|
เห็นด้วยกับ คห. 6 ครับ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มีอะไรที่มากกว่าและลึกซึ้งกว่าแค่ "ภาษาและการทูต" ยกตัวอย่าง ที่ ธรรมศาสตร์ น้องจะต้องเรียนประวัติศาสตร์(การเมือง-สงครามเย็น-นโยบายทางการทูต), นโยบายของประเทศ-ภูมิภาค Ares studies, กฎหมายระหว่างประเทศ, ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเบื้องต้น รวมทั้งยังมีวิชาสัมนา(ตามหัวข้อ) ซึ่งหากถามพี่ว่า สนุกไหม..? พี่(คิดว่า)ขึ้นอยู่กับน้องว่า น้องโอเคและใช่ตัวน้องหรือเปล่า..? หากน้องชอบภาษาจริงๆ พี่แนะว่า เข้าอักษรฯ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ไปเลยเสียยังจะดีกว่านะ(มีความสุขกว่าด้วย) หรือไม่เช่นนั้นน้องก็ไปลง รัฐศาสตร์ IR ไว้ แล้วไปลง วิชาโท พวกคณะอักษรฯ เอา..(แต่ที่ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีบังคับเรียนภาษาที่3 3ตัวทุกภาควิชา)
หากไม่นับพวก born to be... และพวก "จีเนียส" นิสิต/นศ. ที่จบภาค IR แล้วได้ไปทำงานที่เกี่ยวข้อง/ตรงสายนั้นนับหัวได้เลย...(ไม่ขอนับงานที่เกี่ยวข้องกับ HR นะ เพราะสายงานนั้นใกล้เคียงกับภาครัฐประศาสนศาสตร์/บริหารรัฐกิจ เสียมากกว่า) หลายๆคนเลือก IR เพราะ "อยากเป็นทูต" แต่หารู้หรือไม่ว่า การสอบเข้า กต. นั้นโหดเอาการ หลายๆคนคะแนน(แค่)ถึงภาค IR แต่ไม่ได้อยากเรียนภาควิชานี้ก็มีให้เห็นพอสมควร.. ทั้ง จุฬาฯ มธ. หลายๆคนไม่ได้จบภาค IR แต่จบภาคการปกครอง สังคมวิทยาฯ รัฐประศาสนศาสตร์/บริหารรัฐกิจ แต่สามารถสอบเข้าเป็น จนท.การทูต ได้ก็มีให้เห็นหลายๆคน
จากคุณ |
:
bangkung_123
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ม.ค. 55 21:50:28
|
|
|
|
|