ความคิดเห็นที่ 1 1.สมาธิ 2.สภาพร่างกาย *หนังเกาหลี อย่าไปเชื่อมากครับ คนเราถ้ามีสมาธิที่จะอ่านจริง ตั้งใจจริง มันก็จำได้เอง ยิ่งเรามัวไปโยกตัว สมาธิเราก็ยิ่งเสีย เพราะเราจดจ่ออยู่แต่กับการโยกตัว จากที่น้องบอกว่านอนดึก พี่ว่า เอาเวลาช่วงกลางคืนนั้น มาอ่านทบทวนเนื้อหาวิชาจะดีกว่า เพราะช่วงกลางดึก มันจะเงียบ ทำให้เรารวบรวมสมาธิได้ง่าย แต่อย่าเปิดเพลง หรือโทรทัศน์ ฯลฯ อะไรที่ดึงดูดความสนใจนะ มันจะทำให้เสียสมาธิได้ ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะร่างกายจะได้พร้อมที่จะจดจำ สมัยพี่เรียน พี่นั่งอ่านหนังสือ ทำข้อสอบเก่า ช่วง เที่ยงคืน - ตี4 เพราะเป็นเวลาที่เงียบ และไม่มีใครมาทำให้เสียสมาธิ แล้วก็นอนยาวยันเที่ยงเลย ถือว่าให้ร่างกายพักผ่อนเพียงพอ ถ้าระหว่างที่อ่านหนังสือ แล้วรู้สึกว่าไม่ไหว สมาธิไม่มี ให้หยุดพัก พักผ่อนสักนิด(แต่เข้มงวดกับตัวเองนะ ว่าพักแค่พอหายเครียด)แล้วกลับมาอ่านใหม่ อย่าฝืนอ่านไปทั้งๆที่ไม่มีสมาธิ เพราะนอกจากไม่รู้เรื่องแล้ว ยังเสียสุขภาพด้วย จากคุณ : Gaea เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 17:25:51

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับผมน่ะครับที่ตอนนี้ทำอยู่ ได้ผลมากๆด้วยครับ ^^ เวลาอ่าน ไม่อยากให้อ่านแค่อย่างเดียวครับ แนะนำว่าให้อ่านไป จดไปด้วย   มันจะจำได้มากกว่าอ่านแค่อย่างเดียวครับ เพราะผมเป็นคนจำแบบอ่านไม่เก่ง แต่ถ้าได้เขียนๆ จะจำเข้าสมองได้มากกว่า เพราะสายวิชาผมเนื้อหา 80 % เน้นคำนวณอยู่แล้ว เลยชอบอ่าน + เขียนไปด้วยครับ เปลี่ยนตนเองอย่าให้นอนดึกครับ พยายามนอนให้เร็ว หนังสือแนะนำว่าให้อ่านตอนเช้า และช่วงๆบ่ายครับ เพราะกลางคืนเราจะสรุปเนื้อหาที่เราอ่านทั้งหมดและสอบในเช้ารุ่งขึ้นครับ จดไว้ในสมุดโน๊ต และ ใส่โพสอิทสีๆ ดีครับ เพราะผมเวลาไม่เข้าใจ ก็จดๆ แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือเมื่อเรียนวิชาเสร็จ ถ้าไม่เข้าใจ ก็ถามอาจารย์หรือพื่อนๆในห้องทันทีครับ เพราะจะได้เข้าใจ  อย่านำความสงสัยไปไว้ใกล้ๆเมื่อสอบปลายภาคครับ  เพราะฉะนั้นมันจะอ่านหนังสือไม่ทันอย่างแน่นอนครับ หลายคนบอกซุปไก่กินแล้วความจำดี ของผม กล้วย เนื้อ นม ไข่ แค่นี้ก็ไม่เหนื่อยล้าในการอ่านหนังสือแล้วครับ ถ้ารู้สึกว่าเหนื่อย แนะนำให้อาบน้ำ เสร็จก็หากิจกรรมผ่อนคลาย ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ แล้วกลับมาอ่านต่อ อันนี้ช่วยได้เยอะครับ อันนี้สูตรของผมน่ะครับ รอท่านผู้อื่นมาแนะนำอีกทีน่ะครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 18:27:15 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 17:51:53 แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 54 17:43:53 จากคุณ : OasisFX เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 17:30:17

ความคิดเห็นที่ 3 แนะนำเพิ่มเติม ให้เปิดเพลงเบาๆ สบายๆ คลอไปขณะอ่านหนังสือ จากคุณ : น้ำตาจากสวรรค์ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 17:38:53

ความคิดเห็นที่ 4 อืม... จากที่เราเคยทำนะ ถ้าท่องศัพท์อ่ะ สมมต วันนี้อ่าน 10 คำ ก็อ่าน 10 ให้จำได้ พรุ่งนี้เริ่มอ่านตั้งแต่แรก แล้วก็ทำอีก 10 วันต่อไปทวนเอาเก่า เพิ่ม อีก 10 ของแบบนี้ใช้เวลา แต่ถ้าเรียนชีวะ ก็พยายามนึกภาพตามไปให้เป็นภาพเคลื่อนไหว ไปทีละสเต็ปๆ แล้วที่สำคัญที่สุดเลย คือสร้างเทคนิคการจำให้ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของเรา พยายามเรียนไปแบบเป็นเหตุและผล มันจะพ่วงกันมา อันนี้รับรองว่าได้ผลจริง แต่ถ้าขี้เกียจก็จบ จากคุณ : Nokkungy เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 17:49:38

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านให้เข้าใจค่ะ คืออ่านแล้วก็พยายามทำความเข้าใจให้เป้นภาษาของตัวเองอีกที ถือเป็นภาษาไทยก็เหมือน แปลไทยเป็นไทยอ่ะค่ะ ทำความเข้าใจดีกว่าท่องจำแบบไม่เข้าใจนะคะ เวลาเอาไปสอบ อาจจะไม่เป๊ะๆๆ ตามตัวอักษรในหนังสือ แต่อย่างนี้เราก็สามารถบรรยายหรือนำออกมาใช้ในแบบของตัวเองได้ค่ะ ถ้าเราเข้าใจ จากคุณ : Synsonia เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 18:03:38

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับเรา อ่านหนังสือเงียบๆไม่ได้ค่ะ ต้องเปิดเพลงไปด้วย  เช่นอ่านในห้องสมุดเนี่ยไม่ได้เลยค่ะ และเวลาที่เหมาะสมกะเราคือ ช่วงกลางคืนค่ะ 2 ทุ่ม - ตี 5  มีสมาธิที่สุด ลองค้นหาตัวเองให้เจอค่ะ แต่ละคนไม่เหมือนกัน จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 18:50:55

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วนเรา อ่านทีละเรื่อง หรือทีละบท ก็ได้ ตอนอ่าน ก็อ่าน ๆ ไม่เน้นไว แต่ตอนอ่านจะสร้างเรื่องในจินตนาการไปพร้อม ๆ กัน จนจบบท หรือ เรื่องนั้น ๆ หลังจากจบบท หรือเรื่องนั้น ๆ แล้ว เราจะนั่งเขียนสรุป เป็นคำพูดของตัวเอง โดยปราศจากหนังสือ หรือสมุดเล่มนั้น เขียนไปจนจบ เป็นสเตป ๆ ไปเรื่อย ๆ ครับ ทำแบบนี้กับทุก ๆ บท ทุก ๆ เรื่องครับ พอใกล้สอบ ก็อ่านที่ตัวเองเขียนนั่นล่ะ  ภายในเวลาสั้น ๆ ครับ เรื่องแบบนี้ มันแล้วแต่ จริต ของแต่ละคนครับ บางคนชอบเสียงดัง ฟังเพลง บางคนเงียบ ๆ บางคนต้องอ่านก่อนนอน บางคนต้องนอนก่อนอ่าน ฯลฯ จากคุณ : ตีหนึ่งวันที่เจ็ดตุลา เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 19:27:10

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านแล้วคิดทบทวนครับ   คือพออ่านเสร็จแล้ว เวลาทำอย่างอื่นให้ทบทวนที่อ่านโดยการคิด ถ้าตรงในจำไม่ได้ ค่อยเปิดย้อนดู  ทวนด้วยการคิดบ่อยๆ จะจำได้ดีครับ เรื่องเวลาอ่าน ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นตอนเช้าครับ แล้วแต่ความถนัดแต่ละคนเลย จากคุณ : ฟ้าสาง...ที่บางโพ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 19:31:09

ความคิดเห็นที่ 9 สำหรับผม เป็นที่เลื่องลือกันว่า  เวลาเรียนไม่เคยรู้เรื่อง ไม่สนใจ ไม่อ่านหนังสือ อ่านก่อนสอบไม่เกิน 1 อาทิตย์ สอบไม่เคยตก (เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ) ข้อเสียของผมคือ  สอบเสร็จ ความรู้จะละลายหายไปทันที เหมือนไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย เรียนกฎหมายครับ หนังสือที่อ่าน พวกคำบรรยาย คำอธิบายตัวบท และ "ท่องจำ" หลักกฎหมาย เตรียมการอ่าน - ลดสิ่งรบกวนให้ได้มากที่สุด หาที่ที่เงียบที่สุด - ไม่อ่านในห้อง เพราะจะทำให้ง่วง - ดื่มน้ำให้มากที่สุดขณะที่อ่าน จะทำให้ไม่ค่อยหงุดหงิด - ขณะอ่านผมชอบกินแครกเกอร์เนยถั่วไปด้วย (ยี่ห้อ เมจิกอะไรสักอย่าง มีขายในเซเว่น) - อมลูกอมที่มีรสหวาน - อ่านในที่ที่มีคนอ่านอย่างเคร่งเครียดเยอะๆ จะได้บรรยากาศการอ่าน เช่น โซนอ่านหนังสือของห้องสมุด (มหาลัยผมมีห้องสมุดโซนนอก) - เลือกเวลาอ่านที่เหมาะกับเรา เราจะรู้เอง บางคนชอบอ่านตอนเช้า บางคนชอบอ่านตอนดึก  ผมชอบอ่านตอนดึก ตั้งแต่ห้าทุ่มถึงตีสามเหมาะที่สุด - นอนให้พอ กำหนดเวลานอนอย่างมีวินัย แปดชั่วโมงกำลังดี อย่าร้อนรนเร่งอ่านเพราะเห็นว่าใกล้สอบ ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น - นอกเวลาอ่านหนังสือ ให้ชิวๆ กับชีวิต เวลาพักเป็นพัก เล่นเป็นเล่น อย่าเครียด ขณะอ่าน - ค่อยๆ อ่าน ทีละประโยค ทีละวรรค คิดตาม นึกภาพตาม ถ้าเจอคำศัพท์แปลกๆ ให้นึกให้ออกว่ามันหมายถึงอะไร - อ่านจบย่อหน้าหนึ่ง ให้สรุปในใจคร่าวๆ ว่าหนังสือกล่าวถึงอะไร - อ่านจบหัวข้อหนึ่ง ให้นึกทบทวนว่าหัวข้อที่เราอ่านจบนั้น เกี่ยวกับเรื่องอะไร อยู่ในหมวดหมู่ใหนของหนังสือ อยู่ในหมวดหมู่ไหนของวิชานั้นๆ - อ่านช้าๆ อย่าเน้นปริมาณ  วิชาที่หนักที่สุดผมเคยอ่านได้ในอัตราชั่วโมงละสามหน้า - ถ้ารู้สึกว่าเหม่อลอย หรือเริ่มไม่เข้าใจ ให้หยุดอ่าน กระพริบตาสามครั้ง ตั้งสติ แล้วถามตัวเองว่ากำลังอ่านเกี่ยวกับอะไร หัวข้ออะไร หมวดหมู่ไหน แล้วเริ่มต้นอ่านทำความเข้าใจอีกครั้ง - ง่วงให้นอน อย่าฝืนอ่าน ไม่มีประโยชน์ อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง นอนแล้วไว้อ่านพรุ่งนี้ดีกว่า แถม (การสอบ) ตื่นก่อนสอบอย่างน้อยสามชั่วโมง ชั่วโมงแรก ทำตัวให้สดชื่น อาบน้ำแต่งตัว สร้างความมั่นใจ เดินทางไปสอบ ไม่อ่านหนังสือ ติดหนังสือเล่มเล็กๆ หรือสมุดโน้ต ที่โน้ตหัวข้อคร่าวๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ทำให้เราเครียด ชั่วโมงที่สอง ไปถึงที่สอบ ถ้าหิวก็กินข้าว ไม่หิวก็กินขนมปังหรืออะไรที่ทำให้พอรู้สึกว่าได้กิน อย่าให้หนักท้อง ถ้ากินกาแฟด้วยก็โด๊ปไปกระป๋องหนึ่ง จะทำให้ตื่นตัว ซื้อลูกอมหวานๆ ติดไปด้วยสองเม็ด ชั่วโมงที่สาม พบปะเพื่อนๆ หน้าห้องสอบ พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นแบบไม่เครียด ทำใจให้สบาย พยายามอย่าคุยเรื่องข้อสอบให้จริงจังนัก สมุดโน้ตหรือหนังสือเล่มเล็กจะช่วยได้เวลาที่เพื่อนพูดในสิ่งที่เราจำไม่ค่อยได้หรือไม่แม่น  การคุยกับเพื่อนหน้าห้องสอบนี้สำคัญเหมือนกัน ให้คุยกว้างๆ หลายๆ อย่างในขอบเขตที่จะสอบ แต่ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียด  อ้อ อีกอย่างสำคัญมาก  คุยกันเอาไว้เลย ว่าสอบเสร็จจะไปกินหมูกระทะหรือร้องคาราโอเกะที่ร้านไหน   ก่อนสอบสิบนาที เข้าห้องน้ำ ยิ้มให้กับตัวเอง หัวเราะหึๆ วันนี้สบายๆอยู่แล้ว พอกรรมการคุมสอบบอกให้เข้าห้องได้ ฉีกลูกอมสองเม็ดใส่ปากรวดเดียว แล้วเดินเข้าห้องสอบไปเลย ทั้งหมดนี้เขียนมาจากประสบการณ์ของผม ซึ่งที่ผ่านมาก็ค่อนข้างพอใจว่า มันเป็นวิธีเตรียมอ่านหนังสือและสอบที่ได้ผลในระดับหนึ่ง สำหรับการอ่านแบบเร่งรัด  แต่ยังไงก็ไม่สู้คนที่ตั้งใจเรียนในห้อง และอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอแน่นอนครับ จากคุณ : freelance_law เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 19:54:53

ความคิดเห็นที่ 10 สำหรับเรานะ อ่านแล้วย่อหัวข้อสำคัญๆไปด้วย ย่อด้วยตัวเอง ใช้ปากกาสี ปากกาไฮไลน์ หาข้อสอบเก่าๆมาทำ ลองทำแบบฝึกหัด นอนให้พอ อันนี้สำคัญมากเพราะตัวเองเป็นคนขี้เซาสุดๆ บางทีก็พูดแบบอธิบายให้ตัวเองฟังใส่ที่อัดเสียงแบบ mp3 ว่างๆก็มาเปิดฟัง ถ้าตรงไหนที่มันจำยากๆ ก็จะพยายามทำความเข้าใจ แต่เราไม่ใช่คนอ่านหนังสือสม่ำเสมอนะ ไม่เคยอ่ะที่จะมาอ่านเป็นเดือน เวลาอ่านจะเอาให้เข้าใจ และจำให้ได้เลยตอนนั้นๆ ส่วนตัวจะถนัดอ่าตอนกลางคืน-ดึก มันสงบและจำแม่น มากกว่ามาอ่านตอนเช้า แต่เพื่อนบอกอ่านตอนเช้าปลอดโปร่งกว่า อันนี้เราก็ไม่รู้อ่ะ กินอาหารเสริมไม่รู้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่เคยอ่านหนังสือของหนูดี อัจฉริยะสร้างได้ เลยลองกินfish oil + vit B ก็รู้สึกหัวเร็วขึ้นนะ และก่อนสอบก็จะดื่มเป๊ปทีน + แบรนด์ เอิ่ม.. คนอื่นอาจจะบอกไม่จำเป็นอุปทานมากกว่า แต่คืออาจจะเป็นความสบายใจมั้ง หุหุ ป.ล.พูดถึงซีรีย์แกล้งจุ๊บให้เรียกว่ารัก แล้วอยากดูอีก ชอบมากกก แต่เป็นเวอร์ชั่นไต้หวันนะ จากคุณ : Much the same เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:03:04

ความคิดเห็นที่ 11 - วิชาคำนวณ ต้องฝึกทำโจทย์เยอะๆ จับเวลาด้วย ห้ามอ่านเรื่อยเปื่อย - โจทย์แนวไหนเจอบ่อยๆ ออกข้อสอบแน่ๆ.. ต้องทำให้แม่น - ทำ shortnote ไว้ทบทวนก่อนสอบ 3 วัน - นั่งโต๊ะอ่านอย่างเดียว 1 ชม. โดยไม่กินขนม ไม่ดูทีวี ไม่ฟังเพลงไปด้วย ไม่ลุกเดินไปเดินมา - อ่านจบแล้ว หาโอกาสติวเป็นกลุ่มกับเพื่อน เพื่อแลกเปลี่ยนเผื่อมีอะไรที่เราตกหล่น จากคุณ : โรโกะจัง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 21:39:31

ความคิดเห็นที่ 12 อ่านแล้วจับใจความ แล้วจดลงไปค่ะ ( มันเหมือนกับย่ออ่ะค่ะ แต่จะย่อได้ต่อเมื่อเราเข้าใจแล้ว ) พอเข้าใจแล้วก็จะจำได้ง่ายขึ้นมากๆ แล้วถ้าต้องท่องเนี่ย ของเราใช้วิธีจำเป็นภาพอ่ะค่ะ ยิ่งถ้าท่องจากที่จดเองเนี่ย ยิ่งง่ายเลย จะจำได้เลยว่า ที่จดไว้อยู่ซ้ายหรือขวา ^^ จากคุณ : *~Mookkie~* เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 54 22:25:13

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านให้ "เข้าใจ" ครับ เมื่อเข้าใจ มันก็ไม่ต้องจำให้รกสมอง เพราะสามารถคิดออกมาได้เอง จากคุณ : ผมรู้คุณก็ใช้ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 54 01:50:17

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านไปด้วย จดไปด้วยค่ะ สำหรับเรา แต่ละบทจะมีกระดาษเปล่าไม่มีเส้นแผ่นใหญ่แผ่นนึง แล้วสรุปไปเป็น Mind Map หัวข้อทั้งหมดจะถูกโยงให้แตกออกมาเป็นระเบียบ โดยใช้สีแบ่งความหมาย และความสำคัญอีกทีนึง เป็นวิธีทำให้เรา "เข้าใจ" และเห็นภาพรวมทั้งหมด  ง่ายแก่การจำด้วยค่ะ ลองเซิร์ท Mind Map ดูค่ะ อีกอย่างก็ Hilight ค่ะ สำหรับบางวิชา  เราจะทำmind mapแค่หัวข้อแล้วเนื้อหาไฮไลท์เอา แต่ละสีจะต่างก้ันค่ะ สีเหลือง คือ หัวข้อสำคัญ สีชมพู คือ รายละเอียด หรือ ความหมายของหัวข้อ ขีดเส้นใต้ด้วยปากกาสีเขียว คือรายละเอียดปลีกย่อย แต่เราเก็งว่ามันน่าจะออกได้ เช่นพวกค่าตัวเลข อีกอย่าง เวลาชอร์ทโน้ต  เราจะใช้ตัวย่อในบางคำค่ะ  อย่างคำว่าความ เราก็จะเขียน ค. ไปเลย โพสต์อิทเราแทบไม่ใช้นะคะ จะใช้คั่นเป็นบทหรือหน้าสำคัญๆมากกว่า แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวกับการท่อง แต่เป็นการแปะไว้เผื่อเวลาจะพลิกหาจะได้ง่ายๆ ลองค่อยๆ"สร้าง" วิธีเรียนของตัวเองขึ้นมาค่ะ จากคุณ : โยธิกาหน้าหนาว เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 01:13:48

ความคิดเห็นที่ 15 มาช้าไปหน่อย แต่คิดว่า จขกท. อาจจะยังอ่านอยู่ เขียนหน่อยละกัน ผมเป็นคนเกลียดการอ่านหนังสือสอบครับ (ชอบอ่านการ์ตูนกะนิยาย 555) เข้ามามหาลัยแล้วยังแก้นิสัยอ่านหนังสือก่อนสอบวันเดียวไม่ได้สักที ทุกวันนี้ยังทำอยู่ อาจจะแปลกใจว่าทำทันได้ยังไง อันนี้ขึ้นกับวิชาครับ บางวิชาก็สองสามวัน ไม่เกินนี้ ตอนแอดมิชชั่นพอดีว่าสอบตรง มันใช้วิชาไม่ต้องอ่านมาก เลยไม่ได้อ่านไรมากมาย แต่อ่านวันเดียวของผมนี่คือตั้งแต่บ่ายสามยันตีสามไรแบบนี้นะครับ พักแค่กินข้าวอาบน้ำ วิธีอ่านของผมนี่ก็แล้วแต่วิชาและข้อสอบครับ ถ้าเป็นข้อสอบเขียนก็ต้องอ่านจำมาเขียนให้ได้ ที่ต้องจำให้ได้คือหัวข้อหลักๆ ครับ ผมจะทำช็อตโน๊ตแบบสารบัญอ่ะครับ เอาแต่หัวข้อ พวกเนื้อหาบางทีก็วงเล็บยกตัวอย่างไว้บรรทัดสองบรรทัดพอ แล้วเอามาท่องก่อนนอน พอตอนเช้าก็ท่องอีก แบบว่า เรื่องแรกเรื่องนี้ มีหัวข้อย่อยนี้ๆๆๆ บางทีหัวข้อมันก็บอกอยู่แล้วว่ามันเกี่ยวกับอะไร เราอ่านมาแล้วเราก็ไปขยายความในใจเอาเอง วิธีนี้ทำให้เราทำข้อสอบข้อเขียนได้ เพราะเราจำคีย์เวิร์ดหัวข้อไปแล้ว จะได้คะแนนมากน้อย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราขยายความตามความเข้าใจเราได้มากแค่ไหน ซึ่งบางวิชาผมก็ใช้อ่านจบบทก่อนค่อยเขียนสรุปหัวข้อ บางวิชาก็เขียนไปอ่านไปถ้ามันงงจริงๆ ถ้าเป็นข้อสอบช้อยจะอ่านง่ายกว่า (ถ้าไม่ใช่วิชาคำนวณนะ) เพราะเราไม่ต้องนึกเองทุกอย่าง อันนี้ก็ทำช็อตโน๊ตเหมือนกัน แต่ไม่ต้องท่องหัวข้อ เอาไว้อ่านทวนก็พอ คือเอาไว้อ่านหัวข้อแล้วนึกให้ออกว่ามันคือเรื่องอะไร มีรายละเอียดอะไรที่น่าจะลืมมั้ย พยายามอ่านรายละเอียดที่คิดว่าสำคัญให้ผ่านๆ ตาไว้ บางทีมีช้อยมันจะกระตุ้นความจำเราได้ แต่ก็มีบางวิชาเหมือนกันที่เขียนช็อตโน๊ตไม่ไหว เพราะเขียนแล้วมันไม่ช็อต 555 ก็ใช้วิธีไฮไลต์ส่วนที่ต้องจำเอาก็ได้ครับ เวลาเปิดทวนจะได้มองไปที่ส่วนนั้นเลย ไม่ต้องอ่านน้ำ จากที่พูดๆ มาจะเห็นว่าผมจะใช้เวลาอ่านอย่างน้อยสุด 2 รอบในเวลาอันจำกัด รอบแรกเอาให้ผ่านตา ให้เรารู้รายละเอียดว่าหัวข้อนั้นนี้มันกล่าวถึงอะไร เกี่ยวข้องกันยังไง รอบสองอ่านเพื่อจำ รอบนี้ท่องครับ เรารู้แล้วว่าอะไรคืออะไร เหลือแต่ยังจำไม่ได้ก็ท่องซะ ถ้าเราทำโน๊ตแล้ว (ไม่ว่าจะทำรอบแรกหรือรอบสอง) มันก็จะลดภาระกับเวลาตอนท่องลงครับ พอนอนแล้วเราอาจจะลืมโน่นลืมนี่ ก็ใช้ที่เราช็อตโน๊ตหรือที่ไฮไลท์ไว้นี่แหละครับท่องก่อนสอบ มันจะใช้เวลาไม่มาก ไม่จำเป็นต้องจดทุกอย่างนะ เอาแค่หลักๆ ถ้าไม่เทพจริง หรือมีเวลาไม่เยอะ ตอนจดย่อก็พยายามใช้คำพูดตัวเองให้เข้าใจง่ายๆ ยิ่งสั้นเท่าไหร่เราก็ยิ่งจำง่าย อ้อ เวลาจำหัวข้อเราจำเป็นภาพ เป็นเลขชุดก็ดีนะครับ คือมีสามหัวข้อใหญ่ สี่ย่อย สามย่อยย่อย เวลาเราจำอะไรเป็นภาพจะจำง่ายกว่า เคยมั้ยครับที่จำได้ว่าที่อ่านน่ะอยู่ตรงไหนของหน้า แบบนั้นเลย เขาถึงได้มีการทำมายแมปปิ้งไงครับ ถ้ามีเวลาทำก็ทำได้ แต่ผมไม่เคยมีเวลาเลย เลยใช้วิธีทำแบบสารบัญ เวลาเราท่องเราก็มองรูปร่างตัวหนังสือ หัวข้อในหน้ากระดาษไปด้วยครับ ส่วนที่ให้จำเลขด้วย เพราะเราจะได้ไม่ลืมครับว่าหลงอะไรไปบ้าง สามสี่สาม คือหัวข้อแรกมีสามข้อย่อย สองมีสี่ สามมีสามไรแบบนี้ก็ได้ครับ แล้วเราก็ท่องไปว่ามีไรบ้าง ทั้งหมดข้างบนนี่อาจจะใช้กับวิชาคำนวณหนักๆ ไม่ได้ พวกนั้นมันต้องใช้ความเข้าใจมากกว่า จริงๆ แล้วต้องลองไปครับ อาศัยประสบการณ์หาให้เจอว่าตัวเองเหมาะกับการอ่านแบบไหน อย่างผมชอบอ่านคนเดียว เงียบสุดๆ เปิดคอมไปด้วย (เผื่อเบื่อ ก็มาเปิดโน่นนี่สักสิบห้านาที) ต้องอ่านตอนกลางคืนไปจนถึงดึกๆ เมื่อก่อนก็ไม่เคยจดย่อเลย พอมหาลัยมันเนื้อหาเยอะ แถมเป็นเขียนทั้งนั้น อ่านแบบผ่านๆ ไม่ได้ ต้องจำหัวข้อไปเขียนเลยต้องจดย่อไว้ท่อง ตอนนี้ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ แต่ก็พยายามแก้นิสัยให้อ่านเตรียมตัวเยอะๆ เหมือนกัน ผมเรียนบัญชีครับ ไม่ค่อยมีคำนวณ ก็จำมันแทบทั้งนั้น เนื้อหาก็ไม่ยากมาก ถึงจะอ่านแค่ก่อนวันสอบวันเดียวแต่เกรดผมก็สามนิดๆ อยู่นะ อ่านน้อยแต่อ่านดีๆ ก็คะแนนดีได้ อ่านเยอะไม่ได้หมายความว่าคะแนนต้องดี เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณอย่างเดียวครับ จากคุณ : เจเล่ไลท์ เขียนเมื่อ : 3 ก.พ. 54 19:52:40