เราเข้ามาเวปบอร์ดนี้เพราะเราคิดว่ามีแนวคิดดี ๆ ที่เราเก็บไว้ในใจ จะแชร์กับคนอื่น ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์ ทั้งในห้องศาสนาและห้องสยาม เราเองรับรู้ได้ว่า ทุกครั้งที่มีคนได้รับประโยชน์หรือได้รับความอิ่มใจจากข้อความที่เรานำมาลง เราจะรู้สึกเย็น ๆ ตามไปด้วย สัมผัสตรงนี้บอกกับเราว่า เราทำถูกแล้ว แต่แล้วก็ยังมีสิ่งผิดมาจนได้
นี่คือสิ่งที่เราบอกกับตัวเองว่า เราทำไมถูกแล้วนะ
1. - ยุ่งเรื่องของคนอื่นมากไม่ดีหรอก -
ปรกติชีวิตของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนในเวปเลยว่าใครจะทำอะไร ใครจะพูดอะไร แต่เราจับตัวเองได้ว่า เรากลายเป็นคนชอบคลุกคลีเสียแล้ว แม้จะไม่เข้าไปร่วมวงคุยด้วย แต่เราก็กลายเป็นอยากรุ้อยากเห็นว่าใครทำอะไร คนไหนทะเลาะกับคนไหน ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ย่วอะไรกับชีวิตสั้น ๆ ของเราเลย ทำไม เราเป็นอะไรนักหนาที่จะต้องคอยมองว่าคนนั้นทำอย่างนี้ คนนี้ทำอย่างนั้น ตามข่าวนั้น ดูคนนี้ ทั้งที่สิ่งที่เราต้องรับผิดชอบและเกี่ยวข้องจริง ๆ ขาดไม่ได้ คือ บ้าน กับพ่อแม่ คนเหล่านี้ละเลยสักนิดไม่ได้ แต่คนอื่นไม่ว่าใคร ไม่ต้องสนใจเลยสักนิด ยังได้ เราเลยรู้สึกว่า เราทำผิดแล้ว เจตนาของเราถูกบังแล้วจากการเข้าไปสนใจเรื่องของคนอื่นที่ไม่เกี่ยวอะไรกับชีวิตยาวสามวาของเรา หนึ่งคนหนึ่งปัญหา สองคนสองปํญหา ร้อยคนร้อยปัญหา จะอีกนานไหมที่เราจะต้องตามเรื่องคนนั้น ตามข่าวคนนี้ จนถึงวันนี้ สิ่งที่เราเรียนรู้คือ "ยุ่งกับคนอื่นมาก ๆ ไม่ดีหรอก"
2. - การวางท่า -
ช่วงหลัง ๆ ที่ผ่านมา จากการที่เราลงเรื่องต่าง ๆ มาก รวมถึงในเฟสบุ๊คด้วยก็มีคนอ่านและคุยกับเรา บางคนเห็นเราลงเรื่องธรรมะ มีมากที่แสดงความเกรงใจเราออกมา ซึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะการวางตัวของเราด้วย หนึ่งคือเราไม่ชอบเล่น ไม่ชอบหยอกใคร และเราไม่หาเรื่องทะเลาะกับใคร นอกจากตำหนิตามที่คิดว่าเหมาะสม คนไหนที่เราคุยไม่ได้ เราหลีกเลี่ยงเลย เพื่อที่จะไม่สร้างปัญหาตามมาให้กับเรา แต่ความเกรงใจที่มีคนแสดงออกมากับเรา ทำให้เราเริ่มวางท่า มารยาสาไถย คือจากการที่เราวางตัวเรียบร้อยเ พูดเป็นเรื่องราว พราะเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรที่ไร้สาระ ไม่ชอบทำอะไรที่ไม่ีมีความหมาย เราได้รับความเกรงใจกลับมา ซึ่งส่งผลให้ด้านมืดของเราบอกกับเรา ให้เราพยายามวางตัวให้ดูดี ให้เราพยายามใช้คำวิชาการ ให้เราพยายามทำตัวเหมือนคนรู้ เพื่อที่คนอื่นจะได้มองออกว่าเรารู้นะ เราเป็นคนน่าเกรงใจนะ บางอย่างเราพยายามเปรย ๆ อยากให้ใครมองออกว่า นี่เรามีดีตรงนี้นะ ซึ่งคิดจริง ๆ แล้ว เป็นเรื่องที่น่าสังเวชมาก เพราะมันแปลว่าชีวิตจริงของเรา ไม่ได้รับการยอมรับจากใครเลยใช่ไหมถึงต้องมาเรียกร้องเอาแบบแอบ ๆ นี้จากใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จัก
จากใจเราที่หวังแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กลับเป็นใจที่เราเห็นแล้ว "อี๋" นี่มันคนสองหน้าหนี่ที่อยู่ต่อหน้ากระจก ชีวิตเราถ้ามีคนแบบนี้อยู่กับเรา เราไม่คบเลย ้แล้วนี่เรากลับเป็นเอง เราพยายามแสดงออกว่าเราเป็นคนดี บอกได้เลยว่าในบ้านเราขี้วีนมาก กับเพื่อนเราเอาแต่ใจ เราไม่ใช่คนใจเย็นเหมือนในบอร์ด แ่ต่เรากลับอยากให้เค้ารู้ว่าเราเป็นอีกคนนึง
ความจริง เรื่องแบบนี้ บางที สบตาดูก็รู้แล้ว แต่ข้อความ ข้อความ ตัวอักษร บังทุกสิ่งทุกอย่าง เราสามารถกดลบได้ก่อนที่จะส่งอะไรออกไป เราสามารถใช้ถ้อยคำสวยหรูได้ แต่ตัวเราจริง ๆ เป็นอย่างนั้นที่แสดงออกกับคนอื่นหรือเปล่า เปล่าเลย การที่คนอื่นอาจจะมองว่าเราเรียบร้อยน่าเกรงใจ ในชีวิตจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย ห้องเราารกมาก กินข้าวก็กองจานไว้หน้าคอม งานการไม่อยากแตะ ฝืนใจทำ ใครทำอะไรในบ้านบางทีก็รำคาญทั้งที่เป๋็นพ่อกับแม่ แต่รู้ไหม พออยู่หน้าเครื่อง คุยเรื่องปรัชญาชีิวิตในเฟส คุยเรื่องธรรมะในบอร์ด เราทำเป็นมีความรู้ เราทำเป็นตอบมีหลักการ มีเหตุผล ซึ่งความจริง เราเป็นคนชอบเหตุผล แต่บุคลิกของเราจริง ๆ ไม่ได้มีเหตุผลเต็มที่แบบนั้น หลายครั้งเราเหมือนคนบ้า บางครั้งขี้เกียจสุด ๆ บางครั้งพร่ำเพ้อ บางทีก็แช่งคน บางทีมองคนด้วยหางตา เราเหมือนเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่กำลังนินทาลูกค้่าคนนึง และพอดีลูกค้าคนนั้นเดินมา เราต้องปั้นหน้ายิ้ม ทำตาใส และถามว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ ... ได้ค่ะ ... ค่ะ..เชิญค่ะ...
จริงอยุ่ ที่เราประเมินตัวเองว่าเราไม่ใช่คนเลวร้ายมาก แต่การที่ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่าง ก็เท่ากับว่าเราทำผิดกับคนอื่น และเพื่อน ๆ สมาชิกในบอร์ดแล้ว หลังไมค์มีคนชื่นชมเรา บางคนขอเราเป็นที่พึ่งทางใจเวลาที่คิดอะไรไม่ได้ คิดว่าเราเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์สมกับ Serene_Angelic แต่ความจริง เราสกปรกมากกว่านั้น อยากให้คนที่หวังพึ่งเรา มีตัวเองเป็นที่พึ่ง เพราะถึงเค้าจะพึ่งพาเรา แต่เค้าไม่ช่วยเหลือตัวเอง เราก็ทำได้แค่่พูดเท่านั้น และคำพูดดี ๆ ใครก็พูดได้ แต่ทำดีล่้ำำะ เป็นของยากนะ การวางตัวว่าตัวเองดูดี ไม่ได้ทำให้ตัวเราดีขึ้นมาเลย ซ้ำร้าย ถ้าใครที่ได้รู้ความจริงเรื่องนี้ จะไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ความเกรงใจ และการให้เกียรติที่เคยได้มา จะหายไปหมดเลย และจะเหลือแต่คำว่าเกลียดเท่านั้นเอง
อย่างในบางครั้ง เรื่องบางเรื่องที่มีประโยชน์ เราพยายามที่จะบอกว่า เรื่องนั้นเรามีประสบการณ์นะ รุ้จักเราสิ เราเป้นแบบนั้น คือการเอาหน้าดี ๆ นี่เอง เราไม่คิดเลยว่าเราจะเป็นคนแบบนั้น แต่เราเป็นเสียแล้ว เป็นแบบซ่อนเร้น หลอกตัวเอง
ใช่ คนหลอกคนอื่น เขาเริ่มมาจากการหลอกตัวเอง
นี้เป็นสองเรื่องที่เรามองตัวเองว่า ไม่ใช่แล้วนะ ซึ่งในข้อที่สองเป็นสิ่งที่เรารุ้สึกไม่ดีกับตัวเองมาก ทุกวันนี้เราถาวนาเพื่อเอาความมารยาสาไถย เสแสร้ง สองหน้าออกไป ไม่สบายใจเลยที่เรารู้ตัวว่าเราคิดแบบนี้
ความเต็มใจของเราที่จะลงเรื่องดี ๆ ให้กับคนอื่น ๆ เป็นเรื่องจริง การที่เราไม่ชอบไร้สาระเป็นเรื่องจริง แต่ความคิดที่อยากให้คนรู้ว่าเราดีทั้งที่เราไม่ได้ดีอย่างนั้นเป้นเรื่องไม่จริง หากอ่านถึงตรงนี้ มีเพื่อนสมาชิกท่านใดทราบว่าจิตใจของตัวเองมีภาวะแบบนี้บ้าง ขอให้เริ่มรู้ตัว แล้วหยุด เมื่อไรก็ตามที่คิดจะแสดงธรรม สอน หรือแม้แต่คุยธรรมดา่ ที่มีเจตนาแอบแฝงว่า ขอให้เค้ามองว่าเราเป็นคนดีนะ ยิ่งให้คิดว่า ขอให้เค้าคิดว่าเราได้ฌานนะ ได้มรรคผลนะ มีบางอย่างพิเศษกว่าคนอื่นนะ แสดงออก พูดเลียบ ๆ เคียง ๆ เีปรย ๆ
เค้าแพ้กิเลสแล้ว
ถ้าเค้ายังทำต่อไป เค้าไม่ได้สูงอย่างที่คนอื่นชื่นชมเลย เค้ากำลังจมดินลงทุกวัน ๆ และถ้ายังถอนตัวไม่้ได้ ก็จะถูกฝังไปในที่สุด
เราขออนุญาตระบายกับเพื่อน ๆ ที่เราเรียกเพื่อน ๆ ไม่เรียกท่านเรียกอะไรมาก เพราะในโลกของความจริง ......
.........
.........ไม่มีอะไรดีเกินเเพื่อนหรอก
ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ฟังเรื่องราวของเรา และขอโทษเพื่อน ๆ ที่เราเคยคิดไม่ดี พูดไม่ดี หรือแสดงออกอย่างหลอกลวงมาด้วย ณ ที่นี้
จากคุณ |
:
Serene_Angelic
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ม.ค. 55 18:17:35
|
|
|
|