 |
ความคิดเห็นที่ 37 |
|
Michael@ngelo อยู่โดฮาเหรอ ทำงานกะนิตยสารอะไรอ่ะ เค้ารับสมัคร columnist มั้ยอ่ะคะ อยากเปลี่ยนงาน
เฮ้ออ วันเหงาๆ อีกหนึ่งวัน ไม่รู้ว่ามานั่งเขียนเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ในที่สุดจะช่วยให้ดีขึ้น หรือตอกฝาโลงให้ตัวเองก็ไม่รู้นะเนี่ย
ตีสองอีกแล้ว ไม่ดึก ไม่เหงา เขียนหนังสือไม่เป็น
21 Jan 10
วันเดินทางมาถึงแล้ว บอกตรงว่า ไม่ได้ตื่นเต้นกับการเจอจอร์ชมากเท่าไหร่ เราจะฝันถึงแสงแดดบนทรายหาดขาว กับช่วงเวลาสมุนไพรของเค้าซะมากกว่า
ช่วงก่อนหน้านี้ เราบินเป็นจนลืมวันลืมคืนไปเลย แล้วก็ไม่มีเวลามาเขียนอีเมล์ทอดสะพานถึงใครๆอีก ก็นัดแนะกันไว้แล้วว่า เค้าจะมารออยู่ที่ภูเก็ต และจะมารับที่สนามบิน แต่ว่าเส้นทางการเดินทางไม่ได้ดดรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้น เรายังตัดสินใจไม่ได้ก่อนวันเดินทางเลยว่า พอแลนดิ้งที่กทม.แล้วจะต่อสายการบินไหนไปภูเก็ตดี สายการบินแรก เรามีตั๋วพนักงาน แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งของตั๋วราคาถูกที่ว่านี่คือ เป็นตั๋วสแตนบาย มีที่ว่างถึงจะได้ขึ้น นอกจากไม่แน่ใจเรื่องที่นั่งว่างแล้ว ยังไม่แน่ใจด้วยว่า จะวิ่งขึ้นเครื่องทันหรือเปล่า เนื่องจากเวลาต่อเครื่องใกล้กันเฉียดฉิว ประมาณว่า แลนดิ้ง 1825 , เครื่องที่ต่อ ออก 1915 สนามบินเราก็เล็กกกกนิดเดียว
และอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ซื้อตั๋วเต็มของสายการบินที่สอง ที่ไฟล์ทออกทีหลัง แต่ว่าแพงขึ้นกว่าเกือบสามเท่าจากข้างบน
เลยบอกจอร์ชในอีเมล์สุดท้ายว่า
ตอนนี้อยู่กำลังบินไปเมลเบิลนะ จะไม่มีเวลาเชคอีเมล์ แล้วก็ไม่ต้องมารอรับที่สนามบิน เพราะยังไม่รู้ว่าชะตาตัวเองเลยว่า จะเอายังไงกับตัวเองดี เป็นการเดินทางที่วางแผนรัดกุมมาก ส่วนใหญ่แล้วไม่รู้ว่า แอร์คนอื่นๆ เหมือนเราหรือเปล่า ลักษณะเด่นของทุกๆ ทริปของเราคือ "ไปตายเอาดาบหน้า"
14 ชั่วโมงบนไฟล์ทยาวนานมาก เราเจอ Turbulance หรือ สภาพเครื่องบินตกหลุมอากาศหนักมาก เรียกได้ว่า ยืนกันไม่ได้เลยทีเดียว ทำให้เราคาดการณ์ไว้ว่า เช้าวันนั้นแลนดดิงกลับประเทศทะเลทรายช้ากว่ากำหรดแน่นอน
เอาล่ะทีนี้ งานเข้าสิคะ จากแผนเดิมที่เราเตรียมไว้คือ ให้พี่อาบัส คนขับแทกซี่ประจำของเรามารอรับที่ตึกลูกเรือ กระเป๋าลากที่ใช้บนเครื่องของเรา ก็จัดการบรรจุสัมภาระของทริปอีกสี่วันข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่ว่า แทกซี่มาปุ๊บ ขึ้นรถปั๊บ เปลี่ยนชุดในรถแป๊บ ถึงอาคารผู้โดยสาร เชคอิน และขึ้นไปนอนสบายใจบนเครื่อง และฝันถึงสมุนไพรบนหาดสวรรค์
แต่ชีวิตจริงค่ะ ชีวิตจริงย่อมง่ายๆ ไม่ได้ มันต้องดราม่า ไม่งั้นชีวิตถือว่าใช้เราไม่คุ้ม
เครื่องดีเลย์ เกือบครึ่งชัวโมง
ตารางเดิม แลนดิ้ง ไม่เกิน 0600 เปลี่ยนชุด ออกมาจากตึกลูกเรือ เปลี่ยนเสื้อผ้า กลับเข้าสนามบินใหม่ในคราบผู้โดยสาร ก่อนเจ็ดโมง เครื่องออกแปดโมง
(ตึกลูกเรือ ห่างจากอาคารขาออกประมาณ 10 นาที และพอเครื่องแลนด์ แอร์ก็มีภาระอีกหลายอย่างให้จัดการ หลังจากผุ้โดยสารลงแล้ว ไม่ใช่กระโดดลงมาจากทางออกฉุกเฉินได้เลย)
แม้แต่แพลนที่วางไว้อย่างดีก็เสี่ยงเห็นๆ
เครื่องลงจอดจริง 0630 มาถึงตึกลูกเรือ 0715 เค้าเตอร์เชคอินปิดก่อน 40 นาที เอ่ออ ค่ะ ดราม่ามากๆ ไม่ทันแน่นอน จอร์ชชั้นจะทำยังไงดี
พอถึงปุ๊บ วิ่งค่ะ ถ้ามีอะไรเร็วกว่าคำว่าวิ่ง แนะนำกันมานะคะ จะใช้คำนั้นแทน หน้ามันหลังจาก 14 ชั่วโมงจากเมลเบิล หัวเหอ ไม่สงไม่สนมันแล้วค่ะ
พี่อาบัสเดินวนไปมา นึกว่าไม่มาซะแล้ว กระโดดขึ้นรถ ถถดเสื้อผ้าลืมอาย
ถึงหน้าอาคารผุ้ดดยสาร ยังต้องเอาของบางอย่างที่ย้ายเข้า ย้ายออก ย้ายออกย้ายเข้า จากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ กับกระเป๋าลากที่จะเอาไปด้วย จัดกระเป๋ามันตรงบนพื้นถนนเลย เราเป็นคนอาร์ทอย่างที่บอกค่ะ อายไม่เป็น
ไปถึงเค้าเตอร์เชดอิน
ปิด
ปิดแล้วค่ะ ปิดจริงๆ ก็มัน 0740 แล้วนี่คะ
มีพนักงานนั่งหน้าง่วงอยู่หนึ่งคน เข้าใจว่ากะดึก รอเวลากลับบ้านนอนเต็มที เราหน้าตาตื่น ถามเค้า ปิดแล้วเหรอคะ ถามทำไมให้เสียเวลา เห็นๆอยู่ เค้าเตอร์ปิดแล้ววน้องสาววว
ช่วยหน่อยเถอะค่ะ ทำยังไงก็ได้ ยังไงก็ต้องขึ้นไฟล์นี้ เราเจอสภาพนี้มาบ่อยมากแล้ว ปกติพนักงานจะบอกว่า เอกสารการบินถูกส่งให้กับตันเรียบร้อยแล้ว เครื่องพร้อมที่จะออก ไม่สามารถใช้โชคช่วยหนูได้
แต่วันนี้ พนักงานหน้าง่วงคนนี้ ไม่พูดอะไรซักคำไปตามหัวหน้าแผนกมา
ทันทีที่ท่านผู้นี้มาถึง เห็นสภาพกระเจิงของเราแล้ว ไม่ถามซักคำ เป็นนางทาสมา แลนจาก เมลเบิล 14 ชั่วโมงกว่านะคะ ไหนจะนาทีระทึกที่เล่ามาอีก นึกสภาพเอาค่ะ
เค้าคงสงสารเราอย่างจับใจ โทรไปบอกให้ไฟล์ท รอ มีผู้โดยสารมาเพิ่มหนึ่งคน ให้พนักงานหนึ่งคน เดินไปส่งเราผ่านขั้นตอนอิมมิเกรชั่นต่างๆ จนไปถึงเกท รอรถมารับไปที่เครื่องบินสายฝันลำนั้น
มันต้องเป็นพรหมลิขิตเท่านั้น ทริปนี้
ทันที่ที่ก้าวพ้นประตู
annaucement "All passengers onboard, prepare for departure"
เลยรู้กันหมดเลยย เครื่องดีเลย์ เพราะ กรูเนี่ยแหละ (ไม่ใช่คำหยาบนะคะ เป้นคำร่วมสมัย เฉพาะวัย)
นั่งรอเครื่องออกแล้ว บอกจอร์ชดีกว่าว่า On the way แล้วนะ
หาย
เฮ้ยย หายยยย
โทรศัพท์ชั้นหายยยยยยยยยยยย
ไม่ๆๆๆๆ นึกโกรธตัวเองอย่างแรง คนอะไรเนี่ย โชคช่วยแล้ว ดันไม่ช่วยตัวเองอีก ลืมโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าถือทำงาน แล้วดันโยนใส่กระเป๋นเดินทางในใหญ่ ล็อกกระเป๋าโดยรหัส ทั้งใบนอกใบใน เพื่อความปลอดภัย บอกให้แทกซี่เอาไปทิ้งไว้ที่ชั้นล่างของอพารท์เม้นตัวเอง ทำไงดี
เจอโทรศัพท์อีกเครื่องในกระเป๋าลากใบน้อย โทรหาแทกซี่บอกรหัสไปเลย แล้วให้เเปิดกระเป๋าให้ เค้าก็เอามาให้ไม่ได้ หรือให้ดูเบอร์จอร์ชให้ ถ้ามาไม่ทัน เจ้ากรรม เป็นโทรศัพท์ที่เอาไว้ใส่ซิมการด์เมืองไทย ไม่มีเบอร์ใครซักคน แทกซี่ที่ใช้เค้าทุกวัน ก็จำเบอร์เค้าไม่ได้ ทำไมเป็นคนแบบนี้ช้านนน ช่างมัน ไปถึงจะเชค facebook พี่จอร์ชคงบอกบ้างแหละ ว่าอยู่ที่ไหน อะไรยังไง
ถึงกรุงเทพเมืองสยาม เร็วกว่ากำหนด นิดหนึ่ง
ก็เดินไปที่สายการบินตั๋วถูก จะเชคที่นั่ง ของไฟล์ทสุดท้าย เพราะไฟล์ททุ่มนึง พลาดไปแล้วเห็นๆ แต่ด้วยบุพเพสันนิวาส พอไปถึงเค้าเตอร์ พนักงานสาวบอกว่า เครื่องใกล้ออกแล้วค่ะ รีบวิ่งเลยนะคะ ตอนนี้ เกือบหนึ่งทุ่มแล้วค่ะ เครื่องออก หนึ่งทุ่มสิบห้า วิ่งอีกแล้ว
เข้าไป แอบเห็นอินเตอร์เนทของเล้าผุ้โดยสาร เลยขอเค้าเชค facebook หน่อย ใจหายแว้บ พี่จอร์ชไม่เขียนอะไรถึงชั้นเลย เค้าเป้นคนชื่อจริงๆเหรอเนี่ย แค่บอกไปว่า จะไม่มีเวลาเชคอีเมล์ ก็ไม่เขียนอะไรเผื่อเกิดขัดข้องเลย
ไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ นาทีนี้ ยังไงก็ต้องขึ้นเครื่อง ถ้าไม่เจอ จอร์ช ก็เที่ยวคนเดียวนี่แหละ วันหยุดยังคงเป็นของเราเหมือนเดิม ทริปคนเดียวก็ทำมาเยอะแล้ว ไม่เป็นไร สนุกคนเดียวอีกซักครั้งเป็นไร
แอบเซ็งค่ะ เพราะเส้นทางกว่าจะมาถึง ลำบากมากเลย 14 ชั่วโมงจาก เมลเบิน ทุลักทุเลกว่าจะได้ขึ้นเครื่อง 6 ชัวโมงจนถึง กทม. เพื่อมาเที่ยวคนเดียว อยู่เหงาๆ นอนอยู่บ้านก็ได้มั้งคะ เหนื่อยอ่ะ
นั่งรอเครื่องออก เอ๊ะ เรามีเพื่อนน้องแอร์ร่วมบ้านนี่นา ใช่แล้ว ใช่แล้ว เบอร์อะไร หาซิๆๆๆ ไม่มีเบอร์น้องเค้า งั้นโทรเข้าบ้านสิ โทรเข้าบ้าน เบอร์บ้านตัวเองเบอร์อะไร เบอร์ห้องชั้นเอร์อะไร อยู่มาสองปีใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปสั่งสองร้านของชำใกล้บ้านอย่างเดียว ไม่มีใครโทรมาหา ไม่เคยจำเบอร์
โธ่ ชิวิต
มั่วเอาก้อได้ จำได้คลับคล้ายคลับคลา มั่วๆ เอา
โทรติดค่ะ น้องเมทคนจีนรับ โชคดีมากมีคนอยู่บ้าน ปรกติ อาจบินว่อนไปว่อนมากันอยู่ก็ได้
คนมันจะเจอกันค่ะ
แล้วก็ได้เบอร์จอร์ชมา
นี่ยู ทำไมไม่ส่งเมล์หาชั้นเลย รู้มั้ยชั้นลำบากแค่ไหน เผลอแว๊ดใส่จอร์ชไปราวกะว่าเป็นความรับผิดชอบของเค้า
ก็เธอบอกเธอไม่มีเวลาเชคอีเมล์ ชั้นก็คิดว่าเธอมาถึงคงโทรมา ถ้าไม่เจอ ค่อยไปเชคดูว่าเธอเขียนอะไรมาบ้างรึเปล่า
ก็ถูกของเค้านะ
อีกหนึ่งชั่วโมง เจอกันนะ
เฮ้อออ ทะเลลล ชั้นมาแล้วววว เหนื่อยจัง หลับเป็นตายบนเครื่องเลย
จากคุณ |
:
แอร์
|
เขียนเมื่อ |
:
14 มี.ค. 53 07:03:02
A:89.211.239.185 X: TicketID:257830
|
|
|
|
 |