Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
***** อัดอั้นมานาน มาเผาแฟนเก่ากันเถอะ ***** ติดต่อทีมงาน

เมื่อวันก่อนได้คุยโทรศัพท์กับเพื่อนมัธยม เพื่อนเล่าว่า แฟนเก่าเราแต่งงานแล้ว แต่ก่อนแต่ง ช่วงที่กำลังแจกการ์ด

เพื่อนเรามันไปแซวเค้าว่า "ไม่คิดจะเชิญ..(ชื่อเรา)..บ้างหรอ"

แฟนเก่าเราตอบกลับมาว่า "ไม่ดีกว่า เดี๋ยวมันมาป่วนในงาน"



พอเราได้ฟัง      แอร๊ยยยย.............!!!!!



     ค่าาาาาาาาา  กล้ามาก  กล้าคิด กล้าพูด   (เข้าใจพูดให้ตัวเองดูดีเนอะ)


      งั้นขอระบาย(เผา) ซะตรงนี้เลยละกันค่ะ   แฟนเราคนนี้ เป็นคนที่ถ้ารู้จักแรกๆ จะรู้สึกว่าเค้าเป็นคนดีมากๆ หน้าตาดี พูดจาดี ดูฉลาด ดูมีความคิด

.................................................. พ่อเป็นนายทหาร แม่เป็นครู (แต่ลูกเป็นโจร 555++)


       เริ่มแรกเลยเค้าไปเรียนราม ส่วนเราเอ็นท์ฯติดมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน เลยได้รู้จักกับเพื่อนเรา

   

   ไปเรียนอีท่าไหนไม่รู้ค่ะ เงินค่าเทอมไม่ยอมจ่าย ไม่มีสิทธิ์สอบ พ่อแม่เลยต้องเอาตัวกลับมาเรียนราชภัฏแถวบ้าน(จุดนี้ไม่ได้ดูถูกราชภัฏนะคะ)


        เรียนไปได้สักพัก  อีหรอบเดิม เอาเงิน(ที่พ่อแม่ให้)ไปใช้อย่างอื่นหมดไม่จ่ายค่าเทอมอีก ไม่มีสิทธิ์สอบ

พ่อแม่ต้องไปกราบกรานขอร้องอาจารย์ให้ลูกได้เรียน แถมต้องเอาสร้อยไปขายเอาเงินมาจ่ายค่าเทอมอีก หลายเทอมซะด้วย


        ช่วงนั้นปัญหาหัวใจ ปัญหาชีวิต หรือเครียดจากการถูกพ่อแม่บ่นมั้ง เลยใช้โทรศัพท์บ้าน(ตังค์มือถือไม่ได้เติม)โทรออกไปปรับทุกข์ กับคนนั้นทีคนนี้ที

 
      อยู่ๆโทรศัพท์บ้านโดนตัด พ่อแม่ก็ไปจ่ายที่องค์การโทรศัพท์

 

    ช็อค !!  ค่าโทรศัพท์  12,000 ภายในเวลา 2 เดือน พ่อแม่ก็หาเงินมาจ่ายอีก (ลูกล้างลูกผลาญ)


       หลังเหตุการณ์เรื่องโทรศัพท์  ก็เป็นช่วงที่เริ่มๆจีบเราพอดี(เพื่อนแนะนำ) แต่เพื่อนก็ไม่ได้รู้เรื่องแย่ของเค้าเท่าไหร่ ถ้ารู้คงไม่แนะนำ

       

        เริ่มเป็นแฟนกันแรกๆ เค้ายังติดหนี้แฟนเก่าอยู่ 5000 อ้างว่ายืมไปให้พ่อ เพราะพ่อหาเงินสดไม่ทัน

เราก็เลยให้ยืม แต่ก็บอกกำหนดเวลาที่เราต้องใช้เงินจำนวนนี้

พอถึงวันที่ต้องคืน เค้าก็มีเงินมาคืน พร้อมกับมีโทรศัพท์จอสีเครื่องไม่ใหม่นัก มาอวด(สมัยนั้ยจอสีแพงมาก) เค้าบอกว่าไปไถ่(จำนำ)มา

       

        ช่วงนั้นตรุษจีน แม่เค้าเอ่ยปากชวนเราไปเที่ยว จังหวัดนั้นจัดงานค่อนข้างใหญ่ เราก็ไป โดยไปค้างบ้านเค้า นอนห้องเค้า แล้วเค้าออกไปนอนห้องรับแขก


         เช้าวันรุ่งขึ้น เค้าออกไปเรียน เราขอไปด้วย อยากไปนั่งอ่านหนังสือรอ ตามใต้ต้นไม้ ขับรถไปยังไม่ทันถึง พ่อแม่โทรตาม โทรกระหน่ำมาก แต่เค้าไม่รับ

         สักพักโทรเข้าเครื่องเรา บอกว่า สั่งให้ลูกชายกลับบ้านเดี๋ยวนี้  ตอนแรกเค้าไม่ยอมกลับ เราซึ่งยังไม่รู้เรื่องอะไรก็ช่วยกล่อมให้เค้ากลับไปบ้านก่อน

          พอกลับไปถึงบ้าน เจอเทศน์ชุดใหญ่ ด่าเหมือนฟ้าฝ่า จับใจความได้ว่า เค้าขโมยเงินจากในลิ้นชักห้องนอนพ่อแม่มา 10,000 บาท

          เอามาคืนเรา 5,000 ที่เหลือก็ เอาไปไถ่มือถือ และใช้จ่ายไร้สาระ  จังหวะนั้นเราช็อคมาก เริ่มลังเลกับผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า สำหรับเราแล้ว การขโมยเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆ


          แต่บ้านนี้ก็แปลก ด่าๆเสร็จก็คุยเล่นกันเหมือนเดิม ถ้าเป็นบ้านเรา คงต้องตีเอาเลือดหัวออกให้หลาบจำ(โหดไปมั้ย) แต่ก็ใช้ได้จริงนะคะ คำว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี


         สรุปบ้านนี้เลี้ยงลูกแบบ พ่อแม่รังแกฉัน ไม่สอนให้ลูกรู้จักสำนึก หรือไอ้ลูกชายมันฉลาดเกินก็ไม่รู้ มันรู้ว่าแค่ทำหน้าสลดๆ พ่อแม่ก็ให้อภัยแล้ว

 

              คบไปได้สักพัก เค้าทำตัวตัวดีขึ้น อะไรๆก็เหมือนจะไปได้สวย เกือบจะหมั้นกันละ เริ่มวางแผนอนาคตร่วมกัน


          แล้วก็เอาอีกจนได้ เมื่ออยากมาหาเรา(อยู่กันคนละจังหวัด ต้องมีค่าเดินทาง) แต่ไม่มีเงิน เลยไปขอยืมจากญาติมา 3000 พร้อมบอกญาติว่าจะคืน 6000

 เราภามว่าเอาเงินมาจากไหน บอกเราว่าลูกพี่ลูกน้องให้ยืมมา ไม่คิดดอกซักบาท ช่วงนั้นเราช็อตๆเค้าเลยเสนอให้เรายืม 1000 นึง


          ความมาแตกตอนญาติคนนี้มาทวงที่พ่อแม่เค้า แล้วถามว่าเค้าเอาเงินไปใช้อะไรนักหนา เค้าดันตอบว่าเอามาให้เรา(เรายืมแค่1000 จริงๆเค้าน่าจะมีวิธีตอบที่ดีกว่านี้) พ่อแม่เค้าเลยพาลโกรธเรา โทษเราที่ลูกเค้าเป็นแบบนี้


          เราคิดมากจนเครียดเลยช่วงนั้น ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เจ้าชู้ ไม่ขี้เหล้า ไม่เล่นการพนัน แต่ไอ้นิสัยไม่เป็นผู้นำ ไม่มีความรับผิดชอบ หนีปัญหา ไม่รู้จักคิด มันก็ทำให้เรามาทบทวนดูว่า


                                                         ....เราจะฝากชีวิตกับคนแบบนี้ได้มั้ย....


          เราว่าเราก็เป็นผู้หญิงแกร่งคนนึง ทำอะไรหลายๆอย่างเองได้ไม่ต้องง้อผู้ชาย ถ้าเราต้องได้ผู้ชายคนนี้มาอยู่ในส่วนนึงของชีวิต  แทนที่จะเป็นที่พึ่งให้เรา มันจะกลายเป็นภาระไปมั้ย

 

             สุดท้าย ขอเลิกค่ะ ลาขาด  ไม่ติดต่ออีกเลย มีแต่เค้าที่พยายามยื้อ ทำทุกทางเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเรา หนักเข้าถึงขนาดขู่จะประจานเราให้คนอื่นรู้ และทำด้วยนะคะ แต่ไม่ได้ผล ไม่มีใครสนใจ


ปล. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วง ปี 48-49 ค่ะ จขกท กำลังเรียนปีสุดท้าย บางอย่างมันก็เป็นเรื่องของวุฒิภาวะนะคะ





*** เอาละค่ะ หมดเคราะห์หมดโศกกันไป ดีว่าไม่มีดราม่ากว่านี้    แล้วเพื่อนๆคนอื่นอื่นละคะ มีประสบการณ์(แย่ๆ)กับแฟนเก่ายังไงบ้าง ***


    จริงๆที่เล่าเรื่องนี้ เพราะอยากให้เพื่อนๆเห็นว่า คนที่พูดเอาแต่เรื่องดีๆใส่ตัวน่ะเป็นยังไง ปูมหลังเค้าเป็นยังไง

ทั้งที่เราเองเป็นฝ่ายเดินออกมาจากเค้า เค้าเป็นฝ่ายยื้อเราทุกทาง....  แต่เค้ากลับเอาเราไปพูดว่าไม่อยากเชิญเราไปงานแต่ง เพราะกลัวเราไปป่วนงาน  

ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องมาฟังเข้า จะคิดว่าเราเป็นคนยังไง แล้วคงมองเค้าแบบว่า มีดีมากถึงขนาดแฟนเก่าต้องมาแย่งชิงกันเลย

    ....ขอบอกว่าเพื่อนๆเราที่ได้ฟังเรื่องออกอาการ ยี้้....กันทุกคน...

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 54 18:18:23

จากคุณ : jommarnrai
เขียนเมื่อ : 18 ต.ค. 54 17:02:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com