ความคิดเห็นที่ 1 ^ ^ จากคุณ : PPalone เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:08:10

ความคิดเห็นที่ 2 อยากให้กิฟท์คุณพี่สาวจังครับ ไม่ใช่ว่ามีเซ็กส์ไม่ได้เลย เซ็กส์ไม่ใช่สิ่งโสมม ... แต่มันต้องถึงเวลาซะก่อน จากคุณ : คมลิขิต เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:09:42

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านแล้วรุ้สึกดีจัง อยากให้กิ๊ฟท์อ่ะ จากคุณ : nutt_kizmo เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:15:16

ความคิดเห็นที่ 4 แต่ผู้ ญ ก็พร้อมจะมีเซ็กส์กับผู้ชาย เอิ๊กๆ จากคุณ : SwedishDeath เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:18:13

ความคิดเห็นที่ 5 ฉึก !! รู้สึกว่าตัวเองเลวมาก - -* จากคุณ : Zieg-Hart เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:19:04

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นด้วยนะคะ แต่ก็เบื่อพวกปากว่าตาขมิบเย๊ย ๆ ๆ ตาขยิบอะ...555+ จิ๋มใครจิ๋มมันรักษากันเอาเองนะคร้า!!!!!!!!!!! จากคุณ : djangel เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:30:06

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีดีค่ะ จากคุณ : ยัยหมวยซ่าส์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:32:16

ความคิดเห็นที่ 8 .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:32:29

ความคิดเห็นที่ 9   พี่ลืมบอกไปนิดนึงค่ะว่า สำหรับคนที่พลาดไปแล้ว ให้เริ่มใหม่ค่ะ อดีตเราทำอะไรกับมันไม่ได้ แต่ปัจจุบันเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ พอปัจจุบันเราเปลี่ยน อะไรๆก็จะเปลี่ยนไป อนาคตก็จะเปลี่ยนไปด้วย สมัยพุทธกาลก็มีองคุลีมาลที่ฆ่าคนตั้งพันคน แต่มาเจอพระพุทธเจ้านะ กลับตัวกลับใจ สุดท้ายก็ได้บรรลุอรหันต์ คนที่พลาดไปก็เริ่มต้นใหม่นะ แต่ละวินาทีในปัจจุบันคือการเริ่มต้นใหม่ และคนเรามีสิทธิเลือกจะให้เกิดสิ่งดีๆกับตัวเราก็ด้วยการกระทำของเรานี้เอง พลาดไปแล้วไม่ได้แปลว่าเลว เพียงแต่ตอนนั้นเราอาจจะไม่รู้ หรือไม่ทันคิดว่าทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้นตามมา จะให้ผลลัพธ์อย่างไร เราก็เลยทำไป หยุดโทษตัวเอง แล้วเดินต่อไปข้างหน้านะคะ จากคุณ : พี่สาว เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:48:59 A:122.133.116.219 X: TicketID:156344

ความคิดเห็นที่ 10 =) จากคุณ : แฟนกันวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 13:51:36

ความคิดเห็นที่ 11 ... จากคุณ : เล็กๆ น้อยๆ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 14:04:46

ความคิดเห็นที่ 12 ชอบตรงอึ๊แข็งครับ....55555555+ จากคุณ : p@ (Dangerously) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 14:23:20

ความคิดเห็นที่ 13 “อยู่ก่อนแต่ง-แต่งก่อนอยู่”....ใครเสี่ยง‘ม่าย’สูงกว่ากัน? โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 กรกฎาคม 2552 08:23 น.       การที่คนสองคนตัดสินใจอยู่กินกันฉันสามีภรรยาก่อนแต่งงานใช่ว่าจะดีเสมอไป เมื่อนักวิจัยเผย ‘อยู่ก่อนแต่ง’เสี่ยงหย่าร้างสูงกว่าคนที่เลือก ‘แต่งก่อนอยู่’             นับว่าค่านิยมของหนุ่มสาวยุคนี้สำหรับการอยู่ก่อนแต่งอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาของหลายๆคู่เพราะมีจำนวนมากมายในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมเมืองนอกหรือบ้านเราเองต่างเลือกที่จะลองใช้ชีวิตคู่ก่อนแต่งงาน             ทั้งนี้ได้มีผลการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของคู่รักจำนวนหนึ่ง และพบว่าคนที่อยู่ก่อนแต่งนั้นมีโอกาสประสบปัญหาหย่าร้างมากกว่าคนที่แต่งงานก่อนแล้วค่อยใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ซึ่งคนที่ยังคิดที่จะแต่งก่อนอยู่ในสมัยนี้มีเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น         จากการสำรวจได้เห็นปัญหาที่กลายเป็นประเด็นสำคัญของคนที่อยู่ก่อนแต่งส่วนใหญ่ว่า 1ใน5 ของคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกันนั้น มักจะเจออุปสรรคมากมายและหย่าร้างกันแล้ว ซึ่งหากเทียบเป็นอัตราส่วนพบว่า จากกลุ่มคนที่อยู่ก่อนแต่งที่ทางทีมงานสำรวจมานั้น มีเพียง 12 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มีชีวิตหลังแต่งงานอย่างที่หวังไว้และยังรักกันเหมือนดิม             ส่วนสาเหตุที่นำไปสู่การหย่าร้างของคู่รักหลายคู่ที่ตัดสินใจอยู่ก่อนแต่ง และมีอันต้องเลิกลากันไปหลังจากที่ตัดสินใจแต่งงานกันนั้น นักวิจัยกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ในช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันฉันสามี-ภรรยานั้น ทั้งคู่อาจตัดสินใจแต่งงานกันเพราะอยู่ด้วยกันเลย สถานการณ์มันพาไปให้ทั้งคู่ต้องเลยตามเลย             “อีกประการหนึ่งเป็นเพราะทนแรงกดดันจากคนในครอบครัวไม่ไหว เพราะพวกเขาต้องการให้ทั้งคู่ทำถูกต้องตามประเพณี หรือไม่ก็ทั้งคู่ต้องการแต่งงานกันเพียงเพราะเชื่อว่าการแต่งงานจะสามารถผูกมัดคนที่เรารักไว้ จะได้ไม่ไปมีคนอื่น ซึ่งความคิดเหล่านี้เป็นความคิดที่ทำให้หลายคนตัดสินใจผิดในเรื่องของการแต่งงาน”             อย่าไรก็ดี จากการศึกษาคู่รักในประเทศอังกฤษพบว่า ชาวอังกฤษจำนวนมากกว่า3 ใน 4 เลือกที่จะอยู่ก่อนแต่ง ซึ่ง มีคู่รักถึง 1 ใน 4 จะรอให้มีลูกก่อนสัก 1 คน แล้วค่อยแต่งงาน             ขณะที่ทางด้านคู่รักชาวอเมริกันพบว่า คู่แต่งงานที่เคยตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งนั้น ต้องกลายเป็นหม้ายจำนวนมาก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก สามี-ภรรยาหลายคู่ไม่มีความอดทนในการครองเรือนมากพอ จึงเลือกการหย่าร้างเป็นทางออก         ดร.กาเลนา เราห์เดส นักจิตวิทยา กล่าวว่า ปัจจัยส่วนหนึ่งที่ทำให้คนที่อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง ตัดสินใจแต่งงานกันเป็นเพราะความสัมพันธ์ที่เลยตามเลย โดยที่ไม่ได้คิดถึงอนาคตในวันข้างหน้า             “จากการศึกษาในครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่า คู่รักส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจอยู่ก่อนแต่งนั้น แม้จะแต่งงานกัน แต่พวกเขากลับไม่ได้คิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจริงๆ พวกเขาแต่งงานกันเพียงเพราะการอยู่ด้วยกัน ทำให้ความรับผิดชอบและสถานการณ์ต่างๆมันพาไปเท่านั้น”             ส่วนทางด้านศาสตราจารย์สก๊อต แสตนลีย์ ผู้ประสานงานศูนย์การศึกษาสถานภาพการสมรสและครอบครัว ของยูนิเวอร์รีเลชั่นชิพซิตี้ เมืองเดนเวอร์ เผยว่า คนที่หมั้นกันแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะพวกเขายังไม่มั่นใจในชีวิตหลังแต่งงานของเขา             อย่าไรก็ตาม ในการศึกษาเกี่ยวกับคู่สมรสที่อยู่ก่อนแต่งนี้ได้ทำการสำรวจคู่รักอายุตั้งแต่ 18-34 ปี ที่เพิ่งแต่งงานกันไปจนถึงคนที่แต่งงานกันร่วม10ปี โดยสอบถามพวกเขาเกี่ยวกับความพึงพอใจในชีวิตคู่หลังแต่งงาน ปัญหาที่พบเจอ รวมไปถึงเรื่องบนเตียงด้วย             “คู่รักส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งใจที่ตัดสินใจจะอยู่ด้วยกันไปตลอด เพราะ 2ใน3 คนกลุ่มนี้ยอมรับว่า การแต่งงานเป็นสิ่งที่ไม่ได้คิดไว้เลย มันเป็นสถานการณ์ที่เลยตามเลยจริงๆ เพราะเราอยู่ด้วยกันอย่างสามี-ภรรยาอยู่แล้ว ขณะที่มีเพียง 1ใน3 เท่านั้นที่ตั้งใจที่จะแต่งงานและสร้างครอบครัวด้วยกันอย่างจริงจัง”ศาสตราจารย์แสตนลีย์กล่าว             ทั้งนี้ หากเอ่ยถึงหลักศาสนาส่วนใหญ่แล้ว เป็นที่ทราบดีว่า ทุกศาสนาไม่สนับสนุนในในการอยู่ก่อนแต่ง ซึ่ง 49 เปอร์เซ็นต์ของคู่รักที่แต่งงานแล้ว และอีก 39 เปอร์เซ็นต์สำหรับคนที่อยู่ด้วยกันแต่ยังไม่ได้แต่งงาน มีความเห็นตรงกันและยอมรับว่า ศาสนาไม่เคยสนับสนุนให้คนเราอยู่ก่อนแต่งเพราะมันเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง             “การอยู่ก่อนแต่งอาจกลายเป็นภาระผูกพันที่ทำให้ใครหลายคนต้องแต่งงานกันแต่ไม่สามารถครองรักกันไปตลอดรอดฝั่งได้ ซึ่งเราอาจสรุปว่า สาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องตกอยู่ในสภาพเลยตามเลยนั้น เป็นเพราะว่าการที่คนเราตัดสินใจอยู่กินกันกับใครสักคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะเลิกคบกันง่ายๆ เพราะสถานภาพ ณ ตอนนั้น พวกเขาไม่ได้เป็นแค่ “แฟน”กันเท่านั้นนั่นเอง” ศาสตราจารย์แสตนลีย์กล่าวทิ้งท้าย             เรียบเรียงจากเดลิเมล์ จากคุณ : phukhao เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 15:45:59

ความคิดเห็นที่ 14 อยู่ก่อนแต่ง โอกาส"หย่า"กันสูง!!! คอลัมน์ สรรหามาเล่า โดย raikorn@hotmail.com ใครที่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอยู่กับใคร ก่อนตัดสินใจแต่งงานก็คิดซะว่าอ่านไว้เป็นข้อมูล ส่วนใครที่ตอนนี้เลือกมีชีวิตคู่แบบนั้นไปแล้ว ก็ไม่ต้อง "ใจเสีย" เพราะยังมีเวลาประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่รอดปลอดภัย สำหรับข้อมูลนี้ เป็นผลการสำรวจในสหรัฐอเมริกา ที่มีคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน โดยยังไม่ได้แต่งงานมากกว่า 70% โดยทีมนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ ที่ศึกษาเรื่องนี้ และลงตีพิมพ์ในวารสารจิตวิทยาครอบครัวฉบับล่าสุด บอกว่า คู่รักที่อยู่กันก่อนแต่ง มีโอกาสที่จะหย่าร้างกันสูงกว่าคู่ที่รอจนได้แต่งงาน แล้วจึงค่อยย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน นอกจากนั้น คู่รักที่อยู่กันก่อนแต่งยังไม่ค่อยรู้สึกกระตือรือร้นอยากจะแต่งงาน "เราคิดว่าเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้คู่ที่อยู่กันก่อนแต่งตัดสินใจแต่งงาน อาจเป็นเพราะคิดว่าไหนๆ พวกเขาก็อยู่ร่วมบ้านเดียวกันอยู่แล้ว" ในรายงานที่มี กาเลนา โรเดส นักวิชาการอาวุโสเป็นผู้ร่วมเขียน ยังมีคำแนะนำสำหรับคู่รักด้วยว่า "น่าจะดีกว่า ที่คนรักควรจะมีการพูดคุยกันให้ชัดเจน ก่อนตัดสินใจย้ายไปอยู่ด้วยกัน เพราะมันมีผลต่อความสัมพันธ์ในอนาคต อีกทั้ง การอยู่ด้วยกัน เวลาต้องเลิกกัน มันทำให้เกิดปัญหายุ่งยากกว่า เมื่อเทียบกับ การคบหาดูใจกัน" สำหรับเหตุผลที่ทำให้คนเลือกทดลองอยู่กันก่อนแต่ง จากผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง ในวารสารจิตวิทยาครอบครัวบอกว่า คำตอบที่มาเป็นอันดับ 1 ก็คือ ต้องการใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากขึ้น รองมาได้แก่ ความสะดวกสบาย ตามมาด้วยต้องการทดลองดูสิว่าจะอยู่ด้วยกันรอดมั้ย? คำตอบ ซึ่งค่อนข้างผิดไปจากผลการศึกษาหลายชิ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งมักจะบอกว่า เหตุผลที่ทำให้คนเลือกอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง ก็เพราะต้องการทดลองดูว่าจะอยู่ด้วยกันได้มั้ย? "แต่การทดลองอยู่ด้วยกัน เพื่อทดสอบความสัมพันธ์กลับกลายเป็นสาเหตุที่สร้างปัญหาในความสัมพันธ์มากที่สุด" โรเดสกล่าวไว้ตอนหนึ่งในรายงาน ทั้งนี้ ในเรื่องความละเอียดอ่อนของการใช้ชีวิตคู่ ยังมีผลการศึกษาจากทีมนักวิชาการมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย บอกด้วยว่า ลำพัง "ความรัก" เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเหนี่ยวรั้งให้สามีภรรยาอยู่ด้วยกันได้ แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง เช่น อายุของทั้งคู่ ความสัมพันธ์พื้นฐานก่อนจะกลายมาเป็นคนรักกัน แม้แต่เรื่อง "สูบบุหรี่" ว่าทั้งคู่สูบ หรือไม่สูบ ก็ยังมีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตคู่ว่า จะอยู่กันรอดหรือไม่ด้วย? หมดเท่านี้แหละค่ะ สำหรับข้อมูลต่างๆ ในรายงาน แต่คู่ไหนที่ไม่อยากเจอ "งานเข้า" เราว่า เวลาอยู่ด้วยกันก็พยายามทำ "ความเข้าใจ" กันไว้มากๆ นั่นแหละดีที่ซู้ด!!! จากคุณ : phukhao เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 15:46:53

ความคิดเห็นที่ 15 ยาวมั่กมากครับ ตาลายเลยครับ จากคุณ : --NaNo ScAlE-- เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 16:01:48

ความคิดเห็นที่ 16 ยอดเยี่ยม สำหรับความคิดของเจ้าของกระทู้ครับ ผมเป็นผู้ชาย ยอมรับว่า สมัย 17-18 เคยใช้วิธีเกลี้ยกล่อม โดยคำพูด ผู้หญิงที่คบกัน ให้มีอะไรๆ ด้วยกัน ทั้งที่ค่อนข้าง แน่ใจว่า ผมไม่คิดกับผู้หญิงคนนี้ นานๆ แน่ แล้วพอโตขึ้นมาหน่อย ตอนอายุ 20 ก็ใช้ทั้ง คำพูด และ มือ โน้มน้าว ให้ ผู้หญิง ที่คบด้วย (อีกคน) ให้มี อะไรด้วยกัน แต่คนนี้ ผมรู้สึกว่า จะอยู่กับเขาไปนานๆ คือคิดจริงจังมาก แต่สุดท้าย 2-3 ปีให้หลัง ก็เลิกลากันไปอยู่ดี และตอนนี้ผมก็กำลัง คบๆ ดูๆ กับผู้หญิงคนนึง ซึ่ง เธอ เคี่ยว มากๆ เรื่องนี้ คบกันมา 4-5 เดือนแล้ว เธอยังไม่ยอม ให้ผม ขึ้นไปส่ง ที่ห้องเลย ไม่ได้อวย กันนะครับ แต่ผม รู้สึกยกย่องเธอ ไม่น้อยทีเดียว จากคุณ : ธารพระพร เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 16:20:05

ความคิดเห็นที่ 17 อาจเป็นเพราะเราไปให้ความสำคัญในสิ่งที่ความจริงไม่ได้เป็นอะไรมากไป กว่าอะไรในร่างกาย จากคุณ : Slurbody เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:07:10

ความคิดเห็นที่ 18 กระทู้ดีๆๆๆ ก็โหวตกันไปปปปป จากคุณ : กระเทยชายแดน เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:14:01

ความคิดเห็นที่ 19 กระทู้ดี ที่โดนใจ ทั้งชาย (เจ้าชู้) และ หญิง (ที่คิดว่า แฟนตัวเองจะรักและซื่อสัตย์) เฮ้อ . . . ฟังไว้ให้ดีนะสาวๆทั้งหลาย!!! จากคุณ : หน้าบ่าแดง แฮงบ่ามี เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:34:14

ความคิดเห็นที่ 20 โหวตคะ !! จากคุณ : Sabiene' เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:41:07

ความคิดเห็นที่ 21 ขำตรงอึ๊แข็ง จากคุณ : -=.Gay-E-Cha.=- เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:43:11

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ^ โหวต ค่ะ จากคุณ : prichgirl เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 17:49:49

ความคิดเห็นที่ 23   กระทู้ดีจ้า จากคุณ : kaihvar เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 18:10:07

ความคิดเห็นที่ 24 กระทู้ดี มีประโยชน์ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่มาให้ข้อคิด เหะๆๆ แต่ หนมปังก็ไม่ได้คิดจะ อะจึกกึบปรึ้ย กะใครก่อนแต่งนะคะ เพราะที่บ้านฝังหัวมาเลย ว่าห้ามชิงสุกก่อนห่ามเด็ดขาด เลยรักนวลสงวนตัว เข้าขั้นหัวโบราณเลยค่ะ อิอิ จากคุณ : หนมปังช็อกโก้ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 18:11:49

ความคิดเห็นที่ 25 เอาไป 5 กระโหลก ! ถึงแม้ว่าผมกับแฟนจะ ... กันแล้วก็ตาม แต่ผมรักจริงนะคร้าบ ไม่ทิ้งเขาแน่นอน จากคุณ : Dragoonarm เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 18:13:58

ความคิดเห็นที่ 26 โดนใจ อย่างแร๊งงงงงงงง โหวต + ให้ จากคุณ : กาแฟบนดอย เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:01:16

ความคิดเห็นที่ 27 vote จากคุณ : ####PondCLub#### เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:19:59

ความคิดเห็นที่ 28 เพราะผนวกเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ใช้คำได้ตลกดี ๕๕ โหวตปายยย จากคุณ : หนูได้อมยิ้มแล้วค่ะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:26:55

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านหนังสือพิมพ์วันนี้ผ่านๆตา เขาพูดถึงการมีเซ็กส์ของเด็กวัยรุ่น ที่จะสอนยังไงให้เข้าใจว่า การมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ทำยังไงจะให้วัยรุ่นเข้าใจว่า การมีเซ็กส์อย่างมีความสุขคือเมื่อเขาพร้อมจริงๆ และการรู้จักที่จะป้องกันตนเองจากปัญหาท้องก่อนวัยอันควรและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พี่สาวน่ารักจัง จากคุณ : DekChaiDam เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:29:41

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องดีดี ^^ พ่อกับแม่สอนอย่างเข้มงวดเลยเรื่องนี้ ว่าห้ามเด็ดขาด ถึงพ่อแม่ไม่สอนแต่ก็สัญญากะตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่ชิงสุกก่อนห่ามแน่นอน ส่วนเพื่อนของน้องหลายคน รวมทั้งรุ่นน้องที่เด็กมากๆ มีอะไรกับแฟนแล้ว สุดท้ายแฟนทิ้งแล้วยังเอามาป่าวประกาศอีก เสียอยู่คนเดียว ผู้ชายก็เลวมากๆ  ผู้หญิงก็เสียทั้งตัวเสียทั้งใจ ส่วนเพื่อนคนนึงก็แท้งไปสามท้องแล้ว ก็ได้แต่เตือนไม่รู้จะทำยังไงดี สมัยนี้ในรุ่นของน้องนะคะพี่ มันเร็วมากๆ ยิ่งเพื่อนของน้องเนี่ย น้องก็ได้แต่เตือน เค้าพลาดมาแล้วน้องก็ไม่อยากซ้ำเติม ได้แต่เตือนและให้กำลังใจ ตอนนี้เพื่อนคนนั้นเค้าก็ไม่สนใจอะไรแล้วค่ะ เค้าคบกับใครก็ยอมหมด แท้งมาแล้วสามท้อง น้องก็หมดปัญญาที่จะเตือน วัยรุ่นรุ่นน้องเนี่ย น่ากลัวกว่าที่คิดเยอะมากๆค่ะ ปล.สำหรับน้องนะคะ โทษฝ่าย ญ อย่างเดียวก็คงไม่ได้ ผู้ ญ บางคนก็รักผู้ชายมาก รักจนยอมเพราะโดนทั้งผู้ชายเกลี่ยกล่อม โน้มน้าวจริงๆอยากฝากผู้ชายที่ชอบหลอกผู้หญิงไว้มากกว่าค่ะ จะไปขอลูกสาวเค้ามีอะไร ให้คิดก่อนว่าตัวเองพร้อมรับผิดชอบรึยังถ้าพลาดขึ้นมา อย่าเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว พออยากแล้วขอ เมื่อไหร่พอใจก็ทิ้ง บางทีผู้ ญ เค้ารักคุณมากโดยที่คุณไม่คิดเลยก็ได้ คิดเยอะๆหน่อยค่ะ จากคุณ : หนูน้อยทิงนองนอย เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:29:47

ความคิดเห็นที่ 31 ผู้ชายบางคน คบเพื่อ "เอา" เงินมา ขาอ้า -*- จากคุณ : ...ชิปปี้เดล...เดลลี้ชิป เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:42:26

ความคิดเห็นที่ 32 ^_^ ... จากคุณ : i_teep เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:50:01

ความคิดเห็นที่ 33 ให้ข้อคิดดีค่ะ จากคุณ : Valily เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:55:08

ความคิดเห็นที่ 34 ฮาตรง ช่องระหว่าง ฉี่ กับ อึ คิดได้ไง -_-" เรื่องนิสัยผู้ชายก็มีส่วนตรงเกือบหมดนะครับ แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย อย่างครังแรกถ้าฝ่ายชายจีบก่อน ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงเข้าหาผู้หญิงเกือบหมดจนทำให้ขาดความเป็นตัวของตัวเองไป ซึ่งผ่านไปซักพักก็จะกลับมาเป็นตัวเอง แต่ถ้าหญิงมาจีบก่อน ผู้ชายก็ไม่ปรับอะไรถ้าัรับได้ก็อยู่กันได้แต่โอกาสเจอแบบนี้น้อยมากกก จากคุณ : อาจจะแก่ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:56:55

ความคิดเห็นที่ 35 ^^ จากคุณ : แฟนหุ่นยนต์อยู่โฆษณา (Honey_lovely) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 19:58:48

ความคิดเห็นที่ 36   ดีๆ จากคุณ : ซากุระสีเลือด เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 20:01:33

ความคิดเห็นที่ 37 ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ เราเองโดนทำลายความรักก็เพราะคำว่าเซ็กซ์นี่แหละ ไม่ใช่กับตัวเองนะคะ แต่เป็นกับอดีคคนเคยรักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เมาด้้วยกันแล้วแอบไปมีอะไรกัน จนฝ่ายชายต้องรับผิดชอบ ซึ่งก็ไม่ผิดที่ฝ่ายชายรับผิดชอบ แล้วความรักและความห่วงใยระหว่างฉันกับเขาก็ศูนย์เปล่า เนื่องจากระยะทางของมหาลัยนี่แหละ จนเราก็ได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แม้จำยอมก็เหอะ สุดท้ายก็ขอภาวนาให้เขา 2 คนเลิกกันคะ ไม่ใช่เลิกกันแล้วมาหาฉันนะคะ แบบนั้นไม่เอาเด็ดขาด ฉันว่าความรักที่มีความผูกพันธ์ทางใจยังดีกว่าการมีเซ็กซ์ที่มีความผูกพันธ์ทางกายมากกว่า จบ ...................................... จากคุณ : jajamoon เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 20:12:44

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณนะคะ ^^ จากคุณ : A little dark girl เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 21:28:32

ความคิดเห็นที่ 39 เป็นบทความที่ดีมากๆเลยค่ะ จากคุณ : มิโนรุ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 21:44:15

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามาให้กิ๊ฟท์ค่ะ จุ๊บๆๆๆๆ จากคุณ : tsubai เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 21:54:32

ความคิดเห็นที่ 41 เป็นบทความที่ดีมากๆนะคะ เราชอบจังอยากให้เด็กวัยรุ่นมาอ่านกันเยอะๆ แต่...เท่าที่เรารู้ สังคมเดี๋ยวนี้ไม่ได้มีสองเพศนะคะ เด็กบางคนไม่ได้มีอะไรกับผู้ชาย แต่ก็มีอะไรกับเพศเดียวกัน ....ฉะนั้นเราจะบอกว่าเรื่องของเซ็กซ์ก่อนวัยอันควรนั้น ไม่ว่าจะมีกับเพศอะไรก็คิดว่ามันยังไม่เหมาะสมหรอกนะคะ อดทนไว้ค่ะ วัยเรียนก็ศึกษาเล่าเรียนไปเถอะนะ เอาไว้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ค่อยมาคิดเรื่องหาความสุขทางนี้ทีหลัง แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 52 22:02:55 จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 22:02:42

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นบทความที่ดีมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณนะค่ะที่บอกกล่าว อยากให้กิ๊ฟนะ แต่ให้ไม่ได้อ่ะคะ งั้นร่วมโหวตด้วยคนจ้า จากคุณ : ~Orange be Ora~ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 22:32:59

ความคิดเห็นที่ 43 ^^ จากคุณ : baaball11 เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 22:57:23

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นด้วยค่ะ ^^3 อะไรที่ได้มาง่ายๆ ชอบหรอ?? จากคุณ : ทอฟฟี่รสส้ม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 23:03:30

ความคิดเห็นที่ 45 เซ็ก = ยาเสพติด ??? จากคุณ : ~Lonely_Fox~ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 23:06:42

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยกับ จขกท นะที่บอกว่าแม้แต่การ์ตูน ก็มอมเมาให้เด็กคิดว่าการมีเซ็กส์ตั้งแต่ ม.ต้นเป็นเรื่องธรรมดา แล้วก็พวกนิยายโรมานซ์ทั้งหลาย ที่บรรยายบทอีโรติค ระหว่างพระเอก+นางเอก ซะวาบหวาม ก็ชวนให้เคลิบเคลิ้มว่า นางเอกที่มีอะไรกับพระเอกไปถึงสวรรคชั้น 7 ตั้งแต่มีเซ็กส์กับพระเอกครั้งแรก แต่ในความเป็นจริงส่วนใหญ่  พระเอกจะปลีกตัวไปสวรรคชั้น 7 คนเดียวซะมากกว่า เจอมาหลายคู่ ที่อยุ่ด้วยกันก่อนแต่ง ในที่สุดก็ไม่ได้แต่งงานกัน บางคู่ที่อยู่กันยืด แต่ไม่จัดงานแต่ง..เพราะฝ่ายชาย บอกว่าไม่จำเป็น ก็อยู่กันมาแล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องแต่งเลย  ก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้วแต่งทำไมให้เปลือง แต่บางคู่ก็ไม่ได้แต่ง..เพราะเลิกร้างกันไปซะก่อน เคยมีตัวอย่างที่ผู้ ญ และ ผู้ ช เป็นแฟนกันแล้วทำงานที่เดียวกัน พอเลิกกันผู้ ช  เอามาพูดประจานผู้ ญ ในที่ทำงานให้คนอื่นรู้ ว่ามีอะไรกันแล้ว ถึงคนที่ได้ยินจะเห็นใจก็เถอะนะ คนที่เสียหายก็คือฝ่าย ญ ที่จะเป็นขี้ปากคนในออฟฟิศ จากคุณ : สีน้ำสายรุ้ง เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 23:08:57

ความคิดเห็นที่ 47   ขอยืนยันความรู้สึก เจ็บมากๆ เหมือนจะฉีก โค๊ะๆเลย แล้วก็ปวดอึกับปวดฉี่จริงๆ ไม่สนุกหรอก เฮ่อ พลาดไป จากคุณ : แต่ยังเป็นคนดีอยู่ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 52 23:42:25 A:192.168.181.254 X:222.123.230.23 TicketID:225008

ความคิดเห็นที่ 48 โหว.... เป็นกระทู้ที่ดีมากจริงๆนะเนี่ย ชอบจัง อ่านแล้วโดนทุกคำ >_< ขอบคุณมากเลยค่า จากคุณ : dreammyoye (dreammyoye) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 00:21:32

ความคิดเห็นที่ 49 ไอคนที่เข้ามาทำพูดดี เห็นด้วยเห็นงาม แต่ความเป็นจริงเนี่ย คนละเรื่องอ่ะ 555 แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 52 00:41:49 จากคุณ : ร.25 พัน1 (Nocommentsecret) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 00:41:30

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอ่านค่ะ จากคุณ : NooHoD เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 00:42:44

ความคิดเห็นที่ 51 อึ เล็กกว่านะ จากคุณ : spry_dragon เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 01:44:05

ความคิดเห็นที่ 52 ^ ^ จากคุณ : หนุ่มน้อยขี้เซา เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 02:28:20

ความคิดเห็นที่ 53 โหวตไปแล้วค่ะ รักพี่สาวจัง อิอิ เด๋วลองไปหาหนังสือที่แนะนำมาอ่านดูดีกว่า คนเราพลาดผิดอะไรไปแล้ว ก็ควรจำ เพื่อไม่ให้พลาดผิดอีกเนอะ ในทุกๆเรื่องเลย จากคุณ : chol_den เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 07:47:00

ความคิดเห็นที่ 54 เด็กมอต้นพวกนั้นจะได้อ่านไหมนะ จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 08:38:32

ความคิดเห็นที่ 55 แน่นอน การที่คนเราจะรักกัน มันต้องเข้าใจกััน แต่เรื่อง sex เป็นแค่สัญชาติญาณในการต้องการสืบเผ่าพันธ์ จากคุณ : น้าวัชร-จัดให้ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 09:54:56

ความคิดเห็นที่ 56 แม่สอนไว้ . . . ไปกับเค้า ง่าย ง่าย เค้าก็ทิ้งเราได้ ง่าย ง่าย จากคุณ : เขียวระเบิดทราย เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 10:16:07

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไม่รู้นะครับ แต่ผมคิดว่าการทำตามแนวทางที่ดีในด้านนี้ 100% ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น จริงเหรอ . . . ผมว่ามันก็ไม่แน่นา . . . คุณอาจคิดว่าถ้าคุณสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีตได้แล้วชีวิตจะดีขึ้น ผมว่ามันไม่เป็นความจริงเสมอไปหรอก เพราะความผิดพลาดทำให้คุณรู้ ความผิดพลาดทำให้คุณจำ (คุณจำเรื่องที่คุณทำผิดได้แม่นกว่าเรื่องที่ครูสอนเสียอีกจริงไหม) และถ้าไม่มีความผิดพลาดคุณอาจไม่แข็งแกร่งเหมือนตัวคุณในตอนนี้ก็ได้ แล้วคุณจะเลือกสิ่งไหนละครับ จากคุณ : Jc (Jc2000) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 10:32:16

ความคิดเห็นที่ 58 เซ็กส์ไม่ได้ทำให้ผู้ชายรักผู้หญิงมากขึ้น จริงหรอ ผมว่ามันอยู่ที่คนนา จากคุณ : infernaldevilking เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 10:51:30

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านแล้วดีจัง ตอนแรกก็แอบคิดว่าเราคงเป็นพวกหัวโบราณหรือเปล่า ในที่สุดก็มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์แล้ว การรักนวลสงวนตัวของหญิง เป็นอะไรที่คลาสสิคอยู่ทุกยุคทุกสมัย ไม่ใช่อะไรที่ตกรุ่น หรือหัวโบราณ >_< จากคุณ : J-shock เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 10:53:04

ความคิดเห็นที่ 60 เพราะผู้หญิง มีเซ็กส์เพราะความรักครับ แต่ผู้ชาย(บางคน) มีเซ็กส์ได้ ทั้งๆที่ไม่ได้รักครับ จากคุณ : ทาสเทคโนโลยี เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 11:19:58

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาเห็นด้วย กับ จขกท ครับ จากคุณ : ฮักอ้ายเตอะ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 11:48:34

ความคิดเห็นที่ 62 ยกนิ้วให้ครับกับบทความนี้ (โหวตให้แล้วครับ) จากคุณ : ATTT เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 12:02:54

ความคิดเห็นที่ 63 1.  อันที่จริงผู้ชายก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคน ^^" 2.  ครั้งแรก ก็ทำให้รู้สึกดีได้ครับ...   3.  โดยรวมเป็นกระทู้เตือนสติที่ดี  เพราะบางทีเพื่อความปลอยภัยของตัวเองและหัวใจดวงน้อยๆ  มองโลกในแง่มุมที่ร้ายไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน จากคุณ : ลูกหมูแก้มอ้วน เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 12:12:04

ความคิดเห็นที่ 64 อย่าถามเหตุผลถึงการรักใครสักคน ความรักไม่ต้องการเหตุผล ไม่ต้องการคำอธิบาย สิ่งที่เรียกว่า “ความดี” ในตัวของใครบางคน ไม่สามารถทำให้เรารักได้ กับคนเลว บางทีรักหมดใจ ทั้งๆ ที่เขาทำให้เราร้องไห้ทุกวัน คนรัก เป็นใครคนหนึ่งที่เข้าใจเราได้มากกว่าใคร แม้บางเรื่องจะไม่เข้าใจ ไม่เป็นไร แค่ได้รักก็เพียงพอแล้ว งานเขียนข้างบนนั้น อยู่ในหนังสือที่มีชื่อว่า "ความรักทำให้ผมร้องไห้" เป็นงานเขียนที่ใช้เปิดตัวนามปากกา "แสง สีรุ้ง" จากคุณ : พิตเลตเชลล์ (pet_2520) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 13:25:25

ความคิดเห็นที่ 65 อ่านแล้ว  ....สุดยอด จากคุณ : เด็กใหม่อ่อนฝึก (under_class) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 16:04:46

ความคิดเห็นที่ 66   sex คือ ความพอใจของคนสองคน ไม่ใช่ความรักแต่อย่างใด จากคุณ : Ikki เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 17:04:04 A:125.25.31.219 X: TicketID:216233

ความคิดเห็นที่ 67 บางครั้งหลายสิ่งหลายอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวังซักเท่าไหร่หรอกครับ ยิ่งเรื่องอารมณ์ความรู้สึกมันมักจะสวนทางกับคำว่าสติและเหตุผล จากคุณ : หารองเท้าไม่เจอ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 17:54:30

ความคิดเห็นที่ 68 เขียนได้ดีมากครับ ^^" ชอบๆ จากคุณ : ปลาตะเพียนโออิชิ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 17:58:27

ความคิดเห็นที่ 69   ขอบคุณ คุณphukhaoมากค่ะสำหรับข่าวที่กรุณายกมาให้อ่าน เพิ่งทราบเหมือนกันว่าสถิติคนอยู่ก่อนแต่งจะเลิกกันมากกว่าแต่งก่อนอยู่ แต่คิดดูแล้วก็น่าไม่แปลกใจ เพราะคนที่เลือกแต่งงานแล้วอยู่ด้วยกันต้องมีความพร้อมที่จะผูกมัดและรับผิดชอบ รวมทั้งพร้อมในเรื่องการงาน ฐานะ จิตใจ และวางแผนอนาคตไว้ดีระดับนึงแล้ว ซึ่งคนที่อยู่ก่อนแต่ง หรืออยู่โดยไม่แต่งคงขาดส่วนนี้ไป และก็ไม่ได้คิดผูกมัดจริงจัง (ส่วนใหญ่ที่อยู่ก่อนแต่งมักให้เหตุผลว่าถ้าไม่ดีก็เลิก ก็เลยเลิกกันซะเยอะ) สำหรับเพื่อนของหนูน้อยทิงทองนอย – พี่ว่าเพื่อนของน้องคงมีปัญหาทางจิตใจที่เป็นต้นเหตุ คงเพราะความรู้สึกขาดอะไรในชีวิต เลยเกิดอาการ “ใครก็ได้”ที่จะทำให้เขารู้สึกมีค่าขึ้นมา ซึ่งพี่ว่าให้เพื่อนน้องเขาได้คุยกับจิตแพทย์น่าจะดีที่สุด หรือถ้าเขาไม่ยอมไป น้องลองชวนเขาไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า เด็กพิการ หรือคนชรา ฯลฯ อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาได้เห็นว่าการกระทำของเขามีความหมายสำหรับใครบางคน ฝึกอย่างนี้บ่อยๆเขาจะดีขึ้น และเห็นค่าของตัวเอง นอกจากนั้นก็ชวนเขาไปทำกิจกรรมอะไรที่สร้างสรรค์ ชวนกันไปออกกำลังกายก็ได้ นอกจากสมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟีนทำให้รู้สึกแฮ้ปปี้แล้ว ยังได้หุ่นเฟิร์มไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนด้วยนะ ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ชายไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคน พี่ก็เห็นด้วยค่ะ (ไม่งั้นพี่ก็คงไม่คิดจะแต่งงานหรอกจ้า^^) เพื่อนพี่คู่หนึ่งก็รักกันเป็นแฟนกันมานานหลายปี มีอะไรกันด้วยโดยที่ฝ่ายหญิงบอกว่ามีอะไรด้วยเพราะรักคนนี้มาก และก็หวังจะแต่งงานกันด้วย แต่ในช่วงหลายปีที่ทั้งสองคบกันมายาวนานนั้ เพื่อนอื่นๆแต่งงานไปเยอะแล้ว สองคนนี้ยังไม่แต่งซะทีทั้งๆที่มีข่าวมานานแล้วว่าคู่นี้จะแต่งงานกัน ล่าสุดถามไป เขาก็ว่ายังไม่มีแพลนจะแต่งเลย ทีนี้ถ้าเกิดทั้งสองเริ่มรู้สึกว่าอยู่กันมานานไปจนเหมือนเป็นเพื่อนกันไปแล้ว หรือว่าชักเบื่อแล้ว สักวันก็อาจจะเลิกกันไปก่อนแต่งอีก ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนั้น ฝ่ายหญิงก็อาจจะคิดเสียใจว่าไม่น่ามีอะไรด้วยเล้ย ไม่งั้นตานี่อาจจะคิดแต่งงานกับเราจริงๆจังๆมากกว่านี้ก็ได้ ไม่ต้องมานั่งรอเขาอย่างนี้ ฯลฯ ซึ่งถ้าเพื่อนพี่ไม่เคยมีอะไรกับเขา ก็คงรู้สึกว่าไม่ผูกมัดตัวเองขนาดนี้ อาจจะเลิกไปโดยไม่คิดมากนักตั้งแต่รู้สึกว่าคนนี้ไม่ใช่ ฯลฯ พี่ว่าการที่ทั้งคู่ไม่เคยมีอะไรกันก่อนแต่งมันมีดีอีกอย่างก็ตรงที่ว่า อย่างน้อยที่สุดในวันแต่งงานทั้งคู่ก็ยังมีอะไรให้รอคอย ดีกว่ารู้สึกว่างานแต่งงานก็แค่ป่าวประกาศให้ชาวบ้านรับรู้ ส่วนอย่างอื่นก็เหมือนเดิมแหละ (เผลอๆฝ่ายชายอาจจะไม่อยากแต่งด้วยซ้ำด้วยเหตุผลที่ว่า “อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ทำไมต้องแต่ง” แล้วคราวนี้ฝ่ายหญิงก็ชีช้ำกะหล่ำปลีไปฝ่ายเดียวเต็มๆเลย) ทั้งนี้ ที่เขียนบทความนี้มาก็เพื่อจะสื่อว่า “อย่าเอาเซ็กส์ไปแลกกับความรักเลย” ไม่ได้มีเจตนาจะใส่ร้ายผู้ชาย หรือแนะให้มองโลกในแง่ร้ายหรอกนะจ๊ะ สำหรับฝ่ายชายที่มักชวนสาวขึ้นเตียง อยากให้คิดสักนิดว่า เวลาที่คุณได้เป็นคุณพ่อ และมีลูกสาวสุดที่รักดั่งดวงใจ เกิดวันดีคืนดีลูกสาวที่คุณถนอมมาแต่อ้อนแต่ออกเกิดไปมีอะไรกับผู้ชาย หรือไปอยู่กินกับผู้ชายเข้า คุณคงไม่รู้สึกดีใช่ไหม หัวอกคนเป็นพ่อของลูกสาวทั้งหลายก็คงไม่ต่างกัน... หรือถ้าคุณมีพี่สาวหรือน้องสาว คุณคงไม่ชอบ “ไอ้งั่งนั่น” ที่มัน “บังอาจ” มามีอะไรกับพี่สาวหรือน้องสาวคุณเหมือนกัน เพราะงั้นศีลข้อที่สาม รักษากันไว้ให้ดีนะจ๊ะ จะได้สุขีกันถ้วนหน้า ^^ จากคุณ : พี่สาว เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 18:56:11 A:122.133.116.219 X: TicketID:156344

ความคิดเห็นที่ 70   แถมเล็กน้อย สมัยพี่สาวๆ พี่ก็คิดนะว่าผู้ใหญ่หัวโบราณ ทำไมต้องห้ามด้วย สมัยนี้มันเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ ทำไมต่างประเทศทำได้ เขาไม่เห็นแคร์เลย ไม่เห็นจะผิดตรงไหน (แต่ก็ไม่กล้าทำ) พอพี่โตขึ้นเรื่อยๆ พี่ก็เริ่มเห็น เริ่มเข้าใจว่าคำพูดของคนที่เราหาว่าเขาหัวโบราณนั้นจริงๆมันมีเหตุผลมากๆเลย ไม่ใช่สักแต่ว่าจะห้ามเพราะสังคมกำหนดไว้อย่างนั้น (แต่จริงๆก็เพราะสังคมกำหนดด้วยแหละ พอไปทำสิ่งที่สังคมห้าม เราก็โดนประนาม แล้วเราจะรับได้ไหม จะห้ามปากคนไม่ให้พูดก็ไม่ได้ด้วยจริงมั้ย) เพราะงั้นเวลาผู้ใหญ่พูด ฟังบ้างก็ดีนะ จากคุณ : พี่สาว เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 19:22:37 A:122.133.116.219 X: TicketID:156344

ความคิดเห็นที่ 71 เป็นบทความที่ดีที่สุดเลยค่ะ ^^^ จากคุณ : koi_uma เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 19:25:34

ความคิดเห็นที่ 72 เราก็เป็นคนหัวโบราณเหมือนกัน 555 มันก็อยู่ที่การเลี้ยงดูของแต่ละคนด้วยล่ะนะ จากคุณ : Bluedonut เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 21:49:55

ความคิดเห็นที่ 73   เสียดายโหวตไม่ได้ แต่มีหนึ่งเรื่องมาแถม เป็นตัวอย่างว่ารักนวลสงวนตัวแล้วผู้ชายเขามองอย่างไร เราได้รู้จัก(แอบมีอะไรกับผู้ชายคนหนึ่ง)พี่เอ พี่เอมีแฟนคบกันมานานแล้วหลายปี แต่ไม่เคยมีอะไรกัน เพราะฝ่าย ญ ไม่ยอม (นั้นก็คือสาเหตุที่ฝ่าย ชาย มามีอะไรกับเรา เพื่อแก้ความกำหนัดไปครั้งต่อครั้ง) จนวันหนึ่งที่ฝ่าย ญ รู้สึกว่ามั่นใจในฝ่ายชายแล้ว ว่าฝ่ายชายรักจริงหวังแต่ง และอีกไม่นานจะแต่งงานกันแล้ว ฝ่าย ญ จึงยอมมีอะไรด้้วย และหลังจากนั้นฝ่ายชาย พี่เอ ก็ไม่มีอะไรกับเราอีกเลย และบอกว่าทำไมลงเพราะรัก ญ คนนี้มาก และรู้สึกว่าพอมีอะไรกับเขาแล้ว ไม่กล้าที่จะมีอะไรกับใครอีก นี้คงเป็นตัวอย่างถึงแม้จะเกือบดี ได้ว่า ญ ทำอะไรคิดให้ดี ทำีดีก็มีค่าได้ ปล.อย่ามาว่าเราเลวน๊า เรารู้ตัว รู้ใจ แต่ห้ามมันไม่ได้ประณามเราเบาๆ ก็พอ จากคุณ : คนอยากหน้าตาดี เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 21:59:01

ความคิดเห็นที่ 74 เจ๋งจังครับ โหวตให้ๆ จากคุณ : โทราจิโร่ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:38:51

ความคิดเห็นที่ 75 เพื่อสังคมที่ดีขึ้นครับ โหวตให้คับ จากคุณ : sutthi43 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 52 22:50:43

ความคิดเห็นที่ 76 กระทู้ดีๆอย่างนี้ต้องโหวตค่ะ ^_____^ จากคุณ : บัวอินทีวร เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 00:22:20

ความคิดเห็นที่ 77 มีทั้งที่เห็นด้วย และก็ไม่เห็นด้วยครับ แต่ก็โหวตให้ครับ หวังว่าคนที่อ่าน จะรับรู้ได้ในความหวังดีของ จขกท. ครับ จากคุณ : ตาบี้ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 01:38:18

ความคิดเห็นที่ 78 ไม่เห็นด้วยที่ว่า ไม่ได้ทำให้ผู้ชายรักผู้หญิงมากขึ้น -- ก็ไม่เสมอไปนะครัีบ อาจจะรักมากขึ้นในขณะที่กำลังมีอะไรกัน หรืออาจจะหมดรัก หรืออาจจะเป็นรูปแบบอื่นได้มากมาย แล้วแต่บุคลล เรื่องนี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลครับ แต่เห็นด้วยอย่างที่ว่า เซ็กส์ไม่สามารถฉุดรั้งผู้ชายเอาไว้ได้ เห็นด้วยกับการเปรียบเทียบกับเมนูอาหาร เห็นด้วยมากๆ ส่วนเรื่องการตีคุณค่าของพรหมจรรย์ ของอย่างนี้ มันอยู่ที่ว่า เราเอาไม้บรรทัดอันไหนไปวัดครับ ผู้ชาย ที่รักผู้หญิงจริงๆ และหวังมีเซ็กส์ไปในตัว และเป็นแบบรักจริงหวังแต่ง ก็คงมีนะครับ จะเอาไม้บรรทัดไปวัดแล้วบอกว่าเค้าหวังจะฟันอย่างเดียว คงไม่ได้ ผู้หญิง พร้อมจะมีเซ็กส์ โดยไม่ได้หวังว่าจะผูกมัด แต่ทำเพื่อความรักล้วนๆ ก็คงมีครัีบ หากคนที่พร้อมเหมือนๆกัน มีความต้องการเหมือนๆกัน มาเจอกัน ก็ึคงไม่เป็นปัญหา แต่ก็คงไม่ง่ายนักที่จะเจอแบบนั้น ในสังคมอันยุ่งเหยิงนี้ ต้องยอมรับเลยว่า ผู้หญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะมีไม้บรรทัดเอียงๆทาบเอาไว้อยู่ หากลองหาไม้บรรทัดอีกหลายๆแบบ อาจจะพบอีกหลากหลายแง่มุมในเรื่องนี้ครับ จากคุณ : ตาบี้ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 01:45:19

ความคิดเห็นที่ 79 คุณผู้ชายและคุณผู้หญิงทั้งหลายต้องดูเรื่องนี้ประกอบกับกระทู้ครับ แล้วจะได้อารมณ์ Credits: ภาพจากอากู๋ ปล.ว่าแต่ถ้าผู้หญิงอยากหยอกเล่นกับเรา หรือยอมอะไรนิดๆหน่อยๆให้เราบ้าง(ไม่ถึงขั้นนั้น) ควรจะสนองดีมั้ยครับ กลัวไม่สนองแล้วโดนว่าหรืองอนไปเลยอ่ะ จากคุณ : ArsTraNaGun เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 02:09:46

ความคิดเห็นที่ 80 เซ็กส์ทำให้ผู้หญิงรักผู้ชายมากขึ้น... จากคุณ : แฟนกันวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 02:30:33

ความคิดเห็นที่ 81 จริงดิ๊ ต้องลอง ๆ  เย๊ย 555+ ^ จากคุณ : djangel เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:00:31

ความคิดเห็นที่ 82 ตาม คห77 มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สิ่งที่ จขกท กล่าวมา เป็นมุมมองที่ดี "เพียงมุมมองเดียว" เท่านั้น ชีวิตจริง มันมีทั้งดีและร้าย หลากหลายรูปแบบ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:22:46

ความคิดเห็นที่ 83 อย่างน้อยผมก้กินคะหมูหรอบ ใข่ดาว ทุกวัน ไม่เคยเบื่อ ^^ เกี่ยวมั้ยเนี่ย ?? 555+ จากคุณ : RcduoZ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:40:26

ความคิดเห็นที่ 84 เข้ามาโหวตครับ.. จากคุณ : pae_get เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 14:57:58

ความคิดเห็นที่ 85 ดังตฤณ ชืือของผุ้แต่งหนังสือที่ จขกท กล่าวถึง ไม่ทำให้ผิดหวังครับ ลองเสริชในเนตดู จะได้เห็นหนังสือหลายเล่ม อ่านแล้ว จะอึ้ง ในเรืองราวความเป็นไปในชีวิต ว่าด้วยเรื่อง รัก ว่าด้วยเรื่อง กรรม ว่าด้วยเรื่อง การปฎิบัติธรรม และอีกหลายต่อหลายเรื่อง โหลดเป็น pdf ได้เลย ปล. ผมไม่ได้เป็นหน้าม้าให้หนังสือ เพียงแต่สงสัยในวลีของเจ้าของกระทู้ เหมือน ได้บางประโยคมาจากหนังสือ ดังตฤณ จริง และเจ้าของกระูทู้ก็ยกเครดิตให้ ดังตฤณ จริง ก็เลย มาขยายความช่วยว่า หนังสือน่าอ่านจริง ครับผม จากคุณ : Udom_one เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 15:19:16

ความคิดเห็นที่ 86 ความรักมันเรื่องเด็กๆ เรื่องเซกส์มันเรื่องผู้ใหญ่คับ จากคุณ : infinitesadness เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:08:06

ความคิดเห็นที่ 87 เชื่อว่าสิ่งที่ จขกท. พูดส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น  แต่ไม่ทั้งหมดเสมอไป   ผู้ชายที่มีอะไรกับผู้หญิงก่อนแต่งงาน  และยังรักจริง  หวังแต่งมีเยอะแยะ  การเลิกกัน  รักกัน  มันมีสาเหตุหลายประการ  เคารพในการตัดสินของแต่ละบุคคลมากกว่า  การที่ใครตัดสินใจบยอมมีเซ็กส์  แสดงว่ายอมรับผลของมันได้  ทั้งร้ายและดีค่ะ จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:24:34

ความคิดเห็นที่ 88 แต่ผมรักแฟน ผมมากขึ้น เลิกกับเธอไม่ได้ ก็เพราะ sex ผมมี sex กับเธอทำให้ผม เลิกกับเธอไม่ได้ เเละ ยิ่งรักเธอมากขึ้น... ผู้ชายไม่ได้เป็นแบบที่คิดเสมอไปครับ...รู้ไว้นะ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 17:04:30 จากคุณ : MAXSIM_lot เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 16:54:45

ความคิดเห็นที่ 89   อยากให้กิ๊บจัง มันมีด้านดี และไม่ดี เสมอ ถ้ามันถึง "เวลาที่เหมาะสม" แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 52 17:08:03 จากคุณ : ยืมlogin แฟนมาใช้ (แม็กคุงจ้า) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 17:07:19

ความคิดเห็นที่ 90 เซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่อยากให้ยึดถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ผ่านมาแล้วหรือไม่ผ่าน ถ้าทำด้วยความเต็มใจ มั่นใจว่าจะไม่เสียใจ แต่งงานแล้ว มีอะไรกับสามีคนแรก แต่ว่าเมื่อคิดย้อนไปแล้ว ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเำก็บตรงนั้นให้สามีคนเดียว (ก่อนแต่ง) ถามสามีถ้าเคยมีอะไรกับใครก่อนจะว่าไง สามีว่าไม่เห็นเป็นไร เราว่า ผช เด๋วนี้รับได้แยะ ถ้ารับไม่ได้ เค้ารักเราแค่เยื่อบางหรือไง อดีตคืออดีต ปัจจุบันนั้นสำคัญกว่า แต่บอกตรง ๆ ว่าไม่ได้กลัวแทนเด็กสมัยนี้ว่าจะมีอะไรกับใครแค่ไหน แต่สงสัยว่าเด็กเหล่านี้มี self esteem พอไหม เห็นเซ็กส์เป็นเครื่องเล่นหรือความรักกันแน่ เหตุผลที่ไม่ยอมมีเซ็กส์ก่อนแต่งงาน ก็คือ กลัวท้อง คุมยังไงก็ไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วกลัวโรค จะไปรู้ได้ไงว่าแฟนเราจะไม่มีอะไรกับใครมาก่อน อะนะ จะคุมกำเนิดก็ได้ สรุปว่าเราไม่พร้อม ถ้าคนพร้อมที่จะรับผิดชอบไม่ว่าอะไรจะเกิดในชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องปิดกั้น จากคุณ : pinkyjung เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 18:25:25

ความคิดเห็นที่ 91 เดี๋ยวนี้เด็ก ม.ต้น เค้าคิดมีเซ้กส์กันแล้วหรอ.. เรา ม.ปลาย จะจบแล้วยังไม่เคยคิดเลยนา =___________= จากคุณ : หยาดน้ำค้างจากปลายฟากฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 19:45:49

ความคิดเห็นที่ 92   อ่านเรื่องเล่าประสบการณ์จริง sex (สำหรับเด็กนอกเท่านั้น) ที http://www.icomic4u.com/main/?option=com_productbook&func=viewcategory&Itemid=26&catid=38 จากคุณ : icomic4u เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 21:48:56 A:192.168.1.121 X:58.8.99.43 TicketID:225311

ความคิดเห็นที่ 93 ถ้า??????????????????? จากคุณ : jalong เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 21:56:15

ความคิดเห็นที่ 94 ต้องพร้อมกันทั้งคู่ มันน่าจะเหมือนกับการทำสัญญานะ ต้องเกิดจากความยินยอมทั้งสองฝ่าย ส่วนตอนเลิกกัน ก็เพราะหลานสาเหตุ ซึ่งสุดท้ายก็ฉีกสัญญา ผลลัพธ์เดียวกัน จากคุณ : Lighting Plankton เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 52 23:06:58

ความคิดเห็นที่ 95 ชะตาไม่ได้ลิขิตชีวิต.. ตัวเองลิขตตัวเอง!!!! จากคุณ : โลกนี้มันโหดร้าย!! เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 00:58:23

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้าไม่ให้เอามีหวังเลิกอ่ะ เพราะไปหาหญิงอื่นๆที่ให้เอาดีกว่าแวบๆ จากคุณ : incutbus เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 02:19:39

ความคิดเห็นที่ 97 กระทู้เซ็กส์ๆนี่คนเยอะนักละ จากคุณ : Ainulindale เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 06:55:59

ความคิดเห็นที่ 98 ^ ^ แต่เราว่าสำหรับกระทู้นี้ ยิ่งคนเยอะยิ่งดีนะ ^^ ขอเพิ่มเติมอีกนิด เพื่อนของแฟนเรา สมัยเรียน เคยมีอะไรกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า ปัจจุบันเป็นเนื้องอกที่ปากมดลูกไปแล้ว - - แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 52 09:05:04 จากคุณ : aor-chan เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 09:02:13

ความคิดเห็นที่ 99 ปลื้ม จขกท จังค่ะ เขียนได้ดีมากเลย จากคุณ : Coffee Maker เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 11:08:16

ความคิดเห็นที่ 100   พลาดไปแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยซีเรียสนะเพราะอยู่กันมานานแล้ว แต่เรารู้เหมือนกันว่าแฟนเราผ่านมาเยอะมาก 20 กว่าคนได้ -*- แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ เขาบอกว่านั่นมันวัยรุ่น ตอนนี้กลับไปทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เขาก็มีความรับผิดชอบนะคะ (ในตอนนี้นะ) แต่เค้าก็พูดเองค่ะ ว่าเซ็กซ์เนี่ย ไม่สามารถดึงผู้ชายไว้ได้เลย ไม่งั้นคงไม่ผ่านมาขนาดนี้ -*- จากคุณ : นั่งหลังห้อง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 13:55:46 A:202.28.78.70 X: TicketID:225412

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ/ข้อคิดของ จขกท. ค่ะ ปล. เพิ่งจะทราบว่า "ศีลข้อสามที่ว่าห้ามมีชู้นั้น รวมถึงห้ามหญิงที่ยังอยู่ในความปกครองของพ่อแม่/ผู้ปกครองมีอะไรกับชายโดยที่พ่อแม่/ผู้ปกครองไม่ได้อนุญาตด้วย" จากคุณ : iLLuminaz1412 เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 14:29:29

ความคิดเห็นที่ 102   คนที่เรารักไม่ใช่คนที่จะต้องแต่งงานด้วยนะครับ บางทีคนที่เรารักอาจจะไม่ได้แต่งงานด้วย คนที่เราแต่งงานด้วยอาจจะไม่ใช่คนที่เรารัก อาจจะแต่งงานด้วยเหตุผลอื่น เช่น คลุมถุงชน ความพร้อมของคนที่จะด้วย แต่ม่ำด้หมายความว่าจะต้องเสียบริสุทธิให้ใครก็ได้ ผมว่าทุกคนที่จะมีเซ็ก ก็ต้องคิดว่าคนที่จะมีเซ็กกับเราเป็นที่เขาในตอนนั้น จากคุณ : NOT เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 21:03:04 A:125.24.80.101 X:

ความคิดเห็นที่ 103 โหวต คร๊า ^U^ จากคุณ : justbabie เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 21:55:42

ความคิดเห็นที่ 104 เยี่ยมเลยค่ะ คุณพี่สาว ให้ข้อคิดที่ดีมากๆ และยิ่งรู้สึกดียิ่งขึ้นที่เราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย คือไม่ยอมมีอะไรกับผู้ชายจนกว่าจะแต่งงาน อันนี้นอกจากพ่อแม่จะสอนมาดิบดี เราก็ยังเตือนตัวเองด้วย สัญญากับตัวเองไว้เลย... ดีใจที่ยังมีเพื่อนหลายๆ คนที่คิดแบบนี้ อิอิ จากคุณ : pae_ya เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 00:37:02

ความคิดเห็นที่ 105   โหวตค่ะ จากคุณ : kungko เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 00:54:37 A:75.37.7.112 X: TicketID:195523

ความคิดเห็นที่ 106 เป็นบทความที่ดีมากๆ เลยค่ะ ชอบมากๆๆ เป็นสิ่งที่เรียมคิดและทำอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณพี่สาวมากๆ นะคะ อยากให้ผู้หญิงทุกคนอ่านบทความดีๆ อย่างนี้บ้างจังเลย อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ จากคุณ : เรียม (นายแก้ว&นายขวัญ) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 02:15:08

ความคิดเห็นที่ 107 เขียนได้ดีครับ แต่มันไม่แน่เสมอไป ในโลกนี้ไม่มีอะไรตายตัวหรือถูกต้องที่สุด มองโลกให้ออก มองความจริง และมองอนาคต จากคุณ : น้ำก้นแก้ว เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 02:18:54

ความคิดเห็นที่ 108 เซ็กส์ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงรักผู้ชายมากขึ้น จากคุณ : นักรบพเนจร_ออนทัวร์ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 09:18:58

ความคิดเห็นที่ 109 ^___^ จากคุณ : White de devil เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 12:07:31

ความคิดเห็นที่ 110   ผู้ชายมีไว้ปรับสถานภาพทางการเงินและมีไว้ระบายอารมณ์ทางเพศเท่านั้น ฮิฮิ :) จากคุณ : แม่เสือร้าย เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 12:08:52 A:58.9.116.240 X:

ความคิดเห็นที่ 111   มาคารวะขอบคุณ จขกท. ที่พิมพ์บทความดีๆมาให้อ่านกัน ^___^ จากคุณ : K-otism เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 12:49:36

ความคิดเห็นที่ 112 อดให้กิ้ฟเลย เสียใจมาก กระทู้ดีๆแบบนี้ต้องโหวตครับ !! ปล. ออกแนวสวนลุม อิอิ จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 17:12:17

ความคิดเห็นที่ 113 คือมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น (เดี๋ยวน้อง ๆ อ่านช่วงแรก ๆ แล้วจะกลัวไปหมด ถึงเวลาแต่งงานจริง ๆ จะลำบากเอา) แต่ว่าควรจะมีเมื่อพร้อมดีกว่าค่ะ พี่เองเห็นมาเยอะแล้ว ท้องมาตอนไม่พร้อมนี่มัน โอย ... สุด ๆ ... บางคนมาคลิดเนี่ยพ่อแม่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ คลอดเสร็จทิ้งลูกไว้ รพ หนีกลับบ้าน ดันลืมไปว่ามีประวัติทิ้งไว้ที่ รพ ตอนมาคลอดอีก รถ รพ ตามไปที่บ้าน พ่อแม่ก็ซีด น้องเค้าก็ซีด .. ให้ตายเหอะ บางคนมาคลอด ถามว่า หนูจะกลับไปเรียนทันมั้ยคะ บางคนไปทำแท้ง ติดเชื้อ ตกเลือดมา มีอะไรที่มันน่ากลัวกว่าเยอะ สุดท้ายแล้ว คนที่มาคอยจับมือน้องอยู่ข้างเตียงคนป่วยที่ รพ ก็คุณพ่อคุณแม่ของน้องเองแหละค่ะ จากคุณ : เพนกวินน้อยลอยน้ำ เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 18:07:11

ความคิดเห็นที่ 114 ผู้ชาย รัก เปลี่ยน เซ็กส์                                      ผู้หญิง เซ็กส์ เปลี่ยน รัก จากคุณ : AntiBody เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 18:10:12

ความคิดเห็นที่ 115 อ้าว แล้วที่บอกว่ามันดี เพลินดี มันก็ไม่จริงดิ จากคุณ : rccola เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 52 22:10:28

ความคิดเห็นที่ 116   ก็ต้องเข้าจัยนิดนึง เค้าสร้างผู้หญิงผู้ชายมาคู่กัน ความรักเป็นสิ่งสวยงาม อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่ถ้าทำได้อย่างที่ว่ามันก็ดี แต่ผู้ชายบ้างคนก็รักเราที่เป็นตัวของเรา เราทำยังไงทำอะไรเค้าก็รัก แต่เราจะรักเค้ารึเป่าว่ากันอีกเรื่อง (เกี่ยวมัยเนี้ย) จากคุณ : AZAR เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 01:23:42 A:110.49.40.17 X:

ความคิดเห็นที่ 117 เจ้าของกระทู้ให้แนวคิดที่ดีมาก คิดเช่นเดียวกันกับจขกท. เลย แต่มักจะเห็นวัยรุ่นสมัยนี้ก็แปลกดีๆ จขกท.อายุเท่าไหร่เนีย ถ้าอายุน้อยก็ขอนับถือ ดีมากๆ เลย ที่ให้แง่คิดอยากให้วัยรุ่นได้อ่านจัง จากคุณ : โนเนม (ดาวต่าง) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 12:38:55

ความคิดเห็นที่ 118 T T จากคุณ : ตามหาความสุข เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 52 14:57:41