Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ ที่มา: FW

    >>    วันก่อนผมไปงานแต่งงานอดีตกิ๊ก (ที่ไม่ได้แปลว่าชู้ . . .

    >> >> >แต่เป็นคนที่มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน)

    >> >> >

    >> >> >เราเคยไม่ได้เจอกันมาเกือบปีจากการเจอกันครั้งสุดท้าย . . .

    >> >> >ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้

    >> >> >แต่ผมพยายามนึกเองว่าเป็นเพราะงานเยอะ ไม่มีเวลา . . .

    >> >> >ที่ทำให้เราห่างๆกันไป

    >> >> >

    >> >> >ผมยังจำได้

    >> >> >วันที่เราเจอกันครั้งแรก

    >> >> >

    >> >> >ผมไปหาเพื่อนที่คณะของเธอ

    >> >> >เราอยู่สถาบันเดียวกัน แต่คนละฝั่งถนน

    >> >> >ผมเห็นเธอเล่นกับหมาสกปรกๆ ตัวนึง

    >> >> >ภาพนั้นยังชัดเจนอยู่เลย

    >> >> >

    >> >> >ผู้หญิงผมยาว หน้าตาน่ารัก เล่นกับหมามอมแมม

    >> >> >เธอเอาลูกชิ้นปิ้งมาให้น้องหมากิน

    >> >> >ลูบหัวลูบหูมันแบบไม่รังเกียจ

    >> >> >

    >> >> >ผมไม่เคยจีบผู้หญิง จีบไม่เป็นด้วย

    >> >> >แต่ผมขอให้เพื่อนแนะนำเธอให้รู้จัก

    >> >> >แสดงให้เห็นว่าผมสนใจเธอ

    >> >> >ไม่รู้เรียกว่าจีบหรือเปล่า

    >> >> >

    >> >> >เราคุยกันถูกคอเรื่องหมา เรื่องหนัง เรื่องเพลง

    >> >>เรื่องนินทาเพื่อนของเรา

    >> >> >และเรื่องการเรียนที่เธอสนใจการเรียนของคณะผม

    >> >> >และผมสนใจการเรียนคณะเธอซึ่งเป็นคนละสาย

    >> >> >

    >> >> >ความสัมพันธ์ก่อตัว . . . เราอาจจะเป็นมากกว่าเพื่อน

    >> >> >แต่ก็ไม่รู้จะใช้คำว่าแฟนได้ไหม

    >> >> >เราไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน

    >> >> >ผมเดินไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์ทุกเย็น

    >> >> >เราโทร.คุยกันบ่อยๆ ถึงจะไม่บ่อยมาก

    >> >> >วันหยุดเรานัดไปดูหนังด้วยกัน

    >> >> >ผมถือของให้เวลาเธอไปชอปปิ้ง

    >> >> >แต่เราไม่เคยบอกว่าต่างคนต่างรู้สึกยังไง

    >> >> >ไม่เคยบอกใครและไม่เคยบอกกันว่าตกลงเราเป็นแฟนกัน

    >> >> >ไม่เคยมีคำพูดหวานๆ หรือการกระทำที่มันพิเศษมากไปกว่านี้

    >> >> >

    >> >> >จนเราเรียนจบ . . .

    >> >> >

    >> >> >พอเริ่มทำงาน . . . สังคมก็เริ่มเปลี่ยน

    >> >>

    >> >เวลาและความวุ่นวายในหน้าที่การงานทำให้ความกระตือรือล้นที่จะเจอกันน้อยลง

    >> >> >ความถี่ในการโทรหากันห่างขึ้นเรื่อยๆ

    >> >> >จนแทบจำไม่ได้ ว่าครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน กินข้าวกัน

    >> >>ดูหนังด้วยกัน

    >> >> >และโทรศัพท์คุยกันคือเมื่อไหร่

    >> >> >ผมไม่คิดถึงเธอหรือเปล่า . . . ก้ไม่เชิง

    >> >> >เพียงแต่มันมีเรื่องอื่นให้คิดมากกว่า

    >> >> >จนเหมือนหลงๆลืมๆเธอไป. . .

    >> >> >

    >> >> >เรามาเจอกันอีกทีตอนงานแต่งงานเพื่อนคนที่แนะนำให้เรารู้จักกัน

    >> >> >หลังจากเรียนจบหลายปี

    >> >> >เรายังคุยกันเหมือนเดิม แต่เหมือนระยะห่างมากขึ้น

    >> >> >เราไม่ถามกันว่าแต่ละคนหายไปไหนมา

    >> >> >ถามแต่ว่ากำลังทำงานอะไรอยู่ เป็นไงบ้าง

    >> >> >

    >> >> >แล้วเราก็ห่างหายกันไปอีกครั้ง . . .

    >> >> >

    >> >> >แล้ววันนึง . . . เธอก็โทรมาหาผม

    >> >> >บอกว่ากำลังจะแต่งงาน กับชาวต่างชาติ ที่ทำงานที่เดียวกันกับเธอ

    >> >> >

    >> >> >ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง

    >> >> >เราห่างกันจนผมไม่ควรจะหวงเธอแล้ว . . .

    >> >> >แต่ผมก็รู้สึกใจหาย

    >> >> >มันรู้สึกแปลกๆ เหงาๆ หัวใจหวิวๆ ยังไงไม่รู้

    >> >> >

    >> >> >ผมไปงานแต่งงานของเธอ . . .

    >> >> >บอกตรงๆ ว่าตอนอยู่ในงาน

    >> >> >ผมนึกในใจว่าทำไมผู้ชายที่ยืนข้างเธอไม่ใช่ผม

    >> >> >

    >> >> >แต่วันนั้นผมก็ได้แสดงความยินดีกับเธอไปอย่างเต็มใจ

    >> >> >

    >> >> >. . . . ..

    >> >> >

    >> >> >เมื่อคืน

    >> >> >

    >> >> >เธอโทรมาหาผม . . .

    >> >> >เราคุยกันมากขึ้นกว่าตอนที่ห่างหาย

    >> >> >

    >> >> >ที่จริงผมเริ่มทำใจได้บ้างแล้วล่ะ

    >> >> >

    >> >> >ก็เลยแกล้งบอกเธอไปว่า . . .เนี่ย พอบีแต่งงานไป

    >> >>โอเลยไม่รู้จะแต่งกับใคร

    >> >> >

    >> >> >เธอหัวเราะ ถามว่า นี่โออยากแต่งงานกับบีด้วยเหรอ นึกว่าไม่อยาก

    >> >> >

    >> >> >ผมก็ อ้าว ทำไมล่ะ โอดูไม่ชอบบีเหรอ

    >> >> >

    >> >> >เธอนิ่งไปแป๊บนึง แล้วก็ถามแบบเสียงซีเรียสว่า ถามจริงเถอะ

    >> >> >บีอยากรู้มานานแล้ว

    >> >> >ว่าที่ผ่านมาโอคิดยังไงกับบี

    >> >> >

    >> >> >ผมถามย้อนกลับว่าที่เราไปกินข้าว ดูหนัง กันเนี่ย

    >> >> >มันไม่ได้หมายความว่าชอบเหรอ

    >> >> >ไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะ

    >> >> >

    >> >> >จากนั้นผมถึงได้รู้ว่า เธอรู้สึกไม่เข้าใจว่าผมคิดไงมาตลอด

    >> >> >เพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน คุยกันทุกวัน

    >> >> >

    >> >> >แต่ผมไม่เคยมีอะไรหวานๆ ไม่เคยแสดงความห่วงใยเป็นพิเศษ

    >> >>ไม่เคยบอกว่าชอบเธอ

    >> >> >ไม่รู้ว่าเราเป็นแฟน . . . หรือเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก

    >> >> >

    >> >> >ซึ่งสิ่งที่เธออยากรู้มาตลอดคือผมชอบเธอระดับไหน แค่คนควงเล่น

    >> >> >หรือมากกว่านั้น

    >> >> >(ผมดูเหมือนคนคบผู้หญิงไว้ควงเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ . . .)

    >> >> >เพราะเป็นผู้หญิง . . . ทำให้เธอไม่เคยกล้าถาม

    >> >> >แต่วันนี้ถามฐานะ "เพื่อนเก่า"

    >> >> >

    >> >> >ตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้พูด เพราะพูดไม่เป็น

    >> >> >แล้วก็ไม่นึกว่าผู้หญิงจะต้องการการแสดงออกที่ชัดเจนมากกว่านี้

    >> >> >

    >> >> >ยิ่งพอเรียนจบ ผมเหมือนหายไปเลย . . . ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน

    >> >> >

    >> >> >ผมรู้สึกเหมือนกับว่า หัวข้อการคุยหลังจากนั้น

    >> >>

    >> >คือเราต่างเสียดายที่เราไม่เปิดเผยความรู้สึกให้อีกฝ่ายมากกว่านี้ในตอนนั้

    >> >> >น

    >> >> >ถึงเราจะคุยกันเหมือนเป็นเรื่องน่าขำ . . .

    >> >> >

    >> >> >หลังจากวางสาย

    >> >> >ผมรู้สึกเหงาๆ หวิวๆ ยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าเธอจะแต่งงาน

    >> >> >

    >> >> >มันเหมือนอะไรบางอย่างที่เราควรจะรักษาไว้ แต่กลับรักษาไม่ได้

    >> >> >

    >> >> >แล้วตอนนี้มันก็สายเกินไปที่จะเรียกกลับมา

    >> >> >

    >> >> >ก็หวังว่าความเหงาแบบนี้มันคงจะผ่านไป . . .

    >> >> >

    >> >> >

    >> >> >ไม่กี่วันหลังงาน ผมได้รูปแต่งงานของเธอมา

    >> >> >(ผมขอรูปเจ้าสาวที่เธอไปถ่ายติดหน้างานไว้)

    >> >> >ผมดูแล้วก็ยิ้มๆ ทุกครั้ง

    >> >> >

    >> >> >ใช่ครับ . . . ถึงมันจะเศร้า แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นความทรงจำที่ดี

    >> >> >

    >> >> >ตอนที่ผมเห็นรูปนี้ครั้งแรก

    >> >> >ผมไม่เคยฝันว่างานแต่งงานผมจะเป็นไง . . . เจ้าสาวผมจะเป็นใคร

    >> >> >หน้าตาแบบไหน

    >> >> >ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ . . .ว่าตัวเองจะแต่งงานหรือเปล่า

    >> >> >

    >> >> >แต่รูปถ่ายผู้หญิงปล่อยผมยาว ยิ้มกว้าง แต่งหน้าอ่อนๆ

    >> >> >ใส่ชุดสีขาวสบายๆริมสระน้ำ . . . ทัดดอกไม้สีขาวที่หู รูปนี้

    >> >> >ผมรู้สึกเสียดายจริงๆ ที่เธอไม่ใช่เจ้าสาวของผม

    >> >> >ไม่ได้ใส่ชุดนี้เพื่อผม

    >> >> >

    >> >> >ในแต่งงานของเธอ ทุกครั้งที่มองเธอ

    >> >> >ผมถามตัวเองตลอด . . ว่าทำไมผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอวันนี้ไม่ใช่ผม

    >> >> >แต่คำตอบของสิ่งที่ผมถามตัวเอง . . .ผมก็รู้ว่าเพราะอะไร

    >> >> >

    >> >> >เหตุการณ์นี้คงเป็นบทเรียนน่ะครับ

    >> >> >ซึ่งไม่รู้ผมจะมีโอกาสได้แก้ตัวอีกหรือเปล่า

    >> >> >

    >> >> >

    >> >> >เรื่องของคนที่ไม่ชัดเจน ไม่สม่ำเสมอ และเข้าใจยาก อย่างผม

    >> >> >อยากเอามาเล่าสู่กันฟัง

    >> >> >ไม่อยากให้เกิดกับใคร. . .

    >> >> >

    >> >> >ใครที่ยังมีสิ่งที่ตัวเองหลงลืม ลองย้อนหันกลับไปมอง

    >> >> >และเอาใจใส่ให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นอีกนิดนะครับ

    >> >> >จะได้ไม่ต้องมานึกเสียดายทีหลัง . . . ถ้าสิ่งนั้นพลาด

    >> >>หรือหลุดลอยไป

    >> >> >

    >> >> >หรือถ้าพลาด อย่างน้อยก็ยังรู้สึกว่าได้ทำเต็มที่แล้ว

    >> >> >ไม่ใช่พลาด เพราะปล่อยปละละเลย

    >> >> >

    >> >> >อย่าลืมนะครับ . . . ขอย้ำอีกทีว่า

    >> >> >

    >> >> >++ ค ว า ม รั ก ต้ อ ง ก า ร ค ว า ม ชั ด เ จ น แ ล ะ ส ม่ำ เ ส ม อ ++


    อ่านเรื่องนี้จบคิดได้อีกนิดว่า เสียใจที่ทำไป พูดไปอย่างที่คิด ดีกว่าเสียใจที่หลังที่ไม่ทำไม่พูดอย่างที่รู้สึก ......เฮ้อออออ ชีวิตคนเรา

    จากคุณ : zolakmit - [ 18 ก.ค. 50 08:30:24 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom