ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ก็เรียนสายวิทย์ม.4เทอม2 ตอนนี้ก็อยากเข้าคณะภาษานะ แต่พอเรียนๆไปความรู้สึกก็เปลี่ยนไปว่าอยากเข้าfood science แต่มันก็ก้ำกึ่งอยู่นะ แต่สายวิทย์ถ้าขยันก็ไม่ยากนะ แต่การบ้านเยอะมากกกกก ! แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 17:38:58 จากคุณ : ไอศครีมขนมหวาน - [ 22 ธ.ค. 51 17:38:33 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใจเย็น ๆ ก่อนคะ คุยกับท่านตรง ๆ  ถึงความสามารถ ความสนใจของเรานะคะ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : djangel - [ 22 ธ.ค. 51 17:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมไปไม่รอดกับ เคมี ชีวะ และตัวร้ายที่สุดฟิสิก จริงๆครับ T-T จากคุณ : เป็นอะไร - [ 22 ธ.ค. 51 17:42:21 A:125.27.234.115 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 บอกไปเลยว่าคุณอยากเป็นอะไร เป้าหมาย คณะที่อยากเข้า เอาให้ชัดเจน ถ้าท่านเห็นในความพยายาม ผมว่าท่านน่าจะเห็นใจนะ จากคุณ : เด็กชายแอ็ปเปิ้ล - [ 22 ธ.ค. 51 17:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ดื้อไปเลย ในเมื่อเรารู้ตัวเองแล้วว่าไม่ชอบวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ต้องไปเลือกเผื่อหรอกค่ะ... จากคุณ : เด็กหญิงเขียบ ณ บ้านนา - [ 22 ธ.ค. 51 17:53:48 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เอาเรื่อง GPA ไปอ้างกับแม่สิครับ จากคุณ : gudome - [ 22 ธ.ค. 51 18:03:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 นั่งคุยกับแม่ มองหน้ากัน พยายามใช้เหตุผลว่าเราไม่ชอบจริงๆ ผมดีใจกับน้องนะ ที่ค้นพบตัวเองได้เร็วมากๆ ส่วนมากถามเด็กวัยนี้ ไม่มีใครรู้ใจตัวเองเท่าไหร่ เรียนไปตามๆกัน บอกไปเลยว่า เรียนสิ่งที่ไม่ชอบมันจะได้ผลลัพธ์แย่ๆครับ จากคุณ : scozember - [ 22 ธ.ค. 51 18:08:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ารู้ว่าเราชอบเรียนและถนัดอะไรก็เรียนอันนั้นแหละครับน้อง ถ้ารู้ว่าเรียนไม่ได้ก็อย่าฝืนเรียนมันเลยครับสายวิทย์ -คณิต มันทรมานใจเปล่าๆ   เดี๋ยวจะเป็นแบบพี่นะครับ ทั้งๆที่ไม่ชอบสายวิทย์-คณิต แต่ดันไปเลือกเรียน เพราะพ่อเเม่บังคับนี่ล่ะครับ  เเล้วทีนี้พอเราเรียนไม่ได้เราก็ไม่อยากเรียน มันก็เกิดความเบื่อหน่าย เกรดก็พาลหดหาย พ่อแม่ก็ด่าวอดวาย และเขาไม่ได้ไปนั่งเรียนกับเรานี่ครับ เขาไม่รู้หรอกว่าเราเรียนยากลำบากขนาดไหน เพราะฉะนั้นน้องเลือกเอานะครับ ว่า จะให้พ่อเเม่กำหนดอนาคตให้! หรือ ว่าเราจะกำหนดอนาคตตัวเอง! จากคุณ : เขี้ยววายุ - [ 22 ธ.ค. 51 18:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ของผมตอน ปุ6 ได้เกรด สามกว่า ก็จะขึ้น ม.1 ก็ได้โควต้าเรียนต่อไม่ต้องสอบ พอถึงกล้เปิดเทอม รร. จะให้ นร. ไปเลือก สายเรียนกันเอง ดูดี chip ผมก็เลือก สายศิลป-ภาษา ไปอันดับหนึ่งเพราะตัวเองเก่งด้านภาษาอยู่แล้ว เลือกสาย วิทย์-คณิต สุดท้าย เลือกแบบนี้กับเพื่อน 4 คน เพราะไม่อยาก เครียดกัน ปรากฏว่าเปิดเทอมมาดูผล ได้วิทย์-คณิต เข้าไปหาหัวหน้าสาย บอกว่าผม เลือกแบบนั้นทำไมเป็นอีกอย่าง ครูหัวหน้าสายเค้าบอกว่าพวกเธอเหมาะกับสายวิทย์ - คณิต อ้าวห่าแล้วมรึงจะให้กรูเสียเวลานอนอยู่บ้าน มาเลือกทำห่ะอะไรในเมื่อมรึงจะจับยัดใส่เอง แถมว่าให้เรียนไปก่อนหนึ่งอาทิตย์ถ้าไม่ได้ก็ค่อยย้าย พอผมไปขอย้ายกันเพราะไม่ไหว ไม่ให้ย้ายอีกบอกว่าเดี๋ยวมันวุ่นวาย ก็เวรกรรมของพวกผม....ทนเรียนไปเกือบได้บ้าง เกือบตกบ้าง สุดท้ายจบ ม.3 ด้วยเกรด 2.5 เพื่อผมอีกคนที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่อนุบาลได้ไป 1.85 ก็ต้องทำใจ ไปเรียนที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะเกรดเท่านี้มันไม่มีความมั่นใจ เลยย้ายไปเรียนสายช่างแทน จากคุณ : เด็กขายก๋วยจั๊บ - [ 22 ธ.ค. 51 18:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 10 บอกไปเลยว่าไม่ขอบวิทย์  แล้วจะเรียนอะไร ก็บอกเค้าไป (ถ้าเป็นนิเทศก็บอกอ้อม ๆ หน่อยนะครับ) จากคุณ : Thedew - [ 22 ธ.ค. 51 19:08:06 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องอธิบายให้ท่านเข้าใจครับ ว่าทำไมถึงต้องเลือกเช่นนั้น และคุยด้วยเหตุผลเป็นสำคัญ.. ถ้าอยากได้มุมมองอื่นๆ ในการเลือกสาย ก็อ่านข้างล่างต่อครับ.. การเลือกสายควรพ่วงโอกาสในอนาคตมาพิจารณาด้วย บางทีคุณก็ต้องดูตัวเองด้วยว่า อยากเข้าเรียนคณะด้านไหนจริงๆ เปลี่ยนใจกระทันหันมันลำบาก เรียนทางศิลป์อยากมาเรียนวิทย์ โอกาสความเป็นไปได้แทบจะ 0 ครับ นอกจากคุณจะเก่งจริงๆ แต่เรียนทางสายวิทย์จะไปศิลป์นั้น ผมเห็นจนเป็นเรื่องปกติครับ คือ เรียนวิทย์โดยเรียนภาษาเสริมเอา ก็เลือกคณะทางศิลป์ได้(แต่ต้องขยันเรียนรู้นะครับ) คือ ผมสรุปให้ฟังง่ายๆว่า ภาษาเราเรียนรู้โดยความขยันของเราได้ นำไปใช้บ้าง ท่องจำบ้าง แต่ถ้าศิลป์จะพ่วงวิทย์มันยาก เพราะวิทย์มันมีแลปเสริมขึ้นมาครับ และที่สำคัญก็อย่าลืมไปว่า โอกาสตอนเลือกคณะของคุณจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับตอนเลือกสายนี่แหละครับ... แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 19:21:11 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 19:20:10 จากคุณ : Paderewski - [ 22 ธ.ค. 51 19:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ค่อย ๆ หาโอกาสเหมาะ คุยแบบใช้เหตุและผลบอกท่านค่ะ เพราะว่าถ้าเราไม่ไหวหรือไม่ชอบ ไม่สู้แล้วเนี่ย ต่อให้เรียนวิทย์ คณิต เกรดออกมาไม่ดีก็สู้เค้าไม่ได้อยู่ดีค่ะ จากคุณ : เราไม่แคร์สื่อ - [ 22 ธ.ค. 51 19:32:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เราเรียนวิทย์-คณิต มาค่ะ เพราะตอนนั้นคิดว่า เอาหน่า ยังไงก็ได้เปรียบตอนเลือกคณะ (ได้เปรียบในแง่ที่ว่าเลือกคณะได้มากกว่า) แต่ เราเป็นคนโง่เลข โง่ฟิสิก ด้วย ก็พยายามไถเถือกเรียนจนจบม.หก ตอนนี้ เรียนรัฐศาสตร์  !!! ยังไงก็คุยกับเเม่ดีๆน้า จะได้ไม่ต้องเหนื่อยฟรีเหมือนเรา จากคุณ : HippyVenuzz - [ 22 ธ.ค. 51 19:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มันก็จริงนะที่เรียนสายวิทย์คณิตแล้วเลือกได้ทุกคณะ เราก็เรียนมา แต่ตอนเข้ามหาลัยไม่ได้เลือกที่เกี่ยวกะสิ่งที่เรียนมาเลย ก็ลองหาเหตุผลอธิบายแม่ดีๆละกันนะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 20:22:11 จากคุณ : blackdiary - [ 22 ธ.ค. 51 20:20:53 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นใจค่ะ เพื่อนเราหลายคนเจอปัญหานี้ (ตอนนี้อยู่ ม.3 อีกไม่กี่เดือนก็เลือกสาย)   อย่าไปเถียงท่านนะคะ  ท่านจะดูว่า เราเป็นเด็ก ยังไม่มีภาวะพอที่จะตัดสิน (เค้าอาจจะคิดว่า เราเลือกศิลป์เพราะอยากเอาชนะ หรือ รู้ไม่พอว่าอะไรเรียนยังไง)   เราต้องวางมาดดดดด นิดนึง ให้ท่านไว้ใจ ว่าเราจะรับผิดชอบชีวิตเราได้  อธิบายท่านไปดีๆ ตัวเราเลือก ศิลป์ภาษาแน่นอนน ชัวร์ร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะ 1. ถ้ามีหนังสือสองเล่ม  วิทย์ กับ อังกฤษ  จะหยิบนิยายมาอ่าน เอ้ย  หยิบอังกฤษมาอ่าน  (แสดงว่า เราอ่านแล้วไม่เบื่อ อยากต่อยอดความรู้ในด้านนี้ ก็เลือกอันนี้ จะไปเลือกวิทย์ทำไม) 2. สมมุติว่า อาชีพหมอ เป็นอาชีพที่ดีมีเกียรติ มีคนนับถือ และเงินดี (ไม่ต้องสมมติ ก็มันเรื่องจริง)  แต่ร้อยคน ย่อมไม่สามารถเป็นหมอ(ที่ดี)ได้ทั้งร้อยคนอยู่แล้ว เพราะแต่ละคนก็ถนัดไม่เหมือนกัน 3. ที่ท่านบอกว่า เรียนวิทย์เลือกเอนท์ได้ทุกสาย  ต้องลองคิดดูว่า หมอ สามารถ มาเป็นนักข่าวได้  แต่นักข่าวไม่สามารถไปเป็นหมอได้ แต่หมอ ก็มาเป็นนักข่าวได้ ไม่ดีเท่าคนที่เรียนสายตรงมาเหมือนกันแหละ 4. ถ้าเรียนวิทย์ แต่ไม่ได้ชอบ แถมไม่เก่งอีก จบมา 1 กว่า 2 กว่า เอนท์ก็ไม่ติด หางานก็ยาก เพราะโดนคนจบสถาบันดีๆ เกรดงามๆ แย่งหมด เอางั้นเหรอ? หรือคุณจะตั้งเป้าหมายไปเลยว่าอยากเป็นอะไร แล้วต้องเรียนอะไร ก็เหมือนกับ คุณวางเป้าหมายว่าจะไปสนามหลวง คุณก็นั่งรถเมล์ให้ถูกสายไป ไม่ใช่ไปนั่งสายไหนไม่รู้ แล้วค่อยไปต่อรถเอา เสียเวลา เสียตัง "แม่ก็บอก ก็ใช่สิ ตอนนี้เข้าถึงไปเรียนวิทย์กันหมด เพราะเขาต้องการโอกาสไง ??" บอกแม่ไปเลย โอกาสมันมาถึง แล้วเกิดผล ก็ต่อเมื่อ มาถึงคนที่พร้อม และมีความสามารถ เอื้อกับโอกาส เท่านั้นแหละ คนเราถ้าวิ่งไปหาโอกาสได้  ก็ต้องสร้างโอกาสด้วยตัวเองได้เหมือนกันแหละ เรียนศิลป์จบมาทำอะไรได้ตั้งเยอะ เมื่อไหร่มันจะหมดไปซะที ไอ้ค่านิยมนี้เนี่ย ปล. แต่คุณต้องมั่นใจนะ ว่าคุณไปศิลป์แล้วรุ่งกว่าจริงๆอ้ะ ไม่งั้น ท่านซ้ำเติมคุณแหง(คงไม่หรอก ขู่ไปงั้นแหละ)  หรือ   คุณอาจจะไม่มีโอกาสตัดสินใจอะไรอีก (ข้อนี้ไม่ได้ขู่นะจ๊ะ) ปล.2  เราจะเรียนศิลป์ฝรั่งเศส ใจนึงก็อยากเรียนจีน แต่ก็เลือกฝรั่งเศส เพราะคิดจะเอาดีทางภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส มีคำศัพท์ที่คล้ายEng หลายคำ  ทั้งๆที่มันเป็นภาษาตาย และมีโอกาสได้ใช้น้อยมากในเอเชีย แต่ถึงไม่ได้ใช้ทางตรง มันก็ได้ทางอ้อมเหมือนกันแหละ   พ่อแม่เราไม่เคยห้ามหรือบังคับเลย เพราะท่านก็ผ่านวิทย์ คณิตมา  สุดท้าย ก็ไม่ได้ใช้ สู้ๆนะคะ จากคุณ : Rawisara - [ 22 ธ.ค. 51 20:43:04 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ต่อไปสายที่เราเรียนจะไม่เกี่ยวแล้วนะครับ ( คือต้องไปเรียนพิเศษสุดโหดเพื่อสอบเข้าเอาเอง ) จากคุณ : GeneGTO - [ 22 ธ.ค. 51 20:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 17 แม่พี่ก็เป็นค่ะ ตอนแรกพี่ชอบภาษามากกว่า อยากเรียนสายภาษา แต่แม่อยากให้เรียนสายวิทย์ เพราะแม่เห็นว่าหัวพี่สามารถเรียนได้ พอตอนเอนท์ก็ขอบคุณแม่นะ เพราะเลือกได้หลายทางจริงๆ อีกอย่างนะ ตอนเอนท์น่ะ ถ้าจะเบนไปสายศิลป์ก็ยังได้ และยังสามารถเอาคะแนนที่ดีที่สุดของเรายื่นได้ โดยที่เรามีตัวเลือกในการยื่นคะแนนมากกว่าสายศิลป์นะ อย่างเช่น อยากเรียนนิติ ก็สามารถยื่นได้ทั้งนิติสายวิทย์ นิติสายภาษา ไรแบบนี้ จากคุณ : PaNDoRa-ParsellE - [ 22 ธ.ค. 51 20:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าให้เป็นเหมือนพี่นะค่ะ พี่เรียนวิทย์-คณิต มาเหมือนกัน  ทั้งๆที่พี่ก็ไม่ชอบพวกวิทย์อะไรหรอกค่ะ ที่โรงเรียนเก่าพี่  ห้องวิทย์-คณิต จะเด่นมากๆ  ส่วนห้อง คณิต-อังกฤษเนี่ย   ไม่เด่นเลย  และที่เด่นๆอีกห้องคือห้อง อังกฤศ-ฝรั่งเศส   ตัวพี่เนี่ยแรกๆตามเพื่อนค่ะ  เรียนวิทย์คิดว่าเท่ห์   ที่บ้านพี่เขาก็สนับสนุนให้เรียนวิทย์ที่โรงเรียนเดิม แต่พอเรียนไปได้เดือนสองเดือน  ก็รู้ว่ามันไม่ใช่เลย พี่อยากจะย้ายห้อง  แต่อาจารย์ไม่ให้ย้าย   (พี่ละงง..เขาบอกว่า ย้ายไปอยู่กะพวกนั้น คงได้เรียนกันละ ห้องนั้นเป็นห้องที่ไม่ค่อยเรียนกัน  อาจารย์หลายๆคนยังไม่ชอบเลย)   สุดท้ายพี่ก็เรียนๆจนถึงม.6  เกรดไม่ค่อยสวยเลยได้แค่ 3 นิดๆ   แต่มันก็เท่านั้นละค่ะ  ใจจริงพี่อยากจะเรียนคณิต-อังกฤษซะด้วยซ้ำ   ไม่ก็พวกศิลปะไปเลย  แต่ที่บ้านไม่ชอบ   ตอนนี้พี่เรียนมหาลัยไม่ได้ใช้เลยค่ะ   ถ้าน้องรู้ตัวว่าไม่ชอบก็อย่าฝืนเรียนนะค่ะ   มันจะทำให้เราเบื่อละก็ทำคะแนนไม่ได้ดีเทาที่ควร   ยิ่งถ้าทำเคมี ชีวะ ฟิสิกส์  ได้น้อยๆ  มันก็ตัดคะแนนกันซะเละเลย แต่ถ้าน้องเรียนวิทย์เหมือนเดิม  น้องก็ตั้งใจมากๆนะค่ะ   อย่างน้อยตอนสอบเข้ามหาลัย  น้องจะได้เปรียบกว่าคนที่เรียนศิลป์นะค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 21:03:17 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 21:01:11 จากคุณ : Beezze in love (Honey_lovely) - [ 22 ธ.ค. 51 20:59:52 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้ายังไม่ชัวร์เลือกวิทย์ก่อนค่ะ ไม่ไหวแล้วค่อยขอย้ายลงมา แต่ถ้ามีเป้าหมายที่แน่นอนแล้วว่ายังไงก็ไมเข้าทางวิทย์แน่ๆก็เลือกศิลป์ไปเลยค่ะ เอาเรื่อง GPA มาอ้างอาจจะได้ผล ตอนนี้เราก็แย่เพราะ GPA ฉุดเหมือนกัน TwT และเราก็ไม่เก่งวิทย์เลย .. พลาดซะแล้น -*- จากคุณ : iamiff - [ 22 ธ.ค. 51 21:18:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 อ๊ากกกกกกกกกกกกกก คนเรียนวิทย์ อยากเรียนศิลป์ คนเรียนศิลป์ อยากเรียนวิทย์ จากคุณ : : ( (โฉมศรีฉวีวรรณ) - [ 22 ธ.ค. 51 21:50:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเรียน ศิลป์-สังคม ยังได้เกรด 2.7 ทําไมพวกพี่เรียนแผนวิทย์ได้เกรดงามกันจังเลยครับ เห็นมี คนพูดว่าได้แค่ 3เอง ผมรักป๊ากับแม่ผมจังไม่บังคับ ชีวิตเป็นของเราเรากําหนดมันเอง จากคุณ : ไม่ง้อ - [ 22 ธ.ค. 51 22:04:23 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ถามตัวเองก่อนว่าคุณชอบอะไร? ภาษา คอมพิวเตอร์ วิศวะ วิทยาศาสตร์ นิเทศ ฯลฯ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณคิดจะเรียนคณะเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ วิศวะ แนะนำให้เรียนสายวิทย์เพื่อเป็นใบเบิกทางครับ เพราะอย่างที่รู้กันมันเป็นเงื่อนไขตอนเลือกคณะ และเวลาอยู่มหาลัยคุณจะได้ใช้วิชาที่เรียนตอนสายวิทย์แน่นอน เช่น แคลคูลัส ซึ่งสายภาษาจะมีพื้นฐานเนื้อหาวิชาคำนวณไม่แน่นเท่าสายวิทย์ (ซึ่งนี้คือข้อได้เปรียบของสายวิทย์) แต่สายภาษาก็ได้สิ่งที่สายวิทย์ไม่มีคือ ภาษาที่ 3 (นอกจากไทย - อังกฤษ) ------------------------------------------------------ แม่คุณพูดถูกครับมันคือโอกาส เค้าหวังดีกับคุณนะครับ ลองคิดดู สมมุติว่าถ้าถึงเวลาคณะที่คุณอยากจะเข้า แต่คะแนนคุณเกิดไม่ถึงขึ้นมา คุณจะมีแผนสำรองยังไง ในเมื่อคณะที่คุณเลือกได้ก็มีจำกัด ดีไม่ดีต้องไปเรียนมหาลัยเปิดหรอกหรอ ซึ่งตรงกันข้ามกับสายวิทย์ที่คุณจะเลือกได้ทุกคณะ คุณเคยเล่นเกมไหมครับ คุณรู้จักสกิลติดตัวไหมครับ คือมีไวเพื่อนเป็นทางผ่านไปสู้ลำดับถัดไป แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะใช้อย่างจริงจังครับ ถ้าคุณเลือกที่จะเรียนภาษาก็บอกพ่อแม่ไปตรงๆ ว่าคุณจะเอาดีทางด้านนี้ แค่นั้นแหละครับ คือ ม.ปลายหน่ะอย่าไปคิดมากเลยครับ เราเรียนก็เพื่อเป็นทางผ่านไปสู้คณะที่เราจะเข้าเท่านั้นเอง ขนาดผมเรียนสายวิทย์ยังไปเรียนบริหารเลย แต่ก็รู้สึกดีอย่างที่เราได้เรียนเลขมากกว่าเพื่อนคนอื่น คือว่าถึงคุณจะเรียนสายวิทย์ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหมุนเข็มมาเรียนคณะภาษาไม่ได้นิครับ ถ้าคุณมีความตั้งใจจริงๆ จากคุณ : June Mong - [ 22 ธ.ค. 51 22:47:07 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สนับสนุนให้เรียนสายวิทย์ค่ะ เพราะตัวเราเองเคยเรียนสายภาษามาก่อน ตอนนี้อยากกลับไปเรียนมอปลายใหม่เลย คือพอเข้ามหาวิทยาลัย เช่น การทำรายงาน หรืองานวิจัยสักเล่มหนึ่ง ซึ่งต้องมีสมมติฐาน (การตั้งสมมติฐานเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับเรา) ทฤษฎีที่เราเลือกเข้ามาอ่าน การเขียนวิเคราะห์และการสังเคราะห์ความรู้ และการสรุปผลที่ได้จากการศึกษาให้เข้ากับสมมติฐานที่เราตั้งไว้ ขนาดเราเรียนสายสังคมศาสตร์นะ การเขียนรายงานสักเล่ม สำคัญมากคือกระบวนการคิด และเขียนออกมา (ซึ่งส่วนนี้ภาษา "ไทย" จะมีบทบาทสำคัญมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องผ่านกระบวนการ"คิด" ก่อน) ซึ่งเรายังจำได้ว่า ตอนมอต้น เคยทำโครงงานวิทยาศาสตร์แล้วมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนั้นเราเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง สุดท้าย เราก็เลยเลือกสายศิลป์ โดยไม่ฟังเสียงพ่อแม่ค่ะ ขอทิ้งท้ายไว้ว่า สิ่งที่จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย คือ กระบวนการคิด และการแสดงความคิดเห็นเชิงวิชาการ ค่ะ ซึ่งเราเชื่อว่าการเรียนสายวิทย์จะช่วยฝึกกระบวนการคิด และการวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้ ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนในระดับสูงๆ ต่อไป ไม่ว่าจะสาขาวิชาใดค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 51 23:33:21 จากคุณ : French-Arts Study Track (maximiliano) - [ 22 ธ.ค. 51 23:29:27 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ใจเย็นๆนะจ๊ะ ค่อยๆคุยกับแม่ดูก่อน ตอนม.ปลายพี่ก้อเรียนวิทย์มาไม่เก่งทั้งวิทย์ทั้งเลข แต่ก้อจบมาได้ อยากเรียนศิลป์ภาษาเพราะอิ้งได้เกรด4มาตลอด แต่ก้อไม่อยากย้ายเพราะสอบติดวิทย์-คณิตกลัวแม่เสียใจ แต่ตอนนี้พี่เรียนอยู่รัฐศาสตร์ ม.เกษตรนะใช้ศิลป์เยอะ ส่วนวิทย์ที่เรียนมานึกว่าจะได้ทิ้งหมด ก็ไม่ใช่นะ ยังได้เรียนชีวะอยุ่เลย ถามตัวเองว่าเราชอบอันไหน ตอนนี้มันหมดยุคที่จะมานั่งคิดละว่าวิทย์ได้เปรียบกว่าศิลป์มันไม่จริงเลย มีอะไรก็หลังไมค์มาถามได้นะจ๊ะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากเรียนศิลป์ภาษามากกกเพราะเกรดรวมมันคงดีกว่านี้เราคงติดที่ดีๆไปละ จากคุณ : nu-meenz - [ 23 ธ.ค. 51 00:27:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 #18 "สุดท้ายพี่ก็เรียนๆจนถึงม.6  เกรดไม่ค่อยสวยเลยได้แค่ 3 นิดๆ  " - -* เอ่อ ขอโทษนะครับ ถ้าผมจะรู้สึกหมั่นไส้ เหอะๆ จะว่าอิจฉาก็อิจฉาอ่ะครับ แต่ออกแนวนี้ยังน้อยอีกหรอครับ?? เหมือนคุยๆเลยแฮะ เหอะๆ พาลและผม ไปดีกว่า แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 51 01:12:59 จากคุณ : ทาสเทคโนโลยี - [ 23 ธ.ค. 51 01:12:17 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แม่บอกว่า ถ้าหนูเรียนวิทย์ ตอนเข้ามหาลัย หนูจะเลือกได้ทุกคณะ ไม่จริงค่ะ เพื่อนเราเลือกสายวิทย์ตอนม.ปลาย แล้วมาต่อคณะบริหาร ไปแทบไม่เป็น เพราะไม่มีพื้นฐานมาอย่างสายศิลป์ ปวช. ลำบากแทบตาย ส่วนที่บอกว่า บางคนเรียนสายศิลป์แล้วมาวิทย์ อันนี้คิดให้ดีนะ มีแค่กี่% ที่เขาทำกัน สายศิลป์น่ะ มีคณะให้เลือกเยอะกว่าสายวิทย์เสียอีก อยากจะทำอะไร อยากจะเป็นอะไร รู้ว่าไม่ไหวอย่าฝืน ไม่งั้นมาตันตอนอยู่มหาลัยเอาเสียเปล่าๆ ย้ายคณะไม่ใช่เรื่องสนุกๆ โอกาสทำงานใช้งานจริงของสายวิทย์น่ะ มีน้อยกว่าสายศิลป์อีกนะ นอกจากอาชีพที่คนต้องการมากๆอย่างแพทย์ คิดให้ดีๆ สายวิทย์ทางเลือกอาชีพไม่หลากหลายเท่าไร ถ้าไม่เก่งจริงๆอยู่สายนี้ยากนะ หรือไม่ก็ต้องทำเฉพาะด้านนั้นไปอีกนานเลย กับแปรตัวเองไปเป็นอาจารย์ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ - [ 23 ธ.ค. 51 02:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 27 # 25 อย่าอิจฉาและหมั่นไส้เลยค่ะ   วิชาที่ไม่ใช่วิทย์มันช่วยค่ะ   มันก็เลยดึงเกรดนิดๆ  จะบอกว่าวิชาที่เป็นวิทย์ได้แค่ 2.8 กว่าๆเองค่ะ ขอโทษนะค่ะที่ทำให้หมั่นไส้ จากคุณ : Beezze in love (Honey_lovely) - [ 23 ธ.ค. 51 13:04:29 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เคยได้ยินคนอื่นเค้าพูดกันว่า "คนที่สามารถเรียนสาย วิทย์-คณิต ทุกคนต้องเป็นคนเก่ง แต่ คนเก่งทุกคนไม่จำเป็นต้องเรียน สาย วิทย์-คณิต" สู้ๆ ค่ะ ถ้าไม่ได้เรียนในด้านที่ตัวเองชอบ ความพยายามในการใฝ่รู้ จะลดลง จากคุณ : เด็กหญิง ผัดหมู - [ 23 ธ.ค. 51 17:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เอ่อ 3 นิดๆ ถ้า .1 .2 ไม่เยอะหรอกเราว่า -*- เราก็ได้แค่.1 เพราะ ในสายวิทย์ เรียกได้ว่า เกือบท้ายห้อง (สำหรับโรงเรียนเรานะ) แต่ถ้า .4 ขึ้นไปสิถึงจะเรียกว่าปานกลาง TwT สำหรับ จขทก นะ ถ้ามั่นใจแล้วว่า เราไปไม่รอด และเราจะเลือกคณะสายศิลป์ไม่เปลี่ยนใจ ก็พยายามยกเกรดมาอ้าง เพราะ เรียนวิทย์แต่ได้เกรดน้อยก็หมดสิทธิ์ เข้าคณะที่ฝันได้เลย แถมยังรู้สึกเบื่อหน่ายในวิชาไม่ชอบอีก ที่แม่ไม่ยอมเพราะคิดว่าสายวิทย์อาจรุ่ง แต่พอทำงานแล้ว อะไรที่เราถนัดและทำได้ดีที่สุด จะเป็นตัวทำให้เราก้าวหน้ายิ่งกว่าจริงๆนะ จากคุณ : เพลงพิณ - [ 23 ธ.ค. 51 18:51:40 A:124.121.115.83 X: TicketID:182120 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เข้ามาเอาใจช่วยให้คุยกับคุณแม่นะคะ เราเองก็เรียนสายศิลป์ค่ะ ตอนม.ต้น เรียนดี แต่ไม่อยากเรียนวิทย์ เป็นคนเดียวในห้องที่ไปเรียนฝรั่งเศส ขนาดครูแนะแนวยังมาคุยให้เปลี่ยนใจ แต่เรารู้ตัวเองค่ะ ว่าไม่ชอบ เรียนไปก็ทรมานตัวเอง แถมยังทำให้เราใช้ความสามารถได้ไม่เต็มที่กับสิ่งที่เราชอบ แต่โชคดีที่แม่ไม่บังคับ เข้าใจและสนับสนุน เราเลยเรียนศิลป์-ฝรั่งเศส ตอน ม.5 ไป exchange ที่ฝรั่งเศส เอนท์เข้าจุฬา และตอนนี้ได้ทุนเรียนโทที่ฝรั่งเศสค่ะ (อยากให้แรงบันดาลใจนะคะ ไม่ได้อวด) สู้ๆค่ะ ชีวิตเรา เราเลือกเองค่ะ จากคุณ : หนูน้อยหมวกชมพู - [ 24 ธ.ค. 51 05:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ทุกๆท่านขอบคุณมากนะครับ จากคุณ : เป็นอะไร(ที่อยากเป็น) - [ 24 ธ.ค. 51 07:20:44 A:125.27.233.148 X: ]

ความคิดเห็นที่ 32 ย้ายเลยครับถ้าอยากเรียน ตอนนี้ผมเีรียนสายศิลป์คำนวณ ม.5เทอมหน้า ขออาจารย์ย้ายไป สายศิลป์-จีนครับ ถ้าเราชอบอะไรจริงๆแล้วเราทุ่มเท ยังไงเราก็ไม่้เสีย เปรียบใครเค้าหรอกครับ สู้ๆนะนาย^_^ จากคุณ : ปลาตะเพียนโออิชิ - [ 24 ธ.ค. 51 19:59:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คิดดีๆนะคะ   เราเองก็เรียนสายวิทย์เพราะแม่ขอร้องค่ะ ทั้งๆที่อยากเรียนศิลป์ญี่ปุ่นมาก และเราสามารถเข้าศิลป์ญี่ปุ่นได้เลยโดยไม่ต้องสอบ เราแอ๊ดมิชชั่นเข้าเรียนทันตะในม.แห่งหนึ่งทางภาคเหนือ  แล้วพบว่าไม่ชอบมากๆๆ เป็นโรคซึมเศร้า  สุดท้ายต้องลาออกมาค่ะ จริงที่สายวิทย์เลือกได้มากกว่า  แต่ก็ไม่ใช่ว่าเลือกได้ทั้งหมดนะคะ  เอกญี่ปุ่นส่วนใหญ่ต้องสอบญี่ปุ่นเข้า (แล้วคะแนนญี่ปุ่นก็ต้องสูงมากด้วย) ตอนนี้เราไม่มีทางได้เรียนญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ   (คงเรียนจีนแทน) จากคุณ : Kamehameha - [ 27 ธ.ค. 51 19:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น้องรู้มั๊ย สิ่งที่พ่อแม่เลือกให้เราคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ พี่ไม่ใช่คนที่อยู่ในฐานะของพ่อแม่ พี่เรียนอยู่ปีหนึ่งที่จุฬา ซึ่งเป็นคณะทางสายวิทย์ที่คะแนนสูงที่สุดใน admission ของทุกคณะในไทย พี่มาถึงจุดนี้ พี่ยอมรับว่าพี่ภูมิใจมาก พี่ก้อเลยมองย้อนกลับไปว่า เหตุไฉน เราถึงก้าวมาไกลได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่พี่เป็นเด็กต่างจังหวัด พี่เป็นเด็กต่างจังหวัดคนเดียวที่เข้ามาในรอบ admission เมื่อ ป หก พี่เคยทะเลาะกับแม่เรื่องเปลี่ยนโรงเรียนเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด แต่แล้วก้อต้องยอมแม่ เมื่อ ม ต้น พี่เคยทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรงที่บังคับให้พี่นอนแค่สามทุ่ม เมื่อม สาม พี่เถียงกับแม่เรื่องเลือกสาย แม่พี่ก้อบอกเหมือนกับแม่น้อง ที่ว่ามันมีโอกาสมากกว่าจิงๆ ที่จะเลือก และพี่ก้อพูดกับแม่ไปแบบที่น้องพูดกับแม่ของน้อง พี่บอกว่าพี่จะเข้าบัญชี แต่แล้วก้อต้องยอมแม่อีก สามกรณีที่ผ่านมา พี่ยังค้างคาใจมาตลอด  พี่ไม่เข้าใจแม่ ทะเลาะกับแม่บ่อยมาก แต่แล้วพอขึ้นมปลาย สายวิทย์ที่พี่ว่าไม่อยากเรียน กลับกลายเป็นว่า ฟิสิกส์ เคมี เลข พี่กลับสอบๆได้คะแนนท๊อปของห้องแทบจะทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ม ต้น พี่ได้วิทย์เกรดสาม แต่อังกฤษ พี่กลับเรียนแย่ ลง ทั้งๆที่ตอนม ต้น พี่ได้ท๊อป ๆ มาตลอด พี่เริ่มงงตัวเอง แต่กระนั้นพี่ก้อยังอยากที่เข้าบัญชี พอคะแนนแอดมิดชันออกมา คะแนนพี่สูงพอที่จะติดทุกคณะในประเทศไทย พี่ก้อเลยถูกบังคับให้เลือกคณะที่คะแนนสูงที่สุด โดยที่ไม่อยากเข้า แต่สงสารที่บ้าน ทุกคนคาดหวังในตัวพี่ พอได้มาเรียนที่คณะนี้ พี่กลับกลายเป็นรู้สึกว่า สิ่งที่พ่อแม่เลือกให้เราเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ตอนนี้พี่ไม่มีความคิดที่จะเข้าบัญชีแม้แต่น้อย ความรู้สึกตอนนี้มันบรรยายไม่ถูกอ่ะ คือมัน แฮปปี้อ่ะ มากๆๆๆๆๆๆๆ สิ่งที่จะบอกคือ น้องอยู่แค่ ม สาม มันบอกอะไรไม่ได้หรอก สิ่งที่น้องต้องการว่าจะเป็นอะไรนั้น มันเปลี่ยนได้เสมอ และมันต้องเปลี่ยนแน่ ซึ่งนั่นแปลว่า ถ้าเราเลือกในทางที่มีโอกาสมากที่สุด ก้อเป็นผลดีกับตัวเรามิใช่หรือ เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาแต่ไม่มีโอกาส น้องก้อจะเป็นคนที่เสียใจ แต่คนที่เสียใจที่สุด คือพ่อแม่ จากคุณ : เด๊นเด่น - [ 28 ธ.ค. 51 01:18:30 ]