:: "จีบได้มั้ยเนี่ย ถ้าไม่ได้บอกมาเลยนะ กลัวจะเสียใจ" ::
|
|
(กระทู้แรกในห้องสยาม จะขอเอาประสบการณ์ที่ได้เจอวันนี้สดๆ ร้อนๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ ^__^)
สิบหกนาฬิกา ณ ร้านตาโก๊ะ... Coffee Shop รถเข็น สถานที่รวมตัวของกลุ่มวัยรุ่นในจังหวัดเรา
คุณพี่ชายของเราเกิดอยากจะไปเมานมเย็นแกล้มก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลเจ้าข้างๆ ร้านตาโก๊ะสักหน่อย สองพี่น้องเลยแวนซ์ฟิโน่ออกไปยังรถเข็นขายกาแฟเล็กๆ ข้างถนนที่คับคั่งด้วยเด็กวัยรุ่น ซึ่ง จขกท. ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ก็คิดว่าตัวเองเป็นเด็กวัยรุ่นเหมือนกัน (ยังไม่ 18 ค่ะ) แต่พอหลังจากเหตุการณ์นั้น จขกท. รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปทันที -__-
เมื่อมาถึงยังที่หมาย คุณพี่ชายก็ให้ จขกท. รีบไปนั่งจองโตีะทีี่ว่างอยู่โต๊ะเดียวไว้ก่อน ส่วนตัวคุณพี่ก็ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวและนมเย็น
ขณะที่ จขกท. นั่งอยู่ที่โตีะเพียงลำพัง พลันก็ไปได้ยินประโยคสนทนาของโตีะด้านหลัง จขกท. โดยบังเอิญ (ตอนแรกบังเอิญ แต่ตอนหลังนี่ัหูกางขยายรับข้อมูลข่าวสารเต็มที่)
"กุมีมันคนเดียวนะเว้ย ไม่เคยมีคนอื่นเลย !"
ถึง จขกท. ไม่ตั้งใจฟังก็ได้ยิน เพราะเสียงนั้นดังมากและออกแนวดราม่าสุดๆ จขกท. หันไปมองตามสัญชาตญาณ (เรอะ !) พบว่าเจ้าของประโยคนั้นคือเด็กสาวคนหนึ่ง ผิวขาว หน้าตาน่ารัก แต่งตัวน่ารักตามแฟชั่น ซึ่งนั่งหันหน้ามาทาง จขกท. ส่วนเพื่อนสาวของเธอนั้นนั่งหันหลังให้ จขกท.
ที่สำคัญ... สองคนนี้เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนของ จขกท. เอง -__-
จขกท. ก็หันหน้ากลับมาเพราะไม่อยากโดนด่าว่าสาระแนเรื่องชาวบ้าน แต่ตาไม่เห็น หูก็ได้ยิน เพราะรุ่นน้องหน้าตาน่ารักคนนั้นเอามือตบโต๊ะสแตนเลสดัง ปัง! สนั่นร้าน และพร่ำเพ้อพรรณาด้วยน้ำเสียงคล้ายจะร้องไห้
"แล้วดูมันทำกับกุดิ ! แมร่งโคตรเจ็บอ่ะ มันบอกว่ามัน บลาๆๆๆๆๆ" จขกท. จำได้ไม่หมดว่ารุ่นน้องคนนี้พูดว่าอะไรบ้าง แต่จับใจความได้ก็คือแฟนของเธอนั้นมีกิ๊ก และเธอก็จับได้ แถมพอโดนจับได้แล้วแฟนเธอยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ซึ่งเรื่องเป็นแบบนี้ จขกท. ก็เห็นใจนะ แต่จะเห็นใจมากกว่านี้ถ้าเธอไม่พูดเสียงดังจนคนฝั่งตรงข้ามยังมองมาเลย แต่ก็เข้าใจนะว่าคงจะเจ็บมาก
เธอยังสาธยายเรื่องรักอันแสนเศร้าของเธอมาไม่หยุดด้วยน้ำเสียงสะอื้นสลับกับคล้ายคนเมา แต่เธอกินชาเย็นไม่ใช่เรอะ หรือว่าจะเมาชา -_- (เสียงเธออ้อแอ้เหมือนคนเมาจริงๆนะ )
ความรักอันแสนรันทดของเธอยังไม่สิ้นสุดลง จขกท. ก็นั่งฟังมาเรื่อยๆ (55) แต่มันมาสะดุดตรงที่... "กุอ่ะรักมันคนเดียว คนอื่นกุเคยมองซะที่ไหน กุไม่เคย... เฮ้ย ! เสื้อน้ำตาล เธอ ! เสื้อน้ำตาลอ่ะ !" จขกท. หันขวับไปมองรุ่นน้องตามสัญชาตญาณ (สอดรู้สอดเห็น) และได้พบว่าเสื้อน้ำตาลที่เธอว่าก็คือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งลุกจากโต๊ะและกำลังจะเดินออกจากร้าน มากับเพื่อนอีกคนหนึง ตอนแรกหนุ่มเสื้อน้ำตาลไม่ได้ยินแต่เพื่อนเรียกเอาไว้
และประโยคที่ จขกท. ได้ยินจากรุ่นน้องที่เพิ่งพร่ำพรรณาถึงความรักอันซื่อสัตย์ของตัวเองก็คือ "เธอ... เธอ มีเบอร์ป่ะ" หือ ? ตอนนั้นไม่รู้ว่าหนุ่มเสื้อน้ำตาล จขกท. หรือผู้ร่วมสังเกตการณ์คนอื่นๆ ใครจะงงยิ่งกว่ากัน "อะไรนะ" เพื่อนของหนุ่มเสื้อน้ำตาลถามกลับมา "เพื่อนเราอ่ะ คิกๆๆ มีเบอร์ป่ะ คิกๆ ขอเบอร์ได้ป่ะ" เอ่อ... น้องคะ เมื่อกี้น้องยังน้ำตานองหน้า เล่าไปสะอื้นไปอยู่เลย นี่ไม่ถึงวินาทีน้องเปลี่ยนเป็นพูดไปหัวเราะไปได้แล้วเรอะ ! เปลี่ยนโหมดเร็วจนพี่ (ที่ติดตามอยู่ห่างๆ) ยังงงเลย
หนุ่มเสื้อน้ำตาลทำหน้างงๆ แต่ก็ยิ้มๆ ให้ ก่อนจะพากันเดินข้ามถนนไป แต่หนุ่มไปแล้ว สาวเจ้ายังหัวเราะคิกคักไม่เลิก (เพิ่งรู้ว่าหัวเราะคิกคักเป็นยังไงก็วันนี้แหละ ! สบานได้) "น่ารักเนอะ" "เออ... ใช้ได้ว่ะ" "เสียดายแมร่งหวงเบอร์" สองสาวยังคุยถึงหนุ่มเสื้อน้ำตาลต่อ ตอนนั้นคุณพี่ชาย จขกท. เดินมานั่งที่โต๊ะพอดี เหตุการณ์ที่เล่าไปข้างต้นนั้นเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 2 นาที คุณพี่ชายพยักเพยิดไปทางสองสาวแล้วทำปากซุบซิบ จขกท. จึงกระซิบบอกรอก่อน เดี๋ยวเล่านอกรอบ (55)
เวลาผ่านไปพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวที่หมดไปเกือบครึ่งชาม จขกท. ไม่ได้สนใจสองสาวอีกจนกระทั่งพลันสายตาเหลือบไปเห็นหนุ่มเสื้อน้ำตาลกับเพื่อนเดินตรงมาที่โต๊ะสองสาว !
เหตุการณ์ต่อไปนี้ขอเล่าเท่าที่จำได้ "เธอเมื่อกี้ขอเบอร์เพื่อนเราเหรอ" เพื่อนหนุ่มเสื้อน้ำตาลออกปากถาม "อือ แล้วให้ได้ป่าวละ" สาวเจ้าฉอเลาะ "เฮ้ย ! มรึงมีเบอร์ก็ให้เค้าไปดิ" เพื่อนหันไปกระทุ้งหนุ่มเสื้อน้ำตาลที่ทำท่าอายๆ แต่ก็ควักมือถือออกมา "มีแฟนยังเนี่ย" รุ่นน้องหน้าใสถาม "อือ... เออ ..." หนุ่มเนื้อน้ำตาลงึมงำ "มีแฟนแล้วไม่โทรไปนะ คือแบบว่าไม่อยากไปทำให้ใครเสียใจอ่ะ ไปเอาแฟนเค้ามา ไม่อยากทำ" แม่เจ้าาาาาา ~ หนูช่างมั่นใจในความงามงดของตัวเองยิ่งนัก "ไม่มี ยังไม่มีแฟน" เจ้าหนุ่มตอบ "เหรอๆ นั่งๆ" ขยับเก้าอี้ให้สองหนุ่มนั่ง "ชื่อไร" "ไอซ์" "โหย... เปลี่ยนชื่อได้ป่ะ ชื่อเหมือนคนที่เรามีเรื่องที่โรงเรียนเลยอ่ะ ไม่ชอบ" แม่เจ้าาาาาา~ แรงได้อีก "นี่เราจะโทรไปจีบได้ป่ะ" o_O! "ได้ดิ โทรมาเลย" "จริงป่ะ เอาจริงๆ นะจีบได้ป่าว ... แบบว่าจีบแล้วติดแน่ๆ ป่ะ" O_o! "ก็ต้องลองคุยกันก่อนดิ" "เอาจริงๆ จีบได้มั้ยเนี่ย ถ้าไม่ได้บอกมาเลยนะ กลัวจะเสียใจ" อีหนูเอ๊ยยยย !!!! รุกมาขนาดนี้แล้วแถวบ้านพี่เค้าเรียกเดินหน้าเต็มสตรีมแล้วน้อง ! นี่จีบไปค่อนทางขนาดนี้แล้วยังจะมานั่งกลัวเสียใจอีกเรอะ ! บทสนทนาต่อมาก็ยังวนเวียนอยู่ที่จีบได้มั้ย ไม่ได้กลัวเสียใจ แต่ที่มาสะกิด จขกท. ก็คือ "เรียนที่ไหนอ่ะ" "......" (ดังมากกกก) ขอสาบานเลยว่าน้องเค้ากรี๊ด ! กรี๊ดจริงๆนะ แต่ไม่ได้แบบกรี๊ดปรอทแตก คือวี้ดขึ้นมานิดนึงแล้วก็ตบมือฉาด "จริงป่ะ ! แล้วมาทำไรแถวนี้อ่ะ" "กลับบ้าน มาเล่นร้านเกมส์" การสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง... "มรึง กลับยัง" เพื่อนสาวถาม "เออๆ กลับดิ" "กลับยังไงอ่ะ" หนุ่มเสื้อน้ำตาลถาม "เอามอไซค์มา มันขับ" ชี้ไปที่เพื่อนสาว "เราไปส่งป่ะ" "ไปดิ" ถึงตอนนี้คนทั้งร้าน (ที่เฝ้าสังเกตการณ์) มองกันเป็นตาเดียวเมื่อสาวเจ้ากระโดดขึ้นซ้อนท้ายมอไซค์เจ้าหนุ่มเสื้อน้ำตาลที่เธอรู้จักภายในเวลาไม่ถึง 10 นาีที...
เมื่อมอไซค์สามคันแล่นออกไป จขกท. ก็ถามพี่ชายว่า "ถ้ามีผู้หญิงมาทำแบบนี้ ชอบป่ะ" "อู๊ยยย~ คงจะวี้ดว้ายล่ะมั้ง บ้าดิ ใครจะไปเอา" แต่หนุ่มเสื้อน้ำตาลเอาว่ะพี่
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จขกท. จะไม่ตัดสินตัวน้องด้วยพฤติกรรมที่ จขกท. เห็นเพียงแค่ในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง แต่จขกท. อยากจะบอกน้องว่า ถามว่าคนอื่นที่เขาเห็น เขาได้ยินสิ่งที่น้องทำและพูด เขาจะคิดกับน้องอย่างไร ? จขกท. มีน้องสาว และถ้า จขกท. มาเห็นน้องสาวตัวเองทำแบบนี้ บอกได้เลยว่าตีหลังลายแน่ๆ ต่อให้โตแล้วก็เถอะ
เข้าใจว่าสมัยนี้ผู้หญิงจีบหรือขอเบอร์ผู้ชายก่อนมันไม่แปลก แต่ จขกท. ก็อยากให้น้องช่วยสำรวมอาการนิดนึงดีกว่ามั้ย คิดดูขนาดพี่เป็นผู้เฝ้าสังเกตการณ์ (-__-) พี่ยังมองว่าน้องดู "ง่าย" เกินไป แล้วไอ้หนุ่มเสื้อน้ำตาลนั่นมันจะคิดกับน้องไปถึงไหน แล้วยิ่งการที่น้องกระโดดขึ้นซ้อนมอไซค์หนุ่มคนนั้นไปทั้งที่รู้จักกันแค่ชื่อและที่เรียน มันยิ่งตอกย้ำแง่มุมที่พี่มีต่อน้อง และแน่นอน... มันก็ต้องตอกย้ำความมั่นใจของไอ้หนุ่มนั่นด้วย
พี่ไม่รู้ว่าแฟนคนเก่าของน้อง น้องได้มาด้วยวิธีนี้เหมือนกันรึเปล่า แต่ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ พี่ก็ไม่แปลกใจหรอกที่มันดูจะจบลงง่ายๆ เพราะตอนน้องได้มันมามันก็ดูง่ายเหมือนกัน พี่ไม่รู้หรอกว่าคบกัน "เล่นๆ" มันเป็นยังไง พี่อาจจะหัวโบราณเกินไป แต่พี่มองว่าต่อให้มันเป็นความรักในวัยเรียน เราก็ควรที่จะ "เลือก" และ "เอาใจใส่" กับมัน ไม่ใช่ทุ่มกายถวายชีวิตให้ แต่ก็ไม่ควรทำกับมันเหมือนมันเป็นสิ่งไร้ค่า เก็บเกี่ยวได้มาง่ายๆ แล้วก็จากไปง่ายๆ
พี่เชื่อว่าเมื่อน้องโตขึ้น ทัศนคติของน้องจะเปลี่ยนไป แต่วันนี้พี่กลัวแทนน้องจริงๆ ตอนที่น้องซ้อนท้าย "คนแปลกหน้า" ไป
น้องไม่คิดหรือว่าน้องได้คุยกับเขาง่ายๆ ได้เบอร์เข้ามาง่ายๆ เขาก็อาจคิดจะได้น้องมาแบบ "ง่ายๆ" เหมือนกัน
ปล. ยาวจัง... และรู้สึกแก่มากๆ เมื่อเขียนจบ -__-
จากคุณ |
:
อยู่นิ่งๆสิ..หัวใจฉัน
|
เขียนเมื่อ |
:
วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 23:09:27
|
|
|
|