Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระทู้เชิญทุกท่านมาแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสที่ตัด “เขา” ออกไปได้แล้วค่ะ ติดต่อทีมงาน

หลังจากที่เข้ามาป้วนเปี้ยนแถวห้องสยามเป็นเวลาน่าจะ 3-4 เดือนได้แล้วนะคะ

ได้อ่านกระทู้แทบทุกกระทู้ในช่วงที่ค้นพบห้องนี้ คือก่อนหน้านี้ไม่เคยได้สนใจเรื่องความรักกุ๊กกิ๊กอะไรพวกนี้เลย เป็นคนโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง และค่อนข้างไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่ แต่ดีที่มีเพื่อนดีอ่ะค่ะ คอยปกป้องคุ้มครองตลอด ดังนั้นไม่เคยมีแฟนค่ะ แต่เคยพลัดหลงไปคุยกับ ผช คนนึงตอนเรียนมหาลัยใกล้จบ เป็นรุ่นน้อง 2 ปี แต่คุยกันสามเดือนก็รู้ว่ามีแฟนอยู่แล้วเลยเลิกยุ่งไปเลยค่ะ แต่ก็เสียใจนะ

จนเวลาผ่านไป 4 ปีได้ หลังจากเรียนจบกลับมาอยู่เชียงใหม่ก็ใช้ชีวิตคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว ดูหนัง กินข้าว เดินเล่นคนเดียวได้ โดยมีแม่ดูแลอยู่ใกล้ ๆ แบบว่าไปรับไปส่งตลอดค่ะ ก็ทำงานไป ไม่ได้คิดเรื่องแฟนอะไรใด ๆ ใครมาจีบไม่สนใจ ไม่อยากคุย แต่ก็ไม่ได้ทำกิริยาไม่ดีใส่นะคะ

และแล้วมีช่วงนึงที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัด 7 วัน เราก็ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ไม่ค่อยคุยกับใคร จู่ ๆ ก็มี ผช คนนึงเข้ามาทำให้เรารู้สึกสับสนในจิตใจ คือเรารู้สึกได้ว่าช่วงวันหลัง ๆ มีสายตาที่คอยจับจ้องเราอยู่ตลอด จนวันที่ 6 ของการอยู่วัดเค้าคนนั้นก็เดินเข้ามาคุยนิดเดียว เพราะเราเองก็ยังอยู่ในศีล แต่เค้ากลับบ้านวันนี้แล้ว

วันรุ่งขึ้นเราต้องกลับบ้านแล้ว ก็ใส่บาตรตอนเช้าปกติ แต่เค้าขับรถมาที่วัดแล้วมาใส่บาตรกับเราตอนเช้า บอกตรง ๆ ว่ารู้สึกดีมาก ณ จุดนี้ จนเราทำพิธีลากรรมฐาน เก็บข้าวของเสร็จ 10 โมง แม่มารับที่วัด เค้าก็ยังวนเวียนที่เราตลอด คงรวบรวมความกล้าเต็มที่แล้ว ก็เลยเข้ามาคุยกับแม่และเรา พอเราจะกลับแล้วก็เลยให้เบอร์ไป (เป็นคนที่ 2 ในชีวิตที่ยอมให้เบอร์คนแปลกหน้า)

เราเห็นว่าเค้าก็ดูโอเคนะ ด้วยความสับสน ไม่ทันคน ไม่ทันคิด ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้  ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง หรืออะไรก็ตาม พอวันที่ 2 หลังจากคุยกัน เค้าชวนไปกินข้าว ก็ไปเลย ให้เค้ามารับที่บ้าน ดูเหมือนใจง่ายและโง่ ๆ เนอะ แต่ก็ยอมรับว่าจริง (มาคิดได้ตอนหลัง) ช่วงนั้นมันรู้สึกว่าง ๆ เบื่อ ๆ ด้วยนะ มาชวนไปข้างนอกก็ดีอยู่บ้านมันเบื่อ

คุยกันไปมาก็ปรากฏว่า เค้าเด็กกว่า 6 ปี เหอเหอ เค้าก็ดูอึ้ง ๆ นะ ที่รู้ว่าเราแก่กว่า 6 ปี เค้าดูเป็นผู้ใหญ่นะ แต่เราโตกว่าแต่อายุ แลเราดูซื่อบื้อ ฮ่า ๆ คือเป็นคนไม่ทันคนจริง ๆ มองอะไรก็แง่ดีไปหมด คนนี้เป็นคนแรกที่ให้จับมือ กอด เท่านี้ก็มากแล้วนะ แล้วด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างที่มันยากที่จะไปด้วยกันได้ ไม่เคยทะเลาะกันนะคะ สักพักต่างคนก็ต่างเงียบเค้าไม่โทรมาเราก็ไม่โทรไป เงียบกันไป 3 เดือน เราเองก็รู้สึกคิดถึงเค้าตลอดนะ แต่ก็อย่าเลย อยากให้มันจบ

จนวันที่ 14 ที่ผ่านมาวันเกิดเค้าเราก็โทรไป HBD น้ำเสียงเค้าดูจะดีใจมาก และเหมือนจะพูดไปยิ้มไป เราเองก็ดีใจนะ แต่คุยได้แค่ไม่ถึงสามนาที เราต้องรีบไปทำงาน แล้วหลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเงียบเหมือนเดิม บอกตรง ๆ ว่าเราเองรู้สึกสับสนมาก ใจนึงก็อยากให้มันจบลงเท่านี้ อีกใจก็คิดว่าอย่างน้อยก็เคยรู้จักกัน เสียดายสิ่งดี ๆ ที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์อะไรมากมายเท่าใดนัก แต่นั่นก็เพียงพอให้เราจดจำเค้าไปตลอดได้แล้วล่ะ

ช่วง 3 เดือนที่เงียบกันไปนั่นแหละ เราได้มาพบกับห้องสยามนี้ ปกติก็เล่นพันทิบแต่ไม่เคยเข้ามาห้องนี้เลย เข้ามาอ่านเรื่องราวของหลาย ๆ คน อ่านความคิดเห็นต่าง ๆ ทำให้เราคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่าง เพียงแต่ใจเรายังทำไม่ได้ ถึงเราจะศึกษาธรรมะมาพอสมควร แต่ใจคนเรานี่บางทีมันก็บังคับยากจริง ๆ นะ

หลังจากที่เราโทรไปวันเกิดเค้า 5 วัน เค้ายังเงียบ ทำให้เราตัดสินใจโทรหาเค้าอีกที คุยกันไม่นานไม่ถึงสองนาทีเพราะเค้ากำลังจะขับรถกลับบ้าน คำสุดท้ายที่เค้าพูดคือ ไว้คุยกันนะ พอวางสาย ปุ๊บ เราตัดสินใจได้ทันที ว่าให้มันจบดีกว่า อย่างน้อยก็จบที่เราก่อน

เราตัดสินใจลบเบอร์เค้าออกจากเครื่อง จำเบอร์ไม่ได้ด้วย คือต่อให้อยากโทรหาแค่ไหนก็คงโทรไม่ได้แน่ ๆ ส่วนเค้าจะโทรมาหรือไม่โทรก็เรื่องของเค้าละ ใจคิดว่า คงไม่โทรมาหรอก เพราะหลังจากที่คุยกัน ในใจเรามีอะไรบางอย่างที่บอกว่า เค้าไม่เหมือนเดิมแล้ว และเราควรจะจบเอง เรายอมคนนี้มาเยอะละ คือปกติเป็นคนแข็ง ๆ ไม่ค่อยยอมอ่อนให้ใคร

เราเคยนั่งถามตัวเองนะว่า ทำไมต้องคนนี้ ปรากฏว่ามันไม่มีคำตอบอ่ะ ใช่ เค้ารวย เค้าเรียนเก่ง เรียนมหาลัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของประเทศ คณะสุดฮิตของผู้ชาย ภาคอินเตอร์ มีรถขับ พ่อเป็นหมอ แม่ก็ทำงานตำแหน่งใหญ่ สรุปคือ Profile ดีทุกอย่าง แต่เราไม่ได้ชอบเค้าที่สิ่งเหล่านี้ อันนี้สัตย์จริงเลย เราไม่ใช่พวกวัตถุนิยม กระเป๋า รองเท้า นาฬิกาแพง ๆ ดูไม่เป็นด้วยว่าอันไหนแพง ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้จัก บีบี ไอโฟน อะไร ไม่สนใจสักกะอย่าง เราออกจะมองว่ารถมันเกะกะด้วยซ้ำเวลาไปไหนต้องหาที่จอดรถวุ่นวาย ถ้ามีไฟฉายย่อส่วนของโดเรมอน จะไม่ว่าเลย 555 จะมีข้อดีก็อีตอนออกต่างจังหวัดหรือไปที่ไกล ๆ เท่านั้นเอง

สรุปก็คือตอนนี้เรารู้สึกดีมากตั้งแต่ลบเบอร์โทรเค้าทิ้งไป เพราะมันไม่ทำให้เราต้องมานั่งคิดว่า จะโทรไปหาดีไหม ทั้งที่ตอนแรก Plan ไว้ว่า จะไปทำธุระที่ กทม แล้วนัดเจอกันอีกที (เพราะตอนนี้เค้าเข้ามาเรียนใน กทม) ก็ไม่ต้องเจอกันละ วางโปรแกรมเที่ยวเองกะเพื่อนเลย ไม่ต้องห่วงใครทั้งนั้น สบายใจที่สุด พอตัดจุดนี้ออกไปได้ มันรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแค่สิ่งที่ผ่านไปแล้ว เพียงแต่ช่วงก่อน ๆ เราเป็นคนวนเรื่องราวเหล่านั้นกลับไปกลับมาด้วยความคิดของเราเอง ถ้าเราควบคุมความคิดได้ ทุกอย่างก็จบค่ะ

ตั้งแต่เรามาอ่านกระทู้ต่าง ๆ ของห้องสยาม มันทำให้เราได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่างจากที่ไม่เคยรู้มาก่อน และได้รู้ว่าที่แล้วมาตัวเองดูโง่ขนาดไหน แต่ตอนนี้บอกได้เลยว่าฉลาดขึ้นแล้วนะคะ รู้ความคิดของคุณผู้ชายทั้งหลายมากขึ้น ถึงแม้ห้องนี้จะเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมดในสังคมก็ตาม ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากนะคะ

และกว่าจะยอมให้ใครเข้ามาในชีวิตอีกเป็นคนที่ 3 ก็คงต้องคิดอีกนาน หรืออาจจะไม่มีคนต่อไปแล้วนะคะ อาจจะจบแค่คนนี้ก็พอแล้ว เพราะคนเดี๋ยวนี้น่ากลัวและไว้ใจยากจริง ๆ ค่ะ ยอมขึ้นคานดีกว่า แต่อนาคตใครจะไปรู้เนอะ


สุดท้ายที่อยากฝากไว้นะคะ

". .ในโลกนี้ไม่มีใครทำให้เราทุกข์ใจได้ นอกจากตัวเราเอง. ."

(พระไพศาล วิสาโล)

 
 

จากคุณ : น้ำปั่นแครอทส้ม
เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 54 11:49:57




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com