ขอถามอะไร คห.53 หน่อยค่ะ
ในเมืองไทยทำได้เหรอคะ ไอ้ธนาคารสเปิร์มน่ะ เพราะว่าเท่าที่ทราบ เมืองไทยมีธนาคารสเปิร์มเอาไว้สำหรับผู้มีบุตรยากนี่คะ ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะเลี้ยงเดี่ยว เพราะเขามองว่า การที่ผู้หญิงคนเดียวจะรับเลี้ยงเด็ก มันจะไม่ไหวเอา รู้สึกว่าเมืองไทยยังจำกัดสิทธิด้านนี้อยู่ (เขาเอาสเปิร์มที่บริจาคไปให้คนที่มีบุตรยากอ่ะค่ะ ไม่ใช่ให้คนที่อยากมีลูกแต่ไม่มีสามี)
แถมการรับบุตรบุญธรรม ในเมืองไทยก็กีดกันมาก คือส่วนใหญ๋แล้ว ถ้าเราไม่รู้จักเด็กโดยตรง จะรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า... เขาก็สอบประวัติเราอีก และมีรายละเอียดขั้นตอนจุกจิกมากมาย กรณีที่เราไม่มีสามี หรือภรรยาอยู่แล้ว
คนที่หาผู้ชาย-หญิง เองได้ปกติ เขาก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ
แต่บอกตามตรงว่า ผู้หญิง ผู้ชายบางคนอยากมีลูกจริงๆ
เราไม่เช้าใจนะว่า อยากมีเพราะความรักในตัวเด็กแทนที่จะเป็นความรักระหว่างชายหญิงน่ะ มันผิดตรงไหน แค่ไม่อยากอยู่เป็นคู่เท่านั้น เราไม่ได้คิดว่าเด็กเป็นตุ๊กตาค่ะ เราคิดว่าเราจะรักเขาให้ดีที่สุดด้วยซ้ำ แล้วกรณีแบบนี้ ที่เด็กรู้ทั้งพ่อและแม่ของเขาว่าเป็นใคร
เราว่ามันดีกว่าไปผสมเองด้วย ...ก็เขาไม่ได้ขาดนะคะ เขาแค่รู้ว่าเราไม่ได้รักกัน
ตรงนี้เด็กมีความคิด ถ้าเราสอนเด็กดีๆ เขาก็จะเข้าใจและยอมรับได้แน่ๆ ค่ะ เพียงแต่อาจจะมีปัญหาช่วงวัยต่อต้าน เราก็ต้องค่อยๆ รักและให้ความอบอุ่นเขาไป
พูดกันตามจริง...ตรงๆ ว่าเด็กกำพร้าก็มี
เด็กที่เกิดจากผู้หญิงใจแตกก็มี
เด็กที่เกิดจากความผิดพลาดก็มี
เราก็เห็นว่า ถ้าเขาได้รับความรักในระดับหนึ่ง เขาก็เติบโตเป็นคนดี
คนเรา ไม่ใช่แค่ว่ามีพ่อ มีแม่ แล้วจะมีทุกอย่างนะคะ บางคนจิตใจยังเป็นช่องว่าง เพราะพ่อกับแม่เขาดูแลเขาไม่ดีเลย [ครอบครัวดิฉัน อบอุ่นรักใคร แต่ช่วงวัยต่อต้าน หรือเวลาเครียดๆ บางทีฉันยังคิดอะไรผิดๆ ทำอะไรที่ไม่ดีเลยค่ะ ไม่มีใครที่มันสมบูรณ์แบบหรอก ถ้าพูดว่ารู้สึกถูกเติมเต็มมีความสุขที่สุด ก็แสดงว่าคุณอยู่คนเดียวในโลก ไม่ก็คุณหลอกทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเอง]
เจ้าของกระทู้ค่ะ
คุณ "ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา" .... เรื่องเที่ยวผู้หญิง ไม่ใช่เรื่องสำคัญค่ะ คือเราอยากรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่จุดประเด็นความคิดนี้ของคุณ ถ้าคุณบอกว่างาน เราก็คิดว่าคุณน่าสนใจ มองในมุมมองของผู้หญิง การอยากอยู่เป็นโสดเพราะงานก็ไม่ใช่เรื่องผิดค่ะ ส่วนจะไปหาเศษหาเลยที่ไหน ก็ไม่เป็นไร ...ก็คนไม่ได้รักกันนี่นา
ในอนาคต ถ้าคุณคิดจะทำโครงการนี้จริงๆ เราคิดว่าทำได้ค่ะ
แต่กรุณาเลือกดีๆ นิดหนึ่งนะคะ เพราะผู้หญิงเป็นเพศที่โคตรเรื่องมาก มากกว่าที่คุณคิด
เราคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คนน่ะที่เห็นด้วยกับคุณว่า ไอ้แผนนี่เวิร์ค แต่เรามีเพื่อนของเราที่คิดแบบเราเหมือนกัน ยอมรับเลยว่า คนเห็นด้วยกับคุณมีน้อย แต่มีแน่ๆ ขอให้หาเจอนะคะ
สุดท้ายแล้ว...เราอยากบอกความคิดเห็นด้านบน อธิบายเรื่อง อารมณ์ของผู้หญิง(บางคน)
เราไม่เคยรู้สึกอยากให้ผู้ชายคนไหนมาดูแลเราค่ะ
เราอยู่คนเดียวได้ และก็อยากจะอยู่คนเดียวด้วย ไม่ได้คิดว่า โลกนี้ เราไม่มีผู้ชายแล้วเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ไม่ได้คิดว่าเวลาเราอ่อนไหวต้องการใครสักคนมากกอด เวลามันเหงาเพราะไม่มีใคร เราทำงานค่ะ ไม่เคยเอาอารมณ์ลึกซึ้งกับใครมาใส่ใจเป็นเรื่องไร้สาระ
เราเคยมีความรัก รักแท้ที่ทำให้เราเป็นโสด
รักจนอยากดูแล อยากประคับประคอง ตอนนั้นที่เรามีความรักเราอายุน้อยมาก แต่มองว่าความรักนั้นต้องไปไกล แย่ที่สุด ที่ความรักมันพังเพราะช่วงเวลาหนึ่งเราขาดสติ เข้าไปก้าวก่ายชีวิตฝ่ายนั้น เราเสียใจ แต่ไม่ได้เก็บมาใส่ใจในเวลานี้ ทั้งที่เวลาผ่านมาไม่นานนัก ตรงกันข้าม เราเอาความเสียใจมาผลักดันจนตอนนี้เราประสบความสำเร็จในการเรียน และการงานมากขึ้น
ย้ำ! อย่าคิดว่าทุกคนต้องอยากได้สามี
อย่าคิดว่าทุกคนต้องการใครสักคน เรามีเพื่อนร่วมสถาบัน เพื่อนร่วมงาน
เราไม่เคยอยู่คนเดียวในโลกค่ะ แค่ไม่มีผู้ชายมากอดไม่เป็นไร
เราก็คิดว่าการอยู่คนเดียวก็ดี ในแง่หนึ่ง เราไปไหนก็ได้ เที่ยวบินสะสมรอบก็ได้ สนุกสนานจะตายไป ไม่ได้คิดว่าตอนแก่ต้องมีใคร มีเงินก็ไปเข้าสถานอนุเคราะห์ของคนชราก็ได้ บ้านพักฟื้นคนชราน่ะคะ ไม่ได้น่ากลัวสักนิด
เรื่องตายคนเดียวคงไม่ เพราะลูกหลานมีค่ะ
แล้วเงินเราก็เอาบริจาคให้เด็กด้อยโอกาสต่างๆ ...^^
มันน่ากลัวตรงไหนเหรอคะ ถ้าจะตายโดยไม่มีสามี
เราเห็นบางคนอยากมีลูกเพราะอยากให้ลูกมาเลี้ยงตอนแก่ กลัวเหงา อยากได้ห่วงโซ่มาคล้องคนที่เรารักไว้ไม่อยากให้ไปไหน บ้างก็อยากให้ลูกเลี้ยงอีก --- นี่ก็เป็นความเห็นแก่ตัวของคุณไม่ใช่เหรอ--- แล้วพ่อแม่บางคนยังเห็นแก่ตัวต่อไปได้อย่างน่าชื่นตาบาน อย่างแรกก็พ่อแม่รังแกฉัน สนับสนุนให้ลูกเป็นพวกบริโภคนิยม ต่อไปก็ชอบบีบบังคับให้ทำตามเป้าหมายของตัวเอง มองข้ามพรสวรรค์ของลูกแต่อัดให้ลูกต้องเป็นอย่างที่ต้องการ
พ่อแม่บางคนเห็นแก่ตัวยิ่งกว่า ดิฉันและเจ้าของกระทู้อีกล่ะมั้งคะ
ลองทบทวนดูดีๆ ว่า ความหวังดีของคุณที่มีให้ลูก มันเห็นแก่ตัวหรือเปล่า
ถ้าคลอดออกมาจากมดลูกเรา ก็ลูกเรานะ ถ้าคิดว่าจะให้กำเนิดใครเพราะความรัก จะกำเนิดแบบไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละค่ะ
เราไม่เคยเห็นชีวิตหนึ่งไม่มีค่า และคิดว่าเจ้าของกระทู้นี้คิดเหมือนเรา
(ประทานโทษนะคะ เวลาที่ต้อง discuss ความคิดเห็นกับใคร เราค่อนข้างรุนแรง
โดนสอนมาว่า อยากได้อะไรต้องบอก ไม่เข้าใจอะไรต้องถาม ห้ามเงียบ!!! และการนิ่งเงียบไม่ใช่การตอบรับ หรือปฏิเสธ)
บ้านเรา พ่อแม่เรา ส่วนใหญ่รู้จักแต่การให้ แต่ไม่ใช่ให้เงิน ท่านให้ความอบอุ่น ท่านสอนเสมอว่า อะไรที่สอนไป ดีทั้งนั้นเพราะรัก แต่ถ้าไม่เชื่อฟังก็เป็นเรื่องของเรา อยากเลว ความเลวก็ให้ผลตัวเราต่ำ อยากดี ความดีก็ให้ผลตัวเราสูงขึ้น พ่อแม่เราไม่เคยอยากให้เราไปเลี้ยงดูเขา
แต่เราทำทุกอย่างให้พ่อแม่เรามีความสุข เราหาเงินได้ตั้งแต่เรียนไม่จบ เราปรนนิบัติดูแลรับใช้พ่อแม่เรา ทั้งที่ท่านไม่ได้คาดหวัง ไม่ได้ต้องการ ท่านไม่ได้ดีเด่ แต่แม่ดิฉันท่านเสียสละในฐานะแม่จริงๆ...
เราแค่อยากเป็นแม่อย่างแม่เราค่ะ จะมีสามีหรือไม่ก็ตาม
ถ้าในอนาคต พี่น้องพันธุ์ทิพย์เห็นเราแต่งงาน มันก็ไม่ใช่เพราะว่าเรารักเจ้าบ่าวเราแน่ แต่เพราะสาเหตุอื่น คนเดียวที่เราจะรัก คือคนในอดีตที่เราคิดว่า ยากเหลือเกินที่เขาจะกลับมาหา ขอบ่นๆ เอาไว้ตรงนี้
สาเหตุอื่นที่ว่า .... ยกตัวอย่าง ตอนนี้มีคนมาชอบเรา แล้วก็บอกว่า เราน่าจะลืมคนรักเก่าเราเสียที พอเราไม่ลืมมากๆ เข้า เขาก็มาตกลงกับเราเพราะรู้ว่าเราชอบทำงานว่า เขาจะทำงานของเขาให้หนักเหมือนกัน ถ้าหากเขาหาเงินได้จำนวนหนึ่ง เราต้องเลิกพูดถึงคนนันและเลิกรอ เปลี่ยนมาหมั้นกับเขา และทันทีที่บ้านสำหรับบ่าวสาว สร้างเสร็จ ก็ต้องจัดงานแต่งทันที
เรียกง่ายๆ ตอนนี้เรามีคนที่ล็อกไว้ว่าจะแต่งงาน
แต่คุณคิดว่า เราที่อยากอยู่คนเดียวเพื่อรักคนคนหนึ่งไปทั้งชีวิต เราจะยอมเหรอค่ะ
นี่เราตั้งเป้าหมายสูงมาก เพื่อให้เราทั้งคู่ต้องใช้เวลาเกือบสิบปีเพื่อแข่งกัน
เราจะพิสูจน์ให้ฝ่ายนั้นเห็นว่า เราจะรักแค่คนๆ เดียวไปทั้งชีวิต
และถ้าเขาจะยอมแพ้ไปก็น่าจะดี เขาก็เป็นคนดี เราอยากให้ไปได้กับคนอื่น...คิดดูเหอะว่า ผู้หญิงไล่เช้าไล่เย็น แถมบอกเต็มปากว่า คุณแต่งไปคุณก็ได้แต่ตัว คือเราอาจจะห้ามแม้กระทั่งมาร่วมเตียงด้วย เขาก็ยังพูดยิ้มระรื่นจนน่าชกสักหมัดว่า "ได้ซิ"
เราเอือมค่ะ...อีกใจเราก็สงสารผู้ชายคนนี้ แต่ความสงสารนี้ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นรักแน่ๆ
เรื่องนี้ไม่ดราม่าด้วย ถ้าจะขุดคุ้ย คุณก็จะไม่เจออะไรในกอไผ่สักอย่าง
*** ความคิดเห็นส่วนบุคคล ใครจะพูดอะไรก็ได้ค่ะ
ขอโทษด้วยที่ยาว เพราะว่าอัดอั้นตันใจ กระทู้นี้มันถูกใจน่ะค่ะ
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 07:33:16
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 07:23:19
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 07:15:25
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 07:02:54
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 06:55:49
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 06:52:53
แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 53 06:49:31