Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ตอนนี้ในบ๊อก เขาฮิตแถกกัน เรามาแถกในกระทู้กันบ้างมั้ย

    ชวนไปงั้น แต่เขาไม่ขอแถกตัวเองก่อนนะคะ เพราะตอนนี้ไม่ว่างเล่า ฟลัวร์ไม่สบายขี้แตกขี้แตก

    แต่จะขอเริ่มต้นด้วยการเป็นคนแถกคนอื่นให้ก่อน กิกิ

    ความเป็นมาของไอ้เจ้า tag นี่ก็คือว่า
    tag หรือเรียกเอามันส์ว่าแถก กติกาของมันก็มีอยู่ว่า คนโดน tag เรื่องอะไรก็แล้วแต่
    จะต้องมาเล่าเรื่องนั้น 5อย่าง แล้วก็ทำการ tag ต่อไปอีก 5 คน (เหมือนจมลูกโซ่น่ะล่ะ)
    เช่น เราไป tag พี่ท. เรื่องความลับที่ยังไม่มีใครเคยรู้ของพี่ท. พี่ท.ก็จะต้องบอกมา 5 อย่างเกี่ยวกับความลับที่ไม่มีใครเคยรู้ของเขา แล้วบอกเสร็จแล้น ก็จะทำการ tag ต่อไปอีก 5 คน คนที่ถูกพี่ท. tag ก็ต้องเล่ามั่งอีก 5 ข้อ แล้วก็ tag ต่อไป ..

    เป็นงี้ไปเรื่อยๆ

    สนุกตรงไหน ...สนุกตรงที่เราจะได้รู้จักเพื่อนหรือคนที่เรา tag มากขึ้น


    เอาละนะ ใครไม่เข้าใจ ก็ลองๆหา blog ที่โดน tag แล้วดูตย. ละกันนะคะ

    แล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า ขอเริ่มต้น tag
    1.พี่ก๊อย
    2.พี่แก้ว
    3.พี่แจง
    4.พี่ที
    5.เจ้จุ๋ม

    เหล่า5 นางฟ้า เทวดานี้ ขอจงมาตอบเสียดีๆ

    หัวข้อที่จะ tag กันต่อๆไปก็คือว่า ...
    5 สิ่งที่เป็นความลับ ที่คุณไม่เคยบอกใครมาก่อน(แต่จะต้องบอกก็คราวนี้ล่ะ) คืออะไรบ้าง

    อย่าช้าๆนะคร๊า แล้วอย่าลืม tag ต่อด้วยนะคะ
    ใครยังไม่ได้รับ ก็อย่าเพิ่งน้อยใจ ได้เล่าทุกคนแน่ๆ ฮะๆๆๆๆๆๆๆ



    ปล.ขออู้ก่อนน๊า ลูกไม่ฉะบาย

    ...................................................
    (มาเพิ่มเติมนะคะ ขอลงทีละเรื่องน๊า)

    "เรื่องแรก เจ้ากรรมนายเวร"



    ตอนเด็กๆจำได้ว่าชอบแกล้งเพื่อนกะน้องมาก สารเลวแต่เด็กก็ว่าได้ก่อนน้องชายจะออกมาให้เข่นฆ่า
    พวกเหยื่อทั้งหลายก็คือเพื่อนๆลูกคนข้างบ้านที่รายล้อมตัวและก็ลูกน้า แต่ลูกน้าไม่กล้าแกล้งมาก
    เพราะเดี๋ยวโดนดุ เราเป็นพี่สาวคนเดียวในบรรดาน้องชายล้วนเก้าคน ตอนนั้นสักห้าหกขวบได้(น้องชายเกิดมา
    ได้สักห้าคนแล้ว เพราะน้องเราห่างกันปีละคน อ่อ นี่คือรวมลูกน้าๆด้วยนะไม่ใช่จากแม่เราคนเดียว)
    เราก็แบบอยากมีน้องสาวมาเล่นด้วยมาก พอดีเลยที่ลูกคนข้างบ้านติดๆกันเขาเป็นลูกสาว
    หน้าตาน่ารักเชียวล่ะ หมวย ผมม้า ตัวนิดเดียว สักสามขวบได้ เธอชื่อน้องจิ๊ก(นามสมมติ)
    เราก็ชอบเอาน้องจิ๊กมาเล่นด้วย ให้น้องจิ๊กเป็นทาสในเรือนเบี้ยเรา เราเป็นเจ้าขุนมูลนายนั่งเสลี่ยง
    น้องจิ๊กเป็นขี้ข้าก็ต้องปรนนิบัติพัดวี เอาพวกของเล่นต่างๆมาให้ ทำกับข้าว(แบบใช้ดอกไม้ กระดาษ)
    เอามาให้เรา ซึ่งทำเป็นนั่งเปิบอยู่บนโต๊ะทำงานป๊า(แสร้งว่าเป็นแท่นบรรทม) ก็เล่นงี้กันทุกวัน
    อ่อ แม้แต่เล่นพ่อแม่ลูกกัน เรายังให้น้องชายเราเป็นแม่ เราเป็นพ่อ(เอ๊ะยังไง) น้องอีกคนเป็นลูก
    ส่วนจิ๊กเป็นคนใช้อะ คิดดูว่าเรากดขี่ขมเหงน้องเขาขนาดไหน

    วันหนึ่งเราเล่นสมมติไปเรื่อยๆแล้วทีนี้น้องจิ๊กต้องเป็นทาสที่โดนลงโทษ ปกติจะทำเป็นลงโทษโดยให้ไปอยู่
    ใต้โต้ะแล้วเราเอากล่องกระดาษไปปิด พอพ้นโทษน้องจิ๊กก็คลานออกมา
    แต่วันนี้ถึงคราวซวยของจิ๊ก ที่เราเปลี่ยนวิธีเล่นใหม่ให้อินเทรนด์ เอาจิ๊กไปขังห้องน้ำร้างหลังบ้านแทน
    จิ๊กอิดออดเล็กน้อย เพราะกลัว แต่ก็ยอมไป เดิน แต้ดๆๆ(เสียงรองเท้าที่มันดังๆเวลาเดินอะ)ตามเรา
    ไปที่ห้องน้ำหลังบ้าน พอถึงเราก็ผลักจิ๊กเข้าไปแล้ว.....ล๊อคประตู

    เราก็มาเล่นกะบรรดาน้องชายต่อ รอให้ถึงเวลาพ้นโทษ
    แต่เราดันลืมว่ะ........ เราไปหลับ หลังจากนั้นโดยทิ้งจิ๊กไว้ที่ส้วมร้าง
    ตื่นมาจนเย็น แม่จิ๊กมาตามหาเรียกไปกินข้าว เราถึงนึกได้ วิ่งไปหาจิ๊ก
    ไปถึงเปิดดู เห็นจิ๊กร้องไห้ มือไม้เป็นแผลหมด เพราะตะกุยจะออกประตู
    เราตกใจสาดๆอะ กลัวโดนดุ กลัวโดนตี เลยแกล้งเอาดินแถวนั้นมาทาๆเสื้อจิ๊ก
    แล้วให้ตังค์บาทหนึ่งก่อนพาไปส่งบ้านบอกว่าเป็นค่าจ้างที่จะไม่บอกแม่ แล้วบอกแม่จิ๊กว่า น้องหกล้ม
    เราไม่รู้ว่าจิ๊กบอกอะไรแม่ปล่าว แต่น้าเขาก็ไม่เคยว่าอะไรเรา แรงติดสินบนมูลค่าบาทเดียวคงศักดิ์สิทธิ์มาก
    ตอนนั้นเรารู้สึกผิดมาก
    แบบพอน้องชายเราคลอด เรายิ่งรู้สึกผิดเพราะกลัวคนจะมาทำกะน้องเราแบบที่เราทำกะจิ๊กถึงขนาดไม่ให้น้องไปเล่นบ้านคนอื่น
    จนเราย้ายบ้าน เราก็ไม่เจอจิ๊กอีก ความรู้สึกผิดก็น้อยลงๆๆจนหายไป

    จนวันนึงเป็นสิบปีผ่านไปบ้านใหม่เราเสร็จ(บ้านปัจจุบัน)กำลังจะย้ายเข้า แม่ก็บอกว่า
    เออเนี่ย ดีเลย รู้ป่าวว่า อาเล็กที่เคยอยู่ข้างบ้านตาตอนนั้น(พ่อจิ๊ก) เขามาอยู่ข้างบ้านเราด้วยนะ
    รั้วติดกันเลย จะได้มีเพื่อน

    เราใจหายวูบ

    จนตอนนี้ทุกครั้งที่เราผ่านบ้านอาเล็ก(บ้านเขาอยู่ก่อนบ้านเราหลังนึง) เราจะมองเข้าไป
    บางทีเราก็เจอจิ๊กวัยกำดัดอยู่ในนั้น และ...จิ๊บผู้น่ารัก ตัวเล็กใสซื่อ ที่เราเคยแกล้งสารพัด
    ในวันนี้ มันกลายมาเป็นทอมฮะ ตัวใหญ่(กว่ากรูอีก) แมนมาก เจาะจมูก ปาก มีลายสักเล็กๆ
    และจนถึงทุกวันนี้มันก็ยังไม่เคยเจอเราอีกเลย เพราะเราหลบหน้าตลอด (ก็เค้าละอาย)
    จนย้ายบ้านมาตรงนี้จะเก้าปีแล้ว


    หวังว่าความศักดิ์สิทธิ์ของเงินบาทนึง จะยังคงอยู่ และหวังว่าเจ้ากรรมนายเวรคงไม่มีจริง ฮือๆๆ


    ........................

    "เรื่องที่สอง  คนเห็นผี"

    ใครจะคิดว่าครั้งหนึ่ง เราจะได้ประสบการณ์ทำนองนี้กับเขาบ้าง จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน
    และก็มีแต่ แม่กับน้องเท่านั้นที่รู้ และที่สำคัญมันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆในชีวิตเท่านั้น
    ใครที่เคยดู หนังผีเรื่องหนึ่ง ภาคที่สองของมันก็จะเข้าใจมากขึ้นว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร จริงๆแล้วเราไม่เชื่อ
    เรื่องผีเลย และไม่เคยกลัวด้วย แบบที่รู้กันว่าเมื่อก่อนมาชวนไปบ้านผีเหยงๆ แต่หลังจากช่วงเวลานั้น เราก็
    เปลี่ยนใจ... เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2546 หลังจากที่พี่ป๋อม(ipom)มาลากเราไปส่งรพ.
    ในคืนวันนึง(ไม่รู้พี่ป๋อมจะจำได้มั้ย) หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เราก็เจอ ในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะเจอ
    เราเห็นใครก็ไม่รู้ ที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ในสายตาเรา เขาไม่ใช่ผี เพราะเขาเป็นเหมือนๆเราๆนี่แหละ

    ครั้งแรกเลยก็คือ เรานั่งรถไปกับแม่และน้อง แล้วผ่านตรงโค้งๆหนึ่ง เราก็บอกแม่ว่า
    "แม่ สองคนแม่ลูกนั่นทำไมไม่เดินข้ามมาสักที รถก็ไม่มี ยืนรออยู่นานแล้วอะ" คือรถเราติดไปแดง
    อยู่อีกฝั่งไงคะ แต่เราเห็นคนสองคนเด็กคนนึง ผู้หญิงกลางคนอีกคน กำลังละล้าละลังจะข้ามถนนแต่ก็ไม่ข้าม
    นาน..สองนาน
    แม่ไม่ได้ตอบอะไร พอผ่านไป แม่เลยบอกว่า เมื่อกี้ไม่เห็นมีใครเลย แต่ตรงนั้นเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
    มีคนถูกรถชนตายเป็นสองแม่ลูก ลูกจะโดนรถชน แล้วแม่วิ่งไปดึง แต่ไม่ทัน เลยตายทั้งคู่
    เรื่องนี้เราไม่รู้มาก่อนเลย เพราะตอนเกิดเหตุเราอยู่กรุงเทพฯ
    แล้วก็มีอีกหลายครั้งที่เวลารถผ่านไปไหน เราจะเห็นคน ที่คนอื่นไม่เห็น ยืนอยู่ตามรายทาง บางทีก็นั่งอยู่
    หน้าบ้านคน

    เราก็รู้นะว่าเออเราสัมผัสเรื่องนี้ได้ แต่ก็ยังไม่เชื่อเต็มร้อย จนมาเห็นคนคนนึงนั่นก็คือ
    น้าสาวเราเพิ่งเสียตอนต้นปี 46เพราะมะเร็ง แล้ววันนึงที่เราไปที่บ้านน้าอีกคนซึ่งอยู่รั้วเดียวกับ
    บ้านน้าคนนั้น เราเห็นน้าเรามานั่งอยู่ที่หน้าบ้านเขา เรายกมือไหว้ เขายิ้ม แล้วหายไป
    แม่เราไม่ได้ว่าอะไร เพราะแม่รู้ว่าเราเห็น

    หลังจากนั้น เราก็ยังเห็นอยู่แบบนั้น แต่เราไม่ได้กลัวเพราะที่เราเห็นมันไม่น่ากลัว
    แปลกที่คนที่เราไม่เคยเห็นเลยก็คือพ่อ เราไม่เห็นพ่อ แต่แค่รู้สึกว่าพ่ออยู่ตรงนั้นตรงนี้
    เป็นอยู่เกือบครึ่งปี แล้ววันนึง มันก็ค่อยๆจางไป จากที่เห็นเป็นตัวก็กลายเป็นแค่สัมผัสได้ว่าเขาอยู่
    และก็หายไปเลย


    ถ้าให้เป็นอีก...ก็ไม่เอาแล้วนะ เวลาเห็นตอนอยู่กันเยอะๆก็เฉยๆหรอก แต่เห็นตอนอยู่คนเดียว..มันกลัว


    .............................................................

    "เรื่องที่สาม แย่งกรูนัก"


    เรื่องนี้เกิดตอน มหาลัย เรามีเพื่อนอยู่คนหนึ่งนิสัยอย่างอื่นดีหมด ยกเว้นชอบแย่งคนอื่นแดรก
    คือเพื่อนซื้ออะไรมา หรือสั่งอะไรมาตอนกิน ไอ้เชี่ยนี่จะรีบแย่งมาหนีบ คีบ จิ้ม ของในจานคนอื่นเสียก่อน
    โดยไม่ถามก่อนด้วยนะ ประมาณว่า "กรูสนิทกับเมิงไง เมิงไม่ว่ากรูหรอก"
    แล้วถ้าไม่เอะอะว่า เฮ้ย อย่าแย่งกรูไม่อิ่ม มันก็จะตอดเล็กตอดน้อยไปงี้จนกว่าจะหมด
    ยิ่งเป็นขนมด้วยยิ่งแล้วใหญ่ ใครซื้อมาวางไว้ยังไง ตัวแดรกตัวนี้ก็จะไปหยิบมากินจนได้
    กินแบบเพลินๆ ชิลๆ จนของหมดโดยไม่ได้รู้สึกละอาย

    วันนึง ความอดทนของเราก็..สิ้นสุด
    เลยว่าจะซื้อของมาแล้วเอามาวางไว้ พวกขนมน่ะ แล้วก็เรียกมันมานั่งคุย
    ก่อนจะเรียกมันมาเราก็กระทำการชั่ว โดย เลียขนมมันทุกชิ้น
    ข้าวก็อม แล้วคายมาใส่จาน น้ำก็เอามากลั้วคอ แล้วพ่นใส่แก้วกลับ
    แล้วก็เป็นตามคาด มันมา...
    "เฮ้ยน่ากินว่ะ" มันรีบถามจ้องของตาเป็นมัน แล้วก็เอาส้อมจิ้มใส่ปาก
    เรามองมันพร้อมรอยยิ้มมุมปาก..ดูมันกิน หมดของคาว(ที่กรูอมแล้ว)
    ก็ต่อด้วยขนม(ที่กูเลียแล้ว) และจบด้วยน้ำ(ที่กรูเอาไปกลั้วคอ)
    มันก็ลุกไป บอกว่า เดี๋ยวไปคุยกับคนอื่นต่อ

    เราไม่ได้ว่าไร แต่เพจไปบอก(ตอนนั้นยังใช้เพจกันอยู่เลยอะ)ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า
    แป้บนึงมันก็วิ่งไปอ๊วก แล้วหลังจากนั้น ตัวแดรกที่สิงร่างเพื่อนกรูมานานก็เป็นอันหลบลี้หนีไปไกล แสนไกล..


    ....................................

    เรื่องที่สี่"ไข่เจียวปลา"

    อาจจะดูไม่แปลกอะไร ถ้าไม่ใช่ปลาหางนกยูง กะปลาทอง เรื่องของเรื่องคือวันนั้นหิวมาก
    แล้วไม่มีอะไรกินนอกจากไข่ในตู้ เรา(ตอนนั้นไม่เด็กมาก 12ได้ แต่ก็ยังไม่โตนัก)
    ก็เลยเอาสวิงช้อนปลาหางนกยูงในบ่อ กะปลาทองตัวเล็กๆในอ่าง มาใส่ไข่เจียวแล้วทำการฆาตรกรรมหมู่
    ด้วยการทอด... หางนกยูงไม่เท่าไร แต่ปลาทอง แตกกระจาย โป๊ะๆ

    พอทอดเสร็จก็เอามากิน ไม่อร่อยเลยว่ะ กินได้สามสี่คำก็ทิ้ง ตอนนั้นเสียดายเฉยๆว่าไม่อร่อย
    แต่พอโตมา เสียใจแทน เพราะบาปมหันต์ จำได้ด้วยว่าปลาทองตัวหนึ่งที่พลีชีพเพื่อข้า มีชื่อว่าน้องยูมิ
    เรารักมันมาก ตอนแรกจะไม่ช้อนมากินแล้ว แต่คิดๆว่ายังไงวันนึงมันก็ต้องตาย
    ให้มันตายแบบร่างมันมีประโยชน์ดีกว่า อย่างน้อยก็ทำให้เราหายหิว และก็ไม่สูญเปล่าเป็นแค่ศพเฉยๆ
    วุ้ย คิดไปได้ไงวะกรู


    .....................................................


    เรื่องสุดท้าย "ตุ๊กตาจ๋า"

    ไม่รู้ว่าเราเกิดมาพร้อมกับความซาดิสท์เล็กๆหรือเปล่า ตอนเล็กๆเราชอบเล่นตุ๊กตามาก
    ทั้งตุ๊กตากระดาษ ทั้งบาร์บี้ และตุ๊กตาอื่นๆ ทีนี้ก่อนที่เราจะเล่น
    เราจะเด็ดหัวมันทิ้งก่อนเสมอ (เฉพาะตุ๊กตาที่เป็นคนนะ ส่วนตุ๊กตาสัตว์เราไม่ทำ)
    เวลาเล่นกะเพื่อนเราก็จะเล่นกับมันทั้งๆที่หัวขาดอะล่ะ โดยเฉพาะตุ๊กตากระดาษ
    ด้วยความที่ไม่มีหัว เราก็จะเขียนชื่อกับลักษณะของแต่ละตัวไว้ด้านหลัง (ลำบากชิกหาย)
    ส่วนพวกบาร์บี้เวลาเล่นแบบไม่มีหัว ก็จะหลอนๆนิดหน่อย แต่เราเอาหัวไปรวมกันไว้
    ในกล่องๆหนึ่ง แล้วเวลาเล่นไปเบื่อๆ พวกบาร์บี้ก็จะมีไปเยี่ยมหัวตัวเองที่กล่อง..ซึ่งเราเรียกว่าหลุมศพ
    บางทีถ้าเล่นกัน แบบวันไหนดราม่าหน่อยแล้วมีแบบตุ๊กตาเราโดนลงโทษ ก็จะเอาหัวมาเสียบบนตะเกียบแล้วประจาน
    หรือวันไหนเล่นเรื่องผีๆ เราก็จะเอาหัวของหลายๆตัวที่รวมไว้มาเรียงตามบ้านตุ๊กตาเป็นผี
    จินตนาการสูงส่งมาก...มิน่าตอนนี้หาตังค์ด้วยการเขียนเรื่องขาย -_-"

    ตอนโต พอไปรื้อตู้แล้วเจอซากตุ๊กตาตัวเอง มีแอบตกใจเล็กๆ
    จนตอนนี้ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ ว่าทำไมตรูต้องเด็ดหัวมันก่อนเล่น
    แต่สันนิษฐานได้ว่า อาจจะเพราะตอนแรกๆเล่นตุ๊กตากระดาษเเล้วพวกตุ๊กตากระดาษหัวมันอ่อนไง คอมันชอบขาด
    หนักเข้าเลยชิงเด็ดทิ้งก่อนเลย หรือ...ไม่ก็ เราอาจจะซาดิสจริงๆแหละ



    จบแล้วเย้ๆ คนที่โดนอะรีบมาตอบเน้อ ๆๆๆรออยู่ก๊ะ

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 23:12:39

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 23:04:11

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 22:51:47

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 22:39:19

    แก้ไขเมื่อ 14 ม.ค. 50 22:13:07

    จากคุณ : นรกขุมสุดท้ายของชายเจ้าชู้ - [ 14 ม.ค. 50 02:04:06 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom