ความคิดเห็นที่ 1 อ่ะๆๆ ผมหล่ะจำได้เลย เป็นกิจกรรมที่เสียเวลาเรียน เวลาอ่านหนังสือของผมมากๆ สู้เข้ารับน้องของเมเจอร์ตัวเองดีกว่า เจอรุ่นพี่ที่เป็นรุ่นพี่ของน้องจริงๆ คุยกันได้ประโยชน์กว่าเยอะ จากคุณ : ผู้ชายที่ตามรักเธอไปทุกชาติ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:34:33

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่ออะไรเนี่ย............บ้าพลังเกิ๊น จากคุณ : Park Gibzilla เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:47:47

ความคิดเห็นที่ 3 All day All night ของถาบันเรา ยังไม่ขนาดนี้เลยอ่ะ จากคุณ : นกฮูกผู้ไม่หลับใหล เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 13:59:53

ความคิดเห็นที่ 4 มันเป็นค่านิยมที่ผิด จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:00:12

ความคิดเห็นที่ 5 ไร้สาระสุดๆ จากคุณ : นกร้องจิ๊บๆ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:07:52

ความคิดเห็นที่ 6 รับน้องเป็นกิจกรรมที่ดีครับ รู้จักเพื่อนๆพี่น้อง  แต่ถ้าอะไรที่มันเกินขอบเขตที่จะรับน้อง มันก็ไม่ใช่กิจกรรมรับน้อง  มันควรจะเป็นค่ายทหาร หรือค่ายกักกันมากกว่า กลางคืนเวลากลับบ้าน เด็กผู้หญิงบางคนอาจจะเสี่ยงภัยอันตรายได้ นึกถึงระยะเวลาที่ทำกิจกรรมบ้าง ดูในคลิปมันก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เด็กบางคนยังเป็นลมอีก กิจกรรมควรจะทำเวลากลางวันมากกว่า  อย่าปลูกฝังค่านิยมในการรับน้องเพื่อให้รุ่นน้องเกรงกลัวดีกว่า ถ้ารุ่นพี่กินเหล้าเมายา ไม่เอางานเอาการเลย จะให้รุ่นน้องคนไหนเค้านับถือหล่ะ   จะสูงจะต่ำอยู่ที่ทำตัว จะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวทำ จากคุณ : aun123 (aun123) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:10:36

ความคิดเห็นที่ 7 เยี่ยมครับ ..ออกสื่อขนาดนี้ เสียหายกันเป็นแถวๆ 555+ ปลูกฝังผิดๆแบบนี้ ..มันชวนให้คิดต่อว่า คุณรุ่นพี่ทั้งหลายเจอ "อะไร" มาบ้าง? ตอนเป็นเฟรชชี่ -..- จากคุณ : มะอึกคุง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:11:57

ความคิดเห็นที่ 8 ฝึกทหารกันหรอครับ นี่มันเกาหลีใต้ หรือพม่าแล้วมั่งครับ เป็นแค่นักศึกษาแก่ปีกว่าเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาอะไรเลยนี่ครับ ต้องแจ้งกระทรวงศึกษาธิการครับ ปล่อยให้พวกนี้ไปอยู่ในสังคม สังคมจะแย่น่ะครับ บ้าอำนาจเกินจริง จากคุณ : จะมาเอาอะไรกับโผ๊มมมมม เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:12:27

ความคิดเห็นที่ 9 สุดยอดครับ กล้าสู้ต่อรุ่นพี่(บ้าพลัง)จำนวนมาก โหวตไป ไม่เสียหาย จากคุณ : sunness เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:13:08

ความคิดเห็นที่ 10 คนเจ็บ คนป่วยมากกว่าตอนผมเรียนรด.อีกมั้งเนี่ย จากคุณ : สงสาร เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:24:00 A:129.49.228.202 X: TicketID:101679

ความคิดเห็นที่ 11 เป็นแค่เด็กอายุ 19-21 มาทำเป็นเบ่ง มาทำเป็นให้รุ่นไม่ให้รุ่น ถรุยมากครับ ยังมีหน้าไปบอกให้เค้าไปเรียนที่อื่นอีก ตลกว่ะ จากคุณ : Moonui เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:27:11

ความคิดเห็นที่ 12 ใช่ครับ แย่มาก น้องแค่คิดต่างก็จะไล่เค้าไปเรียนที่อื่นซะงั้น ผมหล่ะเพลียกับพวกนี้จริงๆ จากคุณ : ผู้ชายที่ตามรักเธอไปทุกชาติ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:28:48

ความคิดเห็นที่ 13 มีการจะฟ้องด้วย 5555 ตลกจริงกับการรับน้องแบบนี้ ดีใจที่เลือกเรียนมหาลัยของเราจัง จากคุณ : ธารนางฟ้า เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:28:50

ความคิดเห็นที่ 14 มันก็แค่การแสดงฉากหนึ่งที่แสดงมาทุกรุ่นทุกปี...แค่นี้คุณผ่านมันไปไม่ได้เวลาที่คุณไปทำงานจริงๆเจอสิ่งที่กดดันกว่านี้คุณจะทำใจยอมรับกันได้หรือ... จากคุณ : nongnamhom เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:37:39

ความคิดเห็นที่ 15 ดูรูปนึกว่าค่ายกักกันอะไรสักอย่าง มาเรียน หรือมารบกันค่ะเนี่ย จากคุณ : bestjeab เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:40:15

ความคิดเห็นที่ 17 เอ่อ คห 14 ถ้าเป็นผมเจอกดดันแบบนี้ จะอยู่ทำไมหละครับ หางานใหม่ทำดีกว่า หรือว่าคุณชอบกดดันตลอดเวลาเหรอครับ จากคุณ : ต้มส้มปลากระพง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:42:13

ความคิดเห็นที่ 18 โพสผิดโทษทีครับ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 14:52:14 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:51:49

ความคิดเห็นที่ 19 สร้างค่านิยมผิด ๆ อวดเบ่งไม่เข้าเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นเด็กขนาดนี้ ขอยืมคำพูดในหนังมานะครับ "คิดว่าถ่อย แล้วเท่ห์เหรอ" โตขนาดนี้แล้วน่าจะคิดอะไร ๆ เป็นแล้วนะครับ สมองไม่ใช่แค่ก้อนไขมันไว้รองใต้กะโหลก การรับน้องเป็นกิจกรรมที่ดีครับ แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่ต้องสร้างสรรค์ด้วยนะครับ ไม่ใช่รับน้องเอามันส์ ถ้าคิดจะรับน้องแล้วทำได้แค่นี้ ผมว่า อย่าไปมีมันเลยครับ เพราะถ้าคนอื่นรู้ว่ามีการรับน้องแบบนี้(อย่างผม) คงคิดว่า การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไรน้อง ๆ ได้เลย แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 14:59:17 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 14:54:21 จากคุณ : domemod เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 14:51:50

ความคิดเห็นที่ 20 Thailand only ครับ ประเทศเดียวที่มีการรับน้อง น่าแปลกนะครับ รุ่นพี่บอกว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ทำไมหลายๆ ประเทศที่ไม่มีการรับน้องเค้าเจริญกว่าเรา คนเค้าสามัคคีกว่าเรา ผมมองว่าการรับน้องเริ่มทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายด้วยซ้ำ ทำให้เรารู้สึกว่าข้าจบที่นี่เอ็งไม่จบที่นี่ไม่ใช่น้องข้า ข้าจะเอารุ่นน้องข้ามาทำงานด้วยเท่านั้นบลาๆ มันจึงเกิดระบบเส้นสาย ระบบอุปถัมม์ ขึ้น รู้ๆกันอยุ่บางที่ทำงานไม่จบสีนี้มาเข้าไม่ได้ ทั้งๆที่คนอื่นเค้าอาจมีความสามารถกว่าด้วยซ้ำ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:15:18

ความคิดเห็นที่ 21 รุ่นพี่แบบนี้ เอาเป็ดแลกเข้ามหาลัยหรอ? จากคุณ : จับได้โดยละม่อม Return เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:25:13

ความคิดเห็นที่ 22 คำว่าพี่คำว่าน้อง หาใช่การกดดันการกดขี่ข่มเหงไม่ ระเบียบวินัยการเคารพนับถือใช่มาจากการบีบบังคับทางอ้อมอย่างที่ทำๆกันหรอกนะ การรับน้องที่สร้างสรรค์มีตั้งหลายวิธี  แบบที่รุ่นน้องเขายินดีเต็มใจเข้าร่วมน่ะ  ก็ไม่ทำ เพราะไม่ถ่อย ไม่เท่  ว่างั้น? เถื่อนๆเข้าไว้ กรูเจ๋ง เหรอ? พอมีคนกล้าคัดค้าน  ก็ไม่ฟัง  สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น  แล้วไง ตัวรุ่นพี่เองน่าจะผ่านมาบ้างแล้วไอ้กิจกรรมอย่างนี้  ตัวเองรู้สึกอย่างไร   ก็ไม่คิดซักนิดว่ารุ่นน้องจะรู้สึกเหมือนตัวเองตอนโดนมั้ย กะว่าปีที่แล้วกรูโดนอย่างนี้  ปีนี้กรูเอาคืนงั้นสิ ไม่รู้จักคำว่าบีบคั้น  คิดว่ารุ่นน้องมันจะไม่นับถือ? โชคดีของประธานเชียร์นะที่ไม่มีคนรู้จักเราเรียนที่สถาบันคุณ (อ่อ  พอดีหมั่นไส้ไอ้หิ่งห้อยนั่นเป็นพิเศษ) V V V กีบเหลือป่าว ขอหน่อย  จะเอาไว้อวดสิ้นเดือน กร๊ากกกกก แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 15:39:15 จากคุณ : ฤดูเปลี่ยนใจ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:26:01

ความคิดเห็นที่ 23 +22  กระทืบไลค์ เป็ดน้อย พันครั้ง จากคุณ : domemod เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:36:46

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าปลุกคนขึ้นมาได้ งานนี้เฮ คลิปแรกหายไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 15:54:36 จากคุณ : ถุงกระดาษเปื้อนน้ำตา เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 15:39:38

ความคิดเห็นที่ 25 แง่ว คลิปแรกหายไปได้ไงหว่าาาา จากคุณ : ผู้ชายที่ตามรักเธอไปทุกชาติ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:02:16

ความคิดเห็นที่ 26 ปัญหาเดิม ของทุก ๆ ปี ในช่วงนี้ แต่ก็ไม่เคยแก้กันได้ จากคุณ : domemod เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:03:57

ความคิดเห็นที่ 27 เก็บคลิปสองไว้ดีๆนะคะ ถึงเดือนมิถุ(นา)ยน จะผิด  แต่ไม่เป็นไร ดีกว่าหายไปทั้งคู่ เรากลัวว่าบรรดาสต๊าฟจะไม่มีหลักฐานในการฟ้องนะค่ะ ดิท1.มันเซ็นง่าว ดิท2. แว๊กกกก เซ็นอีกละ ดิท3 แล้วนะ!! เซ็นไรนักหนาเนี่ยไม่เห็นจะหยาบตรงไหนเลย ฮึ่ยๆ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 16:12:48 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 16:10:11 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 16:07:02 จากคุณ : ฤดูเปลี่ยนใจ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:06:13

ความคิดเห็นที่ 28 งี่เง่าจริง = =" จากคุณ : otaruhuhu เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:10:37

ความคิดเห็นที่ 29 บอกตามตรง ผมไม่ชอบเลย "รับน้อง"  รุ่นพี่ไม่สถาบันไหน น่าจะเหมือนกันหมดตรงที่ ใช้อำนาจบาตรใหญ่ บังคับให้นิสิตใหม่เข้าการรับน้องทุกคน จากคุณ : thkrit เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:19:44

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ เตรียมจะไปอิรักกันรึไง -*- ปญอ. 55+ จากคุณ : ควายกินหญ้าคนกินควาย (มองผ่านๆ) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:21:00

ความคิดเห็นที่ 31 คนที่ไล่ให้ไปเรียนที่อื่นตลกมาก  คุณเป็นใครมาจากไหน (เราเป็นพี่เหมือนกัน ดูแล้วขึ้น - -) หวังว่ารุ่นพี่ในปีต่อไปของม.นี้ จะรับน้องได้ดีกว่านี้นะคะ ไม่เห็นด้วยที่ต้องไปฝึกความอดทนอะไรน้องขนาดนั้น จากมุมมองของพี่ที่ปีนี้รับน้องเหมือนกัน ไม่ได้ฝึกทหารเกณฑ์นะคะ  น้องมีหนังสือหนังหาที่ต้องเรียนอีก อะไรที่มันไม่หนักเกินทนเค้าคงไม่ออกมาทำขนาดนี้หรอกค่ะ จากคุณ : iamkeita เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:25:29

ความคิดเห็นที่ 32 ดูแล้ว เอิ่ม.. อยากเห็นอีกด้านเหมือนกันค่ะ จะได้ฟังความทั้งสองด้าน ที่เค้าโพสกันว่าช่วงเวลาแห่งความสุขสนุกในงานน่ะค่ะ เราไม่เห็นด้วยกับการรับน้องแบบนี้เช่นกัน แต่เราก็ไม่ได้ถูกรับมาแบบนี้นะคะ ของเราได้เรียนในมหาลัยที่ตอนแรกเราไม่อยากเรียนเอามาก ๆ แต่พอไป one day รับน้อง (ซึ่งก็ไม่ได้บังคับ แต่เราก็รู้กันเองว่า "ควร" จะไป) พี่เค้าก็มีเล่นเกมส์จับกลุ่มอะไรกันไป เราก็เล่นไปแบบเซ็ง ๆ ทั้งวันเลยค่ะ แต่ตอนจบพี่เค้ามาทำเป็นอุโมงค์ตรงทางออกให้น้อง ๆ ลอดไปขึ้นรถกลับบ้าน มีความหมายนัยยะอวยพรให้น้องไปสู่อนาคตที่สดใส เรารู้สึกรักสถาบันเราจนกระทั่งถึงตอนนี้เลยค่ะ เราเลยคิดว่าคำว่ารักและเคารพรุ่นพี่ มันไม่จำเป็นต้องเอาอำนาจมาใช้กันก็ได้ค่ะ เราไม่เคยเจออำนาจนี้ แต่เราก็รักและเคารพรุ่นพี่(ที่ดี)นะคะ เคยได้ยินคำว่า "ใจซื้อใจ" มั้ยคะ เรากลับชื่นชมน้องคนที่กล้าออกมาพูดนะคะ ท่ามกลางคนหมู่มาก คงไม่มีใครอยาก น้ำเชี่ยวแล้วเอาเรือไปขวาง หรอกค่ะ ถ้ามันไม่สุด ๆ จริง ๆ น้องเค้าก็ต้องพอคิดได้แล้วล่ะว่าถ้าทำไปแล้วอะไรจะตามมาบ้าง แต่มันก็คงต้องสุด ๆ จริง ๆ ถึงได้ยอมรับและออกมาทำแบบนี้ กับคำกล่าวที่ว่า "ใคร ๆ เขาก็ทำกันมา" แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ดูแล้วไม่เหมาะสม มันก็น่าจะเปลี่ยนได้ไม่ใช่เหรอคะ กฎหมายมีเอาไว้คุมกันก็จริง แต่ถ้ากฎหมายมันล้าสมัยหรือทำให้คนเดือดร้อน เราก็แก้กฎหมายกันได้นิ่คะ ความเห็นส่วนตัวของคนนอกนะคะ จากคุณ : Le Petite Fille ~ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:40:24

ความคิดเห็นที่ 33 นึกถึงตอนเป็นรุ่นพี่เค้า ไม่เคยมาเสียเวลาให้เด็กทำอะไรแบบนี้เลย รู้ว่ามันต้องมี แต่ก็ไม่ค่อยจะเข้าไปโหวกเหวกโวยวายกะเค้าหรอก นั่งอยู่ห่างๆ เป็นพี่ติวช่วยสอนน้องดรอวอิ้งบ้าง สอนน้องทำคอมโพสบ้าง สอนโปรแกรมบ้าง ส่วนเรื่องชวนกินเหล้านี่ไม่เคยซักครั้งเลยครับ เพราะรุ่นน้องมันชิงชวนตัดหน้าตลอด เจอหน้าทีไรเป็นอันชวนรุ่นพี่กินเหล้าทุกที ไอ้เราเป็นรุ่นพี่จะปฏิเสธรุ่นน้องก็กลัวจะเสียน้ำใจ เลยต้องไปกินเพื่อคุมเด็กๆมัน เฮ้อ จากคุณ : จับได้โดยละม่อม Return เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 16:54:24

ความคิดเห็นที่ 34 .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:13:30

ความคิดเห็นที่ 35 เป็นการปลูกฝังให้น้องคิดว่า เมื่อใดก็ตามที่น้อง อยู่ในชั้นปีที่สูงกว่า จะทำอะไรกับรุ่นน้องก็ได้ จากคุณ : จบแล้ว (jane_ap1) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:22:59

ความคิดเห็นที่ 36 ทำให้รู้ว่า การศึกษา ไม่ได้ช่วยขัดเกลา ความคิด อะไรเลยจริงๆ จากคุณ : neinz เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:25:50

ความคิดเห็นที่ 37 รุ่นพี่แบบนี้ แถวร้านเกมส์ เขาเรียกว่า "กา ก" จากคุณ : เทพบุตรแดนสนธยา เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:25:52

ความคิดเห็นที่ 38 ** สมัยผมอยู่ปีหนึ่ง เข้าร่วมกิจกรรมเยอะมากนะครับ แต่ถ้ารู้ว่ามีกิจกรรมรับน้อง แล้วมีว๊ากด้วย ขอไม่ไปนะครับ ทุกวันนี้ ผมอยู่ปี 3 ผมก็มี เพื่อน พี่ น้อง โดยที่ไม่ต้องมาผ่านการว๊าก รวมถึงตอนปิดเทอม ผมไปทำงานจัดสโตร์ที่ห้างแห่งหนึ่ง ที่ต้องทนการกดดันมากๆจาก พวก พนง. PC เก่าแก่ๆ ที่นั่น ที่ชอบกัดๆ ว่าๆ ผมก็ทนแล้วก็สามารถผ่านมาได้ ไม่เห็นต้องไปฝึกความอดทนจากการว๊๊ากเลยด้วย ที่สำคัญ ผมก็รักมหาวิทยาลัยของผม รักคณะ รักรุ่นพี่ รักรุ่นน้อง ทุกคน ปล.ให้มันรู้ไปสิครับ การไม่เข้าห้องเชียร์เอย การไม่ผ่านการว๊ากเอย จะใช้ชีวิตในสังคมนี้ไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 17:31:37 จากคุณ : ราชินีน้ำใจ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:31:21

ความคิดเห็นที่ 39 ปีนี้เราเป็นซีเนียร์แล้วล่ะ ^^ แต่ก็ยังไม่เข้าใจคำว่า ได้รุ่น...  ไม่ได้รุ่น.... มันเป็นสิทธิ์ของรุ่นพี่หรอ?? เราคิดเอาเองว่า เมื่อเราสอบผ่านตามกระบวนการ ก็ตั้งใจเรียนทำตามหน้าที่ของตัวเองไป มันก็เรียนจบได้นี่หว่า เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องก็รู้จักกันไว้ ช่วยเหลือกันและกันได้มันก็ดี แต่ไม่ใ่ช่มาบังคับให้รุ่นน้องทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง บางคนก็สักแต่ว่าทำเพื่อความสะใจ ไม่ใช่อยากจะสอนน้องหรอก แล้วค่านิยมแบบนี้ก็จะส่งต่อกันไปเรื่อยๆ "เค้าก็ทำกันแบบนี้ทุกปี" "มันเป็นธรรมเนียม" "ที่ไหนเค้าก็ทำกันทั้งนั้น" ซึ่งก็ต้องคิดบ้างนะ ว่าอะไรมันดี อะไรไม่ดี ไม่ใช่สักแต่ว่าทำตามๆๆๆๆๆ เหมือนคนไม่มีหัวคิด จากคุณ : A Fairy Secret เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:34:31

ความคิดเห็นที่ 40 สมัยผม ผมเดินออกไม่เข้าร่วมครับ แล้วก็เรียนจบแบบไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย จริงๆ จากคุณ : ไม่หมูนะครับ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:40:26

ความคิดเห็นที่ 41 ไร้สาระอ่ะ รับน้องแบบนี้ จากคุณ : djzero1 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:43:02

ความคิดเห็นที่ 42 รับน้องอย่างงี้ผมโดดตั้งแต่วันที่ 2 แล้ว ฮี่ๆๆๆ มาคบกันกับเพื่อนทีหลังยังโอเคกว่าเลย ว่าแต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันม. นี้หรือม. อื่นๆ โดดซ้อมแล้วมีปัญหาปล่าว แต่ม.ผมชิวๆ เข้าแค่เฉพาะสาขาอะนะ ได้รู้จักเพื่อนที่เรียนจริงๆ เพื่อนต่างคณะเดี๋ยวก็จะมาเองแหละเรียนไปเรื่อยๆ ลงทะเบียนตัวโน้นนี้ตัวนึงเจอคนลงที่หลากหลายเลยแหละ จากคุณ : คุณเชี่ยวชาญ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:51:23

ความคิดเห็นที่ 43 แหม เสียดายจัง ถ้ามาเจอรับน้องของ รร ผมล่ะก็ ที่นี่ถือว่าจิ๊บๆๆ มั่กๆ ^^" ถ้าบอกชื่อไป ใครอยู่ในวงทหารเรือ ต้องรู้แหงมๆ ^^ จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:52:22

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ชอบการรับน้องแบบนี้ค่ะ ห่วย จากคุณ : tangmo_ka เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:55:02

ความคิดเห็นที่ 45 เอิ่ม นำเสนอด้านเดียวหรือเปล่าครับ   ผมก็จบจากมหาลัยนี้นะ จบมาสักระยะ นึงแล้วว   เหตุการณ์ทุุกเหตุการณ์ ถ้าไม่เห็นทั้งหมด อย่าเพิ่งใส่อารมณ์ร่วมให้มากจนเลยเถิดเลยครับ บางคนเห็นด้วย บางคนไม่เห็นด้วย มันย่อมมีความคิดที่แตกต่าง แต่จงพึงสังวร เอาไว้ว่า "เหรียญ มี 2 ด้านฉันใด"  สิ่งที่ท่านรับรู้อยู่ในตอนนี้ ก็ต้องมีอีกด้าน ฉันนั้น เพราะฉะนั้น   เอาไว้ให้ฟังเรื่องจริง ให้ครบหมดค่อยว่ากันอีกรอบ เพราะตอนรุ่นผม ก็สนุกสนาน เฮฮาปาร์ตี้ ปะจิงโกะ ส่วนการรับน้อง หรือไม่รับน้องไม่ได้วัดว่า คุณ จะเรียนจบหรือ วัดในอนาคต ของคุณว่า จะประสบความสำเร็จหรือไม่   แต่การรับน้องมันจะเป็นภาพความทรงจำที่สวยงาม เมื่อคุณได้มองย้อนหลังกลับไปนึกถึงมัน ผ่านมาเกือบสิบปี ผมก็ยังยิ้มได้อยุ่นะเวลานึกถึงช่วงโหดมันฮา แบบนั้น จากคุณ : dookdiklove_mon เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 17:58:27

ความคิดเห็นที่ 46 เอ่อ....รับน้องหรือฝึกทหารคะเนี่ย โหดมากๆ นึกย้อนไปตอนเป็น Freshy (4 ปีที่เเล้ว) รู้สึกดี มีความสุขกับการถูกรับน้องมาก เป็นช่วงเวลาหนึ่งที่มีความสุขจริงๆ ไม่มีสีหน้าเศร้าๆเหมือนในคลิปเลยคะ จากคุณ : อะเซเดเฮ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:16:25

ความคิดเห็นที่ 47 ไม่สร้างสรรค์อ่ะ ถ้าจะปลูกฝังค่านิยมมันมีวิธีอื่นอีกมากมาย ส่วนตัวไม่ชอบค่ะ เคยโดนมาแต่ไม่คิดจะทำกับใคร ใจเขาใจเรา ตอนเราๆเป็นปีหนึ่งก็ไม่ชอบ น้องก็ไม่ชอบเหมือนกันหล่ะ หาวิธีอื่นได้ไหม จากคุณ : Noomnum12 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:35:56

ความคิดเห็นที่ 48 ไร้สาระมาก จากคุณ : นู๋เมล์จ้ะ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:36:15

ความคิดเห็นที่ 49 ชอบ คห.39มากกกกกกกกก เห็นด้วยค่ะ จากคุณ : Noomnum12 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 18:38:33

ความคิดเห็นที่ 50 คุณมะขามดองจบโรงเรียนพี่โรงเรียนน้องผมเปล่าครับเนี่ย แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 19:29:02 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:28:47

ความคิดเห็นที่ 51 ทำไมเราดูคลิปที่2ไม่ได้อ่ะคะ จากคุณ : ajgtosm เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:37:07

ความคิดเห็นที่ 52 ปัญญาชน เป็นกันอย่างนี้แล้วหรือ ... จากคุณ : ผ้าพันคอสีเขียว เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 19:42:09

ความคิดเห็นที่ 53 <iframe width="560" height="349" src="http://www.youtube.com/embed/GR3OyOjEAUk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe> อยากให้ดูค่ะ ว้าาาา ใส่ยังไงอ่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 20:14:04 จากคุณ : jernnrej เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:12:56

ความคิดเห็นที่ 54 อายจัง นั่นมหาลัยเก่าเรา  แต่เราจบมาได้  3 ปีแล้ว ตอนเราเข้าเรียนใหม่ ๆ ไปแค่วันแรกเท่านั้น เพราะรับไม่ได้กับพวกที่ชอบแสดง !!! เด็กพวกนี้มันเก็บกดจากที่มันเคยโดนกระทำต่อ ๆ มา จากคุณ : กิ๊กจัง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:30:09

ความคิดเห็นที่ 55 ผมเคยฝ่านการฝึกทหารมา ฝึกทหารยังไม่โหดขนาดนี้เลย 5555 ปล. แต่แบบนี้ชอบนะ ฮาดี จากคุณ : Darth Aiglatson เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 20:39:39

ความคิดเห็นที่ 56 กาก สุด ๆ จากคุณ : ถ้าไม่ซ้ำเอาชื่อนี้ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:07:00

ความคิดเห็นที่ 57 รุ่นพี่นี่หัดบ้าอำนาจตั้งแต่เด็กๆเลยป่าวเนี่ยยยย สงสัยโตขึ้นเป็นเจ้าคนนายคน ทั้งบริษัทคงลาออกเพราะคุณอ่ะ จากคุณ : สาสน้อยกะปุ๊กลุ๊ก (สาวน้อยกะปุ๊กลุ๊ก) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:14:20

ความคิดเห็นที่ 58 รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น รุ่น กาก จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:29:11

ความคิดเห็นที่ 59 แบบนี้ทุกปี จากคุณ : ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้าย เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:38:22

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนน้องเขาจบออกไปทำงาน รบกวนรุ่นพี่ ออกเกียรติบัตรให้น้องด้วยนะคะ ว่า "นาย/น.ส ได้ผ่านกระบวนการรับน้องที่ กา ก มากๆมาแล้ว" เผื่อบริษัทเค้าจะได้รับน้องคุณเข้าทำงานแบบไม่ต้องดูวุฒิ ดูเกรด แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 21:43:16 จากคุณ : สาวมะม่วง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:40:50

ความคิดเห็นที่ 61 มาไม่ทัน เป็นส่วนตัวไปซะละ จากคุณ : RelationShip เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:47:30

ความคิดเห็นที่ 62 "รุ่นพี่" คุณทำอย่างนี้กับรุ่นน้องในการรับน้องใหม่ดูเท่ดูมีอำนาจมากเลยนะคะ แล้วเวลารุ่นน้องมีปัญหาคุณช่วยเค้าได้มั้ย ตอนรุ่นน้องสอบคุณจะติวดึงเกรดให้พวกเค้าได้รึเปล่า รุ่นน้องที่มีปัญหาเกือบโดนรีไทร์คุณจะแนะนำเค้ายังไง หรือดีแต่ปากไปวันๆ จากคุณ : lincyberg เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:48:05

ความคิดเห็นที่ 63 จริงๆ การรับน้องมันมีที่มาที่ไป และมีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่การทำลอยๆ เอาสนุก อันนี้พูดในภาพรวมนะ ไม่ใช่เฉพาะวีดีโอที่ว่านี้ ตอนรับน้อง จำได้ว่า ต้องร้องเพลงคณะได้ ต้องจำชื่อเพื่อนร่วมห้องร่วมรุ่นให้ได้ ต้องขอลายเซ็นรุ่นพี่ให้ได้ หลายๆ ครั้งที่โดนด่า เพราะแต่งตัวไม่เรียบร้อย ไม่เข้าประชุม ทิ้งเพื่อน เพื่อนก็โดนทำโทษ หลายสิ่งหลายอย่างมันเป็นการ "สอน" โดยทางอ้อม แต่อาจเพราะกาลเวลาที่ผ่านไป ทำให้คนรุ่นใหม่ๆ มองการรับน้องแต่เพียงฉาบฉวย เห็นมันเป็นการเอาเปรียบและทำร้ายรุ่นน้อง รับน้องนอกสนานที่ ไปทะเล ไปตจว. รุ่นพี่ทุกคน รวมเงินกันออกหมด รุ่นน้องไม่ต้อง กินข้าว กินเหล้า ทำอะไรก็แล้วแต่ รุ่นพี่ออกหมด หนังสือ, แนวข้อสอบ ฯลฯ ทุกอย่างที่ชีวิตจะต้องใช้ในรั้วมหาวิทยาลัย มันจะมาพร้อมกับสายสัมพันธ์ระหว่าง พี่-น้อง มีพี่ดี ชีวิตสบายไปร้อยแปด ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ไปกินข้าว ติวหนังสือ หนักๆ ก็กลายเป็นคนรู้ใจ อิอิ เหล่านี้ก็เป็น "ธรรมเนียม" อย่างหนึ่งของการ "รับน้อง" ที่หลายๆ คนมองว่าน่ารังเกียจ บางครั้ง น้องมีเยอะ ก็ต้องมีรุ่นพี่ประจำกลุ่มๆ แล้วเกิดเหตุอะไรมา เช่น แต่งตัวผิดระเบียบ รุ่นพี่คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ รุ่นน้องรอด ที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งของการรับน้อง มันคือการปลูกฝังในการรักสถาบัน รักพวกพ้อง และให้เกียรติกับ "ลำดับอาวุโส" งานเลี้ยงระดมทุนที่สถาบันดีๆ สามารถจัดขึ้นได้ ได้เงินเป็นสิบๆ ล้าน เพราะศิษย์เก่าของพวกเขาไม่เคยลืมสถาบัน ไม่เคยลืมกำพืด ใครสอนเรามา เราได้ดีทุกวันนี้จากใคร ที่ไหน มีหลายๆ คนที่เข้าไป ก็ไม่ได้สนใจว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของอะไรไปแล้ว ให้ความสำคัญแต่ตัวเอง อีโก้ของตัวเอง จบมา ก็ไม่เคยคิดถึง ผูกพันธ์อะไรกับที่ๆ ตัวเองจบมา รุ่นพี่ ไม่เคยจำได้ สถาบันดีๆ รุ่นพี่จะสนิทกับรุ่นน้องมาก เพราะผ่านการรับน้องมาด้วยกัน เรียนจบ รุ่นพี่ก็มาแนะแนวการหางานให้ รุ่นพี่กับรุ่นน้อง keep contact กันตลอด สมัยนี้ รุ่นพี่ ก็เหมือนหมา เหมือนเงา เจอไม่ทัก ผ่านไม่ไหว้ ไม่สวัสดี ต่างคนต่างอยู่ อยู่กรูอยู่เมิง แบบนี้ที่คนรุ่นใหม่ต้องการ อีโก้ของคนรุ่นใหม่ มันทำให้ช่องว่างระหว่างอายุ ประสบการณ์ มันหายไปหมด เดินในอ๊อฟฟิศ แทบจะชนตัวกันอย่าได้หวังจะทัก จะไหว้ การรัก เคารพ ให้เกียรติ ทั้งในที่ๆ ตัวเองอยู่ ที่ๆ ตัวเองจบ รวมถึงกลุ่มคนที่อยู่มาก่อน มันไม่ได้ใช้ได้เฉพาะในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่มันใช้ได้หมดทุกที่ เพียงอีโก้ของคุณพร้อมจะเข้าใจมันไหม พร้อมจะหยุดคิดไหม นศ.สมัยใหม่ ชอบชีวิตมหาลัย แค่เพราะมันดูดี สมัยนิยม เที่ยวแตร่กินเหล้าเมายา ไม่เห็นหัวรุ่นพี่ นินทาอาจารย์ บ้างเรียกอาจารย์เสียๆ หายๆ กรู, เมิง, สาด, เอี้ย ฯลฯ ไม่มีคำใดหยาบเกินไปที่จะใช้กับคนที่อาวุโสกว่า สำหรับพวกคนที่ไม่มีคำว่า เคารพความอาวุโส อยู่ในหัวสมอง แน่นอน การรับน้องไม่ใช่การล้างสมอง โอมจงรัก โอมจงหลง แต่เป็นการสร้างสถานการณ์ให้แต่ละคนได้คิดกันเอาเอง อ๊อฟฟิศเดียวกัน ทำงานที่เดียวกัน หรือ เรียนที่เดียวกัน มาร่วม 6 เดือน หรือ 1 ปี แต่ไม่รู้จักชื่อกัน มีมั้ย? มีสิ เพราะพวกเขาไม่สนใจสังคม ไม่สนใจระบบอาวุโส ไม่สนใจในการรับน้อง ต่างคนต่างอยู่ รับน้อง ช่วย "ละลายพฤติกรรม" ให้คนแปลกหน้าที่ปกติอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีกว่าจะได้รู้จักพูดคุยกัน สามารถเปิดใจยอมรับกันและกันในตัวพวกน้องๆ เอง ภายในเวลาไม่กี่อาทิตย์หรือไม่กี่เดือน ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น และระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องมันสำคัญมาก สำหรับการปรับตัวเข้ากับที่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะโรงเรียน หรือที่ทำงาน มนุษย์ เป็นสัตว์สังคม ไม่มีใครมีสุขได้ตลอดเวลากับการอยู่คนเดียว หลายๆ คนล้มเหลว ไปต่อไม่ไหว ไม่ใช่เพราะเรื่องการเรียน แต่เป็นเรื่อง "สังคม" ไม่มีคนคุยด้วย ไม่มีที่ปรึกษา ใครๆ ก็ไม่ยอมรับ.. ไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ มี และเกิดขึ้นมาแล้ว เรียนไม่จบกลางคัน ทั้งๆ ที่มาครึ่งค่อนทางแล้ว เสียเวลา เสียเงิน เสียโอกาสไปเท่าไหร่ แค่เพราะอีโก้ตัวเดียว มองอะไรอย่ามองด้านเดียว ไม่มีอะไรที่ดีสุดขั้วหรือชั่วสุดขีด รุ่นพี่ที่ดี การรับน้องที่ดี จะไม่เพียงแต่ทำให้ได้รุ่นน้องที่ดี แต่จะได้ลูกที่ดี เพื่อนที่ดี ไปจนถึงคนทำงานที่ดี อีกด้วย จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:49:40

ความคิดเห็นที่ 64 พูดตรงๆ ว่าไม่ค่อยศรัทธาในการรับน้อง แบบเอาพี่มาว้ากๆๆๆ ตอนนี้เรียนจบแล้ว ก็ยังไม่มองไม่เห็นถึงประโยชน์ของตรงนั้นอยู่ดี ตอนเข้าไปปี1 มหาวิทยาลัยเรา (รัฐบาล) คณะเรารับกันหนักมาก โดยรุ่นพี่บอกว่ามันมีข้อดีดังนี้ 1.ล้างพฤติกรรมเดิมๆของรุ่นน้อง จากที่มาจากโรงเรียนเอกชน หรือรัฐบาล ต่างจังหวัดอะไร ให้มีความเท่าเทียมกัน ////// อยากบอกว่า จบการรับน้องทุกอย่างเข้าภาวะเดิม 2.สร้างมิตรภาพในขณะที่รุ่นพี่มอบหมายงานหนึ่งให้พวกเราช่วยกันจัดการ ////// อยากบอกว่า หลังจากหมดรับน้องเราก็กลับสู่ภาวะเดิม แบ่งกันเป็นเหล่าเป็นก๊ก ตามเอกวิชา หรือตามที่สนิทมาแต่แรกแล้ว ส่วนพวกที่เขมิ่นกัน ก็เขม่นกันเหมือนเดิม 3.ฝึกความอดทน ////// ความอดทนในเรื่องที่ไม่เข้าท่า เช่น ไม่ให้น้องกินน้ำ หิวน้ำมากจนต้องไปเปิดน้ำก๊อกกินกัน  ให้น้องรับน้องถึงดึกดื่น กว่าจะกลับถึงบ้าน ไหนจะงานที่อาจารย์สั่งอีก ไม่รู้เมื่อไหร่สิ่งที่เค้าเรียกกันว่า ประเพณี แบบนี้จะหมดไปซะที  มันน่าจะมีกิจกรรมที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์มากกว่านี้ มากกว่าให้เด็กมายืนตากแดด ตากยุง ถ้าบอกว่าฝึกความอดทนเพื่อไปเป็นทหารอันนี้จะเข้าใจมาก แต่การรับน้องแบบนี้ไม่เห็นจะได้อะไร นอกจากความสะใจของพี่ว้าก แล้วเอามาโม้กันในวงเหล้าทีหลัง กิจกรรมดีๆที่ทำให้เรามีความรู้สึกดีๆต่อเืพื่อนน่ะมีเยอะแยะ ถ้าใช้สมองคิดสักหน่อย เช่นการไปบำเพ็ญประโยชน์ให้สังคมเป็นหมู่คณะ ช่วยกันซ่อมแซมทำความสะอาด บริเวณมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ ว้าก โหด ด่า แล้วบอกฝึกความอดทน ล้าหลังมากแล้วค่ะ จริงอยู่นะคะ ว่าประเพณีคือสิ่งที่มีมาช้านาน แต่ประเพณีทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ดูกันที่วัตถุประสงค์ดีกว่าค่ะ (สิ่งที่แสดงความเห็นมาทั้งหมดคือสิ่งที่ประสบกับตัว ไม่ได้พาดพิงบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง) จากคุณ : Ray56 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:57:29

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่าการให้ความเคารพหรือรักสถาบันมันไม่เกี่ยวกับการรับน้องหรอกครับ สถาบันที่ผมจบสมัยมัธยมไม่มีการรับน้องแต่ผมก็รักสถาบันแห่งนั้น ใครมาว่าผมก็ไม่ชอบ จำได้ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งจะถูกทำเป็นรัฐสภา ศิษย์เก่าเค้าก็มาร่วมปกป้องทั้งๆที่ไม่เห็นว่าสถาบันแห่งนั้นเค้าจะเคยมีการรับน้องมาก่อน ส่วนเรื่องรุ่นพี่ผมกลับมองว่าคนที่ประพฤติดีคนอื่นย่อมให้ความเคารพ พี่ที่เทำงานผมแกไม่ได้จบสถาบันเดียวกับผม แต่ แกทำงานเก่งมาก ดูแลน้องๆทุกคนใครมีปัญหาแกช่วยหมด ผมเห็นน้องๆทุกคนก็เคารพแก ทำอะไรก็เกรงใจแก การที่คุณรับน้องเพราะอ้างว่าน้องจะได้เคารพพี่แสดงว่าคุณไม่ได้มั่นใจเลยว่าคุณทำตัวให้น่าเคารพ เลยต้องมาใช้อำนาจ ความเป็นพี่เข้าขู่ เลือกเอาเองละกันครับว่าอยากให้น้องเคารพเพราะกลัวหรือให้น้องเคารพเพราะรัก แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 22:00:30 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 21:58:54

ความคิดเห็นที่ 66 คห.63 ที่บอก นศ.สมัยใหม่ ชอบชีวิตมหาลัย แค่เพราะมันดูดี สมัยนิยม เที่ยวแตร่กินเหล้าเมายา ไม่เห็นหัวรุ่นพี่ นินทาอาจารย์ บ้างเรียกอาจารย์เสียๆ หายๆ /// เราว่าถ้ารุ่นพี่ทำตัวดีให้รุ่นน้องเคารพ น้องก็คงไม่ถึงกับมองข้ามหัวไปหรอกค่ะ เพราะบางคนก็จะถือคติว่า อยากไหว้คนที่สมควรได้รับการไหว้เท่านั้น ส่วนเรื่องนินทาอาจารย์ สมัยนี้ อาจารย์นินทานักศึกษากันประเภทว่าก๊อซซิปสุดๆเลยค่ะ เราว่าอีโก้มันก็ละลายได้เมื่อตอนได้ยินเสียงว้ากเท่านั้นแหละค่ะ เหมือนกับโดนขู่บังคับ ให้รัก ให้เคารพ ทั้งที่เราก็ไม่ได้ถามเจ้าตัวเขาเลย ว่าเขายินยอมหรือไม่ มิใช่หรือ? ถ้าเราอยากเป็นผู้ใหญ่ที่ใครๆก็รู้สึกรักและเคารพ เราก็ควรเมตตาและให้เกียรติเขา ไม่ใช่หรอคะ ความเคารพไม่ใช้ความกลัว หากแต่เป็นความศรัทธา ความรักไม่ใช่การบังคับ หากแต่เป็นความสมัครใจ จากคุณ : Ray56 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:08:43

ความคิดเห็นที่ 67 เอาง่ายๆ คนที่ออกมาด่าๆ ปาวๆ กันเนี๊ย เข้าไปจนครบคลาสหรือเปล่า เข้าไปจนจบไหม หรือแค่ ไปเพียงวันแรก เห็นเขาพาร้องเพลงมหาลัย แล้วเลิกไป มันก็เหมือนหนังสือ เล่มหนึ่ง หากคุณตัดสินหนังสือเล่มดังกล่าว เพียงแค่ สองหน้าแรก  คุณก็จะไม่รู้เลยว่า สุดท้ายแล้ว หนังสือทั้งเล่มนั้น ให้ข้อคิด ให้รอยยิ้ม ให้เสียงหัวเราะ ให้คราบน้ำตาอะไรกับคุณบ้าง     และเหตุใดคนที่อ่านจบแล้ว เขาถึงได้บอกว่ามันดี มันสนุกตรงนั้น ตรงนี้ ทำไมไม่ลองมองอีกมุมหล่ะ ครับ พี่ๆน้องๆ ทุกท่าน รุ่นน้องผมทุกคน ถามว่า เข้ารับน้องดีไหม ผมบอกว่าดี ลองเข้าไปดู สนุกสนาน ไม่ต้องคิดอะไรมาก มันเป็นกิจกรรม ที่ตลอดชีวิตการเรียนมหาลัยของน้อง น้องมีโอกาสแค่ครั้งเดียวลองเข้าไปดูแล้วคิดด้วยตัวเองว่า ตัวเองได้อะไรจากกิจกรรมดังกล่าวเมื่อจบคลาสเชียร์     แต่หากไม่เข้า พี่ๆ เขาก็ไม่ไปตบไปตีอะไรกับน้องหรอก มันก็ทำเข้มกันไปงั้นแหละ พอจบคลาสมันก็บ้าๆบอๆ กันเหมือนเดิมแหละ น้องหลายคนตัดสินใจเข้าคลาสเชียมหาลัย คณะ  สาขา ตามลำดับ คนส่วนใหญ่ที่ผ่านคลาสเชียร์จนจบคลาส   หลายคนกลับมาเม้าท์มอย ว่า สนุกสนาน ได้เจออะไรมาหลายอย่าง  แม้บางทีจะน่าเบื่อหน่าย เพราะรู้ว่า พี่คนนี้แกล้งทำแบบนี้ พี่คนนี้แกล้งทำไปแบบนั้น  (มันรุ้จักกันเป็ฯการส่วนตัวบ้างบางคน)    และน้องๆๆ หลายคนมันก็ได้พี่เทค น้องเทค สนิทสนมกลมเกลียวกันไป  ได้เพื่อนกินข้าวในช่วงแรกที่ไปเรียนมหาลัย      ได้กลุ่มเฮฮาปะจิงโกะ ในช่วงตะลอนทำกิจกรรมรับน้อง ส่วนน้องๆบางคนที่ไปไม่จบคลาส หรือไม่ไปเลย เขาก็อยู่กับกลุ่มเพื่อนของเขา(ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ม.ปลาย) เขาก็บอกว่าเอาเวลาไปเล่นเกมส์ เตะบอล อ่านหนังสือ  หรืออื่นๆ แล้วแต่ว่าคนเหล่านั้น เอาเวลาช่วงดังกล่าวไปทำอะไรกันมาบ้าง แต่น้องทั้ง 2 กลุ่ม ก็จบมหาลัยกันนะ มีงานมีการทำ กัน ทั้ง 2 กลุ่ม ทุกวันนี้ผมก็ยังติดต่อกับพวกมันบ้าง(เวลาเงินหมดให้มันมาเลี้ยงข้าวคริๆ)     ผมไม่เคยบอกว่าผิดถูกในสิ่งที่น้องๆ ของผมตัดสินใจเข้าร่วมหรือไม่เ้ข้าร่วม แต่ภาพความทรงจำของ น้องๆ 2 กลุ่มของผม ที่ได้หวนนึกถึงนั้น ย่อมแตกต่างเป็นแน่แท้ จริงไหม? เพราะฉะนั้น  ผมว่า ถ้าไม่ได้รับรุ้หมดทุกด้าน ก็อย่าวิจารณ์ กันเพื่อให้สนุกปากกันเลย ปล. มมส. ดังอีกแล้วงานนี้ ฮาๆๆๆ จากคุณ : dookdiklove_mon เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:27:57

ความคิดเห็นที่ 68 ผมไม่เชื่อว่าการรับน้อง จะทำให้รุ่นน้องหรือรุ่นพี่รักกันครับ แต่ผมเชื่อว่า ถ้าอยากให้น้องเคารพ ปีสอง ก็ต้องเคารพปีสาม  ปีสาม ก็ต้องเคารพ ปีสี่ ทำให้น้องเห็น ทำให้เป้นแบบอย่าง ผมเชื่อว่า อยากให้น้องทำอะไร เราก็ต้องทำให้ได้ก่อนครับ จากคุณ : หน้าตาดี โทษหม่ามี๊กับป๊าป๊า เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:36:43

ความคิดเห็นที่ 69 ในฐานะคนดำเนินกิจกรรมเชียร์คนนึง (หนูไม่ได้อยู่มมส.นะคะ แต่ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยกำลังมีเชียร์คณะอยู่ ซึ่งถือเป็นประเพณีที่ดีของเรามาเสมอค่ะ) สิ่งที่พวกเราทำลงไปในเชียร์คือการทำให้น้องรักกัน คำว่าได้รุ่น หรือไม่ได้รุ่นนั้น อาจจะไม่สำคัญเท่า น้องๆได้สัมผัสถึงแ่ก่นแท้ของประเพณีเชียร์คณะ พวกเราไม่ได้หวัง ให้น้องร้องเพลงผ่านทุกเพลง ไม่ได้หวังให้น้องทำได้อย่างที่เราตั้งไว้ แต่สิ่งที่อยากจะเห็นจากน้องๆทุกคน คือความพยายามที่จะทำมันออกมา ทำทุกสิ่งออกมาด้วยใจ มีการเอื้ออาทรต่อเพื่อนในคณะ ดูแลกันและกัน ผู้ชายปกป้องผู้หญิง และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในรุ่นนั้นๆ เพราะน้องๆต้องอยู่ด้วยกันต่อไปอีกสี่ปี ถ้าไม่ทำให้รักกันตอนนี้ ต่อไปคงยากแล้วค่ะ ปล.หนูไม่ได้มาแก้ตัวนะคะ แต่มาเพื่อเสนอความคิดว่าในกิจกรรมเชียร์นั้น ก็มีข้อดีค่ะ หากแต่เราไม่ทำอะไรที่มันเกินขอบเขต และควรเคารพสิทธิ์ของน้องๆเสมอค่ะ จากคุณ : ใครๆก็เรียกหมูหยอง เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:40:16

ความคิดเห็นที่ 70 ก็จริงครับ แต่คห. 67 และ 69 ครับผมเชื่อว่าแทบทุกคนที่ตอบกระทู้นี้ผ่านการรับน้องมาแล้วทั้งสิ้น ส่วนใหญ่จบทำงานแล้วด้วยซ้ำ ทุกคนรู้ว่าการรับน้องเป็นอย่างไร มีเหตุผลอะไร แต่เหตุใดเค้ายังค้านหล่ะครับ ผมว่าก็เพราะมันไม่เหมาะสมจริงๆไงครับ ผมสังเกตุว่า ส่วนใหญ่(ย้ำว่าส่วนใหญ่ไม่ทั้งหมด) คนที่มาสนับสนุน มักจะเป็นคนที่เป็นพี่ที่ยังไม่จบ ง่ายๆคือกลุ่มคนว้ากนั่นแหละ แต่คนในกระทู้ส่วนใหญ่ที่ค้านผ่านประสบการณ์มาแล้ว แน่นอนว่าเค้าเคยเป็นทั้งน้องที่ถูกรับ และพี่ที่ไปรับน้อง วันนึงเราย้อนกลับมาดู บางทีเราก็เห็นว่าสิ่งที่ทำบางสิ่งมันไร้สาระจริงๆ รู้สึกสงสารน้องที่โดนกระทำ เราถึงมาเตือนน้องๆว่าอย่าทำไงครับ ไม่ใช่ว่าเราไม่เข้าใจน้องๆนะครับ เราเองก็ไม่ใช่ว่าจะผ่านเวลาเหล่านั้นมานานมากจนเป็นพวกหัวโบราณ(คนเล่นเว็บนี้จะแก่ซักเท่าใหร่เชียว) แต่เมื่อวันนึงเมื่อน้องทำงาน ออกไปเจอโลกกว้างน้องจะรู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าว้ากนั้นมันไร้สาระจริงๆ แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 22:48:10 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 22:46:46 แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 54 22:43:28 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:42:34

ความคิดเห็นที่ 71 แถมนิดนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนในที่นี้ไม่ได้ว่าการ"เชียร์"นะครับ การเชีย และการรับน้องอย่างมีวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ดีงามและ ควรคงไว้แต่ที่เค้าค้านกันคือการ"ว้าก"ครับ หวังว่าน้องคงเข้าใจว่า "เชียร์" กับ "ว้าก" ต่างกันอย่างไร จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 22:52:18

ความคิดเห็นที่ 72 เฮ้ยทำไมดูคลิปแล้วผมเฉยๆ ล่ะ ไม่เห็นมีอะไร สมัยเข้าปี 1 ใหม่ๆ ตอนถูกรับน้องผมไม่ชอบหรอก เกลียดด้วย แต่ก็ทนๆ ไป รับน้องมหา'ลัยค่อนข้างดี (รุ่นพี่น่าปิ๊งอยู่หลายคน) ถึงเชียร์ดึกๆ ดื่นๆ รุ่นพี่จะบอกให้น้องปี 1 ผู้ชายเดินไปส่งผู้หญิงที่หอพักจนหมดแล้วค่อยกลับหอตัวเอง ส่วนรับน้องคณะหนักหนากว่ามาก เป็นคณะที่นศ.ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแต่รับน้องโหดสุดๆ รับอยู่เป็นเดือนๆ ช่วงนั้นผมก็คิดนะว่าจะรับให้มันได้อะไรขึ้นมา บ้าอำนาจ ว๊ากไร้เหตุผล เอาน้องมาทรมานเปล่าๆ แต่พอผ่านไปแล้วย้อนกลับมาคิดดูผมว่าการรับน้องก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอก อย่างน้อยมันก็เป็นประสบการณ์หนึ่งของชีวิตนักศึกษา มุมหนึ่งอาจเหมือนถูกข่มเหงจากสต๊าฟ แต่ก็มีอีกมุมที่แสดงถึงความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องของพี่-ลุง-ป้ารหัสที่ซื้อขนมมาเทค เหมือนเหรียญที่มีสองด้านไงครับ ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น   วันปิดเชียร์พวกรุ่นพี่ที่ว๊ากๆ ร้องไห้กันทุกคน คนอื่นคงมองว่าก็แค่ละครตบตา ผมขอบอกว่าไม่ใช่ แล้วที่หลายคนมีอคติว่าพวกว๊ากเกอร์ก็ดีแต่ใช้อำนาจ เรียนคงไม่ได้เรื่อง คณะผมไม่นะ พี่ว๊ากจอมโหดอันดับต้นๆ เรียนจบเกียรตินิยม คนอื่นๆ ก็นิสัยดีมาก อย่ามองพวกเค้าในแง่ร้ายสิครับ ผมไม่ชอบการรับน้องก็จริง แต่การเข้าร่วมกิจกรรมนี้กับเพื่อนร่วมรุ่นร่วมคณะก็ไม่เสียหายไม่ใช่เหรอ ทนไม่ได้รับไม่ได้ก็ถอนตัวออกมาแค่นั้นเอง จากคุณ : Furusato เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:15:17

ความคิดเห็นที่ 74 โหวตให้ออกสรยุทธ์ครับ จากคุณ : ออกเลย (กระดาษในโหลแก้ว) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:29:42

ความคิดเห็นที่ 75 คณะเราไม่เห็นจะมีว้ากอะไรแบบนี้เลย ก็ยังรักกันดียันแยกย้ายกันไปทำงาน ถึงจะบอกว่าตอนจบของการรับน้องหฤโหดจะแฮปปี้เอนดิ้ง แต่มันก็มีวิธีอีกตั้งหลายวิธีที่จะทำให้คนสามัคคีกัน เพราะฉะนั้นเราว่ายังไงๆ การรับน้องแบบว้ากมันก็ไม่ได้สื่อถึงอะไรเลย นอกจากความบ้าอำนาจ ดังนั้นคนที่รู้ตัวว่าทำอยู่ก็เลิกอ้างได้แล้ว ว่าเพื่อความสามัคคี มันฟังไม่ขึ้น แล้วใครที่ยังเป็นเด็กเฟรชชี่ ถ้ารู้สึกว่าการรับน้องนั้นไม่สร้างสรรค์ ก็ไม่ต้องไปเข้าร่วมหรอกค่ะ รุ่นพี่จะขู่อะไรก็ช่าง สุดท้ายคนที่ออกเกรดก็คืออาจารย์ และคนที่ทำข้อสอบหรือทำโปรเจ็คเพื่อจะจบคือตัวเราเอง ดังนั้นอย่าได้แคร์กับรุ่นพี่บ้าอำนาจพวกนี้ค่ะ จากคุณ : ^กว้างxยาว^ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:46:38

ความคิดเห็นที่ 76 เคยผ่านการรับน้องอะไรแบบนี้มาแล้ว และเกลียดมันมากกับระบบนี้ ไม่ได้สร้างสามัคคี ไม่ได้สร้างความเคารพ ไม่ได้สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อย่าบอกเลยว่าเป็นประเพณีที่ดีงาม ไม่เชื่อ คณะผมตอนนี้เลิกระบบนี้ไปแล้ว (ตอนผมเรียนยังมีอยู่ประมาณ 3 ปีที่แล้ว) ก็ยังเห็นว่าน้องๆ เรียนกันได้ เคารพรุ่นพี่รุ่นน้องเหมือนเดิม เรียนจบ ทำงานได้ ไม่เห็นว่าจะแปลกแตกต่างจากที่มีตรงไหน ตอนที่ผมโดนรับนี่ทะเลาะกันทุกวัน จบเชียร์แล้วก็ยังเขม่นกัน มองหน้ากันไม่ติดอยู่เลย ไม่เห็นว่ามันจะช่วยสร้างความสามัคคียังไง ตอนเชียร์ก็บอกรักกันดี ร้องไห้ฟูมฟาย อยากจะบอกว่าความทรงจำตอนเชียร์นี่แทบไม่มี ที่สนิทกับเพื่อน สนิทกับรุ่นพี่ รุ่นน้อง จริงๆ เพราะกิจกรรมอย่างอื่นมากกว่า จากคุณ : ท้องฟ้าอิสระ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:54:34

ความคิดเห็นที่ 77 บางคนชอบที่จะเอาคำว่าผู้อาวุโสมาเป็นตัวปกปิดคำว่าหลงใหลในอำนาจ จากคุณ : L'Oscar เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 54 23:59:08

ความคิดเห็นที่ 78 อืม... นึกว่าอยุ่เกาหลีเหนือ !!~ ปล. แต่อยากให้มองเป็นกลางนะครับ อะไรว่าดีก้ว่าดีกันไป อะไรแย่ก้ว่าแย่ ผมชอบตรงที่รุ่นพี่ทำงานกันเป็นระบบดี นำเอาระบบโซตัสมาใช้คุ้มมาก (ประชดนะ) แต่ส่วนแย่ คือคุณทำกับรุ่นน้อง ยังกับทาส ยังกับเขาไม่มีสิทธิเท่าเทียมคุณ ปล. ผมเองก็เป็นคณะกรรมการนักศึกษา ก็เตรียมรับน้องเหมือนกัน ไม่รู้สิ เห็นในมุมมองนี้แล้วผมก็ิคิดได้ว่า เราจะไม่ทำแบบนี้กับน้องๆโดยเด็ดขาด... ได้เป็นวิทยาทาน 55 จากคุณ : Nanoดะ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 00:27:36

ความคิดเห็นที่ 79 ได้ลองทำ ลองเจอ ลองสัมผัส สิ่งที่ไม่เคย อย่างน้อยชีวิตก็ไม่ใช่เส้นตรง --------------------------------- ที่น่าเบื่อ ให้มันขยับขยุกขยิกบ้าง ขาดบ้าง ก็มันส์ดีนะคะ^^ อย่างน้อยเราก็มีเรื่องเล่า จากคุณ : ก้อยอักษร (k81) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 00:43:09

ความคิดเห็นที่ 80 ผมชอบการรับน้องนะคับ แต่การรับน้องนี่ไม่ใช่การโชว์พาวต่อหน้าน้อง ต้องว๊ากต้องเสียงดังต้องอะไรทำให้รุ่นน้องกลัว ผมโครตเกลียดเลย เพราะตอนผมเรียนปี1 ผมเรียนวิศวะ พวกผมปี1ทั้งหมดเคยลุกขึ้นมาชี้หน้ารุ่นพี่ปี4ท้าต่อยกันตัวๆ เพราะทนไม่ได้ วันๆเอาแต่ซ่อม ไม่ฟังเหตุผล เอะอะไรก็ซ่อมๆ พอถามว่าทำไมถึงซ่อม ตอบไม่ได้ ตอบมาหน้าด้านๆรุ่นพี่ถูกเสมอแรกก็ทนๆกันไปหลังๆ พวกเล่นซะ ลุกนั่งวันนึงซัดเข้าไป200-300 แถมให้ร้องเพลงไปด้วยลุกนั่งไปด้วย ตอนหลังทนไม่ไหวยึดอำนาจ:-)เลย เรียกให้ยืนไม่ยืน มาชี้หน้าปัดมือแล้วก็ลุกทั้งหมด มาเดะเอาป่าวรุ่นพี่แค่30 รุ่นน้องทั้งหมด150กำลังฟิตๆเลย สรุปเงียบไม่มายุ่งอีกเลย แต่หลังจากนั้นพอพวกผมเป็นรุ่นพี่ก็สอนกันเสมอ ว่าอะไรที่พวกพี่ทำแล้วไม่ชอบไม่พอใจให้จำเอาไว้ แล้วอย่าไปทำกับรุ่นน้องแบบนั้น ตอนเป็นรุ่นพี่ ทุกวันนี้ผมก็ยังเรียนอยู่ปี4ละ รุ่นน้องมีปัญหาอะไรก็ให้เป็นรุ่นๆไปแล้วก็บอกเหตุผลที่ซ่อม ปีเกินซ่อมปี4 ปี4ซ่อมปี3 ปี3ซ่อมปี2 ปี2ซ่อมปี1 จะไม่ซ่อมข้ามรุ่นกัน เพราะอย่างน้อยๆ ก็จำได้ว่าอะไรที่ตอนเราเข้ามาปี1แล้วรุ่นพี่ทำกับเราแล้วไม่ชอบ ก็อย่าไปทำแบบนั้นกับรุ่นน้อง อย่าไปคิดว่าตอนปี1เข้ามาโดนอะไรไปมั่ง พอขึ้นปี2จะไปเอาคืนกับเด็กปี1ปีหน้า ส่วนเรื่องตัดรุ่นไม่ตัดรุ่นก็คงแล้วแต่คณะอะคับ อย่างวิศวะของผม ก็รับรุ่นก็คือแจกเข็ม บางสาขาก็ปักshop ถ้าไม่เข้าก็แค่ไม่ได้เข็ม shopไม่ได้ปักแค่นั้น แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 00:52:50 จากคุณ : หนึ่งเดียวในโลก เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 00:50:50

ความคิดเห็นที่ 81 มันเป็นสิ่งดีๆได้ ถ้าใช้ให้ถูกวิธี แต่มันก็เป็นดาบสองคม ถ้าอำนาจอยู่ในมือที่ผิด อยู่ที่จุดประสงค์ของแต่ละที่มากกว่า ว่าการ "รับน้อง" มีไว้เพื่ออะไร ความนับถือ ความกลมเกลียว ฯลฯ บทเรียนที่ได้ มันก็ขึ้นอยู่กับคนที่จะเอามันมาคิิด ว่าเราได้อะไรจากกิจกรรมนี้บ้าง การทำงานกับคนเยอะๆ ความกล้าแสดงออก การแก้ปัญหา ฯลฯ จุดประสงค์ที่ภาควิชาผมมี ตอนจัดกิจกรรมนี้คือ มันเป็นครั้งเดียวในชีวิต - สัมผัสมันให้เต็มที่ เพราะไม่มีอีกแล้ว ยกเว้นน้องซิ่ว อยากให้น้องสนุกสนาน - ดราม่าน้ำตาริน จบลงด้วยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ หยังกะหนังหักมุม อยากให้น้องรู้จักกันเยอะๆ ทำงานร่วมกันเยอะๆ - จะได้รู้จักกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น รู้จักนิสัยของคนแต่ละคน ภายในเวลาอันสั้น เป็นต้น ทุกกิจกรรมที่ทำ รุ่นพี่ดูเหมือนโหดร้าย เฉยชา ว้ากเป็นอย่างเดียว แต่จริงๆแล้ว คุยกันแล้วคุยกันอีก น้องจะเจ็บมั้ย น้องจะเป็นอะไรมั้ย น้องจะคิดมากมั้ย ฯลฯ เป็นห่วงกันทุกอย่าง กว่าน้องจะรู้ความจริงก็หลังจบกิจกรรม บ่อน้ำตาแตกกันบ้าง ขำกันบ้าง การเคลื่อนไหวทุกอย่างของรุ่นพี่ ต้องปรึกษาอาจารย์ ว่าเหมาะสมมั้ย ผ่านมั้ย บางเรื่องก็โดนตีกลับ บางเรื่องก็ไม่อนุญาต เพราะมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่นให้น้องหมอบกับพื้นสะอาด เรื่องง่ายๆแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเดี๋ยวน้องเจ็บ เดี๋ยวผู้ปกครองจะว่าทำไมต้องให้หมอบ เพราะฉะนั้นกิจกรรมนี้ ของภาควิชาผม ปลอดภัยสุดๆ จริงๆกิจกรรมนี้มีข้อดีหลายอย่าง ที่อธิบายไม่หมด แต่ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง เวลามีที่ไหนใช้กิจกรรมนี้ในทางที่ผิด คนจะรับรู้ว่าการรับน้องมันมีแค่ว่า รับน้องโหด รับน้องแย่ รับน้องมันบ้าอำนาจ รับน้องลามก อยากให้รับรู้ว่า คนที่ทำกิจกรรมรับน้องดีๆ มันยังมีอยู่นะครับ เอวังฯ.... จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:08:26

ความคิดเห็นที่ 82 อ่านจากดราม่ามาแล้วค่ะ ม.เราก็มีพี่ว๊ากค่ะ ม.เพื่อนเราก็มีพี่ว๊ากค่ะ ม.ไหนๆก็มีพี่ว๊ากค่ะ แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย นั่นอาจจะเป็นเพราะ สามัญสำนึก และเหตุผลที่มีมั้งคะ ไม่เคยมีรุ่นพี่คนไหนที่ว๊ากแล้วบอกว่า ถ้าไม่พอใจก็ลาออกไปซะ มีหลายรุ่นค่ะ ที่ออกจากระบบ ไม่เอาพี่เอาน้อง แต่ก็เท่านั้นค่ะ ต่างคนต่างอยู่ แต่การที่หิ้วปีกรุ่นน้องขึ้นไปประจานให้ออกจากระบบนี่ ไร้สาระมากค่ะ จากคุณ : MHEESKA เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:12:19

ความคิดเห็นที่ 83 อย่างแรก ต้อง "แยกแยะ" ก่อนว่า พูดถึงอะไร พูดถึง "การรับน้อง" หรือพูดถึง "การว้าก" เพราะ 2 อย่างมันสามารถแยกกันได้ รับน้องไม่ต้องว้ากก็ได้ แต่ถ้าพูดฟาดรวม เหมาไปว่ารับน้องมันเลวหมด มันก็เกินไป ที่เปรยก่อน เพราะบางทีก็งงๆ ด่าการรับน้อง แต่ยกมาเฉพาะ "ว้าก" กับการใช้อำนาจเกินเหตุของรุ่นพี่ ถึงได้งงว่า อย่าบอกนะว่า ในจินตนาการเห็นการรับน้องมันตื้นแค่มีการว้าก ด่ารุ่นน้อง และรุ่นพี่รังแก? ถ้าคิดแค่นี้ ก็แย่นะ ประเด็นอื่นๆ มันต่างกันในหลายๆ เรื่องนะ เช่น สมัยธยม กับ มหาวิทยาลัย ผมก็รักโรงเรียน ไม่ต่างกัน โดยไม่ต้องรับน้อง ใช่ แต่ก็ต้องมองว่า มัธยม เล็กใหญ่ขนาดไหน ใครๆ ก็รู้จักกัน เพื่อนๆ กันหมด หรือว่าเป็น มหาวิทยาลัย นักศึกษาเป็นหมื่นๆ เดินกันไม่ถึง ต้องนั่งรถกันภายในกว่าจะไปเรียนแต่ละตึก ตามปกติ อย่าแต่ว่า "เพื่อนร่วมสถาบัน" แค่เพื่อนร่วมคณะ หรือแม้แต่เพื่อนร่วมคลาส บางทียังไม่รู้จักชื่อ สังคมมหาลัย มันกว้างใหญ่กว่ามัธยมมาก คนมาก ต่างคนต่างที่มา ถึงได้ต้องมีการรับน้องเพื่อรวบรวมเอา "ใจ" ของทุกคน ก็แบบที่บางคนว่า มัธยม ไม่มีการรับน้อง ก็ยังรักสถาบัน ก็ยกตย.ให้ฟังไปแล้ว เช่นว่า ขนาดของสังคมมัธยมมันแคบ แต่มหาลัยมันกว้าง ดังนั้นความกลมเกลียวโดยพื้นฐาน มัธยมย่อมดีกว่า แถมด้วยวัยมัธยมก็ยังรวมกันง่าย ไม่เหมือนมหาลัย ที่เอาวัยรุ่นอีโก้จัด นับหมื่นๆ จากนับสิบๆ จังหวัดทั่วประเทศ มารวมกัน สังคมเล็ก กับ สังคมใหญ่ มันไม่เหมือนกัน ถึงได้บอกว่า อย่าเพิ่งเทียบระหว่างมัธยมกับมหาลัย สมัยมัธยม ผมก็จำชื่อเพื่อนๆ ตั้งแต่ห้อง 1 ถึงห้อง 7 (ปัจจุบันถึง 14 มั้ง?) ก็ยังได้ เพราะมันแคบกว่ามหาลัยมาก ที่สำคัญ วัยมัธยม ยังเด็ก อีโก้ส่วนตัวยังไม่สูง สังคมส่วนตัวยังไม่มาก แต่พอโตๆ มา แต่ละคนก็มีอัตลักษณ์ของตัวเอง มีที่มาที่ไปของตัวเอง มีกลุ่มเพื่อนตัวเอง มีพวกพ้องตัวเอง นี่คือ เด็กมหาลัย มันไม่ใช่เด็กมัธยมที่ยังใสๆ ชอบมีเพื่อนเยอะแยะไปหมด อีกต่อไปแล้ว ตรงนี้แหละ ที่การรับน้องทำให้เด็กใหม่ๆ อีโก้สูงๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะซิ่วหรือไม่ ได้โอกาสมีเพื่อนใหม่ คุยกับเพื่อนใหม่ ได้มีพี่ ได้มีสังคมใหม่ มีที่ปรึกษา ซึ่งก็อย่างที่บอกไปแล้ว ปกติ การจะ "ละลายน้ำแข็ง" ของคนโตๆ ได้มันยาก ยิ่งแก่ ยิ่งละลายยาก ถ้าปล่อยๆ ตามปกติ ถ้าไม่หลายเดือนก็เป็นปี เผลอๆ บางคนเรียนด้วยกันมา 4 ไม่รู้จักชื่อกันก็ยังมี แล้วก็ สิ่งที่เขียน ก็ไม่ใช่บอกว่า "ว้าก" เป็นสิ่งดี แต่บอกว่า การรับน้องมันก็มีเหตุผลที่ดีรองรับเหมือนกัน ไม่ใช่ให้มองด้านเดียว หรือมองอย่างฉาบฉวย รุ่นพี่ทำตัวดี รุ่นน้องก็เคารพเอง? มองโลกสวยไปหน่อยครับ เราก็ไม่ได้บีบคอให้เค้ามารัก แต่ให้สถานการณ์มันไปเอง ที่สำคัญ มันสร้าง "ความรู้สึกรับผิดชอบ" ที่จะส่งต่อกันเป็นรุ่นต่อรุ่นลงไป การเป็นรุ่นพี่ หลายๆ คนมองว่าเหมือนการได้ดาบให้คนบ้าเอามาเหวี่ยงเล่น แต่จริงๆ มันคือความรับผิดชอบอันมหาศาล เป็นรุ่นพี่ที่ดี รุ่นน้องขอร้องไหว้วานอะไรก็ควรจะทำได้ มีสอบ รุ่นพี่ที่ดีก็ควรจะติวให้ ผมเรียนจบแล้ว ผ่านทั้งการเป็นรุ่นน้องและรุ่นพี่ ผมเข้าปีหนึ่ง ก็อายุ 20 แล้ว แต่เจอประโยคที่ว่า "มาก่อนเป็นพี่ มาหลังเป็นน้อง มาพร้อมเป็นเพื่อน" ผมก็ไหว้ปะหลกๆ ไปทั่ว ทั้งที่พวกปี 2 ที่มารับน้องผม ก็อายุน้อยกว่าผมทั้งนั้น โลกนี้ไม่ได้มีผมคนเดียว ผมอายุมากกว่าใช่ว่าจะได้รับการนับถือ แน่นอนว่าหลังจากรับน้อง พี่ที่ดีเราก็จะยิ่งสนิท พี่ที่ไม่ค่อยดีเราก็ห่างๆ หน่อย แต่ถ้าไม่รับน้อง ประตูนี้ก็อาจไม่ได้เปิดเลย ก็เป็นได้ ทุกครั้งที่เข้าประชุม พี่จะสอนเสมอว่า "คณะเรา ผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิง เพราะฉะนั้นมีอะไรเราต้องคอยดูแลเพื่อน.. ถ้าเจอเพื่อนไปไหนตอนกลางคืนก็ควรไปส่งหรือไปเป็นเพื่อน" ฟังดูเว่อร์ แต่ก็มีจริงๆ เป็นเรื่องดีๆ กับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนจะทำให้กันได้ "วันนี้ เพื่อนผู้หญิงแต่งตัวผิดระเบียบ พวกคุณจะรับผิดชอบมั้ย" แล้วเราก็โดนทำโทษกันไป แต่มันทำให้เรารักกันขึ้น เพื่อนผู้หญิงไม่อยากให้เราลำบาก ก็จะพูดกัน ขอร้องเพื่อนที่ผิดระเบียบให้เห็นแก่เพื่อนคนอื่น ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เอาน้ำมาให้เพื่อนผู้ชาย ฯลฯ มีหลายๆ ครั้ง ที่เพื่อนในรุ่น ร้องไห้ ไม่ใช่เพราะทรมาน แต่เพราะ "สงสารและเห็นใจ" ใคร? ผมไง เราไง พวกเค้าร้องไห้ให้เรา คนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่เกิน 1 เดือน แต่เพราะเราผ่านอะไรมาด้วยกัน ร้อนก็ร้อนด้วยกัน หิวก็หิวด้วยกัน โดนด่าก็ด้วยกัน พวกคุณพร้อมจะร้องไห้อย่างจริงใจให้คนแปลกหน้าได้ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่? ก็อาจใช่ที่ความกลมเกลียวแบบนั้นไม่ได้มีไปตลอด 4 ปี แต่จะบอกว่า "ทิ้งมันไปหมดหลังจากรับน้องเสร็จ" ก็ต้องบอกไม่ใช่หรอกครับ อย่างนั้น คงต้องโดนรถชนจนเสียความทรงจำไปกระมัง ผมกับเพื่อนผู้ชาย เคยโดนด่าโดนทำโทษหนักๆ ไม่ใช่เพราะเรา แต่เพราะเพื่อนๆ ผู้หญิงแต่งตัวผิดระเบียบ ผิดกฏมหาลัย เราเป็นผู้ชายต้องรับโทษแทนผู้หญิง แต่ก็ไม่มีใครเคยบ่นว่าผู้หญิง เพราะไม่รู้อย่างไร เราก็ภูมิใจที่ได้ทำ ได้ปกป้องเพื่อนๆ เคยมี เพื่อนผู้ชายผม เป็นลม ชัก ผมกัดกรามกรอด ก่อนจะเอ่ยโดยไม่ได้สังเกตว่ามีรุ่นพี่ปี 3 อยู่ใกล้ๆ ว่า "เมิงคอยดูนะ ถ้าไอ...เป็นอะไรไป .. กรูจะ.. (ตอนนั้นคิดไม่ออก)" "กรูจะลาออก" (มานึกทีหลังก็แอบฮา แล้วมันยังไงล่ะนั่น 555) รุ่นพี่ก็คุยกับผม ว่า เมิงไม่ต้องห่วง พี่ก็ห่วงน้องทุกคน ไม่มีใครอยากให้ใครเป็นอะไร เดือดร้อนมา รุ่นพี่ ก็เข้าคุกแถมโดนไล่ออก เรารักกันมาก ทุกคนรู้จักกัน รู้จักกันอย่างรวดเร็ว เพราะเราผ่านอะไรมาด้วย มีอะไรๆ ให้แชร์กันเยอะ พี่น้องคณะเดียวกัน เจอกันตามตลาด ก็ไปส่งกัน ก็รู้จักกันดีนี่ รุ่นน้อง เห็นพี่ไกลๆ ก็หวัดดี รุ่นน้องที่ไม่รับน้อง เค้าไม่ทำ ไม่สนใจสังคมและรุ่นพี่ ไม่ใช่เพราะรุ่นพี่น่ารังเกียจ ไม่อยากไหว้ แต่มันเป็นนิสัยตามปกติของคนที่จะเว้นระยะห่างกับ "คนที่ตัวเองไม่สนิท" ย้ำ รุ่นพี่ไม่ได้น่ารังเกียจ แต่รุ่นที่ไม่ทัก เพราะมันเป็น "ระยะห่างทางสังคม" แบบที่ผม คุณ และหลายๆ คนนี้จะทำใส่กัน ถ้าเราเจอหน้ากัน แน่ล่ะ ก็เราะไม่รู้จักกันนี่ และผมก็ไม่ได้น่ารังเกียจ หรือคุณไม่ได้น่ารังเกียจ แต่ถ้าเปลี่ยนระหว่างเราเป็นรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่รับน้องมาด้วยกัน ต่อให้ไม่รู้จักชื่อ แค่รู้จักว่าเรียนคณะเดียวกัน ก็ไหว้แล้ว พร้อมถามชื่อ ทำความรู้จักไปเลย พวกอาจารย์สนับสนุนครับ ทำไม? เพราะมันไม่ใช่หน้าที่อาจารย์แล้วที่จะมาคอยด่าเรื่องระเบียบวินัยนศ. จึงให้รุ่นพี่รุ่นน้องดูแลกันเอง พวกเด็กรุ่นใหม่ ไม่ยกมือไหว้อาจารย์ ไม่ไหว้รุ่นพี่ ไม่ใช่เพราะอาจารย์น่ารังเกียจ หรือรุ่นพี่น่ารังเกียจ แต่เพราะบางทีพวกเค้าไม่รู้จัก ทำตัวไม่ถูก หรือบางคน ก็สันดานเสียเอง อีโก้จัด รับน้อง ทำให้เรื่องพวกนี้หายไป มันหลอมรวมทุกคน หัดทำเพื่อคนอื่นด้วย ถึงได้สรุปว่า การเป็นรุ่นพี่ การรับน้อง คนมองตื้นๆ แค่ว่า ให้อำนาจกับเด็กบ้าอำนาจ แต่ไม่คิดว่า เป็นรุ่นพี่ ผมต้องสั้นกว่าน้อง ระเบียบต้องดีกว่าน้อง ความรับผิดชอบต้องดีกว่าน้อง มหาลัยมีกฏอะไร รุ่นพี่ที่ดี ต้องทำให้ได้แทบหมด เพราะไม่งั้นอาจารย์จะสวนนิ่มๆ ว่า "ตัวเองดีแค่ไหนถึงกล้าไปสอนน้อง" อาจารย์ เค้าให้รุ่นพี่ เป็นเหมือนโมเดล เป็นแบบอย่างให้กับรุ่นน้อง ที่ปกติต่อให้ทำดีเลิศหรูอะไร ก็โดนมองข้าม พี่ดีๆ หลายๆ คน โดนน้องมองว่าเอ๋อ บ้า ระเบียบจัด ไม่เท่ ไม่ฟุ้งเฟ้อ เชย ไปเสียอีก "จะไปไหว้ทำไม" ก็โดนเสียแบบนี้ ผมที่พูด ก็เรียนจบแล้ว ไม่ได้เป็นรุ่นพี่ที่กำลังรับ เพราะฉะนั้น อย่าเหมารวม ถามผม ผมก็ไม่แน่ใจว่าการ ว้าก มันดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่ผมกล้าพูดว่า ถ้าบอกว่า การว้าก เป็นสิ่งไม่ดี ผมก็ยังเข้าใจ แต่ถ้าทุบโต๊ะเปรี้ยง บอกว่า "การรับน้อง" เป็นสิ่งไม่ดี ผมว่านั่นตัดสินอะไรง่ายไปเยอะครับ สุดท้าย ถ้าบอกว่า การรับน้องเป็นสิ่งไม่ดี ควรเลิก ทิ้งไปซะ ผมไม่เห็นด้วย และถ้าจะบอกว่า การเป็นรุ่นพี่ดีๆ แบบที่ผมเขียน มันเพ้อฝัน หายาก ก็อยากจะชี้ว่า นี่ไง เราได้เห็นว่ามันมีมุมดีๆ ของมัน แล้วทำไมต้องทุบทิ้งเปรี้ยงเดียวไปหมด? ที่ควรทำ น่าจะเป็น "รณรงค์ ให้มีการรับน้องอย่าง สร้างสรรค์" ก็แค่นั้นเองครับ จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:15:22

ความคิดเห็นที่ 84 ถึงคุณ ความคิดเห็นที่ 70 ผมว่าไม่ทั้งหมด หรอกครับ  ที่เข้ามาตอบกระทู้นี้ ไม่หมดแน่นอน  หลายคนเข้าจบ หลายคนเข้าไม่จบคลาส และหลายคน ไม่เคยเข้า เพราะว่าไม่ชอบ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อหมายถึงว่า คุณเข้าไปเรียนรู้ จนจบแล้วหรือไม่ ? หากจบแล้ว คุณได้รับรู้ได้พบเห็นในสิ่งไหน มันคือความทรงจำของตัวคุณเอง จะบอกว่ามันมีพี่ว๊าก  มีพี่สัน มีพี่อะไรทั้งหลายแหล่  เอาเข้า จริงๆ แล้ว นำเสนอครบทุกด้านหรือไม่ ? หรือนำเสนอ หรือต้องการเสนอแค่ในส่วนที่ตนเอง ต้องการเสนอ    จากคลิปที่ได้ดูมา ผมว่า เป็นปกติ มันเป็นแค่ช่วง ช่วงนึง ในการจัดกิจกรรม มันยังมีอีกหลายพาร์ท หลายช่วง ที่พวกคุณๆ หรือคนอื่นๆ ที่ไม่เคยผ่านได้รับรู้  ก็เหมือนละคร  หากคุณดูแค่บางตอน   จะเอามาตัดสิน ทั้งเรื่องเลยว่า ดีไม่ดี  มันก็คงจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ดูให้จบ แล้วมาคิดว่าคุณได้ อะไรจากมัน   ถ้าคนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วม คิดว่าไม่ดี ปีต่อๆไป คงไม่มีแม้แต่สตาฟมารับน้องหรอกครับ  เพราะการรับน้อง มันไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เขาจะมารับก็มารับ  เขาต้องเตรียมตัว ซ้อมร้องเพลงซ้อมกิจกรรม มีการเตรียมแผนวางเอาไว้ว่า จะทำอะไรบ้าง ต้องเสนอผู้ใหญ่ ไ่ม่ใช่เสียเวลาแค่ อาทิตย์สองอาทิตย์   แต่สตาฟ เหล่านั้นเสียเวลากันเป็นหลายเดือน ช่วงปิดเทอม ใหญ่เขาก็มาอยู่ในโหมดกิจกรรม กันนี่แหละครับ    มาซ็อมร้องเพลง มาซ้อมเต้น พี่พยาบาลก็ต้องมา้ซ้อมเผื่อน้องๆ เป็นอะไรไป สต๊าฟทุกคน เขาไม่ได้ต้องการจะเอาคืน รุ่นน้องของตัวเองหรอกครับ เพราะถ้าจะเอาคืน มันไม่ต้องซ้อมอะไรกันเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีพี่พยาบาล ไม่จำเป็นต้องมีแบบแผน ถ้ามันจะแค่เห็นว่าเป็นการ "แกล้งกัน"    แต่เขาทำเพราะเขา รักน้องๆ เขามีจุดประสงค์ที่ดี แต่มันอยู่ที่ว่า คุณจะเปิดตาเปิดใจมองหรือเปล่า อีกอย่างแล้วมันก็ สนุกสนาน ถ้าได้ลงไปคลุกคลีตีโมงกับพวกมัน จริงๆ  และมันก็คงไม่ใช่มีมาจนถึงทุกวันนี้  แต่นี่มันเพราะคนส่วนใหญ่ ที่เคยเข้าร่วม ก็ยังเห็นว่ามีประโยชน์กันอยู่ มันถึงได้ดำรงมา เรื่อย จากวันนั้นถึงวันนี้ เกือบสิบปี ผมก็ยังยิ้มได้ นะ กับประสบการณ์ กินโค้กใส่น้ำปลา ทาแป้ง ซะหน้าขาวว๊อก  โดนมัดหัวจุก ให้ออกไปเต้นกับเพื่อนๆ ต่างสาขา  วิ่งรอกไปมา นอนกลิ้งบนโคลน (ตอนนั้น อารมณ์บูดมากก)  แอบโมโห  ทะไมต้องเล่นกะโคลนว๊าา (แม่มม)   แต่ผมก็เล่นไม่ครบทุกฐานหรอกครับ (เหนื่อยก่อน)  ก็เลยบอกเขาว่า ขอพักได้ไหม ไม่สบาย พี่ๆ เขาก็ให้พักนะ นั่งในร่มใต้ต้นไม้กันสุดริด(แอบอู้ฮาๆๆ)     (ทุกกิจกรรม เขาก็ไม่ได้บังคับ หากตัวคุณบอกว่าไม่ไหว ไม่ทำ เขาก็ไม่ได้บังแน่นอน ) พอจบทุกฐานทุกกิจกรรม ก็มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ กัน พี่ๆ ว๊ากหลายคน ก็ถึงกับร้องไห้ น้องๆ หลายคน ก็ร้องไห้ เขาไปกอดพี่ๆ เหล่านั้น  ร้องเพลงรับน้องกันอย่างแบบว่าเอิ่มสุดๆ อ่ะ  ผมเองก็แอบร้องไห้  นะ เพราะตอนจบ พี่ๆเขา ก็กล่าวขอโทษสิ่งต่างๆที่ได้ทำ ที่ไม่เหมาะไม่ควร มันก็มีช่วงขออภัยกัน ด้วย(รุ่นผมมีนะพี่ๆเขาก็มาขอโทษ)อีกอย่างตอนรุ่น ผมตอนรับน้องสาขากับน้องคณะ มีเซอร์ไพรส์วันเกิดด้วย ผญ.คนนั้นร้องไห้ใหญ่  (แอบคิดในใจทำไมวันเราไม่เกิดวันนี้บ้างว๊าา) ผมแค่อยากจะนำเสนอ ให้หลายๆคน ได้เห็นในหลายๆส่วน บ้างว่า แม้แต่กิจกรรมรับน้อง ในมุมเหล่านี้ที่ผมบอกไป คนหลายคนที่บอกว่าเคยรับน้อง ได้เจอมันหรือไม่  หากไม่เจอ คงมาดหมายได้ว่า เข้าร่วมไม่ครบเป็นแน่แท้ แต่หากเข้าร่วมจบครบแล้ว คุณรู้สึกว่า ไม่ชอบ ไม่ใช่ มันก็เหมือนกับการดูหนัง  หนังดีหนังสนุกสำหรับคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ใช่หนังดีหรือหนังสนุกสำหรับคนทุกคน... ผมคงจะเข้ามาตอบเพียงแค่นี้ เพราะยิ่งเข้ามาตอบมาก มันก็เหมือนกับว่า ผมพยายามบรรยาย รสชาด อาหารให้กับคนที่ไม่เคยกิน หรือคนที่ไม่ชอบกินอาหารประเภทนั้นๆ ว่า มันอร่อย ยังไง มีรสชาด แบบไหน เป็นแน่แท้  เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่ไม่เคยกิน ก็นึกไม่ออก ส่วนที่ไม่ชอบกิน ก็คงยังไม่ชอบ อยู่นั่นเอง ปล. BC 47 ถ้าพวกแกอ่านอยู่ คิดถึงนะเฟ้ยยย หลังไมค์มาได้ คริๆ จากคุณ : dookdiklove_mon เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:18:36

ความคิดเห็นที่ 85 อย่างนี้เรียกว่ารับน้องไม่เป็น -*- การรับน้องมันก็เป็นการแสดงละครฉากหนึ่งจริงๆนั่นแหละครับ แต่การแสดงนั้น ต้องเตรียมกันมาดีๆหน่อย จุดจะดราม่า จะกดดัน ตบหัวแล้วต้องลูบหลังตอนไหน ตบแรงไปต้องรีบลูบไหม? จะเรียกน้ำตาตอนไหน ต้องให้มันได้จังหวะ จะด่า? ก็ต้องเรียบเรียงว่าจะด่าจะว่าหนักแค่ไหน มีคำพูดอะไรไม่ควรพูดหรือต้องห้าม การที่รุ่นน้องลุกขึ้นมาต่อต้าน รุ่นพี่ต้องคิดแล้วครับ ว่าแสดงอะไรพลาดไป? กรณีนี้ควรเบรคการรับน้องแล้วสร้างกระบวนการคิดแล้วตามด้วยการเีรียกน้ำตา ... แต่นี่ดันไปใช้วิธีพูดขับไล่ว่า "ออกไปๆ" ... รุ่นพี่พิธีกรก็ไม่เป็นงานเหน็บแนมต่อต้าน ขับไล่ จริงๆมันต้องพลิกเป็นฉากเรียกน้ำตาได้แล้วครับ เช่น รุ่นพี่คนไหน?เผด็จการ? แล้วเรียกให้รุ่นพี่กลุ่มนั้นๆมาเปิดใจ หรือเริ่มบทดราม่ารักน้อง แถมรุ่นพี่แต่ละคนที่อยู่ข้างล่างเวทีก็เริ่มๆเกิดอารมณ์ร่วมแล้ว ฮึดฮัดหรือคิดว่าเป็นปัญหาไปแล้ว -*- คุมการแสดงไม่อยู่ เละเทะไปหมด ไปๆมาๆ ดูจากคลิปแล้วจะหลุดขอบเขตการแสดงไปเรียบร้อยแล้ว เกิดปัญหากับรุ่นพี่รุ่นน้องจริงๆแน่ ยิ่งมาออกพันทิปด้วยแล้ว -*- ส่วนตัวคิดว่ารับน้องกลุ่มใหญ่ไปครับ ส่วนใหญ่การรับน้องกลุ่มใหญ่ๆขนาดนี้ มักจะเป็นกิจกรรมสันทนาการหรือกิจกรรมเอาเหนื่อย เอาสามัคคีง่ายๆครับ จะยังไม่ดราม่าหรือว้ากโหดลงลึกครับ อย่าลืมว่ารุ่นพี่ปีสองก็แค่เด็กมหาวิทยาลัยที่เพิ่งเข้าเรียนได้แค่ปีเดียว ประสบการณ์ยังไม่ฉกาจฉกรรจ์พอ ถ้าพลาดก็แบบนี้แหละ -*- ถ้าจะรับน้องดราม่ามากๆต้องกลุ่มเล็กกว่านี้ครับ และควรมีอาจารย์ที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำไปด้วย จากคุณ : TalkyWalky เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 01:32:32

ความคิดเห็นที่ 86 ตลกอ่ะครับ...555++ มีประท้วงซะงั้น จากคุณ : Mr.Quiet เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:16:28

ความคิดเห็นที่ 87 การับน้องที่มีการว๊าก มันไม่เคยถูกทำขึ้นเพื่อน้อง ส่วนใหญ่ถูกทำขึ้นเพื่อนรุ่นพี่ ในทางที่ดี คือ การให้รุ่นพี่เป็นที่เคารพ เป็นที่รักในหมู่น้อง ในทางที่เลว คือ ระบายอารมณ์ น่าเศร้าี่ที่หลายๆคนชอบการว๊าก จากคุณ : St.yawn เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 02:40:59

ความคิดเห็นที่ 88 มาเรียนให้ได้ปริญญาก็เหนื่อยแล้ว ยังต้องได้รุ่นจากพี่อีกเหรอวะเนี่ย เหนื่อยเกิ๊นนนนนนนนนนนน จากคุณ : ใส่พริกเม็ดเดียว เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:04:24

ความคิดเห็นที่ 89 ความจริงที่เคยรับมามันน่าจะสนุกกว่านี้เยอะน่ะค่ะ นี่ซีเรียสมาก  ทำไม ?? จากคุณ : เสมือนคน เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:05:24

ความคิดเห็นที่ 90 กิจกรรมนี้ที่เกิดเรื่องน่าจะต้องโทษที่อาจารย์กับผู้บริหารแหละว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดได้ ถ้าจะบอกว่านิสิตแอบ ดูจากขนาดงานจัดยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตอนที่เรียน มมส.ตอนปี 1 จำได้เลยว่ากิจกรรมร้องเพลงเชียร์ทุกเย็นจะมี อาจารย์ อย่างน้อย 2 ท่าน กับเจ้าหน้าที่ มานั่งควบคุมการร้องเพลงเชียร์ทุกวัน และตอนนั้น (ปี50)อธิการมีคำสั่ง ห้ามมีการซ่อม(ลงโทษ) ห้ามมีกิจกรรมที่ทำให้เกิดการสกปรกเช่น เขียนหน้า คลุกฝุ่น+โคลนฯลฯ จะให้มีเพียงแต่การ ว๊าก(เล็กน้อย) และร้องเพลงเชียร์เท่านั้น แต่ ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้กฏนั้นหายไป ปล.คิดว่าในคลิบไม่ใช่เชียร์รวมของ ม.แน่นอน เพราะเชียร์รวมไม่น่าจะเป็นอย่งนี้ น่าจะเป็นเชียร์แยกของคณะใดคณะหนึ่ง ต้องรอดูแถลงข่าวแหละว่า เชียร์ในคลิบใครเป็นคนจัด ปล.2 คืดว่า กิจกรรมโซตัสอย่างในคลิป เชื่อว่ามีทุก ม. และคิดว่ายังธรรมดาไม่แรงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับหลาย ม. ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ณ ขณะนั้น ม.ไหนจะโป๊ีะแตกโดนแฉ555+ จากคุณ : มะเกลือใหม่ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:17:33

ความคิดเห็นที่ 91 การอดทนในการทำงาน ไม่ได้ถูกปลูกฝังได้แค่การรับน้องค่ะ ที่บอกว่า แค่นี้ทนไม่ได้แล้วจะไปทำงานไรได้ มันไม่ใช่อะ โน้น... มันถูกฝังมาตั้งแต่การเลี้ยงดุในสมัยเด็กแล้ว  เด็กคนหนึ่งถูกหล่อหลอมจากสิ่งแวดล้อมต่างๆและครอบครัวมาแล้วว่า เขาจะเติบโตมาเป็นคนแบบไหน ต่อให้รับน้อง อดทนได้ทุกอย่าง ถูกกระทำเยี่ยงไรก็ทนได้ มันไม่ได้การันตีว่า คุณจะจบชัวร์ คุณจะได้งานดีๆ คุณจะมีความอดทนตอนทำงาน สิ่งที่การันตีมันมาจากพื้นเพดั้งเดิมของเขา เขาเป็นคนรักเรียนไหม เป็นคนมีจุดมุ่งหมายอะไรอยู่มั่ง มีเป้าหมายไหม มีนิสัยยังไง จะจบไม่จบ มันอยู่ที่การเรียนและเกรดตลอด 4 ปีที่เรียน แค่นั้นก็พิสูจน์ได้ระดับหนึ่งแล้วว่า คุณมีความตั้งใจและอดทนต่อการเรียนที่ใช้ระยะเวลามากน้อยแค่ไหน  ไม่ได้อยู่ที่หมั่นรับน้อง ยิ่งแรง ยิ่งว๊าก ยิ่งโหด ยิ่งจบ มันไม่ได้เกี่ยวกันเลยอะ เราอยู่ราม รับน้องของสถาบันไม่มีหรอก จะมีก็เคยเข้าสมัยปี 1 ตอนยังอยู่ชมรม เขาก็จัดรับน้องชมรม ก็มีว๊ากเหมือนกัน แต่ไม่ได้นานและโหด หรือเล่นจนไม่สบาย เขาเอาแค่ผ่อนคลายเบาๆ กดดันบ้างนิดๆ แต่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเป็นลมอะไรกันเลย ไม่มีเครื่องดื่มแฮลกฮอล แถมมีการผูกข้อมือให้ในช่วงหลังอีก ที่เรียน/ทำงานมานี่ บอกได้เลยว่า รับน้องตอนนั้นไม่ได้มีผลอะไรเลย ก็แค่กิจกรรมหนึ่งเพื่อความบันเทิงเท่านั้นเอง ตอนโดนเจ้านายดุไม่เคยมีซักแว๊บที่ระลึกไปถึงว่า เฮ้ย เราผ่านการถูกรุ่นพี่ว๊ากมาแล้ว งานแค่นี้ต้องทนได้ดิ เจ้านายด่าเนี่ยทนได้ชัวร์ ก็อยากรู้จังมีรุ่นพี่ที่ไหนบ้างที่จบกันออกมาแล้ว พอโดนที่ทำงานกดดัน เอาเปรียบ ว๊ากใส่แบบไร้เหตุผล แล้วหวนกลับไปนึกถึงตอนรับน้อง ถูกว๊าก ถูกกดดัน แล้วไม่มีปากมีเสียงน่ะ ใครมันจะไปนึก อีกอย่างแล้วทำไมต้องอดทนขนาดนั้นล่ะ ถ้าถูกเอาเปรียบมากๆ ถูกกดดันแบบไม่มีเหตุผล คนเราก็มีทางเลือกอื่นนี่ ไม่ใช่แค่งานเลือกเรา แต่เราต้องเลือกงานด้วยเหมือนกันแหล่ะ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 03:33:55 จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:28:59

ความคิดเห็นที่ 92 รุ่นพี่ก็ไม่สนใจหรอก เปรี้ยวมากจะตบดิ้นเหมือนกัน....ไม่เข้าท่ากับวิธีการ จากคุณ : รามูเนส เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 03:38:37

ความคิดเห็นที่ 93 มันก็แค่การแสดงฉากหนึ่งที่แสดงมาทุกรุ่นทุกปี...แค่นี้คุณผ่านมันไปไม่ได้เวลาที่คุณไปทำงานจริงๆเจอสิ่งที่กดดันกว่านี้คุณจะทำใจยอมรับกันได้หรือ... จากคุณ : nongnamhom ขอเหอะประโยคนี้ ถ้าคิดคำพุดที่สร้างสรรค์กว่านี้ไม่ออก ก็อย่าพูดดีกว่า เท่าที่ผ่านมาหลายจ๊อบ ที่ทำงานแต่ละที่ ไม่มีใครใช้คำพูดและสั่งอะไรโง่ๆแบบนี้อ่ะ คือถ้ามีก็สวยแน่ คงไม่ให้มายืนด่าปาวๆข้างเดียวหรอก จิกหัวตบกันยังแฟร์ซะกว่าเลย คือมีมือมีตีนเท่ากัน ดังนั้นข้ออ้างนี้จึงตกไป มันมีความต่างระหว่าง ความอดทนที่มีเหตุผล กับ สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทนเลยสักนิด มันมีจริงๆ สาบาน แล้วนะ จะออกไปเรียกร้องประชาธิปไตยกับเสื้อสีนั้นสีนี้ กับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้หาอะไร ถ้ายังสนับสนุนการใช้อำนาจเถื่อนๆ ที่ไม่อยู่ในความรับรองของกฏหมายหมายอยู่แบบนี้ มันน่าหัวร่อตรงที่ มันเกิดในสถานศึกษา สถาบันที่เป็นที่พึ่งพิงทางสติปัญญาของประเทศ ไม่ใช่บ้านทุ่งไกลปืนเที่ยงที่ไหน เอาว่าคณะรัฐศาสตร์ /สังคม/นิติ ที่เชื่อในประชาธิปไตยและต่อต้า่นอำนาจเผด็จการณ์/อำนาจนอก รธน.เหลือเกินยังมีว๊ากน้องอี้เต๊อะ ช่าง Irony เสียนี่กระไร ประชาธิปไตยไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่มันเป็น State of mind ด้วย เป็นสามัญสำนึก แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 04:27:17 จากคุณ : *** (เบนนี่ทักกี้) เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 04:25:20

ความคิดเห็นที่ 94 ทำยังกับเด็กช่างกล จากคุณ : aerun เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 05:25:52

ความคิดเห็นที่ 95 ข้ออ้างเดิมๆ ไอ้พวก ต่อไปจะได้อดทนอดกลั้นได้เวลาทำงาน ต้องเจอกดดันกว่านี้ ถามจริงๆ ทำงานมันมีแบบนี้ไหม คุณโดน เพราะคุณผิดทั้งนั้นแหละ คุณทำงานเรียบร้อยดีตามคำสั่งไงก็ ไม่โดน นอกจากเจอไอ้พวกเจ้านายบ้าๆ ไม่ผิดก็ผิด แล้วถามจริงๆ ถ้าเจอแบบนั้นจะอดทนอยู่กับมันไปตลอดหรือ ยังงัยก็ออก... ความน่าเคารพรุ่นพี่รุ่นน้องมันมาจากตัวบุคคล คุณต้องสร้างตรงนั้น ให้น้องเห็น ไม่ใช่สร้างว่าแก่กว่าต้องเคารพไม่มีข้อแม้  ไอ้ที่บอกว่า เด็กรุ่นใหม่เป็นแบบโน้นแบบนี้ไม่เคารพรุ่นพี่รุ่นน้อง แล้วคุณทำตัว น่าเคารพไหมแหละ ยกมือไหว้ด้วยใจกับยกมือไหว้เพราะจำใจ มัน ไม่ได้เหมือนกันนะ ทำไมไม่สร้างตัวอย่างให้น้องเห็นแหละมันมีวิธี เยอะแยะ ใช้วิธีการบังคับนี่มันไม่ต้องใช้สมองระดับปัญญาขนหรอก ทำให้มันพอดีๆ ไอ้"ว๊าก" ทั้งหลายนะอยากมีมันก็มีได้ครับ แต่ไม่ใช่ เอํดอ่ะว๊าก มันก็เหมือนตำรวจ ลงโทษเมื่อผิดจริง ไม่ใช่ตั้งด่านริม สะพานแล้วก็ยัดข้อหาแบบนั้น เรื่องรุ่นก็เหมือนกัน กำหนดกันเองทั้งนั้น ให้ตั้งรุ่นอะไรก็เถอะถ้า เรียนไม่จบตามหลักสูตรก็เท่านั้นแหละ คุณเอาไปใช้อะไรได้ ดูใน ถ้าคิดว่าที่ทำมันถูกมันควรจะกลัวทำไมกับการถ่าย VDO เอาออก มาเลยให้ทุกคนเห็นคุณทำอะไร ยังงัย มีเหตุผลอะไรของคุณบ้าง ไม่ใช่เอาแค่ว่าพวกคุณเองว่าถูก อีกอย่างคุณสอนให้น้องรักกันหรือ ว่าเกลียดกัน กันแน่  เพื่อนไม่เข้าเชียร์ลงโทษน้องเพราะเพื่อนไม่ เข้าต้องให้น้องดึงเพื่อนเข้าให้ได้ ไม่คิดบ้างหรือไงว่าถ้ามีคนไม่สนใจ เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขา กลายเพื่อนบางคนไม่ชอบเกลียดเพราะ ต้องโดนลงโทษเพราะคนนั้น แถมยังมีตั้งแบ่งพรรคแบ่งพวกไม่เข้า เชียร์ไม่มีรุ่นอะไรของคุณอีก นี่คิอการทำให้รักกันหรือ มันมีวิธีอื่น ที่ทำให้รักกันให้ซึ่งเยอะแยะมากกว่าหลายวิธีรับน้องในการว๊ากแบบ ทุกวันนี้ ปล. ที่อื่นอาจจะรับน้องกันดีหรือไม่เหมือนก็ไม่ว่ากัน ผมยกตัวอย่าง คราวๆ เท่านั้น จากคุณ : time3957 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 06:41:16

ความคิดเห็นที่ 96 ระบบรับน้องจะดีไม่ได้ยังไงก็ช่าง แต่ก็ควรให้เป็นแบบสมัครใจ ถ้ามันดี รุ่นน้องคนไหนเข้าร่วมก็ได้รับผลดีนั้นไป แต่คนไหนไม่เข้าร่วมก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะช่วจะเลว เค้าแค่สมัครใจไม่รับ"ระบบ"ที่คุณว่าดีนั้น และไปรับผลดีกับระบบอื่นๆ ที่เค้าเชื่อ ก็แค่นั้น แต่คุณมีสิทธิ์อะไรไปบอกไปทำอะไรให้คนที่ไม่เข้ารับน้อง เค้ารู้สึกกดดันว่าอยู่ที่นี่ไม่ได้ รึอยู่ได้ก็ไม่สบายใจ สุดท้าย ไอ้รุ่นพี่ประเภทนี้ก็ไม่เห็นมันจะไปได้ดีกว่ารุ่นน้องที่ไม่เข้ารับน้องสักคน จากคุณ : 2700 เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:24:12 A:169.252.4.21 X: TicketID:299803

ความคิดเห็นที่ 97 การรับน้อง เหมือนการกดขี่ เหมือนคนบ้าอำนาจ จากคุณ : ชาย เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 08:54:32 A:192.168.4.80 X:58.8.57.120 TicketID:150126

ความคิดเห็นที่ 98 เรายังจำสมัยตัวเองโดนรับน้องได้ เผอิญเราเป็นเด็กซิ่ว 1 ปี พอเข้ามาเรียน ก็ต้องเจอรุ่นพี่ปี 2 ที่จริงๆ แล้วมันก็รุ่นเรานี่แหล่ะ แหม.. เบ่งซะเหลือเกิน เราก็ไม่เคยทำตามพวกมันสั่งซักอย่าง เพื่อนเราเห็นเคารพ ไหว้กันจัง ส่วนเรานี่เฉยๆ จะนับถือก็เฉพาะคนที่เหมาะสม ทุกวันนี้ไอ่พวกรุ่นพี่ที่มันข่มๆ ทำตัวเด่นๆ มาเจอกันบางคน กะโหลกกะลากว่าพวกรุ่นน้องที่มันข่มไว้อีก เฮ้อ~ จากคุณ : the_pretty_kate เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:54:05

ความคิดเห็นที่ 99 พ่อแม่เค้าเลี้ยงกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ลำบากส่งเสียลูกให้เรียนแทบตาย ไอ้พวกนี้เป็นเฮียอะไรถึงมีอำนาจไปกดดันน้องๆเค้าแบบนี้ ถามนิดนึงเมิงมีปัญญารับผิดชอบชีวิตใครได้หรือยังว่ะเนี้ย ถรุย จากคุณ : Mollyman เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 09:56:38

ความคิดเห็นที่ 100 คิดว่าแต่ละมหาลัยคงไม่เหมือนกันทั้งหมด เพราะจากเคยที่ผ่านการรับน้องมา... ที่เจอก็แค่มีเน้นพูดคุยเกี่ยวกับคณะ การเรียน เช่น เตือนน้องปี1อย่าคิดว่ามันเรียนง่ายๆ เพราะบางรุ่นได้4.00ไม่กี่คน รีไทน์ก็มี, การปฏิบัติตัวของปี1 หรือการสร้างชื่อเสียงให้มหาลัยของรุ่นก่อนๆ มีเล่นแป้งเลอะเทอะนิดหน่อย  กิจกรรมนิดหน่อย บ้างก็โชว์ผลงานของรุ่นพี่ที่ผ่านมา เหนื่อยพอสมควรสนุกบางครั้ง อากาศร้อนมาก ซวยอีกรองเท้ากัด รุ่นพี่บางคนพูดไม่น่าสนใจ ฟังแล้วง่วงน่าเบื่อ แต่บางคนก็มีโอกาสได้เพื่อนจากตรงนี้แหละ ไม่ค่อยมีการกระทำที่ดูเถื่อนรุนแรงอะไรนะ ก็โอเครับได้ จากที่ดูในคลิปดูเถื่อนถ่อยรุนแรงนะ เผด็จการยังกับฝึกทหาร บรรยากาศวุ่นวาย...เหมือนกำลังก่อม๊อบประท้วงประมาณนั้น แล้วกลางคืนดึกดื่น รุ่นน้องผู้หญิงต้องเจอกับสภาพนั้นด้วยมั๊ย? แล้วหากเกิิดอะไรกับสวัสดิภาพความปลอดภัย เช่นการเดินทาง ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ? แล้วนั่นต้องไปค้างคืนด้วยหรือเปล่า ส่วนตัวไม่ค่อยชอบกิจกรรม...ที่ต้องไปทำข้ามวันข้ามคืน แล้วไม่ได้เกี่ยวกับหลักสูตรการเรียนเท่าไร มองแล้วดูมันเสียเวลา เสียสุขภาพจิต บั่นทอนร่างกาย ไร้สาระ ไปทำอะไรที่ดีกว่าได้อีก บางคนอาจบอกว่าที่ทำไปก็แค่ 'การแสดงฉากหนึ่ง'? ต้องการฝึกให้รุ่นน้องมีความอดทน หลังออกไปเจอเจอชีวิตจริง ในการทำงาน?เพราะจริงๆแล้ว รุ่นพี่กลุ่มนั้นก็คงรักน้องและสุภาพ (หรอ) O_o ตลกดีเนอะทำไปทำไม แค่เรียนก็เหนื่อยพอแล้วนะ คือความอดทนมันสร้างได้ที่ตัวบุคคลอยู่ที่ใจ นี่สมัยไหนแล้ว ปี2011แล้วจ้า การทำงานส่วนมาก...ไม่ได้ไปตรากตรำอะไรนัก ส่วนมากคนเน้น 'ใช้สมองเป็นหลัก' มีแค่อยู่ภายใต้ภาวะความกดดัน แต่ถ้าใครนิยมชอบงานแบกหาม ถูกกดขี่มีเจ้านายคอยด่ากราด อันนั้นมันก็อยู่ที่รสนิยม แต่ถ้าได้ทำงานที่รักถนัดตามความสามารถ และตัวเองทำงานออกมาดี มันคงไม่มีความรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เจอ หรือต้องฝืนทนทำไปวันๆหรอก สุดท้ายก็อยู่ที่การตั้งใจเรียนให้ดี เพราะคุณจะได้สามารถเลือกทำในสิ่งที่ต้องการ จากคุณ : Much the same เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:14:30

ความคิดเห็นที่ 101 แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 11:07:12 จากคุณ : la..la..means เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:14:53

ความคิดเห็นที่ 102 เข้ามาบอกว่าจบจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามค่ะ  ภูมิใจในสถาบัน ภูมิใจในอาจารย์ ส่วนเรื่องการรับน้อง จริงๆแล้วมันก็เป็นแค่การแสดงนั่นแหละ  แต่เราไม่เคยเป็นสต๊าฟหรืออะไรหรอกนะคะ เราผ่านการรับน้องมาเมื่อสมัยปี 47  อยากจะบอกจริงๆ ว่ามันไม่ "เละเทะ  บ้าอำนาจ บ้าพลัง  เหิมเกริม" กันขนาดนี้  มันเกินไป  เรื่องได้รุ่นหรือไม่ได้รุ่น รุ่นพี่มันไม่มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินหรอก  ก็แค่ขู่ แต่พอผ่านมันมาได้แล้ว  มันก็ภูมิใจนะ จากคุณ : หวานใจ CEO เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:31:41

ความคิดเห็นที่ 103 ส่วนเรื่องความปลอดภัยของเด็ก  การเดินทางต่างๆ หลังจากกิจกรรมนั้น  เห็นหลายๆคห.เป็นห่วงกัน   อยากจะบอกว่าน้องปี 1 ต้องพักใน "หอในของมหาวิทยาลัย"  ค่ะ  อาจจะมีบางส่วนที่อยู่หอนอก  (แต่ต้องเป็นหอในเครือข่ายมหาวิทยาลัย)   หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม ซึ่งที่เห็นตามคลิปนั่นแหละค่ะ  มันค่ำแล้ว น้องๆคนไหนที่พักในหอในก็เดินกลับหอเองได้  แต่ถ้าคนไหนอยู่หอนอก หรือต้องพักอยู่ม.เก่า  ทางมหาวิทยาลัยมีรถรับส่งให้ึค่ะ  อาจจะมีบางส่วนมีรถจักรยานยนต์ก็กลับเอง จากคุณ : หวานใจ CEO เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 10:41:13

ความคิดเห็นที่ 104 โหย อย่าลามถึงมหาลัยเหอะ เรื่องแบบนี้อยู่ที่ตัวบุคคล เราก็เรียนที่นี้ แต่สารภาพว่าไม่เคยรับน้องเลย 55555+ จากคุณ : CuteBaby เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:08:08

ความคิดเห็นที่ 105 ขอพื้นที่แสดงความเห็นนิดนึงละกันนะคะ ไหน ๆ ก็ผ่านเข้ามาแล้ว พวกคุณลองคิดดูนะคะ   พ่อแม่เค้าเลี้ยงลูกมาทั้งชีวิต... ไม่เชื่อหรอกค่ะว่าเวลาเพียงไม่กี่วันจะสามารถ "ละลายพฤติกรรม" ของรุ่นน้องเหล่านี้ได้ ไม่ว่าคุณจะทำกับเขายังไง ทารุณขนาดไหน   สำหรับเรา ไม่เคยรู้สึก "เคารพ" รุ่นพี่เลยค่ะ มีแต่ "เกลียด" และ "น่าเวทนา" นะคะ สงสัยจะเป็นเด็กมีปห. ถึงได้ทำแบบนี้ น่าจะเป็นพวกโรคจิตอะไรซักอย่าง บอกตรงๆ ค่ะ ว่าถ้ามองถึงข้อดี ข้อเสียจริง ๆ แล้วเนี่ย  "ข้อดี" หาไม่เจอเลยค่ะ จะบอกว่า เพื่อให้น้องเคารพพี่ ?     ขอบอกเลยค่ะ. ถ้ารุ่นพี่ทำตัวให้น่าเคารพ น้องก็เคารพค่ะ เชื่อฟังค่ะ ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมาว๊าก มาลงโทษกันแบบ "ไร้สาระ".  มันผิดวิสัยของคน "มีการศึกษา" นะคะ จะบอกว่าต้องการให้น้องรักกัน. ?    การลงโทษร่วมกันแบบนี้ มีแต่ให้รู้สึกเพียงว่า. "ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมฉันต้องถูกลงโทษ" หรือพวกคุณที่ผ่านมา ไม่เคยคิดเช่นนี้กันคะ ? กลับกันนะคะ.  การที่"ไม่ทำร้ายน้อง".  การที่จัดกิจกรรมอย่าง "สร้างสรรค์". มันช่วยได้มากกว่าเยอะนักค่ะ การจัดสันทนาการให้น้องรู้สึกสนุก. ให้น้องรู้สึกรักในสถาบันและคณะของตัวเองจะดีกว่าจริงไหมคะ ? ดูแลน้องในวิธีที่ถูกต้อง. จะเป็นการทำให้น้อง "ไว้ใจ". "เชื่อใจ". ในตัวรุ่นพี่ และทำให้น้องกล้าที่จะเปิดใจ น้องจะกล้าพูด กล้าบอกว่าตัวเองคิดอย่างไร มีทัศนคติอย่างไร มีปัญหาอะไรที่ต้องการได้รับการช่วยเหลือ มันจะไม่ดีกว่าหรือคะ ? ถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถช่วยน้องๆ ได้ อีกทั้งรุ่นน้องยังจะให้ความ "เคารพ" พี่มากเสียด้วยค่ะ อยากรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนจาก "การว๊าก"  มาเป็น "การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างนศ." จะดีกว่านะคะ ลองอ่านบทความจากบล็อคนี้ดูนะคะ. เผื่อจะได้มีทัศนวิสัยที่กว้างขึ้น http://www.gotoknow.org/blog/ed-thailandstyle/178534 ปล. ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นเพียง "ทัศนคติส่วนตัว" และไม่ใช่เพียงคลิปข้างต้น และมหาวิทยาลัยข้างต้นค่ะ แต่อยากให้มองสภาพการรับน้องทุกวันนี้. มัน"เสื่อม". และ"ถ่อย" มากเกินไปแล้วค่ะ ปล2.  ถ้ารุ่นพี่ที่จะรับน้องในรุ่นต่อๆ ไปได้มาอ่าน. อยากให้"คิด" เยอะๆค่ะ. ไม่ใช่เพียงว่า "ปีที่แล้วฉันโดนแบบนี้ ปีนี้พวกเธอต้องโดนแบบฉัน" ไม่หรอกค่ะ  เพราะมันสามารถ"เปลี่ยนแปลง" ได้เสมอ ถ้ารุ่นพี่จัดกิจกรรมเพื่อน้องจริงๆ ไม่ใช่จัดเพื่อตัวเอง ขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาอ่านนะคะ. :)) จากคุณ : Rabbit in wonderland เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:09:26

ความคิดเห็นที่ 106 ที่จิงมันไม่ใช่อย่างภาพที่เหนนะคะ ที่ ม เรารับน้องแบบธรรมดา แต่คลิปที่ถ่ายออกมามันเหมือนรุนแรงก้อจิง แต่ที่ความจิงเปนแค่การสอนน้องร้องเพลงของ ม และเปนการรับน้องเข้า ม ก้อเท่านั้นเอง ไม่เคยรุนแรงอย่างที่ภาพออกมาหลอก คนทำเค้าก้อไม่รุ้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่ ทำแล้วก้อขอให้คิดถึงคนอื่นๆๆบ้าง ไม่ใช่จะมาทำเหมือนประจารย์กันแบบนี้เพราะ ม เรา ไม่เคยไปทำอ่ะไรให้คุนเดือดร้อนซะหน่อย ถ้าคุนกระทำลงไปด้วยความตั้งใจ ฉันก้อขอให้พรคุนกลับแล้วกันว่า รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวคุนเองคุนจงคิดถึงคนอื่นบ้างไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเอง แล้วฉันขอให้ชีวิตของคุนที่เคยทำพลาดไปถึงแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก้อตาม จงมีแต่ความสุขเข้ามาในชีวิต และขอให้ทำแต่สิ่งที่ดีๆๆเข้าไว้ อย่าทำร้ายคนอื่น เพราะคุนก้อคือมนุษย์ คำว่ามนุษย์ หมายถึงสัตว์ที่ประเสิด เพราะฉะนั้น จงใช้สถานะภาพของคำว่ามนุษย์ให้เหมาะสมและทำตามสถานะที่ตัวคุนเปนอยุ่ด้วย เราเปนมนุษย์ ไม่ใช่สัตว์เดียรัจฉาน ดังนั้นการที่คุนจะกระทำสิ่งใดๆๆ ควรคิด ไตรตรองดูว่าเรากระทำตัวเหมาะสมกับการเปนมนุษย์ที่ประเสิดหรือไม่ ถ้าการกระทำอย่างที่คุนกระทำมา มันไม่ใช่การกระทำของคนที่อยุ่ในสถานะภาพมนุษย์แน่นอน ฉันคิดว่าถ้าคุนคิดได้ ได้อ่านที่ฉันเล่า คนทุกๆคนพร้อมที่จะให้อภัยคุณเสมอ เพราะคุนคือเพื่อนบ้านเพื่อนร่วมโลกของเรานั่นเอง จากคุณ : .... เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:37:41 A:223.207.36.32 X: TicketID:320364

ความคิดเห็นที่ 107 รับน้องที่ดี ควรทำให้น้องรู้สึกอบอุ่น มีความสุข อยากอยู่สถาบันนี้ ทำแบบนี้มันรับน้อง หรือไล่น้องเนี่ย การแหกปากตะเบ็งๆ ใส่อำนาจ อย่าคิดนะว่าน้องจะกลัว มีแต่จะรังเกียจ ถึงต่อหน้ารุ่นน้องจะให้ความเคารพ ลับหลังก็โดนด่าอยู่ดี ชอบไงให้คนด่าลับหลัง จากคุณ : Today is mine เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 11:50:43

ความคิดเห็นที่ 108 คห.106 อ่านจบแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย   กลับไปเรียน ป.1 ใหม่ดีกว่ามั้ง จากคุณ : Msgt.sit_sak เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:10:04

ความคิดเห็นที่ 109 # อ่าน 106 แล้วตลกจังค่ะ เขียนได้เหมือนเด็กประถมมากอ่ะ จากคุณ : tangmo_ka เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:36:12

ความคิดเห็นที่ 110 ตกลงมารับหรือมาไล่??? จากคุณ : สกุล ยินดี เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 54 12:39:59