Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ครั้งหนึ่งในชีวิต >>> กับการหนีออกจากบ้าน<<<  

เรื่องตรงจากประสบการณ์วัยเด็กค่ะ  ใกล้วันแม่แล้วด้วย เลยเอามาเล่าสู่กันฟัง
       
        เรื่องเริ่มมาจากตอนอายุ  10 ขวบ กำลังแตกเนื้อวัยรุ่นพอดี ตอนนั้น น้องชายเราอายุประมาณ 4 ขวบ (เราห่างกับน้อง 6 ปี )  ช่วงนั้น คับแค้นใจมาก มีของเล่นอะไรใหม่ๆ ต้องแบ่งปันน้องเสมอ ต้องยกของเล่นเก่าให้น้องด้วยแถมไอ้เจ้าน้องชายตัวดี ก็ซนซะด้วย เล่นอะไรก็มักจะทำพังหมด แถมขนมก็ต้องแบ่ง

         จนมาวันหนึ่ง ขณะที่เรากำลังนั่งกินน้ำแข็งไสอยู่ กับน้อง คนละถ้วย ไอ้เจ้าน้องชายตัวดี กินไวจัด แป๊ปเดียวหมดแล้ว และแล้ว มันก็เริ่มเหล่มาทางถ้วยน้ำแข็งไสของเรา
>>> อย่านะ อย่าคิดอย่างนั้นเชียวนะ ด้วยความคิดอันเฉียบแหลมของเรา เราก็รีบ:-)น้ำลายลงไปในถ้วยน้ำแข็งไสของตัวเอง ในใจก็คิดไว้
“ น้ำลายตรู ทำเอง ผลิตเอง :-)เอง กินของตัวเองได้เฟ้ย ”
เจ้าตัวดีเห็นดังนั้น ก็ชะงักกึก แล้วก็เริ่มร้องไห้เสียงดัง อันส่งผลให้ท่านแม่ที่กำลังหลับอยู่เพลินๆ ตื่นขึ้นทันใด
“ แกล้งอะไรน้องอีกแล้วเนี่ย ”   “ น้องร้องไห้ใหญ่เลย เห็นไหม ”
เราก็ด้วยความตกใจ กับลีลาการแสดงของน้องตัวดี ก็รีบบอกไป ว่าไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย น้องจะแย่งของกืนแล้วเราไม่ให้ ไอ้เจ้าตัวน้อยก็รีบฟ้องต่อ “ ก็จะขอชิมน้ำแข็งไสของพี่… หน่อยหนึ่ง แล้ว พี่ก็ไม่ให้ แถมยัง:-)น้ำลายใส่ไม่ให้กินอีก ”
      คราวนี้อารมณ์ท่านแม่ก็ปรี๊ดเลยสิค่ะ “ แม่บอกให้ช่วยดูแลน้องไง ทำไมแกล้งน้องอย่างนี้เนี่ย ทำไมชอบสร้างปัญหาจัง ”  เราก็เอาล่ะสิ ด้วยความที่เป็นเด็ก ก็พาลคิดไปใหญ่ว่า แม่เข้าข้างน้องอีกแล้ว แถมน้องทำผิด ก็ไม่ดุด้วย มาดุเราแทน แล้วพอแม่ดุเสร็จ ก็ไปนอนหลับต่อ
       โห อารมณ์ตอนนั้นของเรา ประหนึ่งว่าทั้งชีวิตชั้นไม่เหลืออะไรแล้ว ก็รีบขึ้นไปบนบ้าน คิดในใจว่า ไม่อยากอยู่แล้วบ้านนี้ มีแต่คนเกลียดเรา เราทำอะไรก็ผิดไปหมด ใช่ซี้ เราไม่ใช่น้องนี่นา มีแต่คนรุมรักเอาใจ  คิดได้ดังนั้น เราก็เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า (อารมณ์ตอนเด็ก ได้เสื้อมาประมาณ 3-4 ตัว เกงในอีก 2 ตัว และกางเกง 1 ตัว ) พร้อมกับเงินติดตัวอีก 20 บาท ( โห แม่เจ้า หนีออกจากบ้านทั้งที มีเงินแค่ 20 บาท ไม่คิดเลยตรู )
แล้วเราก็เขียนจดหมายอำลาท่านแม่ไว้ดังนี้

ถึงแม่ที่รักของลูก  

   วันนี้ หนูทนไม่ไหวแล้ว มีอะไร แม่ก็ให้น้องหมด รักแต่น้องคนเดียว เอาใจแต่น้องคนเดียว หนูไม่อยากอยู่แล้วบ้านนี้ หนูขอไปตามทางของหนู แม่ไม่ต้องตามหานะคะ

ปล. หนูจะหนีออกจากบ้านไปบ้านยายค่ะ (อารมณ์เด็กอีกแล้วค่ะ อยากที่จะหนีออกจากบ้าน แต่ก็กลัวแม่ตามหาไม่เจอ จึงต้องเขียนบอกไว้ว่าจะไปที่ไหน )

รักแม่ค่ะ

ลูกคนหนึ่ง


        จากนั้นเราก็พับจดหมาย แล้วเอาลงมายื่นให้น้องชาย ที่กำลังนั่งเล่นรถไถอยู่ แล้วเราก็บอกน้องไปว่า “ ถ้าแม่ตื่น เอาจดหมายให้แม่ด้วยนะ ” แล้วเราก็ออกมาผูกเชือกรองเท้า กระโดดขึ้นจักรยานคู่ชีพ แล้วปั่นออกไปทันที
        ตอนนั้น ขณะที่เรากำลังปั่นจักรยานไป ในหัวเราก็คิดสับสน วุ่นวายไปหมด นี่เรากำลังหนีออกจากบ้านจริงหรอ แล้วเราจะไม่ได้เห็นหน้าแม่อีกใช่ไหม แล้วเราก็ตื่นจากภวังค์ เมื่อมีเสียงตะโกน
“ ไอ้เจ้า… (ชื่อของเรา) จะไปเล่นที่ไหนเนี่ย ” เป็นเสียงของน้าบ้านข้างๆ ที่ถัดไปอีก 4 หลังตะโกนถามมา เราก็เลยตะโกนตอบไปว่า
“ หนีออกจากบ้านค่ะน้า ” เขาก็พยักหน้าหงึกหงัก แล้วก็เดินเข้าบ้านไป คงคิดว่าเราพูดเล่นมั้ง แต่เราจริงจังนะ

         อ่ะเข้าเรื่องต่อ หลังจากปั่นจักรยานคู่ใจออกมาจากหมู่บ้านได้ประมาณ 5 นาที เราก็คิดวุ่นวายอีกแล้ว นี่เราควรจะไปไหนก่อนดี หรือไปซื้อขนมก่อน หรือไปบ้านป้าก่อน หรือ ปั่นวนอีกซักรอบดี เผื่อแม่ออกตามหา จะได้เจอ บลา บลา บลา แล้วเราก็ปั่นวนอยู่หน้าหมู่บ้านอีกประมาณ 3 รอบ เอ๊ะ …. ทำไม แม่ยังไม่มาตามซะทีนะ เอ๊ะ หรือว่าน้องไม่ได้ให้จดหมายไป เอ๊ะ… หรือว่าแม่ไม่เป็นห่วงเรา แต่ช่างเถอะ ไปตั้งหลักที่บ้านยายก่อนดีกว่า

      ขณะนั้น ความคิดเราอีรุงตุงนังวุ่นวายไปหมด แล้วเราก็ตัดสินใจได้ว่า ไปดีกว่า วนไปตั้งหลายรอบและ ไม่เห็นมีใครมาตามหาเราซะที และจังหวะนั้นเอง เราเหลือบไปเห็นแม่ขี่มอไซต์ตามหลังเรามาอยู่ แล้วก็ตะโกนให้เราหยุดรถ

เมื่อแม่มาถึง
     “  ปั่นจักรยานกลับบ้านตามแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ ” เราก็ตอบไปว่า ค่ะ แล้วเราก็ปั่นตามแม่กลับไปเงียบๆ แล้วก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ด้วย ว่าแม่ก็เป็นห่วงเราเหมือนกันนี่นา แม่ก็รักเราเหมือนกันนี่นา

ในที่สุด >>> กลับมาถึงบ้านแล้ว
     แม่เรียกเราเข้าบ้าน แล้วแม่ก็กอดเราไว้ แม่ร้องไห้ เราก็ร้องไห้ แม่บอกเราว่า

“ ต่อไปอย่าทำแบบนี้อีกนะ ลูกทุกคนคือดวงใจของแม่ ขาดลูกไป แม่จะทำยังไง แม่จะอยู่อย่างไร แม่อุ้มท้องลูกทุกคนมา แม่รักเท่ากันหมด ไม่ได้รักใครไปมากกว่าใครเลย  “

      เราได้แต่ร้องไห้ แล้วก็ได้แต่พูดไปว่า “ แม่ หนูขอโทษ หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจอีกแล้วค่ะ ”

       ตอนนั้น วัย 10 ขวบ ของเรา ทำให้เราเรียนรู้ได้ถึงความรักที่แม่มอบให้เรา แม่ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ แต่จากอ้อมกอดของแม่ เราสัมผัสได้ ถึงความเป็นห่วง ความปรารถนาดี ความรัก ความเอาใจใส่ ที่เราจะพรรณนาอย่างไรคงไม่หมดแน่นอน

      ถ้าตอนนั้น เราตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ ลงไป เราคงไม่ได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้แน่นอน ถ้าไม่มีแม่คอยชี้แนะ อบรม และสั่งสอน และอดทน รับได้ กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็น พร้อมอภัยเมื่อเราทำผิด และชื่นชมเมื่อเราก้าวหน้า

สุดท้าย เราอยากบอกเพื่อนทุกๆคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ว่า

“  ถ้าหาก ผู้หญิง ที่เรียกว่า “ แม่ ” ไม่มี ลูกก็คงไม่มีวันนี้ ให้ภูมิใจ “

 
 

จากคุณ : momotaro&lingdoi
เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 53 17:12:56




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com