ความคิดเห็นที่ 1 ปวดหัวแทน จริงๆ เท่าที่เข้าใจเอง เคยได้ยินเคสไม่ใส่ชื่อพ่อก็ได้ เรื่องจดทะเบียนสมรสไม่ต้องจดก็ได้ หลายคู่เยอะแยะที่แต่งานมี ลูกแล้วไม่จด ส่วนรับรองบุตรผมว่าน่าจะไม่ต้องมั่งถ้าลงชื่อแต่แรก ว่าเป็นพ่อแล้วในใบแจ้งเกิด ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ส่วนนามสกุล ไม่จำเป็นมั่งครับ น่าจะเลือกได้ว่าจะนามสกุลแม่ก็ได้ จากคุณ : time3957 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 05:38:51

ความคิดเห็นที่ 2 ^______^   ยิ้มไว้ค่ะ  ยิ้ม........  ยินดีต้อนรับว่าที่คุณพ่อ การที่คุณจดทะเบียนรับรองบุตร   * ตามกฎหมาย *  นั้นมีผลคือ  หนูน้อยคนนี้ได้มีหลักฐานว่า  เค้ามีพ่อนะ (เป็นชื่อคุณ) ไม่ใช่ไม่รู้เป็นใคร   เพราะแม่เค้าสามารถเว้นว่างไว้โดยไม่ลงชื่อใครเลยก็ได้ค่ะ   แต่การเว้นว่างไว้มันมีผลทางด้านจิตใจกับเด็กไปตลอดชีวิต  และเค้าจะรู้สึกอับอาย กระอักกระอ่วน  เป็นปมด้อย  เมื่อต้องใช้หลักฐานนี้เข้าโรงเรียนหรือทำสิ่งใด  หากคุณสามารถช่วยได้ก็ได้บุญอย่างมากที่สุดค่ะ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนสมรสค่ะ และเค้าไม่จำเป็นต้องใช้นามสกุลคุณ  ถ้าคุณไม่ลงนามยินยอม  โดยหนูน้อยคนนี้สามารถใช้นามสกุลของคุณแม่ได้อยู่แล้ว  (และในกรณีที่คู่สมรสจดทะเบียนกัน  ก็สามารถเลือกได้ว่าจะให้บุตรใช้นามสกุลของคุณพ่อหรือคุณแม่) ผลตามกฎหมายที่จะตามมาคือ.........ในอนาคตหากคุณมีภรรยาหรือมีลูก   หรือแม้แต่ไม่มีก็ตาม   เด็กน้อยคนนี้สามารถนำหลักฐานในการที่คุณได้  * จดทะเบียนรับรองบุตร *    มาเรียกร้องสิทธิค่าเลี้ยงดู   หรือทรัพย์สินมรดกจากคุณได้ตามสิทธิตามกฎหมาย   ซึ่งศาลจะต้องตามสืบพยานหากคุณไม่ยินยอมและจ้างทนายต่อสู้  (อันนี้จำเป็นต้องพูดให้ครอบคลุมเผื่อไว้เท่านั้นค่ะ)   มันอยู่ที่คุณจะตัดสินใจนะคะ  ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม?  ปัญหานี้ ป้องกันได้โดยทำหนังสือขึ้นมาอีกฉบับ  มีรายละเอียดว่าจะไม่มีการเรียกร้องค่าเลี้ยงดู  ค่าทดแทนใด ๆ และทรัพย์สินมรดกจากคุณในอนาคตค่ะ   และการจดทะเบียนรับรองบุตรในครั้งนี้  * ทำเพื่อมนุษยธรรมเท่านั้น *  (อันนี้แค่เป็นแนวทางนะคะ) ตรงนี้จะให้ทนายร่างให้   หรือจะลองคิดให้ครอบคลุมเป็นข้อ ๆ เขียนด้วยตัวเองก็ได้  ลงสถานที่เขียน  ลงวันที่ เดือน พ.ศ.  ให้ชัดเจน   ทำหนังสือขึ้นมาสองฉบับมีข้อความตรงกัน  ลงนามกำกับ  ทั้งสองฝ่าย  (ตัวคุณและแม่เด็ก)   รวมทั้งพยานสองคนเป็นอย่างน้อยค่ะ ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจครั้งนี้นะคะ   อยากให้ปรึกษาผู้ใหญ่ฝ่ายของคุณค่ะ   เรื่องนี้ควรมีพยานผู้รู้เห็น (ที่รู้เรื่องเป็นอย่างดี)   และเพื่อเป็นหลักฐานพยานบุคคลที่สำคัญในอนาคต. แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 54 06:52:50 แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 54 06:36:59 จากคุณ : รวมฝัน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 06:15:15

ความคิดเห็นที่ 3 อยากเป็น Single mom เห็นใครๆก็เป็นกัน ว่าเป็นเทรนด์ อ่านแล้วเหนื่อยใจ เห้อความคิดคุณแม่ จากคุณ : นั่งชมตะวันใต้เงาแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 06:27:03

ความคิดเห็นที่ 4 เธอทำกับใคร ใครทำกับเธอ ทำไมเธอไม่จัดการเอง เรื่องแบบนี้ระยะยาวน่าจะมีปัญหาหรือเปล่าไม่อาจทราบได้ แต่ว่าเธอทำไมไม่ปรึกษาผู้ชายคนนั้นที่ทำให้เธอท้องเล่า? มันเป็นเทรนด์ อืม...ใช่ แต่การเซ็นต์รับแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไม่ใช่เทรนด์เน้อ จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 06:38:19

ความคิดเห็นที่ 5 * อยากเป็น Single mom เห็นใครๆก็เป็นกัน ว่าเป็นเทรนด์ * ในความเป็นจริง  คนที่เป็นแม่เด็กอาจพูดเพียงเพื่อให้ขำ ๆ  เพื่อปกปิดอำพรางความรู้สึกเจ็บช้ำในใจก็ได้ค่ะ ซึ่งในใจผู้ที่กำลังจะเป็นแม่ย่อมรู้ดีว่า.....มันเจ็บปวดแค่ไหนที่ต้องอุ้มท้องคนเดียวตามลำพังโดยปราศจากสามี  ท่ามกลางสังคมรอบข้าง  มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ คนที่ตัดสินใจอย่างนั้นต้องขอบอกว่า  น่านับถือ........ แต่อ่านแล้วมานั่งคิดคำนึง   มีความรู้สึกว่าตอนนี้ทุกอย่างมันยังไม่เคลียร์   ถึงตอนจบบทสรุปจริง ๆ  เธออาจจะเปลี่ยนใจไปตกลงกับพ่อของเด็กได้เป็นอย่างดี   โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้   ตามปกติคนเค้ารักกันชอบกัน  ถึงจะได้มีความสัมพันธ์กัน   วันนี้อาจจะทำและพูดด้วยอารมณ์  ที่ยังไม่เข้าใจกันก็ได้ แต่สุดท้ายหากต้องเป็นไปตามนั้น  การลงนามใด ๆ ก็ขอให้รอบคอบนะคะ  คุณ จขกท. แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 54 07:22:35 จากคุณ : รวมฝัน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 06:44:04

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นตามความคิดเห็นที่ 2 ค่ะ ถ้าคุณไม่คิดจะแต่งงานจริงๆ นะ และอยากได้หลานให้แม่จริงๆ อย่าลืมร่างสัญญาด้วยนะค่ะ เผื่อๆ ไว้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่กันไว้ก่อน เค้าคงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ จากคุณ : Ph.D FS เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 07:40:03

ความคิดเห็นที่ 7 ยิ้มรับ กับ หนูน้อยคนใหม่ แต่ทำอะไร ปรึกษาผู้ใหญ่หน่อยก็ดีนะครับ จากคุณ : Mr.Aum เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 07:52:38

ความคิดเห็นที่ 8 คห*2 ...ชัดเจนชัดแจ้งครับ   เรื่องผู้ใหญ่เป็นพยานเนี่ยท่าทางจะเรื่องใหญ่ คห*5 ...ไอ้เรื่องปกปิดความเสียใจอ่ะ..คงจริงอย่างว่าแหละครับ ลูกคนนึงมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ   ส่วนผู้ชายคนนั้น เพื่อนผมมันคงไม่อยากได้จริงๆแหละครับ คือผมเข้าใจมันนะ คนที่จะมาเป็นพ่อของลูก มันก็ต้องเป็นคนที่มี หรือ น่าจะมีอนาคตที่ดีอ่ะนะ  คือดูแลลูกๆได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ผมเข้าใจมันทุกอย่าง.........จริงๆนะ .....เรื่องเทรนด์ คือจะบอกว่าอาจจะเฉพาะกลุ่มเพื่อนมหาลัยผมอ่ะครับ พูดถึง มันเยอะจริงๆ ...single mom 7-8คนละตอนนี้ จากคุณ : lex_tourism (lex_tourism) เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 07:53:34

ความคิดเห็นที่ 9 คห.2  ชัดเจนจ้า จากคุณ : Park Gibzilla เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 09:12:46

ความคิดเห็นที่ 10 อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นครับ เดี๋ยวปัญหาตามมา จากคุณ : นายครรชิต เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 09:34:50

ความคิดเห็นที่ 11 ก็ต้องนามสกุลพ่อสิ เอาเมี่ยงเค้ามาอม ไม่ดีหรอกนะ อีกอย่าง ลูกคนนะ ไม่ใช่ลูกน้องหมาน้องแมว โตมาต้องเข้าเรยีน กว่าจะจบ ไหนจะถ้าเกิดลูกรับไม่ไ่ด้อีกถ้าพ่อเป็นเก้ง หรือรู้ความจริงอะไรหลายอย่าง อีกอย่าง ลูกเพื่อนนะ เกิดวันนึงทะเลาะกับเืพื่อนขึ้นมาจะอะไรยังไง ? เด็กก็ต้องการแม่นะ ปัญหาหลากหลายมากมาย ควรไปปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่และผู้เชี่ยวชาญต่างๆดีกว่า จากคุณ : moshita เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 09:44:38

ความคิดเห็นที่ 12 you can adopt, if you really want. but you must take care for many years. and to have baby like a you buy the lottorey, if good luck get good baby character make you happy, but if bad luck bad character, make headahce all your life. hope you win lottery because your good heart.... จากคุณ : miss preserved fish เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 09:53:57 A:138.188.100.232 X: TicketID:322214

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นด้วยตามที่พี่ รวมฝัน บอกไว้นะครับ แต่ยังงงนิด ๆ ว่า เพื่อนคุณกีดกัน คุณพ่อ (ตัวจริง) ไปรึเปล่า น่าจะลองให้โอกาสคุณพ่อ(ตัวจริง) ได้ทำหน้าที่พ่อ บ้างอ่ะครับ จากคุณ : domemod เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 10:04:05

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่ายุ่งไปใหญ่แล้ว ก็เค้ารักกันมากก็น่าจะใช้ชีวิตร่วมกันได้พร้อมลุกที่จะเกิดขึ้นมา คุณเป็นเพื่อนอย่ายุ่งเลยครับ ช่วยเหลือเรื่องอื่นเถอะ จากคุณ : Surf เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 10:21:21 A:110.171.14.219 X: TicketID:148173

ความคิดเห็นที่ 15 เอ่อ คือขอโทษนะครับผมไม่ได้มีเจตุนาจะดูถูกเก้งหรืออะไรจริงๆ แต่ถ้าผมเป็นลูกผมยอมให้แม่จดทะเบียนว่าผมไม่มีพ่อดีกว่ามีพ่อแต่พ่อเป็นเกย์ อันนี้ผมว่าเพื่อนล้อหนักกว่าอีก ผมไม่ได้ว่าคุณผิดหรอกครับที่เป็นเกย์ แต่ว่าตรงๆ ต้องดูเด็กด้วยว่าโตขึ้นเค้าจะรับตรงนี้ได้มั้ย จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 11:30:35

ความคิดเห็นที่ 16 อะไรมันจะอีรุงตุงนังขนาดนี้ จากคุณ : จะมาเอาอะไรกับโผ๊มมมมม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 11:55:09

ความคิดเห็นที่ 17 สงสารเด็ก อย่าเลย จากคุณ : ดอน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 12:32:40 A:124.120.63.56 X: TicketID:281806

ความคิดเห็นที่ 18 เอ่อ ผู้หญิงคนนี้ ถ้าเธออยากเป็น  Single mom  ขนาดนั้น อย่าพาคนรอบข้างมาเดือดร้อน เพราะความ สะเพร่าไม่ป้องกันของตัวเอง จากคุณ : เบนนี่คิม เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 15:23:42

ความคิดเห็นที่ 19 ขอเพิ่มเติมอีกนิดค่ะคุณ จขกท.   สำหรับเรื่องนี้ขอบอกว่าไม่มีอะไรถูกหรือผิดในการตัดสินใจ   และไม่กล้าที่จะชี้นำคุณว่าควรตัดสินใจเช่นไร   เพราะมันมองได้สองทางจริง ๆ  แต่อยากจะแยกแยะให้คุณลองชั่งใจ  ใคร่ครวญกับทั้งสองทางที่จะเลือกนี้นะคะ 1. ตัดสินใจรับเป็นพ่อของเด็ก  โดยจดทะเบียนรับรองบุตร  เพื่อมนุษยธรรม  แน่นอนคุณต้องรู้สึกดีและมีความสุขกับการที่ได้สร้างกุศลให้กับเพื่อนมนุษย์ถึงสองคน  เพื่อนคุณที่เป็นแม่ของเด็ก  และตัวหนูน้อยที่กำลังจะเกิดมา หากคิดในทางที่ดีเมื่อคุณยืนยันว่าในอนาคตคุณจะไม่มีทางข้องแวะกับหญิงใดและแต่งงาน  มีครอบครัวมีบุตร  หนูน้อยคนนี้กว่าจะเจริญเติบโตขึ้นมา  ก็คงได้รับการดูแลหรือมีความสัมพันธ์กับคุณมาพอสมควร   จึงเป็นไปได้ว่าเค้าจะรักคุณ  มีความผูกพันและห่วงใยคุณ   เสมือนหนึ่งบุตรในสายเลือด   ซื่งในกรณีนี้ก็มีอยู่มากในสังคม   สำหรับคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด  จะมีความรักและห่วงใยดูแลกันด้วยหัวใจ  และช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตลอดชีวิต   คิดดูมันจะดีแค่ไหน   ที่คุณสามารถสร้างบุตรคนหนึ่งมาให้เป็นที่รักของคุณ   และเค้าก็รักคุณเรียกคุณว่า.......   *พ่อ*   คำนี้มันยิ่งใหญ่และมีสายใยความรักความผูกพันรวมอยู่ในนั้นอย่างเต็มเปี่ยม  คุณจะไม่เป็นชายผู้เหงาและโดดเดี่ยวในยามที่คุณแก่ชรา  หัวใจคุณจะอบอุ่นมีเค้าดูแลไม่ทอดทิ้ง แต่........ทุกสิ่งทุกอย่าง  มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกและจิตวิญญาณของหนูน้อยคนนั้นด้วยว่า.....โตขึ้นเค้าจะเป็นอย่างไร   ตรงนี้ไม่มีใครบอกได้ !!!!!  หากคุณตัดสินใจในข้อนี้  คุณจะต้องยอมรับความผิดหวังและความรู้สึกอื่น ๆ ที่ตามมาอีกมากมายให้ได้  หากเค้าไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง  เพราะหนทางมันอีกยาวไกลค่ะ................. 2.  คิดในทางนักกฎหมายคือ  ควรรอบคอบที่สุดไม่เสี่ยง  ไม่เอาตัวไปเกี่ยวพันกับสิ่งใด ๆ ที่จะสร้างปัญหาให้กับตัวเองในอนาคต  (หรือจะเสี่ยงก็ต้องเสี่ยงน้อยที่สุดและรอบคอบที่สุด)   ก็อย่างที่บอกไปในท้ายข้อหนึ่งค่ะ   ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าในอนาคตว่าจะเป็นเช่นไร  ไม่มีใครกล้ารับประกันได้ ใครจะรู้ว่าวันข้างหน้า  คุณอาจจะกลายเป็นคนที่ร่ำรวยมหาศาลในอนาคต   หรือคุณอาจจะเปลี่ยนใจ  แต่งงานมีครอบครัวเพราะด้วยเหตุผลบางอย่างหรืออะไรก็ตาม   *บุตรคนนี้*  คนที่คุณจดทะเบียนรับเป็นบุตรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย   เค้ามีสิทธิจะเรียกร้องมรดก  และค่าเลี้ยงดูจากคุณได้ทุกเมื่อ   หากเค้าต้องการ*  รวมทั้งมีสิทธิได้รับมรดกจากคุณปู่  คุณย่า  (คุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วย)  ในอนาคตหากเค้าต้องการจะเรียกร้องสิทธิขึ้นมา หากทุกคนรู้ว่าอะไรควรไม่ควร  ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา  คงไม่ต้องมีกฎหมายมาควบคุมดูแล   *ความโลภ*   ทำให้คนเปลี่ยนไป   วันนี้คิดอย่างนี้แต่วันข้างหน้าเป็นเช่นไร  คิดเช่นไรใครจะไปรู้ได้   ทั้งตัวหนูน้อยคนใหม่และเพื่อนของคุณ อย่างไรก็ตาม  เรื่องนี้ควรต้องปรึกษาผู้ใหญ่  ขอความคิดเห็นจากหลาย ๆ คน  มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นัก  ถ้าจะคิดถึงผลระยะยาวที่จะตามมา  ค่อย ๆ คิดค่ะ   ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอย่าเพิ่งพูดกับแม่เด็กถ้าคุณตัดสินใจในข้อนี้   เพราะเธอคงผิดหวังและเสียใจ  ยังมีเวลาอีกหลายเดือนค่อย ๆ อธิบายหรือหาเหตุผลและทางออกที่ดีพอ * และอย่าลืมว่า  หากคุณตัดสินใจทำในข้อ 1.  คุณต้องทำหนังสือสัญญาให้เรียบร้อยรัดกุม  ตรงนี้สำคัญมาก   และมันมีประโยชน์สำหรับภรรยาและบุตรตัวจริงของคุณในอนาคต   หากในกรณีเกิดคุณเสียชีวิตลงกระทันหัน  บุตรที่ได้รับการจดทะเบียนรับรองคนนี้   เค้ามีสิทธิอันชอบธรรม  ที่จะเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ค่ะ * ขอให้โชคดีค่ะ   และขอชื่นชมที่คุณมีจิตใจที่ดีงามนะคะ คุณ จขกท. แก้ไขเมื่อ 29 มิ.ย. 54 16:57:38 จากคุณ : รวมฝัน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 16:44:32

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าคุณตายไป ทรัพย์สมบัติ มรกด แทนที่จะเป็นของ พี่น้องของคุณ กลับเป็นของเด็กคนนี้ครับ พี่น้อง ไม่มีสิทธิ์ใดๆ นอกจากว่า ไม่มีลูก พี่น้องจึงจะมีสิทธิ์เข้ามาเกี่ยว ส่วนพ่อแม่คุณ มีสิทธิ์ในสมบัติบางส่วน  พี่น้องทางสายเลือดของคุณไม่มีสิทธิ์ แต่กลับเป็นเด็กคนนี้ที่มีสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ จากคุณ : มังกรจักรวาล เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 17:12:34

ความคิดเห็นที่ 21 20*  ถูกต้องค่ะ  แต่ขอเสริมว่า จขกท. สามารถทำพินัยกรรมไว้ล่วงหน้าก่อนเสียชีวิต  ที่มีเจตนาระบุถึงทรัพย์สินของตัวเองว่า  ต้องการจะยกสิ่งใดให้ใคร  ให้ชัดเจนได้  (รวมทั้งอาจมีส่วนหนึ่งที่อยากจะยกให้กับบุตรที่จดทะเบียนรับรองคนนี้  ด้วยความสเน่หา) บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย  สามารถขอยื่นคำร้องต่อศาล  ขออำนาจศาลเรื่องขอเป็นผู้รับมรดกได้  อันนี้จะอยู่ที่ดุลพินิจของศาลเป็นหลัก   และถึงตอนนี้หนังสือสัญญาฉบับที่ทำไว้กับแม่ของเด็กนั้น  จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญอย่างมาก  กับผู้ที่เป็นทายาททางมรดก. จากคุณ : รวมฝัน เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 17:34:45

ความคิดเห็นที่ 22 คุณคิดว่ามันเป็นเรื่องเล่นๆหรือไง ชีวิตคนทั้งคน คิดให้ดีมันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิดได้ตอนนี้ จากคุณ : ลึกลับซับ_tui เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 54 20:50:13

ความคิดเห็นที่ 23 ก็เพราะคิดเยอะอยู่นี่ไง ครับ คุณความเห็น22 เพราะคนทั้งคนเนี่ยแหละ จากคุณ : lex_tourism เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 54 06:54:03