ความคิดเห็นที่ 1 โหวตล่ะครับ  เดี๋ยวคงขึ้นตามกระทู้แรกไป จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:08:49

ความคิดเห็นที่ 2 ปล.  ชอบจังเลย แอลรักพี่แนค 5ส.นี่ 555555+ จากคุณ : ปีหนึ่ง...เพื่อนกัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:09:17

ความคิดเห็นที่ 3 ผมอ่านโดยไม่มีเสียงในหัวไม่ได้ครับ ผมพยายามแล้วนะ จากคุณ : เครื่องวัดความสวย เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:15:12

ความคิดเห็นที่ 4   เหมือนเราเห็นมะละกอ เราอ่านคำว่ามะละกอ ก้องในหัวหรือเปล่าครับ เปล่าเลย พอเราเห็นเราก็รู้ว่ามันคือ มะละกอ โดยที่ไม่ต้องออกเสียงในใจ เช่นเดียวกัน การอ่านหนังสือที่ถูกต้อง จะมองแบบความรู้สึก มันเป็นอีกระดับหนึ่งของประสิทธิภาพในการอ่าน คนที่อ่านแบบนี้ จะไม่มีเสียงในใจ ถ้าใครอ่านนิยายเร็วๆ จะรู้ว่า ขณะอ่าน สมองส่วนคำศัพท์ไม่ได้ทำงาน แต่สมองส่วนจินตนาการทำงานแทน ถ้าตั้งสติดูการอ่านดีๆ จะรู้ว่าขณะนั้นไม่มีคำก้องในหัวเลย ตามปกติคนเราพูดด้วยอัตราเร็วสูงสุดประมาณ 3- 5 คำต่อวินาที แต่สายตาสามารถทำงานได้ไวกว่านั้นมาก พยายามใช้ตาอ่าน อย่าใช้ปากอ่าน คนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีอ่านออกเสียงในใจ ซึ่งก็คือการพูดในใจนั่นเอง สายตาจะต้องมารอจังหวะการหน่วงของคำพูด หยุดชะงักเป็นระยะตามจังหวะของการออกเสียงทำให้เกิดอาการล้า ผู้ที่อ่านด้วยการออกเสียงในใจ นอกจากจะอ่านช้าแล้ว กล้ามเนื้อตาจะทำงานหนัก จอห์น เอฟ เคนเนดี้ สามารถอ่านได้ถึงนาทีละ 1,200 คำ โดยที่เข้าใจเนื้อหาทั้งหมด หาร 60 ก็ตกวินาทีละ 20 คำ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับการออกเสียงในใจ จากคุณ : The science เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:36:05 A:202.133.176.7 X: TicketID:232819

ความคิดเห็นที่ 5 กระทู้ดี ^__^ แต่วันนี้ ผมสอบเคมีทำไม่ได้ เลย ฮ่าๆๆ จากคุณ : Hzappza เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:50:07

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : หัวใจใส่ชุดนักเรียน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:51:31

ความคิดเห็นที่ 7 จริงด้วยค่ะ เพราะเราก็อ่านนิยาย เป็นคนอ่านเร็ว เป็นอย่างงั้นจริงๆ ด้วย จากคุณ : เด็กหญิงปอยหลวง เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 52 23:51:54

ความคิดเห็นที่ 8 แอล รักพี่แน็ค 5 ส. วิธีแบบนี้ทำบ่อย 55+ จากคุณ : เด็กเพ้อเจ้อ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 00:10:41

ความคิดเห็นที่ 9 #3 ไม่ยากมากหรอกนะคะ ใจเย็นๆ ลองไปหาหนังสือพวกวรรณกรรม หรือนิยายที่หนาๆ (400-600) อ่านดูค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป ฝึกอ่านไปเรื่อยๆ จะทำให้อ่านหนังสือคล่องขึ้นจะทำให้อ่านในใจได้ เพราะคนที่ต้อง อ่านหนังสือแล้วออกเสียง คือคนที่อ่านไม่คล่องเท่าไหร่ ฝึกอ่านวันละ 5-10หน้าทุกวันจะดีขึ้นค่ะ ไว้ไปงานมหกรรมหนังสือกันมะ อิอิอิอิ จากคุณ : app_rabbit เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:25:42

ความคิดเห็นที่ 10 ว้าวววววว  ขอเพิ่มเติมเทคนิคเรา มาจะกล่าวบทไป  เอยยยยยย  ฮ๋าๆๆ เล่นแระ ก็คือว่า เรามีเพื่อนคนนึง  ที่หนึ่งของ ชั้นปี ความวิเสดของเขาคือ ไม่เคยอ่านหนังสือ แบบบ้าคลั้ง เหมือนเด็กเรียนทั่วไป  แต่จะอ่านเอาตอนใกล้สอบ  ( ตัดประเด็นที่ว่า ตั้งใจเรียนอยู่แล้วในห้องอ่านะ) เขาบอกเคล็ดลับเราว่า  อยากเก่งต้อง อ่านนิยายให้เยอะๆ  เพราะว่า นอกจากจะ - ฝึกอ่านเร็ว อ่านไว ไม่อืด เหมือนเต่าแล้ว - ยังได้ เรื่องของทักษะ การจินตนาการ  ไม่ได้เพ้อเจ้อ นะคับ แต่เป็นจินตนาการที่ เวลามานั่งนึก เนื้อหาเรียน ความไวในการนึกก๋ไวตาม   ฝึกไว้บ่อยๆ  ทุกอย่างแหละคับ  อันนี้อ้างอิง ทฤษฎีที่ผมใช้บ่อย  อะไรก้ตามที่เราฝึกจนชินทุกวันมันจะติดตัวเราไป    คุณขยันอ่านหนังสือทุกวันนิสัยการอ่านจะทำให้เรียนเก่ง  คุณเล่นมันทุกวัน คุณก็มีใจติดการเล่นอยู่อย่างนั้นทุกวัน  คุณฝึกอ่านบ่อยๆ ก็แน่นอนว่า  คุณต้องเก่งในการอ่านได้เร็ว การอ่านบ่อยๆ  แนะว่า เป้นนิยายที่ มีเนื้อหาเยอะๆๆๆ   ยิ่งเน้นการบรรยายสถานที่ให้เราได้ฝึกนึกภาพได้ยิ่งดี   อ่านไปบ่อยๆ เราจาชินเอง  อันนี้เทคนิคเราเอง อันที่จะบอก ก้คือ  เราเป้นคนสมาธิสั้น ความคิดไม่แตกฉาน หมายถึง ไม่สามารถรวมเอา ความรู้หลายๆอย่างมารวมๆกัน เป้นภาพรวมได้ เหมือนอย่างสมองคนเก่งๆ  เราเลยมีเทคนิค คือ พอเรียนแร้ว สรุป เป้นเนื้อหาอย่างเดียวไมไ่ด้ ต้องเอามาทำ เป็น แผนผัง   ไม่จำเป็นต้องมายแมปก็ไ้ด้ เพราะเราเอง ก็จำมายแมปไมไ่ด้   เนื่องจาก แบบว่า เราเรียนด้านวิทยาศษสตร์ มายแมป เอาเนื้อหาใส่ไปเยอะไมไ่ด้   เราเลยทำ แบบ  ลากโยงเป้นหัวข้อแร้ว แต่ๆๆ แขนงประมาณว่า  ให้ใส่เนื้อหาได้ระดับหนึ่ง         เทคนิคเด็ดๆ ถ้ามีการเปรียบเทียบ ---> กรุณาทำเป้นตาราง ถ้ามองแร้วเนื้อหามันจัดกลุ่มกันได้ ---> กรุณา จัดเป้นกลุ่มๆไว้ เพื่อจำได้ง่าย ถ้าชื่อ ยาวๆๆๆๆๆมาก   ---> กรุณาจับมาแค่ชื่อ ท่อนสั้นๆ  เพราะยังไงสมองก็จำไมไ่ด้อยู่แร้วอันยาวๆ เช่น    tetrahydroxyprogesterone  เราก็เอา มาแค่ proges ก็พอ ที่เหลือรู้ๆกัน  ถ้าเนื้อหายาวเป้นหน้าๆ เป้นเล่มๆ ---> โปรดย่อมาแค่สรุป อย่าเสือก อ่านไปแร้วอาศัยจำทั้งเล่ม  ไมไ่ด้ แอ้มหรอก  ถ้าเอกสารการเรียนเป้น power point ----> โปรดสรุปใหม่ให้ได้ แค่ 1 หน้า A4  ( อันนี้ แนะให้ทำทุกอย่างเลย  สรุปให้ได้ แค่ 1 หน้า A4) ยังคง concept เดิมที่บอกไว้   ทำมหาสมุทรที่กว้งใหญ่ ให้เหลือเพียงน้ำแก้วเดียว ให้เราได้ดื่มเข้าไป   คุณคงไม่คิดจะสูบน้ำทั้งมหาสมุทรมากินหรอกนะคับ จากคุณ : อาร์ (cinrrr) เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:38:13

ความคิดเห็นที่ 11 เราทำมาตลอดค่ะเรื่องการจินตนาการเป็นภาพ มันช่วยเรื่องความเข้าใจอย่างมาก เวลาเรียนวิชาด้านวิทยาศาสตร์ เราจะจินตนาการภาพไม่ออก ทั้งที่เค้าบอกว่าวิชาวิทยาศาสตร์มันมาจากความจริง แต่พอเราเรียนอีกด้าน เรากลับมองเป็นภาพออกอย่างง่ายดาย และเรียนได้ค่อนข้างดี เราเห็นว่าการอ่าน ถ้าแค่ต้องการจับใจความได้ก็อาจแค่อ่านไม่ออกเสียงในในก็คงพอมั้ง แต่สำหรับเรา เราต้องการความเข้าใจและความจำ(ความเร็วไม่ใช่จุดประสงค์หลัก แต่ถ้าได้ด้วยก็ยิ่งดี) ฉะนั้น เราต้องอ่านให้เกิดภาพ โดยออกเสียงในใจไปด้วย มันจะทำให้เข้าหัวเรามากยิ่งขึ้น แก้ไขเมื่อ 19 ก.ย. 52 01:51:01 จากคุณ : BeeZ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 01:50:00

ความคิดเห็นที่ 12 จะลองเอาไปทำดูค่ะ  ปกติเป็นคนอ่านหนังสือช้า  ถาจะให้อ่านเร็วก้ได้ค่ะ แต่ถ้าใครถามหรือบอกให้เล่าให้ฟังเนี่ยไม่รู้จะเล่ายังงัยเลยเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ   หุหุ   ยกเว้นนิยายสืบสวนสอบสวนเล่มหนา ๆ สองวันจบ  แต่หนังสือเรียนเอาไว้ก่อน  อิอิอิ จากคุณ : ไข่เจียว***สูตรพิเศษ เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 03:16:07

ความคิดเห็นที่ 13 ปกติเวลาอ่านจะใช้จินตนาการนึกภาพตามไปด้วยค่ะ  ^^ แต่บางทีเครียดๆก็ใช้ไม่ค่อยได้ผล   เด๋วจะลองใช้วิธีนี้บ้างนะคะ จากคุณ : ดาวไร้ตะวัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 06:54:18

ความคิดเห็นที่ 14 รออ่านต่อๆ อยากให้กิ๊ฟแต่ไม่ได้อะ จากคุณ : Mavachi เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 11:07:32

ความคิดเห็นที่ 15 กระทู้ดีมากค่ะ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : หม้อแกงเมืองเพชร เขียนเมื่อ : 19 ก.ย. 52 15:01:48

ความคิดเห็นที่ 16   คนญี่ปุ่น สิงคโปร์ อ่านหนังสือเร็วมาก จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไม คนญี่ปุ่นจึงสามารถอ่านหนังสือโดยเฉลี่ยถึง 70 เล่มต่อปี สิงคโปร์ 50 เล่มต่อปี ในขณะที่คนไทย อัตราเฉลี่ยอยู่เพียง 2 - 3 เล่มต่อปี เทคนิคการอ่าน เป็นวิชาพื้นฐานที่ต้องสอนให้นักเรียนนับแต่เยาว์วัย เพราะมันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของทุกวิชาชีพ ทุกสายการเรียน ที่คนไทยอ่านหนังสือน้อย เพราะขาดทักษะด้านนี้ ทำให้ไม่เกิดอรรถรสในการอ่าน จนเบื่อที่จะอ่านไปในที่สุด กระทู้นี้ต้องการช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการอ่าน ขอแนะนำให้เก็บไว้ทุกตอน และ Forward ต่อไปในวงกว้าง ขอเพียงให้คนไทยอ่านหนังสือ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเป็น 20 เล่มต่อปี เราก็จะเจริญทัดเทียมญี่ปุ่น และสิงคโปร์ได้แล้ว จากคุณ : The science เขียนเมื่อ : วันเยาวชนแห่งชาติ 09:32:07 A:202.133.176.30 X: TicketID:232819

ความคิดเห็นที่ 17 ชอบมากเลย ขอให้เป็นกระทู้ในตำนานอีกกระทู้ อยู่ไปนาน ๆ ผมเคยเอาเทคนิคเหล่านั้นไปช้แล้ว ได้ผลจริง ๆ ครับ อันนี้เทคนิคการอ่านของผม อยากแนะนำ เอาไปใช้ดูก็ได้นะคับ ผมจะอ่านประมาณ 2 รอบ เป็นอย่างน้อย ทุกครั้งที่อ่าน สิ่งที่ทำคือ - ไฮไลน์ หรือขีดเส้นใต้ (พยายามใช้ปากกาหลายสี เพราะสีช่วยในการจำ) - ทำสัญลักษณ์ (จะวาดรูป หรือกาดอกจันอะไรก็เถอะ ทำไปให้พอรู้เรื่อง) อ่านเสร็จ สรุปเนื้อหา - เอาที่เราทำสัญลักษณ์+ขีดเส้นใต้ มาเขียนสรุปอีกที เป็นข้อความสั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ - วาดรูปเป็นแผนผัง กรณีมีหัวข้อแยกย่อยมาก ๆ จะได้ไม่งงว่ากำลังอ่านหัวข้อใหญ่อะไร หัวข้อย่อยของอะไร ฝึกให้ตัวเองรักการอ่าน - จะเป็นการ์ตูน หรือนิยาย หรือหนังสืออะไรก็ได้ - อ่านบ่อย ๆ จะเริ่มชิน ให้ให้กลายเป็นคนอ่านเร็วไปโดยอัตโนมัติ จากคุณ : ทำไมจัง เขียนเมื่อ : วันเยาวชนแห่งชาติ 12:45:33

ความคิดเห็นที่ 18 เล่มนี้ จากคุณ : หนอนหนังสือ (ปัจจตัง) เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 52 00:22:47

ความคิดเห็นที่ 19 ขอโทษที ผิดเล่ม ที่ถูกต้อง เล่มนี้ จากคุณ : หนอนหนังสือ (ปัจจตัง) เขียนเมื่อ : 25 ก.ย. 52 21:59:28