@@@ [กระทู้สงสัย] ขอถามจริงๆ นะคะ มีบ้านของใครบ้าง...ที่ไม่มีรูปของ "ในหลวง" ติดไว้เลย??? @@@
|
|
ขอถามจริงๆ ค่ะ...ด้วยความสัจย์จริง โดยไม่มีนัยยะใดๆ ทั้งสิ้นว่า...
"มีบ้านของใครบ้าง...ที่ไม่มีรูปของ "ในหลวง" ติดไว้เลย?"
เพราะว่า...ตั้งแต่ จขกท จำความได้ ก็เห็นที่บ้านก็มีรูปของ "ในหลวง" หรือ พระบรมฉายาลักษณ์ใน "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช" ติดไว้ที่บ้านตั้งแต่เกิดแล้ว...
และไม่ว่าจะไปเที่ยวบ้านญาติ หรือว่า บ้านเพื่อนคนไหน...ก็ไม่เคยเลย ที่จะไม่เคยเห็น รูปของ "ในหลวง" ไม่ว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นไทยพุทธ เป็นคนไทยเชื้อสายจีน หรือว่าเป็นไทยอิสลาม ก็ตาม...
จขกท กราบไหว้ท่านด้วยความเคารพ ทั้งๆ ที่ยังเด็กมากๆ ยังไม่รู้เลยว่า "พระเจ้าแผ่นดิน" มีความหมายว่าอย่างไร...แต่พอโตขึ้นมาหน่อย ก็เข้าใจ เพราะคำว่า "พระเจ้าแผ่นดิน" นั้นตรงตามตัว ก็คือ ในหลวงท่านเป็น "เจ้าแผ่นดิน" โดยแท้จริง...
จขกท เป็นคนทางภาคอีสาน เพราะฉะนั้น คำว่า "ฝนเทียม" ที่เป็นโครงการพระราชดำริของพระองค์ท่าน จึงเป็นสิ่งที่ประทับใจโดยไม่รู้ลืม...
ถึงแม้ว่า จขกท จะไม่ใช่ชาวนา แต่รากเหง้าต้นตระกูลเราก็มาจากชาวนา เป็นชนชั้นรากหญ้า ที่พระเจ้าแผ่นดินทรงเอาใจใส่ และเล็งเห็นถึงความแร้นแค้น แห้งแล้ง และความลำบากของชาวอีสาน...
จึงได้มีโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น ฝนเทียม โครงการแก้มลิง หรือโครงการพระราชดำริอื่นๆ ที่เป็นการช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ ให้กินดีอยู่ดี ปลูกข้าว พืชไร่ ให้ได้ผล เพื่อเป็นอู่ข้าวอู่น้ำในการเลี้ยงดูคนไทยทั้งชาติ
พระองค์ทรงเกิดมาสูง และ หากพระองค์จะทรงเสวยสุขอยู่ท่ามกลางทรัพย์สินเงินทอง หรือ ไม่มาสนใจไพร่ฟ้าประชาชน ก็ทำได้...
แต่ในหลวงท่านกลับไม่ทำเช่นนั้น พระองค์ทรงห่วงใยใส่ใจ ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ทรงงานอย่างหนักเป็นเวลาถึง 60 ปี(พวกคุณเกิดกันหรือยังคะ?)
...
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 และได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2490 พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการแก่พสกนิกรชาวไทยว่า
" เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
ในวันที่ 19 สิงหาคม 2489 เมื่อกำหนดเวลาที่จะเสด็จฯ กลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์มาถึง ตลอดทางที่รถพระที่นั่งแล่นผ่านฝูงชนที่มาส่งเสด็จอย่างล้นหลาม
ได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนที่แสดงความจงรักภักดี บางแห่งใกล้จนทอดพระเนตรเห็นดวงหน้าและแววตาชัด ที่บ่งบอกถึงความเสียขวัญอย่างใหญ่หลวง ทั้งเต็มไปด้วยความรักและห่วงใย
อันเป็นภาพที่ทำให้อยากรับสั่งกับเขาทุกคน ถึงความหวังดีที่ทรงเข้าพระทัย และขอบใจเขาเช่นกัน
"ขวัญของคนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าขาดกำลังใจ ถ้าขวัญเสียมีแต่ความหวาดระแวง ประเทศจะมีแต่ความอ่อนแอและแตกสลาย"
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องถวายพระพร ก็มีเสียงหนึ่งที่ตะโกนแทรกมาเข้าพระกรรณว่า ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน ในขณะนั้นทรงนึกตอบในพระทัยว่า...
ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้า แล้วข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนได้อย่างไร
(เครดิต : ข้อความบางส่วนคัดลอกจาก เว็บไซต์ คลังปัญญาไทย)
...
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
จากคุณ |
:
อยากให้เมืองไทยมีหิมะตก
|
เขียนเมื่อ |
:
19 พ.ค. 53 20:41:17
|
|
|
|