เรื่องอ่านเล่น ๆ แต่รักจริง ๆ
|
 |
อากาศค่อนข้างร้อน.. ยังดีที่ยังมีลมโชยพัด ผ่านใบไม้และท้องน้ำของสระที่ตรงหน้ามาให้ได้แช่มชื่นบ้างเป็นบางครั้ง หนังสือที่อ่านมีเนื้อหาที่หนักมากจนความอดทนหมดไปเป็นระยะ ๆ จึงต้องละสายตาไปมองอย่างอื่นสลับกันไปเพื่อเรียกสมาธิให้กลับคืนมาใหม่ ระหว่างนั้นเธอก็เดินเข้ามานั่งตรงโคนต้นไม้อีกต้นหนึ่งที่อยู่ถัดไป นั่นยิ่งทำให้สมาธิหลุดมากยิ่งขึ้น
ผิวขาวของแก้มผ่องกับลำคอที่ระหงสวย ผมดำเป็นมันผูกลวก ๆ ไว้ที่ท้ายทอย ศีรษะทุยได้รูป รับกับโครงจมูกและริมฝีปากราวภาพวาด ขนตางอนยาว.. ริมฝีปากแดง สวยจนต้องขยี้ตาตัวเอง
ยังอีกหลายวันกว่าจะได้เวลาสอบวิชาที่กำลังอ่าน ฉะนั้นคงไม่เป็นไรมากนักถ้าจะใช้สายตาชื่นชมสิ่งสวยงามรอบข้าง แต่เธอไม่เป็นเช่นนั้น..คร่ำเคร่งกับตำราตรงหน้า..โดยลืมสิ้นไปว่ามีใครนั่งอยู่อีกคนที่โคนต้นไม้อีกต้นหนึ่ง ลืมไปว่าสวย ๆ อย่างเธอต้องมีคนชอบและคนมอง คนมองก็ลืมตัวมองจนเธอรู้ตัว แว่บเดียวของสายตาที่โฉบมาราวถูกมือไร้สภาพผลักให้ถลำลงสู่หุบเหว หุบเหวของความรู้สึกที่แปลกที่สุดในชีวิต สร้างความอักอ่วนเลือดฉีดจนร้อนหูร้อนหน้า แทบจะลืมหายใจไปเสียด้วยซ้ำ
พระอาทิตย์ยามเย็นเร่งรัดแสงตะวันให้รอนแสงลับโลก หนังสือถูกทิ้งอย่างไม่ใยดีด้วยการหมกมุ่นอยู่กับคำถามว่าจะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไรดีที่จะรู้จักเธอให้ได้ จะเข้าไปทักและพูดคุย? จะแกล้งกระแอมและส่งยิ้ม? จะแกล้งชักดิ้นชักงอเพื่อให้เธอหันมาสนใจ? ทุกอย่างไม่กล้าทำสักอย่าง แล้วจะทำอย่างไร??
ในหางตาที่แอบชำเลืองอยู่นั้นก็เห็นเธอปิดหนังสือในที่สุด ดูเหมือนเธอจะหันมามอง ดูเหมือนเธอจะเก็บของใส่เป้สีฟ้าเล็ก ๆ แล้วลุกขึ้นจากม้านั่ง ดูเหมือนเธอจะปัดกระโปรง ดูเหมือนเธอจะเดินไป เอ๊ะ..หรือเดินมา?
"ลำบากนักก็หันมามองกันตรง ๆ ไม่ดีกว่าหรือ?" เธอเดินมาต่างหาก เดินมาพูดด้วยเสียงดุ ๆ ดังข้างหู
ความละอายประดังขึ้นจนอยากจะแทรกร่างมุดดิน หน้าร้อนผ่าว..มุดไปมุดมากับไหล่ตัวเอง "ว่าไง?.." "เอ่อ.." "ฉันชื่อริน.." "อ่า.." "ฉันมีแฟนแล้ว.." "อะ.." "เสียใจด้วย.."
ยังอ้าปากค้าง..มองเธอเดินฉับ ๆ ไปอย่างตะลึงงัน
พระอาทิตย์ลับแสง..ยังคงไม่มีผลต่อการตะลึงที่ยังไม่สร่างจากหัวใจนั้น เธอพูดขึ้นก่อน..เธอจงใจพูดขึ้นก่อน เธอมาต่อว่า..ต่อว่าด้วยถ้อยคำที่เป็นคำถาม "ว่าไง?" และเธอก็บอก "ฉันมีแฟนแล้ว.." อีกว่า "เสียใจด้วย"
โอ.. เธอสวยเหลือเกิน!!
กลับบ้านคืนนั้นเป็นไข้ปวดหัว นั่นเป็นคำอ้างที่บอกกับแม่และน้องเพื่อไม่ให้พวกเขามายุ่ง จะได้มีเวลาอ่านหนังสือที่ต้องสอบในอีกสามวันข้างหน้า นั่นเป็นคำอ้างกับตัวเอง อยากมีเวลาให้กับภาพประทับที่พิมพ์อยู่กลางใจ นี่ต่างหากที่อยากทำ
นอนดิ้นกลิ้งไปมาบนเตียงไม่รู้ว่าจะกี่ตระหลบ ลืมตาเห็นหลับตาเห็นอยู่นั่นแล้ว.. เธอเป็นใครมาจากไหนทำไมไม่เคยเห็นหน้าแต่รู้แค่ว่าเธอชื่อริน ยังรู้อีกด้วยว่าเธอมีแฟนแล้วและเธอก็เสียใจ ถ้อยคำสองสามคำนี้เวียนวนปนอยู่ในหัว รำคาญตัวเองเต็มที่จึงตัดสินใจโทรฯ หาเพื่อน
"ไอ้มิน.." "เรียกบิดาทำไมลูก?" "บอกข้าหน่อยสิว่าใครวะชื่อริน?" "ลูกหมาตัวที่สิบเอ็ดของนังเขียวใต้ถุนคณะ ถามไม?" "จบข่าว.."
โทรฯ หาอีกคน "ไอ้จ้วง.." "พ่ออยู่นี่ลูก.." "บอกหน่อยสิว่าใครวะชื่อริน?" "รินเป็นชื่อต้นไม้ตระกูลหนึ่งล้มลุกคลุกคลานอยู่แถว ๆ บ่อน้ำข้างบ้าน มีลูกเป็นหวี ๆ มีพ่อเป็นแว่น ๆ .." "พอ..จบข่าว.."
เหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้งไว้บนโต๊ะ ทิ้งตัวกระแทกเตียงนอนอีกครั้งเสียงดังโครมจนแม่ตะโกนด่ามาจากชั้นล่าง พยายามหยิบหนังสือเล่มหนานั้นขึ้นมากางโดยไม่สนใจว่ามันจะกลับหัว.. "รินชื่อฉัน" "ด้วยใจเสีย" "มีแฟนฉันแล้ว" "ลำบากตรงมองนักดีกว่าไม่หรือ" ฯลฯ
โทรศัพท์ช่วยฉุดกระชากให้หลุดออกมาจนบ่องงงวยงุนงัน "ไอ้รัน.." "คือพ่อเอ็ง.." จำได้ดีว่าเป็นไอ้สุดเดชเพื่อนอีกคน "เอ็งไปทำอะไรไว้?" "ฉี่รดต้นมะเขือไปสามต้น.." "มีคนเขาถามหา.." "หาเจอยัง.." "น้องเขาบอกว่าเอ็งทำของตกไว้จะเอาไปคืน.." "เอาไปทั้งวันก็ได้ข้าไม่ถือ.." "น้องรินเป็นน้องสาวของกุ้งแฟนข้า.." ร่างทั้งร่างดีดผึงขึ้นจากเตียงเมื่อได้ยินประโยคนั้น "งากร้ดงหากดากือ่ากนหบ" ประโยคต่อมาเลยจับใจความไม่ได้เลย!!
จากคุณ |
:
รันนรา
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มิ.ย. 54 17:12:33
|
|
|
|