ความคิดเห็นที่ 1 เอกสารต่อไปนี้ เราควรจะ จัดเตรียม ทำสำเนา ไว้ให้เรียบร้อย เผื่อว่า เจ้าหน้าที่ ฝ่ายทรัพยากร บุคคล อาจจะต้องการ เพื่อประกอบการสมัครงาน - สูติบัตร - สำเนาบัตรประชาชน - บัตรประกันสังคม - สำเนาทะเบียนบ้าน - ประกาศนียบัตร / ปริญญา - ใบรับรองผลการศึกษา - รูปถ่าย - บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี) - สำเนาใบขับขี่ (ถ้ามี) 10. ใบอนุญาตต่างๆ (ถ้ามี) - ใบผ่านงาน (ถ้ามี) - บัตรวิชาชีพต่างๆ (ถ้ามี) - เอกสารราชการทหาร (ถ้ามี) - ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) - ใบเปลี่ยนชื่อ นามสกุล (ถ้ามี) - ทะเบียนหย่า (ถ้ามี) - ประกาศเกียรติคุณ (ถ้ามี) - สูติบัตรบุตร (ถ้ามี) - หนังสือชมเชย (ถ้ามี) สำหรับคุณที่เพิ่งเริ่มต้นในการสมัครงานอาจจะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนก่อนดี จะเขียนจดหมายสมัครงานหรือจะเขียน Resume อย่างไร ให้ดูบทความน่าสนใจ เช่น คำศัพท์ต่าง ๆ ในการกรอกใบสมัครงาน ฯลฯ สารพันปัญหาที่คุณสงสัย เรามีขั้นตอนง่าย ๆ ที่จะมาแนะนำกันในเรื่องของการสมัครงาน อันดับแรกคงต้องทำความเข้าใจในเรื่องเอกสารกันเสียก่อนว่า ในการสมัครงานนั้นมีเอกสารอะไรบ้างที่ต้องใช้ประกอบในการสมัครงาน 1. จดหมายสมัครงาน คือ หนังสือหรือจดหมายที่ผู้ต้องการจะทำงาน เขียนยื่นต่อสถานที่ประกอบการเพื่อแสดงความจำนงว่า ตนเองต้องการสมัครงาน ซึ่งการเขียนจดหมายสมัครงานนี้ จะไม่เขียนเป็นข้อความยืดยาว และไม่แสดงประวัติส่วนตัวมากนัก ดังนั้น จดหมายสมัครงาน จะเป็นเพียงจดหมายที่แสดงว่าผู้ส่งมีความประสงค์อะไรเท่านั้น 2. ใบประวัติส่วนตัว (Resume) คือ หนังสือที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของผู้สมัครงานโดยเน้นแต่ส่วนที่เกี่ยวข้องหรือข้อมูลที่เสนอให้รับสมัคร หรือสถานที่ประกอบการจะใช้พิจารณาเรียกตัวผู้สมัครงานนั้นไปสัมภาษณ์ หรือเข้างาน แต่จะไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงว่า ผู้สมัครงานนั้นมีความสนใจในตำแหน่งงานใดของสถานประกอบการนั้น 3. ใบสมัครงาน (Application Form) คือ หนังสือ แสดงความจำนงของผู้เขียนใบสมัครที่ประสงค์จะเข้าทำงานกับสถานประกอบการนั้น ซึ่งส่วนใหญ่แบบใบสมัครงานของสถานประกอบการแต่ละแห่ง เป็นแบบเฉพาะสถานประกอบการนั้น ผู้สมัครจึงต้องไปเขียนที่สถานประกอบการที่ประสงค์จะสมัครงานด้วยตัวเอง รายละเอียดใบสมัครงานควรประกอบด้วยข้อมูลที่แสดงความจำนงของผู้สมัครงานว่า ประสงค์จะสมัครงานในตำแหน่งใด และข้อมูลในส่วนที่เป็นประวัติส่วนตัวของผู้สมัครประกอบกันจึงจะสมบูรณ์ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจดหมายสมัครงานเป็นอย่างไร จะเขียนอย่างไรดี ขั้นตอนต่อไปนี้เราก็จะมาทำความรู้จักกับโครงสร้างของจดหมายสมัครงานกัน โดยทั่ว ๆ ไป โครงสร้างหรือรูปแบบของการเขียนจดหมายสมัครงานมีมากมายหลาย รูปแบบ แต่ที่สำคัญคือ ควรจะต้องระมัดระวังในเรื่องของภาษาสำนวน หลักไวยากรณ์ ต้องมีความสละสลวยพอสมควร และในที่นี้จะแบ่งโครงสร้างของจดหมายออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.โครงสร้างจดหมายที่มีประวัติย่อแนบไปด้วย (Covering Letter) เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์มาก ๆ ควรจะเขียนจดหมายให้จบใน 1 หรือ 2 หน้ากระดาษ แล้วมีประวัติย่อแนบไปด้วย เพราะถ้าหากต้องการรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดเข้าไว้ในจดหมาย ก็จะทำให้จดหมายฉบับนั้นยาว ซึ่งนายจ้างอาจไม่สนใจที่จะอ่านอย่างละเอียดก็ได้หรืออาจใช้กับตำแหน่งที่มีความรับผิดชอบสูง เพื่อความน่าเชื่อถือ 2.โครงสร้างของจดหมายที่ไม่มีประวัติ (Application Letter) จดหมายลักษณะนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาใหม่ ๆ หรือไม่เช่นนั้นนายจ้างอาจจะระบุว่าให้ส่งจดหมายสมัครงานพร้อมรูปถ่ายเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อาจเขียนจดหมายสมัครงานในรูปแบบนี้ ซึ่งก็รวมรายละเอียดอื่น ๆ เข้าไว้ คล้ายกับจดหมายที่มีประวัติรวมอยู่ด้วย 4. ข้อดีและข้อควรระวังในการเขียนจดหมายสมัครงาน   การเขียนจดหมายสมัครงานนั้น จะช่วยคุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และคุณยังมีอิสระในการแสดงความคิดเห็นอย่างไม่จำกัด แต่อย่างไรก็ตามจดหมายสมัครงานนี้ก็มีข้อเสียและข้อควรระวัง คือ ในกรณีที่คุณต้องการส่งจดหมายสมัครงานไปยังหลาย ๆ บริษัท ก็ควรให้ความระวังอย่าให้ซองจดหมายและเนื้อความในจดหมายนั้นสลับกัน และไม่ควรลืมที่จะทำการตรวจทานตัวอักษร ไม่ควรสะกดผิด ที่สำคัญคือ ระบุตำแหน่งที่ต้องการสมัครให้ถูกต้อง ต้องดูคุณสมบัติของตนเองว่าตรงกับที่บริษัทต้องการหรือไม่ ไม่ควรแสดงความต้องการเงินเดือนที่สูงเกินไป และอย่าลืมเซ็นชื่อ การเขียนจดหมายสมัครงานไม่ควรเขียนบรรยายสรรพคุณตัวเองจนเกินความจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านคิดว่าคุณโกหก โอ้อวด หรือเก่งแต่คุย อีกทั้งไม่ควรเขียนจดหมายเยิ่นเย้อวกวน เพราะจะทำให้ผู้อ่านสับสนหรือไม่เข้าใจได้ ขั้นตอนการเขียนจดหมายสมัครงานที่ถูกต้อง 1.เขียนจดหมายถึงบริษัทที่คุณจะสมัครงาน ให้เขียนทีละฉบับ และก่อนที่จะเขียนจดหมายให้ทำเครื่องหมายหรือจดจำตำแหน่งงานที่คุณจะสมัครงานให้ดี เพื่อป้องกันการสับสน 2.ทบทวนคุณสมบัติของตัวเองอีกครั้งว่าตนเองมีคุณสมบัติตรงหรือใกล้เคียงกับตำแหน่งงานที่จะสมัครหรือไม่ 3.ลงมือเขียนจดหมาย โดยอ่านประกาศโฆษณาให้ดีว่า บริษัทนั้นแจ้งว่าให้เขียนด้วยลายมือหรือให้พิมพ์ ถ้าไม่ระบุ คุณก็ทำตามที่คุณถนัด และอย่าลืมอ่านทบทวนและแก้ไขข้อความ คำผิดให้ถูกต้อง และเซ็นชื่อ – นามสกุลกำกับ 4.เตรียมเอกสารประกอบการสมัครงานให้พร้อม ซึ่งประกอบด้วย ประวัติย่อ สำเนาแสดงวุฒิการศึกษา สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน พร้อมด้วยเอกสารอื่น ๆ และอย่าลืมรูปถ่ายหน้าตรง 1 รูป ติดไว้ที่เอกสารประวัติย่อ 5.เรียงเอกสารตามลำดับ คือ -ตัวจดหมาย -ประวัติย่อ -สำเนาแสดงวุฒิการศึกษา ข้อควรระวังในการเขียนจดหมายสมัครงาน 1.การเขียนจดหมาย ถ้าสถานประกอบการมิได้กำหนดให้เขียนด้วยลายมือตนเอง คุณควรจะพิมพ์ซึ่งดูดีกว่า แต่ถ้าหากลายมือคุณดี ก็จะเป็นผลดีแก่คุณ 2.อย่าลืมระบุที่อยู่หรือสถานที่ติดต่อคุณได้สะดวกในจดหมาย หรือประวัติย่อ และถ้ามีโทรศัพท์ที่ติดต่อคุณได้ก็ยิ่งดี 3.อย่าลืมลงลายมือชื่อท้ายจดหมายสมัครงาน 4.อย่าลืมติดแสตมป์ เพราะจดหมายอาจจะไม่ถึงปลายทาง หรือ ผู้รับอาจโดนปรับถึง 2 เท่า และทำให้คิดว่าคุณเป็นคนเลินเล่อ อาจทำความเสียหายให้กับงานหากรับคุณเข้าทำงาน 5.ไม่ควรถ่ายสำเนาจดหมายสมัครงานแบบเขียนฉบับเดียวแล้วส่งไปหลาย ๆ บริษัท จะถูกมองว่าไม่มีความตั้งใจจะสมัครงานจริง ๆ 6.อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ถ้าตั้งใจจะสมัครงานกับบริษัทใดก็ให้รีบเขียนจดหมาย และรีบส่งจดหมายนั้นภายในวันเดียว จงจำไว้ว่า วันพรุ่งนี้ไม่มีวันมาถึง ยิ่งถ้าคุณช้าเท่าไร คนอื่นก็ยิ่งมีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น   ที่มา : http://www.friendjob.com/tip/50.php จากคุณ : tanwatana เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 18:25:18

ความคิดเห็นที่ 2 เวลาส่งอีเมล์ไป   อย่าลืมสเเกนทรานสคริบไปด้วยก็ดีค่ะ อย่างอื่นก็บอกพอเป็นข้อมูลพอ สกิล คอมพิวเตอร์  สกิลภาษา หรืออะไรที่ต้องใช้ เคยทำงานอะไรมาบ้าง  งานโปรเจคที่ทำใน 4 ปี ถ้าเรียกตัวเเล้วก็ใช้ใบรับรองตามที่เค้าต้องการค่ะ จากคุณ : thursdaymarch เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 18:33:46

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติ เวลาเราส่งทางอีเมล  ก็จะส่ง   covering letter, CV, transcript, คะแนนสอบต่างๆ เช่น โทอิค ไอเอล ซียูเทบ  ค่ะ แล้วก็เขียนระบุไปในอีเมลว่า ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสัมภาษณ์เพิ่ม ก็ยินดีค่ะ จากคุณ : aimeramm เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 19:48:27

ความคิดเห็นที่ 4 ขอให้โชคดีนะคะ สมัครงานอยู่เหมือนกันค่ะ ขอเสริมนิดนึงว่า ไปส่งพอรตเองจะดีกว่านะคะ  ถ้าไม่หลายที่ เพราะว่าจะได้ดูเรื่องเวลา  เส้นทาง บรรยากาศ/ คนในที่ทำงานด้วย จะได้มีข้อมูลไว้ตัดสินใจ/เปรียบเทียบค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 54 20:24:35 จากคุณ : thursdaymarch เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 20:23:57

ความคิดเห็นที่ 6 รูปค่ะ จากคุณ : thursdaymarch เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 20:29:48