Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    บันทึกรักออนไลน์หนุ่มไทยกับสาวผมทอง

    วันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ผมนั่งแชทกับแฟนอยู่ใน msn จู่ๆเธอก็บอกว่า เราเลิกกันเถอะ ผมช้อคมากครับ ทำอะไรไม่ถูกเลย แทบระงับอารมณ์ไม่อยู่

    หลังจากวันนั้นผ่านไป เราได้คุยกันอีกพอสมควร แต่ก่อนอื่นถ้าไม่รบกวนเวลาของทุกคนมากไป ผมขอเล่าเรื่องของเราย่อๆนะครับ เป็นความรักที่แปลกทีเดียว ลองอ่านดูครับ

    เธอไม่ใช่คนไทยครับ เป็นคนเยอรมัน
    ผมรู้จักกับเธอครั้งแรก โดยบังเอิญจริงๆ วันนึงผมได้ข้อความทาง icq ขอ add เข้ามาคุยด้วย ปกติก็จะทักทายกับไปนิดหน่อย หรือไม่ก็ปิดไปเลยไม่สนใจแต่ครั้งนี้ ผมเห็นเค้าเขียนใน profile ตัวเองว่า เค้าเป็นคนเยอรมัน แล้วก็ลงว่าพูดภาษาไทยได้ แล้วเค้าก็เขียนภาษาไทยนิดหน่อย เช่น สวัสดีผมเลยถามกลับไปว่า เค้าเป็นคนไทยหรอ หรือว่าอยู่เมืองไทย จากนั้นเราก็เริ่มพูดคุยกัน

    เธอยังเด็กอยู่เลยครับ เพิ่งอายุ 15 ย่าง 16 ขณะที่ผม 23ย่าง 24 เราคุยกันถูกคอ หลายๆเรื่อง เธอเล่าว่าเธอกับครอบครัวเธอมาพักผ่อนที่เมืองไทยทุกๆปีเราคุยกันหลายๆเรื่อง จาก icq ก็ย้ายมาเป็น msn ซึ่งผมก็พึ่งรู้ว่าที่เยอรมัน เค้าใช้กันแต่ icq ต่อมาเราก็เริ่มคุยด้วยเสียง และคุยกันทาง video chat

    เราเจอกันทุกวันผ่าน msn บางครั้งก็คุยสนุกยาวถึง 6 ชมก็มี ในที่สุด วันที่เธอมาเมืองไทยกับครอบครัว ผมก็ได้ไปเจอเธอ แน่นอนครับ เธอไม่ใช่คนที่สวยมากมายอะไร แต่มีเสน่ห์และรู้สึกสนุกที่ได้อยู่ด้วย ตลอดเวลาที่เธออยู่เมืองไทย เราก็ไปเที่ยวโน่นนี่ด้วยกันตลอดกับครอบครัวของเธอ ทุกอย่างไปได้ดีเราเริ่มเป็นแฟนกัน และเธอขอให้ผมบินไปหาเธอในปีถัดไป เพื่อไปงานเต้นรำที่จัดขึ้นสำหรับพิธีจบการศึกษา ผมบอกไปว่าผมจะพยายาม ตอนนั้นผมไม่มีเงินสักบาท ผมเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งหลังจากนั้น ภายในครึ่งปี ผมเก็บเงินได้ 100000 โดยประหยัดทุกอย่าง ข้าวกลางวันก็ไม่ได้ทาน เพื่อให้ได้ค่าเครื่องบิน และเงินสำหรับ ใช้จ่ายขณะไปอยู่กับบ้านเค้า เรารอกัน 8 เดือนเต็ม หลังจากที่จากกันครั้งก่อน แล้วก็ถึงเวลาที่ผมไปอยู่กับครอบครัวเธอ เป็นช่วงเวลาที่สนุกมากเลยครับ แน่นอนว่าผมต้องลาออกจากงานเพราะไม่มีบริษัทที่ไหนจะให้ลาหยุดได้ในปีแรกที่ทำงานอีกทั้งลาเดือนเต็มๆ เพื่อให้ใช้เวลาได้เต็มที่กับเธอ

    เรารักกันมากครับ คุยกันถึงอนาคตว่าเธออยากย้ายมาอยู่เมืองไทยหลังเรียนจบ มาเรียนต่อมหาลัยที่นี่ และผมจะดูแลเธอทุกอย่างเราแลกแหวนหมั้นกัน และสัญญาว่าเมือ่เธอมาอยู่เมืองไทย เราจะแต่งงานกัน เธอขอให้ผมมาบินมาหาเธออีกทีช่วงคริสมาส ซึ่งก็แค่ 4 เดือนหลังจากนั้นเอง ผมตอบไปว่า จะพยายาม เงินที่ผมมีก็หมดไปกับ summer ที่ผ่านมา งานผมก็ออกมากแล้ว ผมเริ่มหาทางทำงานของตัวเอง ผมซื้อของมาลองขายทางอินเตอร์เนท ซึ่งเธอก็คอยให้กำลังใจผมตลอด ผมเริ่มเก็บเงินได้อีกครั้ง

    หลังจากปิด summer เธอต้องเข้าไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งอีก 3 ปีเพื่อให้ได้วุฒิสำหรับมาเทียบเพื่อเข้าเรียนที่มหาลัยในเมืองไทย

    ตอนนี้ที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป... การเรียนเริ่มหนักขึ้น เธอเริ่มมีเพื่อนใหม่ๆ เพื่อนชวนเธอไปดิสโก้ เธอเปลี่ยนทรงผม การแต่งกาย เริ่มมีหนุ่มๆเข้ามาชอบเธอมากขึ้น เราเริ่มคุยกันน้อยลงเพราะเธอบอกว่า ต้องทำการบ้าน ผมไม่ว่าอะไร แต่เราก็ยังเจอกันบน msn เกือบทุกวัน การใช้คำของเธอกับผมเริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ สมัยก่อนเวลาผมทำอะไรให้เธอหรือส่งของขวัญเล้กๆน้อยๆไป เธอจะขอบคุณ แต่ตอนนี้บางครั้งก็แต่บอกว่าได้รับแล้วนะ หรือถึงกับบอกว่าวันหลังอย่าส่งลงทะเบียนมา เพราะเธอติดรถพ่อไปเอาที่ไปรษณีย์

    เริ่มใกล้คริสมาสทุกที ตอนนี้ผมมีเงินพร้อมที่จะบินไปหาเธออีกครั้ง วีซ่า ประกันสุขภาพ ทุกอย่างทำเรียบร้อย ผมต้องจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่พึ่งกลับมาจากครั้งก่อนเพื่อให้ได้ตั๋วถูกและมั่นใจว่าได้ตั๋วแน่ๆ ทั้งๆที่ตอนจองเงินจ่ายยังไม่มีเลย ผมเลือกวันเดินทางที่ได้ตั๋วราคาประหยัดสุด ผมต้องนั่งเครื่องบินแล้วไปต่อรถไฟเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

    ผมเคยบอกเธอถึงกำหนดการเดืนทาง เธอบอกไม่มีปัญหาอะไร แต่พอใกล้คริสมาสจะเดินทางจริงๆ อยู่ๆเธอก็เริ่มวีนใส่ผมว่า ทำไมผมถึงเลือกมาเดินทางวันที่เธอยังไม่ปิดคลาสและเป็นช่วงสอบ ผมตอบไปว่า ผมจะไปรู้ได้อย่างไร เพราะตั๋วเครื่องบินต้องจองล่วงหน้า และตอนนั้นเธอก็บอกเองว่า ไม่มีปัญหา แต่จริงๆคือเธอไม่ได้อ่านให้ละเอียดหรือโน้ตเวลา เดินทางของผมด้วยซ้ำ ผมเริ่มอารมณ์ขึ้นและถามไปว่า ทำไมทั้งๆที่พรุ่งนี้ผมจะเดินทางแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลยรึไง ทำไมถึงมาวีนใส่กับแบบนี้ ทั้งๆที่มันไม่ใช่ความผิดของผมเลย ผมคิดว่าผมทำดีที่สุดแล้ว เธอบอกผมว่าไม่รู้สิ ทำไมเธอถึงเริ่มหงุดหงิดใส่ผม คงเป็นเพราะการเรียน เวลา เธอบอกผมตรงๆว่า ความรักของเธอที่มีต่อผมน้อยลงกว่าตอนที่เจอกันครั้งก่อน ผมพยายามปลอบไปว่า เพราะเราอยู่ไกลกัน ความรู้สึกที่น้อยลงถือเป็นเรื่องปกติ

    สุดท้ายเราสงบอารมณ์กันได้ และดีกัน วันรุ่งขึ้นผมก็เดินทางไปหาเธอ วันแรกที่เจอหน้ากัน เรารู้สึกแปลกๆที่มองหน้ากันไม่ค่อยติด เราคงรู้สึกสับสนเพราะเรื่องที่เพิ่งคุยกันก่อนเดินทาง ช่วงเวลาคริสมาสผ่านไปด้วยดีครับ เรามีทะเลาะกันบ้างเล็กน้อย เพราะเธอเป้นคนค่อนข้างเอาแต่ใจตัว แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะผมจะเป็นฝ่ายที่เย็นกว่า ผมมองเธอว่าเป็นธรรมดาเพราะเธอยังเด็ก และวัฒนธรรมของเราต่างกัน คนเอเชียเก็บอารมณ์ดีกว่า และไม่แสดงออกฉุนเฉียว เธอบอกว่าขอโทษที่วันแรกๆทำตัวแปลก เพราะเธอสับสน เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกห่างเหินที่เกิดขึ้นหมายถึงเธอไม่ชอบผมแล้วหรือไม่ แต่พอเราได้ใช้เวลาด้วยกัน เธอพบแล้วว่าเธอรักผม ทุกอย่างไปด้วยดีครับ เราจากกันด้วยน้ำตา และอีกครึงปีเราจะพบกันใหม่ เมื่อครอบครัวเธอมาเมืองไทย
    อีกครั้ง

    ตอนนี้ผมอายุ 25 และเธอก็ 17 ปีครับ ผ่านมาเกือบสองปีแล้วตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

    หลังจากห่างกันได้ 3 สัปดาห์ซึ่งก็คือตอนนี้ อยู่ๆเธอก็บอกกับผมว่า เธอรู้สึกเหมือนเดิ่มอีกแล้ว ที่ว่าความรักที่มีต่อผมมันหายไป หลังจากที่ผมกลับมาเมืองไทย เธอบอกว่าขอเวลาให้เธอจนกว่าจะถึง กรกฏาได้หรือไม่ เธออยากให้เราหยุดกันไว้ชั่วคราว เพราะเธอก็ไม่รู้ความรู้สึกของเธอ ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับผมกันแน่ ผมพยายามสงบอารมณ์คุยกันเธอว่า ทุกอย่างจะเหมือนเดิม หลังจากที่เราได้เจอกันอีกในเดือนกรกฏา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเพราะ ความห่างไกลกันเท่านั้น เธอตอบว่า เธอไม่ชอบแบบนี้เลย เธอไม่อยากที่จะรอ มีหนุ่มดีๆหลายคนเข้ามาชอบเธอ ตรงนี้เองที่ผมหงุดหงิดที่สุด วันเสาร์ที่ผ่านมานี่เองครับที่เราคุยกันเรื่องนี้ หลังจากที่เราโต้เถียงกันพักใหญ่ เธอบอกผมว่าเธออยากเลืก แต่ผมบอกไปว่า ผมไม่ยอมให้เลิกกันแบบกลาง msn แบบนี้ มันใจจึดใจดำเกินไป เราไม่ใช่เพิ่งเริ่มคบกัน แต่สองปีที่ผ่านมา ผมทำแบบทุกอย่างเพื่อเธอ ผมต้องออกจากงาน ทำงานเก็บเงิน เสียงเดิมพันกับชีวิตและความก้าวหน้าของตัวเอง เพื่อรักษาสัญญาที่ให้กับเธอ

    เธอถามผมว่า ทำไมผมไม่ปล่อยเธอ ทำไมถึงต้องยึดติดกับเธอนัก คนอื่นๆเขาก็เลิกกันง่ายๆมีถมไป ไม่เห็นใครเขาจะแคร์ เด๋วผมก็จะเจอคนที่ดีกว่า ผมบอกเธอไปว่า ความรักของผม ไม่ใช่สิ่งที่จะให้ใครง่ายๆ แล้วพอไม่มีความสุขแล้วก็จะทิ้งขว้างกัน เอาไปให้คนอื่นๆ ความรักไม่ใช่แค่สนุกกันชั่วคราวยามมีความสุข แต่มันยังมีความจริงใจความรับผิดชอบ เห้นอกเห้นใจกันด้วย... ผมอยากให้เธอคิดดีๆก่อน ผมอยากให้เราได้เจอกันอีกทีตอนกรกฤา แล้วผลจะเป็นอย่างไร ความรู้สึกเธอจะเหมือนเดิมหรือไม่ จะเลิกกันก็พูดกันซึ่งๆหน้าตรงๆ ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือผ่าน msn อย่างนี้ ผมบอกเธอไปว่า ยังจำได้ไหมเธอยังเคยว่า เพื่อนของเธอที่เลิกกับแฟนง่ายๆเลย เพื่อนของเธอบางคน เลิกกันแฟนด้วย sms ก็มี ทำไมตอนนี้เธอกลับทำทุกอย่างเหมือนที่เธอเคยว่า วิจารณ์คนอื่นไม่มีผิด

    เธอสับสนมากครับ พ่อแม่ของเธอก็พยายามบอกเธอว่า เราไม่เหมาะกัน ซึ่งเธอค่อนข้างเชื่อแม่เธอมาก พ่อแม่เธอคิดว่าผมยังดูเด็กและไม่เป้นผู้ใหญ่พอ เธอหาว่าผมอายุ 25 แล้วยังอยู่ในบ้านเดียวกับพ่อแม่อีก ผมบอกเธอไปว่า มันเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่ต่างกัน เมืองไทย เราต้องดูแลพ่อแม่ แม่ของผมเกษีรณแล้ว ผมหักเงินจากที่ขายของได้เดือนละ 5000 ให้ท่าน ความจริงแล้วเธอพยายามหาเหตุผลต่างๆเพื่อจะบอกว่าผมไม่ดีพอยังไง... เธอสับสนกับตัวเธอเองมาก เธอหาว่าผมไม่มีงานที่มันคง ผมบอกเธอไปว่างานที่ผมทำตอนนี้ ผมมีรายได้ดีกว่า อยู่บริษัท 5 เท่า เมืองไทยกับเยอรมันต่างกัน อยู่เมืองไทยเป็นลูกจ้าง โอกาสใต่เต้าจนประสบความสำเร็จมีฐานะการเงินมั่งคั่งมีน้อยมาก ต่างกับเยอรมันที่ระบบประกันสังคมเค้าดี คุณทำงานจนเกษีญรก็ได้บำนาญจากรัฐบาลจนตายมานั่งกินนอนกินแถวพัทยากันเป็นแถว ซึ่งความจริงมันไม่เป็นเช่นนั้นกับระบบการทำงานของบ้านเรา ถ้าอยากรวยต้องเริ่มทำกิจการตัวเอง ที่นี่เป็นแบบนี้ ผมพยายามอธิบายทุกๆอย่าง เพราะทุกอย่างที่เธอพูดมา มันเป็นข้ออ้างทั้งนั้น

    ตอนนี้เธอต้องไปฝึกงานสองสัปดาห์ทำให้เราจะไม่ได้คุยทาง msn เธอขอเวลาตรงนี้คิดถึงความรู้สึกของเธอกับผม เธอขอให้เราไม่ติดต่อกันเลยสองสัปดาห์ เพื่อให้รู้ว่าถ้าผมไม่อยู่เธอจะรู้สึกเช่นไร ซึ่งวันนี้ก็คือวันแรกที่เราเริ่มไม่ติดต่อกัน แต่แค่เมื่อวาน หลังจากที่เราหยุดคุยทาง msn ได้มีกี่ชั่วโมง เธอก็พิมพ์มาหาผมว่า เธอเศร้าเวลาที่ผมไม่อยู่ด้วย

    ผมสับสนมากครับ เธอบอกผมว่า หลังจากสองสัปดาห์เราจะคุยกันอีกคร้งและเธอจะบอกผมว่าเธอรู้สึกอย่างไร แต่เธอบอกว่า ไม่อยากให้ผมคาดหวังอะไร และอยากให้ผมเคารพการตัดสินใจของเธอ ผมบอกเธอไปว่า ผมคงทำอย่างนั้นไม่ได้ อยากให้เธอคิดถึงสถานะของผมบ้าง สิ่งที่ผมทำไปทุกอย่าง สิ่งที่ผมเป้นอยู่ในตอนนี้ มันเกี่ยวพันกับเธอทั้งสิ้น ถ้าตัดสินอะไรไปเพราะเอาแต่อารมณ์ของตัวเอง โดยไม่คิดถึงความรู้สึกของผมเลย อย่างนั้นคือการเห็นแก่ตัว เราผ่านมาเกืบอครึ่งทาง เกือบสองปีแล้วที่เจอกัน คุยกันทุกวัน อีกแค่สองปี ความฝันของเธอที่จะย้ายมาอยู่เมืองไทยก็จะเป้นจริง ซึ่งเธอก็ยอมรับว่า ถ้าเลิกกับผมตอนนี้ เธอคงไม่มีโอกาสย้ายมาอยู่เมืองไทยอย่างที่เธอเคยฝันไว้นานมาแล้ว แต่เธอบอกว่า ความรู้สึกรักที่มีกับผมมันหายไปแล้ว ไม่แม้แต่คิดถึง เธอไม่เข้าใจตัวเอง เธอรู้สึกผิด แต่ก็อยากเป็นอิสระ ครั้งก่อนที่ไปดิสโก้ ก็มีหนุ่มๆมาเต้นกับเธอ ผมพยายามคุยกับเธอว่าแล้วเธอต้องการอะไรจริงๆ อิสระแบบไหน ผู้ชายแบบไหน ผมยอมตกลงให้เธอทำสิ่งที่เธอชอบ (ทั้งที่แต่ก่อนผมก็ไม่เคยบังคับหรือผูกมัดอะไรเธออยู่แล้ว) ต่อไป ถ้าเธอไม่ว่างก็ไม่ต้องคุย msn กันก็ได้ ถ้าไปไหนนานๆก็บอกกันก่อน ไม่ต้องเจอหรือคุยทุกวันเหมือนแต่ก่อน เธอรู้สึกดีขึ้น ผมพยายามพูดให้เราได้เจอกันเดือนกฤกฏาอีกครั้ง เธอสับสน คงเพราะรู้สึกผิด ไม่อยากเผชิญหน้ากับผม ไม่อยากให้ช่วงเวลาพักผ่อนในเมืองไทยเป็นช่วงลำบากใจ ดูเหมือนกับว่าเธอตัดสินใจอยากให้ทุกอย่างมันจบก่อนกรกฏาเสียอีก

    อีกสองสัปดาห์ เราจะคุยกันอีกครั้ง ..... ขออภัยด้วยครับที่พิมพ์ยาวมาก... เป็นความรักที่แปลกใช่มั้ยครับ ใครอ่านแล้วมีความเห็นอย่างไร คำแนะนำอะไร หรือมีประสบกาณ์คล้ายๆกัน ช่วยเล่าสู่กันฟังด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความปราถนาดี และกำลังใจครับ

    ผมยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่อยู่กันคนละประเทศ ภาษาวัฒนธรรมต่างกันแต่ผมจะไม่ยอมที่ให้ความรักที่ฝ่าฟันอย่างยากลำบาก ความฝันและอนาคตที่เราเคยวาดไว้ จะต้องพังชั่วข้ามคืนเพราะอารมณ์ชั่ววูบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมพยายามจะสื่อสารสิ่งนี้ให้เธอรู้ ว่าสิ่งที่เรามีอยู่มันมีค่า มากเกินกว่าที่จะทิ้งมันไปง่ายๆ โดยบอกว่า คนอื่นๆเข้าก็ทำกันเป็นปกติ  อีกสองสัปดาห์รู้กันครับ

    จากคุณ : reveine - [ 4 ก.พ. 51 19:29:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom