CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง

    > ถีงคนที่แต่งงานแล้วและยังไม่ได้แต่ง
    > เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก
    >ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ “ เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากชั้นไป....
    >เธอควรเป็นคนที่จูงมือชั้นออกไป ”
    >
    > ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขน
    >รถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า
    >ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน ดังนั้นผมจึงทำตาม เธอเขินอายในอ้อมแขนผม
    >
    > ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก...
    >นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี... ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม
    >เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว...
    > เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น... ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน...
    >
    > ทุก ๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน
    >ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก...
    >แต่แล้ว ความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย....
    >
    > เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน...
    >เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง.. หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก... ที่นี่..
    >เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุก
    >คน ถวิลหา... คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม...
    >ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า วันที่ คุณประสบความสำเร็จ
    >ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา... ผมเริ่มรู้สึกลังเล...
    >ผมรู้ว่าผมกำลัง ทรยศภรรยาผม... แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว....
    >ผมปลีกตัวออกจากเจน “ วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ
    >ผมต้องเข้าออฟฟิศ ” ... แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก
    >เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะ ไปด้วยกัน... ในตอนนั้น..
    >ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....ทั้งที่จริงๆ
    >แล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
    >
    > แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม....
    >ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด... เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน... จริง ๆ
    >แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก... ทุก ๆ เย็นเธอจะวุ่นวายกับการ
    >ทำอาหาร..ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน...
    >หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์....
    >มองเรือนร่างอันงดงามของเจน... ช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง
    >
    >
    >วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน..
    > เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..เธอ
    > มั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก...ผม
    >นึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง...
    >เธอจะเป็นอย่างไร วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ..
    >สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี... พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก...
    >เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ.... เธอเหมือนจะรับรู้มันได้...
    >แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆ กับพนักงานทุกคน...
    >แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น
    >
    > ในที่สุด...เจนก็บอกกบผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน.
    >ผมพยักหน้า.... ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว...
    >ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่าง
    > เงียบ ๆ...ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ..
    >มันทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก...แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป..
    >ผมต้องการหย่า...เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...ผมย้ำกับ
    >เธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า.
    >คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น... เธอร้องไห้
    > อย่างหนัก... ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงาน
    > ของเรา...แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้..
    >เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้.
    >มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก...
    >
    > ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...ทุก ๆ
    >อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด....
    >เธอเหลือบมองกระดาษที่
    > ผมร่างขึ้น...แล้วฉีกมันทิ้ง...มันทำให้ผมรู้สึก
    >เจ็บปวดมากขึ้น.
    >.ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน..
    >ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด..
    >สำหรับผมแล้ว...การ
    >ร้องไห้ของเธอเหมือนเป็นการปลดปล่ยยความสับสนของตัวผมเอง..
    >หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม..ในที่สุด..
    >มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริง ๆ เสียทีคืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อน
    > ข้างดึก...เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ.
    >ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย...ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า..
    >เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม..
    >แต่เธอต้องการให้ผมให้ เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า..
    >และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ..
    >ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน.
    >เธอไม่อยากให้
    >ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะ มาถึง..
    >รัชต์..คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน..
    >คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ..ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรง
    > จำที่ดีที่สุดของชั้น...ชั้นมีเรื่องขอร้อง..
    >ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้
    >ปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน ผม ยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า
    > เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น..
    >และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี
    >
    > ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง..
    >เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข....ภรรยาผมบอกกับผมว่า
    >ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม...
    >เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...
    > คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง....
    >
    > เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า..
    >ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป..
    >พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก..
    >ลูกชายเราตบมือ แล้วพูดด้วยความดีใจว่า ว้าว...
    >วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น.....
    >เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา...ผมพยักหน้า..
    >ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...ผมขับรถ ไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์.
    >แล้วเลยไปออฟฟิศ
    >
    > วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม..
    >เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...ผมถึงได้ตระหนักว่า...
    >เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น
    >
    > ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย..
    >ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก..
    >ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่อง
    >เล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน..ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร..
    >และอื่นๆ อีกมากมาย...ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที..
    >ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...
    >
    >
    >ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเล
    >...หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่
    >ใช่อย่างที่ผมคิด...เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่
    >สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้
    >.นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น
    >ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้... ลูกของเราร้องขึ้นว่า
    >พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ...สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็น
    >ภาพที่เขามีความสุขที่สุด....เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น..
    >ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย
    >
    > และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด..
    >เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า...ความจริงแล้ว..
    >ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เถ้า...ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า..
    > ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน..
    >ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่..ผมลังเลเล็กน้อย..แต่ในที่สุดแล้ว.
    >ผมก็มาพบเจนจนได้....เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า เจน..ผมขอโทษ...
    >ผมจะไม่หย่า....เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า
    > เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ... ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม..
    >ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็
    >น้อย...ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ ได้
    >หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว...
    >ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน...เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่.
    >. เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม....ระหว่างทาง
    >กลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้.... พนักงานขาย ดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร...
    >ผมให้เธอเขียนว่า...ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่

     
     

    จากคุณ : Ogreen - [ 14 ส.ค. 49 16:25:14 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com