บ้านของผมเป็นบ้านไม้กึ่งปูนหลังใหญ่ พื้นยกสูง..พอที่จะกั้นห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ ได้ ชั้นบนเป็นห้องนอนของแม่กับพ่อ..ขึ้นไปอีกชั้นเป็นห้องผมกับน้องอยู่ติดกัน ห้องผมจะมีระเบียงยื่นออกจากตัวบ้านไปเล็กน้อย..เป็นที่ที่ผมมักจะใช้นอน เล่นและอ่านหนังสือ
และบางทีผมก็เอาไว้พักสายตา มองลอดกิ่งใบของต้นมะม่วงที่ปลูกเป็นรั้วนั้น ไปบ้านข้าง ๆ
ซึ่งมีแต่ป้าชั้นกับลุงขาว..อาศัยกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น นาน ๆ ทีผมจึงจะมองไปที่บ้านหลังนั้นสักที ****
เพื่อนบ้านหลังนี้ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้านของผมเป็นอย่างมาก แค่กิ่งมะม่วงยื่นเลยเขตเข้าไปหน่อย ลุงขาวก็ช่วยมาตัดให้ ไม่สนใจว่าจะมีดอกมีผลติดอยู่มากน้อยแค่ไหน แค่ผมเปิดเพลงเสียงดังไปนิด..แกก็ช่วยเตือนด้วยการตะโกนบอกว่าเบา ๆ หน่อยโว้ย
แม่เคยบอกว่าชีวิตของป้ากับลุงคู่นี้น่าสงสาร ลูกเต้าโตแล้วก็ย้ายหนีไปหมด..เพราะการปากร้ายขี้บ่นของแกนี่แหละ ลุงขาวเป็นทหารเก่า..เจ้าระเบียบและดุชะมัด ส่วนป้าชื้นเป็นครู ครูแก่ใส่แว่นเหมือนครูไหวใจร้ายเดี๊ยะเลย มาวันหนึ่งบ้านนี้ก็มีสิ่งน่าสนใจเกิดขึ้นมา คืนนั้นประมาณสี่ทุ่ม..ผมก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด พอดีผมยังไม่หลับ..นั่งทำการบ้านงุด ๆ อยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ จำได้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงเตรียมสอบเข้ามหาฯลัย..ต้องขยันทำการบ้านและ อ่านหนังสือจนดึกเป็นพิเศษ
ด้วยความแปลกใจ..นานเท่าไรแล้วนี่กับการที่จะมีใครมาเยี่ยมป้ากับลุงคู่ นั้น??
ผมเลยเดินออกไปดูที่ระเบียง มองลอดใบมะม่วงออกไป เห็นรถยนต์คันหนึ่ง ยี่ห้ออะไรไม่ได้สังเกต สังเกตคนที่ก้าวออกมาจากรถ มากกว่า
หนึ่งเป็นชายอายุคงไร่เรี่ยกับพ่อของผม..สองเป็นหญิงอายุก็คงใกล้เคียงกับ แม่ของผม
ส่วนอีกหนึ่ง..อุว๊าว! ผมขยี้ตา หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ..ขณะที่ตะลึงจ้องมองภาพที่เห็นตรงหน้า *****
จะบรรยายว่ายังไงดี? ร่างผอมเล็ก..ในเสื้อยืดขาวลายการ์ตูนสีชมพู ยืนอยู่ใกล้โคมไฟแสงสีส้ม มันอาบร่างของเธอ..จนผิวขาวใส..ผมดำปรกหน้าผาก..ตาหวานปาก แดง..อายุอานามยังคะเนไม่ถูก
แต่พอเหลือบตาลง..กางเกงขาสั้นสีขาวนั้น..ทำให้ผมรู้ว่าเธอคงไม่เด็กกว่า ผมไปสักกี่ปี
ขาสวยออกขนาดนั้น **********
ในอ้อมกอดของเธอมีอะไรชนิดหนึ่ง สีน้ำตาลเข้ม มองแทบไม่เห็นอันไหนหัวอันไหนหู เห็นแต่ลิ้นแดงที่แลบออกมา มันพยายามดิ้นรนให้พ้นอ้อมอกของเธอ..ส่งเสียงงี๊ดง๊าด เธอจุ๊ปากขมวดคิ้ว..แล้วก็ยอมปล่อยลงบนพื้น พอเธอยืดกายขึ้น..ผมก็ต้องเปลี่ยนใจ พร้อมกับการกลืนน้ำลาย..ผมเดาใหม่ว่าเธอคงอายุเท่าผม ยอมให้แก่กว่าสองปีเลยเอ้า เอื๊อกส์ **************
เช้าวันนั้นผมเลยต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษ ประตูที่จะเปิดไประเบียงถูกทำงานอีกครั้ง หยั่กไย่ฝุ่นผงร่วงกราว มันถูกปิดตายมานานแค่ไหนแล้วนี่? ผมฉวยไม้กวาดมากวาด..ทำเป็นคนขยันแต่เช้า สายตาก็ชำเลืองข้ามรั้ว..รถคันนั้นยังจอดอยู่..เธอยังไม่กลับแน่ ๆ เธอคงมาเยี่ยมป้ากับลุงพร้อมกับแม่และพ่อของเธอ..วันนี้เป็นวันหยุด..เธอ คงไม่รีบกลับ
แต่ทำไมตื่นสายจัง?
กวาดจนไม่รู้จะกวาดอะไร..เธอก็ยังไม่ตื่น เลยเอาเสื่อมาปูนอน..ฉวยหนังสือเล่มหนึ่งติดมือมาด้วย อากาศยามเช้าสดชื่น..เสียงนกกาฟังแล้วเพลินดีจัง ยกมือที่มีหนังสือขึ้นอ่าน แล้วก็หลับปุ๋ย
ตกใจตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะได้ยินเสียงหมาเห่า พร้อมกันนั้นก็ได้ยินเสียงตวาดเล็ก ๆ ของเจ้าของหมา ค่อย ๆ หรี่ตาดู แล้วก็ใจหายวาบ เธอมาอยู่ที่ใต้ต้นมะม่วงนั้นตั้งแต่เมื่อไร? รีบพลิกตัว..บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมต้องแอบดูเธอ มันตื่นเต้นไงก็ม่ายรุ แสงยามเช้ายิ่งทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัด สาวน้อยคนนี้ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็น่ารักเหลือเกิน เธอสดใสอยู่ในเสื้อเชิร์ตรัดรูปไร้แขนสีอิฐ ซึ่งช่วยขับเน้นความขาวเนียนของ ผิวให้เห็นชัดยิ่งขึ้น
เธอกำลังวิ่งตามหมาของเธอ..ซึ่งกำลังกระโดดหยองแหยงแล้วโก่งคอเห่า อย่างเอาเป็นเอาตาย
อ้าว..มันกำลังเห่าผมหรือนี่?!?
เธอส่งเสียงเรียกหมาของเธอ "รัน..เห่าอะไรอะ..รัน..เงียบนะ!!"
ผมยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง..ผมไม่ได้เห่าซะหน่อย "แน่ะ..ผิดที่หน่อยเดียวทำตัวเหลวไหลใหญ่แล้ว..ฉันบอกให้เงียบไง.." เจ้าหมาตัวนั้นก็เชื่อฟังเจ้าของเหลือเกิน..มันกระโดนสี่ขาลอยจากพื้นแล้วเห่า อย่างเอาเป็นเอาตาย
โดดหยอง ๆ เหมือนหมาการ์ตูนไม่มีผิด เธอเหลือบตาขึ้นมอง..มองว่าหมาของเธอเห่าอะไร ผมหลบวูบ หลบทำไมตอบไม่ได้..แต่ให้ตาย..ไม่กล้าสบตากับเธอจริง ๆ "เห่าอะไรนะ..ลูกมะม่วง?..เกิดมาไม่เคยเห็นรึไง?..หรือเห่ามดแดง?.." มันยังเห่าไม่หยุดยั้ง "มานี่มา..เห่าอะไรง่าย ๆ อย่างงี้แล้วจะอยู่ที่นี่ได้หรือนี่..เราต้องอยู่อีกหลาย วันเชียวนะ..กว่าจะสอบเอ็นท์ฯเสร็จ..."
รู้สึกว่าเธอจะจับหมากระต่ายตัวนั้นได้แล้ว ได้ยินเสียงมันครางงืดๆ "เก็บเสียงไว้ดีกว่า..เอาไว้เห่าใครที่ชอบแอบดูชาวบ้าน..หรือถ้าจะให้ ดี..กระโดดกัดลูกกระเดือกเลย..รู้ไหม?"
ผมกลืนน้ำลาย ลูกกระเดือกแหลมเปี๊ยบกระดกขึ้นลง ตัดสินใจจะเถียงลงไป ว่าผมไม่ได้แอบเสียหน่อย..เธอก็หันหลังเดินจากไป
มีแต่เจ้าหมาตัวนั้น..มันวางสองขาไว้ตรงบ่าของเธอ มองผมเขม็ง..แล้วเห่า "อ๋อง"
นั่นมันหมาแน่รึเนี่ย?
ผมเก็บภาพนั้นไว้ในหัวใจโดยที่ตัวเองไม่ได้สั่ง มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ..ยิ่งกว่าชิปตัวใดในโลกจะทำได้ มันเป็นการสั่งการของหัวใจ..ไวเสียกว่าแสง..วาบเดียวเก็บลึกถึงก้นบึ้ง "ตายล่ะหว่า..ไอ้รัน..เอ็งชื่อเหมือนหมาของเธอเลย..แล้วเธอจะแยกออกรึว่า เอ็งเป็นหมาหรือคน?"
ผมรำพันกับตัวเอง
ดีดผึงจากเสื่อที่นอนนั้น..ทำให้หนังสือกระเด็นหวือออกจากอก กระทบกับสันกำแพงแล้วกระเด้งตกลงไปในเขตรั้วบ้านเธอ ผมตกใจ..จะเชื่อไหมนี่ว่าผมไม่ได้ตั้งใจ เช็ดริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย..พระเจ้าเข้าข้าง ซาตานเข้าทางดีแท้ ผมยักคิ้วให้กับตัวเอง ***** สำรวจตัวเองในกระจก หนุ่มน้อยตัวสูง..ต้องก้มเล็กน้อยเพื่อดูทรงผม จริง ๆ ไม่ต้องดูก็ได้..ก็มันตั้งชี้โด่เด่ไปคนละทิศละทาง..มีบ้างที่โน้มลงมาปิด หน้าผาก..คิ้วเข้มเหมือนแม่...ตาโตเหมือนพ่อ..จมูกก็เหมือนพ่อ..แต่ปาก หนาเหมือนแม่
ขมวดคิ้วเล็กน้อยให้ดูหล่อเข้าไว้ ยิ้มให้ตัวเอง...สำรวจลักยิ้มที่มีบ้างนิด ๆ พอเป็นพิธี แล้วใส่เสื้อผ้า
**********
จากคุณ |
:
รันนรา
|
เขียนเมื่อ |
:
วันต่อต้านยาเสพติดโลก 54 15:39:24
|
|
|
|