ความคิดเห็นที่ 1 เราเองก้อคนโลกส่วนตัวสูงจัดมากคนนึงง แต่ก้อมีแฟนได้นะคะ จากคุณ : zaizai_loveme เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:05:55

ความคิดเห็นที่ 2 ชั้นมั่นใจค่ะ  ว่าคนโลกส่วนตัวสูง รักเดียวใจเดียว  ให้เกียรติแฟนอีกต่างหาก จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:26:08

ความคิดเห็นที่ 3 ข้อความส่วนนี้ โดนมากค่ะ ตรงเป๊ะๆๆๆ "เอาเป็นว่า ขอบอกว่าคนโลกส่วนตัวสูงก็มีหัวใจค่ะ เห็นเค้าเงียบๆ ดูเหมือนเย็นชา ไม่มีหัวใจ แต่ใช่ว่าอยากจะทิ้งก็ทิ้ง แล้วคิดว่าเราคงไม่สน คงกลับไปอยู่ในโลกของเราเองแหละ ไม่นะคะ คนเราทุกคน ถ้าลองไปแง้มประตูหัวใจของเขาแล้ว น้อยนักที่จะใจดำ ปิดประตูใส่หน้าอย่างไร้เยื่อใย เราเปิดใจแล้ว เราก็ให้หัวใจเต็มที่กับคนที่เรายอมเปิดใจคนนั้นค่ะ เรียกได้ว่าไว้ใจและรักสุดตัวเลยก็ว่าได้" แต่ในเมื่อเค้ามองไม่เห็นค่าความรักของเรา คิดซะว่าเค้าคงไม่คู่ควรกับความรักที่เราพร้อมจะมีให้แบบสุดหัวใจ แล้วก็กลับมารักตัวเองให้มาก ๆ ดีกว่าค่ะ เข้าใจว่ามันเจ็บมากนะคะ อาจจะทำใจได้ยาก และใช้เวลา แต่เราต้องทำให้ได้ค่ะ ณ ตอนนี้ เราทำได้แล้ว สู้ ๆ นะคะ จขก ^_^ จากคุณ : น้ำปั่นแครอทส้ม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:38:05

ความคิดเห็นที่ 4 โลกส่วนตัวสูง ไม่ผิดหรอกครับ แต่มันจะเหนื่อย สำหรับอีกฝ่าย ที่ต้องพยายามปรับตัวเข้าหา ถ้าเราไม่เปิดให้เค้าด้วย แต่กรณีของคุณคือ เปิดใจแล้ว แต่สุดท้ายก็พลาดรักไป อันนี้น่ะไม่เกี่ยวกับโลกส่วนตัวแล้วครับ มันคือความผิดหวังสมหวังในรัก เป็นธรรมดาของคนที่มีความรัก ผมเองก็ไม่รู้ดีเทลว่าพวกคุณรักกันเลิกกันยังไง จะวิจารณ์มากไปก็ไม่เหมาะ มันขึ้นอยุ่กับว่า คุณไปเจอคนรักแบบไหนด้วย และอะไร ที่เป็นสาเหตุของการเลิกรา จากคุณ : จระเข้เจ้าเล่ห์ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:41:24

ความคิดเห็นที่ 5 เราเองเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง  พอเลือกที่จะคบใคร ทำใจไม่ได้ที่จะมีใครเข้ามาอยู่ในวงกลมนั้นด้วยอีกคน   แต่เมื่อพร้อมจะมีเราก็มีกฎข้อแม้ของเราในการที่จะคบใครสักคน  บางทีเค้ารู้สึกอึดอัด  แต่เราเองก็ไม่สนใจ ชินมากกับคำว่า "รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไป"  เพราะถ้าเค้าอยากเป็นส่วนหนึ่งของเราจริงๆ ก็ต้องยอมรับตัวเรา และเราก็เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด พูดแบบนี้ก็อาจจะมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่มันเรื่องจริง จากคุณ : ดาวหางแม็กไบร์ท เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:43:52

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้หญิง แม้จะมีโลกส่วนตัว แต่ก็อาจจะเปิดใจกับใครสักคน ง่ายกว่า ผู้ชายที่มีโลกส่วนตัวสูง เรากำลังสนใจใครบางคนอยู่ แต่พอเห็นเขาโพสต์ข้อความแบบนี้ "Hate mainstream society.เกลียดสังคมกระแสหลัก เกลียดมนุษย์ส่วนใหญ่ เกลียดพวกโง่เง่าทั่วไป เกลียดพวกที่ทำตามๆกัน เกลียดพวกที่ไม่เป็นตัวเอง เกลียดพวกที่อยากเป็นคนอื่น เกลียดพวกพื้นๆ Never Gonna Leave You Behind." เราก็ไปต่อไม่ถูกเลยอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงถึงจะเข้าไปถึงจิตใจเขาได้  ขนาดคุยกันเกือบทุกวันมาประมาณ 2 อาทิตย์ เขายังบอกว่า ยังไม่รู้จักเราเลย ท่าทางคงต้องปล่อยๆเขาอยู่กับโลกส่วนตัวของเขาต่อไปจริงๆ จากคุณ : Arie_Jar เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 17:44:19

ความคิดเห็นที่ 7 อ่าน คคห6 แล้วสะอึก โดนหางเลขไปนิดนึง อิอิ ผมไม่เกลียดนะ เพราะความเกลียดไม่ดีกับจิตใจตัวเองเหมือนกับเราทำร้ายตัวเอง ผมแค่ไม่อยากยุ่งกับมนุษย์ส่วนใหญ่หลายๆคนเพราะไม่อยากปวดหัว แต่ก็ดีแล้วที่คุณจะปล่อยให้เค้าอยู่ของเค้าต่อไป เพราะคุณไม่เหมาะกับเค้าหรอกอ่านแล้ว จากคุณ : infernaldevilking เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:14:30

ความคิดเห็นที่ 8 ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ว่าคุณจะโลกส่วนตัวสูง หรือไม่ว่าคุณจะเป็นคนเปิดเผยแค่ไหน ทุกคนมีสิทธิ์อกหักได้เท่าเทียบกันหมดเครับ คนโลกส่วนตัวสูง ที่เอาแต่ใจตัวเอง ที่ไม่ใส่ใจแฟน ที่ไม่ให้เวลากับแฟน ที่ไม่ให้ความสำคัญกับแฟน เหล่านี้ล้วน.ไม่ใช่ข้ออ้างที่คนโลกส่วนตัวสูงบางคนจะหนี้พ้นการถูกบอกเลิกได้ครับ จริงๆแล้ว คนโลกส่วนตัวสูงที่อยากมีแฟน เขาและเธอเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ.. คนภายนอกดูคนพวกนี้ หรืออ่านคนพวกนี้ไม่ออก จนกว่าเขาหรือเธอจะเปิดใจให้คนที่เค้าถูกใจเดินเข้าไป.. ซึ่งคนภายนอกบางคน เขาไม่ได้จงใจเข้าไปลองใจ หรือไม่ได้มีเจตาแค่อยากรู้อยากเห็นหรอกครับ แต่เพราะ.ความที่ทำตัวให้มีโลกส่วนตัวสูงนั่นแหละ ที่เป็นตัวบังคับให้คนภายนอกเขาไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่เห็นนี่! ว่าตัวตนจริงคุณเป็นคนเช่นไร และเมื่อเปิดโอกาสให้คนภายบอกเข้าไปได้แล้ว แต่เมื่อเรื่องกลับกลายเป็นว่า คนภายนอกเข้าไปสัมผัสตัวจริงนิสัยจริงของคนโลกส่วนตัวสูงเข้าแ้ล้ว อาจมีหลายสิ่งหลายอย่าางก็ได้ ที่ไม่ถูกใจเขา หรือที่ไปกันไม่ได้กับเขา.. ซึ่งนั่นอาจคือเหตุผลที่ทำให้เขาต้องถอนตัว.ออกไป ทำไมตู้ขายเครื่องดื่มถึงต้องดีไซน์ให้เป็นตู้กระจกใสรู้ไหมครับ.. ที่ต้องดีโซน์ให้เป็นตู้กระจกใสมองเข้าไปเห็นง่ายๆเช่นนั้น ก็เพราะคนภายนอกจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปิดตู้เข้าไปดูว่าจริงๆมีเครื่องดื่มอะไรที่เค้านึกอยากหรือไม่ คนโลกส่วนตัวสูงบางคน ก็ทำตัวเหมือนตู้ขายเครื่องดื่มที่ปิดทึบทุกด้านทั้งๆที่ตัวเองก็อยากขาย ซึ่งคนภายนอกก็ไม่มีทางรุ้ได้หรอกว่าข้างในมีสิ่งที่เขาอยากได้หรือไม่ จนกว่าเขาจะต้องเปิดตู้เข้าไปดู.... สุดท้าย..คนที่เดินเข้ามาก็ผิดหวังเพราะเมื่อเปิดเข้ามาดูในตู้แล้ว ไม่ใช่สิ่งที่เค้าต้องการเลย ในขณะที่เจ้าของตู้ขายเครื่องดื่มก็ต้องเจอกับการเสียความรู้สึก ที่อุตส่าห์ยอมเปิดประตูตู้ให้เข้ามาเลือก แต่เขากลับเดินออกไปโดยไม่หยิบอะไรออกไปเลย เสียเวลากันทั้งสองฝ่ายไหมครับ... "ปล่อยเขาอยู่ในโลกเขาไปอย่างนั้นก่อน ถ้ารอได้ก็รอ ไม่อยากรอก็ปล่อยๆใ้ห้เขาขึ้นคานเสีย (ซะงั้นไป) " ถ้าไม่พร้อมจะมีแฟน ก็กลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวอย่าไปเปิดโอกาสให้ใครเดินเข้ามาดีกว่าครับ เพราะคนที่เขาเดินเข้ามา เค้าก็ผิดหวังเป็นเสียความรู้สึกเป็น เสียเวลาที่เขาจะรึบไปขึ้นคานได้เหมือนๆกันครับ.. โลกนี้มีหลายมิติ ทุกอย่าง..จึงมองได้หลายมุมครับ จริงๆความรักมันไม่ได้ยุ่งยากหรือวุ่นวายซับซ้อนอะไรนักหรอกครับ ถ้าทุกคนตรงไปตรงมาต่อความรุ้สึกของตัวเอง ชอบหรือไม่ชอบ รักหรือไม่รัก มันก็มีแค่ Yes หรือ No แค่นั้นเอง ที่เห็นวุ่นๆรักกันอยู่นี่ ส่วนใหญ่ ตัวเราเองทั้งนั้นที่ทำให้ยุ่งยาก ทำให้วุ่นวาย ทำให้ซับซ้อน ทำให้งวยงงกันไปเองแทบทั้งสิ้น จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:17:22 A:58.9.124.76 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 9 การเปรียบเทียบตู้ขายเครื่องดื่มของคุณ G นี่ ทำให้เราเข้าใจได้ง่าย และลึกซึ้งจริง ๆ ค่ะ เห็นด้วยทุกประการ และ เข้าใจทุกอย่างแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ชอบข้อความนี้ "ส่วนใหญ่ ตัวเราเองทั้งนั้นที่ทำให้ยุ่งยาก ทำให้วุ่นวาย ทำให้ซับซ้อน ทำให้งวยงงกันไปเองแทบทั้งสิ้น" จากคุณ : น้ำปั่นแครอทส้ม เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 18:36:29

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคนโลกส่วนตัวสูง คิดที่จะมีแฟน ก็ควรจะลดความสูงของโลกตัวเองลงมา ไม่ใช่ เอะอะอะไรก็ ฉันเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เลยไม่แสดงออก เพราะถ้าไม่แสดงออก คงรักกันไม่ได้หรอก คุณยังรักตัวคุณเองเลย คุณยังต้องการให้คนมาใส่ใจคุณ แล้วคนที่เค้ารักคุณล่ะ เค้าไม่ต้องการบ้างหรือไง จากคุณ : นาวิน ตู้ เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 19:39:44

ความคิดเห็นที่ 11 คนโลกส่วนตัวสูงส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเพราะอยากเป็น แต่เป็นเพราะมันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว มันเป็นที่จิตใจ จะว่าเป็นอาการทางจิตแบบนึงก็ว่าได้ แล้วมันก็ไม่ใช่นึกอยากเลิกอยากลดก็ทำได้เลยนะครับ ถ้าคนอื่นเข้าใจก็ดีไป ถ้าไม่เข้าใจมันก็เป็นกรรมของพวกเราเอง ไม่ใช่ว่าเราชอบที่เป็นแบบนี้ บางทีก็เซ็งตัวเองเหมือนกันที่ทำตัวเหมือนคนอื่นไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องกลับไปอยู่แต่ในโลกของตัวเอง จากคุณ : omega. เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 20:11:33

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ G กล่าวได้ใจผมมาก จากคุณ : MonoShield เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 54 21:13:48

ความคิดเห็นที่ 13 G พูดถูกค่ะ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 02:38:23

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าแฟนไม่ลด โลกตัวเองหรือกำแพงตัวเอง ในทางที่มีความรัก เราว่า พวกนั้นไม่ใช่หรอก "โลกส่วนตัวสูง" เพราะคบไปเราจะรู้ได้ยังไงว่า เราอยู่ใน'ฐานะ"อะไร ถ้าไม่บอกก็เจ็บมากให้ไปหาคำตอบเอาเอง มันเหนืื่อยเหมือนกัน  จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 08:08:50

ความคิดเห็นที่ 15 เพิ่งกลับมาเชคกระทู้ค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่มาตอบนะคะ คุณ G พูดได้คมมากค่ะ ติดตามการตอบกระทู้ของคุณเหมือนกัน แอบอ่านห้องนี้ประจำแล้วก็ไปๆมาๆหลายห้องค่ะ ส่วนใหญ่อยู่ห้องกล้อง ชายคาและก้นครัว แต่ไม่ค่อยจะตั้งกระทู้หรือเม้นท์ตอบใครนะคะ นอกจากจะโดนใจจริงๆ ตอนนี้พอจะทำใจได้แล้วค่ะ เรื่องของเราจะว่ามันซับซ้อนก็ว่าได้ มันบวกกับความโง่เขลาของเราเองด้วย ที่ดันไปเจอคนหลอกลวง ยอมรับว่ารักครั้งนี้เกิดจากการคิดไปเอง จินตนาการไปเองของเราด้วยค่ะ ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง He loves me , He loves me not เคสเรานี่ แบบนั้นเลยค่ะ เขาทำอะไรนิดหน่อยก็คิดเองเออเอง เข้าข้างตัวเอง ก็คนมันไม่เคยมีประสบการณ์ ดูคนไม่ขาดด้วยล่ะคะ แต่เรื่องมันต่างจากหนังดังกล่าว ตรงที่เจตนาของเขาค่ะ พอเห็นว่าเราสนใจ เขาเลยตั้งใจหลอกเราค่ะ เราเป็นคนเริ่มต้นค่ะ อยากลองมีใครสักครั้งในชีวิต อยากรู้ว่ามีรักมันเป็นยังไง นอกจากรักที่มีให้คุณพ่อคุณแม่และพี่น้อง เราไม่เคยมีความรักแบบอื่นเลยค่ะ และก็รู้ตัวดี ว่าเป็นคนแบบนี้ ในเมื่อเปิดให้ใครเข้ามาอยาก ก็เลยเลือกคนที่จะเปิดไปหาเองดีกว่า คือจีบผู้ชายก่อนนั่นล่ะค่ะ ว่าง่ายๆ แย่ค่ะ (ผู้หญิงทำแบบนี้เสียเปรียบนะคะ น้องๆหนูๆ เพื่อนๆ ยืนยันกับตัวเองเลย) เขาเป็นผู้ชายหน้าตาธรรมดาๆค่ะ ไม่ได้ดูดีสะดุดตาเลย ออกแนวซื่อๆด้วยซ้ำ (ไม่นึกว่าจะร้ายกาจมาก) เราสังเกต มองเขามาสักระยะแล้ว สักระยะที่ว่านี้คือเกือบๆ 2 ปีนะคะ   เราทำงานที่เดียวกันค่ะ บ้านก็ไปกลับทางเดียวกัน เขาดูเป็นคนเงียบๆ เหมือนจะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ดูลึกลับน่าค้นหา เลยคิดว่าน่าจะพูดคุยกันรู้เรื่อง เพราะเราก็เงียบๆเหมือนกัน คงเป็นพวกเดียวกันมั้ง ที่สำคัญทุกครั้งที่หันไปเจอจะเห็นเขามองเราอยู่ค่ะ ยิ่งทำให้คิดไปเองว่าเขาสนใจ ได้พูดคุยกับเขา แต่เขาไม่ค่อยตอบค่ะ ออกแนวถามคำตอบคำ แล้วก็หลบหน้าตลอด ก็อีกแล้วคิดไปเองอีกแล้วว่าเขาคงอาย คงไม่เคยถูกผู้หญิงมาทำแบบนี้ (เขาเคยเรียนโรงเรียนชายล้วนค่ะ) เคยถามไปแล้วว่ามีแฟนหรือยัง เขาไม่ตอบ แต่เขาก็คงรู้เจตนาเราแล้ว ว่าเรามาแบบไหน (คิดเองเออเองอีกแล้ว ฮือๆ) เราเคยขอติดรถเขากลับบ้านด้วยกัน 3 ครั้งค่ะ (จากใน 1 ปีที่ผ่านมานะคะ) บ้านเราเป็นทางผ่านบ้านเขาพอดี นั่งไปเขาเงียบตลอดทางค่ะ เราก็ชวนคนคุยไม่เก่งด้วย ก็เงียบกันหมด วังเวงมากกก   แต่ทุกครั้งหัวใจเราเต้นแรง ตื่นเต้นมากที่ได้อยู่ใกล้เขา จากคุณ : Jukday เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 08:26:26

ความคิดเห็นที่ 16 มองขึ้นไป เอ่อ เป็นการเขียนกระทู้ที่ยาวมากก ครั้งแรกเลยก็ว่าได้ เฮอๆ มาต่อนะคะ อยากขอระบาย เผื่อว่ามันจะช่วยบรรเทาความช้ำ ลงไปบ้าง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เล่ามันหมดเลยละกัน เผาความโง่ตัวเองไปเลย ในช่วงเวลาที่เราสังเกตแอบมองดูเขาอันยาวนาน เราไม่เคยรู้จักชื่อเขาเลยค่ะ รู้แต่อยู่แผนกไหน ทำอะไร และเห็นเขาชอบคุยโทรศัพท์ (ตอนนั้นไม่เอะใจเลย ว่าเขาอาจคุยกับแฟนก็เป็นได้) ไม่เคยไปเลียบเคียงถามใครด้วย ว่าเขาเป็นใคร ชื่ออะไร แอบมองอยู่ข้างเดียวตลอด คืออย่างที่ว่า ไม่ชอบไปยุ่มย่ามใคร และไม่ชอบให้ใครยุ่มย่ามในเรื่องเราเกินพอดี เลยเหมือนปิดความรู้สึกได้เงียบสนิทมาก จนวันนึง เราคิดไว้ว่า ควรจะเผยความรู้สึกให้เขารู้สักทีว่ามีเราอยู่ตรงนี้นะ และได้ทำกระทำการจู่โจมค่ะ เกริ่นก่อนว่า ที่ทำงานเราอยู่ห่างจากตัวเมืองและละแวกบ้านเรามากค่ะ ทุกเช้าต้องขึ้นรถเมล์ ไปต่อจุดรับส่งรถบัสบริษัทอีกที ตอนที่ไปจู่โจมเขาครั้งแรกนี่คือ เย็นวันหนึ่ง หลังจากลงรถรับส่ง (ประมาณปีที่แล้ว) เขาจอดรถทิ้งไว้แถวๆละแวกจุดรับส่งนั่นล่ะคะ เราเลยขอขึ้นรถเขาค่ะ เดินตรงดิ่ง ไปหาเขาที่ๆเขาจอดรถเลย เขาก็มองเห็นเราแล้วว่ากำลังตรงไปที่เขา เราถามเขาไปว่า "กลับด้วยได้ไหมคะ" อาการที่ตอบสนองมา คือเขาตกใจมาก เหมือนช็อคสุดขีด ตาช็อคค้างเลยล่ะค่ะ เป็นใครก็คงช็อคนะคะ มาแรงแบบนี้ แต่ตามที่กล่าวเราเคยเห็นหน้ากันมาก่อน ตรงที่รับส่ง ที่ทำงาน แคนทีน ที่ต่างๆ มาสักระยะแล้วละค่ะ ไม่ใช่คนแปลกหน้ากัน แต่นะคะ อยู่ๆไม่เคยคุยกันมาก่อน มาขอขึ้นรถ เป็นใครก็ต้องตกใจป็นธรรมดา พอขึ้นไปบนรถเขา สภาพค่อนข้าง เอ่อ ซกมกค่ะ มีกระดาษ ขยะบนที่นั่งที่วางเท้า หน้าหลังค่อนข้างจะพรึ่บ เขาเอามือปัดๆ เขี่ยๆ ให้ขยะลงจากเบาะนั่ง ให้เรานั่ง ดูไปขำๆไป ปนน่ารัก (ตอนนี้รักไม่ลงค่ะ) ก็อีกแล้ว คิดว่าเขาคงเป็นหนุ่มโสดทั่วไป ไม่มีแฟนเลยซกมก วันนั้นระหว่างทางบนรถเขา เราพูดอะไรบ้าบอมาก ควบคุมตัวเองแทบจะไม่ได้ แต่ก็ได้คุยได้ถามเรื่องเบสิคทั่วไป ถามคำตอบคำ เราถามเขา เขาถามเรา แลกเปลี่ยนกัน แนวๆว่า ชื่ออะไร อายุเท่าไร จบอะไร มออะไร อยู่หมู่บ้านอะไร เป็นแพทเทิร์นมาก กลัวเขาคิดว่า เราคิดจะไปปล้นบ้านเขาซะด้วยซ้ำ จนกระทั่งลงรถ เราหน้าด้านมากให้เขาไปส่งถึงหน้าบ้านเลยค่ะ ตอนลงเราเผอิญดันไปเหยียบกระดาษอะไรสักแผ่นที่อยู่ตรงที่วางเท้าติดรองเท้าเราลงไปด้วย ไม่ได้ดูว่ามันคืออะไร รีบลงเลยตามเลย พอมาดูอีกทีมันเป็นจ่าหน้าซองพัสดุ ที่ส่งถึงเขาค่ะ มีหมดเลยที่อยู่ เบอร์โทร ตกดึก คิดแล้วคิดอีกจะยังไงดีกับกระดาษแผ่นนี้ ก็เลยถือวิสาสะ ส่ง SMS ไปถามเขาว่า เราเหยียบกระดาษบางอย่างลงมานะ เธอจะใช้อยู่หรือเปล่า ขอโทษถ้านี่ไม่ใช่เบอร์คุณ...(ชื่อเขา) เขาโทรกลับมาทันที ถามว่าได้เบอร์เขามายังไง เราอธิบายไป เขาก็อ่ออ ยาวมาก แล้วเราก็ตัดบทรีบวางหูเลย มันเขิน มันตื่นเต้น กล้าๆกลัวๆไปหมด จากคุณ : Jukday เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 09:44:52

ความคิดเห็นที่ 17 ชักจะยืดเยื้อละ เดี๋ยวจะรีบตัดจบเร็วๆนะคะ ตามที่คาดไว้ เขาหนีหน้าเราไปเลยค่ะ หายไปสักระยะหนึ่ง เราก็หนีหน้า หลบหน้าเขาเหมือนกัน เราหนีไปขึ้นรถบริษัทสายอื่นก็มีค่ะ (มีหลายเส้นทาง หลายคันค่ะ) บางทีก็นั่งรถตู้ รถทัวร์ไปบริษัทก็มี หายหลบไปเลย แต่แล้วเราทั้งสองก็กลับมาแบบเดิม มีกิจวัตรดังเดิม รอรถ ขึ้นรถรับส่งที่เดิม คราวนี้ถ้าเจอกัน เรามองเขา เขาก็สู้สายตาเรากลับค่ะ จนเราอายต้องหลบตาหนี ตลอดๆๆ จากนั้นเราก็เริ่มส่ง SMS ไปหาเขาแทบจะทุกเย็นค่ะ แต่จะออกแนวทักทายเขา เช่นถ้ามีฝนตก และเขาไม่มีร่มก็จะบอกไปว่า ร่มน่ะพกมั่ง หรือ เล่าว่าวันนี้เราทำอะไร นิดๆหน่อยๆ ไม่ค่อยโทรไปเลยค่ะ และก็แอบมองทุกวัน แต่เขาไม่เคยตอบกลับหรือโทรหาเลยนะคะ เรามันโง่ที่ยังตื้ออยู่นั่น คิดว่าจีบเขาก่อนก็ต้องแบบนี้ล่ะ จะติดหรือไม่ติดก็อยากลองดูสักครั้ง คิดว่าเขาคงโลกส่วนตัวสูง ไม่อยากเปิดใจให้ใครง่ายๆ คงต้องใช้เวลากันหน่อยล่ะ ทำอย่างนั้นมาเกือบๆ ครึ่งปี จนเมื่อ 2 เดือนที่แล้วนี่เอง เขาหายไปเลยค่ะ ไม่มาทำงาน หายไปดื้อๆ ไม่เจอที่ไหนเลย จนเราแน่ใจ ว่าเขาลากออกจากบริษัทไปแล้ว และเริ่มทำใจ แต่แล้วอยู่ๆ คืนนึงเขาก็โทรมาหาเราค่ะ เราเลยถือโอกาสถามเขาไปว่ารู้มั้ย ว่าที่ทำแสดงหรือทำอะไรไป เพราะเราคิดอะไร เขาบอกไม่รู้ เราเลยสารภาพไปว่า เราชอบเขา และถามเขาว่ามีแฟนหรือยัง เขาเงียบ และพูดมาว่าเราคุยกันได้ เขาให้ความหวังเรา เราพูดคุยกับเขามากขึ้นเรื่อยมา เราแทบจะเทใจให้เขาทั้งหมด จนกระทั่งเมื่อคืนวาน อยู่ๆระหว่างพูดคุยโทรศัพท์กัน เขาก็ตัดบทบอกว่า เขามีเมียแล้ว เราช็อคมากกกกก (แอบนึก อายุเราเท่ากันทำไมมีเร็วจัง) เรารีบถามเลยมีลูกหรือยัง (เวลานั้น คือสงสารลูกเขามาก ถ้าเขามีอ่ะนะ) เขาบอกว่ายังไม่มี และบอกต่อว่า ที่ไม่เคยโทรกลับช่วงอื่น เพราะว่าเมียเขาอยู่ ที่ว่างโทรหาได้ช่วงนี้ก็เพราะเมียเข้าเวรอยู่ (ดูมันพูด) เราถามต่อไปว่าทำไมแต่งงานเร็วจัง แต่งตั้งแต่เมื่อไร เขาบอก 22 แล้วก็ตัดบทขณะที่เรายังช็อคๆ มาอีก บอกว่าเมื่อกี้พูดเล่น ยังไม่ได้แต่งกันหรอก แต่มีแฟนแล้ว และอยากให้เราตัดใจเสีย เขาแค่อยากรู้ว่าเราจะยอมเอ่ยปากบอกความในใจกับเขามั้ย มันลองใจและเล่นกับความรู้สึกเราฆ่าเวลานั่นเอง นาทีนั้นเราโกรธมาก แล้วเขายังจะมาบอกอีกว่า เป็นเพื่อนกันก็ได้ คุยกันได้ แต่ไม่แล้วค่ะ ทำไมพูดอะไรไม่นึกถึงเราเลย เห็นเราเป็นของเล่น มาหลอกล่อความรู้สึก แค่นั้น ทำไมตั้งแต่ที่เราถามไป เมื่อคุยกันแรกๆ ทำไม ไม่บอกตั้งแต่เนิ่นๆว่ามีแฟนแล้ว ทำไมมารอจนเราชอบเขามากๆ แล้วอยู่ๆก็ตัดอารมณ์กระชากอารมณ์กันแบบนี้ อย่างกับเราไม่มีความรู้สึก เล่นกับมันซะหน่อย แล้วเชือดทิ้งแบบนี้ เศร้าค่ะ เรื่องราวมันจบลงแล้ว เขาบอกต่อว่า ที่หายไป เพราะเขาไปบวชมา และเดือนหน้าจะกลับมาทำงานที่บริษัทดังเดิม และยังเปรยแบบเย้ยๆ ด้วยว่า ยังคุยกันได้นะ ถ้าเจอกัน มันบ้าไปแล้วอ่ะ ไอ้นี่มันโรคจิตชัดๆ เราตอบเลยว่าเธอจะเป็นแค่อากาศธาตุของเราแค่นั้น จบ... เฮ้อ เศร้าค่ะ ไม่นึกว่าจะถูกล้อเล่นกับความรู้สึกได้อย่างโรคจิตขนาดนี้   ขอบคุึณที่อ่านเรื่องบ้าๆบอๆเพี้ยนๆของเรานะคะ จากคุณ : Jukday เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 10:07:46

ความคิดเห็นที่ 18 อีกนิดนะคะ สรุปตอนนี้ก็นับได้ว่า เรายังไม่เคยมีแฟนค่ะ เพราะแค่คิดจะเริ่ม ก็โดนทำทารุณกรรมทางความรู้สึกไปซะแล้ว คือมันไม่ใช่ว่าเราไม่มีเวลาให้ หรือเป็นคนโลกส่วนตัวสูงที่เอาแต่ใจ ไม่ยอมทลายกำแพงในใจนะคะ มันออกแนวแค่เริ่มก็เศร้าสุดติ่งมากกว่าค่ะ กรณีใครคนอื่น ที่โลกส่วนตัวสูงแต่ไม่สนใจแฟน ไม่แคร์ความรู้สึก อันนั้นเป็นความผิดค่ะ เหมาะสมที่ถูกบอกเลิก จากคุณ : Jukday เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 10:30:31

ความคิดเห็นที่ 19 โลกส่วนตัวสูง เป็นเช่นนี้นี่เอง สงสัยซะนาน ^__^ เป็นกำลังใจให้ เจ้าของกระทู้นะคะ..  ตอบอะไรไมได้จริงๆ "ทำไมตู้ขายเครื่องดื่มถึงต้องดีไซน์ให้เป็นตู้กระจกใสรู้ไหมครับ" ฮืมมม...แบบที่พี่ G เขียน ก็น่าคิดนะคะ สงสัยแค่ว่า ถ้าตู้ไม่ทึบ เห็นเครื่องดื่มในตู้ แต่ไม่รู้รสชาติเป็นแบบไหน? อาจจะชอบ หรือไม่ชอบ ก็ได้นี่..น๊า  คนซื้อ ก็ต้องลองดื่มก่อน อยู่ดี  ...หรือเปล่า ^__^ จากคุณ : HOBBY<>POOK เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 14:45:48

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ Jukday   จขกท. He love me ,  he  love  me  not ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันจ้าาาาาาา สนุกมากกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : thursdaymarch เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 54 17:58:43

ความคิดเห็นที่ 21 กลับมาอ่านแล้วนะครับ คุณออกตัวแรงมาก จนน่ากลัวเลยก็ว่าได้.. ดีมากที่คุณหยุดตัวเองเอาไว้ได้ ก่อนที่หมอนั่นจะหาประโยชน์จากความรู้สึกดึๆที่คุณมีให้กับเขา. การบอกความรุ้สึก หรือการบอกความในใจให้อีกฝ่ายรู้มันไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่มันจะเสียหายก็ต่อเมื่อ อีกฝ่ายกลับฉวยโอกาสเอาจากความปราถนาดีจากคนคนหนึ่ง โดยที่จริงๆเขาก็ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรด้วยเลย โบราณเขาถึงสอนกันนักสอนกันหนา ว่าให้ใช้เวลาเรียนรู้นิสัยใจคอ ดูใจกันนานๆ เพราะยิ่งใช้เวลาดูกันนานเท่าไหร่ ก็เท่ากับเป็นการลดความเสี่ยงให้กับตัวเองเท่านั้น ระวังให้มากๆนะครับ ถ้าจะรักก็ต้องรักอย่า่งมีสติ ไว้คุยกันใหม่ครับ จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 09:29:11 A:58.9.144.36 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ G กลับมาตอบด้วย ขอบคุณนะคะ ไม่รู้ว่าจะได้มาอ่านอีกมั้ย แต่ที่คุณกล่าวไว้นี่ มันใช่เลย มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ตอนนี้ ทำใจและมองย้อนกลับนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆอย่างมีสติ ไม่ใช่แบบเดิม ที่ตอนนั้นโลกสวย สีชมพู ไปหมด ได้ข้อคิดขึ้นเยอะเลยค่ะ โลกนี้มีหลายด้าน จิตใจคนก็มีหลายแบบ คิดกลับไปแล้วก็ เออ ทำไมเราถึงกล้าทำลงไปได้ขนาดนั้นว้า ทำไมไม่คิดอีกด้านว่า ถ้าเขาไม่มีใจ เขาจะหาว่าเราโรคจิต และจะแกล้งเรากลับมั้ย หรือจะหลอก จะทำอะไรเกินเลยมั้ย ลืมคิดจริงๆ ตรงนี้ ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะคะ จากคุณ : Jukday เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 11:09:20

ความคิดเห็นที่ 23 :--) จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 54 22:33:13 A:58.11.17.78 X: TicketID:070157