ความคิดเห็นที่ 1 หยวนไม่ได้บอกหลี่ เรื่องที่เขาแต่งงานแล้ว จนกระทั่งเมื่อปี 2497 ก่อนที่หยวนจะย้ายไปศึกษาต่อยังเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน(เสฉวน) เขาจึงได้รวบรวมความกล้า และบอกกับหลี่ว่า “ผมมีภรรยาแล้ว และจะต้องดูแลเธอไปจนกว่าจะตายจากกัน” หัวใจของหลี่ร้าวรานเมื่อได้ยินคำสารภาพของหยวน และแม้ว่าจะรักหยวนมากเพียงใด แต่ทั้งคู่ก็จำต้องแยกจากกัน “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” หลี่ ให้ความเห็น หลังจากนั้น หลี่และหยวนก็ไม่ได้พบกันอีก จากกันไกลถึงซีกโลก... ในปี 2499 หลี่ กับแม่ของเธอได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะออกจากประเทศจีน หลี่ได้เขียนจดหมายบอกลาหยวน ทว่าไม่กี่วันต่อมา หยวนก็ได้สร้างความประหลาดใจด้วยการส่งจดหมายอีกหลายฉบับ จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มติดต่อกันผ่านทางจดหมายมาตลอด โดยจดหมายจากหลี่ จะส่งไปถึงที่ทำงานของหยวน ขณะเดียวกัน หยวนก็เก็บจดหมายทุกฉบับของหลี่ไว้ที่บ้านญาติ เพื่อไม่ให้ภรรยารู้ หลี่ ต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตอยู่ในสังคมที่เธอไม่คุ้นเคยในประเทศฝรั่งเศส ประกอบกับใบรับรองคุณวุฒิทางการศึกษาของเธอก็ยังถูกปฏิเสธ อีกทั้งวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสน หลี่ ได้เรียนรู้การเขียนชวเลข และการพิมพ์ดีด จนท้ายที่สุดก็ได้งานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทการค้าระหว่างประเทศแห่งหนึ่ง ขณะที่ หยวนก็สำเร็จการศึกษาและเริ่มทำงานในซย่าเหมิน เนื้อความในจดหมายของทั้งสอง แทบจะไม่มีการระบายถึงความทุกข์ยากของแต่ละฝ่าย หยวนเล่าถึงความสุขที่ได้เป็นพ่อคน ขณะที่ หลี่ ก็ส่งนมผงสำหรับทารกและเสื้อผ้าเด็กมาให้ ซึ่งในขณะนั้นในประเทศจีนยังค่อนข้างขาดแคลนสินค้าดังกล่าว เมื่อถึงช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม (2509-2519) จดหมายของหลี่ก็เริ่มถูกตีกลับ และเธอได้หยุดเขียนจดหมายเพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับหยวน แต่หลี่ ก็ไม่สามารถลืมหยวนได้ “ฉันไม่สามารถเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีหลายคนผ่านเข้ามาในชีวิตฉันก็ตาม ฉันพบว่าความรักของหยวน เป็นรักแท้ และรู้สึกถึงความพิเศษที่ไม่มีใครสามารถทัดเทียมได้” หลี่ เผยความใน จากคุณ : NINEINLOVE เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 11:00:52

ความคิดเห็นที่ 2 ในปี 2519 ทันทีที่หลี่มั่นใจว่าความวุ่นวายจากการปฏิวัตวัฒนธรรมในประเทศจีนได้สงบลง เธอก็เขียนจดหมายส่งไปยังที่ทำงานของหยวนเช่นเคย แต่จดหมายดังกล่าวถูกตีกลับ ในตอนนั้น เธอไม่รู้ว่า หยวนได้เปลี่ยนที่ทำงานแล้ว ซึ่งในปี 2516 หยวนได้เขียนจดหมายบอกหลี่ แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่ง ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อกันอีกครั้ง เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้เอง (2553) นานถึง 45 ปี ที่ทั้งสองพรากจากกันหลังจากได้ติดต่อกันครั้งสุดท้าย แสงสว่างฉายโฉนบนเส้นทางรัก... ช่วงระหว่างเทศกาลตรุษจีน (ปลายเดือนก.พ.) โอวหยัง ลู่อิง ลูกสะใภ้คนที่สามของหยวน ได้ล่วงรู้จากญาติที่เป็นผู้ช่วยกุมความลับจดหมายของหลี่ไว้ ว่า พ่อสามีของเธอ ได้เคยตกหลุมรักกับครูต่างชาติสาวสวย เธอกล่าวว่า “เมื่อได้ฟังเรื่องของพ่อสามีฉัน ก็สัมผัสได้ถึงความลึกซึ้งในความรัก และเมื่อแม่สามีของฉันได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2537 ฉันจึงขอให้พ่อเขียนจดหมายอีกครั้ง” แม้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หยวนมักจะไปยังสถานที่ที่เขากับหลี่เคยมาด้วยกันเป็นประจำในเมืองหังโจว แต่หยวนก็ไม่เคยคาดคิดที่จะกลับไปติดต่อกับหลี่อีก จนเมื่อลูกสะใภ้โอวหยังได้ปลุกความทรงจำทั้งหมดจากก้นบึ้งในจิตใจ หยวนจึงมีกำลังใจและมีความหวังที่จะพบกับหลี่อีกครั้ง เขาใช้เวลาหลายวันในการเขียนจดหมายทั้งสิ้น 5 ฉบับ นอกจากจะเขียนเป็นภาษาจีนอวยพรให้หลี่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว หยวนยังเขียนถึงญาติของหลี่เป็นภาษาอังกฤษ ด้วยเกรงว่าหลี่อาจเสียชีวิตแล้ว โดยเขียนว่า "ผมเป็นนักเรียนและเพื่อนของหลี่ และต้องการทราบถึงที่อยู่ของหลี่" ทุกๆ วันเว้นวัน หยวนได้ส่งจดหมาย 1 ฉบับ และหากไม่ได้รับจดหมายตอบกลับเลยสักฉบับ เรื่องราวต่างๆ ก็อาจต้องยุติลงเพียงเท่านี้ ในที่สุดก็มีจดหมายส่งตรงจากฝรั่งเศส หยวนซึ่งบัดนี้อายุ 80 ปี ได้เปิดจดหมายฉบับนั้นด้วยมือที่สั่นเทา และได้เห็นลายมือที่คุ้นเคยอีกครั้ง หยวนเล่าถึงความรู้สึก ณ ขณะนั้น ว่า “ขอบคุณสวรรค์ เธอยังมีชีวิตอยู่” ในซองจดหมายมีรูปของหลี่แนบมาพร้อมกับเนื้อความ 3 หน้ากระดาษ บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอว่า... "ในปี 2517 เป็นระยะเวลา 9 ปี หลังจากการติดต่อกันครั้งสุดท้าย ฉันจบการศึกษาภาษาจีนและได้รับคุณวุฒิเทียบเท่ามหาบัณฑิต จึงได้งานสอนภาษาจีนในมหาวิทยาลัยช็อง มูแลง - ลียง 3 ในปี 2535 ฉันเกษียณในตำแหน่งรองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยดังกล่าว และจากนั้นได้ทำงานเป็นรองประธานองค์กรไม่แสวงกำไรที่ช่วยเหลือนักศึกษาชาวจีนในมหาวิทยาลัยนี้ เธอยังคงครองโสดและอยู่เพียงลำพังหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตลง ในวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา หลี่กลับมาถึงบ้านก็พบจดหมายของหยวนวางอยู่ที่พื้น เธอเล่าว่า “ฉันยังไม่ได้ตอบกลับไปในทันที เพราะฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง” เธอนั่งมองจดหมายของหยวนที่สวนในบ้านตั้งแต่เที่ยงวันไปถึงเที่ยงคืน กระทั่งเมื่อรุ่งอรุณเบิกฟ้าของวันถัดมา เธอก็ได้รับจดหมายของหยวนอีกฉบับ หลี่จึงมั่นใจว่า มันไม่ใช่ความฝัน จากนั้นทั้งคู่ได้เริ่มส่งจดหมายหากันเหมือนแต่ก่อน และในบางครั้ง ด้วยความช่วยเหลือของโอวหยัง ทำให้ทั้งหลี่ และหยวน ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ แต่ไม่นานก็กลับไปใช้การเขียนจดหมายเช่นเดิม เพราะหยวนมีปัญหาด้านการได้ยิน ในการคุยโทรศัพท์ครั้งแรก หลี่ ได้เล่าว่า “โอวหยัง เรียกฉันว่าคุณแม่แดนนี่ ยังไม่เคยมีใครเรียกฉันว่าแม่มาก่อน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกอันแสนวิเศษนี้ได้” หนึ่งเดือนต่อมา หยวนได้เชิญชวนให้หลี่มาที่ซย่าเหมิน และได้บอกกับหลี่ว่า “เธอต้องการมาอยู่กับฉันหรือแค่มาเยี่ยมก็ได้ แล้วแต่เธอจะตัดสินใจ” เมื่อหลี่ มาถึงซย่าเหมิน หยวนและครอบครัวก็ได้พบกับเธอที่สนามบิน และ ณ เวลานั้น หยวนได้ถือช่อกุหลาบอันสวยสด 55 ดอก เพื่อขอเธอแต่งงาน หลี่ได้ตอบรับคำขอของหยวน จากนั้นทั้งคู่ก็ได้จดทะเบียนสมรสกันในวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา หนึ่งวันก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งเป้นช่วงเวลาที่ครอบครัวชาวจีนกลับมาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา      ในวันที่ 26 ก.ย.2553 บุตรชายของหยวน ได้จัดงานแต่งงานให้กับพวกเขา จากนั้น ทั้งหลี่และหยวนก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านของบุตรชายคนที่ 3 และในทุกๆเช้า หยวนกับหลี่ ก็จะจับมือกันเดินตากลมทะเลริมชายหาดรับกลิ่นอายรุ่งอรุณของวันใหม่อันแสนอบอุ่น     หลี่ กล่าวปิดท้ายตำนานรักสุดขอบฟ้าของเธอกับหยวน ว่า “สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน” จากคุณ : NINEINLOVE เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 11:02:15

ความคิดเห็นที่ 3 ซึ้งจัง น้ำตาซึมเลยเรา จากคุณ : ทรายแห่งกาลเวลา เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 11:25:04

ความคิดเห็นที่ 4 "สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้นฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และเขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน” ชอบประโยคนี้มากๆ จากคุณ : ธิดาเต่า เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 11:41:45

ความคิดเห็นที่ 5 เราไม่รู้เหมือนกันว่าความรักในเรื่องนี้มันถูกหรือมันผิด.. ไม่รู้ว่าถ้าภรรยาตัวจริงของหยวนรู้ เค้าจะเสียใจไหม ให้ตายเถอะ ความรักมันออกแบบไม่ได้จริงๆ แต่ในที่สุดก็ดีใจด้วยค่ะที่happy endding ว่าแล้ว น้ำตาก็ซึมT_T จากคุณ : J-shock เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:12:07

ความคิดเห็นที่ 6 นายและนางอินเลิฟของจริง จากคุณ : nuriboy เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 12:35:50

ความคิดเห็นที่ 7 รอจนถึงเวลาที่จะได้รัก น่ารักจังค่ะ จากคุณ : ~Orange be Ora~ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 13:38:57

ความคิดเห็นที่ 8 พวกเค้าโชคดีที่อย่างน้อยในที่สุดก้อมีคนที่รักที่สุดอยู่เคียงข้าง....แต่บางคนชั่วชีวิตก้อยังหาไม่เจอ..... จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 14:31:16

ความคิดเห็นที่ 9 รักแท้มีอยู่จริง จากคุณ : Metaphysics เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 16:40:47

ความคิดเห็นที่ 10 สุดยอดเลยค่ะ เป็นความร้กที่มั่นคงมาก "บุพเพสันนิวาส" ของจริงค่ะ จากคุณ : aPpLe sHerbet เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 16:52:32

ความคิดเห็นที่ 11 ซึ้งในความรักแท้ของทั้งคู่ อ่านแล้วน้ำตาจะไหล จากคุณ : sweetNrichly เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:03:35

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วขนลุก น้ำตาซึมเลยค่ะ รักแท้ จริงๆ T^T จากคุณ : เด็กหญิงน่ารัก เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:15:46

ความคิดเห็นที่ 13 เติมเต็มกันและกัน จากคุณ : มาดามชะนี เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 19:21:36

ความคิดเห็นที่ 14 โอ๊ยยยย น้ำตาคลอเลย จากคุณ : lamerdejoy เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 20:26:48

ความคิดเห็นที่ 15 ซึ้ง... ToT จากคุณ : นี่มันเรื่องอะไรกัน เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:01:21

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุญาตลิ้งไปใน FB นะค่ะ อยากให้เพื่อนๆอ่านคะ จากคุณ : สคูปปี้สีชมพู เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:11:05

ความคิดเห็นที่ 17 ซึ้งมากกกค่ะ น้ำตาซึมเลยค่ะ เฮ้อ รักแท้มากกกๆๆ จากคุณ : หมูหวานน้ำกะทิ เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:36:30

ความคิดเห็นที่ 18 ซึ้ง มาก อยากมีแบบนี้มั่งจัง จากคุณ : CB2_Love Love เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:56:46

ความคิดเห็นที่ 19 หยวนมีเมียแล้ว .. แล้วมารักกับหลี่ ?? น่าซึ้ง น่าบูชาตรงไหน?? ก็แค่ผู้ชายไม่รู้จักพอคนนึงที่ดันอายุยืนจนได้มาเจอชู้ที่เจือกอายุยืนพอกัน แค่นั้นเอง ปล.สำหรับผม แค่นอกใจ(แม้จะยังไม่นอกกาย) ผมก็นับว่าเป็นชู้แล้ว ความรักที่คิดว่าซาบซึ้งของผู้หญิงคนหนึ่ง อาจเป็นความรักที่เจ็บปวดตลอดชีวิตของผู้หญิงอีกคนที่ได้ชื่อว่าเมียก็ได้ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 53 22:13:34 จากคุณ : maomaojung เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 21:57:40

ความคิดเห็นที่ 20 คห. 19  ใจแคบไปรึเปล่า พระเอกอ่ะ เค้า รับผิดชอบดีมากเลยน่ะค่ะ เค้าต้องรอให้ภรรยาตายก่อน   คุณมองแบบของคุณก็เป็นความเห็นของคุณ เข้าใจ แต่อยากให้เปิดใจ ... เคยอ่านเรื่อง มะเมี๊ยะ รึเปล่า เปิดใจ อ่านซะ นั้นแหละ -o-  ผู้ชายยอมสละความรักที่สุด เพื่อ ผู้หญิงที่แต่งงานด้วยจะได้ไม่เสียเกรียติทั้งที่ไม่ได้รักเลยน่ะ  และผู้หญิงที่รักจะไม่เสียเกรียติเพราะไม่ได้เอาเค้ามาเป็นเมียน้อย จากคุณ : kolanya เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:25:47

ความคิดเห็นที่ 21 ก็แค่ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นเมียผู้ชายคนนี้ คุณจะคิดยังไงที่ต้องอยู่กับผู้ชายคนนึงแค่ตัว โดยที่หัวใจเขาอยู่กับผู้หญิงอีกคน .. ตอบตัวเองก็พอครับ ไม่ต้องตอบผม จากคุณ : maomaojung เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 22:35:03

ความคิดเห็นที่ 22 อันไหนกงจักร อันไหนดอกบัว? จากคุณ : cvdinter (cvdinter) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:10:15

ความคิดเห็นที่ 23 ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของ เพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496 --------------------------------------------------------------------------------- ถูกคลุมถุงชนรึเปล่า ครับจากประโยคนี้ จากคุณ : westly เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 23:17:03

ความคิดเห็นที่ 24 For me, the point is although they were in love, but the man had a wife. While the woman were single for over 50 years, he lived happily with his wife and had 3 sons with his wife!! I wonder if it's fair for the woman? Not to mention the fact that is it fair for his wife that her husband was in love with another? จากคุณ : ++Diamond Lady++ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 01:57:05

ความคิดเห็นที่ 25 แอบเห็นด้วยกับคห.ที่24ค่ะ เราอ่านแล้วร้องไห้เลย ร้องไห้ให้กับฝ่ายหญิงนะ ความรักของเขามันสุดยอดจริงๆ :') แต่เราว่าฝ่ายชายก็คงมีความจำเป็นที่ทำให้ต้องไปมีครอบครัวแหละค่ะ ทุกคนอยากอยู่กับคนที่ตัวเองรักอยู่แล้ว ตื้นลึกหนาบางเราไม่มีทางรู้ แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆเลย : ) ป.ล.เรื่องนี้เราว่าอีกหน่อยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แน่ๆ จากคุณ : นางสาวต้องมนต์ เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 02:25:17

ความคิดเห็นที่ 26 นั่นสิครับ คุณ 20 ช่วยตอบ21 ด้วย ผมว่าความรักที่บริสุทธิ์ในเรื่องนี้มีแต่จากทางฝ่ายหญิง ฝ่ายชายถ้าเมียไม่ตาย มีหวังฝ่ายหญิงรอจนตัวเองตายก่อนแน่ๆ จากคุณ : Infighter เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 08:26:02

ความคิดเห็นที่ 27 .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 13:42:39

ความคิดเห็นที่ 28 ผู้หญิงมีสามี แต่แอบรักกับผุ้ชายอื่น ลองคิดกลับกันดู ว่ามันน่าบูชาตรงไหน อันนี้เหมือนกัน ใช่อยู่ว่ารักกันมาก แต่ถ้าคิดถึงคุณแฟน อยู่ด้วยกันตลอด แต่รักหญิงอื่นตลอดเวลาเหมือนกัน รับได้หรอ.. เลยเป็นเหมือนว่า ภรรยาที่เสียไปเป็นตัวขัดขวางความรักเลยเนอะ จากคุณ : ขอโทษที่ใจแคบ (hot pink hana) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 14:31:45

ความคิดเห็นที่ 29 ผมว่าแฟร์อะ ชายชอบหญิงแต่ก็ต้องรับผิดชอบ หญิงชอบชายแต่ก็ไม่แย่งมาจากเมียเขา ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ แต่การกระทำมันห้ามกันได้ครับ จากคุณ : D.Ginotov เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 16:05:10

ความคิดเห็นที่ 30 ความรักมันไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว อ่านแล้วซึ้งมากค่ะ จากคุณ : nongkhim เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 18:20:11

ความคิดเห็นที่ 31 ความรักมันไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว อ่านแล้วซึ้งมากค่ะ จากคุณ : nongkhim เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 18:20:36

ความคิดเห็นที่ 32 เหมือนว่าคุณ maomaojung จะไม่ได้ดูให้ดีเลยนะครับ ว่าฝ่ายชายนะโดนจับคลุมถุงชน อ่านไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดจริงๆ จากคุณ : seruel01 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 18:37:33

ความคิดเห็นที่ 33 จากคุณ : sandee.kung เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 21:16:46

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องใจเป็นเรื่องห้ามกันยาก แต่ต้องถือว่าทั้งคู่มีคุณธรรมพอสมควร คือไม่ลักลอบได้เสียกัน  ทั้งคู่ไม่อาจห้ามใจตัวคุณได้ว่าจะรัก หรือจะเกลียดใคร  แต่ทั้งคู่มีศีลธรรมพอตัวทีเดียว ขอชื่นชมคุณผู้ชายที่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ขอชื่นชมฝ่ายผู้หญิง ที่ยึดมั่นในความรักที่ตัวเองมี แม้จะไม่ได้ครอบครองก็ตาม จากคุณ : n_godde เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 53 21:44:20

ความคิดเห็นที่ 35 ซึ้งจัง T-T “เราเติมเต็มกันและกัน” จากคุณ : กวิ้นนุ่งผ้า (PenguinOHo) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 09:58:39

ความคิดเห็นที่ 36 เค้าเอามาให้อ่าน ให้เรียนรู้รูปแบบความรักต่างๆ กันไป ก็ยังมีพวกประสาทจ้องจะทะเลาะกันอีก ไทยแลนด์ จงเจริญ ! จากคุณ : Zemamaru (Zemamaru) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 11:14:08

ความคิดเห็นที่ 37 ซึ้งจริงๆ ครับ จากคุณ : p (panyaamt) เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 11:20:16

ความคิดเห็นที่ 38 ความเอ๋ย...ความรัก จากคุณ : 16เมษา เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 13:50:59

ความคิดเห็นที่ 39 อ่านแล้วซึ้งดีมากครับ หลี่ มีความรักที่มั่นคงมาก (หายากในปัจจุบัน) ขอให้หลี่มีความสุขมากเท่าที่       สุดจะมากได้เพื่อตอบแทนการรอคอยที่ 0.001% แต่สุดท้าย กลาย        100 ปู่หยวน โดนจับคลุมถุงชน รู้สึกว่า ถุงมันแตก ออกมา อย่างน้อย     3 คนเลยน๊ะปู่ มิทราบว่า อันนี้เรียกว่าไม่เต็มใจหรอ     ถ้าติดต่อกันโดยไม่พูดถึงเรื่องชู้สาว ก็น่าจะบอกเมียได้น๊ะ     ซึ่งเพื่อนที่อยู่คนละซีกโลก ถ้า หลี่ กลับมาจีน ค่อยว่าไปอย่าง สงสารเมียปู่ มากที่สุด ต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก โดยที่ตัวเองไม่รู้เลยว่า     เค้าแอบติดต่อกัน ที่คาใจที่สุด คือ รู้สึกยังไงที่คนไม่รักเรา มาทำเรา ท้องอย่างน้อยถึง 3 ครั้ง จากคุณ : ผมรักพ่อรักแม่ของผมมากครับ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 13:54:07

ความคิดเห็นที่ 40 “ สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป เราต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ฉันมีปัญหาด้านการมอง และเขามีปัญหาด้านการฟัง ดังนั้น ฉันจึงเป็นหูให้กับเขา และ เขาก็เป็นตาให้กับฉัน เราเติมเต็มกันและกัน ”   ...... บอกได้คำเดียวว่า ...... จากคุณ : BeYonDGodLikE เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 14:19:35

ความคิดเห็นที่ 41 อย่างน้อยที่สุด เค้าก็ไม่ได้เป็นชู้กัน ไม่รู้นะ ยังไงผมก็ชื่นชมที่ทั้งคู่ไม่ได้ทำผิดศีลธรรม จากคุณ : pan-pan เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 14:31:53

ความคิดเห็นที่ 42 เราไม่ชื่นชมผู้ชายคนนี้เลยนะคะ ถ้าใช้คำว่ากลับมารักกันใหม่นี่ยังโอเคค่ะ แต่ถ้ารักมาคลอดไม่เคยลืมนี่ไม่ไหวนะ ไม่แฟร์กับภรรยาเขา คือลองนึกถึงสภาพจิตใจคนเป็นภรรยาถ้าได้รับรู้ว่าสามีรักผู้หญิงคนอื่นอยู่ มันแย่นะเพราะผู้หญิงเราจะแคร์ที่ผู้ชายนอกใจมากกว่านอกกายน่ะค่ะ แต่ข่าวก็ไม่ได้บอกแหละนะว่าเขาดีกับภรรยาหรือเปล่า เขาอาจจะเพิ่งมารื้อฟื้นความหลังตอนแก่แต่สื่อประโคมข่าวซะเว่อเป็นรักอมตะไปเองก็ได้มั้ง ซึ้งกับความรักของผู้หญิง แต่ของผู้ชายเราเฉยๆ ค่ะ จากคุณ : Avanyere เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 17:29:16

ความคิดเห็นที่ 43 สุดยอดเลยครับ ซึ้งอ่ะ จากคุณ : Poggi เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 18:15:39

ความคิดเห็นที่ 44 เราว่าคุณปู่ก็รักภรรยาแล่ะ อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งนาน แต่ลึกๆในมุมหนึ่งของหัวใจก็ยังคิดถึงคุณครูอยู่ แค่คิดถึง อย่างน้อยก็คิดซะว่าระหว่างที่คุณย่าแกมีชีวิต แกไม่เคยต้องมารับรู้ก็ดีแล้ว จากคุณ : โต๊ะเขียนหนังสือ เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 21:22:34

ความคิดเห็นที่ 45 แปลกนะ ที่นี่เป็นเว็บบอร์ดที่ให้สิทธิในการแสดงความคิดเห็น.. แต่พอไม่ได้แสดงความเห็นตามน้ำ กลับกลายเป็นผมหาเรื่องทะเลาะ ตลกดี ^^ ผมอ่านครับ ได้ศัพท์ดีด้วย รู้ครับว่าโดนคลุมถุงชน .. แต่การโดนคลุมถุงชนหมายความว่าไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกคนในถุงรึไงครับ?? ใครอยากจะซึ้งก็ซึ้งกันไปสิครับ ผมไม่ได้ไปว่าอะไรสักหน่อย แต่ผมไม่ซึ้งด้วย และก็แสดงความคิดเห็นไปว่ามันไม่ได้มีอะไรน่าซึ้ง หัดมองอะไรให้มันหลากหลายมุมมั่งเหอะครับ ไม่ใช่ใครยัดข้อมูลอะไรมาให้ก็ไหลกันไปตามนั้น... ผมแค่ลองมองในมุมของเมียหยวน ที่ดูแล้วมันคงขมขื่นไม่น้อย เวลาเอาล่ะเอากรู แต่เวลาคิดถึงเจือกคิดถึงคนอื่น คิดแล้วมันชีช้ำจิงจิ๊งงงงงง ถามสั้นๆให้คิดตามว่า ถ้าทุกวันนี้แฟนคุณ(ไม่ว่าญ.หรือช.) ที่อยู่ร่วมห้องหอร่วมเตียงกันทุกคืน วันนึงคุณไปเปิดเจอบันทึกการสนทนาหรือแมสเสจ หรืออีเมล์ที่เขาหรือเธอแสดงความรักกับใครอีกคนที่ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก คุณยังจะซึ้งแบบนี้มั้ย?? จากคุณ : maomaojung เขียนเมื่อ : 10 พ.ย. 53 23:06:30

ความคิดเห็นที่ 46 ชื่นชมทั้งคู่ค่ะ ไม่รู้สิ เรารู้สึกว่าความรักเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก เราเชื่อว่าคุณปู่ก็รักภรรยาเค้าที่มีลูกด้วยกันและใช้ชีวิตด้วยกันมาระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็มีคนๆนึงที่เราไม่สามารถลืมเค้าได้ตลอดชีวิต บางทีอะไรๆมันก็อธิบายไม่ได้ทุกอย่างหรอกค่ะ การที่เค้ากลับมาเจอกันและรักกันในช่วงบั้นปลายชีวิต เราคิดว่ามันคือ พรหมลิขิต ค่ะ คนเราถ้าคู่กันแล้ว ยังไงสุดท้ายก็ได้อยู่ด้วยกัน ถ้าไม่ใช่ จะยื้อรั้งไว้แค่ไหนสุดท้ายก็ไม่ใช่ จากคุณ : iczcream เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 00:30:50

ความคิดเห็นที่ 47 ยังไงดีล่ะ ถามว่าซึ้งมั้ย ซึ้งค่ะ มากด้วย แต่เราก็เข้าใจประเด็นที่คุณmaomaojungพูดนะ คือเค้าไม่ได้รักภรรยาก็จริง แต่ก็ยอมเลิกกับคนที่รักเพื่อมารับผิดชอบ อันนี้ถือว่าเป็นลูกผู้ชายมาก แต่ที่ยังติดต่อกันอยู่ ถ้าคนเป็นภรรยารู้ คงเสียใจมากแน่ เพราะสมัยนั้นถึงจะไม่เคยพบเจอหน้าก่อนแต่ง แต่อยู่ๆกันไปก็รักกันเอง คิดว่าคุณปู่เองก็เหมือนกัน แต่เราก็ไม่รู้นะคะ ว่าที่ติดต่อทางจดหมาย เค้าคุยอะไรยังไงกัน อาจจะไม่ได้สวีทจี๋จ๋า แค่เล่าความเป็นไปของกันและกันอย่างเพื่อนคนนึงก็ได้ อีกอย่าง วัฒนธรรมและสภาพแวดล้อมของจีนสมัยนั้น ความคิดความเชื่อ เป็นยังไงเราก็ไม่รู้ อย่างการแต่งงานและมีลูกกับคนที่พ่อแม่หามา ก็เรื่องธรรมดานะคะ เพราะคนจีนก็อยากให้มีลูกหลานสืบสกุลอยู่แล้ว ที่เราเห็นก็คือ ผู้ชายคนนึงเลิกกับคนรัก มาแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักตามคำสั่งพ่อแม่ และรับผิดชอบเธอคนนั้นไปชั่วชีวิต ส่วนคนรักก็ติดต่อกันอย่างคนไกล เล่าสุขทุกข์ ถ้าจะผิดก็ผิดที่ไม่ยอมบอกภรรยา อาจจะเพราะไม่บริสุทธิ์ใจหรือกลัวคิดมากก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่จุดนี้เราเห็นว่าไม่ควร และอีกเรื่อง คือผู้หญิงเป็นโสดโดดเดี่ยวมาตลอด ในขณะที่ผู้ชายสร้างครอบครัวมีความสุข เราก็คิดนิดๆว่า ความทุกข์มันไม่เท่ากัน แต่ในเมื่อคุณยายบอกว่า สิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไป แล้วเราเป็นใครที่จะมาพูดอะไรได้ ถึงเราเป็นคุณยายเอง เราก็คงทำเหมือนกันค่ะ จากคุณ : hoshikuzu เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 02:46:03

ความคิดเห็นที่ 48 กดให้ คห.40 หน่อย แบบอุส่าห์พยายามเบ่นอะนะ จากคุณ : Navyblue1990 เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 11:36:14

ความคิดเห็นที่ 49 ผู้ชายคนหนึ่งมีเมียแล้ว แต่ไม่ได้เกิดจากความรัก (ผู้ใหญ่จัดการให้) ผู้หญิงคนหนึ่งหลงรักผู้ชายคนนั้น ทั้งสองคนรักกันมาก ฝ่ายชายเลือกที่จะรับผิดชอบผู้ที่เป็นภรรยาจนกว่าจะสิ้นชีวิต(เลือกที่จะไม่เห็นแก่ตัว แม้ตนเองจะทุกข์ก็ตาม) โดยปล่อยผู้หญิงที่รักสุดหัวใจ...เพื่อไปทำหน้าที่สามีที่ดี ฝ่ายหญิงไม่แม้แต่จะเรียกร้องอะไร นอกจากการบอกลาครั้งสุดท้ายทางจดหมาย ต่อมาทั้งสองคนก็ติดต่อกัน(จะว่าลับๆก็ไม่เชิง)ผ่านตัวหนังสือเป็นเวลาหลายปี โดยที่ฝ่ายชายไม่ได้บอกภรรยา(อาจจะเพราะว่าไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ) จนกระทั่งขาดการติดต่อกันไปมากกว่าสี่สิบปี ภรรยาของผู้ชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตรงนี้ฝ่ายชายได้ทำตามหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และไม่มีพันธะผูกพันธ์ใดๆอีก ในขณะที่ฝ่ายหญิงยังเป็นโสด !! ทั้งสองคนแต่งงานกันอย่างมีความสุข(ควรจะมีความสุขได้แล้ว) .................................................................................................................................................................. -ความรักมันห้ามกันได้เหรอคะ คุณปู่แต่งงานเพราะภาระหน้าที่ความรับผิดชอบต่อทางบ้านนะคะ เค้าไม่ได้อยากแต่งเอง การแต่งงานมันบังคับให้ใครรักใครไม่ได้ แต่มันบังคับให้มีความรับผิดชอบที่ดีร่วมกัน -มีลูกแล้วผิดตรงไหน คนจีนอยากให้มีลูกหลานเยอะๆเป็นปกติ อีกอย่างเค้าเป็นผัวเมียกันจะไม่ให้นอนกันเลยมันเป็นไปไม่ได้ -จะไปคิดแทนเมียเขาทำไมในเมื่อคนก็ไม่อยู่แล้ว ทำไมคิดว่าเขาน่าสงสารล่ะคะ ตลอดชีวิตมีสามีที่ดีคอยดูแล มีลูกที่น่ารัก และจากไปอย่างสงบ สิ่งที่สำคัญคือคนที่ยังอยู่ไม่ใช่หรือคะ หากจะเอาเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด มาดูแลคนที่รักกันมามากกว่าห้าสิบปี มันจะเป็นอะไรไป..มันยังไม่ดีพออีกหรือเนี่ย น่าแปลกใจกับบางความเห็นจริงๆ จากคุณ : kugkik_kugkik เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 18:36:18

ความคิดเห็นที่ 50 เฮ้ออออ ต่างคนต่างก็มีความคิดเห็นต่อเรื่องบางเรื่องแตกต่างกันไป .. ก็แค่แสดงความเห็น ถึงมันจะไม่ตรงกับใจใครหลายๆคน แต่ทำไมต้องพาดพิงคห.คนอื่น????? อันนี้ผมก็แปลกใจกับบางความเห็นจริงๆ 555 อ่ะ คิดว่าสุดท้ายละ "ในตอนนั้น สิ่งที่หลี่ไม่รู้ ก็คือ หยวนได้แต่งงานมีภรรยาแล้ว ครอบครัวของหยวนได้จัดการให้เขาแต่งงานกับน้องสาวของเพื่อนที่บ้านเกิด ในเกาะกู้หลังอี้ว์ เมืองซย่าเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ก่อนที่หยวนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ ในปี 2496" หยวนแต่งงานมา "ก่อนหน้านั้น" แล้ว ไม่ใช่ยอมเสียสละเลิกกับหลี่เพื่อไปแต่งงานตามคำสั่งพ่อแม่ รู้ทั้งรู้ว่ามีเมียที่ต้องรับผิดชอบอยู่ที่บ้าน ทำไมไม่รู้จักห้ามจิตห้ามใจที่จะไม่หว่านเมล็ดต้นรักต้นใหม่ ทั้งๆที่รู้ดีว่าไม่มีกระถางจะปลูก +++ หากจะบอกว่า ความรักมันห้ามกันไม่ได้ .. ผมก็ถึงได้มีคำถามไงว่า ถ้าสามีคุณเขียนอีเมล์ถึงผู้หญิงคุณจะคิดยังไง ถ้าคุณคิดว่ารับได้ จะซาบซึ้งกับเรื่องนี้ก็ซึ้งไป .. ส่วนตัวผมถ้าบังเอิญไปเจออีเมล์ที่ภรรยาผมแอบติดต่อกับชายอื่น ผมรับไม่ได้ มันก็แค่นั้นเอง จากคุณ : maomaojung เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:00:50

ความคิดเห็นที่ 51 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 53 22:09:04 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 53 22:05:46 จากคุณ : nuriboy เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 22:05:05

ความคิดเห็นที่ 52 โอ๊ย ไม่เอานะ ผมจะเอาแฟนตอนนี้อะ มาได้กันแบบในกระทู้นี้ ไม่ไหวนะ เอามาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวกันเหรอ==' ป่านนั้นก็นอนเล่นขี้แล้วคับผม จากคุณ : จักรพรรดิแดนรักทหารErosPhoenix เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 53 23:31:48

ความคิดเห็นที่ 53 การรักคนมีเจ้าของ การนอกใจสามีหรือภรรยาเป็นเรื่องที่ผิด อันนี้เรารู้ แต่ที่เราชื่นชมก็คือ เค้าทั้งคู่รู้ทั้งรู้ว่าต่างฝ่ายต่างอยู่ในสถานะไหน ความจริงแล้ว เค้าทั้งคู่สามารถคบกันแบบเปิดเผยได้ แต่ไม่ทำ นั่นแปลว่า เค้ารู้ผิดชอบชั่วดี ในเมื่อความรู้สึกมันไปแล้ว ห้ามไม่ได้แล้ว ก็คงต้องหยุดการกระทำที่จะตามมา เรานับถือเลยค่ะ จะมีสักกี่คนที่จะห้ามใจตัวเองได้ ไม่อย่างนั้น คงไม่มีคำว่า เมียน้อย ชู้ กิ๊ก เลิกรา หรือ หย่าร้าง บนโลกใบนี้หรอกค่ะ จากคุณ : นางฟ้าปีกสีชมพู เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 13:45:19

ความคิดเห็นที่ 54 ทำไมผมร้องให้เนี่ย แงๆๆๆซึ้งๆๆๆ จากคุณ : Slotrock701 เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 15:55:17

ความคิดเห็นที่ 55 เรื่องจริง แค่จะเจอกับ คนคนนั้นอีกยังยากเรย เพราะเราบอกเค้าไปว่า " เจอกันชาติหน้าละกัน !! " +_+ ไม่ใช่ชาตินี้ ไม่อยากเจอ.... แต่ถ้าเจอเธอก็ไม่รักเรา T^T จากคุณ : Ratsamita เขียนเมื่อ : 12 พ.ย. 53 21:49:58

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ซึ้งค่ะ จากใจจริง :( จากคุณ : ยัยเบ้ตัวจิ๋ว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 11:14:51

ความคิดเห็นที่ 57 ถ้าคุณ maomaojung ยังไม่แต่งงานนี่ดิฉันขอแต่งงานไปแระนะเนี่ย ต้องซื่อสัตย์กับดิฉันไปตลอดชาติ ไม่มีว่อกแว่กอย่างแน่นอน ... จากคุณ : บ๊ะบิ๊บุ๊เบ๊ะโบ๊ะ เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 19:25:55

ความคิดเห็นที่ 58 ทำให้นึกถึงเพลงนี่ค่ะ คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง คงมีใครซักคนรออยู่ ตรงนั้น คงมีความหมายใด ซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน คงจะมีซักวันฉันคงได้เจอ เจ็บมาแล้วตั้งกี่ครั้ง เมื่อความหลังพังทลาย จะมีใครที่เป็นคนสุดท้าย เธอคนนั้นอยู่แห่งไหน จะไกลแสนไกลเท่าไหร่ ก็จะไปที่ดินแดนแห่งนั้น จะขอเอาคำว่ารัก ทุกคำที่ฉันได้เคยเอ่ย จะขอมันคืนจากใครที่เคยผ่านเข้ามา จะขอรวมคำว่ารักเหล่านี้ ทวีความหมายและคุณค่า จะขอเอามามอบไว้ให้เธอผู้เดียว ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ หรือขุนเขาทะเลทราย ไกลเท่าไหร่จะไปให้ถึง คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง คงมีใครซักคนรออยู่ ตรงนั้น คงมีความหมายใด ซ่อนอยู่ในการรอคอยที่แสนนาน คงจะมีซักวันฉันคงได้เจอ ข้ามขอบฟ้าหรือขุนเขา ข้ามแผ่นน้ำทะเลกว้างใหญ่ แต่ฉันจะไปหาเธอ ข้ามขอบฟ้า แผ่นน้ำ หรือขุนเขาทะเลทราย ไกลเท่าไหร่จะไปให้ถึง คงจะมีรักจริงรออยู่ ที่ดินแดนใดซักแห่ง จากคุณ : numsom (dreamfaraway) เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 20:50:19

ความคิดเห็นที่ 59 รักแท้นานแค่ไหนก็รอได้ รักคือการให้ครับ คิดว่าคงเข้าใจ อย่าเถียงกันเลย ถ้าคุณรักใครคนนึง แต่คนๆนั้นรักคนอื่น คุณจะยอมให้เขารักคนอื่น หรือตัวคุณ ถ้าคุณไม่ นั่นหมายถึงคุณไม่ได้รักเค้า แต่คุณอยากครอบครองเค้า ผมว่าลุงทำถูกแล้ว หละ จากคุณ : =Medley= เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 53 23:56:14

ความคิดเห็นที่ 60 “ฉันไม่มีทางเลือก เราไม่ควรมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้หญิงที่เป็นผู้บริสุทธิ์อีกคน” อาห์ ประโยคนี้แหละ.. แก้ไขเมื่อ 14 พ.ย. 53 11:28:20 จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 11:27:05

ความคิดเห็นที่ 61 เคยไม๊ ที่เราร่วมชีวิตกับใครและรักคนๆนั้นด้วย แต่ก็ยังมีอีกคนอยู่ในซอกหลืบของหัวใจ เอาไว้ให้นึกถึงเป็นบางครั้ง คุณปู่เค้าก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละ ส่วนคุณย่าที่เค้าไม่ได้แต่งงานไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่มีความสุข คุณย่าประสบความสำเร็จในชีวิตมากๆ เป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาด การแต่งงานไม่ได้หมายว่ามีความสุข และ ประสบความสำเร็จค่ะ จากคุณ : n-OO//bit-a เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 53 13:05:07

ความคิดเห็นที่ 62 T_________T ซึ้งจัง... จากคุณ : S.G.BUU เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 53 01:25:26

ความคิดเห็นที่ 63 แปลกจังค่ะ ลูกๆ ของปู่หยวน ยังไม่เห็นรู้สึกว่าคุณพ่อของเค้าทำผิดเลยค่ะ เห็นว่าลูกชายเป็นคนจัดงานแต่งงานให้ด้วยนี่คะ ปัจจุบัน สำคัญที่สุดค่ะ ในเมื่อปัจจุบัน (ที่ไม่มีคุณแม่แล้ว) คุณพ่อเค้ารักกับใครก็ส่งเสริม อันนี้น่ายกย่องคุณลูกๆ ของคุณปู่หยวนค่ะ อ่านแล้วซึ้งจริงๆ ค่ะ จากคุณ : ย่าน้องวิน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 53 20:23:48