ความคิดเห็นที่ 1 มารับฟังอีกแง่มุมนึงครับ จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:18:08

ความคิดเห็นที่ 2 มารับฟังค่ะ เข้าใจความรู้สึกน้องก้อยค่ะ แต่เรื่องนั้นความจริงจะเป็นยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ จากคุณ : -+-JuStThEgIrL-+- เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:25:50

ความคิดเห็นที่ 3 อืม.. รับฟังค่ะ ปล. เคยเข้าไปมาเหมือนกันนะคะ บ้านครูน้อย ^^~ จากคุณ : prichgirl เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:36:10

ความคิดเห็นที่ 4 ครับ จากคุณ : gookie_dy (HS9YLO) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:37:23

ความคิดเห็นที่ 5   เข้ามารับฟังด้วยค่ะ จากคุณ : maomaojung เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 13:45:05

ความคิดเห็นที่ 6 ูู^^ ุ เคยไปบ้านครูน้อยมา เมื่อตอนอยู่ปีหนึ่ง อืมมมมมมม ความเห็นส่วนตัว เรื่องของครู เราไม่รู้ แต่สิ่งเดียวที่เรารู้คือ เราไปเพราะเราเต็มใจจะไป เราช่วยเพราะเราเต็มใจจะช่วย เรามีกำลังจะช่วย ถึงครูจะดีหรือเปนยังไง ครูน้อยก็คงดีกว่าเรา เพราะถ้าให้เรา ดูแลเด็ก ช่วยเหลือเด็กแบบครูน้อย เราเอง คงทำไมได้ค่ะ ^^ จากคุณ : ความทรงจำดี~ดี เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:06:27

ความคิดเห็นที่ 7 อยากให้คุณก้อยและคนอื่นๆ ที่เรียนจบมาทำงานแล้ว ได้เงินเดือนมาแล้วก็แบ่งส่วนหนึ่งมาบริจาคให้กับครูน้อยเหมือนเป็นกองทุนก็ได้ จัดตั้งเป็นกองทุนศิษย์เก่าอะไรก็ว่ากันไป เพราะไม่อย่างนั้นทุกคนคิดแบบคุณก้อยแล้วออกหนีหายไปหมด ไม่ได้กลับมาช่วยเหลือคุณครูและอาจจะคิดว่าการที่ออกมาจากบ้านคือเป็นการลดภาระให้กับคุณครู แต่ มันจะต่างอะไรจากการไม่ทดแทนคุณ เรารู้ค่ะ ว่า คุณเองก็คงยังไม่ได้ร่ำรวยถึงขนาดที่สามารถกลับมาให้เงินได้เป็นหมื่นเป็นแสน แต่ อยากให้แสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆ เข้าไปช่วยคุณครูบริหารจัดการเงินให้ดีกว่านี้ ในเมื่อตัวคุณก้อยก็รู้ว่า ครูน้อยเค้ามีปัญหาเรื่องการจัดการเงิน ก็ควรจะเข้าไป ช่วยเหลือ ทำบัญชี รายรับรายจ่ายให้โปร่งใส ง่ายต่อการตรวจสอบ เพราะ การทำบุญในลักษณะไปกู้คนอื่นมาแบบนี้ มันไม่ใช่ทางออกที่ดีค่ะ เราเองก็เข้าใจว่าครูน้อยคงต้องมีจิตสำนึกที่อยากช่วยเหลือเด็กๆ บ้างอยู่แล้ว เพราะว่า หากไม่มีจิตโอบอ้อมอารีย์นี้คงไม่อยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเด็กแต่แรกหรอก แต่ว่า ... การดูแลเด็กหากดูแลไม่ถูกวิธีมีแต่จะนำผลร้ายมาสู่ตัวเด็ก การที่ไม่สั่งสอนอะไรเลยก็จะทำให้เด็กได้รับแต่สิ่งที่ไม่ดีมากกว่า เพราะ สังคมสมัยนี้กิเลศยั่วยุมากมาย จะให้เด็กได้แต่สิ่งที่ดีดีคงยาก และ คงมีส่วนน้อยที่เป็นแบบคุณก้อยที่คิดได้ด้วยตัวเอง รักดีด้วยตัวเอง ฉะนั้น หากคุณก้อยหวังดีต่อครูน้อยจริง ณ วันนี้ เราอยากให้คุณก้อยลองอ่านความเห็น ทั้งในกระทู้แนะนำ ในห้องเฉลิมไทย สยาม และที่ต่างๆว่า เค้ารู้สึกยังไงกับครูน้อย และ นำสารเหล่านี้ไปวิเคราะห์และหาวิธีแก้ไขปัญหาช่วยครูน้อยดีกว่า เพราะ หากว่า คุณก้อยมาเพียงแก้ข่าวอย่างนี้ มันคงไม่ได้แตกต่างอะไรกับการออกมาแก้ตัวแทนเฉยๆ จริงๆแล้ว พวกเราเองเพียงต้องการความโปร่งใสและการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นจากกรณีบ้านครูน้อย เพราะเข้าใจว่า ตอนนี้คงเกิดวิกฤติหนักแล้ว ต้องรีบช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นบ้านครูน้อยคงจะพัง หากครูน้อยยังมีเจตนารมณ์ต้องการดูแลเด็กต่อไป อยากให้นำความเห็นจากเราๆทั้งหลาย นำไปคิด และ นำไปช่วยในการตัดสินใจในการใช้เงินครั้งต่อๆไปด้วยค่ะ อยากถามคุณก้อยอีกเรื่องค่ะ สำหรับเราเรื่องอื่นไม่ได้สำคัญอะไรมาก เพราะ เราเองยังหวังว่าครูก้อยจะนำเงินทุกบาททุกสตางค์ไปใช้ให้กับเด็กจริงๆ แต่อยากรู้ว่า ครูก้อยสปอยล์เด็กนั้นจริงหรือเปล่า ให้เด็กไปเรียนตามมหาวิทยาลัยแพงๆ เอกชน หรือเปล่า หรือเด็กเหล่านั้นได้ทุนไปเรียนเอง จากที่ได้อ่านๆมาเห็นว่า ครูน้อยให้เงินเด็กง่ายมาก อยากเอาไปใช้ทำอะไรก็ให้หมดโดยไม่ได้ดูว่าสมควรหรือเปล่า แค่มองว่าอยากให้เด็กทัดเทียมกับคนอื่นเค้า แล้วหากว่า เด็กของครูน้อยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกคนรวยๆ อยากได้ตุ๊กตาบลาย งั้นไม่ต้องซื้อบลายให้เลยหรอ เด็กบางคนเห็นได้เงินจากพ่อแม่อยู่แล้วก็ยังมาขอครูน้อยอีก ครูน้อยรู้เรื่องนี้หรือเปล่า เพราะว่า ขนาดคนนอกรู้ ครูน้อยจะไม่รู้เหรอ หรือ แค่ใจอ่อน เห็นเด็กขอร้องอะไรก็ให้ รู้ไหมค่ะ ที่ๆตอนนี้เราไปสอนประจำหนะ เราอยากซื้อของให้เด็กจะตาย แต่พี่ที่เค้าดูแลที่นั่นเค้าบอกว่าไม่ควร อยากให้มาสอนเฉยๆ เด๋วเด็กจะติดนิสัยว่ามีคนมาแล้วต้องได้ แล้วจะเอาอย่างเดียวโดยที่ไม่คิดมาพี่พี่เค้ามาสอนเท่านั้น เราเองเลยไปสอนเฉยๆไม่ได้เอาอะไรไปให้ น้ำก็ให้เด็กกินน้ำเปล่า กระดาษดินสอที่ใช้ก็ให้ใช้อย่างประหยัด ไม่งั้นก็โดนดุ แล้วก็ไม่ให้ทำอะไรตามใจตัวเอง เพราะ เด็กจะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ไม่เชื่อฟังครู และก้าวร้าว พูดตรงๆหากครูน้อยต้องการเลี้ยงเด็กจริงๆ ควรเรียนรู้วิธีสอนเด็กให้มากกว่านี้เพราะอย่างที่บอกมันจะกลายเป็นการหวังดีประสงค์ร้าย คือหวังจะช่วยเด็ก แต่เด็กจะกลายเป็นคนขี้ขอ หรือรอความช่วยเหลือไปจนตาย เหมือนคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น กระโดดลงไปช่วยคนที่จมน้ำ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 08:42:56 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 14:45:11 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 14:17:04 จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:06:50

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นส่วนใหญ่เอนเอียงไปเช่นไร คนที่เข้ามาอ่านใหม่ก็จะเอียงไปทางด้านนั้น  เราเองคิดว่า ไม่ควรโจมตีครูน้อยท่านมากเกินไปอ่ะค่ะ  อยากให้ชาวพันทิปเราพูดในฐานะที่อยากช่วยเหลือครูน้อยมากกว่า.. อย่าไปจับผิดท่านเลยค่ะ   เราว่าครูน้อยไม่ผิดหรอกค่ะ แค่ไม่รุ้.. เหลืออยู่ที่ว่าใครจะเข้าไปบริหาร จัดการเรื่องเงินให้ท่าน..  ท่านทำดีมานานแล้วค่ะ  อย่าให้เรื่องนี้ หรือการโจมตีครั้งนี้ ทำให้เสียชื่อเลยนะคะ จากคุณ : ปลาบู่จัง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:12:44

ความคิดเห็นที่ 9 ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำความเห็นที่ 7 เป็นคำแนะนำที่ดี มากๆ ค่ะ เราก็อยากจะช่วยครูเข้าไปบริหารการเงิน แต่ครูก็คงไม่ยอม เราถึงได้บอกไงค่ะ ว่าเราไม่ทราบจริงๆ ว่าครูได้นำเงินส่วนนี้ ไปใช้ยังไงบ้าง เราก็ออกมาตอบแค่ที่เรารู้ แต่เราไม่ได้ตั้งใจที่ตจะออกมาแก้ตัวให้ครูน้อยนะค่ะ เราก็แค่อยากแสดงความเห็น ความรู้สึกที่เรามีต่อครูก็เท่านั้นเอง ส่วนที่เราตอบคำถามนั้น บางอย่างเรารู้เราก็อยากตอบให้ ส่วนเรื่องตั้งกองทุนนั้น เราก็เห็นด้วยนะค่ะ เรารู้ว่าถ้าเราจัดตั้งไปครูก็ไม่ยอมรับเงินของเราหรือของเด็กเก่าๆ ที่ออกไปหรอกค่ะ แต่เราจะพยายามเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นๆ แทน เพื่อครูจะยอมรับ การทดแทนของเราอาจจะไม่ดีแต่เราไม่อยากไม่ภาระให้ครู มากไปกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทดแทนนะค่ะ ส่วนเรื่องกระทู้แนะนำที่ห้องต่างๆ เราอ่านมาแล้วค่ะ เราถึงได้รู้ว่าทุกทนคิดไม่เหมือนกัน เราถึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เราแค่อยากแสดงความเห็นก็เท่านั้นเอง จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:46:11

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นใจครูน้อยครับ จากคุณ : No looking back เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:52:34

ความคิดเห็นที่ 11 เข้ามารับฟังความเห็นอีกด้านครับ ทีนี้ก็รอดูความจริงกันต่อไป ปล. เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน แต่อยากให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นทุกๆคนครับ จากคุณ : poggi (Poggi) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 14:52:45

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมครูน้อยถึงไม่ยอมให้ใครเข้าไปช่วยจัดการการเงินให้ล่ะ ทั้งๆ ที่ครูเองก็ทำไม่ได้ ไม่เคยมีบัญชีอะไรเลย คุณก้อยลองเอาไปปรึกษาครูน้อยดูนะ ถ้าทำบัญชีขึ้นมาแล้วจะรู้เลยว่าเงินมันหมดไปกับอะไร แล้วเรื่องให้เงินแม่บ้าน 1,500 ต่อวันเป็นอย่างต่ำจริงหรือไม่ ทำไมถึงให้เยอะขนาดนั้น  รวมทั้งเรื่องแบ่งเงินบริจาคไปให้ลูกชายแต่งเมียอีก อันนี้ครูน้อยพูดเอง  ให้เงินเด็กวันละ 100 บาทไปโรงเรียนจริงมั้ย ทำไมต้องให้เยอะขนาดนั้น  มีเรื่องอีกเยอะเลยล่ะ ไปอ่านกระทู้ที่เฉลิมไทย http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8859481/A8859481.html ครูน้อยยินดีให้ตรวจสอบทรัพย์สินของครอบครัวหรือไม่ เพราะมีคำครหาว่าลูกชายเอาเงินไปซื้อที่ดินและรถป้ายแดง แล้วก็มีคนบ่นมาเยอะมาก ถ้าใครเงินน้อย ครูน้อยจะไม่มองหน้าเลย แต่ถ้าดาราหรือคนเงินเยอะๆ มา จะพินอบพิเทาเป็นพิเศษ ทำไมถึงทำอย่างนั้น คุณก้อยเคยเอาเงินมาช่วยครูน้อยบ้างมั้ย ไม่ใช่ว่าแค่ออกจากบ้านก็หมดภาระ ในเมื่อคุณทำงานได้แล้วก็ควรกลับไปช่วยบ้าง ร้อยสองร้อยก็ยังดี แสดงให้เห็นว่ามีใจ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 15:48:36 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 15:39:37 จากคุณ : autumn whispers เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:37:31

ความคิดเห็นที่ 13 มีคนอาสาเข้าไปบริหารจัดการให้ตั้งหลายหน แกก็บ่ายเบี่ยง มันส่อเจตนาทุจริตเห็นๆ จากคุณ : ก็ผมมันคนใจดำ (DarkSlayer) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:40:15

ความคิดเห็นที่ 14 ที่ทำให้เรื่องมันมีอีกมิติ เพราะครูน้อยเอง ที่... 1.หลังจากออกรายการเจาะใจ ไม่ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้ง บัญชี และการดูแลเด็ก - มีคนพยายามเข้าไปช่วยเรื่องบัญชีแต่ถูกบอกปัด -ครูหยุย-ครยุ่น(ไม่แน่ใจชื่อ) เคยส่งคนไปช่วยแล้ว แต่ครูน้อยบอกเลิกเพราะเห็นว่ายุ่งยาก -ตัวเองทำไม่เป็น มีคนมาช่วยบอกปัด เพื่ออะไร 2.การจัดสถานที่ ที่ไม่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเลย ทั้งเงินบริจาคเยอะมาก 3.การจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ ไม่แน่ใจว่าได้จดหรือไม่ หรือจดแค่ไหน ทางพม.ได้ให้ปรับปรุงเพื่อเข้าหลักเกณฑ์ ในการขึ้นทะเบียนแบบต่างๆ เพื่อรับสิทธ์ช่วยเหลือตามระดับนั้นๆ ทำแค่ไหนบ้าง 4.เมื่อรู้ว่าค่าใช้จ่ายมาก การได้รับของบริจาคควรใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อเด็กในบ้าน มากกว่าเอาไปขายถูก จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อมาเพิ่ม 5.การให้เงินเด็ก เด็กเรียนปริญญาตรี ให้ทำไม ไปทำงานหาเงินเรียนเองได้แล้ว!!!!!!!! เด็กก็หน้ามึนรับอยู่ได้ไม่ละอายใจบ้าง 6.การสอนเด็ก กิจกรรมภายใน ทำไม คนไปแล้วบอกว่าเด็กๆนั่งๆนอนๆรอเท่านั้น สอนแบบไหนทำไมให้เงินง่ายจัง -มีคนบอกว่าเด็กทำงาน ทำงานอะไรบ้าง งานบ้านทั่วไปจ้างแม่บ้านอยู่แล้วไม่ใช่หรือ -เคยสอนวิชาชีพให้เด็กบ้างหรือเปล่า เราเห็นหลายที่เขาจะมีของ ขายในมูลนิธิ เป็นผลงาน ของเด็ก หรือผู้พิการ ช่วยจุนเจือมูลนิธิทางหนึ่ง บ้านครูน้อยสอนหรือทำแบบนี้บ้างหรือไม่ 7.สนามเด็กเล่น ไม่มีคนดูไม่ใช่ประเด็น เพราะ หลายครั้งมีนักศึกษาจะเข้าไปช่วยในแต่ถูกบอกปัด 8.หลายคนที่บริจาคเงินน้อย ของไม่มียี่ห้อ ไปแล้วถูกหมางเมิน และอีกหลายข้อที่คนไปประสบพบเจอมา ครูน้อยเริ่มจากความคิดดี แต่ของบางอย่างได้มากก็หลงมาก ได้มากเหลือบไรก็มามาก เด็กที่ครูน้อยดูแล ได้เงินไปโรงเรียนทุกวัน ตอนเช้ามากินข้าวที่บ้านครูน้อย คงไม่มีใครบอกว่าครูน้อยใจร้ายหรอก จากคุณ : โอ้ย...แจ่ม เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:53:27

ความคิดเห็นที่ 15 ในตอนนั้นคุณอาจต้องการครู ตอนนี้ครูเองก็อาจจะต้องการพวกคุณเช่นกัน ลองกลับไปหาครูดูนะค่ะ แล้วพวกที่อยู่กับครูจนเรียนจบ น่าจะกลับไปสอนน้องๆบ้าง แต่ว่าตอนนี้เห็นข่าวออกมาว่า  ครูน้อย อาจจะปิดสถานเลี้ยงเด็กไปเลยนะค่ะ http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000018459 จากคุณ : ดาวหางแม็กไบร์ท เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:56:25

ความคิดเห็นที่ 16   ก้อยอยู่กับครูมาตั้งแต่ 3 ขวบ ทุกวันนี้ก้อยเรียนจบแล้ว ก้อยเพิ่งจบมาได้เมื่อ ปีที่แล้ว แต่ตัวก้อยออกมาจากบ้านครูตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่ก้อยออกมาเพราะ ไม่ใช่ว่าก้อยลืมบุญคุณครู แต่ก้อยไม่อยากเป็นภาระให้ ครูแล้ว (อยู่แล้วช่วยครูน้อยทำงานและดูแลน้องๆ ก็เป็นการตอบแทนบุญคุณทางนึง ถ้าทำได้) ถ้าออกมาอยู่ข้างนอกก็ควรแบ่งเงินส่วนนึงกลับไปให้ครูน้อยเพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง (จากที่เป็นฝ่ายรับมาตลอดระยะเวลานาน) เรื่องเข้าไปช่วยบริหารการเงินคงไม่ต้องเร่งด่วนมากกว่าการตอบแทนบุญคุณหรอกครับ จากคุณ : บุญคุณต้องทดแทน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 15:58:56 A:unknown X:202.44.135.35

ความคิดเห็นที่ 17 ก้อย อยู่กับครูมาตั้งแต่ 3 ขวบ ++++ ขออภัย อันนี้อยากทราบเฉยๆ พอจะบอกได้ไหม ว่าตอนนี้คุณก้อย อายุเท่าไร จากคุณ : เฒ่าเจ้าอุบาย เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:00:28

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าจำนวนเงินมันทำให้คนเปลี่ยนครับ (เงินบริจาคเดือนนึงเป็นล้านหายไปไหนหมด) จากคุณ : maniaman52 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:01:56

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ หนูก้อย พี่เป็นคนหนึ่งได้ บริจาคเงินไปอย่างสม่ำเสมอ และดีใจมาก  ที่เห็นข้อความจากเด็ก ของครูน้อย  ที่่มาสื่อสารกับ บุคคลต่างๆ ที่เคลือบแคลงในตัวครู พี่เชื่ออย่างสนิทใจค่ะ ว่า ในชั้นแรก  ครูน้อย มีความปรารถนา อย่างแท้ จริงแน่นอน  ที่จะช่วยเด็กๆ แต่ภายหลังพี่ไม่ทราบว่า เกิดอะไร ขึ้นอย่างไร พี่คิดเพียงว่า   ถ้าหนูก้อย   เป็นลูกศิษย์ ของครูน้อยจริง  (ขออภัยที่ต้องเน้นคำนี้นะคะ) กรุณา นำข้อความทั้งหลาย ที่โพส ในนี้ ไปส่งถึงครูน้อย ด้วยเถิดค่ะ อย่างน้อย  ไม่ว่า ครูน้อย จะผิดจริง หรือไม่อย่างไร   ก็เชื่อแน่ว่า จะเกิดความกระจ่าง จากครูน้อย บ้างแน่ๆ พี่ยังหวังว่า เรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น  เป็นเพียงการจัดสรรค์เงินไม่เป็นของครูน้อย เท่านั้น    มิใช่เป็นการทุจริตใดๆ   และท้ายสุด  พี่หวังว่า  ความดีงามที่ครูน้อยสร้างมา  จะทำให้เด็กๆ ที่ออกจากบ้านครูน้อย  ได้เริ่มในการทำความดี คนละนิดนะคะ จากคุณ : แม่ไม้ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:04:20

ความคิดเห็นที่ 20 เคยได้fw นี้ค่ะ ขอบริจาคคนละ 10 บาทได้มั้ยครับ สวัสดี ครับ เพื่อนๆพี่ๆในเวบ ผมมีปัญหาใหญ่หลวงในชีวิต ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว เลยอยากจะมาขอรบกวนพวกเพื่อนๆพี่ๆเล็กน้อย เผื่อ พอจะต่อชีวิตให้แม่ผม กลับมามีแรงอีกครั้ง ... แม่ผมเป็นคนดีครับ เริ่มแรกทำบ้านเป็นแหล่งให้ความรู้เด็กๆละแวกนั้น เดี๋ยวนี้ดูจะเริ่ม ใหญ่ขึ้น ดูเป็นมูลนิธิ ดูจะเป็นทางการมากขึ้น แต่อย่างว่า ทำงานประเภทนี้รายจ่ายค่อนข้างเยอะ แต่ไม่มีรายได้เป็นชิ้นเป็นอันหรอก ครับ ทุนเกือบทั้งหมด ก็มาจากการบริจาค จากท่านๆที่ใจบุญครับ เงิน ขาด เด็กเปิดเทอม บางทีก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน ผมพอรู้มาบ้างว่าแม่ผมเค้า มีหนี้ แต่ไม่รู้ตัวเลขที่แน่ชัด วันนี้ผมพอจะรู้ตัวเลขคร่าวๆแล้วครับ เป็นยอดที่ฟังแล้วอยากจะให้มันเป็นแค่ฝันร้ายจริงๆ นึกกลับไปก็อยาก ร้องไห้ ว่าแม่ผมทนสถานการณ์แบบนี้มาได้อย่างไรเป็นปี รู้สึกทุเรศตัว เองเต็มทน ที่ผมไม่มีปัญญาจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้ ผมเป็นลูกชาย เค้าครับ ...ลูกที่แม่รักมาก จนไม่เคยปริปากเรื่องพวกนี้ให้ฟัง ผมทำงาน พอจะเป็นหลักเป็นฐานแล้ว แต่เงินเก็บก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ แต่อาทิตย์หน้า นัดกับน้องชายแล้วครับ ว่าคงต้องเอาเงินเก็บทั้งหมด รวมกับที่จะยืมหัวหน้าของผม มาปิดหนี้รายที่พอจะปิดได้ให้ได้ก่อน รู้จัก ครูน้อยมั้ยครับ...รู้จักบ้านครูน้อยมั้ยครับ ครูนวลน้อย ทิมกุล ที่เค้ารับเลี้ยงเด็ก, ส่งเสียเด็กให้เรียนน่ะครับ แม่ผมครับ สังคม มันโหดร้ายมากครับ แม่ผมต้องเริ่มไปเป็นรู้จักไอ้พวกดอกเด้ง เพราะ พวกคนงานในบ้านเค้าไปติดหนี้พวกมันไว้ แล้วมันตามมาทวง อย่างโหด แม่ผม ก็รวบรวมเงินปิดไปให้ จนถึงคราวเค้าเงินขาดมือ, เด็กเปิดเทอม ก็เลยต้องใช้บริการไอ้พวกนี้ ไม่เคยมาเอ่ยปากกับลูกหรอกครับ ค่าใช้จ่าย เป็นหลักแสนครับ กับเด็กเกือบๆร้อยคน เวลาเปิดเทอมทีนึง เรียนฟรีเหรอ ครับ? ไม่มีจริงในโลกหรอกครับ ผมไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี กับการขอบริจาคในครั้งนี้ แม่ผมพลาดไปแล้วครับ ผมว่าชื่อของแม่ผม คงผ่านสายตาท่านกันมาบ้าง ถ้าท่านเคยได้ยินเรื่องดีๆที่ผู้หญิงคนนี้ทำ ถ้า ท่านเคยนึกชื่นชมกัน แต่ไม่รู้จะมีส่วนร่วมยังไง ช่วยหน่อยเถอะครับ ผม บอกได้เต็มปาก ว่าทุกบาททุกสตางค์ของท่าน คงจะไปอยู่ในกระเป๋าไอ้พวกทำนาบนหลังคนแน่ครับ ผมอยากได้เงินที่ไปปิด หนี้พวกนั้น ยอดมันหลักล้านครับ ผมอยากจะเป็นคนรวบรวม และช่วยเจรจา ช่วยปิดหนี้ตรงนี้ให้เค้าครับ ให้ผมได้ทำอะไรเพื่อแม่หน่อยเถอะครับ ผม ไม่ได้มาโกหกว่าจะเอาเงินไปช่วยเด็กหรอกครับ เงินที่จะได้ตรงนี้ คงไม่ได้ไปถึงเด็กตรงๆแน่ครับ แต่ถ้าแม่ผมหมดปัญหาในส่วนนี้ ผมก็เชื่อว่าเค้าจะกลับไปมีแรงใจที่จะทำงานตรงนี้ต่อไปให้ดีที่สุด ตอน ผมเริ่มพิมพ์นี่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะขอรับบริจาคจากท่านๆยังไงดี ถ้าเป็น เบอร์บัญชีผม จะเป็นอะไรมั้ย หรือถ้าไม่แน่ใจอย่างไร พรุ่งนี้เช้า โทรไปคุย ไปให้กำลังใจเค้าหน่อยนะครับ 028713083 ครูน้อย แล้วอาจจะถาม เลขทีบัญชี เพื่อโอนเงินไปช่วยเหลือเด็กๆด้วย และทางผม ก็พยายามช่วยอีกทาง โดยเน้นรวบรวมเงิน ที่จะไปปิดหนี้นอกระบบทั้งหมดให้เค้า เงินเป็นหลักล้านบาทนี่ผมยังไม่เคยเห็นเงินจริงๆเลยครับ แต่ต้องมาขอความช่วยเหลือจากพวกท่าน คนละ 10 บาท 20 บาท เพื่อไปเคลียร์ หนี้ตรงนี้ให้ครับ ผมนึกทางไหนไม่ออกแล้วจริงๆ ก็นึกถึงพันทิพย์นี่แหละครับ สมาชิกที่นี่เยอะ ช่วยคนละเล็กละน้อย 10 บาท 20 บาทของท่าน ถ้ารวมกัน มันพอที่จะช่วยชุบชีวิตผู้หญิงคนนึงได้ครับ ผม นึงถึงที่นี่ก่อนเพราะผมเคยเห็นกระทู้ประมูลของ เพื่อไปบริจาคอยู่เรื่อยๆ ก็ยังนึกชื่นชม แต่ไม่มีโอกาสได้ประมูลหรอกครับ จนมาถึงวันนี้ ในใจยังเชื่อลึกๆครับ ว่าสังคมที่นี่ คนอยากช่วยมีมาก คนละเล็กละน้อย ก็ยังดี ตอนนี้ก็มีพระท่านหนึ่งพยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่ ด้วย จะมาจัดบรรยาย โดยเค้าก็ระบุในข่าวเลยแหละครับ ว่าแม่ผมมีหนี้สินมาก จะมาช่วยตรงนี้ http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03bud06260850&day=2007-08-26&sectionid=0307 ยังไงขอผมเป็นอีกหนึ่งแรงที่จะช่วยแม่ผมนะครับ ช่วยโอน คนละเล็กละน้อยนะครับมาที่ ธนาคารกรุงศรี สาขาสำนักพระราม3 7771301555 ชื่อบัญชี นายเชียระนนท์ ทิมกุล ครับ ผมคงไม่ได้ไปเปิดบัญชีใหม่ เป็นเรื่องเป็นราว ทำเป็นบัญชีสำหรับบริจาค หรืออะไรแบบนั้นหรอกครับ ขอ เอาศักดิ์ศรีความเป็นคน ความเป็นลูก มาการันตีให้นะครับ ผมคงไม่สามารถเลวขนาดโกงแม่ตัวเองได้ แล้วผมจะ update book มาให้ดูบ่อยๆครับ ผมเคยแต่ดูในข่าวเรื่องเงินกู้นอกระบบ ไม่เคยคิดจะมาโดนกับตัวเอง ผมเคยเห็นเมล์ หรือกระทู้ขอรับบริจาค ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาพิมพ์กระทู้นี้ ผมเชื่อในความร่วมแรง ร่วมใจ ยามคนดีๆประสบปัญหานะครับ ช่วยกันเถอะครับ ช่วยโหวตก็ยังดี ช่วยผู้หญิงดีๆคนนึง ที่กำลังแย่ด้วยนะครับ ถ้าอยากให้กำลังใจแม่ผม 028713083 นะครับ แต่ตอนดึกบางทีต้องยกหูออก เพราะเค้าโทรมาทวง ขอบ คุณจากใจเลยครับ เชียระนนท์ ทิมกุล 29 ส.ค. 2550, 22.00 http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8863200/A8863200.html ลับลวงแห..มากครับ จากคุณ : maniaman52 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:15:04

ความคิดเห็นที่ 21 คุณก้อยเคยเอาเงินมาช่วยครูน้อยบ้างมั้ย ไม่ใช่ว่าแค่ออกจากบ้านก็หมดภาระ ในเมื่อคุณทำงานได้แล้วก็ควรกลับไปช่วยบ้าง ร้อยสองร้อยก็ยังดี แสดงให้เห็นว่ามีใจ (อยู่แล้วช่วยครูน้อยทำงานและดูแลน้องๆ ก็เป็นการตอบแทนบุญคุณทางนึง ถ้าทำได้) ถ้าออกมาอยู่ข้างนอกก็ควรแบ่งเงินส่วนนึงกลับไปให้ครูน้อยเพื่อช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง (จากที่เป็นฝ่ายรับมาตลอดระยะเวลานาน) เรื่องเข้าไปช่วยบริหารการเงินคงไม่ต้องเร่งด่วนมากกว่าการตอบแทนบุญคุณหรอกครับ ก้อยขอตอบรวมเลยนะค่ะ ตอนที่ก้อยอยู่ก้อยช่วยครูดูแลเด็กๆ แน่นอนค่ะ ทุกคนอาจจะคิดว่าก้อยใจดำเป็นผู้รับมามาก แต่ทำไมต้องออกจากบ้านครูละค่ะ เหตุผล ถ้าก้อยไม่ออกจากบ้านครูหรือก้อยเข้าไปช่วยครูๆ ก็จะให้เงินก้อยอยู่เรื่อย เหมือนอย่างที่ทุกคนสงสัยว่าครูสปอยกับเด็กจริง หรือเปล่า จริงค่ะ เพราะกลัวเด็กจะอด ก้อยยอมรับว่าครูเลี้ยงเด็กแบบผิดๆ ก้อยถึงต้องออกมา เพราะก้อยอยากให้เงินตรงนี้กับครูที่ให้ก้อยไปให้กับน้องๆ ที่ยังเรียนไม่จบดีกว่า ครูเป็นคนใจดี ส่วนเรื่องเงินกับเด็กเก่าๆ ที่นำไปให้แกๆ ไม่รับหรอกค่ะ ส่วนเรื่องบัญชีก้อยก็ไม่รู้ว่าทำไมครูถึงไม่ยอมให้ช่วย   ก้อย อยู่กับครูมาตั้งแต่ 3 ขวบ ++++ ขออภัย อันนี้อยากทราบเฉยๆ พอจะบอกได้ไหม ว่าตอนนี้คุณก้อย อายุเท่าไร ก้อย อายุ 22 ปีค่ะ ก้อยขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ก้อยก็ตอบไม่ได้หมด เรื่องบางเรื่องก้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน ก้อยทำได้เท่าที่ก้อยทำได้ เพราะก้อยก็รักครูก้อยเหมือนแม่ก้อยคนที่สอง เรื่องที่คนอื่นรู้มาบางทีก้อยยังไม่รู้เลย ถึงก้อยจะอยู่กับครูมานานก็เถอะ เพราะก้อยเห็นว่ามันไม่จำเป็น แต่ที่ก้อยตกใจคือข่าว คือกระทู้ต่างๆ ที่ก้อยอ่านมาที่ว่าโจมตีครูแรงๆ ก้อยก็ไม่รู้ไปต่างจากที่พี่ๆ เพื่อนๆ รู้มาหรอกค่ะ ตอนนี้ก้อยก็รอครูออกมาพูด เหมือนกัน แต่ที่ก้อยนำมาเล่าในวันนี้ คื่อ ความเห็นส่วนตัวก้อยเท่านั้นเอง ก้อยต้องขอโทษด้วยถ้าความเห็นก้อยมันไม่เป็นผลดีต่อผู้อื่นนะค่ะ จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:25:23

ความคิดเห็นที่ 22 30 ปี เด็กที่ผ่านการดูแล ได้อะไรไปมั่ง แล้วไม่มีเด็กที่ได้รับบุญคุญ คิดกตัญญู กลับมาตอบแทนมั่งหรือครับ ให้เงินเด็กวันละ 100 เนี่ยนะ จ้างคนล้างจานทำความสะอาด เด็กไม่ต้องทำเองหรือครับ สมัยเรียน รร.ก็มี เวรให้ทำกันทุกวัน ตอนไปเรียนมัธยมต้นผมได้ 30 ม. ปลายได้ 60 มหาลัยวันละ 100 จะบอกค่าครองชีพต่างกัน ก็ลองดูว่าจริงๆแต่ละคนค่าเดินทางค่าใช้จ่ายวันละเท่าไหร่ รถเมล์+ค่าข้าว+ค่าจิปาถะที่เหมาะสม ค่ามือถือ ค่าห้องไม่เกี่ยว ถ้าเด็กไม่มีกินก็มีทุนของรร.ให้ ไม่ก็เด็กต้องฝึกด้วยตัวเอง อาจช่วยงานเจ้าหน้าที่ แม่ค้าหรือรร. ไม่จำเป็นต้องจ้างคนทำความสะอาดเลยด้วยซ้ำ หน้าที่ ครู คือสอนให้เด็กเป็นคนดี ไม่ใช่ใช้เงินให้เด็กมั่วๆ ไปดูวงเวียนชีวิตเค้ายังมีหน้าที่ที่ต้องทำ ไม่ใช่ให้เด็กเล่นไปวันๆ แล้วปล่อยให้เด็กเอาลูกตัวเองมาให้เลี้ยง จนให้เป็นเถอะครับ ถ้าสุรุ่ยสุร่ายเป็นอย่างนี้อนาคตคุณก็เป็นหนี้อีกแน่นอน จากคุณ : ไปลามาไหว้ (ไปลามาไหว้) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:41:46

ความคิดเห็นที่ 23 อืม จากคุณ : PPalone เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:54:27

ความคิดเห็นที่ 24 มันไม่ได้ไม่เป็นผลดีต่อคนอื่นหรอกนะคะ สำหรับความเห็นของคุณก้อยหนะ แต่เราเองเข้าใจว่า ต่างคนต่างมุมมองค่ะ อันนี้เราไม่ได้ว่าคุณก้อยหรอกนะ เพราะเราไม่รู้ว่าหากเราไปอยู่ในสถานะอย่างคุณก้อยเราก็อาจจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกันคือ หากเราอยู่ในสถานะของผู้รับ เราก็จะมีความคิดเยี่ยงผู้รับ(เราจะไม่คิดถึงใจคนให้ เหมือนเราเด็กๆ เราอยากได้ของเล่นก็ไม่ได้มองว่าแม่ฐานะเป็นยังไง อยากแต่จะได้เหมือนคนอื่น) แต่หากเราอยู่ในสถานะของผู้ให้เราก็มีความคิดเยี่ยงผู้ให้ (คือให้ตามกำลังของตัวเอง และ ให้กับผู้ที่สมควรได้รับ ) ฉะนั้นในกรณีที่นี้คือ คนที่มีความคิดเยี่ยงผู้ให้ มาถกเถียงว่า คนรับสมควรได้รับหรือเปล่า และ ผู้ให้มีความสมเหตุสมผลในการให้หรือไม่ เราเข้าใจว่า เด็กคนหนึ่งหนะไม่ผิดหรอกที่จะอยากได้นู่นได้นี่ เพราะเราเองก็เคยขอของเล่นแม่เหมือนกัน แต่แม่ไม่ให้ ซึ่ง ณ ตอนนั้นถ้าแม่เราให้ก็คงโดนแบบครูน้อยนี่แหละว่าสปอยล์เด็ก บอกตรงๆเด็กเองไม่ได้ผิดเลยเพราะว่า ไม่รู้ ไม่รู้ว่า การเงินของครูน้อยเป็นยังไง ไม่รู้ว่ายอดบริจาคลดลงเท่าไหร่ และไม่รู้ว่า คนอื่นต่างคนต่างก็ขอครูน้อยกันทุกคน ดังนั้น หากเค้าขอ เค้าก็หวังว่าจะได้ และไม่ได้คิดว่าถ้าครูให้แล้วจะลำบาก เพราะ ถ้าขอแล้วให้ แสดงว่าครูต้องมีเงินเหลือเฟือถึงให้ได้ ใครจะคิดว่าไปกู้มา ถ้าครูไม่ได้บอกเด็ก ถ้าได้ก็ดีแต่หากว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ตาย(สำหรับสิ่งของเกินจำเป็น) หากจะผิดก็ผิดที่ตัวครูเท่านั้นแหละ ที่ให้เด็กตามที่เด็กขอ โดยไม่ดูว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าจะบอกว่าเป็นการเลี้ยงลูก ครูน้อยก็ไม่ใช่แม่ที่ดี เลี้ยงลูกไม่เป็น ถ้าบอกว่าเป็นครู ก็บอกว่า เป็นครูที่สั่งสอนนักเรียนไม่ได้เช่นเดียวกัน ยืนยันว่าไม่ได้จะต่อว่าคุณก้อยหรอกค่ะ เราลองมองในมุมของคุณก้อยก็เข้าใจที่อยากจะช่วยเหลือ และ แก้ต่างบางข้อให้ครูน้อยเพราะบุญคุณที่เลี้ยงดูมา ส่วนพวกเรามองในแง่มุมคนข้างนอก ซึ่งเป็นผู้ให้หนะค่ะ เราก็อยากให้เงินที่ให้ไปได้ใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ถึงตัวเด็กทุกคน ส่วนตัวเวลาทำบุญไม่ได้หวังที่ตัวบุญค่ะ เพราะ ถ้าคิดแบบนี้คงทำสะเปะสะปะ ทำไปทั่ว เพราะ การทำบุญได้บุญหมดมากหรือน้อยขึ้นกับทั้งตัวเราและผู้รับ แต่สำหรับเราทำบุญเพราะต้องการให้ผู้รับได้รับสิ่งที่เราให้ และ ผู้รับนั้นจำเป็นต้องการสิ่งที่เราให้อย่างมาก หากแต่ว่า เมื่อเราทราบว่าเงินที่ให้ไปไม่ถึงมือเด็กหรือสิ่งของไม่ถึงมือเด็กแต่ถูกนำไปขายก็รู้สึกเสียใจ เพราะ ที่เราให้เพราะอยากให้เขาได้ใช้ ไม่ใช่ว่าให้เอาไปทำอะไรก็ได้ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 12:00:58 แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 16:59:56 จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:55:01

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านจากที่หนูก้อย  เขียนและเล่ามา   วิเคราะห์ได้อย่างนึงว่า ครูน้อย อาจรักเด็กจริง  ทำเพื่อเด็กจริง แต่.... ครูน้อย ขาดความเป็นครูค่ะ   คือ ขาดการอบรมสั่งสอน  ให้เด็กๆ ที่อยู่กับครูน้อย ได้รู้คิด รู้ผิดชอบ การที่เราจะสร้างคน  นอกจากการส่งเสริม ให้คนๆนั้น ได้มีโอกาสเรียนแล้ว ยังต้องสอน การ ใช้ชีวิตที่ถูกต้องที่ ถูกที่ควร  การใช้เงิน การอดออม ทุกๆสิ่ง ที่คนเป็นแม่ คนเป็นครูต้องสอน เด็กๆ เหล่านี้ ๆได้รับโอกาสดีๆ ได้รับเงิน ขนม  และอื่นๆจากบุคคลอื่นๆ ที่มีเมตตา ครูน้อย ควรสอนให้เด็กๆรู้จักคุณค่าของการได้รับ  และส่งต่อเป็นการให้ กับผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าตน น่าเสียดาย นะคะ  ถ้าเจตนารมณ์ แรกๆ ของครูน้อย จะเป็นความปรารถนาดีจริง น่าเสียดายมากๆ ค่ะ จากคุณ : แม่ไม้ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 16:58:02

ความคิดเห็นที่ 26 น้องก้อย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยคิดหางานพิเศษทำบ้างมั้ยคะ? เช่น ทำงานในร้าน KFC/ MAC / 7-11 ฯลฯ  หรืออยู่บ้านครูน้อยก็สุขสบายดีแล้วเพียงช่วยดูแลเด็กคนอื่นๆก็พอ ถ้าครูน้อยเลี้ยงดูเด็กจนจบปริญญาตรีแบบนี้เหมือนเป็นพ่อแม่แท้ๆเลยนะคะ นับว่าเป็นบุญของน้องและถือเป็นกรรมดีของครูน้อย จากคุณ : ภาษาดาว เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:12:05

ความคิดเห็นที่ 27 คุณก้อย ครูน้อยเคยสอนเรื่องการใช้ชีวิตมั้ยคะ สอนให้ประหยัด รู้จักพอเพียง ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หรือรู้จักหางานพิเศษทำ ตลอดเวลาที่อยู่บ้านครูน้อย เคยทำงานอะไรมั้ย หรือว่าแบมือขอเงินอย่างเดียว  ออกสื่อทีไร มีแต่ภาพบ้านเก่าซอมซ่อ เด็กแต่งตัวสกปรก คนที่เคยไปทำบุญกลับมาบ่นว่าเหม็น มีแต่กลิ่นสุนัข ครูน้อยไม่เคยปรับปรุงมาตลอด 30 ปีเลยเหรอคะ  อยู่แบบนั้นผิดสุขลักษณะ จากคุณ : autumn whispers เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:26:20

ความคิดเห็นที่ 28   บทความนี้ ใช้คำว่า "ก้อย" มากไป อ่านไม่รู้เรื่องเลย ไปรีนิวใหม่ เอาให้เนียนกว่านี้ หนูก้อยได้เงินจนอายุเท่าไหร่ ? วันละเท่าไหร่ เคยจดไหม? ทำไมไม่จด? หรือถ้าไม่จด เคยจำได้ไหมว่าทั้งหมดเท่าไหร่ ? จากคุณ : ขอโทษที่สงสัยอ่ะนะ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:40:25 A:114.128.111.91 X: TicketID:134610

ความคิดเห็นที่ 29 คนที่เขามีอันจะกิน ตอนเรียนระดับมหาวิทยาลัย เขายังหางานPart time ทำกันเลยจ้าคุณนู๋ก้อย +ที่ก้อยออกมาเพราะ ไม่ใช่ว่าก้อยลืมบุญคุณครู แต่ก้อยไม่อยากเป็นภาระให้+ ได้เงินจากครูมาใช้ในการเรียน ส่งเสียตัวเองจนจบ คุณก้อยเคยนึกถึงครูกลับไปช่วยแบ่งเบาภาระบ้างรึเปล่าคะ?    หรือ ออกไปแล้วออกไปเลย ไม่ได้กวนนะคะ แต่อยากทราบจริงๆ ถ้าเป็นเรานะคะ  ครูส่งเสียให้เรียนจนจบขนาดนี้ คงไม่ตีตัวออกมา... เพราะแค่คิดว่าจะเป็นภาระให้ครู  แต่จะอยู่ต่อ เพื่อแบ่งเบาภาระครูผู้ที่ให้เรามากกว่าพ่อแม่แท้ๆซะอีก... แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 18:16:38 จากคุณ : เมื่อไหร่จะผ่าน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:40:25

ความคิดเห็นที่ 30   สมัยที่ยังเด็กๆอยู่ แม่ของดิฉันจะสอนให้ลูกๆประหยัดและรู้จักเจียมตัวเองเสมอ อยากได้อะไรต้องทำงานแลกเอามา ไม่เคยแบมือขอเปล่าๆ แม่บอกว่าคนที่มีแต่แบมือขอ  ไม่ต่างอะไรกับคนพิการแขนขาที่ได้แต่นอนนิ่งๆ  ไม่ได้อคติกับครูน้อยนะค่ะ  แต่ไม่ชอบลักษณะการเลี้ยงดูเด็กของครูเท่านั้น  ยิ่งเราให้เค้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความฟุ้งเฟ้อ  ขนาดที่แม่ของดิฉันสามารถหาให้ได้มากกว่าที่ครูน้อยให้แก่เด็ก  คุณแม่ของดิฉันยังไม่เคยทำเลย  ท่านบอกว่าอะไรที่ได้มาง่ายๆ คนมักไม่เห็นคุณค่า เพราะคิดว่ามันได้ง่าย แต่ถ้าอะไรที่กว่าจะได้มาต้องใช้หยาดเหงื่อและแรงกาย อันนั้นแม้ราคาจะน้อยนิดแต่ผู้เป็นเจ้าของจะรู้ซึ้งถึงคุณค่า จากคุณ : เก๋ (เก๋กาการิ) เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 17:58:53

ความคิดเห็นที่ 31 ในหลวงสอนคนปลูกต้นมะม่วง เพื่อให้มีมะม่วงไว้ทาน สอนให้คนช่วยเหลือตัวเอง ไม่ใช่แจกมะม่วงให้คนทานครับ คุณจะต้องอุ้มชูเค้าไปทั้งชีวิต เพราะเขาจะแบบมือขอตลอด ครูน้อยลองฝึกปลูกต้นมะม่วงดูนะครับ จะได้สอนให้คนอื่น ไม่ว่าจะเด็กเล็กเด็กโตที่ครูรู้จักปลูกมะม่วงกินเองได้ ไม่ต้องแบบมือขอ ด้วยความเคารพคนดีทุกคนครับ จากคุณ : หนุ่ม บางซ่อน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 18:00:36

ความคิดเห็นที่ 32 แปลกๆอะ จากคุณ : นินจาน้อย เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 18:05:18

ความคิดเห็นที่ 33 ตังแต่จำความได้ แม่ไม่เคยให้รับเงินใครเลย มีป้าคนนึงให้ห้าบาทด้วยความเอ็นดู วิ่งมาอวดแม่ แม่ตีแทบตาย บอกให้เอาไปคืน อย่าเอาเงินใครมาแบบนี้ ไม่สมควร จำใส่สมองจนโตเลย อันนี้เรามีพ่อแม่นะ อาจจะไม่เกี่ยวเท่าไหร่ บอกแค่ความรู้สึกว่าเราจะไม่มีวันรับเงินจากใครเฉย ๆ โดยไม่ตอบแทน จากคุณ : นิพพานัง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 18:24:54

ความคิดเห็นที่ 34 รักลูกให้ถูกทาง น่าจะเรียกว่าแม่มากว่าครูนะ จากคุณ : Big BuBu เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 18:33:31

ความคิดเห็นที่ 35   เจอพวกเค้าแล้วครับอยู่เกาะจนอายุ21เลยเหรอ คุณก้อย จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:04:02

ความคิดเห็นที่ 36   คุณก้อย เราไปบริจาคมาปีที่แล้วหมื่นนึง แม่กับเราติดหวัดใหญ่จากเด็กกลับมาต้องนอนดรงพยาบาล เราแม่เราเป็นปอดอักเสบเลยนะ เกือบตายแหนะเสียค่าโรงพยาบาลเป็นแสน สกปรกมาก ยิ่งได้มารู้ว่าเอาเงินไปให้คนที่เรียนมหาวิทยาลัยยังแบมือขอเงินคนอื่นอยู่ ตกลงที่เราเกือบตายไปนี่เพื่อคนแบบไหน จากคุณ : Giftpun เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:05:00

ความคิดเห็นที่ 37   คุณก้อยอยู่แบมือขอเงินจนกระทั่งอายุ21เชียวเหรอว่าไงคุณก้อย จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:05:11

ความคิดเห็นที่ 38 อ่าคุณก้อยคะ จากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F8856977/F8856977.html ที่คุณให้เราช่วยส่งรายละเอียดไปให้ถึงตอนที่เราไปทำกิจกรรมที่บ้านครูน้อย ตอนนั้นจัดกิจกรรมของเว็บเด็กดีค่ะ และก็ไม่รู้จะส่งรายละเอียดให้ยังไง เพราะมันก็นามาแล้ว 4-5 ปีได้แล้วมั้ง รายละเอียดที่เก็บไว้ได้ตอนนี้มีแต่รูปนะคะ ถ้าวันที่พวกปุ๊กไปทำกิจกรรมที่บ้านครูน้อย และคุณก้อยได้อยู่ในบ้านครูน้อยในวันนั้นด้วย ก็รู้สึกยินดี : ) นี่เป็นป้ายที่บ้านครูน้อยเขียนต้อนรับ จากคุณ : คุณหนูแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:06:48

ความคิดเห็นที่ 39 ถ้าคุณก้อยมาเห็นรูปแล้วช่วยบอกด้วยนะคะ เด่วจะมาลบออก : ) ไม่กล้าโพสนาน กลัวคนในรูปเขิน 555+ แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 53 21:42:46 จากคุณ : คุณหนูแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:09:12

ความคิดเห็นที่ 40 เข้ามารับข้อมูล จากคุณ : CrazyMc เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:13:09

ความคิดเห็นที่ 41 จากที่อ่านข้อความของคนที่เคยอยู่กับครูน้อยมาแล้วเนี่ย บอกตามตรงนะคะ ให้ครูน้อยปิดบ้านไปเลยค่ะ แล้วย้ายเด็กไปที่อื่น ถึงเด็กจะไม่ชอบ แต่ถ้าตัวเองลำบากจริงๆก็ต้องไปอยู่ดี (แน่ละที่เด็กไม่อยากย้าย ก็เล่นตามใจเด็กขนาดนั้น) นะคะ ปิดไปเลย เพราะเด็กๆที่โตมาจากบ้่านนี้ หาคุณภาพไม่ได้เลยค่ะ จากคุณ : จนใจจริงจ้า เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:22:48

ความคิดเห็นที่ 42 เฮ้อออออ ถ้าเป็นสถานที่อื่น ที่เขารับอุปการะ และได้เงินบริจาค เป็นล้านๆทุกเดือนแบบนี้นะ ขอบอกเลยว่า ป่านนี้ เขาสร้างตึกใหญ่ เป็นเรื่องเป็นราว มีสุขอนามัยที่ดีกว่านี้ไปแล้ว หรือ ไปสร้างอุปกรณ์การเรียน ตึก อาคาร ที่นอน ให้เด็กๆดีกว่านี้ไปแล้ว แต่นี่อะไร ได้เงินเป็นล้านๆ เอาเงินไปละลายแม่น้ำ ใครขอตังค์ก็ให้ ผู้ปกครองเด็กคนไหน ติดหนี้เป็นล้านๆมา ก็ไปใช้หนี้แทน เอาเงินผู้บริจาค ไปให้กับเจ้าหนี้นอกระบบ มันถูกต้องหรือเปล่า แทนที่จะสอนให้เด็ก ใช้จ่ายอย่างประหยัด ช่วยกัน ทำงาน แล้ว เอาเงินที่เหลือ ไปต่อยอด ทำสุขอนามัยให้มันดีกว่านี้ สร้างสถานที่ให้มันดีกว่านี้ กลับเอาไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย มีเงินสักแต่ใช้ เด็กไม่ช่วยทำอะไร จะบอกให้นะคะ คุณก้อย เรากะคุณก้อยอาจต่างกัน ตรงที่ว่า บ้านเราอะ พอมีฐานะ แต่แม่เราอะ จับเราส่งเรียนนักเรียนประจำ ( รร.กินนอน ) ตั้งแต่ อนุบาล 3 อยู่รร. 2 อาทิตย์ ถึงจะกลับบ้านได้ 1 ครั้ง จ่ายค่าเทอม 25000 สมัยเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ( ตอนนี้ อายุ 26 คะ ) รู้ไหมคะ ซิสเตอร์ รร.เรา ต้องแบ่งเวรให้เด็กทำความสะอาดทุกเช้า เช้าตื่น 6 โมง สำหรับเด็ก ตี 5.30 สำหรับเด็กม.1 ขึ้นไป พอตื่น ก็อาบน้ำ เข้าเรียน 7 โมง จะลงมาทำความสะอาด จะมีการแบ่งเวรกันทำ ใครได้อะไร ขัดห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูพื้น เช็ดโต๊ะ กวาดลานสนาม ยกเสื้อผ้า ทุกคนมีหน้าที่คะ พอกินข้าวเสร็จ นักเรียนจะถูกแบ่งเวรกัน ทำความสะอาด สำรับกับข้าว จาน ทุกคน ต้องเอาไปใส่อ่าง โดยกวาดเศษอาหารให้เรียบร้อย แล้วจะมีแบ่งเวรกันล้างจาน โดยพวกม. 1 เป็นต้นไป   ค่าขนม เราได้ วันนึง 20 บาท เทียบกะคุณก้อย เรายังน้อยกว่าเลย แถมนักเรียนประจำรร.เรา ห้ามออกนอกรั้วบริเวณรร. ไม่เคยได้ซื้อขนมข้างนอกทานนะคะ ตกเย็น กลางคืน ซิสเตอร์ จะมีการอบรมเด็กนักเรียนทุกวัน มีการสวด อ๋อ อีกอย่าง ถุงเท้า ชุดชั้นใน ของใคร ต้องซักกันเอาเองนะคะ คุณก้องลองคิดดูสภาพชีวิตคุณก้อยที่ได้รับมาตลอด กะเรา ต้องเสียเงินไปอยู่เป็นหมื่นซิ ว่ามันต่างกันไหม การเลี้ยงดูอะไรต่างกันหรือเปล่า เราเห็นเพื่อนเรา ที่ไม่มีเงิน ตอน ม.ปลาย เขาก็ไปรับจ้างทำงานพิเศษ ล้านจานบ้าง เป็นแคดดี้บ้าง ได้เงินกันมา พอเข้ามหาลัย ก็เห็นบางคนไปทำงานพิเศษร้านอาหารต่างๆ พวก KFC หรือ ตามโรงหนังกัน ได้เงินกัน ร้อยกว่าบาท เขาก็ทำกัน แต่บ้านครูน้อยนี่อะไร ไม่เคยให้เด็กช่วยกันทำงาน อะไรเลย มีแต่จ่ายอย่างเดียว คนได้รับ ก็ชอบใจซิ ลองหัดคิดถึงคนเขาบริจาคกันมั่ง ว่าตอนให้เขาอยากให้ไปใช้กันแบบนี้หรือเปล่า เสือ้ผ้า มีให้ใส่กัน ตอนเราอยู่ประจำ รร.เราบังคับ ให้เด็กใส่ยูนิฟอร์ม ก็เท่ากะว่า เสื้อผ้าประจำวันเรามีแค่ ชุดนักเรียน 3 ชุด กะ ชุดอยู่ประจำ 3 ชุดเป็นเสื้อ กระโปรง และ ก็ชุดนอน 3 ชุด แค่เนี้ย ใส่สลับกัน พวกบ้านครูน้อยสบายแค่ไหน ใครๆก็เอาชุดมาบริจาคกันตั้งมากมาย กลางวันก็มีแต่คนมาเลี้ยงอาหารดีๆ ถึงขนาดต้องจองคิวกัน 3-4 เดือน นั่นก็เท่ากะว่า เงินที่บริจาค แทบไม่ต้อง เอามาจ่ายค่าอาหารเลย แล้วถามว่า เงินไปไหนหมด ทั้งๆ ที่ก็ไม่เคยคิดจะสร้างบ้าน สร้างที่นอน สร้างสุขอนามัยให้มันดีขึ้น ให้ชีวิตความเป็นอยู่เด็กดีขึ้น แต่ เวลาเด็กขอตังค์ไปเล่นเกมส์ ขอไปทำอะไร ทำไปเอาแต่จ่ายๆ แบบนี้แหล่ะที่เขาเรียกการขาดการจัดการที่ดี ชาวบ้านที่เอาไปฝากก็เห็นแก่ตัว ถ้าไม่ได้ยากจนขนาดขัดสน แบบชาวบ้านชนบท ทำไม ไม่พยายามเลี้ยงลูกตัวเอง ต้องเอาแต่ไปขอฟรีๆ สบายๆ อยากรู้ครูน้อยเอาเงินไปใช้ไรนักหนา ในเมื่อ ข้าวก็มีคนมาเลี้ยงทุกวัน เสือ้ผ้า ก็มีคนมาบริจาคให้ไม่รู้จักขาด ซ้ำ รร.สมัยนี้ก็เรียนฟรี ม.รัฐก็ขอทุนได้ ครูน้อยเอาเงินไปใช้อะไรกันแน่ มันถึงได้ติดลบ สรุป บ้านเนี้ยะ เรามองว่า ขาดการจัดการที่ดี ไม่มีการทำบัญชี ไม่โปร่งใส แค่การจ้างนักการบัญชีสักคนยังไม่ได้เลย เงื่อนงำเต็มไปหมด นักเรียนไม่รู้จักช่วยเหลือตัวเอง ไม่มีการนำเงินกลับมาช่วยเหลือที่เก่าเลย บริหารไม่ดี มีคนเข้ามาขอช่วยเหลือโดยขอนักเรียนไปเลี้ยง ครูก็ไม่ยอม จะเลี้ยงเอง แต่ตรวจสอบการเงินไม่ได้ ปล. แล้วสรุป ขอถามคุณก้อยข้อนึง เด็กที่ไม่มีพ่อแม่ ที่เป็นเด็กที่ต้องอยู่บ้านครูน้อย แท้ที่จริงมีกี่คนกันแน่ ถ้าแค่ 10 กว่าคน ..... แล้วที่เหลือเป็นเด็กแถวบ้านจริงๆ กับยอดเงินบริจาคเป็นล้านๆ บาท ก็ไม่อยากจะพูดและ จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:24:11

ความคิดเห็นที่ 43 คห. 39  นี้ใช่คุณก้อย ไหม น่ารักดี แต่ที่ อ่านมา ก็ อยากจะช่วย เหมือนกัน แต่ตอนนี้ กระแส แรงมาก (ในแนวที่ไม่อยากช่วย) อันนี้ผมไม่แน่ใจน่ะครับ แต่ปกติก็ บริจาค ผ่านทาง บัตรเครดิต กับ ccf + world vision ทางครูน้อย น่าจะ นำวิธีการ บริหารเงิน แบบ 2 มูลนิธิ นี้น่ะครับ  (เสนอ เฉยๆ ใครไม่พอใจก็ กรุณา เงียบ ด้วยน่ะครับ ) จากคุณ : ADISORN04 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:25:07

ความคิดเห็นที่ 44   หายไปไหนแล้วครับคุณก้อยออกมาชี้แจงหน่อยครับ อย่าเกาะจนอายุ21เลยเหรอครับแบมือข้อแล้วทุกวันนี้ทำมาหากินอะไรครับ ขอรายระเอียดหน่อยครับคุณก้อย จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:25:33

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนเราเรียนป.ตรี ได้เงินเดือนละสี่พันห้า (ขอเพิ่มได้อีก) มีรถเก๋งขับ อยู่หอนอก แต่คุณก้อยเืชื่อมั้ย เรายังทำงานพิเศษ แจกเครื่องสำอางค์ขนาดทดลองตามห้าง แจกใบปลิว รับพิมพ์เอกสาร เคยทำสเวนเซ่นด้วยนะ เพราะจิตใต้สำนึกมันบอกว่า ต้องแบ่งเบาภาระป๋ากับแม่ เราอยากสบาย เราก็ต้องหาเงินเอง อยากทราบว่า เด็ก ๆ ที่เรียนป.ตรี ในบ้านครูน้อย ได้ทำงานพิเศษอันใดที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระบ้างคะ หรือว่าไม่ต้องทำ จากคุณ : plako-plako เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:35:31

ความคิดเห็นที่ 46 อืมม จากคุณ : bg_O_bOw เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 19:35:39

ความคิดเห็นที่ 47 เราอ่านกระทู้เราก็เข้าใจมุมมองของน้องก้อยนะ ในฐานะที่น้องเป็นคนในบ้านที่ครูโอบอุ้มดูแลมา แน่นอนย่อมมองเห็นข้อดี มีความผูกพันธ์ช่วยเหลือกันมา เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่สังคมถามหาตอนนี้ ไม่ใช่ว่าใครต่อใครพากันไปใส่ร้าย ครูน้อยกันหมดนะคะ เขามีข้อสงสัยที่ครูน้อยไม่ชัดเจนต่างหาก เหมือนที่คำถาม คห. ที่ 14 ตั้งเป็นข้อๆ น่ะ และอีกหลายคนสงสัย อยู่บนพื้นฐานความน่าจะเป็นทั้งนั้น แต่ครูน้อยไม่มีคำตอบ พี่เข้าใจว่า ต่อให้น้องก้อยอยากไปช่วยครูทำบัญชีรายรับรายจ่าย ใจจะขาด ถ้าครูน้อยไม่อนุญาต ก็คงทำไม่ได้หรอก  ขนาดหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปช่วย ครูน้อยยังไม่ยอมรับเลย  มันน่าสงสัยไม๊ล่ะ (เชื่อว่าน้องก็คงแอบแคลงใจล่ะ  แต่ทำไงได้ เรามันคนใน พูดไรมากไปก็ไม่ดี เดี๋ยวก็จะกลายเป็นอกตัญญูอีก) เห็นจากกระทู้นี้ก็ถือว่าน้องรู้จักพูด รู้จักคิดระดับหนึ่ง ส่วนมากคนอ่านเข้าใจจุดประสงค์ที่หนูเขียนจ้ะ ไม่ต้องคิดมาก หากอ่าน บางความเห็นแล้วไม่สบายใจ  เรื่องที่ผู้ใหญ่กระทำ เราไปแก้ไขอะไร ไม่ได้หรอก  แต่จงพยายามทำสิ่งที่เราจะทำได้ให้ดีที่สุด เช่นกลับไปช่วยงานบ้านครูบ้าง  หรือพอทำงานมีรายได้ก็แบ่งเอา ไปช่วยเป็นค่าใช้จ่ายบ้าง ก็ถือว่าเราตอบแทนคุณแล้ว   ถ้าทำอยู่ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ   ส่วนเรื่องครูน้อย เรายังไม่ได้ตัดสินครูน้อยว่าเลว หรือว่าอะไรนะ แต่สังคมสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากทราบคำตอบ ซึ่งเราว่ามันเป็นการดี ที่อะไรๆ จะได้ถูกต้องตามประสงค์ของการรับบริจาค เพื่อที่ว่า คนรับ คนให้ สุขใจเหมือนๆ กัน เราถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีกระทู้สงสัยขึ้นมา ..... จากคุณ : ก๋าสะลองเงิน เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:00:39

ความคิดเห็นที่ 48 น้องก็คงเป็นอีกหนึ่งที่เป็นลักษณะดูแลแบบไปกลับ เช้าเข้าไปขอตังค์ ไปเรียน แล้วกลับบ้านตัวเอง จากที่เขียน "บ้านอยู่แถวนั้น" ให้เข้าใจว่า บ้านพ่อแม่คงอยู่แถวนั้น "ออกจากบ้าน"  ให้เข้าใจว่า ไม่เข้าไปแบมือขอตังค์ครูแล้ว น้องก็แบมือขอตังค์ครูมาตั้งแต่เด็ก จนเรียนจบ เคยคิดที่จะใช้วิชาความรู้ที่เรียนมามาบริหารจัดการการเงิน ของครูเพื่อน้อง ๆ เพื่อน ๆ จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้บ้างหรือเปล่า หรือปล่อยมันไปตามยถากรรม ปล่อยตามที่เป็นมา น่าแปลก เด็กที่จบไปก็น่าจะหลายรุ่นหลายคน มันก็ต้องมีเรียน จบดี ๆ บ้าง ไหงไม่คิดที่จะเข้ามาช่วยเข้ามาดูแล ?????????????? จากคุณ : ดอกไม้เล่าเรื่อง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:18:19

ความคิดเห็นที่ 49   จากที่เขียน 1"บ้านอยู่แถวนั้น" ให้เข้าใจว่า บ้านพ่อแม่คงอยู่แถวนั้น แล้วทำไมยังต้องไปขอ 2"ออกจากบ้าน"  ให้เข้าใจว่า ไม่เข้าไปแบมือขอตังค์ครูแล้ว น้องก็แบมือขอตังค์ครูมาตั้งแต่เด็ก จนเรียนจบ เคยคิดที่จะใช้วิชาความรู้ที่เรียนมามาบริหารจัดการการเงิน ของครูเพื่อน้อง ๆ เพื่อน ๆ จะมีชีวิตที่ดีกว่านี้บ้างหรือเปล่า (ตกลงที่นี้มันคืออะไรครับ) ขอบคุณ ดอกไม้เล่าเรื่อง นะครับสำหรับข้อมูล จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:29:31

ความคิดเห็นที่ 50 ช่วยตอบแค่คำถามเดียว ทำไมคนบริจาคน้อยๆถึงไม่อยากรับบริจาค หรือว่าไม่ค่อยมีคิวให้คนบริจาค  มีคิวเต็มด้วยหรือ อยากให้ครูน้อย เอายอดบริจาคทั้งหมดมาว่าเท่าไหร่ แล้วใช้ไปเท่าไหร่ มาให้ดูครับ แล้วจะเคลียร์ตัวเองได้ จากคุณ : blueboyhub เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:37:35

ความคิดเห็นที่ 51 เอาเถอะค่ะ  อย่ารุมน้องก้อยนักเลย  ถึงแม้ว่าอ่านข้อมูลมาทั้งหมดแล้วจะตะขิดตะขวงใจกับบ้านครูน้อยอยู่  แต่น้องก้อยก็ยังนับว่าเป็นคนหนึ่งที่ออกมาตอบคำถามบางข้อ  ก็นับว่ามีความรักและกตัญญูกับครูน้อย   ดิฉันคิดว่าตอนแรกๆนั้นครูน้อยมีเจตนาดีและบริสุทธิ์ใจจริงๆค่ะ  แต่อาจจะบริหารจัดการการเงินไม่เป็นและไม่มีวินัยในการใช้เงินค่ะ  และเงินจำนวนมากๆอาจจะทำให้คนเปลี่ยนไป๋ก็ได้      ส่วนข้อที่มีคนบอกว่าครูน้อยดื่มเหล้าด้วยนี้ก็น่าแปลกประหลาดใจมาก.... ช็อคค่ะ      คนในรูปใช่น้องก้อยหรือเปล่าคะ  น่ารักจังค่ะ จากคุณ : ลัดดา เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:47:53

ความคิดเห็นที่ 52   น้องก้อยคะ นี่หนูอยู่กับครูน้อยมาตั้งแต่สามขวบ จนเรียนจบมหาวิทยาลัย หนูช่วยกรุณาเล่าประวัติให้ทราบได้ไหมคะ ว่านอกจากอยู่บ้าน ไปเรียน แล้วหนูทำอะไรอีกทื่จะได้เงินมาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ... แล้วช่วยบอกได้ไหมคะ จากประสบการณ์บ้านครูน้อยสอนวิชาชีพ และวิชาการอะไรให้หนูบ้าง หากอยากกระจ่าง หนูทำเป็นตารางกิจกรรมประจำวันเลยนะคะลูก จากคุณ : @สวย รวย ฉลาด ปราดเปรียว เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 20:48:25

ความคิดเห็นที่ 53 คุณก้อยอยู่นานมากๆ  พอบอกได้ไหมว่า มีนศ.ไปทำกิจกรรมอะไรที่บ้าง ตลอดสิบกว่าปีที่อยู่มาค่ะ เอากิจกรรม ชัดๆ  นะคะ เอา ส-อาทิตย์ที่คุณก้อยอยู่ได้ดูได้รู้ได้เห็นน่ะค่ะ ใครมาสอน ใครมาให้อะไรบ้าง จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 21:02:33

ความคิดเห็นที่ 54 ก็ไม่แปลกนะคะ ที่น้องก้อย จะคิด แบบนี้ เพราะ ถูกเลี้ยงมาแบบใด ย่อมต้องถูกซึมซับมาแบบนั้น ทีนี้จะอธิบายให้ฟัง ว่าปกติ มันควรเป็นอย่างไร 1. เหตุผลที่ต้องออกจากบ้านครูน้อย เพราะครูน้อยจะยัดเยียดเงินให้อีก เลยจำเป็นต้องออกมา คือ ปกติ ถ้าเราไม่จำเป็นต้องใช้เงิน แล้วมีคนให้ ก็ไม่ต้องรับ ไม่มีใครยัดเยียดอะไรให้ใครได้ เพราะฉะนั้น มันเป็นเพียงข้ออ้าง และคงมีหลายคนที่สำเร็จการศึกษาจากการสนับสนุนครูน้อย แล้วก็อ้างแบบนี้ 2. ที่ไม่ให้เงินครูน้อย เพราะครูน้อยไม่รับ คือ ถ้าน้องสามารถเล่นเน็ตได้ เล่นพันทิพได้ น้องก็น่าจะรู้จัก google แล้วลองเสริทดู จะเจอเลขบัญชีของครูน้อย คงไม่ต้องให้บอกต่อนะคะว่า จะต้องทำยังไง ซึ่งจริง ๆ แล้ว หากยังไม่มีกำลังทรัพย์ ก็สามารถช่วยเหลือด้วยกำลังกายได้ 3. เล่นเครื่องเล่นไม่ได้เพราะว่าไม่มีคนดูแล, ที่เอาของไปขายเพราะ สงสารคนที่เค้าไม่มีกำลังซื้อ ฯลฯ ล้วนแต่สะท้อนให้เห็นว่า ครูน้อยดูแลจัดการอะไรไม่เป็นเลยจริง ๆ เพราะที่อ้าง ๆ มาล้วนแต่เป็นตัวเลือกที่ไม่เหมาะสมในการแก้ปัญหา ที่พูดมา ไม่อยากให้น้องก้อยเครียดหรือกดดันนะ เพราะครูน้อยก็ไม่ได้สอนสิ่งที่ถูกต้องให้ทั้งหมดให้กับเด็ก ๆ รวมทั้งน้องก้อย แต่อยากให้ลองอ่านข้อเสนอแนะที่คห.อื่น ๆ แนะนำดู คนกตัญญู เจริญทั้งนั้นแหละจ้า ยิ่งตอนนี้ พี่คิดว่า ครูน้อย ต้องการกำลังใจ ต้องการคนช่วยแก้ปัญหา แวะไปช่วยดูแลเด็ก ๆ บ้างก็ยังดีนะ จากคุณ : รำเจียก เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 21:27:29

ความคิดเห็นที่ 55   เปนกำลังใจครับ จากคุณ : กระเบื้องเคลือบ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 21:40:37

ความคิดเห็นที่ 56 “จาก การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเด็กนอกเหนือจาก 18 คนนั้น มีพ่อแม่เลี้ยงดู แต่ถือเป็นประเพณีที่มากินมาขอเงินจากครูน้อย และการใช้จ่ายเงินก็ไม่มีการควบคุม จึงทำให้เกิดหนี้สิน อีกทั้งยังผิดวิสัยที่รับเลี้ยงเด็กไม่กี่คนแต่กลับใช้จ่ายถึง 7-8 ล้านบาท เฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อเดือน เพราะเท่าที่ทราบมีการจ่ายเงินให้คนที่ทำความสะอาด 500 บาทต่อวัน พี่เลี้ยงเด็ก 1,500 บาทต่อวัน และคนทำบัญชี 2,500 บาทต่อวัน ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก หากมีการแก้ปัญหาหนี้สินแล้ว แต่ยังคงปล่อยให้บริหารจัดการแบบเดิม ไม่มีการควบคุมการใช้จ่าย ก็คงจะประสบปัญหาเหมือนเดิม” รมว.พม.กล่าว ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000018735 พอได้คำตอบแล้วคะ ว่าเด็กจริงๆ มีทั้งหมด 18 คน นอกนั้น หึๆๆ สบายดี ชาวบ้านแถวนี้ จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 21:57:37

ความคิดเห็นที่ 57 ครูน้อยควรสอนให้เด็กยืนด้วยตัวเองนะคะ ครูไม่สามารถเป็นขาให้เค้าได้ตลอดหรอกค่ะ เชื่อว่าเจตนาแรกของครูน้อยเริ่มจากการอยากจะช่วยเด็กๆ ส่วนภายหลังไม่รู้ว่ายังยึดเจตนาเดิมมั้ย ..เวลาเปลี่ยน อะไรก็สามารถเปลี่ยนตามไปได้ ถ้าครูเบียดเบียนเด็กๆโดยการเอาเงินทำบุญมาใช้ส่วนตัวจริง ครูก็ควรส่งต่อเด็ก 18คนในความดูแล ให้หน่วยงานอื่นๆที่เค้าโปร่งใสดูแลต่อไปเถอะค่ะ(ส่วนเด็กที่มีพ่อแม่ก็ให้เค้าเลี้ยงไปเถอะ รร.สมัยนี้ไม่เสียค่าเทอมเลย ออกจะเกริ่น ถ้าไม่สามารถเลี้ยงลูกตัวเองได้ก็ให้มันรู้ไป) แต่ถ้าครูน้อยบริสุทธิ์ใจก็ไม่ควรบอกปัดใครต่อใครที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยดูแลบัญชีนะคะ (หมายถึงหลังจากเคลียร์ได้แล้วว่าเงินหายไปไหน) เงินมีที่มา แต่ไม่มีที่ไป ... เสียดอกเบี้ยวันละ5หมื่นนี่น่ากลัวมากเลยนะ คิดดูต้องมีคนบริจาคกี่คนถึงจะได้5หมื่นบาท(ย้ำว่าต่อวัน) แล้วถ้าคนบริจาค รู้ว่าเงินนั้นไม่ถึงมือเด็กๆแต่ถูกเอาไปจ่ายดอกหมด ตกลงว่าทำบุญให้ถูกคนมั้ยเนี่ย เราเชื่อว่าคนที่บริจาคเงินให้บ้านครูน้อยหลายคนได้เงินค่าแรงน้อยกว่าคนล้างจานบ้านครูน้อยอีก... ขอให้ความจริงปรากฏไวๆแล้วกันค่ะ จากคุณ : กระต่ายเป้าหลง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 53 22:20:20

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่เข้าใจอย่างค่ะ คุณ จขกท บอกว่า คุณได้รับทุนจากมหาลัย แล้วคนอื่นๆได้รับบ้างไหมคะ เรื่องการเรียนนี่สรุปแล้วเดือนหนึ่ง บ้านครูน้อยเสียจริงๆเท่าไร เพราะครูน้อยพูดถึงเรื่องการเรียนก็บอกแต่แค่ว่า อนุบาล - ปริญญาตรี แต่ไม่ได้บอกว่า มีทุนช่วยหรือไม่ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเกินไปจริงๆแหล่ะ ถ้าโตๆแล้วก็สมควรทำงานนี่น่า เงินที่ให้เด็กไปเนี่ย เอามารวมๆกันไปเปิดธุรกิจแล้วให้เด็กในมูลนิธิช่วยกันดูแล กำไรที่ได้มาเอามาใช้จ่ายกันยังดูไม่น่าเกลียดเท่าไร แต่ให้เปล่า เราว่าคนที่เขาบริจาค เขาก็รู้สึกแย่ค่ะ ดังนั้นจึงไม่แปลก เพราะคนให้ไม่ได้มีเจตนาจะให้สบายขนาดนั้น แบบไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องลำบาก แล้วรับเงินไปวันๆ คนที่อยู่ข้างนอกมูลนิธิ เด็กบางคนทำงานช่วยครอบครัวหนักกว่าอีกมั้งคะ เราเองตอนประถมก็จำได้ว่า ตี3 ต้องตื่นนอนมาช่วยพ่อแม่เตรียมข้าวของไปขาย แล้วก็ไปงีบอีกนิด พอตี 5 ก็จับน้องแต่งตัวเดินไปส่งโรงเรียน เย็นก็ไปรับ สอนการบ้านน้อง วันหยุดไปช่วยพ่อแม่ขายของ ทุกวันนี้เวลาไปกินข้าวร้านไหนแล้วเห็นเด็กตัวเล็กๆที่ถึงเวลาควรนอนแล้ว ยังไม่ได้นอน เรามักจะอุดหนุน เพราะรู้สึกถึงตัวเองที่เคยลำบากแบบนั้น เงินมันไม่ได้มาง่ายๆเลย เด็กที่นั่นได้เงินง่ายๆนี่ เขารู้ไหมคะว่า เงินนั่นมีที่มาจากไหน เขาให้เพื่ออะไร หรือรู้แค่ว่า ครูน้อยให้ ทุกวันเดินไปขอครูได้เลย เราเองโชคดีที่ได้ญาติรับเลี้ยง เรียนไปก็ทำงานพิเศษไปมั่ง เลยได้เรียนต่อปริญญา แต่น้องชายเราเป็นผู้ชายเขาปล่อยให้ดูแลตัวเองค่ะ ตอนนี้ทำงานก่อสร้างส่งตัวเองเรียนอยู่ เราเองก็ช่วยส่งเงินให้บ้างเป็นบางครั้ง ที่จริงก็ไม่ได้ลำบากถึงขนาดต้องให้น้องทำงานหนักแบบนั้นหรอก แต่ว่าน้องเขาอยากจะทำ เราก็ได้แต่บอกว่า ถ้าเหนื่อยก็พอ ไม่ต้องฝืนขนาดนั้น ไว้พี่จะลองฝากให้ทำงานกับเพื่อนๆของพี่ แต่น้องเราก็ยังปฏิเสธ เราก็เลยให้เขาตัดสินใจเอง น้องเราอายุ 18 ค่ะ แต่เราก็ถือว่า เขาโตแล้ว อะไรช่วยครอบครัวได้ก็ช่วยกัน และโตแบบนี้ก็ตัดสินใจอะไรเองได้แล้วล่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 00:05:12 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:00:59

ความคิดเห็นที่ 59 เฮ้อ  ได้แต่ถอนหายใจ จากคุณ : ใจตัวเองห้ามยากที่สุด เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:13:49

ความคิดเห็นที่ 60 เรื่องนี้สอนให้รูว่าเงินเปลี่ยนคนได้จริงๆ แรกๆอาจจะมีความคิดที่ดีน่านับถือ แต่พอเงินบริจาคเยอะขึ้นอะไรๆก็เปลี่ยน ส่วนน้องจขกท ถ้ารักครูน้อยจริงๆเห็นว่าครูเป็นผู้มีพระคุณจริงๆ ทางที่ดีน้องควรเข้าไปคุยกับครูน้อยแกหน่อยนะคะ คุยตรงๆกับแกดู ว่าเรื่องราวมันอะไรยังไง ทำไมถึงมีหนี้เยอะขนาดนั้น อย่างน้อยน้องก็เคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีส่วนใช้เงินบริจาคนะ ถึงตอนนี้ครูแกเอาเงินไปทำอะไรเยอะแยะขนาดนั้น ลูกที่ดีก็น่าจะช่วงหาทางแก้ไขให้ท่านนะ เผื่อท่านกำลังจะเดินผิดทาง จะได้เรียกสติท่านกลับมา ไม่ให้สายเกินไป เราไม่ได้ดูถูกเด็กด้อยโอกาสนะคะ แต่อย่างน้อยคนเราก็ควรจิตสำนึกถึงเงินบริจาคที่ผู้ให้มีแก่ใจให้บริจาคมา เงินที่บริจาคให้ครูน้อยกันนั้น มันดูไม่โปร่งใสอย่างเห็นได้ชัด อ่านกระทู้ครูน้อยแล้วรู้สึกเหมือนอ่าน ลับ ลวง พราง ยังไงไม่รู้ค่ะ ขอให้จบสวยนะคะ ถึงจะกระท่อนกระแท่นแต่ทางออกก็มีค่ะ เพียงแต่มีสติ ศีลธรรมในการใช้ชีวิตนะคะ ฝากน้องจขกทบอกครูน้อยตามนี้ค่ะ ในฐานะที่จขกทเคยอยู่ในบ้านหลังนั้น ในฐานะที่เคยใช้เงินบริจาคจากคนอื่น ถ้ารักครูก็คงไม่อยากให้ครูดิ่งลงเหวไปเพียงเพราะปัจจัยที่เรียกว่า เงิน เพราะงั้นช่วยเรียกสติครูน้อยให้กลับคืนมาค่ะ เศรษฐีทั้งหลาย เค้ายังไม่ใช้จ่ายเงินอย่างครูน้อยเลย ถึงเค้าใช้อันนั้นก็ไม่แปลกเพราะเงินเค้าเอง ทำมาหากินเอง แต่ครูน้อยใช้เงินง่ายไปหน่อยค่ะ ไม่มีวินัย ทำให้เด็กเอาแต่ใจอยากได้อะไรก็ต้องได้ เท่าที่เห็นมา เด็กด้อยโอกาสจริงๆน่าจะมีความคิดลักษณะนิสัยที่ ติดดิน ไม่อยากได้อะไร ถึงอยากได้ก็ไม่ร้องเรียกจะเอา ส่วนมากจะเจียมตัวมากกว่านี้ค่ะ ทำให้คนภายนอกเค้าเอ็นดูช่วยเหลือ ส่วนเด็กๆด้อยโอกาสเหล่านี้ก็จะขยันตั้งใจเรียน ทำงานพาร์ทไทม์บ้าง ช่วยเหลืองานในมูลนิธิ ปัดกวาด เช็ดถูบ้าง เด็กมูลนิธิก็ไม่ต่างอะไรจากเด็กวัดกินข้าวก้นบาตรหลวงพ่อหรอกค่ะน้องจขกท แต่เท่าที่ดูเด็กๆบ้านครูน้อย เกินรับประทานแล้วค่ะ ได้เงินมากกว่าอีกหลายๆคนที่เค้ามีจะกินอีก ใช่ไหม ??? อันนี้ต้องคิดนะคะ ฝากบอกครูหน่อยก็ดีค่ะ อยากให้แกได้อ่านเยอะๆชัดๆ อันนี้พูดตรงๆจากความรู้สึก จากคุณ : แฟนสาวฮัตโตริคุง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:21:46

ความคิดเห็นที่ 61   จขกท น่ารักที่ออกมาแก้ต่างให้ครูน้อย ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณ ส่วนคุณครูน้อย เรารู้สึกนับถือและชื่นชมคะเพราะ เราเองยังนึกภาพไม่ออกว่าถ้ามีภาระต้องดูแลเด็กเยอะขนาดนี้ ด้วยอายุที่ก็ไม่น้อยแล้ว เราจะทำได้เท่าครูมั้ย จริงอยู่ครูอาจเจตนาดีแต่ขาดหลักการในการบริหารเงินและวิธีการเลี้ยงดูเด็ก ฉะนั้น เราทุกคนเป็นคนในสังคมควรจะช่วยเหลือ ให้ครูทำอะไรได้ดีขึ้น มากกว่าที่เป็นอยู่ เช่นใครเก่งบริหารการเงิน ก็ช่วยให้คำแนะนำปรึกษาด้านการเงินหมุนเงิน บริหารหนี้ ใครเก่งด้านพัฒนาบุคคลิคภาพเด็กหรือเป็นอาจาร์ย ก็เข้าไปช่วยเหลือ ชี้แนะกับทั้งครูเองและตัวเด็ก และอื่นๆ ปล.ถ้าสังคมไทย ถนัดแต่ซ้ำเติมคนและเก่งแต่จับผิด อย่าถามเลยว่าประเทศไทยจะเจริญมั้ย ถามสั้นๆว่าสังคมพันทิพจะเจริญมั้ยดีกว่า รู้สึกนับถือในความเก่งกาจ วาทะศิลป์และมันสมอง ของคนหลายๆคนในพันทิพ(บางคน) แต่....จะดีกว่ามั้ยถ้าจะใช้มันหาทางออกที่ดีทีสุด (ครูน้อยยังไม่ควรถูกสังคมประณามแบบนี้ถ้าความจริงยังไม่ปรากฏและยังหาหลักฐานมาพิสูจน์ไม่ได้ มันไม่ควร อย่างน้อยก็เป็นครูที่ทำเพื่อเด็กและสังคมมาตลอด) ปล2 ถ้าคห.เห็นนี้ ไปทำให้ใครไม่พอใจ ก็ขออภัยไว้ณ ที่นี่ด้วยนะคะ จากคุณ : Magic Airy เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:24:19

ความคิดเห็นที่ 62 เห็นด้วยกับ คห 54 ค่ะ น้องทิ้งครูมาเพราะไม่อยากเป็นภาระกับครู กลัวครูให้เงินอีก น้องไม่รับก็ได้นี่คะ เพราะจบปริญญาตรีคงมีงานมีเงินเดือนแล้ว ให้เงินครู ครูก็คงไม่รับ จะช่วยทำบัญชีครูก็ไม่ยอม ไม่ต้องให้เงินก็ได้ ถ้าคิดจะช่วยจริงๆ ก็ไปช่วยทำงานอื่นๆ อย่างน้อยไปชวนเด็กๆ ชวนพ่อแม่น้องก้อยที่เอาไปฝากให้ครูเลี้ยงดูส่งเสียช่วยกันกวาดถูบ้าน จัดของให้เป็นระเบียบก็ได้ วิธีแทนคุณมันมีหลายทางค่ะ จากคุณ : ohsci เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:42:12

ความคิดเห็นที่ 63 เจ้าของกระทู้หาย จากคุณ : ลมไม่หวน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 00:57:23

ความคิดเห็นที่ 64 "คนที่ทำความสะอาด 500 บาทต่อวัน พี่เลี้ยงเด็ก 1,500 บาทต่อวัน และคนทำบัญชี 2,500 บาทต่อวัน" ^ ^ อะไรคะเนี่ย??? แบบนี้ไม่ใช่แค่ดูแลจัดการบริหารเงินไม่เป็นแล้วมั้งคะ ?? และถ้ามีเงินมากพอที่จะจ่ายเงินขนาดนั้นได้ แต่ทำไมสภาพบ้าน ตัวเด็กหรือตัวครูน้อยเองถึงเดิมๆออริจินอล เสมอต้นเสมอปลายได้ขนาดนี้?? เงินทองความช่วยเหลือที่ได้มามากมายมหาศาลไม่ได้ช่วยให้สภาพชีิวต ความเป็นอยู่ดีขึ้นเลยเหรอ? อืมมมม ... ท่าทางจะอีำกยาว ติดตามตอนต่อไปที่โรงภาพยนตร์ใกล้บ้านท่าน ....  หวังว่าคงจะไม่เป็นมหากาพย์เรื่องใหม่นะคะ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 01:50:00

ความคิดเห็นที่ 65 พ่อผมเป็น ผู้ช่วย ผจก.แบ้งแห่งหนึ่ง ใครๆมองว่าบ้านผมมีฐานะดี ผมมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ต้องมาอยู่หอพักเอง แต่พ่อให้ผมใช้เดือนละ 2500 บาทเองนะ ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าลำบากอะไร  ทุกวันนี้ผมทำงานที่ค่อนข้างดีแต่มือถือผมยังใช้จอขาวดำอยู่เลย อย่างนี้ ผมสมควรเสนอตัวให้ใครสักคนมาอุปการะดีไหม ฮ่าๆ คือฐานะยังไงไม่สำคัญ แต่เราต้องรู้จักใช้เงินครับ 1.คนที่สงสัยครูน้อย คงไม่ได้อคติหรือเกลียดหรอกครับ เราแค่อยากมั่นใจ ว่าเงินนำไปใช้อย่างถูกต้อง ไม่ใช่หว่านแจกไปทั่วหรือเอาไใช้อย่างอื่น 2.การจัดการการเงินไม่ดี เมื่อทำไม่ไหว ควรให้คนอื่นช่วยทำ คนจะได้ไม่ครหา จะได้เชื่อสนิทใจว่าครูโปร่งใส 3.ถ้าเรายังบริจาคกันต่อไป เหมือนสงเสริมให้ครูน้อย สร้างเด็กรุ่นแล้วรุ่นเล่าออกมา แบบที่ไม่สอนให้รู้จักค่าของเงิน ประเด็นในใจมีแค่นี้นะ สำหรับผม ไม่รู้ว่าครูน้อยเอาเงินไปทำอะไรหมด แต่ผมว่าครูน้อยควรเลิกทำต่อ ให้เด็กกับสถาณรับเลี้ยงเด็กอื่นไปดีกว่า เพราะครูน้อยไม่มีความสามารถในการสอนเด็ก หรือจัดการอะไรเลย  ถ้ายังบริจาคกันต่อไป ปัญหาไม่มีวันจบ ปล..เคยไปครั้งนึง ไม่อยากไปอีกเลย เด็กมาขอเงินเล่นเกมส์ ไม่ให้ก็พูดซ้ำๆๆๆ จนต้องให้ไป แต่ในใจรู้สึกไม่ดี แถมมาขอที่ห้อยโทรศัพท์ด้วย คะยั้นคะยอจะเอาให้ได้ เลยรู้สึก แปลกๆ เหมือนเด็กที่มาคะยั้ยคะยอขายดอกกุหลาบตามร้านอาหาร จากคุณ : Sa-Cool เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 03:19:18

ความคิดเห็นที่ 66 โอละพ่อแน่ๆ เพราะเงินตัวเดียวแท้ๆ จากคุณ : ทาสเทคโนโลยี เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 04:28:32

ความคิดเห็นที่ 67 มารับฟังด้วยคน จากคุณ : Boom NaJa เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 08:01:55

ความคิดเห็นที่ 68 อืมมมม จากคุณ : เชร็ค 3 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 08:51:21

ความคิดเห็นที่ 69 บางครั้งอดีตมันก็บอกปัจจุบันไม่ได้ จากคุณ : ผืนแผ่นดิน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:16:12

ความคิดเห็นที่ 70   เราว่าครูน้อยมีเจตนาที่ดี แต่บริหารการเงินไม่เป็นค่ะ จากคุณ : Acheron เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:23:57

ความคิดเห็นที่ 71 ไม่ได้จับผิดคุณก้อยนะคะ  แต่อ่านไปแล้ว มันตะหงิด ๆ อ่ะ ค่ะ กับ คะ  คุณยังใช้ไม่ถูกต้องเลย จากคุณ : เจ้าปังย่ากะท๊อฟฟี่ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:36:02

ความคิดเห็นที่ 72 อึ้ง  ตรงคุณก้อยได้เงินวันละ  80  บาท ถามหน่อยครับ  ว่าครูน้อยให้เงินคุณก้อยเท่านี้ตอนอายุเท่าไหร่ครับ ตอนอยู่ประถม  หรือมหาวิทยาลัย  ถ้าตอนประถมก็ถือว่าเยอะโคตรๆ ถ้ามหาวิทยาลัยยังถือว่าเยอะเลยครับ ผมคิดว่าลูกหลานผมหรือคนในบอร์ดนี้คงอายุพอๆกับคุณก้อย  ยังไม่เคยได้เงินไปเรียนถึง  80  บาทหรอกครับ  ข้าวก็มีกิน  2  มื้อ  รับผิดชอบแค่ใช้ค่าข้าวในชีวิตประจำวันเอง  อุปกรณ์การเรีบน  ทำรายงานผมเชื่อคุณก็ขอเพิ่ม(เพราะครูน้อยขอเงินง่าย  เหมือนที่ผู้ปกครองแถวนั้นยังเคยมาขอเงินครูน้อยดื้อๆ) สรุป   ครูน้อยตั้งใจโกงยักยอก ก้ำกึ่ง  ไม่ได้ตั้งใจโกงแต่จัดการค่าใช้จ่ายไม่ได้จริงๆ บริสุทธิ์  เพราะมีหลายอย่างเรายังไม่รู้ จากคุณ : รังสิตแมน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:37:33

ความคิดเห็นที่ 73 ดีเอสไอรีบตรวจสอบแล้วจับคนทำผิดมาลงโทษด้วยครับ งานนี้อาจได้นอนคุกทั้งบ้าน จากคุณ : เด็กบนดอย เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:56:25

ความคิดเห็นที่ 74 เอ๊า!! หน้าม้าครูน้อยหายไป ต้องทำป้ายประกาศหาตัวกันให้วุ่นวายไหมนี่?? พี่เกิดที่อเมริกา โตที่นั่น เรียนที่นั่น ที่บ้านเป็นร้านอาหารค่ะ ร้านใหญ่ด้วย เป็นร้านของป้า (ไทย) และลุง (อเมริกัน) พี่มีศักดิ์เป็นหลานสายตรง ทุกๆวันพี่ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อลงมาเตรียมร้าน และออกไปเรียนตอนเจ็ดโมงครึ่ง พี่ทำทุกตำแหน่งเลยค่ะ (ยกเว้นเชฟเพราะมือไม่ถึง) ยกตัวอย่างงานที่พี่ต้องทำนะคะ พี่ต้องล้างห้องสุขา (ส้วม) วิธีล้างทำอย่างไรรู้ไหมคะ?? เอามือเปล่าๆนี่แหละค่ะ ย้ำว่ามือเปล่าๆ ล้วงลงไปในคอห่าน เพื่อทำความสะอาด แล้วเอาน้ำยาล้างสุขภัณฑ์ลงซ้ำอีกที ทำงานในบ้านไม่พอ พี่ต้องออกไปหารายได้เสริมทำงานกับร้านสดวกซื้อ หรือร้านฟาสท์ฟู้ด ได้เงินชั่วโมงละ ๔.๕ บัคส์ ณ ตอนนั้นนะคะ ทุกวันกว่าจะทำงาน + ทำการบ้าน + อ่านหนังสือ ฯลฯ เวลาก็หมดไปกว่า ๑๘ ชั่วโมงแล้ว พี่ได้นอนวันละ ๕-๖ ชั่วโมงเองค่ะ ที่เล่ามาทั้งหมดเพื่อที่จะบอกว่า ทุกคนเขาต้องทำงานแลกมาซึ่งเงินค่ะ แต่น้องอยู่เป็นชาวเกาะจนอายุ ๒๑ แล้วเพิ่งสำเหนียกตัวได้ว่าอยู่มานานแล้ว ไม่อยากถ่วง เลยตีชิ่งออกมากก่อน แล้วตอนนี้มาเขียนอวยอยู่ด้านเดียว แย่จังเลย แทนที่จะมาช่วยให้ภาพลักษณ์ของครูน้อยดีขึ้น กลับดูแย่ลงไปอีกเพราะตัวน้องเอง ตอนพี่อายุเท่าน้อง พี่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อตเลยค่ะ น้องอ้างว่าระหว่างที่อยู่กับครูน้อย น้องช่วยดูแลน้องๆ ช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ช่วยแบ่งเบางานครูน้อยบ้าง มันก็เหมือนทำงานบ้านน่ะค่ะ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย เท่านั้นเอง แต่ไม่ยักจะคิดหางานทำ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเป็นภาระคนอื่นมากขนาดนี้ พี่ทำงานตั้งแต่เด็กเลยนะคะ อายุ ๙ ขวบพี่ก็หัดล้างส้วมแล้วค่ะ เฮ้อ~ พี่เคยบริจาคนะคะกับบ้านครูน้อยเนี่ย ตอนรายการเจาะใจพี่ก็กดโหวตไปเพียบ หลายพันอยู่ เสียดายเงินว่ะค่ะ!! ปล. ข้อความที่เขียนอาจใช้คำรุนแรงเกินไป ด้วยอารมณ์ล้วนๆค่ะ จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:59:32

ความคิดเห็นที่ 75 ครูน้อยจะทำไงต่อล่ะ ถ้าสมมุติว่าเรื่องมันในแนวที่ไม่ดี เรื่องราวตามข่าวมันเกิดเป็นจริงขึ้นมา  ถ้าบ้านต้องถูกยุบไป  หนี้สินที่มีอยู่ล่ะ ใครจะช่วยจะจบยังไงล่ะนั่น จากคุณ : ชูโฮ_มารู เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 09:59:38

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 22,24 ขอบคุณค่ะ เป็นคำแนะนำที่ดีมากๆ เลยค่ะ ก้อยเข้าใจว่าพี่ๆ หวังดี ก้อยจะนำไปคิดและทบทวยช่วยครูแก้ไขค่ะ น้องก้อย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยคิดหางานพิเศษทำบ้างมั้ยคะ? เช่น ทำงานในร้าน KFC/ MAC / 7-11 ฯลฯ  หรืออยู่บ้านครูน้อยก็สุขสบายดีแล้วเพียงช่วยดูแลเด็กคนอื่นๆก็พอ ถ้าครูน้อยเลี้ยงดูเด็กจนจบปริญญาตรีแบบนี้เหมือนเป็นพ่อแม่แท้ๆเลยนะคะ นับว่าเป็นบุญของน้องและถือเป็นกรรมดีของครูน้อย หาค่ะ ก้อยก็หาทำงานพิเศษ ตอนอยู่ก้อยก็ทำงานพิเศษค่ะ พี่คนอื่นในบ้านก็เช่นกัน ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 27     คุณก้อย ครูน้อยเคยสอนเรื่องการใช้ชีวิตมั้ยคะ สอนให้ประหยัด รู้จักพอเพียง ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย หรือรู้จักหางานพิเศษทำ ตลอดเวลาที่อยู่บ้านครูน้อย เคยทำงานอะไรมั้ย หรือว่าแบมือขอเงินอย่างเดียว  ออกสื่อทีไร มีแต่ภาพบ้านเก่าซอมซ่อ เด็กแต่งตัวสกปรก คนที่เคยไปทำบุญกลับมาบ่นว่าเหม็น มีแต่กลิ่นสุนัข ครูน้อยไม่เคยปรับปรุงมาตลอด 30 ปีเลยเหรอคะ  อยู่แบบนั้นผิดสุขลักษณะ ทำค่ะ ก้อยทำทุกอย่างเท่าที่ก้อยจะทำได้ แต่ทุกคนไม่ได้คิดช่วยทำเหมือนกับก้อยทุกคนนี้คน แต่ก้อยก็ไม่ได้ว่าก้อยดี ถ้าทุกคนไม่ได้คิดเหมือนก้อยก็เท่านั้น ก้อยไปบงการความคิดของทุกคนไม่ได้หรอกค่ะ ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 28 บทความนี้ ใช้คำว่า "ก้อย" มากไป อ่านไม่รู้เรื่องเลย ไปรีนิวใหม่ เอาให้เนียนกว่านี้ หนูก้อยได้เงินจนอายุเท่าไหร่ ? วันละเท่าไหร่ เคยจดไหม? ทำไมไม่จด? หรือถ้าไม่จด เคยจำได้ไหมว่าทั้งหมดเท่าไหร่ ? ได้วันละ 80 บาทค่ะ จดในสมุดค่าไปเรียนของครูๆ เท่าที่ก้อยเห็นครูมีอยู่แค่เล่มนี้นะค่ะ ขอโทษที่เขียนแล้วงง คือก้อยเขียนเป็นบทความไม่เก่งนะค่ะ ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 29     คนที่เขามีอันจะกิน ตอนเรียนระดับมหาวิทยาลัย เขายังหางานPart time ทำกันเลยจ้าคุณนู๋ก้อย +ที่ก้อยออกมาเพราะ ไม่ใช่ว่าก้อยลืมบุญคุณครู แต่ก้อยไม่อยากเป็นภาระให้+ ได้เงินจากครูมาใช้ในการเรียน ส่งเสียตัวเองจนจบ คุณก้อยเคยนึกถึงครูกลับไปช่วยแบ่งเบาภาระบ้างรึเปล่าคะ?    หรือ ออกไปแล้วออกไปเลย ไม่ได้กวนนะคะ แต่อยากทราบจริงๆ ถ้าเป็นเรานะคะ  ครูส่งเสียให้เรียนจนจบขนาดนี้ คงไม่ตีตัวออกมา... เพราะแค่คิดว่าจะเป็นภาระให้ครู  แต่จะอยู่ต่อ เพื่อแบ่งเบาภาระครูผู้ที่ให้เรามากกว่าพ่อแม่แท้ๆซะอีก... ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 30,31,32,33,34,38,39,40,41,42,43 ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 44     หายไปไหนแล้วครับคุณก้อยออกมาชี้แจงหน่อยครับ อย่าเกาะจนอายุ21เลยเหรอครับแบมือข้อแล้วทุกวันนี้ทำมาหากินอะไรครับ ขอรายระเอียดหน่อยครับคุณก้อย ไม่ได้หาย บ้านก้อยไม่มีคอม ก้อยทำงานใช้ที่ทำงานตอบ อันนี้แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ เพราะได้ตอบไปหมดแล้ว จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:00:54

ความคิดเห็นที่ 77 ความคิดเห็นที่ 47     เราอ่านกระทู้เราก็เข้าใจมุมมองของน้องก้อยนะ ในฐานะที่น้องเป็นคนในบ้านที่ครูโอบอุ้มดูแลมา แน่นอนย่อมมองเห็นข้อดี มีความผูกพันธ์ช่วยเหลือกันมา เป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่สังคมถามหาตอนนี้ ไม่ใช่ว่าใครต่อใครพากันไปใส่ร้าย ครูน้อยกันหมดนะคะ เขามีข้อสงสัยที่ครูน้อยไม่ชัดเจนต่างหาก เหมือนที่คำถาม คห. ที่ 14 ตั้งเป็นข้อๆ น่ะ และอีกหลายคนสงสัย อยู่บนพื้นฐานความน่าจะเป็นทั้งนั้น แต่ครูน้อยไม่มีคำตอบ พี่เข้าใจว่า ต่อให้น้องก้อยอยากไปช่วยครูทำบัญชีรายรับรายจ่าย ใจจะขาด ถ้าครูน้อยไม่อนุญาต ก็คงทำไม่ได้หรอก  ขนาดหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปช่วย ครูน้อยยังไม่ยอมรับเลย  มันน่าสงสัยไม๊ล่ะ (เชื่อว่าน้องก็คงแอบแคลงใจล่ะ  แต่ทำไงได้ เรามันคนใน พูดไรมากไปก็ไม่ดี เดี๋ยวก็จะกลายเป็นอกตัญญูอีก) เห็นจากกระทู้นี้ก็ถือว่าน้องรู้จักพูด รู้จักคิดระดับหนึ่ง ส่วนมากคนอ่านเข้าใจจุดประสงค์ที่หนูเขียนจ้ะ ไม่ต้องคิดมาก หากอ่าน บางความเห็นแล้วไม่สบายใจ  เรื่องที่ผู้ใหญ่กระทำ เราไปแก้ไขอะไร ไม่ได้หรอก  แต่จงพยายามทำสิ่งที่เราจะทำได้ให้ดีที่สุด เช่นกลับไปช่วยงานบ้านครูบ้าง  หรือพอทำงานมีรายได้ก็แบ่งเอา ไปช่วยเป็นค่าใช้จ่ายบ้าง ก็ถือว่าเราตอบแทนคุณแล้ว   ถ้าทำอยู่ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ   ส่วนเรื่องครูน้อย เรายังไม่ได้ตัดสินครูน้อยว่าเลว หรือว่าอะไรนะ แต่สังคมสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากทราบคำตอบ ซึ่งเราว่ามันเป็นการดี ที่อะไรๆ จะได้ถูกต้องตามประสงค์ของการรับบริจาค เพื่อที่ว่า คนรับ คนให้ สุขใจเหมือนๆ กัน เราถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีกระทู้สงสัยขึ้นมา ..... ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ พี่ช่วยตอบแทนก้อยได้มากจริงๆ ความคิดเห็นที่ 51     เอาเถอะค่ะ  อย่ารุมน้องก้อยนักเลย  ถึงแม้ว่าอ่านข้อมูลมาทั้งหมดแล้วจะตะขิดตะขวงใจกับบ้านครูน้อยอยู่  แต่น้องก้อยก็ยังนับว่าเป็นคนหนึ่งที่ออกมาตอบคำถามบางข้อ  ก็นับว่ามีความรักและกตัญญูกับครูน้อย  ดิฉันคิดว่าตอนแรกๆนั้นครูน้อยมีเจตนาดีและบริสุทธิ์ใจจริงๆค่ะ  แต่อาจจะบริหารจัดการการเงินไม่เป็นและไม่มีวินัยในการใช้เงินค่ะ  และเงินจำนวนมากๆอาจจะทำให้คนเปลี่ยนไป๋ก็ได้     ส่วนข้อที่มีคนบอกว่าครูน้อยดื่มเหล้าด้วยนี้ก็น่าแปลกประหลาดใจมาก.... ช็อคค่ะ     คนในรูปใช่น้องก้อยหรือเปล่าคะ  น่ารักจังค่ะ ขอบคุณค่ะที่ชม ตัวเองยังไม่เห็นรูปเลยค่ะ ก้อยก็ช็อคค่ะ ไม่เคยรู้เหมือนกันว่าครูดื่มเหล้า จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:03:57

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 52     น้องก้อยคะ นี่หนูอยู่กับครูน้อยมาตั้งแต่สามขวบ จนเรียนจบมหาวิทยาลัย หนูช่วยกรุณาเล่าประวัติให้ทราบได้ไหมคะ ว่านอกจากอยู่บ้าน ไปเรียน แล้วหนูทำอะไรอีกทื่จะได้เงินมาจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง ... แล้วช่วยบอกได้ไหมคะ จากประสบการณ์บ้านครูน้อยสอนวิชาชีพ และวิชาการอะไรให้หนูบ้าง หากอยากกระจ่าง หนูทำเป็นตารางกิจกรรมประจำวันเลยนะคะลูก ค่ะ ก้อยหาเงินจากงานฝีมือ คือการปักครอสติช นั้นคือรายได้จากน้ำพักน้ำแรงก้อย ทำงานผีมือจากโอ่ง ถ้าพี่ๆที่เคยไปจะเห็นว่ามีวางขายอยู่ ส่วนน้องๆ จะทำเสื้อขายนะค่ะ แต่จะทำจากเวลาที่ก้อยว่างๆ จากการไม่มีคนมาเยี่ยมนะค่ะ จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:08:28

ความคิดเห็นที่ 79 น้องก้อยคะ "คะ/ค่ะ" ใช้ให้ถูกก่อนดีไหมคะ?? จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:17:01

ความคิดเห็นที่ 80 ความคิดเห็นที่ 53     คุณก้อยอยู่นานมากๆ  พอบอกได้ไหมว่า มีนศ.ไปทำกิจกรรมอะไรที่บ้าง ตลอดสิบกว่าปีที่อยู่มาค่ะ เอากิจกรรม ชัดๆ  นะคะ เอา ส-อาทิตย์ที่คุณก้อยอยู่ได้ดูได้รู้ได้เห็นน่ะค่ะ ใครมาสอน ใครมาให้อะไรบ้าง เยอะค่ะ มีเกม สอนทำงานฝีมือ สอนน้องวาดรูป เยอะมากค่ะ บางทีก็มีการแสดงมาให้น้องชม บางทีก็มีการจัดกลุ่มให้น้อง ช่วยน้องๆ  ทำอะไรเยอะแยะมากมายค่ะ มีหลายมหาลัยค่ะ มีทั้ง ม.กรุงเทพ ม.หอการค้า ม.เทคโนบางมด เยอะค่ะ ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณค่ะ ความคิดเห็นที่ 58     ไม่เข้าใจอย่างค่ะ คุณ จขกท บอกว่า คุณได้รับทุนจากมหาลัย แล้วคนอื่นๆได้รับบ้างไหมคะ เรื่องการเรียนนี่สรุปแล้วเดือนหนึ่ง บ้านครูน้อยเสียจริงๆเท่าไร เพราะครูน้อยพูดถึงเรื่องการเรียนก็บอกแต่แค่ว่า อนุบาล - ปริญญาตรี แต่ไม่ได้บอกว่า มีทุนช่วยหรือไม่ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายเกินไปจริงๆแหล่ะ ถ้าโตๆแล้วก็สมควรทำงานนี่น่า เงินที่ให้เด็กไปเนี่ย เอามารวมๆกันไปเปิดธุรกิจแล้วให้เด็กในมูลนิธิช่วยกันดูแล กำไรที่ได้มาเอามาใช้จ่ายกันยังดูไม่น่าเกลียดเท่าไร แต่ให้เปล่า เราว่าคนที่เขาบริจาค เขาก็รู้สึกแย่ค่ะ ดังนั้นจึงไม่แปลก เพราะคนให้ไม่ได้มีเจตนาจะให้สบายขนาดนั้น แบบไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องลำบาก แล้วรับเงินไปวันๆ คนที่อยู่ข้างนอกมูลนิธิ เด็กบางคนทำงานช่วยครอบครัวหนักกว่าอีกมั้งคะ เราเองตอนประถมก็จำได้ว่า ตี3 ต้องตื่นนอนมาช่วยพ่อแม่เตรียมข้าวของไปขาย แล้วก็ไปงีบอีกนิด พอตี 5 ก็จับน้องแต่งตัวเดินไปส่งโรงเรียน เย็นก็ไปรับ สอนการบ้านน้อง วันหยุดไปช่วยพ่อแม่ขายของ ทุกวันนี้เวลาไปกินข้าวร้านไหนแล้วเห็นเด็กตัวเล็กๆที่ถึงเวลาควรนอนแล้ว ยังไม่ได้นอน เรามักจะอุดหนุน เพราะรู้สึกถึงตัวเองที่เคยลำบากแบบนั้น เงินมันไม่ได้มาง่ายๆเลย เด็กที่นั่นได้เงินง่ายๆนี่ เขารู้ไหมคะว่า เงินนั่นมีที่มาจากไหน เขาให้เพื่ออะไร หรือรู้แค่ว่า ครูน้อยให้ ทุกวันเดินไปขอครูได้เลย เราเองโชคดีที่ได้ญาติรับเลี้ยง เรียนไปก็ทำงานพิเศษไปมั่ง เลยได้เรียนต่อปริญญา แต่น้องชายเราเป็นผู้ชายเขาปล่อยให้ดูแลตัวเองค่ะ ตอนนี้ทำงานก่อสร้างส่งตัวเองเรียนอยู่ เราเองก็ช่วยส่งเงินให้บ้างเป็นบางครั้ง ที่จริงก็ไม่ได้ลำบากถึงขนาดต้องให้น้องทำงานหนักแบบนั้นหรอก แต่ว่าน้องเขาอยากจะทำ เราก็ได้แต่บอกว่า ถ้าเหนื่อยก็พอ ไม่ต้องฝืนขนาดนั้น ไว้พี่จะลองฝากให้ทำงานกับเพื่อนๆของพี่ แต่น้องเราก็ยังปฏิเสธ เราก็เลยให้เขาตัดสินใจเอง น้องเราอายุ 18 ค่ะ แต่เราก็ถือว่า เขาโตแล้ว อะไรช่วยครอบครัวได้ก็ช่วยกัน และโตแบบนี้ก็ตัดสินใจอะไรเองได้แล้วล่ะ ใช่ค่ะ ก้อยได้ทุน แต่ก้อยได้งานแล้ว ก้อยเลยไม่รับทุนที่มหาลัยจัดให้ๆทางมหาลัยให้คนที่ลำบากกว่านะค่ะ ส่วนคนอื่นๆ ไมทราบค่ะว่าเขาได้ไหมเพราะก้อยไม่ค่อยได้ยุ่งกับใครมากเท่าไรนะค่ะ ส่วนคำแนะนำ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:17:16

ความคิดเห็นที่ 81 เอาอย่างนี้แล้วกัน ห้ามความคิดไม่ได้หรอกแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ก้อยไม่ได้หนีไม่ได้หาย ถ้าคุณอยากจะซ้ำเติมหรือจะว่ายังไงก็ตามใจค่ะ ก้อยก็แค่อยากให้เห็นอีกมุมคนในความคิดของก้อย ผิดหรือเปล่า ก้อยแค่อยากให้ทุกคนได้รอความจริงปรากฏพร้อมกับก้อยเหมือนกัน ก้อยก็ไม่ต่างอะไรจากคุณหรอกที่ไม่รู้ว่าครูนำเงินไปใช้ในด้านไหนบ้าง ก้อยจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเลยหรอ รอกันได้ไหมละคะ เข้าใจว่าทุกคนหวังดีไม่มีใครอยากจะคิดร้ายหรอกก้อยรู้ เพราะก็อยู่ในเว็บนี้มาได้สักพัก ถ้าการตั้งกระทู้แล้วทำให้ไม่มีผลดีอะไร ก็ขอโทดด้วยนะคะ ก้อยก็ทำได้เท่านี้ ตอบได้เท่านี้ จบเถอะค่ะ มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่ทำให้คนอื่นๆ โมโหมากๆ ขึ้นเรื่อยๆ ปล.เสียใจค่ะ ตอนนี้ก็เสียใจ ทำไมต้องซ้ำเติม ไม่รออะไรที่มันแน่นอนออกมาก่อน ปล.ไม่ต้องห่วงว่าก้อยจะหายนะ ก้อยจะหายไปจริงๆ เพราะทำไปไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย ก็แค่มุมมองของก้อยแค่นั้นเอง จริงๆ จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:32:09

ความคิดเห็นที่ 82   อยู่บ้านครูมาตั้งแต่3ขวบ เป็นเรา เราจะไม่เรียกว่า เด็กๆ เราจะเรียกว่า เพื่อนๆ น้องๆ ก้อยช่วยครูเลี้ยงน้องๆ เพราะเด็กๆที่อยู่มูลนิธิแบบนี้ เค้าจะอยู่กันแบบพี่ๆ น้อง สอนให้รัก ช่วยเหลือกัน แบบพี่ดูแลน้อง ไม่ไช่หรือจ๊ะ จากคุณ : taisiya เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:35:57

ความคิดเห็นที่ 83 คุณก้อยครับ ผมยินดีด้วยครับ ที่คุณได้มีโอกาสเรียนจบ และครูน้อย ก็คงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณก้อยเรียนจบ จาก คห21 จุดแรกเลยครับ ".........ถ้าก้อยไม่ออกจากบ้านครูหรือก้อยเข้าไปช่วยครูๆ ก็จะให้เงินก้อยอยู่เรื่อย........" ครูน้อยเค้าเลี้ยงคนไม่เป็น มีแต่ให้ๆ การให้คือสิ่งที่ดี แต่ควร "ให้ เมื่อควรให้" นี่ให้มาตั้งแต่ 3 ขวบ จนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ยังคิดจะให้อีก สมควรแล้วครับ ที่ติดหนี้ 8 ล้าน ส่วนจุดที่สอง "....ส่วนเรื่องเงินกับเด็กเก่าๆ ที่นำไปให้แกๆ ไม่รับหรอกค่ะ...." ก็นั่นน่ะสิครับ เด็กมีสามัญสำนึกในการที่จะช่วยกับสถาณเลี้ยงดุให้เติบใหญ่ ครูน้อยกลับไม่รับ เลือกที่จะรับแต่ "เงินบริจาค" หึหึ อ่านความเห็นคุณก้อยมาทั้งหมด ไม่แปลกใจเลยละครับว่า กับคำว่า "ครูน้อยสปอยล์เด็ก" คุณก้อยก็น่าจะเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ครูน้อยสปอยล์ ลองไปดูกระทู้แนะนำห้องเฉลิมไทยนะครับ หลายๆคน (รวมทั้งผม) อึ้งกับคำว่า "ให้ไปมหาวิทยาลัยวันละ 200 บาท" หลายๆคน ได้ไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ หลายๆคน ต้องไปหางาน part time เพื่อที่จะเป็นรายได้เสริม แต่นี่ เอาเงินบริจาคจากสังคมไปใช้ "แค่" วันละ 200 บาท ทำไมช่างกล้าพูดครับ? จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:37:53

ความคิดเห็นที่ 84 ความคิดเห็นที่ 83     คุณก้อยครับ ผมยินดีด้วยครับ ที่คุณได้มีโอกาสเรียนจบ และครูน้อย ก็คงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณก้อยเรียนจบ จาก คห21 จุดแรกเลยครับ ".........ถ้าก้อยไม่ออกจากบ้านครูหรือก้อยเข้าไปช่วยครูๆ ก็จะให้เงินก้อยอยู่เรื่อย........" ครูน้อยเค้าเลี้ยงคนไม่เป็น มีแต่ให้ๆ การให้คือสิ่งที่ดี แต่ควร "ให้ เมื่อควรให้" นี่ให้มาตั้งแต่ 3 ขวบ จนเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ยังคิดจะให้อีก สมควรแล้วครับ ที่ติดหนี้ 8 ล้าน ส่วนจุดที่สอง "....ส่วนเรื่องเงินกับเด็กเก่าๆ ที่นำไปให้แกๆ ไม่รับหรอกค่ะ...." ก็นั่นน่ะสิครับ เด็กมีสามัญสำนึกในการที่จะช่วยกับสถาณเลี้ยงดุให้เติบใหญ่ ครูน้อยกลับไม่รับ เลือกที่จะรับแต่ "เงินบริจาค" หึหึ อ่านความเห็นคุณก้อยมาทั้งหมด ไม่แปลกใจเลยละครับว่า กับคำว่า "ครูน้อยสปอยล์เด็ก" คุณก้อยก็น่าจะเป็นอีกคนหนึ่ง ที่ครูน้อยสปอยล์ ลองไปดูกระทู้แนะนำห้องเฉลิมไทยนะครับ หลายๆคน (รวมทั้งผม) อึ้งกับคำว่า "ให้ไปมหาวิทยาลัยวันละ 200 บาท" หลายๆคน ได้ไม่ถึง 100 บาทด้วยซ้ำ หลายๆคน ต้องไปหางาน part time เพื่อที่จะเป็นรายได้เสริม แต่นี่ เอาเงินบริจาคจากสังคมไปใช้ "แค่" วันละ 200 บาท ทำไมช่างกล้าพูดครับ? ก้อยไม่ได้รับเงินครูตั้งแต่ 3 ขวบ ก้อยรับตอนเรียน ปวช และก้อยไม่เคยได้เงินเยอะถึง 200 บาท ก้อยได้ 80 บาท มาตลอดคะ จากคุณ : ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกความเห็น (บ้านนู๋ก้อยจ้า) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:44:39

ความคิดเห็นที่ 85 ความคิดเห็นที่ 81   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   เอาอย่างนี้แล้วกัน ห้ามความคิดไม่ได้หรอกแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน ก้อยไม่ได้หนีไม่ได้หาย ถ้าคุณอยากจะซ้ำเติมหรือจะว่ายังไงก็ตามใจค่ะ ก้อยก็แค่อยากให้เห็นอีกมุมคนในความคิดของก้อย ผิดหรือเปล่า ก้อยแค่อยากให้ทุกคนได้รอความจริงปรากฏพร้อมกับก้อยเหมือนกัน ก้อยก็ไม่ต่างอะไรจากคุณหรอกที่ไม่รู้ว่าครูนำเงินไปใช้ในด้านไหนบ้าง ก้อยจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องเลยหรอ รอกันได้ไหมละคะ เข้าใจว่าทุกคนหวังดีไม่มีใครอยากจะคิดร้ายหรอกก้อยรู้ เพราะก็อยู่ในเว็บนี้มาได้สักพัก ถ้าการตั้งกระทู้แล้วทำให้ไม่มีผลดีอะไร ก็ขอโทดด้วยนะคะ ก้อยก็ทำได้เท่านี้ ตอบได้เท่านี้ จบเถอะค่ะ มันไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย มีแต่ทำให้คนอื่นๆ โมโหมากๆ ขึ้นเรื่อยๆ ปล.เสียใจค่ะ ตอนนี้ก็เสียใจ ทำไมต้องซ้ำเติม ไม่รออะไรที่มันแน่นอนออกมาก่อน ปล.ไม่ต้องห่วงว่าก้อยจะหายนะ ก้อยจะหายไปจริงๆ เพราะทำไปไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย ก็แค่มุมมองของก้อยแค่นั้นเอง จริงๆ จากคุณ : บ้านนู๋ก้อยจ้า (บ้านนู๋ก้อยจ้า) [FriendFlock] [Bloggang] เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:32:09 [แก้ไข] ......................................... เมื่อน้องออกมาตั้งกระทู้แล้ว น้องต้องพยายามรับความเห็นที่เห็นด้วย และเห็นต่างให้ได้ค่ะ ในเมื่อรักครูน้อย และอยากออกมาบอกในมุมมองของน้อง ต้องต้องยอมรับความเป็นจริงด้วย พี่ว่าน้องยังไม่เข้มแข็งพอ อ่านจากที่น้องตัดพ้อมาในความเห็นนี้ น้องเข้มแข็งหน่อยสิคะ พี่คิดว่าไม่ได้มีใครจ้องจะด่าหรอกค่ะ แม้แต่พี่เอง พี่เสียความรู้สึกมากๆก็เท่านั้น พี่กดมาจากหัวข้อคิดว่าจะมีอะไรที่ตีแผ่ได้บ้างจากปากคำของคนที่เคยอยู่ในบ้านครูน้อย แต่เปล่าเลย น้องไม่ได้รู้อะไรที่ลึกซึ้งเลย ทั้งๆที่น้องอยู่มาตั้งแต่สามขวบ จนอายุยี่สิบเอ็ด ที่น้องเขียนมาก็เขียนด้านเดียว พี่อ่านๆมาไม่ได้มีใครเข้ามาด่ากราดสักคน พี่ว่าทุกคนต้องการติเพื่อก่อนะคะ.. ตราบใดที่น้องยังเป็นแบบนี้ น้องจะยืนด้วยตัวเองได้ไหมล่ะคะ?? (พี่แค่คิดเผื่อค่ะ ไม่ได้มีนัยอะไรลึกซึ้ง) จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 10:55:50

ความคิดเห็นที่ 86 เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณก้อยและเพื่อนคนอื่นที่ครูน้อยเคยช่วยเหลือจนเรียนจบมีงานทำแล้วควรออกมาช่วยครูน้อยชำระหนี้ที่เหลือ ไม่ใช่ปล่อยให้ครูน้อยร้องไห้ออกทีวีไม่มีเงินใช้หนี้อยู่คนเดียว..... จากคุณ : tiNgrOyArrAi เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:12:08

ความคิดเห็นที่ 87 อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ แล้ว มีความรู้สึกว่า ทุกคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นบรรทัดฐานในการวิเคราะห์ ครูน้อยและคุณก้อยทั้งนั้นเลย จะมีแต่คำว่า ถ้าเป็นผม/ถ้าเป็นฉัน/ถ้าเป็นพี่ ฯลฯ ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ วิธีนึงอาจจะทำให้คนๆนึงเจริญก้าวหน้า แต่ด้วยวิธีเดียวกัน อาจไม่สามารถช่วยอะไรคนอีกคนได้เลย เงินบริจาค เราบริจาคไปแล้วด้วยใจบริสุทธิ์ ยังจะไปยึดถืออะไรกับมันอีกครับ ว่ามันจะต้องถูกใช้ยังไงอะไร ถ้าคนที่เอาเงินบริจาคไปใช้ ไม่บริสุทธิ์ใจผลกรรมก็อยู่กับคนนั้นเอง ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องบริจาค แต่ลองมองอีกแง่ ถึงครูน้อยจะบริหารเงินไม่เป็น จัดการอะไรก็ดูมีเงื่อนงำ แต่คุณก้อยคือ ตัวอย่างใบเสร็จที่บอกว่า เจตนาของการบริจาคของคุณๆนั้น สัมฤทธิ์ผลแล้ว จะไม่อนุโทธนาตัวเองกันหน่อยหรอครับ? จากคุณ : ความจริงที่ไม่มีจริง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:30:59

ความคิดเห็นที่ 88 ความเห็นส่วนตัวเลยนะครับ การที่เรายากจน แล้วไปรับ และใช่มีบุญคุณ แต่ถ้าสังเกตว่า ทำไม ไม่รู้อะไรมากไปกว่านั้น ที่ไม่รู้ ก็เพราะ เราสนใจแค่ว่า เราขออะไรแล้วได้ก็พอ มีเงินให้ใช้ พอแล้ว เมื่อจบ ทำงานได้หาเงินได้แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องยุ่งเกี่ยวอีก คือไม่ขอต่อไป ก็นับว่าช่วยเหลือแล้ว คิดแบบนี้ เรามีเขา เราได้เงิน  ขณะเดียวกัน เขาเกณฑ์เราเข้าไป เขาก็ได้เงินเช่นกัน ก็เอาเป็นว่า สิ่งที่ถูกต้อง คืออะไร อะไร คือการอนุเคราะห์  .. ผู้ใดควรรับ ผู้ใดมิควรรับ .. ผู้ไม่ควรรับ ก็จะมีวิบากของตนเองแน่นอน บอกได้เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 11:58:02 จากคุณ : HANDYHUNG เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:57:34

ความคิดเห็นที่ 89   สู้ๆครับ ผมเฉยๆน่ะกับเรื่องพวกนี้ ไม่ช่วยแต่ด่า ไม่ว่าแต่ช่วย อะไรพวกเนี้ย จากคุณ : munjai (munjai) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:05:02

ความคิดเห็นที่ 90 ความคิดเห็นที่ 87   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ แล้ว มีความรู้สึกว่า ทุกคนเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เป็นบรรทัดฐานในการวิเคราะห์ ครูน้อยและคุณก้อยทั้งนั้นเลย จะมีแต่คำว่า ถ้าเป็นผม/ถ้าเป็นฉัน/ถ้าเป็นพี่ ฯลฯ ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ วิธีนึงอาจจะทำให้คนๆนึงเจริญก้าวหน้า แต่ด้วยวิธีเดียวกัน อาจไม่สามารถช่วยอะไรคนอีกคนได้เลย เงินบริจาค เราบริจาคไปแล้วด้วยใจบริสุทธิ์ ยังจะไปยึดถืออะไรกับมันอีกครับ ว่ามันจะต้องถูกใช้ยังไงอะไร ถ้าคนที่เอาเงินบริจาคไปใช้ ไม่บริสุทธิ์ใจผลกรรมก็อยู่กับคนนั้นเอง ถ้าไม่สบายใจก็ไม่ต้องบริจาค แต่ลองมองอีกแง่ ถึงครูน้อยจะบริหารเงินไม่เป็น จัดการอะไรก็ดูมีเงื่อนงำ แต่คุณก้อยคือ ตัวอย่างใบเสร็จที่บอกว่า เจตนาของการบริจาคของคุณๆนั้น สัมฤทธิ์ผลแล้ว จะไม่อนุโทธนาตัวเองกันหน่อยหรอครับ? จากคุณ : ความจริงที่ไม่มีจริง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 11:30:59 ................................. เราเป็นคนนึงที่เคยบริจาค หลายครั้งหลายครา เราพูดตรงนี้ไม่ได้ว่าถึงการที่เขาเอาเงินไปแจกเด็กด้อยโอกาส เด็กยากจนใดๆ ประเด็นมันอยู่ที่ "สมมติ" ว่าเงินที่เราเคยให้ไป ครูน้อยเขาเอาไปให้ลูกเขาใช้ ครูน้อยเอาเงินเราไปให้ลูกชายแต่งเมีย ซื้อรถมาขับ หรือแม้แต่เอาเงินไปลงขวด แบบนี้มันสมควรอนุโมทนาด้วยไหมล่ะคะ?? และเท่าที่ตามอ่านมา คิดว่าหลายๆคนที่อยากรู้ว่าเงินหมดไปกับอะไร ทำไมไม่ทำบัญชี ก็เพราะตรงจุดนี้แหละค่ะ แม้แต่ตัวเราเอง เรายังมีบัญชีรายรับ-รายจ่าย ส่วนตัวของเราเองเลยค่ะ จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:06:37

ความคิดเห็นที่ 91   จะบอกให้นะครับคุณน้องก้อยเด็กต่างจังหวัดนะครับเข้ากรุงเทพมาตั้งแต่อายุ16-17ทำงานเองหาเงินใช้เองเช่าห้องเองแล้วล่ะจ๊ะนี้อะไรผมแค่งงน่ะก้อยคุณอยู่ตั้งแต่3ขวบจนอายุ21ก็ยังอยู่แสดงว่าอยู่ช่วยครูน้อนจนกระทั่ง21ใช้ไหมแล้วเห็นบอกว่ามีจ่างทำบัญชี2500ไหนล่ะครับบัญชี จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:45:38

ความคิดเห็นที่ 92   ขออนุญาตขัดนิดนึงนะครับ (ต้องขอก่อน เพราะเป็นแค่ขาจรทั่วไป) รู้สึกดีที่ได้อ่านมุมมองจากอีกด้านบ้าง แต่อ่านไปอ่านมา ชักรู้สึกแปลกๆ ทำไมคนอื่นๆ ชักมีอาการเหมือนจะ"สอบสวน"คุณก้อยมากขึ้นทุกที จนเหมือนกับว่าเขาไปทำอะไรผิดมาซักอย่าง (เขาก็แค่ออกมาให้ข้อมูลจากอีกมุม และเขาก็ไม่ใช่ครูน้อย) รวมถึงกลายเป็นมีคำตอบแบบคุณธรรมสูงส่ง ว่า"แล้วทำไมน้องไม่........" หรือ "ถ้าเป็นผมจะ......" ไม่ทราบว่าคุณก้อยกลายเป็นจำเลยให้พวกคุณสอบสวนหรือประนามไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ประเด็นคือเขาออกมาชี้แจงในมุมมองของเด็กในบ้านครูน้อยไม่ใช่หรือ? การที่คุณก้อยออกมาแสดงความคิดเห็น หมายความว่าเขาต้องรับผิดชอบกับเรื่องครูน้อยหรือ? เป็นความผิดเขาที่อยู่จนเรียนมหาวิทยาลัยหรือ? เป็นความผิด ที่ออกมาแล้วยังไม่ได้ส่งเงินช่วยเหลือกลับ หรือพยายามจะส่งแต่ครูน้อยไม่รับหรือ? หรือแค่บทบาทที่ออกมาเหมาะกับการเป็นจำเลยของขี้ปากคนที่จ้องจับผิดตามกระแสที่ตนเองสนใจ? ขอบคุณ จากคุณ : ผ่านมา และผ่านไป เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:56:24 A:58.8.182.138 X:

ความคิดเห็นที่ 93   ความเป็นไปได้ ที่จะบริหารเงินผิดพลาด นั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงครับ เพราะดูจากครูน้อยเอง ก็คงไม่ได้มีระบบ หรือระเบียบในการใช้จ่าย เงินบริจาคจำนวนมากขนาดนั้น  ไม่ต้องเป็นครูน้อยหรอกครับ แค่เป็นคนธรรมดาหรือฮีโร่โอลิมปิกบางคน ที่บริหารการจัดการเรื่องเงินไม่ดี ยังมีวันหมดตัว ผมจึงอยากให้ใจเย็นๆกันนะครับ เพราะเชื่อว่าเรื่องทุกอย่างต้องมีคำตอบ ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ไม่มีใครดี100%ครับ เพียงแต่เราจะแยก  ที่จะทำ  หรือ แยกที่จะจดจำในสิ่งที่ดี  หรือไม่ดีเท่านั้น ส่วนกรณีคุณก้อย ผมเชื่อว่าคงไม่มีเจตนาแก้ต่างให้ครูหรอกครับ เพียงแต่เป็นมุมๆหนึ่งที่ ถูกถ่ายทอดออกมา ให้เราฟัง ในฐานะของคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากครูน้อย ซึ่งข้อมูลลึก ในเรื่องการบริหารเงินก็คงไม่มีใครทราบดี ไปกว่าตัวครู หรือครอบครัวของครูครับ การสังเกตุ การจับผิด การช่างสังเกตุเป็นสิ่งดีสำหรับทุกคนครับ แต่ถ้ามีโมหะและโทสะ ปนอคติ เข้ามาด้วย มันก็ทำให้ เรื่องบางเรื่อง ดูขาดเหตุผลไปง่ายๆ คนเหมือนกัน แต่เป็นคนไม่เหมือนกัน ไม่ได้แปลว่า คนอื่นๆ ต้องเป็นเหมือนเราเสมอไป เราเป็น ไม่ได้แปลว่าคนอื่น ไม่เป็นเหมือนเรา จะเป็นเรื่องน่ารังเกียจ หรือเป็นเรื่องผิด จนต้องถามหาความรับผิดชอบ วุฒิภาวะ ความคิด และองค์ประกอบต่างๆ ก็สามารถทำให้คนไม่เหมือนกันได้ครับ ผมเองก็มาจากเด็กช้อนลูกน้ำมาก่อน ที่ปากกัดตีนถีบมา หาเงินเรียนเองหางานทำ และก็ดูแลพ่อแม่พี่น้องมาตลอด เด็กบางคนอยู่ในฐานะที่ร่ำรวย แต่รู้จักแบ่งเบา หางานทำ รับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ดี และน่าชื่นชมครับ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน ก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินใจกันเลยครับ รออีกสักนิดครับ คำตอบ และความจริง คงปรากฎในไม่ช้าครับ จากคุณ : (ลูกเจ้าพ่อ) (หมูอ้วนชอบนอนคลุกโคลน) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:01:46

ความคิดเห็นที่ 94   สำหรับเพื่อนๆและผมเองที่เคยบริจาคเงินให้กับมูลนิธิต่างๆ รวมถึงบ้านครูน้อย ความตั้งใจที่จะทำบุญ ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เราได้รับผลบุญครับ อยากให้ทำใจสบายๆครับ สิ่งที่เราทำนั้นเป็นกุศลแน่นอนครับ ส่วนในเรื่องทางโลก เกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้เงินหรือบริหารเงิน อีกไม่นาน ก็คงรู้คำตอบครับ เข้าใจความรู้สึกของ คุณฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ครับ(พูห์หรือหูห์หว่า) จากคุณ : ลูกเจ้าพ่อ (หมูอ้วนชอบนอนคลุกโคลน) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:14:21

ความคิดเห็นที่ 95 ความคิดเห็นที่ 92   [แจ้งลบ]   ขออนุญาตขัดนิดนึงนะครับ (ต้องขอก่อน เพราะเป็นแค่ขาจรทั่วไป) รู้สึกดีที่ได้อ่านมุมมองจากอีกด้านบ้าง แต่อ่านไปอ่านมา ชักรู้สึกแปลกๆ ทำไม คนอื่นๆ ชักมีอาการเหมือนจะ"สอบสวน"คุณก้อยมากขึ้นทุกที จนเหมือนกับว่าเขาไปทำอะไรผิดมาซักอย่าง (เขาก็แค่ออกมาให้ข้อมูลจากอีกมุม และเขาก็ไม่ใช่ครูน้อย) รวมถึงกลายเป็นมีคำตอบแบบคุณธรรมสูงส่ง ว่า"แล้วทำไมน้องไม่........" หรือ "ถ้าเป็นผมจะ......" ไม่ทราบว่าคุณก้อยกลายเป็นจำเลยให้พวกคุณสอบสวนหรือประนามไปตั้งแต่เมื่อ ไหร่ ประเด็นคือเขาออกมาชี้แจงในมุมมองของเด็กในบ้านครูน้อยไม่ใช่หรือ? การที่คุณก้อยออกมาแสดงความคิดเห็น หมายความว่าเขาต้องรับผิดชอบกับเรื่องครูน้อยหรือ? เป็นความผิดเขาที่อยู่จนเรียนมหาวิทยาลัยหรือ? เป็นความผิด ที่ออกมาแล้วยังไม่ได้ส่งเงินช่วยเหลือกลับ หรือพยายามจะส่งแต่ครูน้อยไม่รับหรือ? หรือแค่บทบาทที่ออกมาเหมาะกับการเป็นจำเลยของขี้ปากคนที่จ้องจับผิดตามกระแสที่ตนเองสนใจ? ขอบคุณ จากคุณ : ผ่านมา และผ่านไป เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 12:56:24 A:58.8.182.138 X: .......................................... ก็เหมือนผู้ใหญ่ที่เห็นแล้วอดที่จะสอนเด็กไม่ได้ไงคะ "อย่า"สวนกลับว่า "แล้วตัวคุณดีพอที่จะสอนคนอื่นแล้วหรือยัง" นะคะ จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:18:31

ความคิดเห็นที่ 96   ใจเย็นๆกันนะครับ คิดบวกกันเข้าไว้ครับ อะไรผิดอะไรถูก     เวลามีคำตอบให้เสมอครับ จากคุณ : หมูอ้วนชอบนอนคลุกโคลน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:28:50

ความคิดเห็นที่ 97   เรียนคุณฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ (ผมไม่ได้พิมพ์ผิดใช่มั้ยครับ?) ไม่สวนกลับดังที่คุณฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์หรอกครับ เพราะผมไม่ได้ออกมาเพื่อตัดสินว่าใครผิดใครถูก เพียงแต่ผมอยากออกมาแสดงความคิดเห็นบ้าง เนื่องจากหลายๆ คำตอบดังที่พาดพิงถึงก่อนหน้านี้ ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า "ทำไมคุณก้อยจบมาแล้ว ไม่ส่งเงินช่วยเหลือกลับไปล่ะ คุณไม่มีความกตัญญูเหรอ?" ทั้งที่ใจความของกระทู้ตั้งใจสื่อถึงมุมมองจากทางคุณก้อยเท่านั้นเอง ต้องขออภัยก่อนถ้าผมตีความหมายแรงไป ขอบคุณ จากคุณ : ผ่านมา และผ่านไป เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:34:26 A:58.8.182.138 X:

ความคิดเห็นที่ 98 เอาเป็นว่า เราไม่ได้ตำหนิอะไรมากมายเกี่ยวกับคุณก้อยนะ เพราะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว ย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้ อย่างที่เราบอกไว้ในคห.7 ถึงวิธีแนะนำคุณก้อยให้ลองกลับไปช่วยเหลือครูน้อยอาจจะเป็นเรื่องระบบการจัดการการเงิน ส่วนเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ก็ถือว่าให้มันผ่านไป เพราะ ณ ตอนนั้นคุณก้อยคงไม่ได้คิดว่า ครูน้อยลำบาก เพราะ ครูน้อยไม่ได้บอกใคร เด็กๆคนไหนเห็นคนมาบริจาคเยอะแยะคงเข้าใจว่าครูน้อยมีเงินเยอะ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือทางด้านการเงิน เหมือนกับ ว่า ถ้าปัญหาใดๆก็ตามยังไม่เด่นชัดขึ้นมา ก็คงไม่มีใครสนใจปัญหาเรื่องนั้นหรือยื่นมือเข้าไปช่วยอย่างจริงจัง เด็กๆก็จะเข้าใจว่าครูน้อยสุขสบายดี แถมครูน้อยยังไม่ยอมให้เด็กๆเข้ามาช่วยเหลืออีกต่างหาก อาจจะหวังดี อยากให้เด็กๆไปมีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง เลยทำให้คุณก้อยและพวกเด็กคนอื่นๆไม่มีความคิดที่จะกลับมาตอบแทนคุณ เหมือนกับเวลาเราเห็นผู้มีพระคุณของเราสุขสบายดี ร่ำรวย เราก็อยากแสดงน้ำใจในรูปแบบอื่นมากกว่าเรื่องเงิน เพียงเพราะเรามองตื้นๆว่า เค้ามีพอแล้ว โดยไม่ได้คิดว่า มันไม่เกี่ยวกับว่าพอหรือไม่พอ เราให้เงินไม่ว่ามากหรือน้อย มันก้เหมือนแสดงความมีน้ำใจและตอบแทนคุณ ส่วนเรื่องที่จะมาถกเถียงว่าครูน้อยไม่เอาเงินจากคุณก้อยแล้วคุณก้อยเลยไม่ให้นั้น จริงๆมองในแง่มุมคุณก้อยหนะ เค้าเองก็คงคิดว่าครูน้อยไม่ได้ประสบปัญหาเรื่องเงิน อีกอย่างเงินเดือนเค้าก็ยังไม่เยอะถึงขนาดให้ได้ บวกกับครูก็ไม่เอาอีก เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคะยั้นคะยอครูให้รับเงิน ยังไงเราก็คิดว่า เด็กในบ้านหนะ ไม่ได้ผิดหรอก เพราะมันขึ้นอยู่กับการสั่งสอนอบรมและการวางตัวของครูน้อยมากกว่าที่ผิด หากครูน้อยสั่งสอนให้เด็กตอบแทนคุณ กลับมาบ้านทุกๆเดือน ให้ช่วยสอนน้องๆที่ยังอยู่ที่บ้าน  มากกว่าห้ามไม่ให้เด็กที่จบไปแล้วให้เงินเรื่องทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น คนเราทุกคนหนะ ถ้าไปอยู่ในสภาวการณ์แบบนั้นถูกอบรมเลี้ยงดูมาแบบนั้น การตัดสินใจก็คงไม่ต่างจากคุณก้อยหรอก ที่ทำได้อย่างดีที่สุดหลังจากรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ก็แค่ออกจากบ้านไม่รับเงินต่อก็แค่นั้น แต่จะให้มาคิดได้ด้วยตัวเอง แล้วหาเงินเรียนเองตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย คงไม่มีใครทำ ใครจะยอมให้ตัวเองลำบากทั้งๆที่ยังมีทางสบายอยู่หละ เราว่ามันเป็นธรรมชาติของคน ถ้าจะว่าถ้าจะสั่งสอน คงต้องไปสั่งสอนที่ครูมากกว่า เพราะครูสอนมาอย่างไร เด็กก็เป็นไปตามนั้นแหละ จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:45:53

ความคิดเห็นที่ 99 เรียนคุณ ผ่านมา และผ่านไป ตรงนั้นเราไม่ทราบค่ะ ว่าคนที่เขียนมาแบบนั้นเขาเขียนด้วยเจตนาใด แต่ที่เราตอบคุณนั่นคือเราตอบในแง่มุมของเราค่ะ ปล. คุณเขียนไม่ผิดค่ะ แต่คนที่ผิดคือแฟนเราค่ะ ตอนสมัครลอคอินดันสะกดผิดแบบไม่น่าให้อภัย T_T จากคุณ : ฆาตกรตัวจริงคือคุณหมีหูห์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 13:51:01

ความคิดเห็นที่ 100 เด็ก ๆ จะทำยังไงได้ล่ะ ก็ในเมื่อเจ้าตัวเค๊าไม่รับความช่วยเหลือจากลูก ๆ ที่เค๊าอุปการะ รอแต่เงินบริจาค ป้าแกก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่าบางส่วนเอาเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว ช่วยกันดันเรื่องนี้เรื่อย ๆ เพื่อนให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจะดีกว่า ถามอะไรคุณก้อย ก็คงไม่ได้คำตอบอะไรมากมายหรอก เพราะที่ผ่านมาก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าป้า้น้อยแกเยอะ จากคุณ : nanblabla เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:07:53

ความคิดเห็นที่ 101   เอามาจากไทยรัฐวันนี้นะครับ http://www.thairath.co.th/today/view/64091 ส่วนนายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยว่า ทราบว่าครูน้อยยินดีให้ กระทรวงฯช่วยเหลือดูแลเด็กที่อยู่ในความอุปการะ ซึ่งมีทั้งเด็กพิการและเด็กกำพร้า 18 คน ตนจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานงานเพื่อรับมาดูแลในสถานสงเคราะห์ ผู้หญิงให้อยู่บ้านราชวิถี ส่วนผู้ชายอยู่บ้านปากเกร็ด โดยดูแลทั้งความเป็นอยู่และการศึกษาที่ดีกว่าแน่นอน ส่วนเรื่องหนี้สินคงต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นอกเหนือจากเด็ก 18 คน มีพ่อแม่เลี้ยงดู แต่ถือเป็นประเพณีที่มากินมาขอเงินจากครูน้อย การใช้จ่ายเงินผิดวิสัยที่เลี้ยงเด็กไม่กี่คน แต่ใช้จ่ายถึง 7-8 ล้านบาท เฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อเดือน เท่าที่ทราบ มีการจ่ายเงินให้คนทำความสะอาด 500 บาทต่อวัน พี่เลี้ยงเด็ก 1,500 บาทต่อวัน และคนทำบัญชี 2,500 บาทต่อวัน ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก หากมีการแก้ปัญหาหนี้สินแล้วปล่อยให้ทำแบบเดิมคงจะมีปัญหาอีก (ย่ำนะครับและคนทำบัญชี 2,500 บาทต่อวัน)ไหนครับบัญชีๆอยู่ไหนครับพอจะรู้หรือเปล่าครับ ขอบคุณๆก้อยนะครับที่มาตอบคำถามแต่ผมว่าคุณก้อยอยู่นิ่งๆดีกว่าครับไม่เจ็บตัวด้วย  นะครับคุณก้อยครับขอร้อง แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 53 14:18:13 จากคุณ : มือปืนหน้าย่น เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:10:37

ความคิดเห็นที่ 102 ค่อยๆพูดค่อยๆจากันเน้อ เพราะยังไงเรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว สื่อจับเป็นกระแสแล้ว รับรองยังไงก็เคลียร์แน่เรื่องนี้ แต่สำหรับผมนะ ครูน้อยไม่ยอมทำบัญชี ผมก็ว่าครูน้อยพยายามที่จะเล่นไม่ซื่อแล้วล่ะครับ ปล.คุณก้อยจะโดนสอบสวนก็ไม่แปลกหรอก เพราะกระทู้นี้คุณก้อยเป็นคนตั้งขึ้น น่าจะรู้อยู่แล้วว่ากระแสคลางแคลงใจมันระดับไหน เดาจากที่น้องได้ไปอ่านตามโต๊ะอื่นๆมา จากคุณ : คุณลุงมาดขรึม เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 14:17:00

ความคิดเห็นที่ 103 คนทำความสะอาดบ้านครูน้อย เงินเดือนเยอะกว่าเราอีกอ่ะ -*- อุตส่าห์ทำงาน งกๆ ส่งตัวเองเรียนจบสูงๆ แต่ทำไมคนทำความสะอาดเงินเดือนเยอะกว่าเนี้ยะ - -" ส่วนเรื่องครูน้อย รอให้ตรวจสอบอย่างจริงจังเหมือนกัน เพราะอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันค่ะ จากคุณ : Girl_of_Monsterteam เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 16:13:01

ความคิดเห็นที่ 104 ~ เฮ้อ ~ อ่านแล้วไม่ได้ดูดีขึ้นมาเลย จากคุณ : kazaraki เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 16:21:00

ความคิดเห็นที่ 105   น่าแปลก "ครูคงไม่ยอมรับเงิน" ไม่รับ ความช่วยเหลือ จาก เด็กที่จบไป แต่มา ขอรับเงินบริจาค ถ้าจริงก็ ตรรกะแปลกมาก หรือ เป็นเพียงข้ออ้างของ หนูก้อย ที่ไม่อยากส่งเงินช่วยเหลือ ปล. คนที่ถูกครูช่วยเหลือมา ตั้งแต่3ขวบ ถึงจบตรี คิดแค่ได้งาน แล้วออกจากบ้าน ไม่เป็นภาระให้ มันเล็กน้อยมากเลยนะครับ หวังว่า ตอนที่กำลังประสบปัญหา อยู่ตอนนี้ คุณก้อย จะได้กลับไปแทนคุณท่าน ไม่ว่า เงิน หรือ วิธีใดวิธีหนึง น่าอิจฉา พี่เลี้ยงเด็ก กับ บัญชี ป.ตรี  อย่างผมยังได้แค่ สูสี กับคนทำความสะอาด ของที่นั้น จากคุณ : sakza เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 16:43:39

ความคิดเห็นที่ 106 ทำไมถึงไม่ยอมรับเงินจากเด็กที่ออกจากบ้านไปแล้ว ครูน้อยไม่ยอมรับเงินจริงๆหรือ? มันต่างกับเงินบริจาคตรงไหน เราว่าภ้าเด็กที่ตั้งตัวได้เอาเงินมาให้ ยังดีกว่าเงินบริจาคอีก มันหมายความว่า สิ่งที่ครูน้อยทำสัมฤทธิ์ผล ไม่ใช่ทำไปเปล่าๆ แล้วเงินบริจาคตั้งเยอะแยะ มากมายกว่ามูลนิธิอื่นๆเยอะ ทำไมไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเลย มันน่าสงสัยไหมล่ะ จากคุณ : นางเอกหนังไทย เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 53 17:46:05