ความคิดเห็นที่ 1 ผมเริ่มเที่ยวกลางคืนตั้งแต่อายุ 18 ไม่เที่ยวผับ RCA กำลังบูมก็ไม่ไปไม่ชอบ ออน.ไม่เข้ามันดูฟาสฟูสต์เกินไป ผมเลือกที่จะเที่ยวเลาจน์ครับ ชอบบรรยากาศที่นั่งไปคุยไปดื่มไปมันได้ฟิลดี ไม่รู้ว่ามีใครคิดเหมือนผมบ้างรึปล่าว เที่ยวแทบจะทุกวันมีเพื่อน พี่ น้อง ที่ทำงานกลางคืนมากมาย ทั้งระดับบริหารจนถึงพนักงาน จนมีช่วงนึงได้เข้าไปนั่งเล่นๆเป็นพนักงานในบาร์โฮสด้วยซ้ำ ทั้งหมดทั้งปวงเกิดจากการที่เราคาดหวังที่จะเปิด เลาจน์ เป็นของตัวเอง แล้วชะตาชีวิต หรือ วิบากกรรม ก็ไม่รู้ทำให้ได้ลงหุ้นกะเพื่อนอีก 3คน เปิด เลาจน์แถวเกษตร นวมินทร์ ในตอนนั้นอยู่ดูแลร้านเองด้วย ทั้งตอนกลางวัน และกลางคืน พนักงานหญิงในร้านมีร้อยกว่าชีวิต ยุคสมัยนั้นเฟื่องฟูมาก คลับโคโยตี้ในกทม.ถ้าไม่ตกหล่น ก็มี ฟอร์เต้ คลับทเวนตี้ และก็ ออบิท ...... ตอนสมัยที่ผมเที่ยวใหม่ๆรุ่นพี่ของผมได้กล่าวไว้ว่า " ผู้หญิงกลางคืนเหมือนถูกสาป " ในตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจความหมายของประโยคนั้นหรอก ครับ..................... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:32:12

ความคิดเห็นที่ 2 ผู้หญิงกลางคืนคนแรกในชีวิตผมที่คบกันจริง จังเป็น pr ที่เลาจน์แห่งนึง หมิว ทำให้ผมได้เห็นประสบการณ์มุมมองใหม่ๆที่ไม่เคยเห็น ตอนนั้นผมอายุ 18 หมิว รู้สึกจะ 22 อัพยา เซ็กส์หมู่ เซ็กส์ในที่สาธารณะ และเพื่อนๆเธอที่ทำงานกลางคืน(เพื่อนจริงๆคับบางคนทุกวันนี้เป็นมาม่าอยู่ก็ยังมีติดต่อกันบ้าง) ยอมรับว่าติดใจ ติดงอม และ ติดแจ แต่สิ่งที่หมิวยังคงเตือนอยู่เสมอคือ ผมจะไม่กลับบ้านจะอยู่กัยเธอยังไงก็ได้ แต่ต้องไปเรียนก่อนแล้วค่อยไปค้างกับเธอที่ห้อง ผมอยู่กับเธอมาปีกว่า ป๊ากะม้าผมจะเห็นหน้าทีก็ 2-3เดือนครั้ง เงินที่ได้ไปมหาลัยก็จากเธอ จนรุ่นพี่ผมเค้าได้เตือนผมอ้อมๆว่า " เฮ้ย เป็นไปได้อย่าไปค้างกะเค้า จะมีอะไรกันก็ไปที่อื่นบ้านกรูก็ได้ ระวังตัวด้วยมรึงยังเด็กกรูรู้ว่ามรึงยังหลงห้ามก็คงไม่ได้แต่ต้องระวังตัว เองอย่าให้ตัวเองเดือดร้อน" " พี่หมายความว่าไง" " เอางี้ในห้อง หมิว มีแปรงสีฟันกี่อัน รองเท้ากี่คู่ ชุดนอนผู้ชายล่ะมีมั้ย มรึงไปสังเกตดู" ผมเคยถามเธอมาทุกอย่าละ "ทำไมเธอมีแปรงหลายอันจังเอาไว้ล้างหวีเหรอ 5555" " บร้า....เค้าดัดฟันมาก็ต้องดูแลสุขภาพปากดีๆดิ" " ทำไมมีชุดนอนผู้ชายด้วยล่ะ" " ชุดใหม่เค้าซื้อให้ตะเองส่วนชุดเก่าเนี้ยของเค้าเค้าชอบใส่ชุดนอนแบบผู้ชาย" ทุกครั้งที่ผมถามอะไรเธอไปเธอจะตอบแบบให้ผมหายสงสัยทุกอย่างแล้วลงท้ายทำให้ผมลืมเรื่องที่สงสัยว่าว่ า " ตะเองเค้าอยากมีเซ็กส์............" จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:32:53

ความคิดเห็นที่ 3 อยู่มาวันนึงเธอให้ผมกลับไปอยู่บ้านโดยอ้างว่าผมใกล้สอบให้กลับไปอ่านหนังสือที่บ้านจะดีกว่า ผมก็อืมมม ก็ดีจะได้มีเวลาอ่านหนังสือด้วย แต่.........หลังจากที่กลับมาอยู่บ้านกลับติดต่อเธอไม่ได้อีกเลยร่วมอาทิตย์ เรื่องมันมาเฉลยจากปากของรุ่นน้องเธอ " นี่ๆๆ หมิวมันฝากขอโทษทุกอย่างที่มันทำไว้กะเธอ" " ทำไรไว้อ่ะเอ๋ " " ก็โกหกไง มันมีผัวอยู่แล้วพี่สันเค้าอยู่กะมันมาปีก่าไม่ทำงานไม่ทำการอะไรกลางวัน นอนกลางคืนเข้าบ่อนพอเวลาเธอมาค้ างมันจะให้พี่สันไปนอนห้องเพื่อน เธอไปเรียนพี่สันก็จะมาหาหมิวมัน เอ๋เคยบอกรุ่นพี่แล้วนี่รุ่นพี่เธอไม่เคยเตือนเลยเหรอ" " แต่ถึงหมิวมันจะโกหก แต่มันก็รักเธอมากนะ ที่มันให้เธอกลับไป เพราะมันจะเคลียร์กับพี่สัน แต่......." " มันถูกเค้าซ้อมอยู่โรงบาล " จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:33:21

ความคิดเห็นที่ 4 ที่โรงบาล " หมิวเป็นไงบ้าง เจ็บมั้ย" " ไม่เป็นไรมากหรอกถามเหมือนป๋าเปรมเลย คริ...คริ..." " ยังจะอารมณ์ดีอีก " ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อเธอเผยให้เห็นฟันเหล็กสีชมพู แต่เธอก็พูดทำลายความเงียบลง (หรือจะทำให้เงียบไปก่าเดิมก็ไม่รู้) " เราเลิกกันเถอะ....." " ทำไมอ่ะ หรือเธอเลือกเค้า " " ไม่เลือกใครทั้งนั้นทางนู้นก็ผูกพันทางนี้ก็รู้สึกดี เค้าขอเก็บความรู้สึกนี้ไว้ดีก่า เค้าจะไปหม่าเก๊า " " ไปทำไม " " ขายตัว " " ไปกะไอ้เอ๋ที่บ้านหมิวต้องใช้เงินไปทำงานเก็บเงินสัก2ปี" " รับเค้าได้มั้ย แล้ว รอเค้าได้มั้ยล่ะ" แล้วพวกคุณล่ะจะรับได้มั้ย และรอเค้าได้รึปล่าว จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:33:48

ความคิดเห็นที่ 5 ชีวิตของแต่ละคนก็มีแนวทางเป็นของตัวเองต่างคนต่างใจต่างเส้นทาง " ผู้หญิงกลางคืนเหมือนถูกสาป " คงเป็นเพราะวิบากกรรมที่ต้องเผชิญ ได้เงินมาเยอะได้เงินมาง่ายไม่รู้จักเก็บ ผู้ชายทางด้านขวาให้เงินมาก็ยื่นออกไปเลี้ยงผู้ชายทางด้านซ้ายกว่าจะคิดได้ อายุก็ล่วงโรย ไม่เป็นเมียน้อยเมียเก็บก็รอวันเค้าขับไสไล่ส่ง คนที่ยังรับพวกเค้าได้เสมอคือ " พ่อ กับ แม่ " จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:34:05

ความคิดเห็นที่ 6 ผ่านเรื่องราวระหว่างหมิวมาผมก็เรียนไปทำงานไปด้วยเพื่อที่จะตามฝันในการเปิด เล้าจน์ ของตัวเอง ด้วยการที่ยังไม่ทิ้งเส้นทางราตรีทำให้ต้องเผชิญกับผู้หญิงคนใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ที่คบกันจริงจังก็ คือ.....ส้ม ส้มเป็นเด็กสาวที่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพเลี้ยงดูตัวเองด้วยการเป็น โคโยตี้ อยู่สถานที่แห่งหนึ่ง(ก็หนึ่งในสามที่ที่กล่าวไว้ข้างต้นแหละ) ไม่สวยมาก ดูแล้วเฉยๆ สูงดีหุ่นโอเค แต่มีอะไรให้น่าค้นหา "เธอๆอายุเท่าไหร่อ่ะ" "เย้ยยยย เค้าไม่ให้ถามอายุผู้ชายนะว้อย เธอล่ะชื่อไร แล้วเกิดพ.ศ.อะไรล่ะแล้วเค้าจาบอกว่าใครพี่ใครน้อง" "ส้มเกิดปีงู" "2520" " คิดไวจังเป็นหมอดูป่าวเนี้ยถึงได้แปลเร็วจัง" "ก็....เกิดปีเดียวกันนี่ไม่เห็นต้องคิดไรเลย" "นั่งยังอ่ะเธอ ดื่มไรป่ะ" " ให้เค้านั่งด้วย ชะม่า เดี๋ยวเค้าเต้นก่อนนะค่อยมานั่งด้วย" " เฮ้ย!! ไอ้ ตี้ มรึงจะให้น้องเค้านั่งเหรอวะกรูว่าแมร่งพึ่งเข้ากรุงแหงๆ ยังมีกลิ่นดินอยู่เลย" เพื่อนผมมันทัก " ไม่ซีเรียสนี่หว่ามรึงก็รู้การตกปลามรึงเลือกปลาที่จะกินเหยื่อไม่ได้หรอกต้องรอให้ปลาติดเบ็ดก่อนไม่ถูกใ จค่อยปล่อยไป" ผมมันประเภทถูกใจใครไม่กล้าเข้าไปจีบก่อน ชอบแบบที่ว่าให้เค้าถูกใจเรา............ .........มันง่ายก่ากันเยอะ จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:34:27

ความคิดเห็นที่ 7 คำว่าง่ายคือง่ายต่อการเก็บข้อมูล เก็บข้อมูลอะไร ก็ให้เธอพาไปหาเพื่อนๆที่ทำงานกลางคืนด้วยกัน คาดหวังในการสร้างสัมพันธ์ เพื่อที่จะให้เธอไว้ใจไม่หวังเรื่องเซ็กส์ผมหวังเพียงแค่ ถ้าวันนึงผมเปิดร้าน น้องๆเพื่อนๆเหล่านี้คงพร้อมใจมาทำงานกะผมก็แค่นั้น รู้น่า คิดว่าผมจะหวังหลอก Fun อ่ะจิ คริ...คริ... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:34:45

ความคิดเห็นที่ 8 ส้มใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับงานไม่นาน อนาคตของเธอน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ถ้าเธอมีเหตุผลที่จะ "รัก" ยอมรับคับว่าเรามีอะไรกันผมแฟร์พอถ้าเธอจะมีคนอื่นหรือจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ เราคบกันแบบแฟน เพื่อน ที่ปรึกษา ในเวลาเดียวกัน "ตะเองส้มปรึกษาไรหน่อยจิ" "อืมมม ไรเหรอ" " เมื่อคืนเค้าไปห้วยขวาง เจอผู้ชายคนนึงมาขอเบอร์ หล่อมากกกกกก ขาว ตี๋ ผมยาว เค้าชวนส้มไปเที่ยวที่ทำงานเค้าด้วยล่ะ" " เป็น DJ. อยู่ไหนล่ะ" " ป่าวเป็นDJ. เค้าทำอยู่บาร์โฮส" เอาแล้วไงหาเรื่องคบผู้ชายบาร์โฮส จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:35:04

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่รู้ด้วยความบังเอิญ หรือ วิบากกรรม บาร์โฮสที่ผู้ชายคนนั้นทำอยู่ เพื่อนผมก็ทำอยู่ที่นั่น3-4คน (ไม่รู้เด๋วนี้ยังเปิดอยู่ป่าวที่ธนิยะ) ผมก็ตามสืบประวัติผู้ชายคนนั้นจากพวกเพื่อนผมสิ่งที่ผมรับรู้ได้คือ "ไอ้ต้น มันโคตรเชี่ยเลยนะมรึง เล่นยา เล่นบอล คบกะใครก็ดูดเค้าจนหมดตัวยิ่งกว่าปลิงยิ่งกว่าแมงดาอีก" "ตี้ กรูว่ามรึงเตือนไอ้ส้มมันแหอะ เชี่ยนี่แมร่งคารมดีหล่อกินเปล่า เด๋วส้มเกิดติดมันขึ้นมาจะรู้ว่านรกมีจริง" "ห่วงกรูก็ห่วงนะ แต่พวกมรึงจะให้กรูทำไงกรูแค่แฟนไม่ใช่ผัว ก็คงเตือนอ่ะแต่ถ้าส้มไม่ฟังก็คงยุ่งมากไม่ได้" ผมว่าผมเป็นคนใจเย็นนะแต่ครั้งนี้คือการทะเลาะกันครั้งแรกระหว่างผมกับส้มตั้งแต่คบกันมาครึ่งปี "เพื่อนเธอที่เล่าให้ฟังมันชื่ออะไรส้มก็ไปหาต้นที่ร้านบ่อยไม่เห็นมีหมาตัวไหนมาเห่ามาหอนให้ฟังเลย" "ฉันก็แค่เล่าให้ฟังด้วยความหวังดีส้มก็ฟังไว้ไม่เห็นเสียหาย เตือนให้ระวังไม่ได้เตือนให้ระแวงนี่นา" "พอเลยไม่ต้องพูดช่วงนี้เธอกะส้มห่างกันสักหน่อยก็ดี" "ก็แล้วแต่ ส้มจำคำของตี้ไว้นะ " "เรามาทำงานตรงนี้เพื่ออะไร เราจะขายความสาวได้อีกนานแค่ไหน อนาคตจะทำยังไง ผู้หญิงกลางคืนหากยังหลงระเริงกับปัจจุบันโดยไม่คิดถึงอนาคตเมื่อถึงจุดๆนึง จะกลับมาแก้ไขอดีตก็ไม่ได้แล้ วนะเวลามันผ่านไปทุกวัน เตือนด้วยความหวังดี มีอะไรก็ติดต่อมาละกัน" จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:35:25

ความคิดเห็นที่ 10 ชีวิตต้องดำเนินต่อไป............. เรียน หาเงิน เที่ยว ยังวนเวียนอยู่แบบนี้ทุกเมื่อเชื่อวันจนในที่สุดก็ไปพบน้องคนนึงที่มีชื่อเดียวกันกับผม น้องตี้ วันนั้นเพื่อนชวนไปแดนซ์ฟีเวอร์ที่ๆสมัยนั้นผู้หญิงกลางคืนเที่ยวเยอะ มาก(อีกที่ก็ฮอลีวูด)ผมไม่ชอบไป สถานที่แบบนี้เลยเสียมันดังเวอร์และเบื่อตอนเข้าห้องน้ำไม่รู้จะมายุ่งมา แย่งอะไรกันคนเค้าจะทำธุระส่วนตั วสับซะกางเกงเปียกหมด "ขอโทษนะคะพี่ใช่ลูกค้าประจำที่เที่ยวอยู่ร้าน***รึปล่าวคะ" "อ๋อ คับแล้วน้องรู้ได้ไงอ่ะ" "นู๋ชื่อ ตี้ค่ะพึ่งมาทำได้อาทิตย์ก่าๆเคยเห็นพี่อยู่3-4ครั้งแต่นู๋นั่งกะลูกค้าแล้ว" "เอ่อ มาอำอะไรกันป่าวเนี้ยพี่ก็ชื่อตี้เหมือนกัน" "ไม่ได้อำพูดจริง ต่อไปนี้เรียกพี่ตี้ กะน้องตี้ นะคะน่ารักดีออก" " พี่อยู่โต๊ะไหนอ่ะรวมโต๊ะกันเนอะ" "ไม่ดีมั้งมี ทีน มาคุมด้วยอะป่าว" "ไม่มีค่ะมากะเพื่อนอีก2คนลูกค้าซื้อดื่มมาให้ก็เลยมาเที่ยวกัน" "ก็ได้แต่รวมโต๊ะกันแล้วพี่จ่ายนะ โอเค๊" เหยื่อชิ้นที่หนึ่งเริ่มถูกปล่อยออกไป เพราะร้านนี้เรายังไม่มีปิ่นโตเลย อิอิ จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:35:43

ความคิดเห็นที่ 11 เท่าที่ดูน้องตี้เป็นคนสนุกสนานเมาแล้วหัวเราะปล่อยมุกอย่ากะพวกตลกหญิง............ก็น่ารักไปอีกแบบ หลังจากคืนนั้นเราก็คบหากันมาเรื่อยก็โอเคนะ เคยพาไปทานข้าวกับหม่าม้า ป่าป๊าเราด้วย ม้าเราก็ชอบบอกเด็กคนนี้มัน:-)ดี (ตกลงชมหรือด่าเนี้ย) ที่น่าเป็นห่วงคือน้องตี้เป็นคนสูบบุหรี่จัดมาก พอๆกับผมวันละ 2ซอง "ตี้เลิกบุหรี่เหอะเป็นกะ-หะ-รี่อย่างเดียวก็พอแล้วม้างงงง" "ง้านพี่ตี้ก็เลิกก่อนดิดูดบุหรี่อ่ะ ดูดมิกะ-หะ-รี่อย่างเดียวก็พอแล้วม้างงง" ดูเธอย้อน ไม่ใช่ว่าหยาบคายนะเราจะพูดเล่นแบบนี้กันเสมอๆ น้องตี้ทุกวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่สถานะภาพมันได้เปลี่ยนไปแล้วปัจจุบันเธอ อายุ30ลูก1สามีไม่รู้เพราะไม ่เคยเห็นน้องเค้าพูดถึงกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดใช้ชีวิตพอเพียง ซึ่งกว่าน้องเค้าจะเข้าใจในสิ่งที่ผมคอยเตือนคอยสอนก็เกือบจะสายไปเหมือนกัน แล้วผมจะสรุปชีวิตของน้องแต่ละคนไว้ตอนท้ายอีกทีนะคับว่าปัจจุบันใครมีวิถีชีวิตอย่างไรกันบ้าง จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:36:01

ความคิดเห็นที่ 12 ในที่สุดผมก็จบปริญญาจนได้เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน แล้วด้วยการที่ผมเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย (ผมทำพวกโทรศัพท์มือถือช่วงนั้นยังบินไปฮ่องกง สิงคโปร์หิ้วเครื่องนอกมาส่งมาบุญครองอยู่)ก็ทำให้ผมมารู้จักแฟน(ภรรยาคน ปัจจุบัน)ในตอนนั้นแฟนอยู่ชินวัต รเทเลวิชทำงานกลางวันแต่พอคบกันกับผมผมก็ดึงเธอมาช่วยงานผม กำลังจะเปิด เลาจน์คับในตอนนั้น แล้วด้วยการที่มีเพื่อนเป็นผู้หญิงกลางคืนเยอะสนิทมากบ้างน้อยบ้างก็ว่ากัน ไปตอนที่ร้านผมเปิดมีเด็กม าอยู่ร้านผมร่วมร้อยกว่าชีวิต วันแกรนด์โอแพนนิ่ง วันเดียวขายได้ถึง2ล้านก่าบาท เด็กในร้านTopๆรายได้ต่อเดือนทะลุแสน คุณเชื่อมั้ยผมไม่เคยยุ่งกะเด็กในร้านเลย พี่จ่าฟอร์เต้ ให้ข้อคิดไว้ว่า "การคุมเด็กเหล่านี้ถ้าจะยุ่งต้องยุ่งด้วยทุกคนแต่ถ้าไม่ยุ่งก็ไม่ยุ่งเลย ไม่งั้นเวลาเด็กทะเลาะกันมันจะมีคนพูดว่า กรูเมียหุ้นส่วน กรูเมียเจ้าของ" แฟนผมในตอนนั้นมาดูแลระบบบัญชีและสนิทกับเด็กในร้านด้วยหนึ่งในนั้นมีเด็ก ที่ชื่อรินอยู่คนนึงอายุเท่ ากันกับผมในตอนนั้นคือ23 สนิทกับผมและแฟนจนแทบที่จะเป็นพี่น้องกันจริงๆ จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:36:22

ความคิดเห็นที่ 13 ขอย้อนกลับไปนิดนึง คุณยังจำ ส้ม ได้มั้ย ใช่ละส้มที่ไปติดเด็กบาร์โฮสไง " ฮัลโหล ตี้เหรอนี่ส้มนะจำส้มได้มั้ย" "อือ ว่าไง สำบายดี ป่ะ" " ส้มอยากเจอเธอ.............ได้มั้ย" ชูววววสสสสส "เมื่อไหร่ล่ะ ตี้เปิดร้านแล้วนะตอนนี้มาหาตี้ที่ร้านก็ได้อยู่ตรงข้าม ก็อชช่าเกษตรนวมินทร์" "จ้า....คืนนี้ส้มไปหาที่ร้านนะ " เอาแล้วดิ รักเก่าในขวดใหม่รึป่าวเนี้ย.................... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:36:39

ความคิดเห็นที่ 14 พนักงานชายมาตามผมในร้าน ว่ามีคนมารออยู่ในห้องทำงานผม ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับส้ม ในสภาพที่โทรมลงไปมากจนจำแทบไม่ได้ เธอหันมาพร้อมกับกอดผมด้วยน้ำตา "ในที่สุดตี้ก็ตามฝันของตัวเองได้เนอะ" "ไม่ใช่เจ้าของคนเดียวหรอกหุ้นกะเพื่อนอีก3คนน่ะ แต่เค้าให้ตี้ดูแลร้านด้วยพวกเค้าไม่ค่อยมีเวลา ส้มเป็นไงบ้างทำไรอยู่แล้ว........" "ตี้...ส้มน่าจะเชื่อตี้แต่แรก ส้มอยากเลิกกะไอ้เชี่ยนั่น แต่มันไม่ยอมให้เลิกมันแอบตั้งกล้องไว้แบล็กเมล์ส้ม" "........." "มันติดผู้หญิงใหม่ เอาเงินส้มไปเลี้ยงอีนั่น เสียบอลก็มาไถเงินส้ม แมร่งพอส้มไม่มีมันก็ให้ส้มไปนอนกะพวกโต๊ะบอลขัดดอกบ้าง บังคับให้ส้มนอนกะคนอื่นจะได้เอาเงินมาให้มัน พอส้มไม่ยอมมันก็ซ้อม" "แล้วทำไมถึงยอมมันได้ตั้งนาน" "มันขู่จะเอาเทปไปให้คนที่บ้านส้มอ่ะตี้........ส้มไม่รู้จะทำไงแล้ว" "เอางี้ไอ้ต้นมันยังทำอยู่ที่เดิมรึป่าว เด๋วตี้เคลียร์ให้ละกัน" ผมเอาเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้ เสธ.อ. ที่เป็นหุ้นลมในร้านผมฟัง(ผมกับเพื่อนลงเงินได้หุ้น80%เสธ.อ.กับผู้การ ม.ได้เอี่ยวลม20%) รบกวนให้แกส่งลูกน้องไปเคลียร์ให้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ยินข่าวต้นถึงหูอีกเลย.................. จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:36:55

ความคิดเห็นที่ 15 "เรามาทำงานตรงนี้เพื่ออะไร เราจะขายความสาวได้อีกนานแค่ไหน อนาคตจะทำยังไง ผู้หญิงกลางคืนหากยังหลงระเริงกับปัจจุบันโดยไม่คิดถึงอนาคตเมื่อถึงจุดๆนึง จะกลับมาแก้ไขอดีตก็ไม่ได้แล้ ว เวลามันผ่านไปทุกวัน " ส้มบอกกับผมว่าเธอจำเเละเข้าใจประโยคข้างต้นที่ผมเคยเตือนเธอเมื่อวันนั้น เมื่อสภาพจิตใจเธอดีขึ้น ร่างกายเริ่มมีน้ำมีนวล ส้มก็มาทำงานอยู่กับผมเก็บเงินกลับไปเรียนต่อจนจบทุกวันนี้เป็นเจ้าของร้าน กาแฟน่ารักๆพร้อมบริการ internet อยู่แถวเชียงใหม่ ทุกวันนี้เรายังคุยกันอยู่ผมกับครอบครัวไปเที่ยวที่นั่นส้มก็ดูแลอย่างดี เธอและครอบครัวลงมาเที่ยวหาผมเราก็พาเที่ยวทุกที่ที่เธออยากไป ทุกวันนี้เราเป็นเพื่อนกันครับ............. จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:37:33

ความคิดเห็นที่ 16 คนเปิดร้านอย่างผมแทบจะไม่มีวันหยุดเอาซะเลย ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามตาย เด็กในร้านยังลงวันหยุดได้ ผมหยุดไม่ได้ ตื่น9โมงเช้า เข้าออฟฟิศกลางวัน ดูการตลาด ติดต่อริชมอนเด้(ยุคนั้นเค้าดูจอนนี่วอลล์เกิล)ติดต่ออีเวนท์ นู่น นี่ นั่น อีกจิปาถะ บ่าย3ต้องเข้าร้านประชุมพนักงานชายแล้วให้ ผจก.ร้านดูแลเด็กทำความสะอาด ดูครัว ถ้าเรียบร้อยแล้วก็กลับคอนโดอาบน้ำเเต่งตัว เข้าร้านทุ่มนึงประชุมมาม่า ประชุมเด็กแต่ละแผนก รอร้านเปิด ดูแลลูกค้า พอร้านปิดตี2ก็รอเคลียร์เงินกะแคชเชียร์ ผจก.ร้านกว่าจะเสร็จบางวันก็เกือบตี5 ใส่บาตรเสร็จค่อยเข้านอน เหนื่อยนะแต่มีความสุข เพราะเราได้อยู่กับงานที่เรารัก ฉะนั้นวันหยุดปีนึงที่ร้านหยุดมีแค่5วัน คือวันพระใหญ่3วัน กับ วันเฉลิมพระชนม์ของทั้งสองพระองค์ วันหยุดของผมผมจะมีความสุขมากแต่........ไม่เหมือนวันวิสาขบูชาปีนั้น ผมได้ไปเดินดูของที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว กะว่าจะหาอะไรกินกับแฟนเพราะเราไม่ค่อยได้มีโอกาสอยู่อย่างนี้กันนานละเพราะ กลางวันเค้าอยู่ออฟฟิศที่ร้าน กลางคืนอยู่ต่อเป็นเพื่อนผมบ้างคุยกะเด็กในร้านบ้างประมาณ4-5ทุ่มก็ค่อยกลับ ไปพักผ่อนเราเช่าคอนโดอยู่ด้ว ยกันใกล้ที่ร้านแค่ร้อยกว่าเมตรเอง "ตัวเองเค้าอยากดูหนังอ่ะ" "เหรอเรื่องอะไรดีล่ะ แล้วเธอไม่กลัวฉันหลับหรือไงพึ่งกินอิ่มๆด้วย" "แหม....มีความสุขกันจังนะ" มีเสียงนึงแทรกกลางระหว่างเราสองคน "อ้าว...เฮ้ย....เอ๋ แกกลับมาเมื่อไหร่อ่ะ" " นี่ก้อยแฟนพี่ ก้อยนี่เอ๋เพื่อนเก่าอ่ะ " "กลับมาเกือบ2ปีแล้ว" "ตี้แล้วนี่แกรู้เรื่องหมิวมันรึปล่าว" "หึ...ไม่ได้ข่าวเลย ไม่ได้กลับมาพร้อมกันเหรอ" "เออ.....ก้อยเด๋วขออนุญาตคุยกะ ตี้เค้าแป๊ปนึงนะ แป๊ปเดียว" แล้วเอ๋ก็ดึงมือผมออกห่างจากก้อยพอประมาณ "หมิวมันอยู่โรงบาลอ่ะตี้" "อ้าว...เป็นไรไปล่ะ" "หมิวมันเป็น........." " เอดส์ " จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:37:55

ความคิดเห็นที่ 17 ความรู้สึกดีๆที่ยังมีให้หมิวยังคงมีอยู่.............ในฐานะคนเคยรัก "เป็นไงบ้างอ่ะเค้าเอามาฝากทานของที่มีประโยชน์เยอะๆนะจะได้แข็งแรง" "เธอรู้ได้ไงว่าเค้า.........อยู่ที่นี่" "เมื่อตอนบ่ายเจอเอ๋เจ้าเอ๋มันเล่าให้ฟังหมดแล้ว" "ไม่ต้องพูดอะไรหรอกนะ" น้ำตาทั้งเธอและผมริ้นอยู่ที่เบ้าตาเราเงียบอยู่อย่างนั้นนานพอสมควรจนเธอเอ่ยทำลายความเงียบออกมา "ฟันเค้าสวยมั้ยเค้าเอาเหล็กดัดฟันออกแล้วนะ" เธอพูดพร้อมกับยิงฟันสวยให้ดู เธอยังเป็นคนที่ผมรู้จัก......เธอน่ารักและให้กำลังใจผมเสมอ......ผมพยายามที่จะยิ้มแต่น้ำตากลับยิ่ง ไหลออกมา..... ผมกลับไปคุยกับก้อยแฟนผมอธิบายเรื่องราวให้เธอเข้าใจ "เธอจะว่าอะไรมั้ยถ้าเค้าจะดูแลหมิวบ้างหมิวมันไม่มีใครแล้วคงอยู่ได้อีกไม่นาน" "ตะเองทำในสิ่งที่ควรทำเถอะเพราะถ้าเป็นเค้า เค้าก็คงทำเหมือนตะเอง" ทั้งผมและแฟนผมช่วยกันดูแลหมิวได้ไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ เธอก็หายไปโดยทิ้งไว้แค่จดหมายฉบับเดียวที่ผมยังคงเก็บไว้จนทุกวันนี้ "Darling.... ก่อนอื่นต้องขอโทษในสิ่งที่เคยทำไม่ดีไว้กับเธอ เรื่องสันไม่เคยคิดที่จะปิดบังเธอเลย ก็เพราะคิดว่าคงจะเคลีนร์ปัญหากับสันได้ไม่ยาก ถ้าถึงนาทีนี้หมิวจะบอกว่า "รัก" ตี้มาก ตี้จะเชื่อมั้ย ตลอดระยะเวลาที่ตี้กับก้อยดูแลหมิว หมิวอบอุ่นเป็นที่สุด ขอบคุณในทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้กัน ไม่ต้องตามหา เพราะเราจะอยู่ในใจของกันและกันตลอดไป...... ถึง ก้อย ก้อยเป็นคนดีที่เข้าใจตี้ รักเค้าและอยู่เคียงข้างเค้าตลอดไปนะ หมิว ... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:38:17

ความคิดเห็นที่ 18 ผมผ่านการใช้ชีวิตกลางคืนมาตั้งแต่ อายุ18จนทุกวันนี้32 14ปีแล้วสินะพบเจอพูดคุยสนิทสนมกับผู้หญิงกลางคืนมาไม่ต่ำกว่า300-400คน(เอา แบบที่สนิทน้อยถึงสนิทมากนะเด ินผ่านไม่นับ) อายุมากสุดที่ทุกวันนี้ยังคุยกันอยู่ก็38 น้อยสุดที่ตอนนี้คุยด้วยก็21 ผมเห็นพัฒนาการการใช้ชีวิตของผู้หญิงกลางคืนต่อคนประมาณ 10ปี 90กว่า%ทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองจะเป็นยังไงต่อไป ผมเคยถูกลูกน้องที่เป็นเด็กในร้านเม้าท์ ว่าผม "จู้จี้ ขีบ่น พูดอยู่นั่นแหละว่าห่วงถึงได้เตือน รู้แล้วน่าหนูดูแลตัวเองได้ หนูรู้น่าพี่ว่าหนูทำอะไรอยู่ " และอีกหลายอย่าสารพัดแล้วคุณเชื่อมั้ยว่าทุกวันนี้มีเด็กกี่คนที่มานั่งบ่น ว่า "รู้งี้เชื่อพี่ตี้แต่แรกดีก่า" มันคงเหมือนสมัยที่เราเด็ก พ่อแม่ของทุกท่านคงพูดว่า "ตั้งใจเรียนหนังสือนะลูกโตขึ้นจะได้ไม่ลำบาก" ในตอนนั้นจะมีกี่คนที่เข้าใจ และมีกี่คนที่ทำตาม ต่อเมื่อจนถึงวันนี้ เราถึงมาเข้าใจในสิ่งที่ท่านตักเตือน บางคนก็อาจจะสายเกินไป.......... .............ที่จะกลับไปแก้ไขอีกแล้ว จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:38:36

ความคิดเห็นที่ 19 มาถึงเจ้า ริน รินเป็นน้อง(แต่ว่าไปรินมันก็อายุเท่าผมนะ)ที่ผมกล้าพูดว่ารักมันมากที่สุดในหมู่ผู้หญิงกลางคืน รินมันสนิทกับก้อยแฟนผมมาก และเพราะน้องสาวคนนี้แหละที่ทำให้ผมต้องมาเปิดกระทู้นี้ ผมกับรินรู้จักกันตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเปิดร้านด้วยซ้ำ รินเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ทำให้ผมใช้วิชามหาเวทย์ดูดดาว(ดูดเด็กร้านอื่นมา ทำงานที่ร้านผม) รินได้ใจผมไปมากจากเหตุการณ์นี้ "เฮ้ย!! ร้านพร้อมจะเปิดรึยังวะ" "มันก็เสร็จหมดทุกอย่างแล้วล่ะ แม็กแต่ยังขาดเงินอีกนิดหน่อย" "เงินค่าอะไรอีกล่ะวะ ตี้" "เชี่ย มรึงดูบัญชีมันโอเวอร์คอสไปจากเดิมตั้งเท่าไหร่มรึงดู" "จะเปิดร้านมรึงจะไม่มีเงินไว้สำรองบ้างเลยเหรอ" "ต้องใช้อีกเท่าไหร่วะไอ้ตี้" "กรูประเมินอย่างหยาบๆเลยนะต่ำๆก็ต้อง5แสนอัพถ้าสบายหน่อยก็ล้านกว่า หลังจากนั้นก็เอาเงินที่ขายได้ทุกวันมาหมุน" "ไม่มีก็เปิดลุยเลยเป็นไงเป็นกันดิมาถึงขั้นนี้แล้ว" "ไม่ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้มาลงสแปรไว้ที่ลงไปทั้งหมดศูนย์แน่" บทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อน เจ้ารินกับแฟนผมก็นั่งอยู่ด้วย จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:38:56

ความคิดเห็นที่ 20 วันรุ่งขึ้นรินมาหาผมที่ห้องทำงาน "อ้าวไปไหนมาล่ะมาคนเดียวไม่ชวนก้อยมาด้วยกันเหรอกินข้าวยัง" "กินแล้ว.....พี่ตี้อย่าว่ารินเลยนะอ่ะนี่เงิน7หมื่นเผื่อพี่จะเอาไปทำอะไรได้บ้าง" "เฮ้ยไม่เอาแกให้ฉันแล้วแกจะใช้อะไรอ่ะ" "พี่ตี้เอาไว้เถอะรินมีอยู่อีกส่วนนึง พี่มีเมื่อไหร่ค่อยคืนหนู" ส่วนนึงที่ร้านผมเปิดได้ก็เพราะน้องสาวคนนี้แหละ............. จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:39:15

ความคิดเห็นที่ 21 รินก็ยังคงเป็นเหมือนผู้หญิงกลางคืนทั่วไปที่ยังคงชอบเที่ยวและแสวงหา "รักแท้" แม้จะแค่ในคืนหลอกลวงก็ตาม บ่อยครั้งที่ผมกับแฟนต้องคอยปลอบคอยเช็ดน้ำตา หลายครั้งที่ต้องคอยว่ากล่าวเวลาที่ "ท้อง" แล้วผู้ชายไม่ยอมรับ รินทำแท้งมาแล้วถึง5ครั้งตลอดระยะเวลาที่เรารู้จักกัน แต่น้องสาวผมคนนี้ก็ยังคงแสวงหา ต่อไปซึ่ง "ความรัก" แต่สิ่งที่ได้มาคือ "คำลวง" ผมเตือนรินเหมือนกับที่เตือนน้องๆที่ทำงานกลางคืนทุกคน แต่เธอก็ไม่ฟัง เมื่อวันศุกร์ที่ 14ที่ผ่านมาผมได้โทรหาเธอ "ฮัลเหล ตื่นยาง วันที่20พี่จะลงกรุงเทพเอาไรป่ะ" "พี่ตี้ หนูปวดท้องไม่ได้ไปทำงานตั้งแต่วันที่1แล้ว" "อ้าวเป็นไรอ่ะ หาหมอรึยัง" "เลือดมันไหลตลอดเลยพี่ หมออัลตราซาวน์เจอก้อนเนื้อที่มดลูก วันพุธหมอนัดฟังผล" "ทำใจดีๆไว้นะเว้ยแล้วนี่ใครดูแลแกอ่ะ" พี่ตี้หนูไม่มีใครเลย..................... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:39:36

ความคิดเห็นที่ 22 พี่ตี้หนูไม่มีใครเลย........... คำๆนี้ผมฟังแล้วเสียดแทงใจมากๆมันเกิดขึ้นกับน้องสาวผม ตอนสาวตอนสวย ผู้ชายถึงกับชกต่อยกันหน้าสปาร์คแย่งมันกัน(ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย) แต่ตอนนี้เวลาที่มันป่วยมันต้องการใครสักคน กลับไม่มีใครเลย........ เมื่อวันที่18ที่ผ่านมา รินมันส่งข่าวมาว่านอนอยู่โรงบาลรอผ่าตัดอยู่ "พี่ตี้หนูอยู่โรงบาล***มันปวดท้องทนไม่ไหวพอดี ไอ้จ๋ามันมาหาเลยให้มันพามาเป็นเพื่อน" "แล้วหมอว่าไงบ้าง" "หมอบอกหนูท้องนอกมดลูก" "อีกแระ เอาน่าก็ดีดีกว่าเป็นมะเร็ง" "แล้วพ่อเด็กมันว่าไงบ้าง" "ฮืออออ ฮืออออ พี่ตี้รินบอกมันตั้งแต่รินรู้ว่าท้อง มันบอกให้รินเอาออกมันยังไม่อยากมีตอนนี้" "แล้วมันมาหาบ้างมั้ย" "โทรศัพท์มันรินติดต่อไม่ได้อีกเลย" "เอาน่าทำใจสบายๆเดี๋ยวก็หาย" "หายแล้วก็คิดให้ได้ซะที" หนูรู้หนูจำได้ที่พี่เคยสอนหนู "เรามาทำงานตรงนี้เพื่ออะไร เราจะขายความสาวได้อีกนานแค่ไหน อนาคตจะทำยังไง ผู้หญิงกลางคืนหากยังหลงระเริงกับปัจจุบันโดยไม่คิดถึงอนาคตเมื่อถึงจุดๆนึง จะกลับมาแก้ไขอดีตก็ไม่ได้ เวลามันผ่านไปทุกวัน" "แต่พี่ตี้หนูจะเป็นอย่าง ซินเดอเรลล่า ไม่ได้บ้างเชียวหรือ" ริน น้องสาวพี่ ซินเดอเรลล่า มันมีแค่ในนิทาน........................... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:40:00

ความคิดเห็นที่ 23 วันนี้รินออกจากห้องผ่าตัดแล้ว ผลก็คือหมอตัดปีกมดลูกไปหนึ่งข้าง หมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้อีกสัก3-4วันอาจติดเชื้อจนต้องตัดมดลูกทิ้งทั้งหมด ก็ยังดี รินเอ๊ย มองในสิ่งที่ยังเหลืออยู่ละกัน.................... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:40:21

ความคิดเห็นที่ 24 ตามที่ได้สัญญาไว้นะคับ สถานะปัจจุบันของแต่ละบุคคลที่ผมได้เอ่ยถึงในกระทู้นี้ หมิว................เธอยังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ ส้ม.................อยู่เชียงใหม่เปิดร้านเนตคาเฟ่ พร้อมกาแฟหอมกรุ่น ครอบครัวส้มและครอบครัวผมเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน น้องตี้.............single mom ผู้เข้มแข็งแสดงให้รู้ว่าผู้หญิงก็รับผิดชอบในสิ่งที่ผู้ชายไร้ความรับผิดชอบก่อขึ้นไว้ได้ เอ๋.................เป็นมาม่าอยู่ที่แห่งนึงในกรุงเทพ ผมและก้อย........ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดกับกิจการเล็กๆพร้อมเจ้าตัวแสบอีกหนึ่งแค่นี้ก็มีค วามสุขแล้ว ริน.................ยังคงตามหาความรักจากเจ้าชายสักคนต่อไป............... จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:40:44

ความคิดเห็นที่ 25 นั่นคือ ทั้งหมดที่เคยลงไว้เมื่อประมาณ 2ปีที่แล้ว เหตุที่ผมต้องนำเรื่องราวทั้งหมดมาลงอีกครั้งเนื่องจากว่า เมื่อวานนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากรินอีกครั้ง "พี่ตี้ นู๋โทรมาลา" "อ้าว! แล้วแกจะลาไปไหนอ่ะ " "พอดีนู๋ ได้แฟนเป็นคนมาเลย์เซีย เค้าจะพานู๋ไปอยู่ด้วย...." น้ำเสียงของเธอดูสดใส และมีความสุขผมก็ได้แต่อวยพรและยินดีไปกับเธอด้วย อนาคตข้างหน้ารินจะกลายเป็นซินเดอเรล่าจริงๆหรือไม่ ไม่มีใครรู้ นิทานส่วนมากมักจะจบแบบ happy ending เสมอ แต่จะมีใครรู้บ้างว่าหลังจากนิทานแต่ละเรื่องจบลงผู้อ่านนิทานมักมีรอยยิ้มที่มุมปากเพราะคิดว่านิทานเรื่องนั้นๆจบลงอย่างสวยงาม หากเพียงแต่ว่า ในชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทาน เจ้าหญิงอาจถูกเจ้าชายซ้อมเช้าซ้อมเย็นก็เป็นได้ไม่มีใครรู้......... ผมก็หวังได้แต่เพียงว่า"ริน"น้องสาวของผมคนนี้จะโชคดีและมีความสุขกับคนที่รักตลอดไป............... ขอบคุณสมาชิกPantip ทุกท่านคับ จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 07:49:52

ความคิดเห็นที่ 26 เข้ามาปาด อ่านตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะยาวมาก อวยพรให้ทุกๆคนที่ จขกท กล่าวถึงในกระทู้ด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าชีวิตจริงเราอาจจะเป็นซินเดอเรลล่าไม่ได้ แต่ก็ขอให้ทุกๆคนสร้างเทพนิยายในแบบฉบับของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ  ล้มแล้วก็ลุกค่ะ ไม่มีใครหรอกค่ะที่ไม่เคยหกล้มในชีวิต จากคุณ : ถังแก๊ส เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 08:12:43

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณเรื่องราวดีๆ ที่ให้แง่คิดครับ＾＾ จากคุณ : yangtaiping เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 08:25:02

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านจนจบ ... ขอบคุณสำหรับประสบการณ์อีกมุมนึง ที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย การดำเนินเรื่อง การบรรยาย ทำให้เข้าถึงอารมณ์ดีครับ ว่าแต่ จขกท. ทำไมถึงผันตัวเองไปทำธุรกิจเล็กๆที่ต่างจังหวัดล่ะครับ ยังไม่ได้เล่าเลย จากคุณ : หลังอาน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 08:42:15

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Jet@Japan เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:02:19

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องยาวแต่อ่านทีเดียวจบเลย จขกท.บรรยายได้น่าสนใจมาก ๆ เลย ขอบคุณค่ะ จากคุณ : เราเองจ้ะ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:02:31

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านแล้วขนลุกจริงๆ ไม่ว่าใคร ก็ต้องการใครสักคนที่จะอยู่ด้วยกันไปจนตลอดชีวิต ปัญหาอยู่ที่ว่า จะเจอไหม _ _|| จากคุณ : กะตุกอืด เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:33:09

ความคิดเห็นที่ 32 บอคุณสำหรับแง่คิดดีๆครับ ^^ เจ้าของกระทู้เล่าเรื่องได้น่าสนใจมากๆ จากคุณ : ผลึกแก้วใสที่มืดหม่น เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:43:56

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณที่เอาเรื่องมาแบ่งปัน จากคุณ : RAORUE เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:47:55

ความคิดเห็นที่ 34 ยาวมากแต่อ่านจบ  แต่ละคนก็เลือกทางเดินไม่เหมือนกัน จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:48:09

ความคิดเห็นที่ 35 และแล้วก็อ่านจนจบ ฮี่ๆ ขอเป็นกำลังใจให้นางฟ้ายามกลางคืนทุกคนเลย งาน ไม่ได้ตัดสินว่าเค้าดีหรือไม่ดี แต่อยู่ที่ตัวพวกเ้ค้าเนอะ ขอให้นางฟ้าทุกคนเจอรักดีๆรักที่จริงใจ ขอบคุณ จขกท ที่เปิดโลกอีกมุมให้เราได้รับรู้ค่ะ จากคุณ : meBLUE (meBLUE) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 09:58:20

ความคิดเห็นที่ 36 สวดยอดดดดดดดดดดดดด ดูเศร้าจริงๆชีวิตผู้หญิง จากคุณ : Rockamilkiyish เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 10:40:13

ความคิดเห็นที่ 37 ศาลาคนเศร้า จากคุณ : DoraeMa เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 10:40:24

ความคิดเห็นที่ 38 นั่งอ่านอยู่ครึ่งชั่วโมง เป็นไม่กี่กระทู้ยาว ที่ทำให้ผมอ่านแบบรวดเดียวจบได้ ขอชม จขกท เขียนดีมาก ไม่มีคำผิดเลย  คำพูดที่ใช้ก็เข้าใจง่าย   เห็นด้วยกับที่พูดมานะครับ โลกนี้มันช่างโหดร้าย ผู้หญิงในนั้นคงถูกสาปจริงๆ อย่างที่ จขกท บอก  และผมว่าคำสาปนั้น น้อยคนนักที่จะแก้มันออกไปจากตัวเองได้ จากคุณ : RelationShip เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 10:43:46

ความคิดเห็นที่ 39 -"- เหมือนเคยอ่านแฮะ แต่เขียนได้เข้าใจท่องแท้ ^^ จากคุณ : ปูปลาน้ำเต้า เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:09:26

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านแล้วเพลิน ...ไม่ค่อยอ่านกระทู้ใครได้นานขนาดนี้ ชีวิตอีกแง่มุม ไม่เราไม่รู้...แต่สุดท้ายก็มี สุข-ทุกข์ ปะปนกัน การดำเนินชีวิตอย่างมีสติ และไม่ประมาท คงเป็นบทสรุปของ ..............ถนนแห่งชีวิต..................... จากคุณ : simplebest เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:13:32

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับ ชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งครับ จากคุณ : เทพบุตรแมงนูน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:38:07

ความคิดเห็นที่ 42 สำนวนเขียนของจขกท.อ่านเพลินดีจังค่ะ จากคุณ : oillyy27 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:43:57

ความคิดเห็นที่ 43 ปกติแล้วไม่ค่อยได้อ่านเรื่องราวอย่างนี้เท่าไหร่ แต่คุณถ่ายทอดได้ดีจริงๆค่ะ อย่าว่าแต่ผู้หญิงที่ทำงานบริการเลยค่ะ ผู้หญิงคนอื่นๆ จะมีซักกี่คนที่ได้เป็นซินเดอเรลล่า ^^ ขอบคุณมากๆค่ะ ที่เอาเรื่องดีๆ มาแบ่งปัน จากคุณ : Vesp@ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:44:15

ความคิดเห็นที่ 44 โหวตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต จากคุณ : Mashi_Naz เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 11:44:43

ความคิดเห็นที่ 45 อยากให้ผู้หญิงพวกนี้ได้อ่านกันเยอะๆ ผุ้หญิงพวกนี้จะบอกว่าเค้าเลว ไม่ดีคงไม่ได้ เพียงแต่ คิดไม่เป็น ไม่มองอนาคต ชีวิตถึงเปนแบบนี้กัน ถ้าคิดได้ก็ดีไป คิดไม่ได้ก็เสียใจตลอดชีวิต จากคุณ : mnoppy12 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:06:57

ความคิดเห็นที่ 46 อย่าว่าแต่ผู้หญิงในนั้นเลยค่ะที่ถูกสาป สมัยนี้ผู้หญิงที่ทำงานกลางวันมากมายก็ยังเหมือนถูกสาปเลย อาจเป็นเพราะสังคมมันแย่ลงมั้ง ทุกคนใช้ชีวิตกันตามใจ ไม่คำนึงถึงถูกผิด สามัญสำนึกมันหายไปไหน ลองไปอ่านห้องสวนลุมดู เจอคนเป็นเอดส์มากมาย เป็นภรรยาที่มีสามีเดียวแท้ๆ แต่ก็ยังติดเอดส์มาได้ อย่าว่าแต่เรื่องไกลตัวเลย เรื่องใกล้ตัวก็เยอะแยะ สมัยเรียนมหาลัย สถิติของโรงพยาบาลในมหาลัยพบว่า มีนักศึกษาเป็นเอดส์เกือบประมาณ 40% ก็พอจะรู้อยู่บ้างว่ามันมั่วกันขนาดไหน แต่ไม่นึกว่าจะปล่อยติดกันได้เยอะขนาดนี้ จากคุณ : kurapik เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:10:02

ความคิดเห็นที่ 47 .... จากคุณ : time3957 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:15:13

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านไปร้องไห้ไป เห็นภาพเลยค่ะ เคยทำงานกลางคืนมาก่อน เป็นนักร้องตามเธค มันเหมือนถูกสาปจริงๆค่ะ อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ ในสถานที่อโคจร ตอนนี้เรามีชีวิตที่ดีแล้ว มีครอบครัวที่อบอุ่น ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุข..ซินเดอเรร่า..มีอยู่จริงค่ะ จากคุณ : น้องตะวันเรียกมี๊ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:18:15

ความคิดเห็นที่ 49 ร้านอยู่ไหนครับ พี่ จากคุณ : ... (โทเรคอง) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:23:09

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ชีวิตที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ จากคุณ : อีกฝั่งฟากของเวลา เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:47:14

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณครับ จากคุณ : rapeja เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:50:11

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณค่ะ... รู้อะไรอีกเยอะเลย.... จากคุณ : PeAk Level เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 12:56:22

ความคิดเห็นที่ 53 ^^ จากคุณ : baaball11 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:21:05

ความคิดเห็นที่ 54 เราอ่ะ   เคยคั่วกะ  สาวพวกนี้ด้วยนะ จะบอกว่า ถ้าเค้าไม่รักตัวเองแล้วจะไปช่วยอะไรเค้าได้ คิดดู บีบน้ำตาให้คนสงสาร  แต่ทำตัวเองทั้งนั้น บางคน  ได้เงินเยอะ   แต่ไม่รู้จักพอ   อ้างว่า   ต้องเลี้ยงน้องที่เป็นเอดส์ไรงี้ เฮ้อ แต่มันมากมาย   เราขี้เกียจเล่าอ่ะ ผู้หญิงไม่อยากมีหลายปั๊วก็จริง    แต่ผู้หญิงที่ยอมมีหลายปั๊วนี่แหละที่ไม่รู้จักคิดอ่ะ ใครคิดจะหลงไหลได้ปลื้มไป    หมดตูดแน่  ๆ หรือแม้แต่แค่เล่น  ๆ  ก็เถอะ   อย่าไปมั่วเลย    ตายไม่รู้ตัวนะโว้ยยย ความที่ปั๊วมานหลายคนไง เห้อ อนาจจิต ไม่น่าเลยกรู  (ครั้งนึงในชีวิต) จากคุณ : แม่พวงมาลัย เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:28:45

ความคิดเห็นที่ 55 จำได้ลางๆว่า เคยอ่านแล้ว แต่อ่านอีกครั้ง ก็ยังรู้สึกมีประโยชน์เหมือนเดิม เอาไว้เตือนใจใน มองมุมมองอื่นๆที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยสัมผัส ขอบคุณที่มา share ให้ฟังครับ จากคุณ : Striker no.9 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:33:44

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะครับ ถูกอย่้างที่คุณว่าแหละ ส่วนมาก ญ กลุ่มนี้ ไม่ค่อยนึกถึงอนาคตเท่าไหร่ หรือกว่าจะนึกก็ตอนใกล้จะถึงช่วงปลายการทำงาน ที่ไม่ค่อยรุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อนแล้ว ถ้ามีคนคอยเตือนสติพวกเธอเหมือนคุณหลายๆคนก็คงดี จากคุณ : nothingman เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:37:57

ความคิดเห็นที่ 57 เป็นเรื่อง ราว ที่ยอด มากเลยครับ ได้ไรมากมายเลย ชอบจัง เรื่องราว ที่มีชีวิต เนี่ย T^T จากคุณ : ข้าวไข่ข้น เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:50:35

ความคิดเห็นที่ 58 อ่านจนจบเลยครับ เป็นเรื่องที่ดีมากๆครับ ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะครับ โหวตให้ครับ จากคุณ : ซาโนสุเกะ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:51:29

ความคิดเห็นที่ 59 น่าจะรวมเล่มนะคะเนี่ยย อ่านเพลินเลยค่ะ เราก็เคยผ่านชีวิตกลางคืนมาแล้วเช่นกัน ... แต่ไม่ึถึงขนาดใช้ร่างกาย ... เพียงแต่ อยู่ในสังคม คนกลางคืน .. พอรับรู้เรื่องแบบนี้ มาบ้างแล้ว เดี่ยวไว้ว่างๆ มาเล่าให้ฟังบ้างแล้วซิ จากคุณ : tea_lamon เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:16:58

ความคิดเห็นที่ 60 ชีวิตพวกคุณนี่มันลำบากจริงๆ ผมนะก็ผ่านชีวิตกลางคืนมาเยอะเหมือนกัน นั่งเล่นเกมส์ตอนกลางคืน จากคุณ : สไปเดอร์แมน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:47:26 A:124.122.123.171 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 61 จากคุณ : โสดเสมอเมื่อเจอผู้ชาย เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:47:53

ความคิดเห็นที่ 62 เป็นกระทู้ที่แชร์ประสบการณ์ชีวิตได้ดีคะ เพราะว่าน้อยคนนักที่จะกล้าออกมาพูดด้านมืด เกี่ยวกับชีวิตตัวเอง ทำให้ยิ่งเข้าใจมากขึ้นกับคำว่า ชีวิตยิ่งกว่านิยาย จากคุณ : ชอยชีเน่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:50:10

ความคิดเห็นที่ 63 จำได้ว่าเคยอ่านมาครั้งนึงแล้ว...แล้วก้อดีใจที่ได้อ่านอีกรอบครับ~ ครอบครัวผมก้อมีกิยการแบบนี้เหมือนกัน...แต่ผมไมไ่ด้เข้าไปยุ่งอะไรมากมาย...เลยรู้แต่ผิวเผินเท่านั้น~ จากคุณ : ตบจูบ...ตบจบ (ตบจูบ...ตบจูบ) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:52:51

ความคิดเห็นที่ 64 เลาจ์ที่ จขกท  เปิดเป็นแบบเด็กนั่งดริ้งค์ใช่ป่าวครับหรือว่า ขายบริการ แต่ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาเล่านะครับ จากคุณ : HideX1986 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 14:59:00

ความคิดเห็นที่ 65 ตอนนี้คุณจขกท.ยังทำร้านอยู่หรือเปล่าคะ.... แล้วอะไรเป็นสาเหตุให้ กลับไปใช้ชีวิต ที่ต่างจังหวัด... ขอบคุณมากที่เขียนเรื่องนี้มาให้อ่าน...ได้ข้อคิดเยอะคะ... จากคุณ : bestty เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 15:11:23

ความคิดเห็นที่ 66 เหมือนดูหนังเรื่องนึงเลยค่ะ สุดยอด จากคุณ : SoManyThings เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 15:40:06

ความคิดเห็นที่ 67 อ่านจบเลยค่ะ ยาวมาก แต่รู้สึกว่าเนื้อหามันน่าสนใจ พออ่านไปเรื่อยๆแล้วก็อยากติดตามตอนต่อไป :)) จากคุณ : tawjaa เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 15:43:43

ความคิดเห็นที่ 68 จขกท. น่าจะเที่ยวช่วงเวลาเดียวกับเราเลย ทุกที่ที่เล่ามานี่สมัยวันรุ่นเราไปเที่ยวมาหมด ทุกที่เลย แต่เราไม่ได้ทำงานกลางคืนนะคะ พออ่านทู้นี้แล้วทำให้นีกถึงสมัยก่อนที่เอา แต่เที่ยวกลางคืนทุกวัน ^^ จากคุณ : เด็กหญิงอ้วนกลม เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 15:51:17

ความคิดเห็นที่ 69 คงเป็นเพราะ เงินได้มาง่ายๆ ก้อจ่ายได้ง่ายๆ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เรื่องดีมากๆเลยค่ะ :] จากคุณ : Mormuay เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 16:45:53

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ  ให้แง่คิดได้ดีมากๆจริงๆ :]] จากคุณ : Rabbit in wonderland เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 17:21:09

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านเพลินมากๆ จากคุณ : พิมพ์ง่ายแต่พูดยาก เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 18:31:41

ความคิดเห็นที่ 72 สุดยอดไปเลยครับ จากคุณ : Hannibal Lecter เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 19:13:59

ความคิดเห็นที่ 73 ฟอร์เต้ ตอนนี้อดีตผู้จัดการคนหนึ่งถือศีลเข้าวัดมาหลายปีแล้ว วัดไหนจัดงานบุญ พี่แกไปแทบมิได้ขาด จวนถึงวันตะบันน้ำกิน เขี้ยวเล็บร่วงหมดไม่มีเหลือ จากคุณ : มหล. (แม่หอยหลอด) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 19:24:11

ความคิดเห็นที่ 74 ใครว่าละครน้ำเน่า ชีวิตจริงตั้งหาก ที่น้ำเน่ากว่า ขอให้คุณริน เป็นซินเดอเรลล่าอย่างที่ฝันนะค่ะ ^^ จากคุณ : 1stUpon เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 19:34:15

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณ จขกท จริงๆคะที่แชร์ประสบการณ์ให้อ่าน จากคุณ : bubushasha เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 19:39:27

ความคิดเห็นที่ 76 อ่านต้นยันจบ ได้เห็นมุมมองใหม่ๆหลายมุมเลย จากคุณ : rakwahnron เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 20:11:11

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะครับ จากคุณ : 2nd_Love เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 20:45:06

ความคิดเห็นที่ 78 ก็ได้เห็นมุมมองชีวิตดีค่ะ แล้วตอนนี้คุณยังทำร้านอยู่มั้ย  อะไรทำให้ผันตัวเองไปอยุ่ตจวล่ะค่ะ  ตอนนี้ทำอะไรอยู่รึ จากคุณ : เจ้าหนูจอมมึน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 21:11:41

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านแล้วคุณคงได้นิสัยมาจากพี่จ่าแน่ๆเลยครับ แกจะบอกเด็กๆเสมอว่า มาทำงานที่ เก็บตังค์แล้วก็ไป บางครั้งแกก็ด่าเซลส์ว่าให้เด็กกินเหล้าเยอะเกิน ชื่นชมจริงๆครับ จากคุณ : PPP200sx เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 21:16:03

ความคิดเห็นที่ 80 ผ่านมา 2 ปีแล้วเหรอเนี๊ย  เป็นเรื่องราวที่ผมประทับใจเรื่องนึงเลยล่ะ จากคุณ : ViRuS_BC เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 21:28:18

ความคิดเห็นที่ 81 แฟนเก่าผมก็ผู้หญิงกลางคืน พอเลิกกันก็ไปได้โฮสมาเป็นแฟน สุดท้ายทะเลาะกัน รู้ข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว ว่าเธอโดดตึกเหล้กเสียบอก ที่ออกข่าวช่วงคริสมาสต์นั่นล่ะครับ แฟนใหม่พยุงไว้ แล้วตัดเหล็กส่ง รพ. สุดท้าย ปอดรั่วตายระหว่างทาง แฟนใหม่ของแฟนเก่าผมมา _ะยำ เป็นทุนเดิม แฟนเก่าก็เป็นคนคิดมากขี้เมาผู้หญิงกลางคืน สุดท้ายทะเลาะกัน โดดตึกเจอเหล็กเสียบ ออกข่าวหน้าหนึ่ง ตอนไป งานศพ อยากจะวิ่งไปต่อยหน้าแฟนใหม่มาก ดีที่เพื่อนเบรกสุดตัว คบผู้หญิงกลางคืน ต้องทำใจครับ จะให้เค้ามารักเรา 100% ยากกว่าหาแม่น้ำอมตะ ในไพเรทออฟแคริเบี้ยนอีก จากคุณ : อาจจะแก่ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 21:33:38

ความคิดเห็นที่ 82 อ่านเพลินมากค่ะ.. มันเป็นเรื่องในสังคมอีกมุมนึงที่เราไม่เคยเข้าใจ.. ยินดีกับ จขกท. ด้วยนะคะที่เจอคนรักที่ดี ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ :) จากคุณ : i sh ik aw a เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 21:52:46

ความคิดเห็นที่ 83 ไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็อยากให้เจอรักแท้ทุกคนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ebabaza เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:16:12

ความคิดเห็นที่ 84 เพิ่งเคยอาจค่ะ ก็เป็นประสบการณืชีวิตให้คนอื่นๆดีค่ะ ทุกคนย่อมมีอดีต อาจดีร้ายต่างกัน ถ้าปัจจุบันดีขึ้นแล้ว ก็ยินดีด้วยค่ะ ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองในทางที่ดีขึ้นได้ เห็นน้องแนทที่เป็นนางเอกหนังโป๊ ตอนนั้นเธอออกรายการไรสักอย่าง บวชชีพรหมณ์ จนตอนนี้จะบรรลุแล้วมั้ง -*- บอกตามตรงว่าตัวเรา เป็นคนไม่ค่อยเจอด้านมืดนะ อาจจะเพราัสังคมและที่ตัวเองอยู่ ในแต่ละวัน ค่อนข้างเป็นโลกสีขาวอ่ะ แม้คนรู้จักจะมีไม่ไดีบ้างก็ใช่ว่าสนิท แต่เราก็ไม่ได้ซื่อจนโง่ เข้าใจโลกดีค่ะ มองชีวิตตามความจริงทันคน ลองไปอ่านกระทู้นี้ของสีลม คนพบจุดเปลี่ยนในชีวิตก็เยอะ อาจจะไม่ใช่เรื่องอย่างว่า หรือแบบกลางคืนซะทั้งหมด แต่ก็เป็นอีกมุนึงของชีวิต http://www.pantip.com/cafe/silom/topic/B10485954/B10485954.html จากคุณ : Much the same เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:38:40

ความคิดเห็นที่ 85 เคยอ่านครับ น่าจะลง credit ว่ามาจากไหนนะครับ แต่ยังไงก็ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันครับ จากคุณ : funfaith เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 00:32:11

ความคิดเห็นที่ 86 แต่จะมีใครรู้บ้างว่าหลังจากนิทานแต่ละเรื่องจบลงผู้อ่านนิทานมักมีรอยยิ้มที่มุมปากเพราะคิดว่านิทานเรื่องนั้นๆจบลงอย่างสวยงาม หากเพียงแต่ว่า ในชีวิตจริงมันไม่ใช่นิทาน เจ้าหญิงอาจถูกเจ้าชายซ้อมเช้าซ้อมเย็นก็เป็นได้ไม่มีใครรู้......... _______________________ ชอบข้อความนี้ค่ะ ^^ การที่คบใครสักคนจนจบที่การแต่งงาน ไม่ใช่หลักประกันความสมหวังเสมอไป และความจริงก็ไม่ได้สวยเหมือนนิยายด้วยเช้นกัน หลายคนบอกว่าเรามองโลกในแง่ร้าย อยู่กับด้านมืดของคนมากไป แต่เรามองว่า "คนราทุกคนมีสิทธิใฝ่หาความรักแท้จริงกันทุกคน แต่มีไม่กี่คน ที่จะทำตัวให้คู่ควรกับความรักแท้จริงนั้น" ซินเดอเรลล่า ในชีวิตจริงมันแทบไม่มี ทำตัวเองให้มีคุณค่า ทำตัวเองให้ดีพอ แล้วจะไม่ต้องรอเจ้าชายค่ะ เพราะจะเป็นเจ้าหญิงที่ยืนหยัดได้ด้วยตนเอง จากคุณ : fallen_angel เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 00:33:44

ความคิดเห็นที่ 87 เป็นกระทู้ที่ดีมากๆเลยคะ จากคุณ : สาวร๊ายร้าย little witch เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 01:18:09

ความคิดเห็นที่ 88 เหมือนกำลังอ่านพอคเก็ตบุค  > < ขอบคุณค้ะ จากคุณ : emilija เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 01:20:12

ความคิดเห็นที่ 89 เอาซะน้ำตาพรากเลยนะคะ จากคุณ : raccoongrizzly เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 01:34:15

ความคิดเห็นที่ 90 ขอขอบคุณทุกๆ comment นะครับ ปัจจุบันนี้ผมไม่ได้ทำเลาจน์แล้ว ณ.ตอนที่หุ้นกันเปิดร้านผมต้องเดินจากมาแบบบอบช้ำ วงการกลางคืน กิจการสีเทา ทรยศ หักหลัง ผลประโยชน์ เส้นสาย บารมี และอะไรอีกหลายๆอย่างที่เด็กอย่างผม (ตอนนั้นผมพึ่งเรียนจบ) ไม่มี ............ เลยต้องจำไว้เป็นประสบการณ์ไปครับ ผมอยู่ต่างจังหวัดมาใช้ชีวิตกับก้อย ณ.ตอนนั้นผมเหลือเงินติดตัวมาแค่ 2พันกว่าบาท ทั้งชีวิตผมเหลือเท่านั้นจริงๆ แต่ที่สำคัญผมมี "ก้อย" ภรรยาของผมคอยให้กำลังใจมาเสมอ " เค้าเชื่อว่าตะเองจะไม่ทำให้เค้าลำบากหรอก " คำพูดนี้ภรรยาของผมพูดขณะที่เรากำลังทานมาม่าด้วยกัน มันเป็นแรงผลักดันให้ผมต้องสู้ ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเอง แต่สู้เพื่อคนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างและไม่ทิ้งกันอย่างแท้จริง เรื่องที่ผมนำมาลงเป็นเรื่องจริงที่ยังอยู่ในความทรงจำของผม น้องๆที่ทำงานกลางคืนหลายๆคนทุกวันนี้ก็ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่ ผมต้องขอบคุณทุกท่านที่มา comment กระทู้นี้อีกครั้ง ด้วยจิตคาราวะ ตี้ จากคุณ : Dekker เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 06:25:49

ความคิดเห็นที่ 91 แวะมาอ่านและให้กิฟ ขอบคุณที่เอาเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังค่ะ เป็นคติที่ดีจริงๆ อ่านเพลินมากๆ ลืมความหิวไปทันใด อิอิ ู^_____^ จากคุณ : แมวเหมียวไซบอร์กประจัณบาน เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 11:24:34

ความคิดเห็นที่ 92 ขอบคุณนะคะ ที่เอาเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน และเป็นกำลังใจให้ จขกท. กะคุณก้อยด้วยนะคะ(ชื่อเหมือนเราเลย) เรามีเพื่อนเก่าที่ไม่เคยลืมกัน(แฟนเ่ก่า) ที่เป็น เจ้าของกิจการ เริ่มจากไต่เต้า จากเป็น ดีเจในผับแห่งหนึ่งที่สีลม และก็ฟูมฟักรักจำ ได้ไปทำงานเมืองนอก ผ่านผุ้หญิงมานับไม่ถ้วน บอกเราตลอด เก็บเงินและได้หุ้นกะเพื่อนเปิดบาร์โฮล ย่านซ.ธนิยะ ทุกวันนี้เค้าได้ทำแบบที่เค้าตั้งใจ มีเป้าหมาย และกำลังจะเปิดร้านคาแคร์อีก 1 ร้าน เค้าเป็นคนที่มีแนวคิดคล้ายๆ จขกท.เลยตลอดเวลาเค้าจะสอนเราตลอด ทุกวันนี้ไมไ่ด้คบกันเป็นแฟนแต่ยังโทรหาบ้าง ยังคิดถึงเสมอ คนกลางคืนไม่ได้เลวร้ายนะคะ จริงๆแล้ว เป็นคนจริงใจ ไม่เฟคด้วย คนบางคนอาจมีเหตุผลที่จะทำและการดำเนินชีวิตไม่เหมือนกัน จากคุณ : หน้าตาน่ารักเหมือนนิสัย เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 12:04:28

ความคิดเห็นที่ 93 เมื่อ 2 ปีก่อน ผมเคยตามอ่านอยู่ วันนี้ได้กลับมาอ่านอีก ก็ยังซึ้งเหมือนเดิม ชอบบันทัดสุดท้ายของทุกๆ ความเห็นครับ เป็นเหมือนเสียงกระซิบเบาๆ ที่อยากจะบอกกับเจ้าตัว นิทานจบ...แค่เจ้าหญิงกับเจ้าชายแต่งงานกันอย่างมีความสุข มุมมองของนิทานมันก็จบก็เท่านั้น แต่มุมมองของคนที่แต่งงานกัน มันคือเรื่องใหม่ที่พึ่งเริ่มต้น.... ขอบคุณ จขกท. ที่เขียนให้อ่านครับ จากคุณ : X~JunioR เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 12:06:06

ความคิดเห็นที่ 94 มีเพื่อนที่รู้จักหลายคนเคยทำงานกลางคืนเป็น PR ทุกวันนี้สบายไปหลายคน มีคอนโด มีรถ มีแฟนที่ดีสามารถดูแลได้ เรียนจบป.ตรีกันทั้งนั้น เพราะเพื่อนพวกนั้นทำตัวดี ไม่มั่วยา มั่วผู้ชาย งานก็คืองานตั้งใจทำงานเก็บตังค์อย่างเดียว จากคุณ : farmville เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 12:54:01

ความคิดเห็นที่ 95 พี่เล่นอยู่ใน CLV ด้วยรึเปล่า คุ้นๆมาก ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวครัว จากคุณ : porgto เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 13:02:08

ความคิดเห็นที่ 96 เป็นคนที่เขียนได้น่าอ่านมาก อ่านไม่เบื่อเลย ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่ทำให้ได้แง่คิดค่ะ จากคุณ : มีหมาชื่อมาเฟีย เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 13:03:10

ความคิดเห็นที่ 97 เอาเรื่องคนกลางคืนที่ได้ดี มาเล่าให้ฟังบ้างสิคะ.  อยากฟังอีกด้านมั่ง จากคุณ : ragazzo เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 14:06:35

ความคิดเห็นที่ 98 อยากบอกว่า อ่านตาตั้งแต่ทู้แรกเลยค่ะ จากคุณ : ^Bloody_Brownie^ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 14:20:46

ความคิดเห็นที่ 99 เป็นกระทู้ที่ยาวมาก แต่สามารถอ่านจบได้ในรวดเดียว ดีมากๆ ค่ะ จากคุณ : ยัยหมูอ้วนกับนายพุงโต เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 15:48:24

ความคิดเห็นที่ 100 อืม..อ่านแล้วเศร้าคะ น่าสงสารผู้หญิงกลางคืน และต้องขอบคุณที่เอาอีกมุมนึงของสังคมมาเล่าให้ฟังนะคะ จากคุณ : น้ำเปล่าเย็นๆ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 16:01:49

ความคิดเห็นที่ 101 มันคุ้มเหรอกับชีวิตเลวร้ายของคนๆหนึ่งเพื่อที่จะมาบำเรอความสุขแค่ไม่กี่นาทีให้คนอีกคนหนึ่ง อยากเห็นเรื่องแบบนี้หมดไปจากสังคมไทยค่ะ เราไม่สนใจหรอกว่าประเทศไหนจะเป็นยังงัย บางประเทศอาจจะเป็นเรื่องยอมรับได้กับการค้าบริการแบบนี้  แต่หากเราจะเป็นประเทศที่ดีกว่าเค้าก็ต้องกำจัดเรื่องการค้าประเวณ๊ออกไป โดยง่ายมากคือเริ่มจากที่คุณหยุดไปสนับสนุนกิจการเหล่านี้ ไม่เสียเงินด้วย หากคุณเป็นผู้หญิงก็ไม่ควรเห็นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องรับได้ เราเป็นคนมีเพื่อนต่างชาติเยอะ เวลาที่พาเพื่อนมาเที่ยวแล้วเดินผ่านย่านแบบพัฒน์พงษ์ทุกคนก็ได้แต่ส่ายหัวผสมกับส่งแววตารังเกียจปนขำขัน คนเค้าสมเพชอ่ะนะ ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังงัยเวลาที่คนเค้าพูดว่า ที่บ้านเค้าไม่มีแบบนี้ จากคุณ : ลั้ลลา..ได้อีก เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 16:04:09

ความคิดเห็นที่ 102 แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 10:32:08 จากคุณ : Pikless เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 17:17:12

ความคิดเห็นที่ 103 ขอบคุณครับ อ่านแล้วซึ้งเลย นั่งน้ำตาซึมอยู่เนี่ย ชีวิตเรา คงต้องตัดสินใจแล้ว จากคุณ : final007 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 18:03:17

ความคิดเห็นที่ 104 จขกท เปิดร้านชื่อร้านอะไรน้อ แอบอยากรู้ อุอุ จากคุณ : บีแชยอง เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 18:15:39

ความคิดเห็นที่ 105 ผมไม่เคนรังเกียดผู้หญิงแบบนี้เลยนะครับ เพราะผมเชื่อว่าคนเรามันต้องทำให้คัวเองอยู่รอดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม < ไม่มีใครโชคร้ายตลอดชีวิตหรอกครับ แล้วก็ไม่มีใครโชคดีตลอดไปด้วยเหมือนกัน > จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 18:28:57

ความคิดเห็นที่ 106 // แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 18:29:33 จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 18:29:18

ความคิดเห็นที่ 107 ฮะๆ นึกถึง orbit เคยไป จำได้เลย หลงระเริงมากกกกก ไปครั้งแรก แทบจะเรียกได้ว่าติดเลยทีเดียว จากคุณ : vitta skywalker เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 18:51:35

ความคิดเห็นที่ 108 อ่านแล้วได้รู้เลยว่าเรื่องแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในละครจริงๆ ปล.เล่าเรื่องได้ยอดเยี่ยมมากค่ะ จากคุณ : *~กุลิสตัน~* เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 19:17:47

ความคิดเห็นที่ 109 เคยมีคนบอกว่า รักแท้อาจหายากนะค่ะ แต่บางทีอยู่ที่ว่าเราจะทำให้คนที่เรารักเป็นรักแท้ของเรารึเปล่า จากคุณ : airlittlepig เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 19:36:35

ความคิดเห็นที่ 110 เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว โอ้ววนี่เราแก่แล้วหรอเนี่ย จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 20:11:25

ความคิดเห็นที่ 111 ยาวมาก  แต่อ่านจนจบ ^^ ภรรยาคุณเป็นคนที่โชคดีมากเลยนะคะ ที่ได้คุณเป็นสามี  ดีใจแทนคนรอบๆ ตัวคุณ ที่ได้มีโอกาสคนอย่างคุณตี้ จากคุณ : ann_g เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 20:30:47

ความคิดเห็นที่ 112 ขอบคุณครับ น้ำตาไหลเลย จากคุณ : sundaykiku เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:38:31