ความคิดเห็นที่ 1 หาทางเข้าที่ใหม่ให้ได้ก่อนค่อยบอก... -_-" (ถ้าเป็นเรานะ) แต่เราก็ไม่เคยอยู่ในสถานะนี้อ่ะ เอาใจช่วยแล้วกันค่ะ จากคุณ : ตะไคร้ใส่ใบชา เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:19:23

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าให้เราแนะนำ เราคงต้องหาที่เรียนใหม่ให้ได้ก่อนเหมือนกัน แล้วค่อยไปคุยกับที่บ้าน ว่าเราย้ายที่เรียนแล้วนะ ประมาณนี้มั้ง สู้ๆนะคะ ช่วยลุ้นให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างสวยงามนะ จากคุณ : น้องหนูตัวเล็กตัวน้อย เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:23:10

ความคิดเห็นที่ 3 โดนไล่ด้วยสาเหตุที่รุนเเรงมั้ย? ยากนะกรณีนี้......อืม.... แอบเห็นด้วยกับคห.1,2 ว่าให้เข้าที่ใหม่ให้ได้ก่อนค่อยบอก พร้อมทั้งไม่สามารถให้คำเเนะนำที่ดีๆ อันอื่นได้ครับ รอคห.ต่อไป เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 23:27:34 จากคุณ : Shad-Jen Man เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:25:31

ความคิดเห็นที่ 4 ประสบการณ์ตรง เราแอบซิ่วเข้าที่เดิม โอนหน่อยกิจ ไม่บอกพ่อแม่ พอปี 3 เทอมสุดท้าย  เค้าน่าจะใจเย็นลงแล้วจึงบอก อ่ะ โดนดุนะ แต่เค้าก็ใจเยนแล้วบอกว่า อีกแค่ปีเดียวเท่านั้นนะ แต่เราบอกเค้าด้วยว่า ปีสุดท้ายเท่านั้นนน >< จากคุณ : สวยชั่วกัลปวสานอมตะนิรันด์กาล เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:25:34

ความคิดเห็นที่ 5 ไอ้น้องใจเย็นๆ ก่อนเลย แล้วคิดถึงสิ่งที่แย่ที่สุด ที่มันจะเกิดขึ้นเลย แล้วอย่าไปกลัวกับมัน เค้าเรียกว่าการเตรียมใจ รึ มรณะสติ แล้วจากนั้นเรียก ทั้งพ่อกับแม่นั่ง แล้วคุยด้วยเหตุผล แล้วก็ยอมรับในสิ่งที่เราทำผิด เหลวไหล แล้วขอโทษท่านซะ แล้วก้มหน้ายอมรับมันไป แล้วถือว่าเป็นประสบกราณ์ล้มครั้งร้ายแรง แล้วเราก็ต้องพยายามลุกขึ้นมา พร้อมกับบทเรียน ราคาแพง แล้วครั้งหน้าจะได้ไม่พลาดผิดอีกนะ เอาใจช่วยไม่มี พ่อแม่ท่านไหนไม่ รักลูกหรอก แต่ถ้าเอาใจเค้าก่อนที่ให้เค้าอารมณ์ดีก่อน ก็จะเป็นการณ์ดี จากคุณ : Sudsakop เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:26:16

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเหมือน คห ข้างบนอ่ะ ไหนๆก็ทำผิดแล้วก็หาทางรอดให้ตัวเองไว้ก่อนด้วย จะได้ไม่โดนว่ามาก จากคุณ : แนทตี้คุง เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:26:45

ความคิดเห็นที่ 7 บอกตรงๆครับ ท่านรู้ทีหลังไม่ดีแน่ ผมเข้าใจนะ กลั้นใจบอกตรงๆเลย จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:27:36

ความคิดเห็นที่ 8 ควรบอกตรงๆ แต่ก่อนบอกดูอารมของท่านด้วย อย่าเข้าไปตอนท่านหงุดหงิด จากคุณ : รีดีอารีย์ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:30:57

ความคิดเห็นที่ 9 อาจจะแนะนำผิดหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่คล้ายๆ คห.บนคือ เข้าที่ใหม่ให้ได้ แล้วบอกพ่อกับแม่ว่าโอนหน่วยกิตไป เพราะมหาลัยใหม่ดีกว่าอะไรก็ว่าไป จริงๆ ก็ไม่ได้อยากให้โกหกหรอกนะ แต่ว่าถ้าโกหกไปแล้วพ่อแม่เราไม่เครียดเราว่าก็คุ้มอะ สองอาทิตย์ก่อนยายเราเพิ่งเข้าโรงบาลเพราะความดันขึ้น เราไม่อยากให้พ่อแม่ จขกท.เครียดจนเป็นความดันอะ จากคุณ : ฟ้าไม่ให้มีรัก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:32:24

ความคิดเห็นที่ 10 เคยคิดนะว่าจะบอกท่านตรง ๆ แต่ท่านดุมากเหมือนกัน ถ้ารู้ตอนนั้นรู้ว่าเราไม่ตั้งใจเรียน ความโกรธอาจทำให้เราออกเลยอ่า เค้าอาจไม่ตี แต่เราอาจไม่ได้เรียน  โลกของเราก็ไม่ได้สวยหรูนักอ่า ถ้าเรายังทำเรื่องเรียนอยู่ อย่างน้อย ๆ บอกตอนเราใกล้จะจบแล้ว เค้าก็คงโกรดอ่าแต่ก็ให้เราออกจากมหาลัยกลางคันไม่ลงนะ เพราะว่าจะจบอยู่แล้ว จากคุณ : สวยชั่วกัลปวสานอมตะนิรันด์กาล เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:33:27

ความคิดเห็นที่ 11 มันยากแค่การเริ่มต้นค่ะ บอกท่านถึงเหตุผลที่จริง รีบบอกก่อนที่ท่านจะทราบเองนะคะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด จากคุณ : ~หนูลืมตั้งชื่อ~ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:34:06

ความคิดเห็นที่ 12 เข้าภาคพิเศษ ของมหาวิทยาลัยแห่งเดิม ได้ไหมคะ กรณีที่เค้ามี แล้วเราสามารถสมัครได้ อาจจะจ่ายแพงกว่าเดิม แต่ถ้ามันไม่มีทางเลือก ไม่งั้นก็ต้องหาทางไปเรียน ที่อื่นแทน จากคุณ : neppen เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:34:28

ความคิดเห็นที่ 13 ทำไมฟังเรื่องของเธอแล้วหดหู่จัง เป็นกำลังใจให้นะ พยายามหาทางออกนะ แล้วทำไมถึงโดนไล่ออกละ ทำไมไม่รีบดร๊อบก่อนถ้าเกรดตก หรืออะไรยังไง ?? โดนไล่ออกนี้ก็ยากนะ เรื่องใหญ่รึป่าว?? สู้ๆนะ เดี๋ยวมีเพื่อนๆมาหาทางออกช่วยกัน จากคุณ : สตอเบอร์รี่สีฟ้า เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:40:18

ความคิดเห็นที่ 14 เข้าใจว่าคงลำบากใจที่จะพูดค่ะ ตามที่ข้างบนๆบอก ถ้ายังพอหาลู่ทางเข้าที่ใหม่ได้ก็ทำเถอะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 55 23:46:15 จากคุณ : หิมะสีนํ้าเงิน เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:45:54

ความคิดเห็นที่ 15 อยู่ปีสูงไหม ถ้าไม่สูง ก็หาทางเอาตัวรอดดีกว่า     ชิ่วใหม่  แต่เสียดายเลยเวลายื่นแอดไปแล้วอ่ะ  หรือ ยื่นไปแล้วหรือเ้ปล่าครับ     แล้วหาข้ออ้าง อะไรก็ว่าไป   หรือถ้าบอกตรงๆได้ก็บอกไปเถอะครับ ท่านจะได้หาทางแก้ไข จากคุณ : real_lover เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:48:43

ความคิดเห็นที่ 16 เราไม่รู้ว่าคุณโดนไล่ออกด้วยเหตุใด ร้ายแรงหรือไม่ และคุณตั้งใจจะเรียนต่อมั้ยคะ อย่างน้อยต้องแสดงความตั้งใจ มุ่งมั่นและความพยายามให้ท่านเห็น ว่าเราเองคิดที่จะเรียนต่อนะ ไม่ใช่ว่าโดนไล่ออกแล้วจะมาอยู่บ้านเฉยๆ อะไรแบบนี้ เรามีเพื่อนที่เคยโดนไทร์ตอนขึ้นปีสอง เค้าก็เครียดเหมือนกันเพราะเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลัวพ่อแม่ผิดหวัง แต่เค้าก็พูดกับพ่อแม่เค้าตรงๆ อ่ะค่ะ เพราะจะเข้าที่อื่นก็ต้องใช้เงินสมัคร ต้องจ่ายค่าอะไรต่อมิอะไร ยังไงก็ต้องแจ้งพ่อแม่อยู่ดี หนีไม่ได้ แรกๆ เราว่าพ่อแม่ทุกคนก็คงตกใจ ผิดหวังและเสียใจ แต่เราว่าเรื่องมันเกิดไปแล้ว มันย้อนเวลาไปแก้อะไรไม่ได้ สู้ทำวันนี้และวันข้างหน้าให้ดีจะดีกว่า บอกท่านไปว่าเราพลาดไปแล้ว และบอกเหตุผลท่านไปตรงๆ ขอให้ท่านให้โอกาสคุณใหม่ เราเชื่อว่าถึงท่านจะโกรธแต่ท่านก็ต้องให้โอกาสคุณ และคุณต้องพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าคุณจะตั้งใจเรียนจริงๆ จากคุณ : CutieAngel เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:51:23

ความคิดเห็นที่ 17 ประสบการณ์ตรงเลยค่ะ เราโดนรีไทร์ ครอบครัวของเจ้าของกระทู้ เหมือนที่บ้านเราเลยค่ะ อ่านแล้วตกใจเหมือนอ่านเรื่องของตัวเอง เราไม่บอกเค้าค่ะ เราสอบเข้าใหม่ที่เดิมคณะเดิม แต่ต้องพยายามหน่อยนะคะ สอบเข้าให้ได้ แล้วก็โอนเกรด แต่ปัญหาก็คือเราจะต้องจบช้ากว่าเพื่อน ตอนนั้นแหละค่ะ ปัญหาใหญ่ ตอนนี้เราก็โดนกดดันอยู่ว่าทำไมไม่จบซะที ทั้งๆที่เพื่อนๆในรุ่นจบแล้ว เราก็อ้างโน้นอ้างนี้ไปเรื่อย รู้ค่ะว่ามันไม่ดี แต่บางทีการโกหกเพื่อให้คนที่เรารักสบายใจ มันก็โอเคใช่ไหมคะ? เป็นกำลังใจให้จขกทนะคะ อย่าลืมตั้งใจเรียนนะคะ ^^ จากคุณ : เพียงแค่เธอยิ้ม เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:52:43

ความคิดเห็นที่ 18 จขกท. เรียนอยู่ปีไหนครับ จะได้แนะนำถูก จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:54:33

ความคิดเห็นที่ 19 ให้กำลังใจค่ะ มีสติ แก้ปัญหาเบื้องต้นก่อน อย่าจิตตก เข้มแข็งนะคะ จากคุณ : คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก... เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:57:12

ความคิดเห็นที่ 20 การโดนไล่ออกจาก มหาลัย เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต และเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว การเกิดเป็นมนุษย์ ทุกคนล้วนแต่เคยผิดพลาด เรื่องใหญ่ๆ มาแล้วทั้งนั้น แต่จะ เป็นเรื่องอะไรก็เท่านั้นเอง แต่จะมีคนอื่นยอมที่บอกกล่าวเล่าให้ฟังหรือไม่ ก็เท่านั้นเอง เพราะทุกคน ก็ต้องเคยทำผิด และก็ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด ดังนั้น เมื่อผิดพลาด แล้วแก้ไข ถ้าแก้ไขไม่ได้ ก็ปล่อยมัน ไม่ต้องซีเรียส ตอนนี้ เจ้าของกระทู้ อายุเท่าไร คิดว่าประมาณ 20 +/- 2 ปี ... โหแค่นี้เด็กๆ ชีวิตหน่ะ มันยังอีกยาวไกล ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่รอให้เราทำผิดพลาด ทำไมจะต้อง กังวลเรื่อง โดนไล่ออกจากมหาลัยด้วย ... มหาลัยเปิดก็มีให้เรียน ก็ขยันเรียนไปซิครับ [^ ^] ทำงานไปเรียนไป แต่เหนื่อยหน่อย ก็ไม่ได้เดือดร้อนใคร ก็ถือว่าฝึกความอดทนให้ชีวิตไปในตัว ถึง พ่อแม่จะด่าจะว่า ก็ปล่อยเค้าไปครับ เพราะโลกใบนี้ทุกคนเกิดมามีดีมีเลวทั้งนั้น ส่วนจะดีจะเลวขึ้นอยู่กับความสัมพันธภาพกับใครก็เท่านั้นเอง เพราะ พ่อแม่บางคน ก็ เห็นแก่หน้าตัวเอง มากกว่า ความสุขลูกก็มี โลกนี้ มันไม่ได้สวยงาม จนไร้เดียงสา ไปเสียทุกเรื่อง ... โลกแห่งความจริงนี้มันโหดร้าย แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณจะก้าวเดินเผชิญหน้ากับโลกที่โหดร้ายนี้ หรือเปล่า? จงฉลาดที่จะใช้ชีวิต เพื่อความอยุ่รอด และเผชิญหน้ากับชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ แต่คุณเลือกที่จะทำมันได้ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้เหมือนกัน ปล. การเสียใจ และ เครียด และ กังวล มันไม่ได้ช่วยหาทางออกแห่งปัญหา จากคุณ : FindSomeOneToLoveMe เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:04:56

ความคิดเห็นที่ 21 ผมก็เคยเป็นครับ แต่ไม่เชิงว่าโดนไล่ออก แต่ผมดูทีท่า ว่าผมจะเรียนไม่ไหว ผมก็เลยชิ่งออกก่อน(เพราะถ้าเรียนต่อไปคงโดรีไทร์นแน่ ๆ )ผมได้ที่เรียนใหม่(ปวส.)ก่อนจะไปบอกพ่อกับแม่ ซึ่งก็ได้พูดตรงๆ ว่า ที่เดิมผมเรียนไม่ไหว ถ้าเรียนไปคงโดนไล่ออก ก็เลยออกมาก่อน และผมก็ยอมรับผิดทุกอย่าง พ่อกับแม่ผม อึ้งไปเลยครับ ไม่พูดสักคำ ท่านคงจะเสียใจมาก เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ตั้งเรียนอย่างมาก พอจบ ปวส. ผมก็ต่อป.ตรี อีกสองปี ซึ่งผมจบป.ตรี ทำให้รู้สีกดี และโล่ง ที่ทำให้พ่อกับแม่ เห็นใบปริญญาผม เอาใจช่วยนะครับ สู้ ๆ ทุกอย่างต้องมีทางออกเสมอ ^^ จากคุณ : sytama เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:05:50

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าอยู่ปีต้นๆก็หาที่เรียนใหม่เลยครับ ที่ ม.ราม ครับ ถ้าขยันเรียนจะจบได้ภายใน 2 ปีครึ่งเป็นอย่างเร็ว แต่ต้องไม่สอบตกเลยนะครับ หรือตกได้นิดหน่อยอย่างมากก็ไม่ควรเกิน 5 ตัวตลอดหลักสูตร เพราะ ราม แต่ละสาจาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 145 หน่วยกิต เหทอมนึงลงได้ 24 ถ้าหนึ่งปีก็ 2 เทอมก็เป็น  48 บวกซัมเมอร์ปีละ 12 รวมเป็นปีละ 60 หน่วย 2 ปีก็ 120 หน่วย แล้วก็อีกเทอมนึง 24 หน่วย แต่เทอมขอจบจะลงได้มากกว่าปกติ ถ้าตามนี้ก็ 2 ปีครึ่งพอดี ที่สำคัญต่อไปต้องละทิ้งทุกอย่างให้กับการเรียนไปเลย เลิกเที่ยว เลิกทำตัวเรือยปื่อย ตั้งใจเรียน รับรอง จบแน่ จบแล้วพ่อแม่คงพอหยวนๆได้หรอกครับ อย่างน้อยก็จบเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 55 00:11:45 จากคุณ : nublur เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:10:44

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกคนมากค่ะ อ่านแล้วสบายใจขึ้นมากเลย ไม่นึกว่าจะมีคนแนะนำเยอะขนาดนี้ กำลังจะปี 3 ค่ะ แต่เพื่อนๆสมัยมัธยมไปปี4กันหมดแล้ว คิดว่ายังไงก็ต้องบอกพ่อแม่ แต่ยังทำใจไม่ได้เลย - -" (ความจริง เราไม่เครียดที่ตัวเองถูกไล่ออกเท่าไหร่ แต่เครียดตรงที่จะทำให้พ่อแม่เสียใจ และเสียหน้า มากกว่า ไม่อยากเห็นพ่อแม่ร้องไห้ แต่รู้ว่าบอกเมื่อไหร่พ่อแม่ต้องร้องไห้แน่) จากคุณ : จขกท เองอ่ะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:11:08 A:124.122.44.222 X: TicketID:267521

ความคิดเห็นที่ 24 พี่ว่าพี่พอจะเข้าใจความรู้สึกที่ บางครั้งพ่อแม่ก็ไม่เข้าใจนะ เพราะพี่ก็เจอบ่อยๆ ถ้าให้พี่แนะนำนะ น้องควรจะหาที่เรียนให้ได้ก่อน แล้วพอหาที่เรียนได้ปุ๊บ เราก็ค่อยบอกที่บ้าน ถ้าเป็นไปได้พี่ว่าไม่ควรจะบอกต่อหน้า เพราะอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดอย่างที่น้องเคยเจอตอน ม ต้น อีก แล้วคราวนี้จากที่เราท้ออยู่แล้ว ก็จะยิ่งท้อไปอีก จากที่พ่อแม่โกรธอยู่แล้วก็อาจจะทำอะไรที่อาจจะรุนแรงทางจิตใจได้อีก เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วคราวนี้ถ้าเราได้ที่เรียนใหม่ก็ให้กลับมานึกดูด้วยนะค่ะว่าที่เราออกจากที่เก่าอ่ะ มันเป็นเพราะอะไร แล้วเราสามารถปรับปรุงมันได้ไหม แล้วก็ถ้าเกรดเราไม่ดีจริงๆ ก็ดร็อปตัวที่คิดว่าไม่น่าจะผ่านไว้ก่อน ป้องกันเกรดร่วง แล้วเวลาเราบอกท่านไปอ่ะ แน่นอนเลยว่าท่านต้องว่าดังนั้นน้องควรจะนิ่งๆอย่าเถียง เพราะไม่งั้นจะหนักกว่าเดิม จากคุณ : PKPOO เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:14:38

ความคิดเห็นที่ 25 หาที่เรียนให้ได้ก่อนแล้วจะได้ไม่กดดันครับ และพ่อแม่ไม่มาต้องเหนื่อยลุ่นครับ พ่อแม่ลำบากพอแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 55 00:38:38 จากคุณ : ประกาศิตจอมราชันย์ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:36:22

ความคิดเห็นที่ 26 คล้ายๆเราเลย ....... แต่เราไม่โดนไล่ออก  แต่ดูท่าแล้วเรียนต่อไปไม่จบ ไม่ก็โดนไทร์แน่ เรียนจนอยู่ปีสาม  แต่ไม่ขึ้นปี4ค่ะ  โอนหน่วย ย้ายคณะ เริ่มต้นใหม่... ที่บ้านเค้ารู้ผลการเรียนตลอดค่ะ มหาลัยส่งผลการเรียนไปบ้านทุกเทอม  ปลาเพียบ :) ก็บอกที่บ้านไปตรงๆว่า ไม่ไหวแล้ว  (จริงๆคือคณะนี้ที่บ้านเค้าบังคับให้เรียน แต่เราไม่ชอบเลย) ผลก็แย่ลงๆๆๆ   เราใช้วิธีคือ  ส่งเมลล์ไปให้น้องค่ะ ให้มันปริ้นไปให้พ่ออ่าน  ....ประนึ่งจดหมายวิงวอนขอชีวิต555  และเราเครียดมาก ร้องไห้ด้วย  (คือพ่อแม่ไม่เคยเห็นเราร้องไห้มาหลายสิบปีแล้วค่ะ )    เค้าเลยยอมให้เปลี่ยนคณะ ... :) จากคุณ : ผู้หญิงโหดร้าย เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 00:59:36

ความคิดเห็นที่ 27 หาทางบอกแม่แค่คนเดียวก่อนครับ เพราะแม่น่าจะใจเย็นกว่า ผมไม่เห็นด้วยกับการบอกทีหลังนะครับ มันเป็นบทเรียนที่แสนแพงของคุณนะครับ บอกท่านไป แล้วก็ยอมรับและแก้ไข ยังไงท่านก็ให้อภัยคุณ บอกท่านไปเถอะครับ พ่อแม่ของเราเอง ไม่ใช่ใคร อย่าทำให้หัวใจของท่านสลายไป เมื่อเค้ารู้ทีหลังว่าโดนลูกรักหลอกนะครับ สู้ๆ ผมก็เคยมีประสบการณ์ราคาแพงเหมือนกัน จากคุณ : เขียนบน iPad (iteerath0n) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 03:23:56

ความคิดเห็นที่ 28 หาทางซิ่วแล้วโอนหน่วยกิตเลยค่ะ สู้ๆนะคะ เราเมื่อก่อนก็ขยันเลยเกรดดี แต่พอเข้ามหาลัยนี่แทบไม่เรียนเลย เกรดส่งมาที่บ้านทีแทบจะกินจดหมายนั่นเข้าไปก่อนพ่อแม่จะเห็นได้เลย TT^TT จากคุณ : เขียนบน iPhone (fern-eva) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 07:51:02

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นเราคงแก้ไขปัญหาก่อน อาจจะโอนหน่วยกิตเข้าที่ใหม่ พอโอนได้แล้วค่อยไปบอกความจริงกับท่านค่ะ อย่างน้อยทำให้พ่อแม่เห็นก่อนว่าเราพยายามจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนต่อจริงๆ แต่..โดนรีไทร์นี่ มันต้องสุดๆจริงๆนะถึงโดน เข้าที่ใหม่แล้วก็ตั้งใจเรียนมากๆนะคะอีกไม่เท่าไหร่ก็จบแ้ล้วจ้า จากคุณ : ipatty019 (ipatty019) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 08:30:13

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าจะเข้ามหาลัยอีกรอบ มันพ้นการยื่นแอดมิชชั่นไปแล้ว คงต้องพึ่งภาคพิเศษหรือมหาลัยเปิด จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 10:20:43

ความคิดเห็นที่ 31 จริงๆน้องควรบอกท่านก่อนนะ อย่างน้อยบอกแม่ก่อนจะได้ช่วยกันคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วน้องก็ต้องสัญญากับที่บ้านว่าครั้งนี้จะต้องจบ พี่เองเปลี่ยนมหาลัยมา 3 รอบ รอบแรกจ่ายไม่เรียน ไปเรียนอีกที่ อีกที่มีปัญหางวดนี้เลยลาออกมานอนอยู่บ้านเล่นเลยแล้วค่อยสอบตรง พ่อเห็นที่เรียนพ่อยังถามเลยที่นี่จะจบไหม - -" พี่เชื่อว่าน้องโตแล้ว พ่อแม่ไม่ตีน้องหรอกค่ะ ลองปรึกษาบอกปัญหาตรงๆเลยว่าทำไมเป็นแบบนี้ ของพี่ก็บอกตรงๆเลย จากคุณ : ล่องลอยในความฝัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 10:43:03

ความคิดเห็นที่ 32 ผมว่าคุณก็น่าจะรู้วิธีอยู่แล้ว แต่ยังกลัว มั่นใจและทำเลยครับ ผมก็ซิ่วเหมือนกัน โดนด่าเพราะความเป็นห่วง แต่ยังไงเค้าก็เข้าใจเราครับ จากคุณ : Knowe เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 10:57:41

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าหาทางออกเรื่องนี้ได้แล้ว อย่าลืมปรับปรุงตัวเอง ไม่ให้เกิดเหตุการแบบนี้อีกนะคับ จากคุณ : JEA เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 12:14:59

ความคิดเห็นที่ 34 ทำไมถึงโดนไล่ออกล่ะคะ  เข้ามาเล่าให้ฟังด้วยนะ  เผื่อเอาไปเล่าให้ลูกสาวฟังค่ะ ไม่ซ้ำเติมแต่อยากให้กำลังใจค่ะ  ดูอารมณ์แม่ แล้วค่อยเข้าไปพูดนะคะ จากคุณ : เด็กหญิงเอาแต่ใจ (เด็ดชายวุ่นวายเด็กหญิงเอาแต่ใจ) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 19:26:58

ความคิดเห็นที่ 35 ตอบในฐานะผู้ปกครองนะคะ แนะนำไปเตรียมตัวหาทางแก้ปัญหาไว้ก่อน เช่น ซิ่วเข้าที่เดิมแล้วโอนหน่วยกิต หรือขอโอนย้ายคณะ แล้วไปบอกพ่อแม่ว่าเรามีปัญหาเรื่องเรียน อธิบายว่าสาเหตุคืออะไร เช่นเรียนคณะที่ไม่ชอบ ไม่ถนัด หรือตั้งใจน้อยไป แล้วขอโอกาสพ่อแม่ ว่าตอนนี้หนูสำนึกแล้วว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ครั้งนี้หนูจะตั้งใจมากขึ้น ทุ่มเทมากขึ้น และขอโทษพ่อแม่กับสิ่งที่พลาดไปค่ะ สิ่งที่พ่อแม่เราหวังคือหวังให้ลูกรับผิดชอบ เติบโต รู้จักแก้ไขปัญหา และเป็นคนดี ถ้าทำได้ อยากให้เตรียมพวงมาลัยไปกราบเท้าขอขมาท่าน เพื่อเริ่มต้นใหม่ โชคดีนะคะ :) จากคุณ : อัศวินผู้เดียวดายกลางป่าไผ่ เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 55 03:38:10

ความคิดเห็นที่ 36 เราไม่เคยสนพ่อแม่เลยค่ะ อาจจะเพราะบ้านเราไม่เครียดเหมือนจกท. อยากทำอะไรทำ อยากเรียนอะไรเรียน แต่เอาเป็นว่าเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องห่วง พ่อแม่มีหน้าที่หาเงินสนับสนุนอย่างเดียว ถ้าไม่ไหวก้บอก เราจะหาทางไปต่อเอง เตือนได้ ออกความเห็นได้แต่จะทำหรือไม่ แล้วแต่เราค่ะ จขกท.โตแล้ว เลือกทางเดินเองได้เลยค่ะ จากคุณ : เนียน (siuol) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 01:16:39