PANTIP.COM : F5274519 กระทุ้ถึงคุณ ลาบไก่ใส่ตับหมู กรุณาเข้ามาอ่านด้วย []

ความคิดเห็นที่ 2

เข้ามาอ่านตามคำเชิญแล้วค่ะ ใครไปจุดธูปมาเรียกเนี่ยยยยย แหะ แหะ
จริง ๆ แล้วคุณ gg_zang ส่งมาให้อ่านน่ะค่ะ ไม่งั้นเราก็คงไม่มีทางเห็นกระทู้นี้เป็นแน่

ก่อนอื่นต้องสวัสดีคุณการ์ตูนช้านนน ก่อนนะคะ
นึกไม่ถึงเลยค่ะว่าจะมีคนตั้งกระทู้พูดถึงด้วย ดีใจนะเนี่ย
ปกติแล้วเราไม่ค่อยได้เข้ากระทู้อื่นสักเท่าไหร่นะคะ ส่วนใหญ่จะเข้าแต่กระทู้ภาคต่อในคืนนี้ฉันเจอผี ภาค 6เท่านั้น

http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F5229529/F5229529.html

ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เล่นตอบแบบเหมาจ่ายทุกกระทู้เลย สมัยก่อนเราว่างน่ะค่ะ แต่สมัยนี้ต้องไปเรียนแล้ว ยากด้วย งานเยอะด้วยเลยทำให้ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่

ขอบคุณนะคะที่ตั้งกระทู้ถามถึง รู้สึกดีค่ะ

ส่วนเรื่องที่คุณถามถึง เกี่ยวกับเรื่อง “กุ๊ก ผู้หญิงของน้องชายเรา”
หรือจะเรียกกว่าเป็น “เด็กของน้องชายเราก็ได้ค่ะ”
โฮะ ๆ ๆ เราขอให้คำว่า " เ ด็ ก " นะคะ
ไม่ชอบคำว่า " แ ฟ น " สักเท่าไหร่ มันดูเลวร้ายมากสำหรับเราน่ะค่ะ
(ขอแอบชั่วร้ายสักนิดเถอะน่า) เพราะว่ากับกุ๊ก เรายังไม่อยากให้เค้ามาเป็นแฟนน้องเราน่ะค่ะ ถ้าให้เป็นเด็ก ๆ กิ๊ก ๆ อะไรประมาณนี้น่าจะโอเคหน่อย

ตอนนี้กุ๊ก นิสัยดีขึ้นประมาณ 0.005 % ค่ะ

หลังจากที่คบกับน้องเรามามากกว่า 5 ปีแล้ว ถือว่าเป็นการพัฒนาการที่ใช้ได้
แม้จะช้ากว่าการพัฒนาของตัวหนอนนิดหน่อยก็ตาม หุหุ

(เอ้ย !!! พอถามถึงเรื่องนี้ทีไร เริ่มจี๊ดเลยค่ะ ของขึ้น ๆ ฮ่า ๆ อุตส่าห์ทำตัวแสนดี เลิกนินทามานานแล้วนะเนี่ย หุหุ)

ตอนนี้กุ๊กไม่ค่อยได้มาบ้านเราเท่าไหร่แล้วค่ะ ตั้งแต่เค้าขอถุงเงินหมาชิสุห์แสนรักของเราไปเลี้ยง

เราตัดใจให้ถุงเงินแก่กุ๊ก ทั้ง ๆ ที่เรารักมันมาก ๆ

อ้อ... เมื่อเราพูดประโยคนี้แล้ว เดี๋ยวคนอื่นอ่านจะหาว่าเราแสนดียอมให้หมาที่ตัวเองเสียตังค์ซื้อมาได้ยังไง โง่หรือเปล่า?

ถ้าคิดอย่างนั้น ไม่ใช่นะคะ คิดผิดแล้ววววว เพราะจริง ๆ แล้วเราฉลาดมาก ตอนนี้รอยยักในสมองเรามีเพิ่มมากขึ้น 0.89 % ต่อวินาที โอ้ววววว ฉลาดโคด ๆ

แหม เราเองก็ไม่ได้แสนดี เป็นแม่พระขนาดนั้นหรอกค่ะ

แต่ที่ตัดใจให้ถุงเงิน หมาชิสุห์ ตัวอ้วนจ่ำม้ำแก่ตุ๊กไป เพราะคิดว่า.....

ข้อ 1 กุ๊กเป็นคนรักหมา แล้วเค้าชอบถุงเงินมาก ๆ เคยขอเราตั้งแต่เราซื้อถุงเงินมาวันแรกด้วยซ้ำ แต่ตอนนั้นเราเพิ่งซื้อมาเลยไม่ให้ ขืนให้ก็โง่จิ

ข้อ 2 แม่เราบอกว่า ถ้าให้ถุงเงินกับกุ๊กไป กุ๊กจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับน้องชายเราอีก ถือเป็นเคล็ดว่า ให้หมาไป น้องเราจะได้ไม่ต้องไป แล้วอีกอย่างไหน ๆ กุ๊กก็มาบ้านเราทุกวันอยู่แล้ว อย่างน้อยหากให้หมาไปเราก็จะได้ดีใจบ้างเวลาที่กุ๊กมา เพราะว่าเราจะได้เจอหมาของเรานั่นเอง

ข้อ 3 ก่อนที่เราจะให้ เราให้กุ๊กสัญญากับเราก่อนว่า (จริง ๆ ไม่ถึงกับว่าต้องสัญญาหรอกค่ะ เราก็แค่บอก ๆ ไปน่ะ)

3.1 กุ๊กจะต้องรักหมาเรา ต้องรักถุงเงินให้มากเท่ากับที่เรารัก และถ้ามากกว่าได้จะยิ่งดีมาก

3.2 ห้ามตีถุงเงิน อนุญาติให้รักมันได้สถานเดียว !!!

3.3 ทุกครั้งที่มาบ้านเรา จะต้องพาถุงเงินมาด้วย เพราะถุงทองแฟนถุงเงินมันเหงามาก นั่งจ๋อยมาหลายวันแล้ว

คือ เราอยากให้ถุงเงินรู้สึกว่าเราไม่ได้ทิ้งมันไป แค่ให้มันไปเปลี่ยนที่นอน ที่วิ่งเล่นเฉย ๆ เรากลัวถุงเงินเข้าใจผิดน่ะค่ะ

เมื่อเราบอกกุ๊กถึงข้อตกลงเสร็จ กุ๊กก็รับคำว่าทุกครั้งที่มาบ้านเรา จะพาถุงเงินมาด้วย

แต่ตั้งแต่เราให้ถุงเงินกับกุ๊กไป ก็ปรากฎว่า กุ๊กไม่เคยพาถุงเงินมาเหยียบบ้านอีกเลย

เราก็ถามไปสิ ว่าทำไมไม่พาถุงเงินมา

กุ๊กบอกว่า ถุงเงินมันติดธุระ มาไม่ได้ เย้ย !!!

ณ ปัจจุบันนี้ถุงเงินหมาเราคงจะไปเล่นหุ้นอยู่ เพราะมันไม่เห็นกุ๊กพามาเยี่ยมบ้านสักที ถุงเงินมันคงติดธุระ เราคิดถึงถุงเงินมาก

เมื่อวานนี้กุ๊กมาบ้านเรา ๆ ก็ยังถามอยู่เลย ว่าถุงเงินล่ะ ๆ แต่ถุงเงินก็ไม่ได้มาอีกแล้ว สงสัยเราคงไม่มีทางได้เห็นหน้าถุงเงินอีกแล้วล่ะค่ะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่าให้หมากับกุ๊ก เล่นกับหมา ๆ เลียปาก หมาเห่าอย่าเห่าตอบ โฮ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ โบร๋ววววว เจอผีดีกว่าเจอกุ๊ก”

จบข่าวในประเทศแล้วค่ะ ! ! !

อ๊ะ.... เดี๋ยวจะหาว่าทิ้งสโลแกน “บุญรักษา” ด้วยนะคะ

.

จากคุณ : ลาบไก่ใส่ตับหมู - [ 30 มี.ค. 50 17:12:17 ]