มาต่ออีก 5-1 อันดับจร้า ^^
อันดับ 5 อย่าขึ้นเสียงสูงหรือต่ำจนไม่เป็นธรรมชาติเวลาถูกถามนั่นนี่
ตามทฤษฎีการโกหก ระบุไว้ชัดเจนว่า ปกติคนโกหกมักตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติ และตอบทันทีเพื่อยืนยันว่าคุณได้ทำหรือไม่ได้ทำสิ่งนั้นไปจริงๆ
มูลเหตุแห่งความผิดพลาด : การตอบแบบทันทีทันใด เสียงดังฟังชัด ฉะฉานชัดเจน เหมือนเป็นการยืนยันความหนักแน่นของคำพูด แต่หารู้ไม่ว่า นั่นแหละน่าสงสัยที่สุด!! ยิ่งถ้าถูกกดดัน ตะบี้ตะบันไต่ถามเชิงลึก ให้ยิ่งลอกแลกเลิ่กลั่กแล้วละก็.. ตายยกรัง!!
อัตราความน่าจะตาย : ถ้าจับได้ รับความน่าจะตายไปเลย 9.57 กะโหลก เว้นแต่คุณจะมีทักษะขั้นสูง โกหกเป็นอาชีพ เชี่ยวชาญในเรื่องโกหกยิ่งนัก คุณก็อาจรอดตายได้ แต่ถ้าคุณจะตายจริงในข้อนี้ ก็จงภูมิใจไว้เถิด ว่าคุณก็เป็นคนที่ไม่เลวนัก เพราะโกหกไม่เก่ง (ผู้หญิงส่วนใหญ่ รับไม่ได้สุดๆ กับการโกหก!!)
อันดับ 4 อย่าหวงมือถือ ประหนึ่งอวัยวะสำคัญ
ไอ้พวก.. ขี้ก็พกโทรศัพท์ อาบน้ำก็พาเข้าไปด้วย พอขอดูดีๆ ก็บอกแบตฯ หมด แหม่... ทีตอนเราโทรไปหา ไม่ยักกะชอบรับ แถมแก้ตัวว่า ไ่ม่ได้ยินมั่ง เค้าอาบน้ำอยู่มั่ง.. (ทีอยู่กับตรูล่ะพามันเข้าไปอาบด้วยเลยเนาะ)
มูลเหตุแห่งความผิดพลาด : บอกได้เลยว่า พฤติกรรมนี้ เป็นอาการผิดปกติขั้นร้ายแรงที่สุด เมื่อไหร่ที่คุณมีอาการปิดบัง หวงของ นั่นก็เหมือนมีอักษร "นอกใจ" ขึ้นอยู่บนใบหน้าของคุณทันที
อัตราความน่าจะตาย : ตายชัวร์ 9 กะโหลก เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์มือถือตกอยู่ในมืออีกฝ่าย คุณจะโดนคำถามมากมาย บีบบังคับ เค้นเอาความจริงให้ได้ ถ้าไม่ได้คำตอบที่เจ็บที่สุุด.. คุณนั่นแหละจะเจ็บที่สุด!!
อันดับ 3 พยายามยกเหตุผลประกอบคำตอบน้อยๆ อย่างพองาม
เวลาแฟนถาม "ไปไหนมา" ก็ตอบง่ายๆ แค่ "ไปกินข้าว" กับใครก็ว่าไป ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้ง 5 เพื่อให้คำพูดคุณดูมีความน่าเชื่อถือ หรือบรรยายมากเกินไปความจำเป็น
มูลเหตุแห่งความผิดพลาด : ขอยกตัวอย่างบทสนทนา
น้องแพนเค้ก : เมื่อคืนไปไหนมาคะ กลับดึกจังเลย
พี่เวียร์ : อ๋อ.. พี่ก็ไปเตะบอลไงจ๊ะ แต่แถวถนนัชดาภิเษกรถมันติดมากๆ เลย รัฐบาลเขาก็กำลังจะสร้างสะพานข้ามแยกตรงเหม่งจ๋าย แต่ติดตรงที่เรายังมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านก็เลยดำเนินการไม่ได้ พร้อมกับอ้างอิงบุคคลที่ 3 ให้อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งๆ ที่ความจริง ไม่รู้ ไม่เห็นอะไรเลย เฮ่อ.. บลา บลา บลา
การตอบแบบนี้ จับประเด็นอะไรไม่ได้เลย แถวบ้านเรียก "ร้อนตัว"
อัตราความน่าจะตาย : 10 กะโหลก เพราะยังไงก็โดนสอบสวนแน่นอน เมื่อน้องแพนเค้กรู้สึกแปลกๆ กับคำตอบที่ได้รับ ก็จะเริ่มถามซอกแซ่ก บางทีอาจโทรไปถามบุคคลที่3 ผู้นั้น ที่ถูกอ้างอิงว่าอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็เป็นได้!!
อันดับ 2 ปิดโทรศัพท์บ่อยๆ แล้วอ้างว่าติดงาน.. อันตราย!!
นี่คือวิธีเบสิกที่สุดใน3โลก ทำตัวเป็นคนมีมารยาทที่ดี ปิดมือถือระหว่างดูหนังกับกิ๊ก แล้วบอกแฟนว่า ติดประชุมกับผู้บริหารระดับสูง พร้อมทำเสียงเคร่งเครียด หรืออะไรก็ได้ให้ดูโอเว่อร์เข้าไว้
มูลเหตุแห่งความผิดพลาด : วิธีนี้จะใช้ได้ผลกับคนที่มีหน้าที่การงาน ที่ต้องเข้าประชุมบ่อยกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ถ้าเป็นคนตกงาน หรือเป็นเสมียน แล้วจู่ๆ เกิดมีนัดประชุมครั้งใหญ่ อันนี้ก็ไม่น่าจะเวิร์ค
อัตราความน่าจะตาย : หากมีหน้าที่การงานดี โอกาสมีเพียง 2 กะโหลก.. แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็เตรียมตัวตายได้เลย 10 กะโหลก
อันดับ 1 เอาเพื่อนเป็นไม้กันหมา
การยกเพื่อนสนิทมาเป็นข้ออ้าง ขณะอยู่กับกิ๊ก เป็นสิ่งที่ผู้มีพฤติกรรมนอกใจคิดได้เป็นอันดับแรกๆ เพื่อสร้างความไว้วางใจว่าอยู่กับเพื่อนสนิทนะ
มูลเหตุแห่งควาามผิดพลาด : จะเป็นการดี หากคุณกับเพื่อนมีการเตี๊ยม หรือเตรียมการเป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณให้ข้อมูลเพื่อนแบบลวกๆ แล้วแฟนคุณโทรไปถามเพื่อนสนิท แล้วคำตอบหรือข้อมูลไม่ตรงกัน มีปัญหาแน่นอน
อัตราความน่าจะตาย : ถ้าคุณเลือกเพื่อนที่มีอาการความจำเสื่อม จำบทไม่เก่ง หรือมักพูดตะกุกตะกัก จนเป็นที่น่าสงสัย โอกาสตายสูงถึง 10 กะโหลกเลยทีเดียว
อันที่จริง เมื่อดูจากทุกวิธีการ ทุกเทคนิคการนอกใจแล้ว มันล้วนมีพื้นฐานความเลวอย่างเดียวคือ "การโกหก" การโกหกจะเป็นประโยชน์ก็ต่อเมื่อ พูดเพื่อให้คนอื่นสบายใจ.. ไม่ใช่พูดเพื่อเอาตัวรอด
อยากให้นึกถึงอดีตตอนที่เรารักกันแรกๆ และอนาคต ที่เราจะมีร่วมกันในภายภาคหน้า ถ้าตระหนักในจุดนั้น และยืนหยัดเพื่อมันได้ คุณก็จะไม่ต้องใช้เทคนิคใดๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้
โปรดจำไว้ว่า คุณไม่อยากโดนทำร้าย หักหลังฉันใด.. อีกฝ่ายก็ไม่อยากโดนฉันนั้น
"Love is whatever you can still betray. Betrayal can only happen if you love."
รักคือสิ่งที่ทำให้คุณทำได้ทุกอย่าง กระทั่งการหลอก เพราะคำลวง จะเกิดก็ต่อเมื่อคุณมีความรัก
- John LeCarre -
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ : แฟนเผลอ แล้วเจอกัล! 
