Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
การกระทำแบบนี้แสดงว่าฝ่ายหญิงเค้ายอมรับผมแล้วใช่ไหมครับ ติดต่อทีมงาน

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมมีเรื่องที่อยากจะขอคำปรึกษาจากทุกคนในเรื่องความรักครับ รบกวนทุกท่านด้วยนะครับ เพื่อให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ผมทำและเป็นอยู่นี้มันจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน ใครอ่านจบขอให้สมหวังในความรักทุกคนครับ 

เริ่มเลยนะครับ

เป็นเรื่องจริงของผมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ย้อนเวลาไปเมื่อ 6 ปีที่แล้วผมเป็นเพื่อนกับเธอคนนี้มาตั้งแต่สมัยเรียน ปวช.2  ได้รู้จักได้เห็นหน้ากันครั้งแรกผมรู้สึกปิ๊งเธอขึ้นมาในทันที หลังจากรู้จักเธอในวันแรกผมก็ยังไมได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เป็นแค่เพียงเพื่อนที่รู้จักกันธรรมดาคนนึงเท่านั้นเอง เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนอยู่ชั้น ปวช.3 ผมกับเธอได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันมากมาย ทั้งงานโรงเรียน รายงาน หรือเวลาจะไปเที่ยวไปสังสรรค์ ไปกินข้าว ช่วงเวลานี้ผมกับเธอเริ่มที่จะสนิทกันมากขึ้นมีแซวเล่นบ้างอะไรบ้างแล้ว จนเป็นเพื่อนที่เริ่มจะสนิทกันแล้วครับ พอเราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นผมก็พอจะรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของเธอบ้าง ซึ่ง 1 เรื่องที่ผมได้รู้ก็คือ "เธอมีแฟนแล้ว" ตอนนี้ผมเองก็รู้สึกชอบเธอคนนี้มากขึ้นแต่เมื่อรู้อย่างนี้แล้วผมก็เลยไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกไปนอกจากความเป็นห่วงเป็นใยที่ดีที่เพื่อนคนนึงจะให้ได้ ผมเคยมองตาเธอผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกดี ๆ ที่เธอมีให้กับผมนะครับ แต่ผมแอบเสียใจครับหลังจากนั้นต่อมาเป็นช่วงที่ผมและเธอเรียนจบพอดีซึ่งเป็นเวลาที่เราทั้งคู่จะต้องเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ช่วงเวลานี้ผมไม่ได้เจอเธอไม่ได้คุยกับเธอเลยไปร่วม ๆ 1 ปี เพราะว่าเรียนคนละมหาวิทยาลัยกัน ตอนช่วง 1 ปีที่ผมไมได้คุยกับเธอเลยผมไปมีแฟนใหม่ครับ แหม๋วัยรุ่นที่ไหนหละจะอดใจจากสาวสวยในมหาลัยได้ หลังจากนั้นไม่นานตอนผมเรียนปี 2 เธอคนที่ผมชอบก็กลับมา เธอโทรศัพท์มาหาผมครับขนาดผมเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วนะเธอก็ยังไปหาเบอร์ผมมาจนได้  เธอโทรมาถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่าผมอยู่สบายดีไหม ผมรู้สึก งง และตั้งตัวไม่ถูกครับ ด้วยความที่ผมยังชอบเธอผมก็เลยคุยกับเธอต่อตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ผมโทรหาเธอและเธอก็โทรหาผม นัดกันไปเที่ยวไปดูหนัง ไปกินข้าวไปเที่ยวกลางคืนบ้าง ในเวลานี้ผมกับเธอเริ่มสนิทกันมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว ผมรู้สึได้จากการกระทำ ในใจผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เธอแค่เหงา หรือว่า เธอทะเลาะกับแฟน รึป่าว แต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเธอไปเพราะผมอยากจะมอบความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธอมากกว่าไม่อยากถามในเรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจนัก

จากปี 2 ไปจนถึงปี 4 ผมกับแฟนที่คบอยู่เริ่มระหองระแหงกันไม่เข้าใจกันจนทำให้ความสัมพันธ์เริ่มจะแปลเปลี่ยน เช่นกัน แฟนของเธอคนที่ผมชอบ เค้าก็เริ่มจะเป็นแบบผมเหมือนกัน เหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างแต่ผมก็ไม่อยากไปเร่งเร้าอะไรมากกลัวผิดพลาด ช่วงเวลานี้ผมกับเธอเริ่มจะมีความคิดถึง ความห่วงใย และการแสดงออกบางอย่างที่ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันมากกว่าเพื่อนกันแล้วมั้งมีกอดแขนจับมือกันบ้างเป็นบางเวลา แต่ว่าเธอก็ยังยืนยันว่าเธอยังคงเป็นแค่เพื่อนสำหรับผม ผมก็เออเพื่อนก็เพื่อน แต่ในใจผมตอนนี้รักเธอคนนี้เข้าไปเต็มเปาแล้วหละ ตอนปี 4 นี่เป็นอะไรที่เธอจะขาดผมไม่ได้ถ้าผมหายหน้าเกินเดือนเมื่อไหร่เธอจะโทรมาทันที ช่วงปี 4 ผมเองต้องทำโปรเจ็คจบครับเลยไม่ค่อยมีเวลาต้องทุ่มเทกับการเรียน

ตอนปี 4 เทอม 2 อีก 3 เดือนจะเรียนจบตอนนี้ผมฝึกงานอยู่จึงพอจะมีเวลาโทรไปหาเธอบ้าง ก็แหม๋ว่าง ๆ ทีไรก็อดคิดถึงไม่ได้ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เธอก็เรียนจบแล้วเธอจบเร็วกว่าผมไปครึ่งเทอม เธอทำงานแล้ว ช่วงนี้หละครับไม่รู้เป็นอะไรเธอกับผมได้คุยกันทุกวันต่างคนต่างคนโทรหากันทุกวันผมเองก็ดีใจนะที่คนที่ผมรักโทรหาด้วย ถึงเค้าจะบอกเราว่าเป็นแค่เพื่อนก็เถอะ ผมเป็นเด็กฝึกงานเธอก็ทำงานเราทั้งคู่ก็เริ่มมีรายได้กันแล้ววันหยุดว่าง ๆ ผมจึงนัดเธอไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ไปไหว้พระบ้าง เธออยากไปไหนผมก็เป็นพ่อบุญทุ่มพาเธอไปหมดทุกที่ที่เธออยากไป อยากได้อะไรก็ซื้อให้ทุกสิ่งอย่าง บางครั้งเธอก็โทรมาชวนผมเอง ชวนผมไปบ้านคุณพ่อของเธอบ้าง ชวนผมไปบ้านของญาติ ๆ เธอบ้าง ผมเองรู้สึกดีใจมากครับที่เธอให้ผมได้พบเจอกับคนในครอบครัว  ในใจผมตอนนี้คิดว่าเธอเป็นแฟนผมไปซะแล้วแต่ถามเธอทีไรก็บอกว่าแค่เพื่อนกัน เฮ้อ...ผมหละท้อใจ

เวลาก็ล่วงเลยมาจนถึงวันที่เธอและผมรับปริญญากันเรียบร้อยถือเป็นการเรียนจบเต็มตัวกันแล้ว ผมได้ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอก็เช่นกัน ผมทำหลักสี่ เธอทำบางแค ระยะทางช่างห่างไกลกันเหลือเกิน แต่ไม่เลยครับความห่างไกลที่ผมมีกลับส่งผลดีให้กับความรักของผมซะงั้น ตอนนี้ผมกับเธอทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันเลยครับถ้าคนทั่วไปเห็นผมกับเธอก็คงจะคิดว่าเป็นแฟนกันนั่นแหละ วันหยุดก็พาไป Shopping พาไปดูหนัง พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว พาไปตลาดน้ำยอดฮิตรอบกรุงเทพ  และช่วงนี้เองที่คำพูดของผมและเธอเริ่มเปลี่ยนไป ด้วยการใช้คำว่า "ตัวเอง.ที่รัก,บลา ๆ" แทนการเรียกชื่อปกติ เอาหละซิมีลุ้น ขอบอกว่าเธอคนนี้ผมรักจริงหวังแต่งเลยทีเดียว แต่เจ้ากรรมเธอยังไม่เลิกกับแฟนเธอเลย แต่เธอก็ไม่ค่อยคุยกับแฟนของเธอด้วยเรื่องของเวลาและคุยกันไม่รู้เรื่องทะเลาะกันก็มี ผมก็ถาม ๆ เธอตลอดเลยนะ ขอบอกก่อนว่าเธอกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันนะ

แต่แล้ววันนึงเธอมาบอกกับผมว่า "ตัวเองเค้าอยากลืมไอ.....ตัวเองช่วยเค้าหน่อยซิให้เค้าลืมไอ....ที" ผมเองก็ด้วยความไม่อยากเห็นเธอเสียใจแถมเป็นพ่อพระ เลยบอกเธอไปว่า "ใจเย็น ๆ มีอะไรก็ค่อย ๆ คุยกันดี ๆ นะ เค้าจะอยู่ข้าง ๆ ตัวเองไม่ต้องห่วงตัวเองยังมีเค้าอยู่ทั้งคน ถ้าอยากลืมจริง ๆ เค้าจะช่วยตัวเองนะ"

หลังจากผมพูดจบแล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่า "เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้นะไม่น่าเจอไอ...เลย เค้าชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองทำให้เค้ามากเลย เค้าปลื้มตัวเองอะ เค้าชอบตัวเองแล้วก็.....รักตัวเองนะ!!!"
โอ้แม่เจ้า พอผมได้ยินประโยคนี้แหละ ใจลอยไปไกลเลยทีเดียวไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำมาตลอดเวลา 6 ปี เกือบ 7 ปีเนี่ยผมจะได้ยินคำนี้จากปากเธอ จากที่ผมรู้สึกรักอยู่แล้วผมเลยรู้สึกอยากจะมีครอบครัวกับเธอเลยทีเดียว

ผมก็เลยพูดแบบเขิน ๆ กลับไปหาเธอว่า "จริงดิ...ที่จริงแล้ว เราก็น่าจะเป็นแฟนกันเนอะ ว่าไหม  เค้าก็ชอบแล้วก็รักตัวเองอยู่เหมือนกันนะ"

ทันใดนั้นเธอก็พูดกลับมาว่า "เราก็เรียนจบกันแล้วนี่เนอะ ถ้าเป็นแฟนกันก็มาขอแล้วก็แต่งไปอยู่ด้วยกันเลยก็ได้เนอะ หรือจะต้องให้เค้ารอนาน"

ผม "บ้าหรอ...ขอแล้วใครจะให้รอ ขอแล้วก็แต่งเลยซิ แต่ต้องรอเค้าบวชให้พ่อแม่ก่อนนะ แล้วค่อยไปขอ"

เธอ " แอบขำนิด ๆ แล้วก็บอกว่า  แหวะ....ไปขอเพื่อนชื่อ....ก่อนซิ(เป็นเพื่อนสนิทของเธอครับ)



นั่นแหละครับเมื่อบทสนทนานี้จบลง วันรุ่นขึ้น เธอได้พาผมไปเยี่ยมแม่เธอที่บ้านของแม่เธอเลยครับ ผมได้ทำความรู้จักกับแม่ของเธอเวลานี้ผมรู้จักคนในครอบครัวของเธอครบทุกคนแล้ว ผมได้พาแม่ของเธอไปเที่ยวด้วยนะดูท่าทาง
แม่เค้าชอบผมเอามาก ๆ เลย แม่บอกกับผมว่าแม่อยากให้ผมพาแม่ไปเที่ยวอีกบ่อย ๆ หลังจากผมพาแม่เธอไปเที่ยวด้วยกัน 2 ครั้ง เธอก็บอกกับผมว่า 
เธอ : "ตัวเอง ดูแลแม่เค้าดีมากเลยนะดูแม่เค้ามีความสุข เค้าประทับใจตัวเองจัง"
ผม :  "แล้วรักไหมหละให้ขนาดนี้หนะ"
เธอ : "ไอบ้า(พร้อมแอบยิ้มเขินและหันมาดึงหูผม)"

ช่วงเวลานี้เรียกได้ว่าผมเองรู้สึกเหมือนความฝันของผมเริ่มจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว  จากเมื่อก่อนเป็นเพื่อนกันธรรมดา แต่ตอนนี้สามารถเรียกคำว่า "ตัวเอง" ทั้งยัง กอดได้ โอบได้ จับมือได้ ใกล้ชิดได้ 
แต่ทั้งหมดทั้งปวงที่เล่ามา เธอกับแฟนก็ยังไม่เลิกกันอย่างเป็นทางการเสียที แต่เธอไม่ค่อยได้เจอกับแฟนของเธอเท่าไหร่นัก 

นี่แหละที่ทำให้ผมไม่รู้จะทำยังไงดี  ก็เลยจะถามทุกคนว่า ท่าทีของผู้หญิงแบบนี้เค้ารักผมจริงหรือไม่เค้ายอมรับผมจริงหรือไม่  หรือว่า เค้าหลอกผมอยู่กับผมไปวัน ๆ เพื่อหวังประโยชน์บางอย่าง  หรือว่าเค้าอยากให้ผมเป็นแค่กิ๊กกันแน่  หรือเค้าติดปัญหาอะไรหรือป่าวที่ทำให้เลิกกับแฟนเค้าไมได้ ซึ่งผมไม่สามารถหาคำตอบได้เองจริง ๆ ผมพยายามหามา 6-7 ปีแล้วครับ ท่านผู้มีประสบการณ์ผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนผม ช่วยชี้แนะทีครับว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี  ผมกลัวว่าสุดท้ายแล้วความฝันที่ผมจะได้แต่งงานกับเธอมันจะเป็นเพียงแค่ความฝันตลอดไป  ขอบพระคุณทุกท่านไว้ล่วงหน้านะครับ

***มีข้อความใดอ่านไม่เข้าใจหรือพิมพ์ผิดไปบ้างต้องขออภัยนะครับ อยู่เว็บ Pantip มาเกือบ 10 ปี เพิ่งตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 3 เองครับ 

จากคุณ : P O C K E D U P
เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 53 15:50:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com