ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องมันมีอยู่ว่า วันที่ 18 เมษายน 2554 เป็นวันเปิดเทอมวันแรก (ซัมเมอร์) ก็ไปเรียนข้างๆ รพ.รามาฯ (ตึกไม่เหลี่ยม) เค้าก็จะมีให้เล่นเกม จับคู่บัดดี้ ฯลฯ เพื่อให้คนในคลาสได้คุ้นเคยกัน เพราะวิชานี้มีกิตติศัพท์ร่ำลือว่ามีคนตกกันเยอะ อาจารย์ก็คงอยากให้รู้จักกัน หรือติวกันเป็นกลุ่ม ประมาณนั้น ตอนเที่ยง ที่มหาวิทยาลัยเค้าก็เลี้ยงข้าว พอกินข้าวเสร็จประมาณ 12.30 น. ผมก็ยังไม่อยากกลับบ้านเพราะว่าแดดยังร้อนอยู่ ผมก็เลยคิดที่จะไปห้องสมุด ในขณะที่เดินไปผมก็เจอรุ่นน้องที่เรียนสาขาเดียวกับผมและน้อง B ก็อยู่ในนั้นด้วย กลุ่มน้องๆต้องการจะซื้อหนังสือ (textbook) ของวิชานี้ ก็มาถามผมว่าจะซื้อได้ที่ไหน ผมก็พาไปซื้อที่ร้านถ่ายเอกสารที่โรงอาหาร พอซื้อเรียบร้อยแล้ว ก็จะไปป้ายรถเมล์เพื่อขึ้นรถกลับกัน ในระหว่างที่เดินไปป้ายรถเมล์ผมก็เดินคุยกับน้อง B ไปตลอดทาง ก็พบว่าน้อง B เคยเรียนปริญญาตรีสาขาเดียวกับผมเลย ก็เลยคุยกันง่ายหน่อย จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:39:11

ความคิดเห็นที่ 2 แต่จะบอกว่าครั้งแรกที่ได้เจอน้อง B ผมก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที (love at first sight เลยล่ะครับ) แต่ก็คิดในใจว่าน้องคงมีแฟนแล้ว เพราะน้องสวยมาก สามารถเป็นนางเอกมิวสิควีดีโอ หรือดารา ได้เลย น้องน่าจะสูงกว่าผมเกือบ 10 เซนติเมตร (ผมสูง 164 cm) อายุอ่อนกว่าผม 4 ปี นิสัยร่าเริง friendly เรียนเก่ง ยิ้มสวย ^^ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 17:25:16 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:40:50

ความคิดเห็นที่ 3 วันที่ 19 เมษายน 2554 เป็นวันเรียนเนื้อหาวันแรก เรียนเสร็จประมาณ 11.00 น. น้องๆก็ชวนไปตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง กัน ในระหว่างที่เดินในตลาด อยู่ๆน้อง B ก็ถามผมว่า B: พี่ Aมีแฟนรึยังง่ะ? ผม: ยังเลยครับ B: เย่!!! มีเพื่อนแล้วววววว เท่านั้นแหละครับ พอกลับมาบ้านผมก็คิดหนักเลย เอาไงดีวะ จีบ/ไม่จีบ ดี เพราะตอนแรกเราคิดไปเองว่าน้องมีแฟนแล้วแน่ๆ แต่กลับไม่มีแฟนซะงั้น (ได้ข้อมูลมาว่าเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อต้นปี) น้องก็ตัวสูงกว่าเราตั้งเยอะ เดินไปด้วยกันแล้วน้องจะอายคนอื่นมั้ยหรือจะเป็นตัวเราที่จะต้องอายคนอื่นล่ะ?? คิดไปคิดมา คิดซ้าย ขวา หน้า หลัง แล้ว ก็บอกกับตัวเองว่า “เอาวะ!! ไหนๆโอกาสก็มาแล้ว ถ้าไม่ไขว่คว้าเอาไว้ เสียดายตายแน่เลย” เพลง "เล่นของสูง" มันดังก้องในหัวผมตลอด (ตล๊อดดด ตล๊อดดด) "รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง ยังไงจะขอลองดูซักที" "ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีซักวัน อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน" แล้วนับแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็เป็นคนติววิชานี้ให้กับเค้าและเพื่อนๆของเค้า ผมกับน้องเค้าก็สนิทกันจากตรงนี้นี่แหละครับ ^^ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:45:25

ความคิดเห็นที่ 4 วันที่ 24 เมษายน 2554 ผมก็นัดติวเนื้อหาที่เรียนกัน และผมก็ชวนน้องเค้าไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือที่อนุสาวรีย์ฯ กัน ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่ได้ไปไหนมาไหนกันสองต่อสอง ^^ ในระหว่างนี้ ผมก็คิดมาตลอดทุกๆวันว่าจะบอกชอบเค้าตอนไหนดี เพราะสถานการณ์ไม่เป็นใจเลย (วิชานี้มีการสอบทั้งหมด 5 ครั้ง ใช้เวลาเรียน 1 เดือนกับอีกประมาณ 1 อาทิตย์) ก็เลยคิดว่าจะบอกหลังจากสอบครั้งที่ 1 เสร็จ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:46:21

ความคิดเห็นที่ 5 วันที่ 28 เมษายน 2554 สอบครั้งที่ 1 พอสอบเสร็จก็ไปดูหนัง “ลัดดาแลนด์” กัน 4 คน (น้องอีกคนไม่ได้ไป) แต่พอกลับมาบ้านแล้ว สิ่งที่คิดเอาไว้ว่าจะบอกชอบวันนี้ กลับไม่กล้าบอก ก็เลยเก็บมันเอาไว้ก่อน ก็คนมันไม่กล้านี่นา T_T วันอาทิตย์ถัดมา (1 พฤษภาคม 2554) ก็นัดน้องติวกันอีก แต่น้อง B มาตอนเช้า เพื่อนๆมากันตอนบ่าย ผมก็เลยได้ติวกับน้องไปพลางๆก่อน ในตอนกลางวันไปกินข้าวกันสองคน ที่ รพ.รามาฯ และตอนเย็นเดินไปขึ้นรถที่ป้ายรถเมล์ด้วยกัน ในขณะที่นั่งอยู่ ก็มีรถเต่าวิ่งผ่าน น้องเค้าก็หยิกและบิดแขนผมและบอกว่า “ขอให้สอบได้ๆๆ ขอให้สอบผ่านๆๆ”ผมก็รู้สึกแปลกๆ เพราะเกิดมาไม่เคยมีใครทำกับผมแบบนี้มาก่อน!!! ตอนนั้นน่ะ ผมล่ะตัวแข็งทื่อเลย 555+ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 16:38:11 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:47:40

ความคิดเห็นที่ 6 ต่อมา ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2554 ก็ไปดูหนังเรื่อง “Fast five” กันสองคน เนื่องจากวันที่13-17 เป็นวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน น้องคนนึงก็ต้องกลับบ้านที่เชียงใหม่ น้องอีกสองคนก็หลีกทางให้ผม ก็เลยเหลือผมกับน้อง B สองคน ในตอนแรกก็คิดว่าวันนี้จะได้ไปดูหนังกับน้องมั้ยว้า ?? แต่พอไปๆมาๆ น้องก็ตกลงไปดูหนังกับผมสองคน เพราะเพื่อนๆ (ที่บอกไปเมื่อกี้) ไม่ว่างกัน โดยสรุปก็ได้ไปดูหนัง และร้องคาราโอเกะ (ตู้) เดินดูเสื้อผ้ากับน้องเค้า ที่เซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัย วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นอาทิตย์สุดท้ายของการเรียนและการสอบ ซึ่งนั่นหมายถึงผมจะไม่ได้เจอน้องเค้าอีก เพราะผมต้องย้ายกลับไปเรียนที่ศาลายา ผมก็เลยคิดแล้วคิดอีก (อีกแล้ว) ว่าหลังจากการสอบครั้งที่ 4 จะต้องบอกให้ได้ วันที่ 23 พฤษภาคม 2554 สอบครั้งที่ 4 ในคืนของวันนี้ผมก็โทรไปหาน้องเค้า       ผม:    พี่อยากบอกว่าพี่รู้สึกดีๆกับ B นะ พี่ขอโอกาสที่เราจะรู้จักกันมากกว่านี้ได้มั้ย??       B:      Bรู้สึกกับพี่แบบพี่ (พี่ชาย-น้องสาว) อะค่ะ พี่ A เป็นคนใจดี น่ารัก และ B รักพี่แบบพี่ชายมากกว่า      ผม:    มันจะไม่มีทางเปลี่ยนได้เลยเหรอ      B:      B ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้คิดกับพี่แบบพี่ และก็ไม่อยากให้เสียเวลามารอด้วยค่ะ      ผม:    เอางี้ พี่ให้เวลา B ไปคิดก่อนดีกว่า ว่าจะเอายังไง แล้วค่อยบอกพี่อีกทีก็ได้      B:      ค่ะ +++++++++++++++++++++++จบบทสนทนา+++++++++++++++++++++ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 14:50:15 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 14:48:45

ความคิดเห็นที่ 7 เวลาผ่านมาเรื่อยๆ ในระหว่างนี้ผมก็ยังโทรหาน้องตลอด หรือไม่ก็เขียน facebookหรือไม่ก็ส่ง message ซึ่งผมยังไม่ได้เดินเครื่องจีบอย่างเต็มพิกัดเลย ดูหนังสองคนแบบน้องเต็มใจไปดูกับผมสองคนก็ยังไม่เคย กินข้าวด้วยกันแบบสองคนจริงๆจังๆก็ยังไม่เคย หรือไปเที่ยวสองคนแบบจริงๆจังๆก็ยังไม่เคยเลย  และก็โดนบล๊อคจากน้องซะก่อน T_T จนเวลาผ่านมาจนถึงเมื่อคืนของเมื่อวานซืนนี้ (22 มิถุนายน 2554) 22 มิถุนายน 2554 เวลาประมาณ 20.00 น. ผมโทรหาน้อง จะถามเกี่ยวกับคะแนน (ในวิชาที่น้องกำลังเรียน) ว่าออกหรือยัง แต่น้องก็ไม่ได้รับโทรศัพท์ ถัดมาประมาณ 1 ชม. น้องโทรศัพท์มาหาผม B:    พี่ A ยังจำเรื่องที่เคยถาม B เมื่อตอนนู้นได้มั้ย?? ผม:  จำได้ครับ B:    คือจะบอกว่ายังไงก็ยังรู้สึกกับพี่แบบเพื่อนอยู่ดี และตอนนี้กำลังดูๆอีกคนนึงอยู่ด้วย การที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นกลุ่มก็ไปได้ แต่ถ้าให้ไปสองต่อสอง เช่นกินข้าว ดูหนัง (เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมชวนน้องไปดูหนัง แต่น้องไม่ได้ไปเพราะเจ็บคอ) B คงจะไม่สะดวก เพราะไม่อยากมีปัญหา และคิดว่ามันไม่แฟร์กับพี่ด้วย เหมือน B หลอกพี่อยู่อะ แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 54 16:41:04 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:00:22

ความคิดเห็นที่ 8 โดยสรุปก็คือ ผมก็บอกว่าผมจะรักษาระยะห่างให้ห่างออกมามากกว่านี้ ห่างพอที่จะทำให้น้องไม่ลำบากใจ และผมก็อยากจะรอเค้า แม้ว่าเวลาจะนานเท่าไหร่ผมก็ไม่คิดว่ามันเป็นการเสียเวลา และไม่คิดว่าเป็นการโดนหลอกด้วย แต่ก็ไม่ควรนานเกินไปนะ เพราะอายุผมก็ไม่ใช่น้อยแล้ว ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้เกิดมาเจอและรู้จักน้องคนนี้ บางสิ่งที่ผมไม่เคยบอกน้องเค้า ผมจะบอกผ่านกระทู้นี้ และเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ผมจะเซฟกระทู้นี้เอาไว้และส่งให้น้องเค้า คือผมไม่อยากให้ความทรงจำดีๆมันหายไปตามกาลเวลาอะครับ ในทางกลับกัน ถ้าผมปล่อยให้น้องหลุดมือไป โดยที่ผมไม่พยายามทำอะไรบ้างเลย ผมคงจะรู้สึกเสียใจไปตลอด เพราะน้องคือคนที่ใช่สำหรับผมมากที่สุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างรวมอยู่ในคนคนเดียวแล้ว ผมจะไปหาจากที่อื่นทำไม แต่เรื่องของจิตใจมันห้ามกันไม่ได้ บางทีเราก็ต้องยอมรับความผิดหวัง แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ ตราบใดที่น้องยังไม่แต่งงานผมก็จะรอไปเรื่อยๆ แต่ผมจะไม่ไปแย่งหรือยุหรือเป็นมือที่สามให้เค้าสองคนเลิกกันเด็ดขาด จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:02:12

ความคิดเห็นที่ 9 โอกาสแห้วตั้งแต่เตี้ยกว่า 10 เซนแล้วครับ ขอประทานอภัยที่ต้องเรียนกันตรงๆ จากคุณ : จะมาเอาอะไรกับโผ๊มมมมม เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:04:26

ความคิดเห็นที่ 10 สิ่งที่น้องเค้ายังไม่รู้คือ -       ข้อความ facebookทุกข้อความที่เค้ากับผมเขียนสื่อสารกัน ไม่ว่าเค้าเขียนหาผม หรือผมเขียนหาเค้า .ผมยังเก็บไว้ทุกข้อความไม่มีหล่นหาย -       ข้อความทุกข้อความจากโทรศัพท์มือถือที่เค้าส่งหาผม แม้กระทั่งเวลาที่เค้าโทรหาผมไม่ติดแล้วระบบส่งข้อความมาว่ามีเบอร์เค้าโทรหาผม .ทุกข้อความ ผมก็ยังเก็บไว้ -       MSN messenger ที่เคยคุยกันทุกประโยคในเครื่องของผม .ถ้าผมเก็บได้ผมก็เก็บไว้ (เพราะบางทีไปใช้เครื่องอื่นๆแล้วไม่ได้ save เอาไว้) ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่อยากจะระบายครับ เพราะไม่รู้จะระบายออกทางไหนดี (แต่ก็โทรหาเพื่อนแล้วระบายกับมันแล้ว) ตอนนี้ผมก็รู้สึกอ่อนล้า แต่คงรู้สึกอย่างนี้ไม่นานหรอกครับ และผมก็จะ save กระทู้นี้ไว้เก็บไว้เป็นความทรงจำของผม เมื่อไหร่ที่มาอ่านทุกทีก็จะมีความสุขทุกครั้ง ^^v แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 54 08:43:24 แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 54 10:52:17 จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:04:49

ความคิดเห็นที่ 11 อืมม คบไปเรื่อยๆ  คนดีๆ คบแบบ พี่น้องได้ยืดยาวกว่า จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:17:14

ความคิดเห็นที่ 12 สู้ๆนะคับ... ก็ไม่รู้จะให้กำลังใจยังไงดี บทสรุปของคำว่า รอแล้วได้อะไร มันเป็นแบบนี้นี่เอง //ปล. เราเรียนที่เดียวกันครับ... จากคุณ : คนตราหมี (RadoN) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:17:43

ความคิดเห็นที่ 13 อารมณ์นี้น่าจะเหมาะกว่าครับ  เคยเจอะกับตัวเองมา เข้าใจดีครับ จากคุณ : thkrit เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 15:34:42

ความคิดเห็นที่ 14 อารมณ์นี้น่าจะเหมาะกว่าครับ  เคยเจอะกับตัวเองมา เข้าใจดีครับ จากคุณ : thkrit เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:12:35

ความคิดเห็นที่ 15 ถูกใจ !!! ผู้หญิงพูดตรงและวางตัวดีครับ จขกท. จดเป็น diary เลยหรือเปล่าครับเนี่ย จากคุณ : นิดหนึ่งพอ (Oum15) เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:15:17

ความคิดเห็นที่ 16 ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ    .....ยังไงเค้าก็ไม่ได้รู้สึกแย่กับเรา susu!!  ^_^' (แหม...พอแห้วแล้วก็ประกาศหาในนี้ซะเลยนะคะ  จขกท  ฮ่าๆ ==") จากคุณ : กระวีร์กระวาด เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:17:08

ความคิดเห็นที่ 17 # คห.15 ผมจดเป็น diary ครับผม เอามาเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆครับ ยังมีเหตุการณ์อื่นๆอีกที่ไม่ได้เล่า แต่นึกถึงทีไรก็มีความสุขครับ ผมไม่เคยโกรธน้องเค้าเลย เพราะผมไม่มีสิทธิ์แบบนั้น (แมนมะ 555+) # คห.16 ผมแค่อยากจะศึกษาข้อมูลเอาไว้ให้อุ่นใจครับว่ายังพอมีผู้หญิงโสดๆ หน้าตาไปวัดไปวา นิสัยดี อยู่บ้าง (มั้ย) ^^ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:23:30

ความคิดเห็นที่ 18 เจ้าของกระทู้เจอผู้หญิงที่ดีน่ะครับ ตรงๆเคลียๆ ดีกว่าค้างคาๆ หลอกเราไปเรื่อย จะเจ็บกว่านี้ล้านเท่า จากคุณ : เก้ง ab animal เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:42:34

ความคิดเห็นที่ 19 หยุดหวังแล้วหาคนที่รักเราจิงๆ แล้วจะไม่เจบ ช์วิตจะดีกว่านี้คับจิงๆ จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 16:55:52

ความคิดเห็นที่ 20 เพลงนี้น่าจะตรงอะครับ ^^ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 17:21:50

ความคิดเห็นที่ 21 มีค่ะ เพิ่งโดนทิ้ง โดยบอกว่าเปนเพื่อนกันเถอะ ทั้งๆที่เค้าเปนคนมาจีบมาชอบเราเอง แต่กลับบอกว่าเรายังรู้จักกันยังไม่ดีพอ เปนเพื่อนดีกว่านะเผื่อพัฒนา กรุจะบร้าาาาาาาาา จากคุณ : Chillin' Me เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 54 21:08:13

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านแล้วรู้สึกว่าทั้งคุณและน้องB เป็นคนดีทั้งคู่เลย โดยเฉพาะน้องB เค้าเป็นผู้หญิงที่ดีนะ ตรงและแฟร์ๆ คุณเองก้อเป็นคนที่จีบเค้าได้น่ารักมาก ค่อยเป็นค่อยไป เฮ้อ อ่านแล้วชักจะตาร้อนนน ยังมีหวังแหละค่ะ ถ้าคุณยังเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้เนาะ อนาคตไม่แน่ว่าเธออาจจะหันมาสนใจคุณบ้างก้อได้ ^^ ที่สำคัญสิ่งที่คุณอยากทำคุณก้อได้ทำไปแล้ว ตรงนี้แหละที่ดีที่สุด ปล. เราเองก้อเรียนจบมาจากที่นี่ค่ะ (แต่ไม่รู้ว่าจะคณะเดียวกันรึเปล่า) อิอิ อ่านแล้วเหมือนระลึกความหลังตัวเองไปด้วย 555+ จากคุณ : อกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน.... เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 18:49:18 A:58.9.18.189 X: TicketID:263931

ความคิดเห็นที่ 23 คุณอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน วันนี้เจอกันในกระทู้หลายรอบนะครับ อิอิ ผมก็อยากจะบอกว่าผมยังจะเสมอต้นเสมอปลายแบบนี้แหละครับ ไม่ใกล้เกินไปให้รำคาญ ไม่ห่างเกินไปจนห่างเหิน และยังจะรออยู่อย่างนี้เรื่อยไป เพราะผมเจอคนที่ "ใช่" แล้ว การจะเจอคนที่ใช่ซักคน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมจะรอไปเรื่อยๆ แม้ว่าวันนึงในอนาคตผมจะต้องผิดหวัง ผมก็ยอมนะ ยอมใช้เวลารอเพื่อคนคนนี้คนเดียวจริงๆ แต่ถ้าในอนาคมสมหวังขึ้นมา คุณรู้มั้ยว่ามันคุ้มค่ากับการรอคอยแค่ไหน โย่ววว ^^/" ปล.ผมไม่ได้อยู่คณะวิทย์นะครับ ผมไปเรียนที่คณะวิทย์วิชาเดียวครับ แล้วย้ายมาเรียนที่ศาลายา^^ จากคุณ : เด็กชายบ้องตื้น เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 19:14:41