Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วันนี้ผมทำแม่ร้องไห้ ติดต่อทีมงาน

เรื่องราวทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้วครับ

ตอนนั้นผมก็อายุราวๆ 12 ขวบ เรื่องราวที่แท้จริงเป็นแบบไหนผมไม่ทราบจริงๆ แต่จากคำบอกเล่าของแม่คือ ด้วยความไม่รู้กฎหมายของแม่ จึงทำให้แม่เป็นหนี้ 2 แสนกว่าๆซึ่งแม่ยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยโกงใคร และไม่เคยเอาเงินของใครมาเยอะขนาดนี้(โดยเฉพาะโจทก์ของคดีนี้ ซึ่งก็คือน้องชายแท้ๆของแม่ผมเอง) แต่รวมดอกเบี้ย และค่านู้นนี่นั้นหลังจากศาลตัดสิน หนี้ที่แม่มีคือ เกือบล้าน และศาลตัดสินให้ชำระหนี้โดยการหักจากเงินเดือนของแม่

อาชีพของแม่คือพนักงานเดินหนังสือ ตำแหน่งเล็กๆในหน่วยงานหนึ่ง เงินเดือนไม่เยอะนัก และเชื่อไหมครับผมเพิ่งมารู้ตอนโตนี่เองว่าหลังจากถูกศาลหักเงิน เงินเดือนแม่จะเหลือแค่หลักร้อย/เดือนเท่านั้น แต่ ณ เวลานั้นเด็ก 12 ขวบอย่างผมรู้แค่แม่เป็นหนี้ เท่าไรยังไม่รู้เลยแต่ที่รู้แน่ๆคือแม่ดูกลุ้มใจมาก ด้วยความคิดของเด็กน้อยตอนนั้นคือซักวัน เราจะล้างหนี้ให้แม่ แต่ด้วยความเป็นเด็ก ความคิดนั้นถูกกาลเวลาทำให้ลืมไปอย่างง่ายดาย เพราะแม่พยายามทำให้ผมรู้สึกปกติที่สุด แม้ค่าขนมจะลดไปบ้างแต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติอะไร ตอนม.ต้น ผมได้เงินไป รร. วันละ 40 บาท ม.ปลาย 60 บาท และมหาวิทยาลัยวันละ 100

หลายครั้งที่ผมถูกแม่โกหกว่าแม่กินข้าวเย็นมาจากที่ทำงานแล้ว เพราะแม่ซื้อกับข้าวมาสำหรับให้ผมกินคนเดียวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หลายๆครั้งแม่ก็เปลี่ยนมุขว่าจะลดความอ้วน และก็อีกหลายครั้งที่แม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวแห้งมา 1 ถุง แต่กิน 2 คนกับผม และก็เช่นเคยแม่โกหกว่าแม่ไม่ชอบกินลูกชิ้น ไม่ชอบกินหมู

ด้วยความเบาปัญญาบวกกับความสนุกในวัยรุ่นผมไม่เคยรู้สึกถึงความลำบากของแม่เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้นึกย้อนไปผมว่าตอนนัั้นผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าแม่มีหนี้ก้อนใหญ่อยู่

ผมไม่เคยตั้งใจเรียนทำให้สอบเอนท์เข้า ม.รัฐ ไม่ได้จึงต้องไปเรียนเอกชน และคงไม่ต้องบอกนะครับว่าค่าหน่วยกิตมันโหดขนาดไหน แต่ก็ยังดีที่ผมเรียนจบปริญญาตรีมาได้ในเวลา 4 ปี

หลังจากเรียนจบมาแม่คงเห็นว่ามันเป็นเวลาอัสมควรจึงบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่าง ผมเรียนจบมาได้ด้วยเงินที่แม่กู้มา หนี้เก่าก็ยังมี แม่เปิดเผยหน้าซองเงินเดือนให้ดู มันมีตัวเลขแค่ 3 หลัก แม่บอกว่าที่เห็นมันคือโอทีนะ เงินเดือนน่ะโดนหักเกลี้ยง ตอนนั้นความคิดวัยเด็กกลับมาอีกครั้ง เรื่องจะล้างหนี้

ผมพยายามหางานทำให้เร็วที่สุด แต่ก็ไร้วี่แววการเรียกสัมภาษณ์จากที่ต่างๆ จนในที่สุดผมก็โยนปริญญาไว้ข้างหลัง และไปเป็นช่างแอร์ ช่างแอร์จริงๆนะครับที่ถือไขคง ไปไขๆๆๆ แอร์เพื่อล้างน่ะ ค่าแรงวันละ 180  ทำมาได้ครึ่งปี ก็มาเป็นเด็กเสริฟในร้านอาหารซึ่งตลอดเวลาผมยังคงร่อนใบสมัครไปยังที่ต่างๆ แต่ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่มีที่ใดติดต่อกลับมาเลย จนผมอดคิดไม่ได้ว่ากุมันห่วยขนาดนี้เลยเหรอวะ แต่สิ่งที่ยังให้ผมทนทำได้อยู่คือแววตาอมทุกข์ของแม่ที่ผมเห็นจนชินตา

เวลาผ่านไปจนวันนี้ในเมื่อไม่มีใครรับเข้าทำงานไม่มีใครอยากเป็นเจ้านายเรา ผมมาเป็นนายตัวเอง ผมรับงานออแกไนซ์ก๊อกๆแก๊กๆไปเรื่อยอาศัยคอนเนกชั่นจากสมัยเรียน จนวันนี้ วันที่ 16 มกราคม 2555 ผมกำเงินก้อนที่ได้จากน้ำพัก น้ำแรงตัวเอง พาแม่ไปล้างหนี้อย่างที่ผมเคยคิดไว้ตอน 12 ขวบ

ทันทีเดินเดินออกจากกรมบังคับคดี ขึ้นรถ แม่พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นเครือว่า "แม่หมดหนี้แล้วลูก แม่ไม่ต้องทนทุกข์อีกแล้ว" พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ผมเลยแกล้งหยอกแม่ไปว่า ดูซิขนาดเกมปลดหนี้ยังมีให้เล่นเกมก่อนเลย นี่แม่ไม่ต้องเล่นเกมส์เลยนะเนี่ย

ปล.หนี้ของแม่ผมสำหรับบางครอบครัวอาจจะดูไม่เยอะ แต่สำหรับบ้านเราที่ไม่ได้รวยอะไรมันเยอะครับ พิมพ์ไป พิมพ์มาดูอีกทียาวมาก ขอบคุณทุกท่านที่อ่าน อุทาหรณืของเรื่องนี้คือ ควรรู้กฎหมายไว้บ้าง และอย่าใช้ชีวิตสำราญจนลืมคนที่บ้าน บางทีเขาอาจแบกทุกข์ก้อนใหญ่ไว้ โดยที่เราไม่รู้เลยก็ได้นะครับ

edit-------------------------------

กลับมาดูอีกทีเป็นกระทู้แนะนำซะงั้น อ่านหลายๆคอมเมนต์แล้วเขินเลยครับ ความจริงผมก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรหรอก แค่โอกาสในชีวิตมันดี หลังเป็นเด็กเสิร์ฟผมก็ได้เข้าทำงานที่ บริษัทใจดีแห่งหนึ่งทำไปปีครึ่งครับก่อนจะลาออกมา ปัจจุบันบริษัทนี้ก็ป้อนงานให้ผมทำอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าผมโชคดีมากกว่าเก่งครับ ส่วนนี้ที่ไม่ได้เล่าทีแรกเพราะรู้สึกว่าจะพิมพ์ยาวเกินไปละ เลยรวบรัดครับ

มีคอมเมนท์ท่านหนึ่งอยากให้ลองเล่าเรื่องที่แม่ผมรู้เท่าไม่ถึงการณ์เกี่ยวกับกฎหมาย
อย่างที่บอกครับตอนนั้นผมยังเด็กไม่สนใจโลก แต่แม่เล่าให้ฟังว่า ไปเซนท์เอกสารที่โรงพัก ซึ่งโจทก์ของคดีนี้ไปแจ้งความไว้ น่าจะประมาณว่าแม่ผมเอาตังค์เขามาแล้วไม่ยอมคืนซักที ซึ่งเอกสารนั้นกลายเป็นหลักฐานว่าแม่ผมยอมรับว่าไปเอาเงินเขามาจริงๆครับ
ผมเคยถามเพื่อนที่มันเรียน นิติฯ มันบอกว่าถ้าในเอกสารนั้น มีตัวเลขหนี้ มีวันที่ อะไรพวกนี้ครบ แล้วไปเซนท์ เท่ากับเราเซนท์สัญญาเงินกู้เลยครับ ผมรู้มาแค่คร่าวๆ เพราะไม่เคยคิดไปฟื้นฝอยหาตะเข็บให้มันเจ็บใจ ท่านใดอธิบายได้กระจ่างกว่ารบกวนด้วยครับ

แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 55 13:22:48

แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 55 13:20:51

จากคุณ : บะหมี่สีดำ
เขียนเมื่อ : วันครูแห่งชาติ 55 23:20:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com