ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเรียนก็เรื่อยๆครับ ไม่เคร่งมาก มาอ่านหนังสือช่วงก่อนสอบ ตั้งใจจริงๆ อ่านให้เข้าใจ จำได้ แล้วเข้าห้องสอบครับ จากคุณ : รักแท้รักที่อะไร (ตื่นแล้วจะกินอะไร) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:04:51

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนอยู่ในห้องก็ตั้งใจฟังอาจารย์  จดข้อมูลต่างๆ  อย่าห่วงคุย  อย่าห่วงหลับ เหมือนพี่นะน้องน่ะ   5555+ จากคุณ : cheerful_love เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:06:25

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนเรียนตั้งใจฟังอาจารย์น่ะครับ แล้วจับจุดเอา ถ้าจะท่องจำ ให้จำเป็นภาพครับ อย่าจำเป็นตัวหนังสือ ไม่งั้น จะจำไม่ได้ แค่นี้ก็ไม่ต้องอ่านหนังสือมากมาย มีเวลาไปเที่ยวอีกเยอะเลย ^^ จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:08:12

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าใจลอย แค่นั้นก็ได้ เอทางใจ ต่อมาเวลาอ่าน ฟัง ท่องจำ เอาใจใส่เรื่องนั้น ตัดความรู้สึกอื่นๆออก ได้ยินแต่เสียงหัวใจ และหายใจตัวเอง เอ ทุกตัว แต่เอเอ ลอยมา ต้องเอี้ยวตัวหลบนะ เออ เด๋วนี้ รองเท้ายี่ห้อนี้ ยังอยู่ ป่ะ จากคุณ : REALPAN เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:11:03

ความคิดเห็นที่ 5 ผมรู้ว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าเรียนยังไงถึงได้ A แต่จะทำได้รึเปล่าอยู่ที่ความพยายามของคุณเอง ^^ จากคุณ : ใต้กระบี่ไว้ไมตรี เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:14:46

ความคิดเห็นที่ 6 ขยันและใจรักจ๊ะ จากคุณ : ไม่หยุดหายใจ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:21:56

ความคิดเห็นที่ 7 ส่งงานให้ครบ ทำให้เต็มที่ทุกชิ้น ตอนสอบอ่านให้เต็มที่ค่ะ อย่าขี้เกียจ จากคุณ : Mormuay เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:23:50

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับเราน่ะ ป.ตรี - ตั้งใจเรียนในห้อง คือ ต้องฟังที่อาจารย์สอนให้เข้าใจ - ลั๊ลลา ตามประสา เด็ก ป.ตรี - ทำงานส่งให้ครบ ตรงต่อเวลา - อ่านหนังสือก่อนสอบ อ่านและจดสรุป ป.โท - ต้องตั้งใจเรียนให้มาก ถึงมากที่สุด ให้เข้าใจ - จดสรุป เนื้อหาที่เรียนมา เป็นข้อ ๆ อย่าร่ายยาว - หาเคสมาฝึกทำบ่อย ๆ ๆ เพื่อจะได้เข้าใจทฤษฎีนั้น จากเคสปฏิบัติ - ทำงานส่งตามกำหนด ตรงต่อเวลา - ก่อนสอบ เอาตัวจดสรุปมาทำความเข้าใจอีกที ^^ จากคุณ : Strackhouse เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:44:24

ความคิดเห็นที่ 9 จัดสรร เวลา ให้เป็นสุข เดี๋ยวอะไรๆก็ตามมาๆๆๆ จากคุณ : kidnapperwater7 เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 00:50:58

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าจำไม่ได้ให้จดไปเรื่อยๆจนจะจำได้ครับ รับรอง A แต่ปัญหาคือขี้เกียจ จากคุณ : Darklike (Wiriyasage) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 01:02:17

ความคิดเห็นที่ 11 1.ต้องดูสไตล์อาจารย์ว่าเค้าจะออกข้อสอบประมาณไหน(ได้มาจาการถามๆรุ่นพี่) 2.วันสุดท้ายก่อนจะสอบ ต้องเข้าเรียน(แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะไม่เคยเข้า) เพราะอาจารย์จะบอกแนวข้อสอบ 3.อ่านหนังสือโลดดดดดดดด!! จากคุณ : สุขทุกข์ทุกวัน เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 01:11:11

ความคิดเห็นที่ 12 ตั้งใจเรียนในห้องเรียนค่ะ   ตรงไหนที่อาจารย์เน้นบ่อยๆ อธิบายยาวๆก็ทำดอกจันเอาไว้ พอเรียนเสร็จกลับมาที่บ้านก็เอา lecture มาอ่าน แล้วทำสรุปใส่สมุดให้เป็นภาษาของเราเอง ทำเก็บไว้เรื่อยๆ  พอใกล้สอบก็เอามาอ่านทบทวน  จะเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น (เพราะเราใช้ภาษาของเราในการเขียนอธิบาย)   นอกจากนี้ก็อาจวาดรูปประกอบ แล้วก็คิดสูตรจำแบบขำๆก็ได้ค่ะ จำดีนักแล จากคุณ : Sartorius เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 01:19:44

ความคิดเห็นที่ 13 ลงพละเลยครับ   จากคุณ : dadmom เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 01:25:42

ความคิดเห็นที่ 14 เราใช้วิธีอ่านเอาค่ะ เราอ่านสามรอบขึ้นไป รอบแรก เน้นไปอ่านไป รอบสอบอ่านที่เน้น แล้วสรุปเป็นคำพูดตัวเองสั้นๆข้างๆเนื้อหาที่อ่านนั่นแหละค่ะ รอบสามอ่านทั้งหมด จริงๆรอบสามนี่เราน่าจะจำได้แล้วนะคะ ใช้เวลาไม่นานหรอก เอชัวร์ค่ะเราทำมาแล้ว จากคุณ : whewz เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 01:51:54

ความคิดเห็นที่ 15 วิธีของเราเองละกันแต่ไม่รู้จะได้ผลกับ จขกท มั้ย ส่วนใหญ่ตอนเรียนเราจะทำแบบนี้ค่ะ 1. เข้าเรียนทุกคาบ ทุกวิชา นอกจากสุดวิสัยจริงๆ หรือไม่สบายไปไม่ไหว เป็นหนักมาก นั่นก็อีกเรื่อง (จำได้ช่วงเรียน 4 ปี ขาดเรียนไปครั้งเดียวค่ะ ขาดวันเดียวด้วย) 2. ถามว่าตั้งใจฟังหรือเรียนแค่ไหน สำหรับเราก็ประมาณนึงค่ะ ไม่ถึงกับเต็มร้อย และก็ไม่ได้เรียนเก่งอะไรด้วย ออกแนวขี้เกียจมากกว่า่ซะอีก ยอมรับบางวิชาเราไม่ชอบแต่เข้าเพราะหวังจิตพิสัย (แบบนี้อย่าเอาอย่างไม่ดีๆ ค่ะ) แต่เวลาอาจารย์สั่งงานท้ายคาบ เราจะจดเนื้อหา รายละเอียดตามที่เข้าใจของเราเองค่ะ แล้วไปตีความให้ได้ตามนั้น 3. ถึงจะเป็นวิชาที่อาจารย์แจกชีทแต่เราจะให้ความสำคัญกับการช็อตโน้ตทุกรายวิชา (ทั้งชอบและไม่ชอบ) ซึ่งเราคิดว่าการอธิบายนอกเหนือจากเนื้อหาของอาจารย์นั่นล่ะสำคัญที่สุด เพราะอาจารย์มักจะเอามาทำเป็นข้อสอบ 4. แยกสมุดช็อตโน้ตเป็นรายวิชาเพื่อประโยชน์ตอนช่วงสอบ ซึ่งเราจะช็อตโน้ตย่อก่อนสอบอีกที เพื่อให้มีกำลังใจอ่านหนังสือสอบมากขึ้น เนื่องจากการช็อตโน้ตคือเรา่อ่านและทำความเข้าใจก่อนจะจดย่อเนื้อหาลงไป ซึ่งต้องเข้าใจเนื้อหาประมาณนึงแล้ว จากนั้นเราจะวางเนื้อหาหลักซึ่งจะเยอะมากในแต่ละวิชาไว้ มาอ่านช็อตโน้ตเนื้อหาสาระที่จดไว้แทน แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องเข้าใจในเนื้อหานะคะ ไม่งั้นก็จะทำข้อสอบไม่ได้อยู่ดี 5. เวลาอาจารย์สั่งงานเราจะส่งงานทุกครั้ง ไม่เข้าใจจะเข้าหาอาจารย์ ถามเนื้อหาตลอดค่ะ ถึงจะไม่ได้ A อย่างน้อยก็แสดงถึงความสนใจต่อรายวิชาที่่เรียน เราว่าดีซะอีกฝึกการเข้าหาผู้ใหญ่ ยังไงก็ไม่เสียหลายค่ะ 6. เพื่อนไม่ค่อยมีใครยืมช็อตโน้ตของเรานะ เพราะเราจะมีศัพท์เฉพาะของตัวเอง โยงไปนั่นมานี่เข้าใจอยู่คนเดียวค่ะ เพราะเวลาอาจารย์สอน บางคนได้ชีทก็ดูแต่่ชีท แต่เราจะแทรกเนื้อหานอกเหนือจากนั้นหรือที่อาจารย์เน้นย้ำลงไปในชีท ขีดเส้นใต้ที่คิดว่าสำคัญไว้เพื่อจะได้รู้ว่าอันนี้สำคัญ เน้นย้ำไว้นะ อีกอย่างตัวย่อต่างๆ เราจะรู้ด้วยตัวเองค่ะว่าแปลว่าอะไร เพื่อประหยัดเวลาในการจด เพราะอาจารย์จะไม่ค่อยรอหรอก ท่านจะอธิบายไปเรื่อยๆ เราก็ต้องหาวิธีเอาเองว่าจะตามเนื้อหาให้ทันยังไง 7. คนอื่นไม่รู้นะ แต่เราเลือกนั่งหน้าห้องค่ะ เพื่อ - อาจารย์ส่วนใหญ่สายตามักจะมองคนที่อยู่หลังห้องมากกว่าค่ะ หลายครั้งยอมรับนั่งข้างหน้าก็ไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไหร่ (อย่างที่บอกไปข้อแรกๆ) ก็จะดีในส่วนนี้ แต่ใช่ว่าจะละเลยเนื้อหานะคะ สนใจในระดับหนึ่งด้วย อ้อ!! การนั่งข้างหน้าป้องกันการหลับในห้องเรียนได้ชะงัดค่ะ บางวันได้นอนนิดเดียวก็อาศัยนั่งหน้าชั้นเรียนก็จะช่วยให้ไม่หลับเวลาเรียนได้ค่ะ (ที่จริงก็ไม่เคยนะ) ปอลอ ทั้งนี้ทั้งนั้นเทคนิควิธีการของเราอาจไม่ได้ผลกับ จขกท ก็ได้ค่ะ เพราะการเรียนต้องอาศัยความเข้าใจถึงจะเรียงลำดับความสำคัญต่างๆ ได้ ต้องดูลักษณะนิสัยของตัวเองด้วยว่าพยายามแค่ไหน อย่างไร ส่วนเรากว่าจะได้ A มาแต่ละตัวสาหัสค่ะ เคยติด F ด้วยแหละ (ออกแนวแฉตัวเอง) เคยสอบตกห้าจากเก้าวิชาด้วยค่ะ เพราะเราเรียนสายสังคมจะมีสอบปากเปล่า สอบข้อเขียนเกือบทุกตัวที่เรียน เลี่ยงไม่ได้เลยค่ะ ถือว่ายากสำหรับคนขี้เกียจอ่านอย่างเรามากๆ สำหรับวิธีของเราหากจะเลือกทำก็เลือกที่ดีๆ นะคะ อันไหนที่่ไม่ดีก็เลี่ยงซะ สุดท้ายทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองกำหนดทั้งนั้น พยายามเข้าไว้ค่ะ สู้ๆ ^^ แก้ไขเมื่อ 01 มิ.ย. 54 02:07:53 จากคุณ : เราเอง (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 02:01:09

ความคิดเห็นที่ 16 ตัวไหนเราอยากได้เอ เราเข้าเรียนทุกคาบค่ะ เราเป็นคนขาดเรียนบ่อยมากกกกกกก ส่วนใหญ่ได้ C+ ฮ่าๆๆ จากคุณ : emilija เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 02:13:14

ความคิดเห็นที่ 17 ทำงานส่งให้ครบทุกวิชา ไม่ได้ส่งแบบชุ้ยๆ นะครับทำแบบตั้งใจ ก่อนสอบก็อ่านหนังสือ เข้าเรียนครบทุกครั้งเท่านี้ก็ ไม่ต่ำกว่า B แล้วครับ จากคุณ : ดารานำฝ่ายชาย เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 08:12:26

ความคิดเห็นที่ 18 ตั้งใจเรียนช่วงก่อนสอบมิดเทอมค่ะ จะเป็นช่วงเก็บคะแนน พอสอบแล้วคะแนนออกจะพอเห็นเกรดได้ลางๆ ถ้าคะแนนดีมีสิทธิ์ลุ้นเอได้ง่ายๆก็สามารถผ่อนแรงลงหน่อยได้ เพื่อไปทุ่มเทให้ก็วิชาที่คะแนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ได้ แต่อย่าหลงจนปล่อยนะคะจะชวดเอาได้ง่ายๆ บางคนมิดเทอมเรียนๆเล่นๆ พอคะแนนออกมาไฟล์นอลต้องดิ้นรนเกือบตาย แถมจะไม่ค่อยรู้เรื่องเอาเพราะพื้นฐานๆเค้าสอนไปหมดแล้วต้องไปฟื้นใหม่ตั้งแต่ต้น เคล็ดลับสำหรับน้องใหม่เพิ่งเข้าเรียน  มิดเทอมแรกตั้งใจเรียนให้เต็มที่ใส่ให้สุดกำลังคะแนนจะออกมาสูงแล้วเราจะเหมือนขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก พอคะแนนสูงก็อยากได้เอ พอได้เอสักวิชาก็อยากได้หลายๆวิชา พอเทอมหลังปีสามปีสี่ถ้าเริ่มเกเริ่มโดดเริ่มขี้เกียจก็จะมีเกรดบุญเก่าคอยช่วยเหลือทำให้เกรดไม่ตกมากนักเรียนจะได้แบบสบายๆ เที่ยวสบายๆ ป.ล. เวลาอ่านหนังสือมีเคล็ดลับคืออ่านหนังสือควบคู่กับสารบัญ ลองอ่านแล้วดูสารบัญในเล่มไปด้วยว่าเราสามารถอธิบายหัวข้ออันนี้ได้ไหม เข้าใจในหัวข้อย่อยๆของแต่ละบทได้ไหม จากคุณ : Noo YaiMai เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 11:47:53

ความคิดเห็นที่ 19 1.จดการบ้านเวลาอาจารย์สั่งแต่ละวิชา และส่งงานให้ครบตามเวลา 2.งานแต่ละชิ้นเวลาทำก็ตั้งใจเต็มที่ อย่างทำแบบลวกๆส่งๆ จะทำให้ได้คะแนนน้อยค่ะ 3.เวลาเรียนก็ตั้งใจฟังอาจารย์ขยันตอบมีส่วนร่วม 4.เวลาสอบก็อ่านหนังสือ งดเล่นเอ็ม เกมส์ เฟสบุค งดเที่ยวต่างๆ อย่างน้อยถ้าไม่ได้เกรดA ก็ยังได้เกรดดีๆนะ จากคุณ : teardrops in the rain เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 13:41:39

ความคิดเห็นที่ 20 ของเรานะค่ะ คือ เข้าเรียนทุกคาบ นั่งฟังอาจารย์สอน เลคเชอร์(เราชอบเลคเชอร์ทุกตัวอักษรเป็นไรไม่รู้ เลคเชอร์เรียบร้อยด้วยค่ะ เพื่อนชอบยืมไปซี แอบกลัวหายอยู่เหมือนกัน บางทียืมไปซีคนเดียวแต่ผ่านหลายมือมาก) เราจะเลคเชอร์ใส่กระดาษลายเส้นหรือไม่ก็เอสี่ค่ะ สมมติ คาบนี้เรียนเรื่องนี้ หมดชั่วโมงก็จะเย็บรวมไว้สำหรับวันนั้นค่ะ เราจะเขียนหน้าหลัง ก็จะเขียนเลขหน้าไว้ตรงมุมของแต่ละหน้าค่ะ แล้วตรงแผ่นแรกก็จะเขียนหัวข้อเรื่องที่เรียนในวันนั้น เขียน วดป เพื่อเวลาปิดคอร์สแล้วก่อนสอบจะได้เรียงเรื่องถูกว่าจะอ่านอันไหนก่อนหลังดี อีกอย่างนะค่ะ ไม่รู้ว่าบางมหาลัยทำได้รึเปล่า เราอัดวีดิโอที่จารย์สอนไว้ค่ะ (เราใช้ไอโฟนเนี่ยแหละค่ะ) แต่ไม่ใช่ว่าเราถือถ่ายตลอดโดยไม่ฟังอาจารย์นะค่ะ เราเอาวางไว้บนโต๊ะค่ะ เอาไว้มุมๆ อัดภาพบนกระดานไวท์บอร์ดค่ะ ว่าอาจารย์เขียนไรไปบ้าง ใช้ได้ดีกับวิชาที่เป็นคำนวณค่ะ อย่างเราเรียนบัญชี บางทีนั่งฟังอาจารย์อธิบายก็จะลืมๆวิธีทำหรือต้องการฟังที่อาจารย์เคยพูดไว้อย่างละเอียด ก็จะกลับมานั่งดูคลิปที่อัดไว้ค่ะ ช่วยได้เยอะ เหมือนได้นั่งเรียนกับอาจารย์อีกรอบ ,, ถ้าเป็นวิชาบรรยายส่วนใหญ่อัดเสียงค่ะ แต่เราทำเฉพาะบางวิชาน่ะค่ะ จากคุณ : dooszii เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 14:21:01

ความคิดเห็นที่ 21 (ต่อ) อีกอย่างคือส่งงานให้ครบค่ะ งานทุกชิ้นถึงแม้จะยากเราก็ต้องทำมันให้เสร็จค่ะ ,, อย่างนักศึกษาอย่างเราๆ เรียนหลายวิชาแล้วแต่ละวิชาก็จะสั่งงานเยอะใช่มั๊ยค่ะ บางงานยากด้วย แต่ให้ใช้ทริคนี้ค่ะ เราใช้ประจำแต่ไม่รู้ว่าคนอื่นจะได้ผลป่าว? มันเกี่ยวข้องกับจิตใจอ่ะค่ะ เวลาเรามีงานเยอะๆ เราก็จะมาดูว่างานไหนต้องส่งก่อน งานไหนต้องใช้ระยะเวลา แล้วเราก็เริ่มลงมือทำเลยค่ะ แล้วก็ให้คิดว่า งานนี้ต้องเสร็จ ทำวันนี้วันไหน ยังไงมันก็ต้องเสร็จ ถึงแม้มันจะยากและไม่รู้ว่าเราจะทำได้รึป่าว? ถ้าลองลงมือทำเดี๋ยววันนี้มันก็ผ่านไป แล้วงานก็จะเลร็จ (บางคนชอบคิดว่างานนี้ยากไม่อยากทำ ทำไม่ได้หรอก ยากจะตาย มันจะทำให้เราแอนตี้งานนั้น รู้สึกไม่เห็นหนทางที่จะทำมัน และขี้เกียจในที่สุด เผลอๆไม่ทำปล่อยเป็นดินพอกหางหมู สุดท้ายยังไงก็ต้องทำ!! เพราะกลัวไม่มีคะแนน แล้วพอทำเร่งๆขอไปที สมองใช้งานอย่างหนัก มีเวลานิดเดียวแต่ต้องทำงานตั้งเยอะ งานมันจะออกมาไม่ค่อยดีค่ะ แล้วเราจะเครียดด้วย งานก็จะส่ง แถมปิดคอร์สแล้วต้องมาเร่งอ่านหนังสืออีก แค่คิดก็เหนื่อยแล้วค่ะ) อ้อ ขอบอกว่าคาบสุดท้ายก่อนปิดคอร์สก็สำคัญค่ะ อาจารย์จะบอกแนวข้อสอบ อิอิ และบอกคะแนนเก็บทั้งหมดของเรา ส่วนที่เหลือจากคะแนนเก็บ อยากได้เกรดอะไรก็สู้ๆเอาค่ะ 55 สุดท้าย ทริคอ่านหนังสือค่ะ ส่วนตัวเราก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งอ่านหนังสือทุกวันหรอกค่ะ เพราะบางทีก็คิเกียจอ่านเหมือนกัน แต่พอช่วงใกล้ปิดคอร์สแล้วมันจะเริ่มรู้ตัวค่ะ เราจะทยอยอ่านหนังสือ เราเริ่มจากวิชาอ่านก่อนค่ะ เพราะเราจะอ่านรอบนึงก่อน(อ่านทุกตัวอักษร) คือรอบแรกไม่จำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็ได้ค่ะ ขอแค่ให้พอจำได้ว่า เห้ย!! จุดนี้เคนอ่านไปแล้ว พอรอบสอง เราช็อตโน้ตค่ะ ณ จุดนี้เราชอบใช้กระดาษเอสี่โอนลี่เลยค่ะ กระดาษโล่งๆเปล่าๆ แล้วพับครึ่งแนวยาวค่ะ แบ่งจดเป็นสองด้าน อ่านแล้วก็ช็อตโน้ตจุดสำคัญไว้ เอาที่แบบว่า รอบสามกลับมาดูจุดนี้แล้วสามารถต่อยอดไปถึงรายละเอียดที่เคยอ่านได้ค่ะ คือง่ายๆ รอบสอง อ่านแบบทำความเข้าใจ และช็อตโน้ตหัวข้อสำคัญๆลงเอสี่ค่ะ ส่วนรอบสามเราอ่านจากที่ช็อตโน้ตไว้+ใช้ปากกาเน้นคำผิดมาร์คส่วนสำคัญไว้ค่ะ สำหรับเรามันใช้ได้ผลค่ะ วิชานึงมีหลายบท ช็อตโน้ตบทนึงเสร็จก็เขียนเรียงเลขหน้าแล้วก็แม็ก แล้วเราก็พักค่ะ ถ้าช่วงไหนคึก ก็ต่อบทอื่นเลยค่ะ ก่อนเข้าห้องสอบก็เอาที่ช็อตโน้ตเนี่ยแหละค่ะ มาดูพอกรุบกริบให้หายตื่นเต้น!! 55 ที่กล่าวมานี่เป็นทริคการอ่านของวิชาบรรยายนะค่ะ เราใช้ประจำ ส่วนทริคการอ่านวิชาคำนวณต่างๆ เราจะฝึกทำโจทย์หลายๆข้อค่ะ ตัวอย่างของเรานะค่ะ เราเรียนบัญชี เราก็จะมีการลงบัญชีแบบต่างๆนานาใช่มั๊ยค่ะ สอบทีห้าหกเรื่องแต่ละอย่างลงไม่เหมือนกัน หรือลงคล้ายๆกันทำให้สับสน เราก็เริ่มจากตัวอย่างในบทค่ะ ที่เคยทำมาแล้วพร้อมอาจารย์ในห้อง เรากลับมานั่งทำอีกรอบค่ะ ถึงแม้ว่ามันจะเบๆ แต่ก็ทำค่ะ แล้วก็อ่านวิธีลงบัญชีไปเรื่อยๆ เริ่มจากตัวอย่างที่ทำในบทค่ะ ซักพักพอเริ่มเข้าใจก็มานั่งทำการบ้านที่อาจารย์เคยสั่งอีกรอบสองรอบหรือหลายๆรอบค่ะ เราจะทำซ้ำไปซ้ำมาข้อเดิมๆจนกว่าจะชำนาญแล้วเราก็เปลียนข้อเปลี่ยนเรื่องและเปลี่ยนบมไปเรื่อยๆค่ะ ตอนก่อนสอบจำได้ว่าเราลองทำข้อนึงซ้ำๆเยอะมากค่ะ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆค่ะ จนครบหมดทุกเรื่องและมั่นใจว่าเราเป๊ะแล้ว เราก็จะเลิกอ่านค่ะ 55 พอตอนเช้าหรือบ่ายก่อนเข้าห้องสอบ เราก็จะเอาแบบฝึกหัดที่เคยทำไว้มาดูคร่าวๆให้มั่นใจว่าไม่ลืมค่ะ 55 แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 54 16:07:36 จากคุณ : dooszii เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 14:22:12

ความคิดเห็นที่ 22 (ต่อ) ปล. เรายังเหลือเวลาเที่ยว ช้อป เล่นเน็ต ไปตามนักร้องเกาหลี ไปดูคอนเสิร์ตและไปเที่ยวกับครอบครัวค่ะ ขอแค่แบ่งเวลาให้ดีแค่นั้นก็พอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ (ขอบคุณที่อ่านจนจบทั้งสามเม้นค่ะ) จากคุณ : dooszii เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 14:29:44

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ dooszii ท่อนกลาง ตาลายวิ่งค์ๆๆๆๆเลยแหละ ขอพื้นทึบ อักษรขาว จะได้อ่านง่าย เคาะ enter บ่อยๆ จะได้อ่านง่ายๆ เคยอ่านนิยายปะ ตัวเอง เห็นบอกชอบเกาเหลา แบบนั้นอ่ะ ได้ เอ แน่ๆ สีม่วง สีแม่หม้ายด้วย อะจ๊าก ล้อเล่น ตามสบาย ขอไปอ๊วกก่อนนะ ตาลายสีม่วง จากคุณ : REALPAN เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 16:29:52

ความคิดเห็นที่ 24 เป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่ง (มาก) ค่ะ ผ่านรั้วมหาวิทยาลัยมานานหลายปีแล้ว แต่ตอนนี้ต้องกลับมาเรียนอีก ระบบการเรียนที่นี่ (เบลเยี่ยม) มันไม่เหมือนที่บ้านเราน่ะค่ะ ภาษาก็ยังไม่ค่อยดีด้วย (ดัชต์) ทุกอย่างก็เลยยากมากเป็นพิเศษ ข้อสอบทุกวิชา เป็นแบบบรรยายทั้งหมด ไม่มีตัวช่วยใดๆ .. อาจารย์ที่นี่ก็ไม่ต้องใช้ความสามารถพิเศษมากในการออกข้อสอบ ส่วนใหญ่ข้อสอบเป็นกระดาษเปล่า แล้วเราต้องเขียนบรรยายหมดทุกวิชา ไม่ว่าวิชายากหรือวิชามหาหิน คะแนนก็เลยออกมาไม่ค่อยเป็นทีน่าพอใจนัก .. ตอนนี้เฮือกสุดท้ายค่ะ 15 วิชาที่เรียนๆ อยู่นี่ มีเวลาไม่กี่สัปดาห์ เราต้องทำความเข้าใจ + จำตำราให้ได้มากที่สุด ไม่งั้นคงสอบไม่ผ่านแน่ๆ อยากรู้เหมือนกันค่ะ ว่าพี่ๆ น้องๆ ที่เรียนดี มีเคล็ดลับอย่างไร ถึงจะจดจำตำราให้ได้มาก ถึงมากที่สุด .. ช่วยแนะนำด้วยนะคะ จากคุณ : แตงกวากรอบ เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 54 20:48:56

ความคิดเห็นที่ 25 ตอบคุณแตงกวา่นะคะ สำหรับตัวเอง เน้นย้ำว่าที่เราใช้กับตัวเองนะคะ แล้วก็ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เรียนเก่ง ติดจะขี้เกียจอย่างที่บอกไปแหละค่ะ แต่ด้วยเนื้อหาวิชาที่เราเรียนส่วนใหญ่จะต้องทำรายงานทุกสัปดาห์ นำเสนองานเกือบทุกคาบ อาจารย์บางท่านห้ามอ่านเอกสารหรือชีทงาน ไม่งั้นก็ไม่ผ่านในเนื้อหาของตัวเอง เสียคะแนนด้วยค่ะ เพราะงั้นอย่างน้อยก็ต้องแม่นในหัวข้อหลักก็ยังดี พยายามสื่อให้เพื่อนๆ หรือตอบข้อซักถามให้ได้ก็จะถือว่าผ่านค่ะ อีกอย่างเวลานำเสนอห้ามก้มหน้าอ่านโดยเด็ดขาด เพราะมันจะหมายถึงเราไม่ได้เตรียมตัวมาดีพอ แล้วแต่ละเทอมเราเรียนไม่ต่ำกว่า 8-9 รายวิชา แต่ละวิชาก็แนวคิด ทฤษฎี ทั้งไทยและต่างประเทศ เนื้อหาสาระครอบคลุมสังคมทั้งหมด ซึ่งต้องเข้าใจให้ได้ ไม่งั้นก็ตายกับตายค่ะ ช่วงสอบก็ไม่ต่างจากคุณหรอก สมุดเล่มหนาปึก ข้อสอบคำถามสองถึงสามข้อ เวลาสามชั่วโมงแทบจะไม่มีใครกระดิกตัวหรือเดินออกจากห้องสอบ หลายคนยังทำไม่เสร็จ หลายคนทำไม่ทัน ไม่ก็ทำไม่ได้ หรือเตรียมตัวตกไปเลยก็มี คิดว่าคุณคงพอจะนึกภาพออกเนอะกับการสอบ การเรียน การสอน แบบนี้ ..... แล้วไหนจะรายงานกลุ่มแต่ละวิชา รายงานเดี่ยว ก็อย่างที่บอกเราเคยติด F ในรายสาขาวิชาของตัวเองค่ะ อาจารย์เลยยื่นข้อเสนอว่าจะรับเกรดน้อยที่สุดโดยไม่ต้องกลับไปเรียนใหม่หรือจะเลือกติด  F ไว้เพื่อไปเรียนกับเพื่อนต่างห้อง ค่ะ เราเลือกเรียนใหม่ (ได้ A  สมใจ แถมได้เพื่อนใหม่ต่างห้องทั้งที่ตอนแรกลุ้นแทบแย่เหมือนกันค่ะ ก็พิสุจน์ตัวเองไปเลยดีกว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เรายอมให้ทรานสคริบติด F คืออย่างน้อยก็ได้สู้ ในตอนนั้นเราคิดแบบนี้จริงๆ นะ ) เข้าเรื่องเนอะ เกริ่นของตัวเองมาก็ยาวซะ ขออภัยมากมาย สำหรับเรานะคะ นอกจากการเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอ สนใจเรียน เข้าหาอาจารย์เวลาไม่เข้าใจในเนื้อหา เราจะต้องรู้แนวทางของเนื้อหาทั้งหมดคร่าวๆ ก่อนค่ะว่าเป็นยังไง จากเนื้อหาที่เรามีอยู่ เราจะดูภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดอย่างคร่าวๆ ก่อนโดยการอ่านแบบเร็ว คือการกวาดสายตาอ่านแบบผ่านๆ ให้พอรู้คร่าวๆ จากนั้นก็ทำความเข้าใจ ทำการช็อตโน้ตให้เป็นภาษาของเราเองที่เราเข้าใจได้ง่ายที่สุด หรือหากใช้ภาพแทนได้เข้าใจง่ายกว่าก็ควรใช้เช่นคำแนะนำจากความเห็นข้างบน อ้อ!! การดูสารบัญและวัตถุประสงค์นำทางก็ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน เราว่า่ก็สำคัญเช่นกันกับความเห็นก่อนที่ได้บอกไว้เหมือนกันนะ อย่างน้อยเราก็เห็นขอบเขตเนื้อหาสิ่งที่เรียนทั้งหมดว่าอาจารย์ให้ความครอบคลุมแค่ไหนด้วยค่ะ หากมีลองสังเกตดูน๊า ^^ เมื่อเราพอจะจับใจความเนื้อหาได้ก็ต้องอ่านด้วยสมาธิ ตั้งใจ ทำความเข้าใจไปทีละน้อย เป็นการฝึกตัวเองไปในตัวด้วยค่ะ ขีดเส้นใต้ที่ช่วยให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นเกี่ยวกับเนื้อหานั้นๆ ด้วยปากกาเมจิกเพื่อความสะดุดตาไม่น่าเบื่อจนเกินไปด้วยค่ะ สำหรับเราคิดแบบนั้นนะ ^^ จากนั้นช็อตโน้ตเนื้อหาย่อลงสมุด สำหรับเราโน้ตย่อ ก็คือการเขียนแต่หัวข้อหลักของเนื้อหา หากยากไปอาจมีคำอธิบายใจความไว้นิดหน่อยพอให้เรานึกถึงเนื้อหารายละเอียดได้บ้าง จากนั้นลองอ่านเนื้อหาที่ได้ย่อไว้ นึกถึงความเชื่อมโยงเพื่อหาคำตอบจากเนื้อหาให้ได้ เพราะถ้าเราไม่เข้าใจเนื้อหาอย่างแท้จริง การอ่านทำความเข้าใจ หรือการจะนำไปใช้ก็ไร้ผลเช่นเดียวกันค่ะ จุดนี้สำหรับเราจึงท้าทายพอสมควร แต่เชื่อมั้ยคะหากเราผ่านตรงนี้ไปได้ สิ่งที่เราคิดว่ามันหนักหนานี่แหละมันจะอยู่ติดตัวเราไปแบบไม่มีวันลืมเลยค่ะ อืมมม ไม่รู้คุณแตงกวาพอจะเข้าใจสิ่งที่เราสื่อสารไปมั้ยคะ เราก็อธิบายใครไม่ค่อยจะได้ซะด้วย แต่กับตัวเราเองเราใช้วิธีนี้มาตลอดจนถึงตอนนี้เลยล่ะค่ะ อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งคิดว่ามันหนักหนา อย่าเพิ่งทำลายกำลังใจตัวเองโดยการคิดว่าทำไม่ได้.... ความสำเร็จต้องใช้พยายามทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดได้มาง่ายๆ สำหรับคุณต้องเชื่อก่อนว่าคุณก็ทำได้ แค่เชื่อในตัวเองก็มีชัยไปแล้วค่ะ จากนั้นก็ตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ซึ่งเราเชื่อว่าความสำเร็จก็จะได้มาอย่างไม่ยากเย็นแน่ๆ ค่ะ เอาใจช่วยน๊า สู้ๆ ค่ะ (จะบอกว่าเราก็เจอไม่ต่างกับคุณหรอก ด่านสุดท้ายสุดหินเหมือนกัน อยากปิดคอร์ส อยากจบแล้วเหมือนกันค่ะ บอกคุณก็เหมือนบอกตัวเองแฮะ แหะๆๆๆ) ^^ ปอลอ เราใช้พื้้นหลังสีนี้ ตัวหนังสือสีขาว คงไม่มีใครเข้าใจว่าเราใช้สีที่เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นแม่หม้ายหรอกนะคะ เพราะเราก็ไม่อยากจะเป็นหรอก เนื่องจากตอนนี้เราจองคานเป็นของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ หุหุ ^^ ## ขออภัยค่ะ แก้ไขคำผิด ## แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 54 00:36:50 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 54 00:20:10 แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 54 00:18:12 จากคุณ : เราเอง (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:05:40

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ คห 25 อย่างน้อยก็เว้นวรรค ขึ้นบรรทัดใหม่ โบราณว่า ม้าดี ไม่ต้องกลัวคนไม่ขึ้นขี่ ต่อเอง คนเรางามน้ำใจ ใช่ใบหน้า ทำอะไรก็ได้ ขอให้มีความสุขก็ละกัน สงสัยเราแพ้สีม่วง โอ้ยแสบตาาาาาา จากคุณ : REALPAN เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:26:26

ความคิดเห็นที่ 27 อ่ะจ้า ให้กิ๊บแทนละกัน เปลี่ยนสีให้ด้วย คนแก่แถวนี้แพ้สีม่วง ฮาๆๆ แซวค่ะ ^^ อย่าเคืองเค้าน๊า หุหุ จากคุณ : เราเอง (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:29:16

ความคิดเห็นที่ 28 ^ ^ ขอให้ได้แฟนแก่ หล่อและเท่ห์ อุดมด้วยอารมณ์ขัน แบบเรา ไวไว มาม่า ยำยำ เราใช้สีม่วงบ้าง แทนใจนะ ขอให้เรียนเก่งๆ แฟนฉันหล่อไม่แพ้เราน่ะ อยากเห็นหน้าก็เข้าไปใน profile เราเตรียมกระดาษชำระไปด้วย 555555 จากคุณ : REALPAN เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 00:45:16

ความคิดเห็นที่ 29 เข้าไปกลัวกระดาษชำระจะไม่พอ กลัวจะหลอนจนนอนต่อไม่ไหว กลัวจะได้แฟนแก่อย่างที่บอกไป กลัวความหล่อเท่ห ยิ่งกว่าอะไร ์ ไม่ต้องหลอกล่อ ด้วยมาม่า ไวไว ยำยำ ทุกวันก็เป็นมื้อสำคัญ ไม่รู้รึไง จะใช้สีม่วง ให้สายตาฝ้าฟาง ขำ-ขำ ลองเป็นคนแก่ดูก่อนคงพอได้ เรื่องเรียนยังต้องลุ้นต่อไป แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ยังไม่เข้าโปรไฟล์ที่บอกไว้ จากคนหน้าแปลก(ฮาๆๆ) ที่แพ้สีม่วงนี่ไง เพราะสงสารตัวเองจะนอนไม่หลับ ในค่ำคืน.....ยาวไกล คงไม่เคืองกันใช่มั้ย?? คิดว่าเหตุผลที่ให้ไปคงมากพอ  55555      ................................................................................ เกือบตายค่ะ ขำๆ น๊า ไปนอนก่อนแล้ว เผื่อพรุ่งนี้อาจารย์เรียกตัวด่วน จะแย่เอาค่ะ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรเรื่องเรียนมากมาย ย้ำขีดเส้นใต้ แค่เรื่องเรียนนะคะ ^^ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 54 23:38:08 จากคุณ : เราเอง (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 01:22:24

ความคิดเห็นที่ 30 คห.23 ขอโทษค่ะ พอดีใช้ไอโฟนอัพเลยไม่รู้ว่าเปิดกับเว็บจะเป็นสีอะไร ในมือถือเป็นพื้นขาว ตัวหนังสือดำค่ะ ส่วนเรื่องเว้นวรรค ไม่ได้คิดเรื่องนั้นค่ะ รีบพิม พิมเสร็จก็ไป ถ้าลายตาไม่ต้องอ่านก็ได้ค่ะ แค่เข้ามาแสดงความคิดเห็น จากคุณ : dooszii เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 01:29:36

ความคิดเห็นที่ 31 คห 30 เรานึกว่า เป็นคนเดียวกัน คุณ dooszii กะ แฟน เราเอง โอ๊ย งง คนละคนกาน ดันใช้สีเดียวกัน แฟน เราเอง ก็มีใจ อาจ๊ากส์ อยู่เป็นโสด ต่อไป ชีวิต เข้าใจละครับ นึกว่าใช้คอมพ์ หุหุ กลับหลุม เอ๊ย กลับรังดีกว่า แต่ อ่านจบแล้ว เขียนได้ดีมากๆ ขอให้เจอแต่คนดีๆนะ จากใจที่ว่างเปล่า จริงๆครับ จากคุณ : REALPAN เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 01:43:00

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ แฟนฉันเป็นลิง (เอ๊ะ!? จริงรึเปล่าเอ่ย? ^__^)  ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ก็กำลังทำแบบที่ว่านี้อยู่ คือ อ่านๆ ทำความเข้าใจเนื้อหาไป ส่วนไหนสำคัญก็ขีดเส้นใต้ หรือใช้ปากกาเน้นข้อความ พอจบแต่ละบทก็เขียนสรุปเนื้อหาสั้นๆ หัวข้อสำคัญๆ ลงไว้หมด แทรกคำอธิบายนิดหน่อย แต่ทำไปๆ รู้สึกจวนตัวค่ะ เพราะเหลือเวลาน้อยมาก มีอีกตั้งหลายวิชาแน่ะที่ยังไม่ได้อ่าน .. เริ่มลนลาน รู้สึกว่าเวลาเหลือน้อย อ่านไม่ทันค่ะ  บางวิชาเนื้อหาที่จะใช้สอบมีเป็นร้อยหน้าแน่ะ .. อดหลับอดนอน ตาปูด ยังกะหมีแพนด้าเชียว ครั้นจะพยายามอ่านให้เร็วๆ กวาดสายตาอ่าน ก็ไม่ได้อีกค่ะเพราะภาษายังไม่ชำนาญมาก text แต่ละหน้า จะมีคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเจอเยอะแยะประปราย บางทีอาศัยการเดาอย่างเดียวไม่ได้เลยค่ะ .. ดิคชั่นนารี ออนไลน์ ต้องเปิดไว้ตลอด 2-3 เว็บ ก็เลยทำให้อ่านช้า   ปัญหาหลักอีกอันของเราคือ ทำยังงัยถึงจะจำเนื้อหาสำคัญๆ ให้ได้ทั้งหมดทุกวิชา แล้วเอามาเขียนบรรยายให้ได้ทั้งหมด .. คือ หลังจากอ่านเยอะๆ แล้ว (ขนาดแค่อ่านจากช็อตโน้ตนะคะ) แต่พอเข้าไปอยู่ในห้องสอบ แล้วมันออกจะเบลอๆ จำได้ไม่หมดน่ะค่ะ  วิชาที่มีคำศัพท์เทคนิคมากๆ โดยเฉพาะศัพท์ยากๆ ยาวๆ สำหรับเรานี่จะลำบากเป็นพิเศษ เพราะต้องให้คำอธิบายไปด้วย .. ถ้าหากมีข้อสอบปรนัยแบบที่เราคุ้นเคยบ้าง อาจจะพอช่วยให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาบ้างได้ นี่ไม่มีเลย :'(   คนออกข้อสอบเองเค้าก็ไม่ต้องทำงานมาก แค่ตั้งคำถามว่า เราเรียนอะไรไปบ้าง รู้อะไรไปบ้าง ทฤษฏีที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง รายละเอียดที่เกี่ยวข้องเป็นยังงัย เขียนบรรยายมาโอ้ยย .. แค่เห็นข้อสอบ ถอนหายใจเสร็จแล้ว อยากจะฟุบหลับมันซะตรงนั้นเลยค่ะ :-) จากคุณ : แตงกวากรอบ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 03:56:20

ความคิดเห็นที่ 33 คุณแตงกวา..... จริงเหรออออออ ไม่หรอกค่ะ คนออกข้อสอบทำงานหนักที่สุดต่างหาก.... ยังไง??? ก็ตอนตรวจข้อสอบไงคะ นั่นล่ะต้องคิดวิเคราะห์ ประเมิน เพื่อให้คะแนนตามความเป็นจริง ปราศจากอคติแก่นักเรียนนักศึกษา แบบนี้ยังจะคิดว่าคนออกข้อสอบไม่ต้องทำงานหนักมั้ยคะ? หุหุ มันจะหนักช่วงทำความเข้าใจ พยายามแยกโสตการรับรู้ให้ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นต้องทั้งหมดก็ได้ค่ะ สำคัญต้องมีสมาธิ ต้องควบคุมตัวเองให้ได้ก่อน อย่ารน  ^^ ข้อสอบของคุณคิดว่าปกตินะ  อืมม เราก็เคยเจอแบบนี้ตอนนี้ก็ยังเจออยู่แบบที่คุณว่านี่แหละ สอบทุกวันก็เคยเจอมาแล้วค่ะ >< คุณลองหาประเด็นหลักของแนวคิดทฤษฏีแต่ละตัวแล้วนำมา apply ตามความเข้าใจตอนสอบ คืออธิบายตามที่เข้าใจจากทฤษฎีนั้นๆ น่าจะดีที่สุดนะคะ เพราะทฤษฎีสามารถเชื่อมโยงได้หลายสถานการณ์ แล้วแต่จะนำประเด็นใดมานำเสนอ แบบนี้ได้มั้ยคะ ?? ลองตัดความรู้สึกเรื่องภาษา เืรื่อง text ออกไป จับประเด็นแนวคิดที่เรียนให้ได้ ทำความเข้าใจกับมันแล้วอธิบายตามความเข้าใจ ไม่ต้องตามหนังสือเป๊ะๆ ก็ได้ค่ะ แค่เข้าใจความหมายหลัก จากนั้นวัดใจตอนสอบน่าจะดีที่สุด..... ตอนนี้อย่าตื่นเต้นจนรน ลองตั้งสติ ตรงนี้สำคัญมากๆ  ลองหยุดอ่านหนังสือต่อสักพักนึงแล้วดูซิว่า...พรุ่งนี้จะสอบวิชาอะไรบ้าง จากนั้นหยิบวิชาที่จะสอบเป็นวิชาแรกมาอ่านทบทวนก่อน แล้วก็ทบทวนวิชาอื่นๆ ต่อไป (ถ้าคิดว่ากลัวอ่านไม่ทันรอบทบทวนให้ลองอ่านในส่วนที่เน้นที่สำคัญๆ เอาไว้หรือส่วนที่มันยากที่จำไม่ได้มาอ่านก่อนตรงส่วนไหนที่จำได้ หรือเข้าใจก็เปิดผ่านๆ ไปเลยค่ะ .... อย่าบอกน๊าว่าไม่ได้ทั้งหมด (ฮา...) ตอนนี้ต้องทำเวลาแล้วนี่นา >< แต่ถ้าอ่านไม่ทันแล้วจริงๆ ร่างกายก็เริ่มไม่ไหวแล้วก็อย่าฝืนค่ะ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น รีบเตรียมตัวเข้านอน พักผ่อนจะดีกว่า ตื่นเช้ามาจะได้สดชื่น แถมถ้าตื่นเร็ว ก็จะมีเวลาอีกนิดในการทบทวนก่อนเข้าห้องสอบก็ได้ค่ะ ยังไงสุขภาพก็สำคัญที่สุดน๊า แต่ถ้ายังไม่ได้ เราก็หมดทางแล้วค่ะ เพราะก็ไม่ได้เก่งหรือขยันอะไร แค่อยากร่วมแชร์เท่านั้นจ้า ^^ จากคุณ : เราเอง (แฟนฉันเป็นลิง) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 54 14:26:49

ความคิดเห็นที่ 34 ^ ^ ^ หลับยาวเลยค่ะ เกือบลืมตื่นเลยค่ะ คุณแฟนฉันเป็นลิง .. ฮิฮิฮิ   ความรู้สึกเรื่องภาษาของ text อันนี้ไม่สามารถตัดออกไปได้จริงๆ ค่ะ เพราะระดับความสามารถภาษาของตัวเอง ยังงูๆ ปลาๆ อยู่เลย ถ้าหากเป็นภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษชีวิตเราคงมีปัญหาน้อยกว่านี้  เพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่เป็นเจ้าของภาษา นั่งเรียนไป บางทีก็นึกขำตัวเอง เหมือนเป็นคนใบ้นะค่ะ :-) จากคุณ : แตงกวากรอบ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 54 15:53:49

ความคิดเห็นที่ 35 ป.ตรี เมาไปเรียน เรียนๆแฮงค์ๆ ใช้ชีวิต4ปีสุดจะคุ้ม ป.โท กลับตัวกลับใจ จ่ายค่าเทอมเอง T^T ตั้งใจเรียนในห้องเรียน จดโน๊ตเฉพาะตรงเนื้อหาที่ไม่เข้าใจ เพราะถ้าก้มหน้าก้มตาจด จะไม่ได้คิดตามที่อาจาย์สอน ใกล้สอบอ่านทบทวนหน้าอาจารย์+คำพูดจะลอย วิ้งๆๆๆๆ ขึ้นมา ทำโน๊ตย่อซะ แล้ว A จะลอย วิ้งๆๆๆมา เรียนตรีเกรดไม่เคยเกิน 3.00 ป.โท ลูกบ้าเยอะ+ทำงานด้วย เกรดเลยดี ^^ จากคุณ : ครีมโซดา เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 54 10:17:52