Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สำหรับคนที่จิตตกเพราะอกหักหรือรักคุด ติดต่อทีมงาน

ชั่งใจว่าจะตั้งที่ห้องไหนดีระหว่างสวนลุมกับสยาม แต่เห็นที่นี่มีกระทู้คนอกหักมากกว่า

จริงๆก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษมากมาย แค่อยากบอกว่า.. ให้เข้มแข็งเข้าไว้ครับ ชีวิตคนเราทั้งไม่แน่นอนและยังต้องเจออะไรอีกเยอะมากๆ.. (จริงๆ)

ขอผมเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟัง

...

วันนี้ ผมไปงานศพมา
เป็นงานศพของน้องสาวคนหนึ่ง น้องสาวคนนี้เป็นรักครั้งแรกของผม ผู้ซึ่งจากไปอย่างกระทันหัน
ถึงผมจะรู้สึกแย่แค่ไหน แต่ยังไงก็คงไม่แย่เท่ากับแฟนของเค้าซึ่งคบกันมาร่วม 10 ปี แน่นอนว่าอนาคตที่ทั้งคู่ช่วยกันร่างไว้ด้วยกัน ถูกทำลายเพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่ได้รับข่าวร้าย

แต่ถ้าคิดว่านั่นแย่ที่สุดแล้ว

ลองอ่านที่ผมจะบอกต่อว่า น้องคนนี้ หลังจากเรียนจบตรี
ไปต่อโทที่อเมริกาอยู่ 5 ปีและเพิ่งจะเริ่มงานเพียงไม่กี่เดือน โดนระหว่างนั้นก็ได้กลับมาหาครอบครัวเป็นครั้งคราววินาทีที่เธอเสีย แน่นอนว่า ทุกคนที่เธอรักอยู่ห่างออกไปครึ่งโลก!!

แล้วถ้าหากจะบอกต่ออีกว่า..
คนผู้เป็นพ่อ ต้องนั่งเครื่องบินไป 20 ชม. พร้อมกับน้ำตาที่อออยู่เต็มเบ้าตา คุณคิดว่าเกือบ 20 ชม.เพียงลำพังบนเครื่องบิน กับอีกหลายชม.ขณะรอเปลี่ยนเครื่องมันจะทรมานสักแค่ไหน?
การเดินทางเพื่อไปพบลูก.. ผู้ซึ่งถึงแม้ว่าคนเป็นพ่อจะกอดไว้ในอกแนบแน่นแค่ไหน คนเป็นลูกก็ไม่มีทางรับรู้ แม้พ่อจะร้องตะโกนได้ดังเพียงใด คนเป็นลูกก็ไม่มีทางได้ยิน
ถ้าหากเป็นตัวผมเอง คงจะนึกไม่ออกเหมือนกัน ว่าจะรู้สึกอย่างไร


แน่นอนว่างานศพเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเสมอ ทุกคนย่อมเคยไปงานศพ ย่อมเคยเจอกับบรรยากาศอันเศร้าสลด.. แต่เชื่อเถอะว่า คุณคงจะนึกและจินตนาการไม่ถูกแน่ๆว่าคนเป็นพ่อคนหนึ่งจะหัวใจสลายและเศร้าได้มากขนาดไหน ที่ตนเองต้องมาเป็นสักขีพยานในการเผาศพลูกของตัวเอง ทั้งๆที่ไม่กี่วันก่อนยังคุยกันอยู่ดีๆ ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน ต้องมาเห็นร่างของลูกตัวเอง ต้องถูกทำลายลงเพราะเพลิงที่เผาไหม้จนเปลี่ยนจากร่างของสาวน้อยผู้น่ารัก ขี้เล่นและร่าเริงจนเหลือเพียงเถ้าธุลี
เป็นงานศพที่ไม่มีทั้งญาติและครอบครัวอันเป็นที่รักคอยปลอบประโลมอยู่เคียงข้าง มีเพียงลำพังสองพ่อลูก ณ พิธีศพที่อเมริกา นอกเหนิอไปจากเพื่อนของผู้ล่วงลับที่โน่น (ผมเข้าใจว่ามีเพียงพ่อของน้องเค้าที่บินไปที่โน่น และอาจจะมีญาติที่อยู่ที่โน่นไปร่วมกันที่โน่น)


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อัฐของน้องได้เดินทางมาถึงแผ่นดินเกิด
วันนี้(22Nov)เป็นวันทำบุญเลี้ยงพระและทอดผ้าบังสุกุล
คุณแม่ยังทำใจไม่ได้และร้องไห้ตลอดเวลา
คุณพ่อก็มีน้ำตาคลออย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งผมไม่ขอเดาว่าท่านทั้งสองจะรู้สึกอย่างไร
ขนาดผม ซึ่งไม่ได้คุยกับน้องเค้าเป็นปีๆ จะมีก็เพียงแต่ทักทายกันบ้างนานๆครั้ง
เห็นกล่องใส่อัฐวางไว้ข้างๆกับรูปยังแอบรู้สึกสะเทือนใจ จากคนๆหนึ่ง เหลือเพียงแค่เถ้าที่วางอยู่บนพาน จากคนที่น่ารัก มีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าเสมอ จากคนที่เคยวิ่งได้ หัวเราะและเล่นไปกับพวกเรา คนที่เคยเป็นแฟนอันเป็นที่รักของผู้ชายคนหนึ่ง คนที่เคยเป็นน้องสาวที่น่ารัก คนที่เคยเป็นพี่สาวแสนดี คนที่เคยเป็นลูกสาวที่เป็นดวงใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่ จากวันนี้ไม่มีคนนั้นอีกแล้ว ผมเองยังจำเสียงอุทานอันเป็นเอกลักษณ์ที่สดใส มันเหมือนกัับว่าเพิ่งคุยกันเมื่อวานอยู่เลย.. ขอแสดงความเสียใจกับผู้ใกล้ชิดที่สูญเสียทุกท่านจริงๆ อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า โลกใบนี้ได้สูญเสียคนที่น่ารักและนิสัยดีไปอีกคนหนึ่งแล้ว..


ยังไม่จบ...
น้องเค้า ยังมียายอยู่อีกหนึ่งท่านหนึ่ง ยายผู้ซึ่งรักและเอ็นดูหลานมากๆ และแน่นอนว่าหลานก็รักยายคนนี้เช่นกัน
ครั้งหนึ่งเธอเคยเล่าให้ผมฟังว่า เธอฝันร้าย ฝันว่ายายของเธอได้จากไป.. เธอตกใจมากและตื่นขึ้นพร้อมกับน้ำตานองหน้า เธอบอกว่ารักคุณยายมากๆ และคงเสียใจมากๆ ถ้าหากท่านจะจากไป ถึงแม้ว่าเธอจะทำใจไว้บ้างแล้วก็เถอะ นั่นก็เพราะอายุของท่าน

แต่โลกก็พิสูจน์ให้เราได้เห็นอีกครั้งว่าไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้และแน่นอน
จนถึงวันนี้ คุณยายก็ยังไม่รู้ ว่าหลานรักได้จากไปยังที่อันแสนไกลเสียแล้ว
ทางครอบครัว ก็คงคิดจะปิดเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ผมถึงได้หายสงสัยว่าทำไมถึงได้จัดงานทำบุญให้ไกลจากที่บ้าน ซึ่งผมก็เห็นด้วย.. ถ้าหากคุณยายรู้ ท่านอายุมากแล้วและคงจะรับไม่ไหว..
คงจะดีกว่า ที่จะให้ท่านเข้าใจว่าหลานยุ่งกับการทำงานจนไม่ได้กลับบ้าน และก็น่าจะดีกว่าที่จะให้ตุณยายเข้าใจว่าน้องเค้าบังเอิญโทรมาหาตอนที่คุณยายกำลังหลับ...


สำหรับตัวผมเองหลังจากรู้ข่าว ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะไม่มีสัญญาณอะไรก่อนหน้านี้เลย ยกเว้นเรื่องอาการป่วยของน้อง ที่กำเริบเป็นครั้งคราวเมื่อหลายปีก่อน
และเมื่อวันก่อน ไปเปิดเจอรูปเก่าๆ ทั้งๆที่คนในรูป.. ดูช่างเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่น ชวนให้คนที่เปิดเห็นจะต้องอมยิ้ม ซึ่งก็ควรจะเป็นแบบนั้นถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ แต่จากวันนี้เป็นต้นไป มันเหมือนกับว่า ยิ่งดูเธอร่าเริงหรือสดใสมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งชวนให้รู้สึกเศร้าไปมากเท่านั้น

เมื่อวานก็เลยส่งหลังไมค์ (น้องเค้ามี login รุ่นเก่าและเล่นห้องนี้เป็นครั้งคราว ที่รู้เพราะเคยเจอกันโดยบังเอิญ) ถึงแม้จะรู้ว่าข้อความที่ส่งไป คงจะไม่มี reply ใดๆกลับมา แต่อย่างน้อยก็ขอให้ได้กล่าวคำลาซักครั้ง แม้ว่าผู้รับ จะไม่มีวันได้เข้ามาอ่านก็ตาม...

.......................................................


แน่นอนว่าเรื่องราวข้างต้น ไม่ใช่เรื่องราวของครอบครัวเพียงครอบครัวเดียว ที่ได้ทนกับความเศร้าโศกเสียใจอย่างที่สุดที่คนอันเป็นที่รักได้จากไป แน่นอนว่าในโลกใบนี้ คนที่เจอเรื่องแย่ๆก็ยังคงมีอยู่อย่างมากมาย เพียงแต่เราไม่ได้มีโอกาสไปพบประสบการณ์แบบพวกเขาเหล่านั่น

ขอให้ทุกคนที่ทนทุกข์ทรมานกับการอกหักหรือถูกทอดทิ้ง พึงระลึกไว้เสมอว่า คุณ.. เพียงแค่สูญเสียคนที่ไม่ได้รักคุณไป ไม่ได้มีความหมายอื่นพิเศษแต่อย่างใด

ถ้าลองนึกๆดู นี่อาจจะเป็นโอกาสอันดี ที่คุณจะได้มีเวลาใกล้ชิดกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทมากขึ้น บางทีความสุขและความรักที่ยั่งยืนมันอาจจะหาง่ายและอยู่ใกล้ตัวเกินกว่าที่คุณจะคาดถึงก็ได้

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 53 00:33:06

แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 53 00:29:16

จากคุณ : UnExpected
เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 53 16:55:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com