ตอนนี้คุณคงต้องยอมให้น้องย้ายไปเรียนที่หัวหินแล้วล่ะค่ะ
หน่วยกิตที่เราเรียนไปไม่ทราบว่าสามารถโอนไปได้หรือไม่
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยเราจะได้เห็นเขาเรียนอย่างที่เขาชอบ เขาจะได้มีความสุขงัยคะ
อย่างพี่เอง มีลูกอยู่ม.5 กับ ม.6 เตรียมเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนกัน
เมื่อสองสามปีก่อน เคยคุยกับลูกสองคนว่า ขอให้เขาเรียนที่จังหวัดเดียวกัน(กรุงเทพกับเชียงใหม่)
ถ้าพี่สอบติดกรุงเทพ น้องก็ต้องอยู่กรุงเทพ ถ้าไม่ติดม.รัฐ อนุญาตให้เรียนเอกชนได้
ที่ให้เลือกแค่สองจังหวัดเพราะ เดินทางสะดวก และ มีม.ของเอกชนให้เลือกมากกว่า แต่ถ้าพี่ติดขอนแก่น น้องจะหาม.เอกชนเรียนยาก ซึ่งเขาก็เข้าใจดีค่ะ
อีกนิดนะคะ น้องสาว(ลูกอา) อายุสามสิบกว่าแล้ว เมื่อก่อนเธอสอบติดพยายาบม.บูรพา แต่เธออยากเรียนหอการค้า แม่เธอไม่อนุญาตเพราะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว
พอจบมาเธอทำงานพยาบาลแค่ปีเดียว ก็มาช่วยพ่อทำธุรกิจ จนทุกวันนี้เธอก็ยังโทษแม่เธอว่า ทำไมไม่ยอมให้เธอเรียนบริหาร ไม่งั้นเธอจะทำงานง่ายกว่านี้เยอะ
ส่วนตัวเราเอง ถึงแม้ตอนแรกยืนยันว่าจะให้ลูกเรียนแค่สองจังหวัด แต่มาถึงตอนนี้ ขอเอาความสุขของลูกเป็นที่ตั้งดีกว่า
เราคงต้องเสียใจมากแน่ ๆ ถ้าลูกกลับบ้านมาพร้อมน้ำตา แล้วพูดว่า แม่จ๋าหนูไม่อยากเรียน หนูไม่มีความสุข ถึงตอนนั้นก็ต้องซิ่ว ต้องเสียเวลาหนักเข้าไปอีก
ขอให้เขาได้เรียนในสิ่งที่ใช่และชอบเถอะค่ะ เขาจะได้มีความสุข
สี่ปีในมหาวิทยาลัย ถ้าเขาเรียนด้วยความสุข เวลาก็ดูเหมือนไม่นาน
แต่ถ้าเขาไม่มีความสุขล่ะ สี่ปีนั่น มันคือนรกสำหรับเขาเลยนะคะ
คิดดูให้ดี...