตพระอินทร์) บทบาทสำคัญในเรื่องรามเกียรติ์ อินทรชิตเป็นผู้จับหนุมานได้เมื่อครั้งไปสืบข่าวเรื่องนางสีดาในกรุงลงกาครั้งแรก และทำศึกต่อสู้กับฝ่ายพระราม 5 ครั้ง คือ 1. รบกับพระลักษมณ์ แต่ไม่มีใครแพ้ชนะกัน ต่อมาอินทรชิตทำพิธีชุบศรนาคบาศใโพรงไม้โรทัน แต่ถูกชามพูวานรแปลงกายเป็นหมีไปกัดต้นไม้ล้มเพื่อทำลายพิธี 2. รบกับพระลักษมณ์ และแผลงศรนาคบาศเป็นนาคมารัดพลวานรในกองทัพของพระลักษมณ์ แต่พระรามได้แผลงศรพลายวาดเรียกพญาครุฑมาช่วย นาคกลัวครุฑจึงหนีไปจนหมดสิ้น ต่อมาอินทรชิตทำพิธีชุบศรพรหมาสตร์ โดยใช้ยักษ์กำปั่นเฝ้าขัดตาทัพไว้ แต่ยักษ์กำปั่นถูกหนุมานฆ่าตาย อินทรชิตเสียใจมากจนทำพิธีไม่สำเร็จ 3. ออกรบกับพระลักษมณ์โดยแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ หนุมานกระโดดขึ้นไปหักคอช้างเอราวัณ และถูกอินทรชิตตีด้วยศรพรหมาสตร์ แต่ไม่เสียชีวิต ต่อมาอินทรชิตใช้ให้สุขาจารแปลงกายเป็นนางสีดาแล้วนำไปฆ่าที่สนามรบ แต่ฝ่ายพระรามก็รู้เท่าทันกลอุบายนั้น 4. อินทรชิตทำพิธีกุมภนิยา (พิธีชุบตัวให้มีกายศักดิ์สิทธิ์) พระลักษมณ์เป็นผู้ทำลายพิธี และต้องศรของพระลักษมณ์จนหนีกลับไปยังกรุงลงกา แต่อินทรชิตก็รอดชีวิตได้ เพราะดื่มน้ำนมของนางมณโฑผู้เป็นมารดา ซึ่งได้พรจากพระอุมาให้มีน้ำนมเป็นน้ำทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยชีวิตผู้ที่ถูกเทพศาสตราวุธ หรือผู้ป่วยใกล้จะเสียชีวิตให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ 5. เป็นศึกครั้งสุดท้าย ในการทำศึกครั้งนี้อินทรชิตได้นำศรสุรกานต์ของทศกัณฐ์ไปด้วย แต่ถูกพระลักษมณ์แผลงศรพรหมาสตร์ตัดคออินทรชิตขาดแต่ศีรษะยังไม่ตกถึงพื้น เพราะพระลักษมณ์สั่งให้องคตไปนำพานแว่นฟ้าของพระพรหมมาคอยรองรับไว้ก่อนแล้ว [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 27 พ.ค. 49 18:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หนุมาน พระยาวานร กายสีขาวเผือก ปากอ้า อาวุธคือตรีเพชรซึ่งติดอยู่ที่หน้าอก เป็นโอรสพระพายกับนางสวาหะตามคำบัญชาของพระอิศวร เมื่อพระอิศวรรู้ว่านางสวาหะต้องคำสาปของนางกาลอัจนาผู้เป็นแม่ จึงให้พระพายซัดเทพศาสตราวุธทั้งสามอย่างของพระองค์ คือ คทาเพชร ตรีเพชร และจักรแก้ว เข้าไปในปากของนางสวาหะ เพื่อให้นางตั้งครรภ์ โดยคพาเพชรไปเป็นสันหลังตลอดหาง ตรีเพชรไปเป็นลำตัว มือและเท้า จักรแก้วไปเป็นหัว หนุมานถือกำเนิดเมื่อวันอังคารเดือนสามปีขาล มีลักษณะผิดกว่าลิงอื่นๆ คือ หนุมานอาศัยอยู่ในท้องแม่นานถึงสามสิบเดือน เวลาเกิดกระโดดออกมาทางปากแม่ ตัวโตเท่ากับลิงอายุสิบหกปี และทันทีที่ออกจากท้องแม่ สามารถแผลงฤทธิ์ได้คือ เหาะขึ้นไปในอากาศ เปลี่ยนรูปเป็นสี่หน้า แปดมือ มีเขี้ยวแก้วที่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สวมมาลัยทอง และหาวเป็นดาวเป็นเดือน แล้วจึงกลับลงมาไหว้พ่อและแม่ หนุมานมีอีกชื่อหนึ่งว่า "วายุบุตร" (แปลว่าลูกของพระพาย) ต่อมาพระพายได้พาหนุมานไปเข้าเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรประทานพรให้ว่า แม้ถูกอาวุธใดสลบไปหรือเสียชีวิตก็ดี เมื่อพระพายพัดมาถูกกายก็จะฟื้นคือสติขึ้นมาอีก และบอกคาถาแปลงกายหายตัวให้แก่หนุมาน พร้อมกับให้หนุมานและชมพูพานลิงที่พระอิศวรทรงชุบขึ้นมา ไปอยู่เมืองขีดขินกับพาลีและสุครีพผู้เป็นน้า บทบาทของหนุมานทหารเอกของพระรามในเรื่องรามเกียรติ์มีดังนี้ 1. หลังจากที่นางสีดาถูกทศกัณฐ์ลักพาตัวไปไว้ยังกรุงลงกาแล้ว หนุมานได้พบกับพระรามและพระลักษมณ์ เมื่อยอมสวามิภักดิ์แล้วจึงพาสุครีพมาถวายตัวทำให้ได้กำลังพลวานรจากเมืองขีดขินมาเป็นกองทัพของพระราม 2. สะกดท้าวมหาชมพูผู้ครองกรุงชมพูมาถวายพระรามจนเป็นเหตุให้ผิดใจกับนิลพัทผู้เป็นบุตรบุญธรรมของท้าวมหาชมพู 3. พระรามมอบหมายให้หนุมานไปสืบข่าวของนางสีดาที่กรุงลงกา ระหว่างทางได้นางบุปผามาลี (นางฟ้าที่ต้องคำสาป) เป็นเมียและขี่นกสัมพาทีซึ่งเป็นพี่ของนกสดายุลาดตระเวนรอบกรุงลงกาจนพบกับยักษ์เสื้อเมือง และได้ฆ่ายักษ์เสื้อเมืองเสียชีวิต 4. ช่วยชีวิตนางสีดาจากการผูกคอตาย และแจ้งข่าวของพระรามให้นางสีดาทราบ 5. หักสวนขวัญกรุงลงกา ฆ่าทหารยักษ์และสหัสกุมารซึ่งเป็นโอรสทศกัณฐ์ตายสิ้น 6. แกล้งทำเป็นแพ้อินทรชิต และยอมให้อินทรชิตจับตัวได้ แต่อินทรชิตจะฆ่าอย่างไรก็ไม่ตาย หนุมานจึงแกล้งลวงให้อินทรชิตเอาไฟจุดที่หาง แล้วหนุมานก็วิ่งไปทั่วกรุงเผาผลาญกรุงลงกาจนไหม้หมดทั้งเมือง แต่ตัวหนุมานเองกลับดับไฟที่ปลายหางของตนไม่ได้ ฤาษีนารถจึงแนะนำให้ใช้น้ำบ่อน้อยคือน้ำลายในปากดับไฟที่ปลายหางจนสำเร็จ 7. สนับสนุนให้พระรามรับตัวพิเภกน้องของทศกัณฐ์เข้ามาไว้ในกองทัพพระราม 8. จับตัวนางเบญกายมาถวายพระราม ตอนที่นางเบญกายแปลงกายเป็นนางสีดาตายลอยน้ำมาเพื่อลวงพระราม และได้นางเป็นเมียขณะที่พาไปส่งยังกรุงลงกา ซึ่งภายหลังนางได้ให้กำเนิดบุตรชื่ออสุรผัด 9. ให้หนุมานเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับนิลพัทในการจองถนนข้ามไปยังกรุงลงกา แต่เนื่องจากเคยผิดใจกันมาก่อนเมื่อครั้งสะกดท้าวมหาชมพู จึงทะเลาะวิวาทกันขึ้น พระรามตัดสินให้หนุมานเป็นผู้รับผิดชอบในการขนหิมถมสมุทรแต่เพียงผู้เดียว ในขณะเดียวกันทศกัณฐ์ได้ใช้ให้นางสุพรรณมัจฉาพาบริวารปลาขนหินที่หนุมานคุมพลวานรทั้งหลายถมลงสู่ทะเลไปทิ้งเสียเพื่อมิให้กระทำการได้สำเร็จ หนุมานเห็นผิดสังเกตจึงดำน้ำลงไปดูก็พบนางสุพรรณมัจฉาและได้นางเป็นเมียอีก ซึ่งต่อมานางให้กำเนิดบุตรชื่อ มัจฉานุ 10. ฆ่าภานุราช เพื่อนยักษ์ของทศกัณฐ์ผู้จะพลิกแผ่นดินกลบกองทัพของพระราม 11. หนุมานได้ลงไปช่วยเหลือพระรามที่ถูกสะกดตัวลงไปขังไว้ยังกรุงบาดาล และฆ่าไมยราพณ์เจ้าเมืองบาดาลได้สำเร็จ 12. ช่วยพระลักษมณ์จากการถูกหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณ โดยยึดรถของพระอาทิตย์ไว้ และได้นำยาสังกรณีตรีชวาจากยอดเขาคิชกูฐมารักษาจนฟื้นคืนสติขึ้นมา 13. ฆ่ายักษ์กำปั่นทหารเอกของอินทรชิตซึ่งอินทรชิตใช้ให้เป็นผู้ขัดตาทัพไว้ จึงทำให้อินทรชิตทำพิธีชุบศรพรหมาสตร์ไม่สำเร็จ 14. เป็นผู้หักคอช้างเอราวัณ ซึ่งอินทรชิตแปลงกายเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณเพื่อลวงพระลักษมณ์ แต่หนุมานเองก็ถูกอินทรชิตฟาดด้วยศรพรหมาสตร์จนสลบไป และเมื่อพิเภกเป่าลมต้องกายก็กลับฟื้นคือสติขึ้นมาอีก 15. เป็นผู้ช้อนภูเขามหาอาวุธซึ่งเป็นตัวยามารักษาพระลักษมณ์จนฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง 16. ฆ่าสหัสสะเดชะสหายยักษ์ของทศกัณฐ์ 17. ทำลายพิธีอุโมงค์ของทศกัณฐ์ซึ่งเป็นพิธีชุบตัวให้เป็นเพชรคือผู้ใดฆ่าก็ไม่ตาย โดยการสะกดตัวนางมณโฑมาลวนลามต่อหน้าทศกัณฐ์ เพื่อให้ทศกัณฐ์โกรธ จนทำพิธีไม่สำเร็จ 18. ฆ่าท้าวสัทธาสูรและวิรุณจำบังตาย 19. นำหินบดยาที่ทศกัณฐ์ใช้เป็นหมอนหนุนศีรษะนอนกับลูกแก้วเมืองบาดาลมาช่วยรักษาพระลักษมณ์จากการถูกหอกกบิลพัทธของทศกัณฐ์ 20. แปลงกายเป็นทศกัณฐ์เข้าไปสมสุ่กับนางมณโฑ เพื่อทำลายพิธีหุงน้ำทิพย์ที่สามารถชุบคนตายให้ฟื้นขึ้นมาของนางมณโฑได้สำเร็จ 21. ฆ่าทศคิรีวัน คิรีธร บุตรของทศกัณฐ์กับนางช้าง 22. ฆ่าบรรลัยกัลป์ บุตรของทศกัณฐ์กับนางกาลอัคคี 23. ลวงเอากล่องดวงใจของทศกัณฐ์จากฤาษีโคบุตร และให้ฤาษีโคบุตรนำตัวไปถวายเป็นทหารของทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์หลงเชื่อถึงกับตั้งให้เป็นอุปราชแทนอินทรชิตซึ่งเสียชีวิตลง แต่ในที่สุดหนุมานก็ขยี้กล่องดวงใจของทศกัณฐ์พร้อมกับที่พระรามแผลงศรไปต้องทศกัณฐ์จนทำให้ทศกัณฐ์สิ้นชีวิต เมื่อเสร็จศึกกรุงลงกาแล้ว พระรามได้ปูนบำเหน็จรางวัลให้โดยแต่งตั้งให้เป็นพระยาอนุชิตจักรกฤษณพิพรรธพงศา และยกกรุงอโยธยาให้ครองครึ่งหนึ่ง แต่หนุมานขอไปครองเมืองซึ่งสร้างขึ้นใหม่ พระรามจึงแผลงศรไปสร้างเมืองใหม่ให้หนุมานปกครองชื่อว่า นพบุรี (ซึ่งคนไทยมักคิดว่าคือเมืองลพบุรี) ต่อมาหนุมานเกิดความละอายใจในความเป็นลิงของตน จึงออกบวชเป็นฤาษี เมื่อไพนาสุริยวงศ์เป็นกบฏต่อพิเภก และจับตัวพิเภกขังคุกไว้ อสุรผัดซึ่งเป็นลูกของหนุมานกับนางเบญกายจึงตามหาหนุมานที่ออกบวชเป็นฤาษีเพื่อแจ้งข่าวกบฏกรุงลงกา หนุมานจึงสึกจากฤาษีและไปช่วยพระพรตและพระสัตรุดปราบกบฏไพนาสุริยวงศ์จนสำเร็จ ต่อมาหนุมานได้ติดตามม้าอุปการของพระรามไปจนพบพระมงกุฎและพระลบ ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น หนุมานถูกพระมงกุฎและพระลบจับมัดมือและสักหน้า ภายหลังพระรามก็แก้ไขให้สำเร็จ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : nods - [ 27 พ.ค. 49 19:21:11 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อจากนี้เป็นภาพขาวดำหมดเลยน่ะค่ะ.. ก็เลยไม่ได้เอามาลง (เพราะเหนื่อยด้วย นี่ยังไม่ถึงครึ่งเล่มเลยค่ะ) แต่อาจจะนำเรื่องที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมนะคะ.. เช่น เรื่องของนนทกหรือนนทุกที่ไปขอพรให้มีนิ้วเป็นเพชร และใช้นิ้วเพชรชี้ให้เทวดาตายเกลื่อนกลาดจนพระนารายณ์ไปปราบ โดยแปลงเป็นนางฟ้าชวนร่ายรำในท่าต่างๆ จนถึงท่าสุดท้ายคือนาคาม้วนหาง (ใช้นิ้วชี้ไปที่ขาอ่อน) นนทกรำตามจึงชี้ทำให้ขาหัก แล้วนางฟ้าก็กลายเป็นพระนารายณ์ขึ้นเหยียบนนทกไว้ นนทกจึงต่อว่าว่าตนเองมีเพียงสองมือเท่านั้นจะเอาชนะพระนารายณ์ที่มีสี่กรได้อย่างไร พระนารายณ์จึงประทานพรให้นนทกไปเกิดเป็นยักษ์มีสิบหน้า ยี่สิบมือ แล้วพระองค์จะไปเกิดเนมนุษย์มีเพียงสองมือเพื่อปราบนนทกในชาติใหม่.. นนทกจึงกลับชาติมาเกิดใหม่เป็นทศกัณฐ์ และพระนารายณ์ก็อวตารมาเกิดเป็นพระราม หนุมานกับองคตทำลายพิธีลับหอกโมกขศักดิ์ของกุมภกรรณโดยแปลงเป็นกามาจิกหมาเน่าส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว กุมภกรรณเป็นยักษ์ที่สะอาดจึงรังเกียจ ทนไม่ได้จนเสียพิธี.. อีกเรื่องหนึ่ง.. ตอนรบกับพระรามครั้งสุดท้าย กุมภกรรณถูกศรของพระรามจวนจะสิ้นใจจึงรู้ว่าพระรามคือพระนารายณ์อวตารลงมาเกิดก็เสียใจ จึงฝากฝังพิเภกน้องชายไว้กับพระรามและสั่งเสียพิเภกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะสิ้นชีวิต ส่วนสุครีพกับพาลีนั้นเป็นพี่น้องต่างบิดากัน.. สุครีพ (กายสีแดง) เป็นบุตรของพระอาทิตย์กับนางกาลอัจฉา พระอาทิตย์ต้องการสร้างทหารเอกให้แก่กองทัพของพระรามจึงแปลงกายเป็นฤาษีโคดมแล้วลอบมาอยู่กับนางกาลอัจนาจนให้กำเนิดบุตรออกมาเป็นกุมารผิวสีแดง พาลี (กายสีเขียว) เป็นโอรสของพระอินทร์กับนางกาลอัจนา พระอินทร์ต้องการสร้างทหารเอกให้แก่กองทัพของพระรามจึงแปลงกายเป็นฤาษีโคดมแล้วลอบมาอยู่กับนาง จนนางให้กำเนิดบุตรโดยที่พระฤาษีไม่รู้ เมื่อพระฤาษีรู้ความจริงจึงอธิษฐานเสี่ยงทายว่าเด็กคนไหนไม่ใช่ลูกของตนให้ว่ายน้ำข้ามฝั่งและกลายเป็นลิงไป ทั้งพาลีและสุครีพจึงต้องกลายเป็นลิง ต่อมาพระอินทร์สงสารโอรสที่ต้องเร่ร่อนอยู่ในป่าจึงสร้างเมืองขีดขินให้ปกครองและตั้งนามว่าพระยากากาศ (ภายหลังพระอิศวรประทานชื่อใหม่ว่าพาลี) แล้วให้สุครีพเป็นอุปราช ครั้งหนึ่งสุครีพและพาลีช่วยกันทำให้เขาพระสุเมรุตั้งตรงได้ พระอิศวรจึงประทานตรีเพชรแก่พาลี และให้พรว่าเมื่อพาลีรบกับผู้ใดให้ผู้นั้นมีกำลังน้อยลงครึ่งหนึ่งและกำลังที่น้อยลงนั้นไปเพิ่มแก่พาลี พร้อมทั้งฝากรางวัลผะอบแก้วใส่นางดารามากับพาลีเพื่อนำไปให้สุครีพที่เมืองขีดขิน ในครั้งนั้นพระนารายณ์พูดขึ้นว่าไม่ควรฝากนางดาราไว้กับพาลี เพราะเกรงว่าจะไม่ถึงมือของสุครีพ แต่พาลีได้สาบานว่าหากตนทำเช่นนั้นก็ขอให้ตนถึงแก่ความตายด้วยศรของพระราม แต่แล้วก็ลืมคำสาบานของตนเมื่อมาถึงเมืองขีดขิน ลองเปิดผะอบออกมาดู เห็นนางดาราสวยงามมาก จึงเอานางดารามาเป็นชายา และต่อมาก็ยังแย่งนางมณโฑมาจากทศกัณฐ์ขณะที่ทศกัณฐ์พานางเหาะผ่านเมืองขีดขิน ต่อมามีความอันธพาลตัวหนึ่งชื่อทรพีฆ่าพ่อของตนแล้วเที่ยวท้าทายเทวดา จนถึงกับท้าพระอิศวร พระอิศวรให้ไปท้ารบกับพาลี พาลีจึงออกอุบายให้ไปรบกันในถ้ำ โดยบอกสุครีพว่าถ้าตนแพ้จะมีเลือดไหลออกมานอกถ้ำเป็นสีจาง ให้รีบระดมพลวานรเอาหินปิดปากถ้ำขังทรพีไว้ แต่ถ้าเลือกที่ไหลออกมาข้น แสดงว่าเป็นเลือดของทรพีไม่ต้องเอาหินปิดถ้ำ ในการต่อสู้ ทรพีแพ้ บรรดาเทวดาพากันดีใจบันดาลให้มีฝนตก น้ำฝนไหลเข้าไปในถ้ำทำให้เลือดทรพีจางใส สุครีพคิดว่าพาลีถูกฆ่าตายจึงระดมพลวานรช่วยกันเอาหินปิดถ้ำไว้ เมื่อพาลีทำลายหินที่ปิดปากถ้ำออกมาได้ก็โกรธเพราะคิดว่าสุครีพคิดจะฆ่าตน จึงขับไล่สุครีพออกจากเมืองขีดขิน ต่อมาพาลีต้องศรของพระรามก็สำนึกผิด จึงได้ฝากฝังสุครีพและองคต (บุตรชาย) ไว้กับพระราม เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์และต่อมายังช่วยทำลายพิธีชุบหอกกบิลพัทธของทศกัณฐ์ จากคุณ : nods - [ 27 พ.ค. 49 19:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เหนื่อยก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พักบ้างเถอะค่ะ เดี๋ยวมือเคล็ดพอดี ไว้ไปหาหนังสืออ่านเอา แค่นี้ก็ เยอะ มากกกก แล้ว อ่านได้อีกนาน ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : 010101 - [ 27 พ.ค. 49 21:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 30 มาขอบใจอีกรอบ.... ^^ จากคุณ : นธี - [ 27 พ.ค. 49 22:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 31 วันนึง ฤษี ต้องพาลูกลูกทั้งสามข้ามแม่น้าม... ด้วยความห่วงและรักลูก พาลีตัวโตหน่อยก็เหน็บไว้ข้างเอว สุครีพยังเล็ก็ให้ขี่หลัง ส่วน สวาหะ ก็จูงมือข้ามน้าม... สวาหะเกิดน้อยใจ เลยพูดไปว่าทีลูกตนจูงข้าม ลูกคนอื่น ทั้งอุ้มทั้งให้ขี่คอ... หลังจากนั้นจึงกลับไปสาปนางกาลัจนา ให้กลายเป็นหิน... ก่อนกลายเป็นหิน นางโกรธแค้นลูกสาวตนมากจึงสาปให้ยืนขาเดียวกินลม จนกว่าจะมีลูกเป็นลิงเก่งเหนือลิงอื่น... จากคุณ : สิงหราช - [ 28 พ.ค. 49 01:26:15 ]

ความคิดเห็นที่ 32 #31 ขอบคุณค่ะ.. เคยเรียนมาเหมือนกัน.. แต่ดันนึกไม่ออกไปซะได้.. ^^; จากคุณ : nods - [ 28 พ.ค. 49 12:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ไหนๆ ก็นึกออกแล้ว แล้วก็หาเนื้อหาเจอในหนังสือเล่มที่บอกไว้แล้วค่ะ (อยู่ตรงส่วนของ ฤาษี นั่นเอง) ก็เลยเอามาเพิ่มให้นะคะ.. พระโคดมฤาษี เดิมเป็นกษัตริย์เมืองสาเกต เกิดความเบื่อหน่ายในราชสมบัติจึงออกบวชอยู่เป็นเวลานานจนหนวดเครายาวรุงรัง ถึงกับมีนกกระจาบป่าสองตัวผัวเมียมาทำรังอาศัยอยู่ วันหนึ่งนกกระจาบป่าทะเลาะกันโดยนางนกกระจาบกล่าวหาอีกฝ่ายว่าไม่ซื่อสัตย์ต่อตน นกกระจาบผู้กล่าวว่า ถ้าตนไม่ซื่อสัตย์จริง ขอให้บาปของพระฤาษีโคดมจงตกอยู่กับตนทั้งหมดเถิด ฤาษีสงสัยจึงถามว่าตนมีบาปอะไรอยู่ นกกระจาบป่าตอบว่าเพราะพระฤาษีไม่มีลูกสืบสกุลที่จะปกครองบ้านเมืองต่อไป พระฤาษีจึงทำพิธีชุบหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมาจากกองไฟให้ชื่อว่า นางกาลอัจนา แล้วอยู่กินกับนางจนให้กำเนิดบุตรสาวคนหนึ่งชื่อนางสวาหะ วันหนึ่งพระอินทร์อยากสร้างทหารเอกให้กองทัพของพระราม (อย่างที่เล่าไว้ก่อนหน้านี้) ต่อมาพระอาทิตย์ก็มีความคิดเช่นเดียวกับพระอินทร์ จนนางกาลอัจนาให้กำเนิดบุตรชายทั้งสอง โดยที่พระฤาษีโคดมไม่รู้และเข้าใจว่าเด็กทั้งสองเป้นลูกของตน อยู่มาวันหนึ่งพระฤาษีพาลูกทั้งสามไปอาบน้ำ โดยอุ้มลูกชายคนโตขึ้นขี่หลัง อุ้มลูกชายคนเล็กไว้ทางขวา และจูงมือจูงลูกหญิงให้เดินไปด้วยมือซ้าย นางสวาหะเกิดความน้อยใจจึงเดินบ่นจนไปถึงท่าน้ำว่าพ่อไปหลงรักลูกคนอื่นทั้งอุ้มและให้ขี่หลัง ส่วนลูกของตนเองให้เดินไปเอง.. ฤาษีเกิดความสงสัยจึงถามนางสวาหะ นางจึงเล่าความจริงให้ฟัง ฤาษีโคดมอยากรู้ว่าคนไหนเป็นลูกของตนจึงทำพิธีเสี่ยงาทยโดยโยนเด็กทั้งสามคนออกไปกลางน้ำ แล้วอธิษฐานว่า ถ้าเด็กคนไหนเป็นลูกของตนก็ให้ว่ายน้ำกลับมา ถ้าเป็นลูกของคนอื่นก็ให้ว่ายน้ำข้ามฝั่งไปแล้วให้กลายเป็นลิงเข้าไปอยู่ในป่า ดังนั้นเด็กชายทั้งสองจึงกลายเป็นลิงเข้าไปอยู่ในป่าดังคำอธิษฐาน หนังสือรามเกียรติ์บทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1 บรรยายไว้ดังนี้ "แม้นว่าสามเจ้านี้เป็นเนื้อ เชื้อสายโลหิตของข้า จะทิ้งออกไปกลางคงคา จงว่ายกลับมาทันใด แม้นว่าเป็นลูกชายอื่น อย่าให้ว่ายคืนเข้ามาได้ จงเป็นสวาวานรไพร เสี่ยงแล้วขว้างไปทันที แต่นางสวาหะผู้ธิดา กลับว่ายมาหาพระฤาษี สองกุมารนั้นข้ามวารี เป็นกระบี่เข้ายังพนาลัย" จากคุณ : nods - [ 28 พ.ค. 49 13:43:05 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หุหุหุ...ขยันจริงเลยป้า.. จากคุณ : สิงหราช - [ 28 พ.ค. 49 13:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เริ่มเห็นด้วยกับ คห. 34 โดยเฉพาะ พยางค์สุดท้ายแล้ว :P จากคุณ : โอ-ต่อ - [ 28 พ.ค. 49 21:19:38 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอลบข้อความค่ะ ย้ายไปตั้งกระทู้แล้ว แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 49 21:45:36 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 49 21:40:38 จากคุณ : nods - [ 28 พ.ค. 49 21:38:16 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุงนะค่ะ ทำให้คิดว่าอยากอ่านเรย ^o^ จากคุณ : นู๋_BAM - [ 28 พ.ค. 49 22:15:35 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขออนุญาติ กด  Ctrl+F หาคำบางคำ เพราะข้อมูลเยอะมาก ตาลาย จากคุณ : โอ-ต่อ - [ 28 พ.ค. 49 22:43:16 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แน้  ยังอุตส่าห์พิมพ์ต่อได้อีกนะ ขออนุญาตเก็บเข้าไดอารี่นะคับพี่น้อง ช๊อบ ชอบ จากคุณ : s_manavvan - [ 29 พ.ค. 49 12:51:01 ]

ความคิดเห็นที่ 40 เห็นจะต้องไปหาหนังสือมาอ่านมั่งล่ะ เราเคยเรียนมาหรือเปล่าหว่า  ทำไมมันจำอะไรไม่ได้เลย  ว้า  ..  แย่จัง จากคุณ : Monstermon - [ 12 มิ.ย. 49 22:41:18 ]