ความคิดเห็นที่ 1 เอ ... สองสถาบันนี้ จบมาก็เงินเดือนพอๆกันนะ .. จะสอบใหม่ทำไมให้เสียเวลาเปล่าๆ อยากฟังเหตุผลคุณลูกด้วยว่าทำไมต้องจุฬา ?  ถ้าเหตุผลดีพอก็ตามใจลูกนะ จากคุณ : มิโนรุ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:10:34

ความคิดเห็นที่ 2   ลองให้ ลูกสาว บอกเหตุผลมาสิครับ ว่า พอรับฟังได้หรือเปล่า แต่กรณี ที่ฟังแล้ว เหตุผลไม่พอ แสดงว่า ต้องมี Hidden Agenda ซึ่งก็เป็นความลับ หรือ เป้าหมายส่วนตัว ลึกๆ ในใจน่ะครับ การเลือกสละสิทธิ์ แสดงถึง ความรับผิดชอบ ต่อสังคม ในระดับหนึ่งนะครับ ไม่ใช่เอาไว้ก่อน เรียนไปก่อน แล้ว มาสละสิทธิ์ทีหลัง ทำให้คนอื่นเสียสิทธิ์ แรงจูงใจ น่าจะมาจาก ตัว สถาบันฯ ส่วนหนึ่งเอง ส่วนอื่นๆ อาจจะเป็น ได้ตั้งแต่ เพื่อน คนรู้ใจ สถานที่ตั้ง สภาพแวดล้อม หรือ ปัจจัยอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ ค่อยๆคุยครับ ตรงนี้ ยังไม่ใช่ปัญหา เป็นแค่ ทางเลือกที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบ เท่านั้นเอง จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:18:26 A:61.90.90.112 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 3 น้องสาวสองคน อยู่คนละสถาบันข้างบน เถียงกันแบบเด็กๆ ตั้งแต่เอ็นฯ ติด จนปีสี่ ปรากฎว่าสามย่านนี่ ต้องประคองกันมากเลย ส่วนท่าพระจันทร์นี่ ไม่ต้องเลย ไปได้สบาย บริษัทฯ ส่งไปประจำญี่ปุ่นสองปี เพิ่งกลับมา ดูไม่ได้เกี่ยวกับที่ไหน แต่ว่าเป็นใครมากกว่า จากคุณ : PICCANINNY'S DAD เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:18:38

ความคิดเห็นที่ 4 จริงๆไม่อยากบอกเลยค่ะ ว่าให้เค้าตัดสินใจเองเถอะค่ะ แต่พยายามถามถึงเหตุผลที่เค้าอยากเรียนจุฬา  แล้วก็บอกในมุมที่พ่อแม่คิด  ถ้ามีโอกาสให้เค้าคุยกันคนรู้จักหรือรุ่นพี่ที่เรียนสองที่นี่อะค่ะ สมัยเรายังมีระบบสอบเทียบ  เราเอนท์ติดตั้งแต่ ม. 5 แต่ยังไม่ใช่คณะที่เราอยากเรียนจริงๆ แถมตอนนั้นอ่านหนังสือไม่เต็มที่ด้วย เรามั่นใจนะว่าถ้าเรียนต่อ ม. 6 เราต้องได้เรียนคณะที่เราอยากเรียน  แต่พ่อแม่เราไม่มั่นใจค่ะ เค้าบอกเราว่าไหนๆก็ได้ที่เรียนแล้วก็เรียนไปเลย ก็พูดคล้ายๆบังคับให้เราเข้าเรียนแหละค่ะ ตอนนี้ก็มีเสียใจเหมือนกันนะคะ ที่ไม่ได้ใช้ชีวิต ม. 6 ไม่ได้เรียนคณะที่เราอยากเรียน  แอบโทษพ่อกับแม่เป็นบางครั้ง ถึงตอนนี้เราถือว่าเราก็ประสบความสำเร็จในระดับนึง แต่ใจลึกๆเรายังอยากทำตามความฝันค่ะ  แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว เวลาเจอเพื่อนที่เค้าได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ เราก็อิจฉานะคะ จากคุณ : เพราะฉะนั้นฯ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:21:46

ความคิดเห็นที่ 5 น่าจะเพราะว่า จุฬาอยู่ใกล้ เดินทางสะดวกกว่าหรือเปล่าครับ?? อีกอย่างอาจจะเพราะแรงชักชวนของเพื่อนฝูงด้วยกระมังครับ เพราะเด็กมปลาย ส่วนใหญ่จะผูกพันธ์ฺกับเพื่อนๆที่เพิ่งเรียนจบพร้อมๆกันมานะครับ ประสบการณ์ตรงของตัวเองก็เป็นเหมือนกันครับ ที่ ติดเพื่อนมปลาย ทำให้เกือบเขวตอนเลือกมหาลัยเอ็นทรานส์ ยังไงก็คุยกับลูกดีๆครับ เพราะเด็กบางคนเขาจะกลัวการเข้าสังคมใหม่ๆ ที่ไม่มีคนคุ้นเคยนะครับ จากคุณ : เจ้าชายเท้าเปล่า เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:48:24

ความคิดเห็นที่ 6 ผมก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ยึดติดสถาบันครับ แต่พอเข้าเรียนจริงๆทำความรู้จักจริงๆกับเพื่อนหลายๆสถาบัน รู้ว่าัมันอยู่ที่ตัวเราครับ จากคุณ : 1812Overtureyoot เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:51:13

ความคิดเห็นที่ 7 เสียดายจัง แต่บัญชี มธ  ของเค้าดีจริงๆนะ   เพื่อนเราก้เรียนอยู่เยอะแยะเลย ว้าาา ให้คำแนะนำไม่ได้อ่ะ    เราก็เรียนอยู่สถาบันที่เค้าอยากไปนะ บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมอยากเข้า- - '' จากคุณ : ||..NaMiz3e..|| เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:52:16

ความคิดเห็นที่ 8 ความเห็นส่วนตัว ลองคุยกับลููกคุณเพื่อฟังเหตุผลแกก่อนก็ดีครับ อย่าพึ่งไปใช้อารมณ์ ไม่แน่เราอาจได้รู้เหตุผลลึกๆที่ต้องการสละสิทธิ์มากกว่านี้ก็ได้ แล้วค่อยมาพิจารณาใหม่ครับ ปล . แต่ในช่วงที่จะรอผลของจุฬานี่ ต้องสละสิทธิ์ทิ้งที่ธรรมศาสตร์ไปเลยเหรอครับ     หรือเวลามันคาบเกี่ยวกัน     ที่สงสัยเพราะไม่คุ้นกับระบบใหม่ จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:52:50

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าคิดว่าจะไม่เอา มธ. ตั้งแต่แรกจะไปสอบทำไม ขอให้อย่าได้สองสถาบันนี้เลย  ขอให้ได้เรียนที่อื่น จะได้เลิกยึดติดกะสถาบันซะที  ลูกคุณจะได้รู้ว่าโลกยังมีอะไรอีกเยอะ คำตอบไม่ใช่จุฬา ธรรมศาสตร์  คนที่จบจากที่อื่นเค้ายังไม่ตายเลย จากคุณ : Winged เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:05:29

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกกท่านที่ช่วยแสดงความเห็นค่ะ เหตุผลที่ลูกอยากเรียนจุฬา เพราะแกเป็นเด็กเตรียมฯ ไม่อยากเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตมังคะ และยังสะดวกในการเดินทาง น้าเองก็ทำงานแถวนั้นค่ะ นัดเจอกันรับส่งก็สะดวก น้าเองจบธรรมศาสตร์ พี่น้องของน้ามีหลายคน ส่วนใหญ่จบจุฬาฯ ค่ะ พวก อา ๆ ก็อารมณ์เชียร์จุฬาฯ มังคะ คุณจระเข้เจ้าเล่ห์คะ มธ รับตรงต้องรายงานตัวก่อนค่ะ ส่วนสอบส่วนกลางต้องรอเดือนเม ย. ค่ะ ซึ่งมีความเสี่ยงพอสมควรค่ะ แต่ก็ดูเหมือนแกมั่นใจว่าน่าจะติดอันดับใดอันดับหนึ่งของจุฬาฯ แต่พอถามว่าถ้าไม่ติดล่ะ ก็ตอบไม่ได้ อยากให้ลูกตัดสินใจเองเหมือนกัน นี่ก็หาข้อมูลหลาย ๆ ทางมาประกอบการตัดสินใจค่ะ ยังต้องการความคิดเห็นนะคะ จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:08:37

ความคิดเห็นที่ 11 ความเห็นส่วนตัวอีกครั้ง อ๋อแบบนี้นี่เอง พูดถึงก็ตัดสินใจยากเหมือนกันครับ งั้นก็ลองหาข้อดีข้อเสียมาแชร์กับลูกคุณก่อน เพื่อดูว่ากรณีไหน น้ำหนักมันน่าไปมากกว่ากัน อันนี้ต้องใจเย็นกันทั้งสองฝ่ายนะครับ คุณต้องฟังลูกด้วย และในขณะเดียวกันต้องทำให้ลูกฟังคุณด้วย แต่อย่างไรก็ดี การที่ลูกคุณจะทิ้งโอกาสทางนั้นจริง ก็ต้องอธิบายให้แกเข้าใจ ถึงการรับสภาพความเสี่ยง และทางหนีทีไล่กรณีที่ถ้าจะเลือกทางนั้น แล้วเกิดพลาด อีกอย่างทางคุณและสามีก็ต้องทำใจเช่นกัน เพราะยังไงที่สำคัญคือ ตัวเด็ก ที่จะต้องอยู่กับสังคมตรงนั้นต่อไปอีกสี่ห้าปี ไม่ใช่พวกคุณ ปล . แต่โบราณว่าไว้ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า  ก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องคิดหนัก     ยังไงก็ขอให้ลงเอยด้วยดีละครับ จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:21:12

ความคิดเห็นที่ 12 คุณแม่ก็ให้น้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองไปเลยค่ะ บอกน้องว่า  ถ้าสละสิทธิ์ไปแล้ว  และก็ไม่ติดจุฬาฯอีก น้องต้องยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นให้ได้ ก็บอกให้น้องต้องขยันมากกว่าเดิมให้มากที่สุด เพราะเก่งอย่างเดียวช่วยอะไรไม่ได้   คนเก่งคนอื่นๆ  เค้าก็ขยันกันมากกว่าปกติอยู่แล้วในช่วงเตรียมสอบแบบนี้อ่ะ ให้เค้าตัดสินใจรับผิดชอบชีวิตตัวเองไปเลยค่ะ ^_^ จากคุณ : Monkey Pod เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:22:32

ความคิดเห็นที่ 13 บัญชี มธ ก็ดีนะคะ มีเพื่อนอยู๋ รักกันกลมเกลียว น้องเค้าไม่อยากอยู่หอหรือเปล่าเอ่ย จากคุณ : ซิดนีย์~sydney เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:34:26

ความคิดเห็นที่ 14   ถ้ายังมีเวลาก่อนสละสิทธิ์ ผมว่าคุณแม่ขับรถพาน้องเขาไปดู ที่เรียน ดูสภาพต่างๆเลย จะรู้ได้ว่าไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย พาน้องเขาไปเจอโลกเจอคนเยอะครับ ให้เขาเห็นเยอะๆ ว่าข้างนอกรั้วโลกเรียนมัธยมที่มีแค่เพื่อน สังคมเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ คนอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง ใช้ชีวิตกันสนุก+ทุกข์ แบบไหนอ่ะครับ พูดให้เขาเข้าใจโลกความเป็นจริงเยอะๆ ครับ ว่า อะไรเดิมๆ หรืออะไรดีๆ ที่เราคิดว่าดี แล้ว ...จริงๆมัน มีอะไรอีกเยอะให้เราได้เจอ ได้สัมผัส ว่ามันอาจจะดีกว่าสิ่งที่เราคิดว่ามันดีเลิศแล้วสะอีก แต่ถ้าเขาอยากเรียน อยากสละสิทธิื์ก็ปล่อยให้เขาเรียนรู้ไปครับ เราก็ชี้แนวทางให้ดีที่สุดแล้ว .....แต่เป็นลูกผม ผมบอกเลยว่า จะเหนื่อยไปทำไมอีก กลับไปใช้ชีวิต ม.ปลายที่เหลือให้เต็มทีดีกว่า โลกมันมีอะไรอีกเยอะนอกจากตำรา นี่ช่วงเวลาทองเลย ประัเด็นหลักคือ อยากเรียนอะไรอ่ะครับ สาขาวิชา ไม่ใช่สถาบันน่ะ ยังไม่รู้เลย .......เห็นใจคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆครับ ....เอาใจช่วย จากคุณ : นัีกร้องน้องรัก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:59:03 A:125.24.77.31 X: TicketID:232242

ความคิดเห็นที่ 15 จริงๆ ต้องถามเหตุผลแหละ จากคุณ : มิ๊วๆ แมวพันปี เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:59:12

ความคิดเห็นที่ 16 ถ้าน้องเขาเลือกที่จะเอาจุฬา ก็ต้องตามใจเขาค่ะ เพราะนั่นเขาเลือกเเล้วเอง เลือกที่จะเสี่ยง และยอมรับผลของมันแล้ว จากคุณ : lady vodka เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 16:59:15

ความคิดเห็นที่ 17 มีคนถามว่าทำไมเลือกจุฬา ผมจะบอกว่า  BTS ผ่าน MRT ผ่าน... สะดวกดีเวลากลับบ้าน.. จากคุณ : อ้ายหนุ่มพลังม้า เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 17:30:46

ความคิดเห็นที่ 18 เรียนคุณแม่พลอยแหวนแสนสวย ที่เรียกแม่เพราะว่าหนูอายุมากกว่าน้องที่อยากเข้าจุฬาฯไม่กี่ปี ^^ ตอนสมัยหนูแอดมิชชั่นก็อยากได้จุฬาฯเหมือนกันค่ะ สอบตรงได้ที่ไหนก็ไม่เอา โควต้าทีไหนก็ไม่เอา ฉันจะไปแอดมิชชั่น จุฬาฯเนี่ยแหละ สุดท้ายแอดมิชชั่นไม่ติดค่ะ นอนร้องไห้ระงมทั้งคืนเลย ปิดห้อง ขังตัวเอง แล้วก็มาได้สอบตรงมหาลัยนึง หนูมีเพื่อนเป็นเด็กเตรียมฯเยอะพอควร เหตุผลของเพื่อนก็เหมือนเหตุผลของลูกสาวคุณแม่เลยค่ะ เรียนเตรียมฯมา ก็อยากจะเข้าจุฬาฯ ไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก เพื่อนหนูคนนึงเป็นหนักเลยถึงขั้นที่บอกกับหนูว่า " อุส่าสอบเข้ามาเรียนได้ที่เตรียมอุดมฯ จะไม่ให้เข้าจุฬาฯได้ยังไง ต้องเข้าจุฬาฯให้ได้ " ตอนนั้นหนูว่ามันบ้าอุดมการณ์ดีว่ะ ในใจตอนนั้นไม่คิดเถียงมันเลย เห็นด้วยกับมันด้วยซ้ำ เพราะฉันก็อยากจะเรียนจุฬาฯกับแกว่ะ 5555555555555+ แล้วมันก็ได้จุฬาฯจริงๆ พอตอนนี้เรียนปี3 แล้วก็กลับไปมองว่าตอนนั้นหนูแย่มากเลย คิดแบบนั้นได้ยังไง สุดท้ายแล้วอยากจะบอกคุณแม่ว่า ให้ลูกสาวตัดสินใจเองเถอะค่ะ เค้าอาจจะคิดว่าจุฬาฯ คือมหาลัยที่ใช่สำหรับเค้า เพราะว่าหนูเคยผ่านอารมณ์นี้มาก่อน หนูเข้าใจว่าอารมณ์ที่คิดว่ามหาลัยนี้มันใช้สำหรับเรา และเราอยากจะเรียน มันเป็นยังไง ตอนนั้นหลายบอกว่าให้หนูเลือกมหาลัยอื่นเผื่อไว้ด้วย หนูไม่เลือกเลยค่ะ .... หนูตัดสินใจเลือกจุฬาฯ ทั้งหมด 4 อันดับเลย ^^ จากคุณ : คุณหนูแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 17:56:23

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาดูทุกข์ของคนเรียนเก่งครับ ตอนผมเอนท์ไม่มีโอกาสเลือกอย่างนี้หรอกครับ เอนท์ติดก็บุญแล้ว จากคุณ : น้าเปี๊ยก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 18:05:42

ความคิดเห็นที่ 20 ลองถามเหตุผลดูก่อนครับ ผมคิดว่าบ้านอาจจะไกล แล้วไม่อยากอยู่หอก็เป็นได้ ส่วนจุฬานี้จะอยู่ในตัวเมือง ไป-กลับสะดวก หรือถ้าไม่ได้แคร์สถาบันมาก มาเข้าเกษตรก็ดีนะครับ ไม่ต่างกันมากหรอกครับ จบแล้วก็เข้าทำงานในบริษัทมาตรฐานใกล้ๆเคียงกัน ผมก็จบบัญชีเกษตร ทำงานอยู่ kpmg มีเด็กจุฬา ธรรมศาสตร์ เข้าที่นี่ตรึมเลย จากคุณ : nuriboy เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 18:15:07

ความคิดเห็นที่ 21 ความจริงธรรมศาสตร์ก็ดีครับ แต่เจ้าตัวควรจะมีสิทธิ์เลือกตัดสินใจในชะตาชีวิตของตัวเองนะครับ อยากเข้าจุฬาก็ต้องรอลุ้นกันหน่อย รอสอบหรือว่าพยายามมากขึ้นมากๆ ถ้าเจ้าตัวเลือกที่จะเดินสายนี้อย่างแน่วแน่แล้ว พ่อหรือแม่หรือใครก็ตามก็ไม่ควรบั่นทอนกำลังใจด้วยการพยายามบังคับให้เลือก มธ นะครับ การทะเลาะน่ะบั่นทอนกำลังใจนะครับ อย่างตัวผมก็เหมือนจะเคยเจอสถานการณ์อะไรแบบนี้เหมือนกัน สอบตรงได้บัญชีธรรมศาสตร์ (smart-I) แต่ก็เลือกที่จะไม่ยื่นเพราะจะรอสอบคณะอื่นๆ รอกสพท. เคยสอบได้ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ แต่สละสิทธิ์ไปตั้งแต่ผลสอบอะไรๆ ยังไม่ออก พ่อ แม่ ทุกคนในบ้านว่าผมโง่ที่ยอมสละเบาะรองนั่งถ้าเกิดพลาดอะไรไป แต่สุดท้ายผมก็รู้สึกว่าผมจะไม่รับทุนนี้อยู่ดี เลยสละสิทธิ์ไปเถอะ ช่วงนั้นน่ะทะเลาะกับแม่วันเว้นวัน ..ถ้าไม่ติดหมอ - ก็ยื่นทันตะดิหมะม้า แล้วถ้าไม่ติดทันตะ่หละ - ก็เรียนวิศวะไง อย่างหนูจะเรียนวิดวะได้เหรอ - เรียนไปเรื่อยๆก้คงจบมั้ง แล้วถ้าไม่ติดวิดวะ - โหยรับตั้งเจ็ดร้อยกว่าไม่ติดก็แย่แระ บทสนทนานี้เกิดขึ้นทุึกวัน มันบั่นทอนกำลังใจและเวลาอ่านหนังสือมากๆเลยครับ ไม่แนะนำให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นในครอบครัวนะครับ จากคุณ : ชิโฮจัง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 18:27:50

ความคิดเห็นที่ 22 เอาความเห็นคนไม่ได้เอ็น มั่งมั้ยคะ? ไม่ใช่เพราะเราเรียนแย่ คะแนนไม่ถึง แต่เป็นเพราะคุณแม่จะให้เข้ามหาลัยใกล้บ้าน ค่าเดินทาง+ค่าความเป็นห่วง เทียบชั้นกันไม่ได้ เราเลยไม่มีความคิดของจุฬา ธรรมศาสตร์ในหัว เราเรียนสายแพทย์ของมหาลัยเอกชน จบเทอมแรก เราได้เกรด3.5+ มากกว่ามัธยมอีก ขณะที่ เพื่อนเราเกรด 4 ลดเหลือเกรด 2 เพื่อนเราวิศวะ ธรรมศาสตร์นะคะ มันบอกแอดมางั้นๆ ที่นี่อิสระ เลยปล่อยปละละเลยการเรียน ในที่สุดเราก็รู้สึกว่าเรียนที่ไหนไม่ต่างกัน ความภูมิใจหาได้ที่ตัวเองค่ะ จากคุณ : SonGiiz* เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 18:33:10

ความคิดเห็นที่ 23 เป็นผมจะเลือกที่อยากเข้า เพราะถ้าเลือกที่ชอบ จะมีความสุขมากกว่า ปล. ยิ่งจุฬา ยิ่งสนับสนุน เพราะผมจบ TU มา ไม่ปลื้มกับสิ่งแวดล้อม TU จากคุณ : bankk99 เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 18:35:48

ความคิดเห็นที่ 24   ปี 52 คะแนน 2 มหาวิทยาลัยเป็นแบบนี้ บัญชีจุฬา 8,221.0000-6,884.2500 บัญชีธรรมศาสตร์ 7100-6729 คะแนน ONET GAT PAT ที่สะสมไว้เป็นไงบ้าง ถ้าได้สัก 7000 ก็น่าจะเข้าได้ทั้ง 2 แห่ง คะแนนต่ำสุด 6884 กับ 6729 ต่างกัน 155 ยังไงถ้าเข้าจุฬาไม่ได้ เข้าธรรมศาสตร์ก็น่าจะได้ ผมว่าถ้าดูแล้วคะแนนเก็บได้สัก 6800 ก็ยังน่าเสี่ยง ไม่ได้ยังไงค่อยเลือกธรรมศาสตร์ยังได้ หรือไม่ได้จริงๆ ก็สะสมไว้สอบได้อีกตั้ง 3 ครั้งในปีหน้า แต่ถ้าคะแนนสะสมมีแค่ 6700 ก็อย่าเสี่ยงเลย เพราะสอบใหม่คะแนนดีขึ้นอย่างมากวิชาละ 20-40 คะแนน รวม 3 วิชาก็แค่ 100 - 120 คะแนน จากคุณ : เชียร์ให้ลอง เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:16:47 A:58.9.174.96 X: TicketID:245573

ความคิดเห็นที่ 25 ให้น้องเค๊าตัดสินใจเถอะครับ จบม.ปลายแล้วก็เตรียมตัวที่ใช้ความคิดวิจารณญาณมากขึ้นกว่าเดิมอีกนิดนึงได้แล้ว ธรรมศาสตร์ก็ดี จุฬาก็ดี ทุกมหาลัยก็มีข้อดีกันทั้งหมดแหละครับ ถ้าน้องเค๊าตัดสินใจที่จะไปจุฬาก็ขอให้โชคดีนะครับ พี่เป็นกำลังใจให้ สู้ ๆๆๆ ปอลิง พี่ไม่ทราบว่าที่ไหนดีที่สุด แต่พี่เลือดพระจอมฯ จากคุณ : หมูตุ๋นตะละลุ่ยตุ้ยตุ้ย (FinZ) เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:16:48

ความคิดเห็นที่ 26 เราจบ TU เหมือนกันค่ะ แต่คิดต่าง เราชอบสิ่งแวดล้อม TU มาก โดยเฉพาะที่รังสิต ไม่เคยคิดอยากเรียนในเมืองเลย อากาศแย่ ถ้าถามเราได้บัญชีมธ.แล้วไม่เอา เราเสียดายแทนค่ะ เพื่อนจบมาเห็นได้แต่งานดีๆ อนาคตสดใสกันทั้งนั้น แต่เรื่องแบบนี้นานาจิตตังค่ะ เค้าจะรู้ว่าอะไรดีไม่ดี ก็หลังจากจบแล้วเริ่มหางานนั่นแหละ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 19:18:37 จากคุณ : Uknowtic เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:18:21

ความคิดเห็นที่ 27 โห มธ. เคยเป็นมหา'ลัยในฝันผมเลยนะเนี่ยครับ ถ้าไม่ติดว่าคณะที่ผมเข้าจะเป็นคณะสายวิทย์ล่ะก็ ผมเข้าไปไม่รีรอเลย ส่วนตัวคิดว่า คะแนน 71xx ยังไม่พอนะครับ ต้องขยันขึ้นอีก โดยเฉพาะ PAT1 (ไม่ได้ไซโคนะครับ มีที่เรียนแล้ว ="=) ผมว่าปัจจัยร่วมส่วนหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะสาขาบริหาร ซึ่งลูกสาวคุณน้า อยากจะได้ บัญชี-บัญชีมากกว่า ผมว่าการจะไปแอดมิชชั่น กลาง ส่วนตัวแล้วจะมีโอกาสดีนะครับ ตัวเลือกมากขึ้น เช่นอาจจะยื่นจุฬา ธรรมศาสตร์แบบ5ปีได้ แต่ว่าo-netตอนนี้ก็เปลี่ยนด้วย ต้องพยายามมากๆ คะแนนช่วง71xx มีคนอยู่ช่วงนี้เยอะมากนะครับ แถมรับตรงก็รับไปแล้ว ก็ลองชั่งน้ำหนักแล้วกันครับ แล้วลองถามลูกสาวคุณน้าว่า ถ้าไม่ติดทั้งจุฬา-ธรรมศาสตร์ จะยอมรับผลได้แน่นะ ถ้าติดจุฬาก็เจอกันครับ จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:28:17

ความคิดเห็นที่ 28 ผมแนะนำว่า เรียนบัญชี ถ้าอยากได้เงินเดือนสูง ๆ เมื่อจบใหม่ ต้องเรียน Eng หนัก ๆ หน่อย เพราะ มีส่วนแตกต่างจาก เด็กบัญชีทั่วไป (เช่น คอมที่ไม่ใช่แค่เล่นเป็นใช้เป็นแบบปกติ) ที่ไหน จบมา ก็ไม่เกิน 14k เหรอครับ สูงสุดจริง ๆ ก็ไม่น่าเกิน 16-18K ผมว่าคงจะจบเครียดกว่าน้องเค้าอีกครับ(ผมเอง) ว่าจะไปสายไหนดี ผมมองไกลไปมั้ย ?? แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 19:34:03 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 19:33:04 จากคุณ : Thedew เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:31:49

ความคิดเห็นที่ 29 ต้องให้น้องเค้า "ฝึก" บริหาร"ความเสี่ยง"แล้วละ ครับ จากคุณ : Thedew เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:35:20

ความคิดเห็นที่ 30 ต้องให้ตัวน้องตัดสินใจเองคะ  เพราะถือว่าโตแล้ว  มีสิทธิ์ที่จะเลือกเองได้ ว่าแต่ เด็กเตรียมต้องเข้าจุฬาเสมอหรอคะ ส่วนหนึ่งอาจจะใช่ก็ได้เนอะ ไม่งั้นจะสอบเข้าเตรียมได้ไง  เพื่อนเราก็จบเตรียมมา ดันไปเป็นหมอขอนแก่น เรายังเคยถามมันเลยว่า ทำไมไม่เลือกจุฬา  มันบอก  จุฬาใกล้บ้านเกิน !! จากคุณ : แฟนหุ่นยนต์ > 3< (Honey_lovely) เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:48:36

ความคิดเห็นที่ 31 จบบัญชีที่ไหนก็เหมือนกันค่ะ ...ที่กล้าบอก ก็จบบัญชีเหมือนกันค่ะ บางคนเลือกเดินไปทาง accountant บางคนเลือกเดินไปทาง audit แล้วบางคนเลือกเดินไปทางfinance!!! เงินเดือนที่จบออกมาแล้วแต่บริษัท accountant บางที่ได้มากถึง 17K audit บางที่ได้แค่15k เฉลี่ยๆกันไป จะจบจากไหนก็เหมือนกัน สังคมภายในตังหาก เท่าที่เจอมา สภาพแวดล้อมของสถาบันที่ลูกสาวจขกท.ติด มีความดีกว่า ขอไม่บอกว่าทำไม เพราะเท่าที่เจอมา คนรอบข้างมาเล่าให้ฟัง เป็นเช่นนั้นจริงๆ เค้าไม่ยึดติดกะสถาบัน ไม่EGO สถาบันให้ความรู้ก็จริง แต่ก็ทำให้คนเปลี่ยนได้เช่นกัน แต่ก่อนก็เคยคิดว่าจะเข้า จุฬา มธ. สุดท้าย สี่อันดับมีแต่พระจอม และมาจบปริญญาที่ม.เอกชน เพราะเลือกที่จะเดิน สังคมดีกว่า connectionดีกว่า มองโลกได้กว้างกว่า ฝากบอกถึงน้องเค้าด้วยว่า ถ้าจะสละสิทธิ์แล้วไม่ติดละจะทำไง จะให้เสียเงินเพิ่มเข้าิอินเตอร์จุฬาใช่ไหม... กำลังทรัพย์สำคัญมากนะคะสำหรับอินเตอร์ทั้งสองที่ จากคุณ : ...ชิปปี้เดล...เดลลี้ชิป เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 19:48:59

ความคิดเห็นที่ 32 ไปสอบทำไมตั้งแต่แรก .. คนอยากเรียนที่ มธ. เยอะแยะ เสียดายสิทธิ์ที่คนอื่นควรจะได้ --" เราจบ มธ. นะ ถ้าน้องเค้าอยากเข้าจุฬา สละสิทธิ์ที่ มธ. เลยค่ะ ^^" จากคุณ : ฉันอยู่นี่ ... ศัตรูที่รัก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:11:03

ความคิดเห็นที่ 33 #22  วิศวะ มธ อาจจะปล่อย แต่คณะอื่นๆไม่ปล่อยนะคะ ยากมาก จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:56:38

ความคิดเห็นที่ 34 แนะนำคุุณแม่นิดนึง  พอดีผมแก่แล้วไม่รู้ว่าสมัยนี้  สละสิทธิ์นี่มีผลยังไง แต่ถ้า.... สละสิทธิ์  มธ. ครั้งนี้แล้ว  คนอื่นได้สิทธิ์เข้าเสียบแทน  ก็สละสิทธิ์ไปเลยครับ  สงสารคนอื่นที่อยากเรียน มธ. แต่ถ้าสละสิทธิ์  แล้วสิทธิ์นั้นฟาล์วไป  (ไม่มีคนอื่นได้สิทธิ์นี้เพื่อเข้า มธ.  ต่อจากคุณลูกสาว)  ก็บอกให้ลูกสาวลองเรียนดูสักครึ่งเทอมดูสิครับ  บางทีความคิดอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้ครับ บางทีความคิดเด็ก   เขาก็คิดแบบเด็กๆ  ตามเพื่อนบ้าง  มีอคติกับมหาลัยฯ บ้าง   ต้องให้ลองไปสัมผัสดู  เด็กจะได้เปิดหูเปิดตามั่งครับ ปล.  ตอนผมสอบติด บริหารฯ จุฬาฯ  จะขอสละสิทธิ์เพื่อเอา วิศวะ จุฬาฯ  เพราะเพื่อนที่เรียนเก่งเข้าได้หมด  อิจฉาเขาว่างั้น  ไม่อยากน้อยหน้าเพื่อน   แต่สุดท้าย  แม่ขอให้ลองเรียนสักครึ่งเทอม  ก็เลยยอม  แล้วก็ยาว  เพราะไปเจอสังคมน่ารักๆ ในนั้น   มาตอนนี้  อยากตบกบาลตัวเองตอนนั้นมากๆ ^_^ จากคุณ : หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:57:34

ความคิดเห็นที่ 35   คะแนนจุฬาปีนี้สูงมากเลยนะครับ บัญชีนี่ต้อง8000+ รึเปล่าไม่แน่ใจ รัฐศาสตร์คะแนนต่ำสุดยัง 8000+ เลย - - ซึ่งคนที่ไม่ผ่านรับตรง แล้วคะแนนใกล้ๆ 8000 เข้าก็ต้องหวัง add กลางอีก ถ้าลูกพี่คะแนน 7000นิดๆนี่โอกาสเสี่ยงสูงมากต้องทำ คะแนน gat pat o-net รอบ 4อย่างเยอะๆ เพื่อไปแข่งกับคนที่ คะแนนใกล้ๆ 8000 ซึ่งคนที่คะแนนใกล้ 8000 เขาก็มีสิทธิ์เลือก คะแนน3รอบแรกได้อีกแถมยังเพิ่มคะแนนได้อีกถ้ารอบ 4 ทำได้เยอะ สรุปถ้าต้องการจะยื่นaddกลางต้องทำคะแนนให้ได้ใกล้เคียง 8000 หรือมากกว่า ก็คงต้องลองตัดสินใจเอาอะครับ ถ้าคิดว่าไม่น่าถึง 8000+ ก็อย่างเสี่ยงเลย ต้องได้ gatประมาณ 240+ pat 200+ ประมาณนี้อะ ส่วนผมยังไม่ติดที่ไหนเลย คะแนนไม่ค่อยดี T_T จากคุณ : สิบตรีกิโรโระ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:57:58

ความคิดเห็นที่ 36   จากประสบการณ์จบที่ไหนก็เหมือนกันถ้าไม่คาดหวังทำงานองค์กรระดับชาติ ไปต่อโทเอาที่ดังๆหน่อยก็โอแล้ว ขึ้นอยู่กะดวงแต่ละคนมากกว่าว่าจะได้งานได้นายแบบไหน ส่วนตัวจบตรีเอแบคแล้วใสจบโทมหิดลอินเตอร์ แต่ตอนนี้ได้เงินเดือนน้อยกว่าจบตรีเอแบคอีกทั้งที่ไทยจีนอังกฤษพร้อม คิดแล้วถ้าย้อนกลับไปได้ไม่เรียนโทดีกว่า ถ้าคิดมากก็กลุ้มใจเปล่าๆ แต่ถ้ามองในแง่ส่วนตัวเด็กนะ เราอยากให้น้องเขาเลือกเองดีกว่า เพราะในฐานะที่สมัยก่อนเราเองก็เลือกเองไม่ได้ เรียนตามที่พ่อแม่อยากให้เรียน พอจบมาแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ตัวเราก็กลุ้มนะ แถมจะโทษพ่อโทษแม่ไม่ได้เพราะเขาก็พยายามส่งเสียให้เราได้เรียนมากที่สุดแต่เขาไม่ได้คิดว่าเขาให้เราเรียนตามอย่างที่เขาอยากให้เป็น พอไม่ได้เป็นดังคาด เราก็เป็นทุกข์นะ เราว่าลูกของคุณก็ทุกข์นะ แต่ถ้าเขาเลือกเองและไม่เป็นดังคาดและถ้าเขารับได้ เขาก็ต้องรับผิดชอบการตัดสินใจของเขานะ จะมาโทษนั่นนี่ไม่ได้ อย่างน้อยก็เขามีโอกาสที่จะตัดสินใจเลือกเองนะคะ อันนี้มองในแง่การให้โอกาสเด็กมีสิทธิ์เลือก จากคุณ : az เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 21:10:49 A:58.9.170.169 X: TicketID:234792

ความคิดเห็นที่ 37 เรียนที่ธรรมศาสตร์และรูมเมทเป็นบัญชีค่ะ ยืนยันว่าคณาจารย์ตั้งใจสอนทุกอย่างและความรู้ที่ได้ไปเต็มเปี่ยมแน่นอน และเราคิดว่าไม่ว่าสถาบันไหนๆก็ไม่สำคัญ เท่ากับตัวเราเองค่ะ ---- ขออนุญาตถึงคุณความเห็นที่ 22 เพื่อนเราทุกคนที่เรียนวิศวะ ธรรมศาสตร์ ก็เรียนหนักมากและตั้งใจทำงานจริงจังนะคะ ไม่มีโอกาสจะปล่อยปละหรือเรียนเล่นๆเลย ย้ำคำเดิมค่ะ คือทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเอง ^^ จากคุณ : กบตัวกลม เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 22:14:06

ความคิดเห็นที่ 38 ผมว่าลองพาน้องเค้าไปที่คณะบัญชีของทั้ง 2 มหา'ลัยเลย ไปด้อมๆ มองๆ ชอบบรรยากาศแบบไหน ผมอยู่จุฬาฯ ผมก็เชียร์จุฬาฯ แต่เรื่องแบบนี้ให้น้องเค้าตัดสินใจเองจะดีที่สุด ว่าชอบแบบไหน เพราะผมคิดว่าบัญชีจุฬาฯ กับ มธ. การเรียนการสอนต่างกันไม่มากหรอกครับ จากคุณ : AlphaJR เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 23:42:46

ความคิดเห็นที่ 39 "ค่านิยม" ครับ ... ลองหาทางให้น้องเค้าคิดได้ว่า "สุดท้ายไม่ว่า สถาบันไหน จะดีจะร้าย อยู่ที่เรา ไม่ใช่ชื่อสถาบัน" แต่ถ้าด้วยเหตุผลอื่นจริงๆ อันนี้ ก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดี จากคุณ : BeZixtus เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 23:58:11

ความคิดเห็นที่ 40 #23 เราก็เรียน TU นะ แต่เรากลับชอบบรรยากาศที่ม. ขอแนะนำว่าให้น้องเค้าสละสิทธิ์ไปเลยคะ มีคนอยากเข้ามธ.อีกเยอะ  ถ้าน้องเค้าไม่อยากเข้าจริงๆ  จะได้ไม่ไปกั๊กที่ใคร   เพราะถึงเลือกเรียนมธ.ก็คงไม่มีความสุขใช่ไหมคะ เรามีรุ่นน้องคนนึง อยากเข้ามธ.แต่เอนไม่ติด ขาดคะแนนแค่นิดเดียวเท่านั้น ส่วนคนที่ได้ไป พอเรียนจบเทอมหนึ่ง ก็ลาออก เตรียมตัวเอนใหม่ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ได้อยากเข้าที่นี่ตั้งแต่แรก แต่มันติดไปแล้ว ส่วนตัวเราเลยคิดว่าไม่แฟร์กับคนที่เค้าอยากเข้าจริงๆหนะคะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ จากคุณ : LKC-Guzz เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 41 เข้าใจอารมณ์คุณน้ามากๆเลยค่ะ ท่าทางจะเครียดน่าดู ตอนนู๋เอ็น คนที่เครียดมากกว่านู๋คิดว่าเป็นพ่อกะแม่เลยค่ะ นั่งลุ้นกันจะแย่ เครียดแทนลูกต่างๆนาๆ แต่ทางที่ดี นู๋ว่าเค้ามีอุดมการณ์มากพอสมควรค่ะ(เช่นเดียวกับนู๋เลย) ตอนนั้นให้ใครมาพูดอะไร นู่ก็ไม่ค่อยฟัง ทั้งโควต้าที่ไปสอบๆไว้ ติดก็ไม่เอา ขนาดมีทุนให้เรียนฟรี4ปี ยังไม่รับเลยค่ะ พ่อกะแม่ก็เครียดตามๆกัน แต่สิ่งที่พ่อกะแม่พูดไว้ก็คือ ก็พลาดในสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้ เราต้องยอม รับให้ได้ แล้วหาทางออกที่ดีที่สุด เพราะสิ่งที่เค้าให้เราตอนนี้คือ อิสระ ในความคิดและการตัดสินใจ ในเมื่อเราเลือกที่จะคิดเอง ตัดสินใจเอง เพราะฉะนั้น เราต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้ จะได้ไม่มีคำพูดที่ว่า "พ่อแม่รังแกฉัน" อย่างนู๋ตั้งใจว่าจะเลือกที่...ไปรอลุ้นตอนยื่นคะแนนส่วนกลาง สุดท้ายก็ได้มาตามคาดจริงๆ คะแนนที่ยื่นไปก็ค่อนข้างสูงแล้วก็ไม่เสี่ยงมาก ค่ะ  ดีใจสุดๆ จากนั้นมาทุกคนก็ยิ้มกันแก้มแทบปริเลยค่ะ สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้คือ เชื่อใจลูกของเราค่ะ เป็นกำลังใจให้คุณน้า จขกท นะคะ จากคุณ : หมวยสั่งลุย เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 00:51:41

ความคิดเห็นที่ 42 เคยคิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ ติดบัญชี 5 ปีที่มธ. ก็ลังเลอยู่ว่าจะเรียนที่ไหนดี แต่ตอนนั้นยังไม่ต้องสละสิทธฺิ์ ใจจริงอยากเข้าจุฬามากกว่า เพราะเด็กเตรียมแทบทุกคนแหละค่ะ เพื่อนก็ต้องอยู่จุฬากันเยอะกว่าอยู่แล้ว แต่ตอนอ่านหนังสือแอดมิทชั่นนี่ เครียดมาก ก็เลยบ่นกับแม่ว่าไม่ไหวแล้ว เอามธ.ก็ได้ แม่ก็ตามใจ ก็เลยอ่านหนังสือแบบสบายใจ แต่พอผลสอบออกมา ก็ติดบัญชีจุฬานะคะ แต่สุดท้ายก็เรียนอย่างอื่นแทน เหตุผลที่อยากเรียนจุฬามันมีเยอะนะคะ ถามตอนนี้ว่าถ้าจะต้องเรียนบัญชีจะเรียนที่ไหน ก็คงเป็นจุฬาเหมือนเดิม สังคมมันต่างกัน อยู่จุฬาจะได้บรรยากาศเหมือนอยู่เตรียมเลย เพื่อนเก่าเยอะแยะ สถานที่ก็ใกล้ๆ รถไฟฟ้า สยาม ถ้าอยู่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ก็เดินทางลำบากกว่า ที่จอดรถก็ไม่ค่อยมี ถ้าเดินทางเองก็ยิ่งลำบากกว่า หรือรังสิตนี่เข้าไปใหญ่เลย ต้องมาอยู่หอ วิถีชีวิตเปลี่ยนไปมากกกกกกกกกก แล้วเพื่อนเก่าๆก็ไม่ค่อยจะมีด้วย ได้เพื่อนใหม่มันก็ดีค่ะ แต่พอนึกถึงว่าเพื่อนกลุ่มเก่าๆอยู่ด้วยกัน ได้เจอกันตลอด แล้วรู้สึกแปลกๆอ่ะค่ะ ถ้าเป็นหนู(เรียกแทนตัวเองไม่ถูกอะค่ะ) หนูอยากได้ตัดสินใจเองนะคะ เพราะถ้าเอาธรรมศาสตร์ไป แล้วคะแนนถึงจุฬาแต่ยื่นไม่ได้แล้วเนี่ย มันจะคาใจไปตลอดชีวิตเลย จริงๆนะคะ แต่ถ้ากลัวว่าจะไม่ติดเลยเนี่ย ก็จะเลือกคณะอื่นของจุฬาเผื่อไว้ แล้วค่อยรอสอบใหม่อีกปี (แบบนี้มันเห็นแก่ตัวรึเปล่านะ แต่ตอบแบบจริงใจเลยนะคะ ยังไงก็ต้องเห็นแก่ตัวเองมาก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรอ) มันต้องมีซักคณะที่คะแนนติดชัวร์ๆอยู่แล้วล่ะ จะได้มีความสุข แล้วก็ไม่คาใจด้วย อย่างแย่ที่สุดก็เสียเวลาไปหนึ่งปี แต่สำหรับหนู คิดว่ามันคุ้มนะคะ จากคุณ : kateyboom เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 00:57:35

ความคิดเห็นที่ 43 ให้ลูกตัดสินใจด้วยตัวเองครับ แล้วก็ให้รับผิดชอบตัวเองด้วยจะดีมากครับ จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 01:12:59

ความคิดเห็นที่ 44 have to fight... จากคุณ : แฟนกันวันศุกร์ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 11:30:18

ความคิดเห็นที่ 45   มาตอบในฐานะรุ่นพี่เตรียมฯ เข้าใจครับเคยผ่านประสบการณ์เเบบนี้มาก่อน อันที่จริงถ้าน้องสอบเข้าเตรียมอุดมได้เเสดงว่าต้องเรียนเก่งมาก งั้นถ้าสละสิทธิ์มาเเอดมิดบัญชี จุฬา ยังไงผมว่าน่าจะก็ติดอยู่เเล้ว ขนาดเพื่อนเราอยู่ตอนอยู่เตรียมได้เกรดเเค่2.7 ยังเเอดมิดติดนิติ มธ.ได้เลย น้องโตเเล้วให้คิดเองดีกว่า สมมติถ้าคะเเนนเเอดมิดน้องดันถึงจุฬาเเต่เอามธ.ไปเเล้ว ผมว่ามันอาจจะคาใจไปทั้งชีวิตนะครับ อยากให้น้องทำในสิ่งที่อยากทำที่สุด จากคุณ : TU67 MD_CU63 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 20:28:37 A:58.10.195.198 X: TicketID:209803

ความคิดเห็นที่ 46   หนูเองก็จบเตรียมฯเหมือนกันค่ะ รุ่น TU68 ตอนนี้เรียนคณะบัญชีที่จุฬาฯ อันที่จริงหนูว่า อยากเรียนที่ไหน มันก็ดีทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น มธ. หรือ จุฬาฯ ต่างก็มีชื่อเสียงทางด้านบัญชี สมัยที่หนูกำลังเอ็นท์ หนูก็เคยเครียดว่าจะเอาที่ไหนดี เพราะหนูเล็งบัญชี 5 ปี ตรี-โท ของ มธ. ท่าพระจันทร์ ไว้ และอีกใจหนึ่ง ก็อยากเข้าจุฬาฯ เพราะญาติๆส่วนใหญ่เชียร์ให้เข้าจุฬาฯ จริงๆแล้วเรื่องของสถาบัน อย่างจุฬาฯ เนี่ย... หนูโดนผู้ใหญ่พูดไว้ตั้งแต่เด็กว่า "โตขึ้น สอบเข้าจุฬาฯให้ได้นะ" มันก็เลยเป็นค่านิยมฝังหัวค่ะ พอตอนจะเอ็นท์จริงๆตอนนั้นเลยเครียดมาก เพราะตอนไปฟังบรรยายโอเพ่นเฮ้าส์ของบัญชี มธ. หนูก็ชอบหลักสูตรเค้า แต่ก็กลัวว่าถ้าหากเลือกไป จะมองหน้าญาติไม่ติด อีกอย่างคือ หนูก็เป็นนักเรียนเตรียมอุดมซึ่งส่วนใหญ่คนมักจะคิดว่า เป็นเด็กเตรียมก็ต้องเข้าจุฬาฯสิ สุดท้ายแล้วหนูก็เลือกจุฬาฯค่ะ เหตุผลเพราะมีคนๆนึงบอกว่า "เธอก็เลือกเรียนที่ๆเธอสะดวกที่สุดสิ" ตอนนี้หนูเรียนที่จุฬาฯปีสองแล้ว เมื่อมองย้อนกลับไปก็ไม่เสียดายที่เลือกจุฬาฯค่ะ เพราะหนูสะดวกที่จะเดินทางไปเรียนมากกว่าที่ท่าพระจันทร์ อีกอย่างคือ อาจารย์ที่นี่ทุ่มเทสอนดีมาก เนื้อหาตำราก็ดีมาก สิ่งแวดล้อมก็ดี หนูคิดว่า หนูตัดสินใจไม่ผิดค่ะ หนูแค่อยากจะบอกคุณน้าว่า ให้ลูกคุณน้าตัดสินใจเองดูนะคะ หนูเห็นด้วยกับ คห.45 ตรงบรรทัดก่อนสุดท้ายที่ว่า "น้องโตแล้วให้เค้าคิดเองดีกว่า สมมติถ้าคะแนนแอดมิดน้องดันถึงจุฬาฯแต่เอา มธ. ไปแล้ว ผมว่ามันอาจจะคาใจไปทั้งชีวิตนะครับ" เพราะหนูมีเพื่อนเรียนอยู่รัฐศาสตร์ มธ. คนนึง เค้ายึดติดจุฬาฯมากแต่เค้าไม่กล้าเลือกตอนส่งคะแนนแอดมิดกลาง เพราะเค้ากลัวคะแนนไม่ถึง เค้าเลยเลือก มธ. สุดท้ายพอเค้ารู้คะแนนแอดมิดต่ำสุดของคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในปีนั้น เค้าก็บ่นเสียดายมาก เพราะจริงๆแล้วคะแนนเค้าได้มากกว่าคนที่คะแนนต่ำสุด แต่เค้าไม่กล้าเลือกตั้งแต่แรก ก็เลยไม่ติดจุฬาฯค่ะ อย่างไรก็ตาม สรุปคือ ทั้งจุฬาฯทั้ง มธ. ก็ดีทั้งนั้นแหละค่ะ ชีวิตในมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นตัวกำหนดชี้วัดชีวิตที่เหลือของเราทั้งหมดในภายภาคหน้า จริงๆแล้ว "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" นะค่ะ ^_____^ จากคุณ : K-otism เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:14:37

ความคิดเห็นที่ 47   โพสต์ซ้ำ ขอโทษค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 22:17:32 จากคุณ : K-otism เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:15:20

ความคิดเห็นที่ 48   โพสต์ซ้ำ ขออนุญาตลบค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 22:16:50 จากคุณ : K-otism เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:15:32

ความคิดเห็นที่ 49 หนูได้7498ก็ยังไม่ได้ค่ะคะแนนสูงมากปีนี้แต่ลูกคุณน้ายังดีนะคะมีที่ให้เลือกหนูยังไม่มีเลยค่ะ เลยต้องฟิตตอนแอดกลางให้มากขึ้นอีก ยังไงยังพอมีเวลาให้คิดนะคะ แต่ถ้าเอาที่ชัวร์ก่อนก็น่าจะดีกว่าเพราะข้อสอบโอเน็ตก็เปลี่ยนแนวอีก หนูยังไม่กล้าหวังอะไรเลยค่ะดูมันไม่แน่นอนเลยซักอย่าง จากคุณ : ++!!PIGGAPOI!!++ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:52:13

ความคิดเห็นที่ 50 การเรียนระดับมหาวิทยาลัยขึ้นอยู่กับตัวเองเป็นหลักนะคะ สถาบันทั้ง 2 ที่นี้   ส่วนตัวถือว่าอย่างน้อยผ่านเกณฑ์คุณภาพ  สร้างคนดีๆมาเยอะทั้งคู่ เพราะฉะนั้นถ้าจะวัดเฉพาะเรื่องวิชาการเราว่าไม่น่าต่างมาก น่าจะขึ้นอยู่เป็นรายบุคคลไปมากกว่า ทีนี้ถ้าจะมีปัญหาก็จะเป็นเรื่อง lifestyle มากกว่าค่ะ ที่ดูแล้วทั้งสองสถาบันจะค่อนข้างต่างกัน  (แต่จริงๆแล้วอยากจะบอกว่าสองสถาบันนี้นี่ส่วนใหญ่สังคมจะคาบเกี่ยวกันเยอะนะ รู้จักๆกันเกือบทั้งนั้นอ้ะ ถ้าอยู่จุฬา จะมีซักกี่คนเชียวที่ไม่มีเพื่อนอยู่มธ. กลับกันก็ด้วยค่ะ)  เลือกสถานที่ที่เค้าเลือกเองและคิดว่าเหมาะกับเค้าเถอะค่ะ   คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยากนะ  อยู่ให้มีความสุขดีกว่า   ..........การเปลี่ยนจากสังคมร.ร.มาเป้นสังคมมหาวิทยาลัย นี่มันก็เป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งในชีวิตนะคะ   มันเหมือนซื้อหวยแหละ ถ้าเจอดีก็ดีไป เจอไม่ดีก็ซวยไปเลย (เห็นมาแล้วทั้งสองแบบ)   เพราะฉะนั้น ถ้าเค้ามีเพื่อนอยู่ที่จุฬาเยอะและคุ้นเคยกับสังคมเก่าๆหรือพอใจแล้วเค้าอาจจะไม่อยากเปลี่ยน (เผลอๆจะมีเรื่องแฟนด้วยหรือเปล่าคะ ^^) ก็ลองพิจารณาตรงจุดนี้ดูละกันค่ะ ชั่งน้ำหนักดีๆ จากคุณ : ** Riviera ** เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 03:25:39

ความคิดเห็นที่ 51 ซาบซึ้งใจจริง ๆ มีน้อง ๆ เข้ามาตอบกันอุ่นหนาฝาคั่ง ลูกสาวน้าตัดสินใจแล้วค่ะ ยังไงก็จะสละสิทธิ์ จะได้ไม่ไปเบียดบังที่คนอื่น ดูเธอมั่นใจมาก คิดว่าสอบแอดกลางไม่ได้จุฬาฯ ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา น้ามีหน้าที่สนับสนุน และเป็นหน่วยบำรุงกำลัง คิดเหมือนหลายคนค่ะ ว่าจะได้ไม่มาโทษพ่อแม่ และไม่คาใจไปอีกนาน น้ามาคิดว่าแล้วในชีวิตมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องเจอะเจอกับสภาพการที่ต้องเลือกหรือตัดสินใจเช่นนี้ คิดไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็จะยอมรับ ไม่ได้ก็ไม่ซ้าเติม ประเด็นหลักจริง ๆ แล้วอยู่ที่เค้าผูกพันกับเพื่อน ไม่อยากอยู่หอ ยึดติดกับสถาบันเท่านั้นค่ะ เรื่องแฟนไม่มีค่ะ ขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่เข้ามาตอบค่ะ ขอบคุณ จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 09:51:56

ความคิดเห็นที่ 52   อยากจะเข้ามาตอบอีกครั้ง เผอิญเพิ่งจำได้ถึงเรื่องที่พ่อผมสอนเเล้วก็เล่าให้ฟัง เรื่องที่คนทั่วไปชอบบอกว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน คือพ่อผมซึ่งเรียนหมอเหมือนกันเนี่ย เคยเเนะนำผมตอนที่ผมลังเลว่าจะเลือกเรียนหมอที่ไหนดีระหว่างจุฬา กับ อีกที่หนึ่งที่มีชื่อพอๆกัน พ่อก็บอกว่าเรียนที่ไหนก็กันไม่จริง เเต่ละที่มันไม่เหมือนกันหรอก ไม่ใช่ไม่เหมือนกันในเเง่คุณภาพนะครับ คือทุกมหา'ลัยก็มอบเเต่สิ่งดีๆเเละหวังให้การศึกษาที่ดีกับนิสิตอยู่เเล้ว เเต่พ่อผมบอกว่าการเลือกเรียนมหา'ลัยมันต่างตรงที่การส่งผลเป็นchain of event ให้กับชีวิตที่คุณต่างกันต่างหาก อย่างพ่อผมตอนจะสอบเรียนหมอเคยลังเลระหว่างเเพทย์ จุฬา กับเเพทย์อีกที่หนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงพอๆกัน สุดท้ายพ่อผมก็เลือกจุฬาฯ ในนาทีสุดท้าย เเล้วที่จุฬานี่เองที่ทำให้พ่อได้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่เป็นเเรงบันดาลใจให้พ่อ อยากเป็นเเพทย์ทางนิติเวชศาสตร์ เเล้วที่จุฬานี่เองที่ทำให้พ่อได้เจอเนื้อคู่ คือ สาวคณะอักษร (ซึ่งก็คือเเม่ผมน่ะเเหล่ะ) เเล้วก็ทำให้มีลูกเป็นผมออกมา เหอๆ คือถ้าสมมติพ่อไปเรียนหมออีกที่ก็จะไม่ได้เจออาจารย์ที่เป็นเเรงบัดาลใจให้พ่อเป็นหมอนิติเวช ซึ่งพ่อมีความสุขมากกับอาชีพนี้ ณ ปัจจุบัน ถ้าไม่เรียนจุฬา พ่ออาจไม่ได้รู้จักกับเเม่ เเล้วผมก็อาจไม่ได้เกิดมา พ่อบอกว่าเนี่ยเเหละคือchain of event เเค่การตัดสินใจหนึ่งของคนสามารถส่งผลกระทบต่อไปยังอีกเหตุการณ์หลายๆอย่างในชีวิตของเขา เพราะฉะนั้นพ่อเลยบอกว่าอยากให้ผมเลือกเอง คิดดีๆว่าจะเลือกเรียนที่ไหน เเล้วสุดท้ายเรื่องที่พ่อเล่าก็ทำให้ผมตัดสินใจเลือกจุฬา ในที่สุด เพราะเห็นพ่อกับเเม่จบจุฬาด้วยมั้ง เลยเป็นเเรงบันดาลใจให้เข้า สถาบันเดียวกับพ่อเเละเเม่(เห็นมั๊ยครับ ผมว่านี่ก็เป็นอีกchain of event ถ้าพ่อผมไม่ได้เลือกเรียนจุฬา ผมก็อาจไม่มีเเรงบันดาลใจให้เข้าจุฬา เเล้วก็ไปเข้าเรียนที่อื่นเเทนก็ได้...) นั่นเเหละครับผมเลยคิดว่าน้องน่าจะตัดสินใจเองดีที่สุด การเลือกเรียนมันส่งผลเป็นchain of event ในอนาคตคุณได้จริงๆนะครับ จากคุณ : TU67 MD_CU63 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:22:59 A:58.10.195.50 X: TicketID:209803

ความคิดเห็นที่ 53 ผมละอยากได้ มธ. จนตัวสั่น นี่ยังไม่ประกาศคณะอื่นเรย ลูกสาวพี่ยีดติดกับสถาบันมากไป ฬ ก็ดี แต่ใช่ว่าที่อื่นไม่ดี มธ.ก้ออันดับต้นๆ จบมาหางานง่ายเหมือนกัน สตาร์ทเงินเดือนเท่ากันแหละคับ แอดกลางอย่าไปเสี่ยงเรยถ้าคะแนนไม่สูงมากพอ เพราะปีนี้คะแนนเฟ้อมากกก จากคุณ : หัวโตแมน เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 15:08:16

ความคิดเห็นที่ 54   ก่อนอื่นขอชมนะครับว่าลูกสาวของคุณน้าเรียนเก่งใช้ได้ และเป็นเด็กที่มีความมุ่งมั่นสูง ผมว่าคุณน้าต้องลองสอนน้องเค้าใหม่นะครับว่าอย่าไปยึดติดอะไรให้มันมากไป เพราะยิ่งยึดติดก็ยิ่งเป็นคนอ่อนไหวทางอารมณ์ (เด็กๆเป็นกันเยอะสมัยนี้) ต้องพยายามสอนให้น้องไปเจอสังคมใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผมว่าสิ่งนี้จะทำให้น้องเค้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทั้งสองสถาบันเป็นสถาบันที่ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ตัวบุคคล ถ้ามีโอกาสแล้วพลาดไปทั้งคู่ก็น่าเสียดายครับ แต่ก็ดีครับปล่อยให้เค้าคิดและตัดสินใจด้วยตนเอง แต่พ่อแม่ก็ต้องคอยประคองอย่าให้มันสุดกู่จนเกินไป ให้เหตุผลกับเค้าบ้าง (เพราะวัยรุ่นตัดสินด้วยอารมณ์โดยไม่รู้ตัว) ถ้าน้องตัดสินใจเลือกทางเดินแล้ว และได้พูดคุยกับพ่อแม่แล้ว ผมว่าทางที่ดีคุณน้าก็ลองหาที่เรียนเผื่อน้องเค้าด้วยก็ดีครับเพื่อพลาดหวังในสิ่งที่หวังไว้ เช่น เอแบค เป็นต้น ผมว่ามันก็ดีนะ ถ้าน้องเรียนบัญชีแล้วได้ภาษาอังกฤษ + มีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในหน้าที่การงาน รับรองรุ่งครับ โกอินเตอร์ไม่รู้ตัว แต่ถึงตอนนั้นจะมาติดเพื่อนแบบนี้ไม่ได้แล้วนะครับ :) จากคุณ : earkark เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 16:33:57

ความคิดเห็นที่ 55   มุ่งมั่นนะดีแล้ว เป็นกำลังใจให้ลูกน้าด้วย ตั้งใจอีกนิด จุฬา ไม่ไปไหนหรอก ดีกว่าพวกหลักลอยไปวันๆ จนกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ด้อยค่า ผู้ใหญ่สมัยนี้บางคน แก่ขนาดหัวหงอกแล้ว ยังให้เด็กๆ มาถอนหงอกกันอีก จะว่าเด็กอะไร มองตัวเองซะก่อน ไม่ใช่เป็นคนแก่ที่ขี้อิจฉาริษยาเด็กไปวันๆ จากคุณ : icutou เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 15:57:47 A:125.27.25.100 X: TicketID:138818

ความคิดเห็นที่ 56 ก่อนอื่นก็ต้องแสดงความยินดีกับลูกคุณ พลอยแหวนแสนสวย ด้วยนะคะที่ติด มธ. หนูก็ติดคณะนี้เหมือนกันค่ะ ถ้าในความเห็นของหนู กรณีที่ลูกคุณน้าอยากเรียนที่จุฬาก็อย่าไปบังคับเลยค่ะ เพราะเขาจะไม่สบายใจเปล่าๆ เวลาเรียนก็ลำบากใจ จากที่สอบถามรุ่นพี่มา ทั้งสองม.ก็มีสังคมที่แตกต่างกันมากอยู่ และในวันสอบสัมภาษณ์ที่มธ. ท่าพระจันทร์ หนูไปเข้าห้องน้ำแล้วเจอเด็ก ตอ.3คน คุยกันถึงเรื่อง จุฬา หรือ มธ. ดีกว่า โดยทั้ง3คน จบบทสนทนาด้วยประโยคว่า "ถ้าได้ที่นี่ก็ไม่เอาอยู่ดี จะเรียนจุฬา" ความรู้สึกตอนนั้นบอกได้เลยว่า เสียความรู้สึกมากๆเลยค่ะ คณะนี้ยังมีเพื่อนหนูอีกหลายๆคนที่อยากเรียนมาก แต่ก็ไม่ติด ธรรมศาสตร์ คือ ความหวังของหลายๆคน ไม่ใช่ที่สำรองสำหรับคนไม่ติดจุฬาฯ หนูก็เป็น1ในนั้น อยากเรียนมธ.มาตั้งแต่ขึ้นม.4แล้ว แต่หนูอาจจะเป็นคนโชคดีที่สอบติด แล้วคนอื่นๆล่ะคะที่เขาผิดหวังจากที่นี่ เค้าจะรู้สึกอย่างไร ถ้ารู้ว่าคนที่ติดบางคนยื่นที่นี่ไว้เพื่อสำรอง หนูอาจจะตอบไม่ค่อยตรงประเด็น แต่ก็อยากได้เพื่อนร่วมคณะที่อยากเรียนที่นี่จริงๆ และมีความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นะคะ แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 53 23:08:05 จากคุณ : MINNYMOCHA เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 23:07:37

ความคิดเห็นที่ 57 บัญชี-บัญชี จุฬาปีนี้คะเเนนสูงมากนะ 7800+ต่ำสุด อันนี้รอบตรงรับ175คน รอบเเอดกลางรับ75คน คะเเนนคงจะเฟ้อมาก อยากไห้ลองมาเรียนมธ.จังง เราว่า เตรียมฯกะมธ. ก็คล้ายกันนะ TU กะ TU ^^ จากบัญชี มธ.53 จากคุณ : Duke Member (Duke Member) เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 13:24:59

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาตอบค่ะ ขอจบกระทุ้นะคะ ถ้ามีความคืบหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่ค่ะ จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 17:08:18

ความคิดเห็นที่ 59 ฝันให้ไกล และก็ไปให้ถึงนะครับ จากคุณ : atpp007 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:39:54

ความคิดเห็นที่ 60 เข้าใจอารมณ์เด็กเตรียมค่ะ เพราะเราก็เคยมีโมเมนท์นั้นเหมือนกัน (รุ่น 63) คะแนนแบบก้ำกึ่ง จุฬาแต่ได้มธ. แน่นอนถึงปากจะบอกว่าเรียน มธ.ก็ได้ฟระ แต่ใจก็อยากเรียนจุฬามากกว่า เพราะไม่อยากอยู่หอไกลก็ไกล ลุ้นสุดๆ  และตอนนั้นก็เลือกจุฬาอันดับ 1 คณะเดียว นอกนั้น มธ.หมดเลย สุดท้ายอยากจะบอกว่า ดีใจ ภูมิใจ และสุขใจมากที่ได้เรียนจุฬาค่ะ จากคุณ : Tikky (tikkyneko) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 14:06:35

ความคิดเห็นที่ 61   ขอแจมด้วยคนได้ไหมครับคุณแม่.. กรณีของน้องนี่คล้ายๆของผมเลยครับ คือผมเองเป็นคนที่อยากเข้าจุฬาฯมากถึงมากที่สุดเลยครับ.. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิศวฯ จุฬาฯ (นาโน หรือ การบินฯ อินเตอร์) ในปีที่แล้ว โดยที่ผมไปสอบ SAT CU-TEP CU-AAT ไว้เสียจนผ่านหมด ใช้เวลาราวๆเกือบ 2ปี ..คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก คง(น่าจะ)ติด เพราะปีที่ผ่านๆมารุ่นพี่รร.เก่าผม(อัสสัมฯ บางรัก) ก็ได้คะแนนกันราวๆนี้ครับ.. อีกทั้งยังบอกด้วยว่าคะแนนอย่างนี้น่าจะติดแน่นอนไม่ภาคใดก็ภาคหนึ่งในวิศวฯ จุฬา (อินเตอร์).. แต่ดันโชคไม่ดีที่ปีที่ วิศวฯ จุฬา อินเตอร์ แล้วมีการเปลี่ยนเกณฑ์กระทันหัน.. นั่นก็คือไม่รับ SAT (เด็กที่จบจากรร.ไทย) ซวย...!! แผนสำรองก็ดันไม่มีอีก.. เพราะผมดันลืมสมัคร พฐ. วิศวฯ ไว้อีกเสียด้วย.. ซวยสองต่อครับ.. ทีนี้ผมก็คุยกับพ่อแม่ดูว่าจะย้ายไปเรียนสาขา คณะอื่นๆ ดีไหม(อาทิ EBA BBA BE) แล้วรอซิ่วอีกปีหนึ่ง(นั่นคือปีนี้ครับ) แต่ครอบครัวผมเองค้านพอสมควร.. เพราะท่านอยากให้ผมเรียนวิศวฯ โดยที่ไม่สนเรื่องสาขา-ภาควิชา หรือกระทั่งสถาบัน+สภาพแวดล้อม เอาเสียเลย.. จนแล้วจนรอดผมเองก็มาลงเอยที่ TEP (วิศวฯ อินเตอร์ มธ.)ยื่นเกรด+SAT+สัมภาษณ์ครับ.. โดยที่เรียนที่ มธ.รังสิต 2ปีแรก และ(ถ้าสามารถสอบ IELTS ผ่านเกณฑ์ 6.5)ก็จะได้ไปเรียนที่ Nottingham ที่ UK ใน 2 ปีหลังครับ.. ทีนี้เคสน้องคุณแม่ก็คล้ายๆกับของผมเลยนะครับ.. เพราะน้องเขาอยากเรียนจุฬาฯ มากกว่า ซึ่งผมเองก็เข้าใจในความรู้สึกของน้องเขาครับคุณแม่.. อย่างตัวผมเองหลังจากเข้าไปเรียนได้เพียง 2เดือนเศษ ก็คุยกับพ่อแม่อย่างเปิดอกเปิดใจเลยว่า ผมจะซิ่วไป วิศวฯ จุฬาฯ อย่างแน่นอนครับ ตอนแรกพ่อแม่ก็คัดค้าน.. แต่หลังจากที่ผมอธิบายเหตุผลต่างๆ(ซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจเสียส่วนมาก) ท่านก็เข้าใจ.. และยอมให้ผมซิ่วในปีนี้ได้ครับ อย่างสมัยผมเรียนที่อัสสัมฯ(บางรัก) ผมเองก็อยู่ EP สายวิทย์.. ยอมรับว่าห้องผมเองก็สอบเข้าหลักสูตรอินเตอร์ ม.รัฐ(จุฬาฯ มธ.)ได้เกือบทั้งห้อง.. โดยที่ผมเองเคยไป Open house ของคณะวิศวฯ จุฬาฯ มาแล้วประทับใจมากๆครับ โดยเฉพาะเรื่องของบรรยากาศ(ส่วน มธ. รังสิต ก็ดีครับ แต่รู้สึกแปลก) เพื่อนผมที่สนิทกันต่างก็อยู่จุฬาฯดันเสียครึ่งห้อง.. ส่วนที่เหลือก็เรียนธรรมศาสตร์ แต่ดันเรียนที่ท่าพระจันทร์ (หลักสูตร BBA BMIR BBA)กันเสียหมด เลยเหลือผมเองคนเดียวที่ไปเรียนที่รังสิต.. ทั้งๆที่ผมอยากเรียนที่จุฬาฯมากกว่า.. คะแนนผมเองก็ถึง EBA BSAC INDA หรือ วิทยาฯ จุฬาฯ, บัญชี-บริหาร จุฬา ตอน Admission กลางด้วยนะครับ เพียงแต่ไม่มีโอกาสยื่น วิศวฯ จุฬา เพราะไม่มี พฐ. วิศวฯ ส่วน วิศวฯ อินเตอร์ จุฬาฯ นั้นผมแทบเลิกคิดเลยครับ.. เพราะเขาดันไม่รับ SAT ของเด็กนร.ที่จบจากรร.ไทย.. น่าเศร้ามากๆครับ.. โดยเจอหน้าเพื่อนผมทีไร ผมเองก็รู้สึกมีบางอย่างอยู่ในตัวเองอย่างบอกไม่ถูกเวลาที่เพื่อนๆเขานัดรวมห้องหรือ Meeting กันน่ะครับคุณแม่.. เหมือนกับว่าเขาเรียนที่เดียวกันผมเป็นคนนอก.. บวกกับผมเองก็รู้สึกอิจฉาในสิ่งที่เพื่อนๆเขาได้ทำ(เรียนที่จุฬาฯครับ) ในขณะที่ตัวผมเองถูกพ่อแม่ยับยั้งไว้.. จนกระทั่งผมเองได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าตนจะทำในชีวิตนี้ นั่นก็คือ ซิ่ว..เข้าจุฬาฯ อีกปีครับ (เพราะที่ TEP มธ. รังสิต นี่เหมือนพ่อแม่ยัดเยียดให้เสียมากกว่า.. แต่สุดท้ายท่านก็เข้าใจผมครับคุณแม่) ตอนนี้คะแนนต่างๆ CU-AAT, CU-TEP, CU-ATS เป็นที่น่าพอใจครับ.. คิดว่าไม่น่าพลาดอย่างปีที่แล้ว.. แต่ถึงพลาดผมก็จะพยายามต่อไปครับ.. ตัวผมเองอยากเรียนที่จุฬาฯ มากถึงมากที่สุด.. ยังลูกของคุณแม่ก็ยังเป็นเด็กที่เก่งมากๆครับ.. สอบเข้าเตรียมฯ(TU70)ได้ รวมทั้งสามารถสอบ Smart-1 ผ่านจนผ่านการคัดเลือกเข้าเป็น 1ใน 345 คน ของจำนวน ว่าที่นักศึกษาของ มธ. ที่เข้าไปได้.. ผมว่าให้ลูกคุณแม่เลือกเองน่ะครับ.. จริงอยู่ที่หลายๆคนอาจจะบอกกับผมว่า "เรียนที่ไหนก็เหมือนกัน" นั่นก็ถูก.. แต่ผมคิดว่า Culture หรือวัฒนธรรม ของแต่ละที่นั้นต่างกันทีเดียวนะครับ อย่างนิติฯ มธ. กับ นิติ จุฬาฯ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหัวกระทิของประเทศในสาขากฎหมาย ก็ยังต่างกันเลยนะครับ.. อย่างจุฬาฯ จะเน้นไปทางด้าน Law Firm หรือกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้ง ที่จุฬาฯเรียน Eng เยอะกว่า มธ. บวกกับที่นี่มีสอบกลางภาคด้วย(ในขณะที่ มธ. สอบ ปลายภาคแล้ววัดกันเลย..) นิติฯ จุฬาฯ นั้นจำนวน นิสิต ไม่มากเท่ากับ มธ. ครับ ราวๆ 200 -250คนต่อรุ่น ในขณะที่ของ มธ. มี นศ. ราวๆ 500 กว่าคนต่อรุ่น.. จุฬาฯเรียนที่สามย่าน.. มธ. เรียนที่รังสิตครับ..(อยู่หอพักก็อารมณ์สนุกดีไปอีกแบบนะ..) ..จุฬามีประเพณีนิยมนั้นก็คือ การแต่งกายชุดนิสิตที่เป็นเอกลักษณ์ของนิสิตจุฬาฯ(กระทั่งมองจากด้านหลังก็ทราบว่า คนนี้เป็น นิสิต จุฬาฯ ครับ) ในขณะที่มธ. ค่อนข้างอิสระในการแต่งกาย.. สามารถใส่ไปรเวทไปเรียนได้ ในขณะที่วันสอบต้องแต่งชุด นศ. มาครับ... ส่วนคณะสายวิทย์ของ มธ.ส่วนใหญ่เน้นใส่ชุด นศ.หรือชุดปฏิบัติการมากันมากกว่านะครับ.. ทั้ง 2 มหา'ลัยต่างก็เป็นสถาบันชั้นนำของประเทศครับ.. ยังไงผมอยากให้ลูกคุณแม่ลองตัดสินใจดูเองนะครับ.. ทางที่ดีลองพาน้องเขาเข้าไปดูบรรยากาศของแต่มหา'ลัยที่กล่าวมาจะดีมากๆครับ หากเขาชอบบรรยากาศจุฬาฯ จริงๆ ก็ให้เขาไปลุย'สนามสอบ Admission เถอะครับ.. เชื่อผม..!! น้องเขาทำได้แน่นอนครับ..(ถ้าไม่ติดจริงๆ ผมแนะว่าควรดูหนทางว่า น้องอยากจะซิ่ว หรือเรียนที่ ม.อื่นๆไปเลย.. ตามนี้ครับ) ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ.. ปล. อยากทราบอะไรเพิ่มเติมก็ถามในกระทู้นี้ได้นะครับ.. ว่างๆผมจะเข้ามาดูเป็นระยะ.. จะได้ช่วยเคลียร์ความกระจ่างให้แก่คุณแม่ด้วยนะครับ.. จากคุณ : Nat Assump เขียนเมื่อ : วันเด็กแห่งชาติ 53 01:37:48 A:58.11.75.12 X:

ความคิดเห็นที่ 62   น่าเสียดายแทนคนที่ตั้งใจจะเข้า คณะบัญชี มธ. แต่เข้าไม่ได้ เพราะคะแนนอาจจะน้อยกว่าคะแนนต่ำสุดแค่นิดเดียว ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง เรียนไม่ได้ แต่อาจเป็นเพราะมีจำนวนคนได้คะแนนเยอะกว่าเขา เกินกว่าที่ มธ. รับ คนที่ได้ก็ดันไม่เอา ก็ดีเหมือนกัน มธ.จะได้มีแต่คนที่อยากเรียนเท่านั้น อยากให้บอกต่อ ๆกันไปด้วย ถ้าไม่ตั้งใจจะเข้าก็ไปสอบเพื่อดูคะแนน ก็พอ ไม่ต้องยื่นคะแนนสมัครกันที่คนอื่นที่เขาตั้งใจจะเข้า ( โดยเฉพาะคนทีคิดว่า " ถึงได้ก็ไม่เอา " เพราะมันก็เป็นจุดเปลี่ยนอนาคตของคนอื่นเช่นกัน ส่วนมากจะเห็นเด็กเตรียม ๆได้แล้วก็ไม่เอา กันที่คนอื่น เรารู้ว่าเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ได้แต่หวังไว้ว่ารุ่นน้องต่อ ๆไป คงจะไม่เจอแบบนี้ ขอเป็นกำลังใจให้คนที่อยากเข้า มธ. ทุกคน และ ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ถึงแม้บางคนอาจจะไม่ได้ มธ. อย่างที่ตั้งใจ จากคุณ : ผู้ปกครอง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 20:24:09 A:124.120.190.109 X:

ความคิดเห็นที่ 63 อยากให้เด็กสมัยนี้มาสัมผัส ระบบ Entrance จัง แล้วจะรู้ซึ้ง ว่าการมีที่เรียนมันดีเพียงไหน สมัยก่อนรับตรงก็เปิดกันน้อย-ยังไม่มี ถึงมีก็ต้องตามข่าวกันเอง ไม่มีโฆษณาทางสื่อมากอย่างเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้ เปิดเข้าเวบของคณะก็เจอประกาศรับตรง สมัยก่อนเด็กต้องตามเอาเองหมดทุกอย่าง Entrance ก็ต้องเลือกที่ๆจะเข้าไว้เลย ไม่มีสิทธิ์ที่จะมารู้คะแนนแล้วค่อยมายื่นแบบนี้หรอก พูดง่ายๆ ความเสี่ยงที่จะไม่มีที่เรียนเยอะกว่าเดี๋ยวนี้เยอะ พวกที่สอบไปโดยที่ไม่ได้คิดจะเรียนจริงๆจังๆ หรือไม่ได้ชอบในสาขานั้นๆจริงๆ แล้วไปเบียดเบียนโควต้าของคนอื่นนี่ผมถือว่าคนพวกนี้แล้งน้ำใจมาก ยังไงก็เชียร์คุณ จขกท ให้น้องเค้าตัดสินใจเองดีที่สุดแล้วครับ จากคุณ : ผ่านมาบ่น (Giana) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 15:57:04

ความคิดเห็นที่ 64   อยากจะบอกว่า คิดให้ดีนะครับ คิดหลายๆทาง ส่วนตัวผมชอบจุฬามากครับ ผมอยู่วิศวะ อยู่ต่างที่กัน สังคม สิ่งแวดล้อม หลักสูตร การเรียน ก็ต่างกัน ความคิดของค่านิยมของที่นั้นๆก็ต่างกัน ประเภทของคนที่จะเจอ อัตราการแข่งขัน ก็ต่างกัน โอกาสการไปเรียนต่อในอณาคต การทำงานก็ต่างกัน ผมอยากให้การตัดสินใจเป็นอำนาจของลูก เพราะเขาจะรักและภูมิใจกับสิ่งที่เขาเลือกมากกว่า มีแรงบันดาลใจในการเรียนมากกว่า ผมชอบสังคมที่จุฬามากครับ สอนให้ผมมีน้ำใจไมตรี จากคุณ : อินทาเนีย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 00:25:01 A:58.11.66.138 X:

ความคิดเห็นที่ 65   ผมว่า ค.ห. 9 คุณคงไม่รู้อะไรเลยว่าสถาบันที่ต่างกันย่อมสอนค่านิยมประเภณีอะไรต่างกัน สภาพกับการแข่งขันต่างกัน เมื่อเราจบไปมันย่อมมีอะไรติดตัวไปต่างกัน แต่เราอาจจะมองไม่เห็นและแยกแยะกันไม่ออก เพราะมันอยู่ในความคิดลึกๆ ซึ่งส่งผลต่อพฤติกรรมความคิด และอณาตคอย่างแน่นอน จากคุณ : รักสถาบัน เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 00:43:56 A:58.11.66.138 X:

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วยกับความเห็นที่ 61 ค่ะ  ขอให้เข้าวิศวฯ ได้ตามที่หวังนะคะ ขอชมอีกเรื่อง พี่เขียนหนังสือดีจัง แล้วก็เขียนยาวมากๆ ด้วย แสดงถึงความเอาใจใส่และมีน้ำใจดีมากค่ะ ส่วนตัวก็อยู่เตรียมฯ เหมือนกัน (TU71) เป็นรุ่นน้องลูกของคุณแม่นะคะ กรณีนี้รุ่นพี่หลายๆ คนก็มีปัญหเหมือนกัน อย่าว่าแต่ธรรมศาสตร์เล้ย รับตรงอักษรงี้ เลือกแต่สุดท้ายก็ไม่เอา ตัดสิทธิ์คนอื่นไปซะงั้น น่าสงสารคนที่เค้าอยากเข้ามากๆๆ แต่เข้าไม่ได้นะคะ อักษรนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เห็นว่าไม่รับ admission แล้วด้วย รับแล้วรับเลย พอแค่นั้น แต่ลูกคุณแม่เลือกไปแล้ว ถ้าจะไม่เอาก็สิทธิ์ของเค้านะคะ แต่ว่าเป็นอุทธาหรณ์ให้คนอื่นๆ ที่อ่านอยู่บอกต่อกันด้วยว่าการกระทำอย่างนี้เป็นการตัดสิทธิ์คนอื่น น่าสงสารเค้าเหมือนกัน คนเราอยู่ร่วมกันในสังคม คิดเผื่อคนอื่นบ้างก็ดีนะคะ ส่วนเรื่องมหาวิทยาลัย ไม่อยากให้เปรียบเทียบเลยว่าที่ไหนดีกว่ากัน เพราะจริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับคนมากกว่าว่าอยากเรียนที่ไหน ถ้าคนเก่ง เรียนที่ไหนก็เก่งค่ะ น่าจะดูที่สภาพแวดล้อม สภาพสังคมมากกว่า ว่าตัวเองเหมาะกับที่ไหน คุณแม่ก็ลองคุยๆ กับพี่เค้าดูแล้วกันค่ะ ถ้าเลือก ก็เลือกที่มีความสุขดีกว่าเนอะ ส่วนตัวแล้วมีพี่ผู้ใหญ่ที่รู้จักหลายคน เห็นว่าความสำเร็จในชีวิตมันไม่ได้มาจากมหาวิทยาลัยอย่างเดียวนะคะ มันอยู่ที่จังหวะ โอกาส ความสามารถ และอื่นๆ (เช่น เส้นสาย) ในบางกรณี จบมหาวิทยาลัยนี้ๆ มา.. ไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จทุกคนหรอกค่ะ จากคุณ : TON AMIE เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 19:14:35

ความคิดเห็นที่ 67 นึกว่าจบกระทู้ไปแล้ว ยังมีคนมาแสดงความคิดเห็น ขอบคุณมากค่ะ ความคิดเห็นดี ๆ ทั้งนั้น น้าเองจบ ม ธ มา ภูมิใจในสถาบันเหมือนกัน แต่น้องเขาชอบจุฬาฯ ก็ต้องให้เขาลองก่อนค่ะ จากคุณ : พลอยแหวนแสนสวย เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 19:18:07