บนโลกใบนี้ มีเธอคนเดียวหรือไม่...
|
 |
กลับจากวัดมา เลยขอนำเรื่องเล่ามาฝากครับ จากบันทึกผมเอง
เรื่องเล่าจากควาทรงจำ ธรรมเทศนา เช้าวันนี้ (8 มี.ค. 55 ) ที่วัดตาลเอน หลังจากทำวัตรเช้า พระอาจารย์จิรยุทธ์ อธิฉนฺโท ได้สอนให้ท่องบทอภิณหปัจจเวกขณ์ คือ สิ่งที่ควรพิจารณาเสมอ ๆ ห้าอย่าง คือ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย การพลัดพราก กฎแห่งกรรม ที่ไม่มีใครหนีพ้น
ในเรื่องของความเจ็บป่วย ความตาย และการพลัดพราก ตอนหนึ่ง
- ความเจ็บ -
พระอาจารย์ท่านถือไมค์ แล้วก็ถามผู้ปฏิบัติธรรมว่า โยม ในที่นี้ มีใครมั้ย ที่เกิดมาแล้วไม่เคยพบความเจ็บเลย มีมั้ยโยม ? มีมั้ย เกิดมา อย่างน้อยเลย ใครไม่เคยเป็นไข้ เจ็บคอ ปวดหัว ไหนโยมลองยกมือซิ โยมคนไหนที่เกิดมาแล้ว ไม่เคยเจ็บ พระอาจารย์จะมีรางวัลให้ .....ไม่ใชรางวัลอย่างเดียวนะ ......พระอาจารย์จะวางไมค์แล้วเดินออกไปเลย
เพระคนที่ไม่ต้องเจอกับความเจ็บ มันไม่มีนะโยม ที่บางคนไม่เป็นโรค ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องพบเจอกับความเจ็บนะโยม ความเจ็บมันมีกันอยู่แล้วทุกคน แต่มันยังไม่แสดงตัว ในร่างกายของคนเรา มันมีเชื้อโรค มันพร้อมที่จะเจ็บจะป่วยได้ตลอด เพราะฉะนั้น ความเจ็บ จึงเป็นสิ่งที่เราหนีไม่พ้นโยม ข้อนี้เราจึงต้องพิจารณาเนือง ๆ บ่อย ๆ
- ความตาย -
พระอาจารย์ถามคำนึง ที่ทำให้ลุงแก่ ๆ ที่นั่งข้าง ๆ ผู้เขียนหัวเราะ
"โยม ในที่นี้ โยมเคยตายมั้ย ?" ... หัวเราะครืนนน
"ใครไม่เคยตายบ้างโยม ถ้าเราไม่ตาย แล้วเราจะมาเกิดมาได้เหรอโยม ... ความตาย เป็นสิ่งทีี่่หนีไม่พ้นนะ พระยามัจจุราชเค้าไม่เว้นใครสักใครสักคนหรอกโยม จะเป็นคนที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าพระพุทธเจ้า หรืออย่างพระเยซู ศาสดานบีมูฮัมหมัด ท่านก็ไม่พ้นความตาย หรือจะเป็นคนที่เค้าว่าว่าเลวที่สุดในโลก อย่างฮิตเลอร์ บินลาเดน กัดดาฟี ก็ไม่พ้นความตาย โยมก็ต้องตาย ใคร ๆ ก็ตาย ความจริงข้อนี้มนุษย์ทุกคนเจอเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเชื่อพระพุทธศาสนาหรือไม่เชื่อก็ต้องตาย คนไม่เชื่อพระพุทธเจ้าพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรนะโยม แต่ทุกคนต้่องตาย
พระพุทธเจ้าท่านถึงสอนให้เราพิจารณาเืนือง ๆ การพิจารณาความตายนี้เรียกว่า มรณานุสสติ คิดถึงความตายนี่ท่านจัดเป็นกรรมฐานข้อหนึ่งเลยนะ ไม่ธรรมดานะ
โยม เวลาเราคิดถึงความตาย จิตใจเราจะคลายออกเลยนะโยม
จิตจะโลภ พอคิดถึงความตาย ก็ไม่โลภแล้ว ไม่รู้จะไปอยากจะเอาจะไปยึดอะไร เดี๋ยวก็ตายแล้ว
พอจะโกรธใครล่ะ อะ ... ช่าง .... ไม่ต้องไปโกรธ เดี๋ยวก็ตายแ้ล้ว
พอคิดถึงความตายแล้วกิเลสมันหายนะโยม
ครั้งหนึ่ง ท่านถามพระภิกษุว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเจริญมรณัสสติวันละกี่ครั้ง" ภิกษุบางรูปก็ตอบว่าวันละสองครั้ง สามครั้ง สิบครั้ง
พระพุทธเจ้าท่านตรัสบอกพระภิกษุเหล่านั้นเลยนะว่า "ดูกรภิกษุ การเจริญมรณัสสติของเธออย่างนั้น เรียกว่าเธอยังเป็นผู้ประมาทอยู่"
"ภิกษุ ทำอย่างไรเธอจึงเป็นผู้เรียกว่าเจริญมรณัสสติอย่างไม่ประมาท ดูกรภิกษุ การเจริญมรณัสสติอย่างไม่ประมาท เธอต้องพิจารณาความตาย ทุกลมหายใจเข้าออก"
- ความพลัดพราก -
ท่านเ่ล่าต่อถึงเรื่อง มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เข้ามาสมัครปฏิบัติธรรม ร้องห่มร้องไห้กับแม่ชีที่วัดตาลเอน แม่ชีถามว่า
"หนู หนูเป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม ?"
โยมคนนั้นก็ตอบว่า "แม่ชีคะ ชีวิตหนู ทำไมเจอแต่ความพลัดพราก หนูเกิดมา พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน หนูต้องไปอยู่กับยาย ยายจน ก็เลยต้องขายที่มาเลี้ยงดูส่งเสียหนู ส่งเสียได้พักเดียว ยายก็ตาย หนูต้องย้ายมาอยู่กับแม่ อยู่กับแม่ประเดี๋ยว แม่หนูก็ตาย แม่ชีขา ทำไมชีวิตหนูต้องเจอแต่ความพลัดพราก ตลอดเลยคะแม่ชี"
แม่ชีที่วัดตาลเอน เป็นนักปฏิบัิติธรรม ท่านรู้แนว เลยพูดขึ้นว่า
"หนู บนโลกใบนี้่น่ะ มีหนูคนเดียวเหรอลูก ที่ต้องเจอกับความพลัดพราก ?"
พอแม่ชีพูดประโยคนี้เสร็จ โยมคนนั้นสะดุดเลย นี่ไง ความจริง จะมีใครไหมไม่เจอกับความพลัดพราก มันเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ อ้อนี่มันเป็นสัจจธรรมนะ ทำไมเราจะต้องมา้นั่งเสียใจกับมันด้วยล่ะ
ตั้งแต่วันนั้นมา โยมไม่เคยร้องไห้เพราะเรื่องนี้อีกเลย
วันนี้ ก่อนพระอาทิตย์ลับฟ้า
มีอภิณหปัจจเวกขณ์ข้อใดบ้าง ที่คุณหลงลืมไป
ชราธัมโมมหิ ชะรัง อะนะติโต เรามีความแก่เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความแก่ไปไม่ได้
พะยาธิธัมโมมหิ พะยาธิง อะนะตีโต เรามีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปไม่ได้
มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต เรามีความตายเป็นธรรมดา จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้
สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว เราจักพลัดพรากจากของที่รัก ของชอบใจทั้งหลาย
กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายาโท เรามีกรรมเป็นของๆตน เราจักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ เรามีกรรมเป็นแดนเกิด เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์
กัมมะปะฏิสะระโน ยัง กัมมัง กะริสสามิ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา เป็นกรรมดีก็ตาม เป็นกรรมชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาโท ภะวิสสามิ เราจักต้องเป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น
เอวัง อัมเหหิ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง เราทั้งหลายพึงพิจารณาเนืองๆอย่างนี้แล.
จากคุณ |
:
Real~Fine
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มี.ค. 55 18:22:43
|
|
|
|