PANTIP.COM : F6600694 [มีเรื่องมาเล่าค่ะ+เรทนิดนึง] รักพ่อกับแม่ที่สุดเลย []

[มีเรื่องมาเล่าค่ะ+เรทนิดนึง] รักพ่อกับแม่ที่สุดเลย

สวัสดีค่ะ

เรามีเรื่องจะมาเล่าให้ฟัง เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆเลยทีเดียว
แต่เหตุการณ์ที่จะเล่าให้ฟังนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราทั้งกลัว ระทึกใจ และอบอุ่นใจไปพร้อมๆกัน...

เรามีแฟนที่คบกันมานานพอดูแล้ว และความสัมพันธ์ก็ดีพอสมควร มีทะเลาะบ้าง แต่ก็ไม่รุนแรง หลังๆก็เริ่มเข้าใจและปรับตัวเข้าหากันได้บ้าง และเรามั่นใจว่าอาจจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตราบใดที่เราสองคนยังเอาใจใส่กันอยู่นะ
เราสองคนอยู่ในวัยนักศึกษาค่ะ หากดูตามอายุก็บรรลุนิติภาวะแล้ว

แต่เหตุการณ์ล่าสุด เราไปหาแฟนที่มหาลัยและหอเขา
ทีแรกคิดว่าคงจะไม่ขึ้นไป เพราะรู้สึกเสี่ยงๆ แต่ด้วยความไว้ใจก็เลยขึ้นไป

ปรากฎว่า ด้วยวัยหนุ่มๆสาวๆ เราสองคนก็เลยเลยเถิดกันไปนิดหน่อย

ตอนแรกเขาเอาของไปเก็บ เปิดไฟล์ภาพ+ฟังเพลงกันขำๆ คุยกันสัพเพเหระนิดหน่อย ว่าจะไปดูหนังกัน กำลังจะลงจากหอแล้วล่ะ
เขาขอให้เรานวดไหล่กับหลังให้ นวดเสร็จก็รั้งให้เรานอนลง (ทำนองนอนกอดกันเล่น) กอดกันไปสักพักหนึ่ง แล้วก็หอมแก้มและจูบกันเป็นครั้งแรก

นั่นเป็นครั้งแรกจริงๆที่เรากับแฟนใกล้ชิดกันมากขนาดนี้ เขาอยากให้เราอยู่อย่างนี้สักพัก เรามีสีหน้ากังวลนิดหน่อย
เขาลูบหัวเราเบาๆ แล้วบอกว่า ถ้าเราไม่อยากให้เขาทำอะไร เขาก็จะไม่ทำค่ะ

แต่ด้วยความที่เราใกล้กัน+ที่หอมันรโหฐาน เงียบๆ ยามบ่าย ไปๆมาๆ ก็เลยนัวเนียกอดจูบกันไปเรื่อยๆ (ไม่ได้มีอะไรกันค่ะ โป๊สุดคือเปลือยท่อนบน) ตั้งสองสามชั่วโมง

ในหัวของเราตอนนั้นตื๊อๆ ทั้งกลัว ทั้งอยากใกล้ชิด และนึกถึงหน้าพ่อแม่

พ่อแม่ของเรารับรู้เรื่องเราและแฟนเราตลอด เราทะเลาะกับแฟน หรือมีปัญหาอะไร ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เท่านั้น ก็จะปรึกษาพ่อแม่ตลอดไม่มีปิดบัง
และพ่อแม่ของเราไว้ใจเรา ยอมให้เรามาหาแฟน แต่เรากลับมาทำอะไรแบบนี้เพราะความอยากใกล้ชิดเขา

เราก็พูดกับเขาเรื่อยๆว่า นึกถึงหน้าพ่อแม่ไว้นะ เรายังเรียนไม่จบ อย่าเพิ่งทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่ากอดจูบเลย

เขาบอกเราว่า พ่อแม่อุตส่าห์ไว้ใจให้มา เขาไม่อยากทำอะไรไปมากกว่านี้ถ้าเราไม่ยินยอมพร้อมใจ
สรุปคือตอนนั้นเราเตลิดกันไปบ้าง กอดจูบกันไปเพราะความอยากใกล้ชิด

เราสองคนจึงมานั่งคุยกันอีกทีหนึ่ง เราบอกกับแฟนไปว่า ให้หยุดไว้แค่นี้ ไม่งั้นถ้าเกิดมีอะไรกันขึ้นมาจะยิ่งยุ่ง เลยกำหนดลิมิตว่าอย่าทำอีก เราให้ได้แค่จับมือ กอด นะ
เขาก็ตกลงค่ะ

เรากังวลใจมากทั้งคู่ เพราะเราต่างก็ไม่เคยใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เราตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่ฟัง ทั้งๆที่กลัวแสนกลัวว่าจะถูกดุแน่ๆ

แต่พ่อกับแม่เรายิ้ม แล้วบอกเราว่า
เมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้น แม้แต่คนที่มีลูกมีสามียังคิดไม่ออกเลย (แม่เรายกเคสที่เคยนั่งฟังวิทยุด้วยกันเกี่ยวกับเจ้านายหัวงูพาลูกน้องเข้าม่านรูด เขาไม่รู้จะทำอะไรจึงโทรหาเพื่อน ทำอะไรไม่ถูกให้เราฟัง) ถ้าเจอแบบนี้อีก หนูโทรหาพ่อ แม่ หรือน้อง หรือเพื่อนก็ได้ อย่าให้เข้าไปในสถานการณ์เสี่ยงๆแบบนั้น

พ่อกับแม่กำหนดกฎอีกข้อหนึ่ง คือให้โทรศัพท์รายงานว่าไปกับแฟนที่ไหนๆ บ้าง คือต้องคอยรายงานเป็นระยะๆ น่ะค่ะ (ให้ถี่กว่าที่เคย) ได้ยินแบบนี้พ่อกับแม่ก็ไม่สบายใจเหมือนกันนะ
สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป อะไรที่รู้ว่าไม่ดีก็อย่าทำ มาช่วยกันแก้ปัญหาดีกว่า แม่บอกอย่างนั้น
พ่อเตือนว่า (มาแนวโหด) อย่าเล่นกับไฟ ถ้ายังอยากเล่นก็เล่นไป อย่าผูกมัดกันมากจะดีที่สุด หากมีอะไรกันไปแล้วถ้าเลิกกันก็อาจจะมองหน้ากันไม่ได้ก็ได้
สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่กลัวที่สุดก็คือการพลั้งเผลอของลูกนั่นแหละ
สุดท้ายแม่บอกว่า ดีแล้วลูกที่บอกแม่ทุกเรื่อง สบายใจขึ้นหรือยัง

โห...ตอนนั้นต่อมน้ำตาแตกเลยค่ะ ซึ้งมากกกกก
เราคิดว่าพ่อกับแม่จะดุ จะทำโทษ หรือสั่งให้เราเลิกกับแฟนด้วยซ้ำ (ในกรณีที่ร้ายแรงสุดๆ)

แต่พ่อกับแม่กลับเข้าใจและพูดคุยกับเรา เหมือนกับปัญหาที่เราเจอตามปกติ
แม่บอกว่า การที่หนูเคลิ้ม เป็นอารมณ์ปกติของวัยของหนู ที่จะเคลิบเคลิ้มและเตลิดไปต่างๆนานา ป้องกันเอาไว้ดีกว่านะ

ดีใจมากๆ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ ดีใจจริงๆ
จะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจอีกแล้วค่ะ.....

แล้วก็ดีใจมาก ที่แฟนเรายังเข้าใจ และไม่หักหาญน้ำใจเราเกินไป (คือถ้าเขาจะปล้ำเราหรือทำอะไรเราเนี่ย มันได้อยู่แล้วค่ะ แต่ดีที่เขายั้งตัวไว้ทัน) แถมหลังจากนั้นแล้วเขาดูเครียดมากๆ ด้วย

เราสองคนสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรที่ "เสี่ยง" แบบนี้อีกแล้ว แม้จะมีความสุข แต่ก็เป็นความสุขที่อยู่บนความเสี่ยงและความคิดมาก (อย่างแรง)

เลยอยากจะมาเล่าเรื่องเอาไว้ สำหรับเพื่อนๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกันค่ะว่า

"ทำอะไรก็คิดถึงพ่อกับแม่ไว้นะคะ"

จากคุณ : แก้วสาริกา - [ 12 พ.ค. 51 16:14:19 A:124.120.101.37 X: ]