ความคิดเห็นที่ 1 เราไง จากคุณ : Alice-W เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 15:46:11

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นเพื่อนกันห่างๆแต่ผมดันไปชอบเค้าแล้วตัดใจไม่ได้ซะด้วย พอบอกชอบไปเธอบอกให้เป็นเพื่อนกัน และสุดท้ายก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 15:55:07 จากคุณ : cadenza เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 15:53:04

ความคิดเห็นที่ 3 แล้วช่วงเป็นแฟนกับช่วงก่อนจะเป็นแฟนกันนี่ มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้างครับ เช่น เรื่องการวางตัว การดูแลเอาใจใส่อะไรพวกนี้อะครับ? จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 15:56:20

ความคิดเห็นที่ 4 ใช่ครับ คุณ cadenza  หลายคนก็เป็นแบบนี้ คือ แอบชอบเพื่อน แล้วกลัวว่าถ้าสารภาพออกไปแล้วจะไม่สามารถเป็นเพื่อนได้เหมือนเดิม TT__TT จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:00:02

ความคิดเห็นที่ 5 เราไม่สมหวัง ทั้งที่เราก็รักเพื่อนและเพื่อนก็รักเรา แต่ดันไม่ยอมบอกกัน มัวแต่ประชดกัน ว่าฉันไม่ได้ชอบแก เพียงเพราะกลัวเสียเพื่อนไป สุดท้าย มีฝ่ายนึง(เราเอง) คิดจริง ๆ ว่าเพื่อนเราไม่ได้ชอบเราแบบแฟน แล้วก็เรียนจบต่างแยกย้ายนาน ๆ เจอกันที พอวันนึงเรามีคนมาจีบและใช่สำหรับเรา เราก็รักคนนั้นและคบกันระหว่างที่ เพื่อนเรา ยังคงสานสัมพันธ์แบบพี่น้องกับอีกฝ่ายแต่ไม่บอกเราว่าเป็นแค่พี่น้อง และยังมีเพื่อนหญิงของเค้าอีกหลายคนที่เค้าเทคแคร์อยู่ ระหว่างนั้น เรากับเพื่อนคนนี้ก็ยังเฮฮาไปเที่ยวไหนมาไหนด้วยกันเป็นกลุ่มเพื่อนเก่าแต่ไม่เคยพูดถึงว่าเรามีแฟนแล้วเพราะว่าเราคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องบอกเพราะดูเค้าก็น่าจะกำลังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ต้องเทคแคร์(เค้าเป็นคนเทคแคร์ผู้หญิงดีมาก เสมอกันทุกคนเลยจนเราก็คิดว่าเราก็แค่ 1 ในนั้น)เหมือนเพื่อนทั่วไปที่จะมีแฟนยังไงไว้แน่ใจแล้วค่อยมาบอก พอวันนึงเจอกัน เราตัดสินใจจะแต่งงาน ไม่อยากเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เค้าต้องมาคอยเทคแคร์ในฐานะเพื่อนสนิทอีก และไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนหญิงและรุ่นน้องคนอื่นของเค้าที่คอยเขม่นอยู่ และตัดสินใจมาบอกเค้า วันนั้นเค้ากลับซื้อแหวนมาหมั้นเราในรถทั้งที่เรายังไม่ได้เอ่ยปากเลย....โดยไม่รู้เลยว่า...เราเข้าใจว่าเค้ามีแฟนไปแล้วตั้งแต่สมัยเรียน ไม่เคยรู้เลยว่าเด็กพวกนั้นและเพื่อนหญิงหลายคนนั้นเค้าคบกันแบบเพื่อนและพี่น้องไม่ใช่คนพิเศษ ที่เค้าเทคแคร์ทุกคนเพราะเค้าเป็นคนแบบนี้ และด้วยเพราะเค้าเข้าใจผิดคิดว่าเราก็ไม่ชอบเค้าและกลัวจะเสียเราไปถ้าเค้าจะชอบเราแบบแฟนเค้าจึงยังไม่เลิกการกระทำนั้น....จนเราบอกเค้าไป....เค้าเอาแหวนวงนั้นกลับเค้าไปที่เดิมแล้วยิ้มให้เราแบบคนที่ยินดีแต่จะร้องไห้....เปลี่ยนเรื่องถามถึงแฟนเราว่าเป็นใครยังไงมาจากไหนตัดสินใจดีแล้วหรือ บลา....เราเจ็บปวดมากที่ทำไมที่ผ่านมาถึงไม่ยอมพูดกัน ทุกวันนี้...เราแต่งงานกับคนนั้น ส่วนเพื่อนเราก็ยังไม่ยอมแต่งกับใครเลย...ก่อนหน้านี้ก็ยังคงเทคแคร์แต่เรา อยู่กับเราไม่ไปไหน คอยช่วยเรากับสามีทุกเรื่องเวลาต้องการอะไรจนเราต้องตัดขาดหาเรื่องเลิกคบกับเค้า เพราะไม่อยากให้เค้าต้องมาคอยเหนื่อยให้เรา และเพื่อให้เค้าได้ไปหาคนที่ใช่สำหรับเค้า  T T ยังรักยังห่วงเสมอแต่ในฐานะเพื่อนสนิทเท่านั้นเอง... จากคุณ : Chacharay เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:03:52

ความคิดเห็นที่ 6 โอ้วว คุณ Chacharay เป็นตัวอย่างที่ดีเลยของคนที่ไม่กล้าสารภาพรัก แต่ยังไงก็ตาม เชื่อว่าซักวันหนึ่งเพื่อนของคุณจะได้เจอคนที่ใช่สำหรับเค้าเช่นเดียวกับคุณนะครับ จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่กล้าเพราะกลัวเสียเพื่อน คิดเล่น ๆ นะคะ เราบอกเค้าเค้าไม่คุยกับเราอีกเลย มันจบตรงนี้ว่าเค้าไม่รักเรา เป็นได้อย่างมากก็แค่เพื่อน ยังไงสักวันก็ต้องห่างกันเพราะไม่มีวันที่เค้าจะมารักและมาอยู่กับเรา เรายังมีเวลา มีโอกาสเจอใครใหม่ ๆ จริงมั้ยคะ เพราะถ้าเค้าใจกว้างพอ เค้าก็จะบอกกับเราแค่เป็นเพื่อน และก็ยังคงเป็นเพื่อนกันได้ไม่หายไปไหน แต่ด้วยเวลาและอะไรหลายอย่าง ยังไงสักวันเพื่อนก็ต้องห่างหายกันไปเพราะหน้าที่การงาน นาน ๆ จะได้เจอกันสักครั้ง ดังนั้น บอกไปแล้วเค้าไม่โอเค เป็นเพื่อน ก็เป็นเพื่อนซิ ยังไงก็ได้บอกแล้วไม่มีอะไรคาใจแล้ว มีคนใหม่เราก็ทุ่มใจได้เต็มที่ แต่คิดอีกมุม ถ้าเค้าเองก็มีใจให้เราล่ะคะ และเค้าเองก็ไม่กล้าเหมือนกัน ถ้าไม่มีฝ่ายไหนยอมเริ่มก่อน แล้วความรักจะจบลงยังไง ไม่อยากให้มีเคสเดียวกับเราเลยค่ะ มันทำให้คนสองคนต้องกลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันได้มาเจอกันอีก ทั้งที่แค่เป็นเพื่อนก็เป็นไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายยังรักอยู่... ความรัก จะสมหวังได้อย่างไร ถ้าไม่มีฝ่ายใดยอมเอ่ยปาก บอกรักก่อน.... (น่าทำเป็นนิยายแฮะ เอิ้กๆ) จากคุณ : Chacharay เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:47:31

ความคิดเห็นที่ 8 โอ้ว เป็นประเด็นที่โดนมากค่ะ (แอบเข้ามาอ่าน อิอิ) ตอนนี้เราก็ตกอยู่ในสถานการณ์ประมาณนั้นเลย ไม่มีใครกล้า T T (ถ้าคนนั้นคิดตรงกับเราจริงอ่ะนะ) จากคุณ : เปลวเทียนน้อยๆ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:54:56

ความคิดเห็นที่ 9 เรา....ไม่สมหวังค่ะ เรากับเพื่อนคนนี้เลิกกับแฟนพร้อมกัน ระหว่างที่ทำใจกับแฟนเก่า ก็สนิทกันมากกว่าเดิม เหมือนอะไรๆมันเข้าใจกันง่าย จนสุดท้าย เราก็เผลอไปชอบเพื่อน พยายามบอกแบบทีเล่นทีจริง แต่เพื่อนพูดว่า"เล่นมากไป มันสยอง.."-[]-  และเพื่อนก็พูดว่า เราคือเพื่อนที่ดีที่สุด และเราจะเป็นเพื่อนรักกันตลอดไป มันดูเศร้า แต่ก็สุขใจที่ได้เป็นเพื่อนรักกัน^^ จากคุณ : Reigaz เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:15:07

ความคิดเห็นที่ 10 อืม เป็นมุมมองที่น่าสนใจมากครับคุณ Chacharay จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:19:56

ความคิดเห็นที่ 11 คุณ เปลวเทียนน้อย  ขอให้สมหวังนะครับ ^^ จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:20:50

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Reigaz  แสดงว่า การบอกแบบทีเล่นทีจริงก็ทำให้เรารู้คำตอบได้นะเนี่ย จากคุณ : สว่างไสวในใจเธอ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:36:53

ความคิดเห็นที่ 13 สมัยเรียนก็เคยนะแบบเพื่อนสนิทในกลุ่มเลย แบบว่านิสัยใจคอนี่มันใช่เลย ก็เลยตกลงคบกันดู แต่คบกันได้แค่ปีเดียวก็ลดสถานะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไม่ได้มีปัญหาหรือทะเลาะกัน แต่ว่ามันเหมาะที่จะเป็นเพื่อนมากกว่าแฟน แต่คู่ที่คบกันได้ยาวๆก็มีนะ มันแล้วแต่นะ จากคุณ : hasipsatang เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:48:12

ความคิดเห็นที่ 14 ของเราก็... สมหวัง(มั้ง) 55+ รอให้ได้แต่งงานก่อนถึงว่าจะสมหวังจริงๆ... ตอนนี้ก็กำลังคบกับเพื่อนสนิทอยู่ค่ะ อยู่ดีๆวันดีคืนดีเขาก็มาถามว่าคิดยังไงกับเขา เราก็ตอบเขาไปว่าชอบ เขาก็บอกว่าชอบเราเหมือนกัน ตอนคบๆกันก็มีทะเลาะกันบ้างจนกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิมเพราะความไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ก็เป็นแฟนกันแล้วค่ะ .... จากคุณ : Yu~Ka~Wa เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 17:53:38

ความคิดเห็นที่ 15 ชอบความเห็นที่ 7 จากคุณ : BeastGuy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 18:13:11

ความคิดเห็นที่ 16 เราก็ไม่สมหวังค่ะ จากที่เคยชอบ พอเรียนขึ้นชั้นต่อไป ก็แยกห้องกัน คือได้เจอกันแค่ตอนเช้าก่อนเข้าเรียน ความรู้สึกจากชอบก็ลดลงจนเป็นเพื่อนสนิทค่ะ มีวันนึงเคยรับปรึกษาปัญหาหัวใจของเพื่อนคนนี้พอดี คุยไปคุยมา จู่ๆเขาก็ถามว่าเราคิดยังไงกับเขา ตอนนั้นคือเลิกชอบเลิกปลื้มแล้ว แต่ก็ตัดสินใจบอกไปว่า ตอนเรียนห้องเดียวกัน เราเคยแอบชอบแกนะ เพื่อนก็ตอบกลับมาว่า กล้าตอบได้ไงเนี่ย แต่ตอนนั้นเราก็รู้สึกดีที่บอก หลังจากนั้นเวลาเจอหน้ากันก็เหมือนเดิมค่ะ ปกติจะเจอกันทุกเช้าก่อนขึ้นเรียน ก็ทำตัวปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแล้ว แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 19:22:09 จากคุณ : parima_vhn เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 19:21:51

ความคิดเห็นที่ 17 คห.5 แบบนี้ก็ถือเป็นกรรมเหมือนกันนะ จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 19:28:30

ความคิดเห็นที่ 18 คห 7 โดนนนนนนน ตอนนี้กำลังหาจังหวะถามเลย ว่าตกลงแกคิดไรกะเราป่าวเนี๊ยะ >_< แต่พอเจอหน้าก็ไม่กล้าถามอะ ตั้งท่ามา 3 วันแระ ไม่ได้ถามซะที จะวอทแอปถาม เพื่อนๆก็บอกว่าถามต่อหน้าดีกว่า อยากจะบอกว่า ถ้ากล้า ก็ถามไปนานแล้วเจ้าค่าาาาาาา >////< จากคุณ : bameegyo เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 21:43:18

ความคิดเห็นที่ 19 ผมกลายเป็นเลขาส่วนตัวคนที่ผมแอบชอบอยู่ ตอนนี้ 555555 จากคุณ : เปิ้ลฮักตั๋วเน้อ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 21:59:34

ความคิดเห็นที่ 20 เราก็ไม่กล้าบอกเหมือนกันค่ะ ก็เลยต้องช้ำใจมาจนถึงทุกวันนี้ --" จากคุณ : Nutty_Nurse เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 00:49:08

ความคิดเห็นที่ 21 เราสมหวังค่ะ :D :: แล้วช่วงเป็นแฟนกับช่วงก่อนจะเป็นแฟนกันนี่ มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้างครับ เช่น เรื่องการวางตัว การดูแลเอาใจใส่อะไรพวกนี้อะครับ? >> การวางตัว เราวางตัวเหมือนเดิมนะ ยังไงดีล่ะ อาจจะเพิ่มกว่าเดิมนิดหน่อยตรงที่หึงบ้างหวงบ้าง แต่ก็ไม่ได้ไปก้าวก่ายเขานะ อย่างถ้าเขามีเพื่อนผู้หญิงหรือมีใครเข้ามาเราก็จะพยายามไม่เยอะ ก็ถามเขาให้ชัดๆอะไรอย่างงี้มากกว่าเพราะถึงยังไงเราก็คิดกับเขามากกว่าเพื่อนอะนะ แต่ว่าเราก็ไม่อยากให้เขาอึดอัด   เอาข้อดีของการเป็นเพื่อนมาใช้ดีกว่า คือคบกันสบายๆ อยู่ข้างๆกันไปเรื่อยๆ :) การดูแลเอาใจใส่หรอ  เราเพิ่มขึ้นเยอะมากกกก   เหมือนเมื่อก่อนเรายังเป็นแค่เพื่อนไง ก็ต้องข่มใจทำเป็นสนใจในระดับทั่วไป ไม่งั้นเดี่ยวเขารู้ 55 แต่พอเป็นมากกว่าเพื่อนปุ๊บ ก็พยายามใส่ใจรายละเอียดในหลายๆเรื่องของเขานะ เวลาเขาป่วยเราก็จะเทคแคร์เป็นพิเศษอะไรแบบนั้น เหมือนมันเป็นอะไรที่เพื่อนสนิทธรรมดาคงทำ แต่ทำไม่เยอะเท่านี้ อย่างโทรไปเตือนให้ทานยา หรือเขาชอบอะไรก็ซื้อไปให้ ประมาณนั้น คือแสดงออกได้ชัดเจนกว่าเดิมว่างั้นเถอะ จากคุณ : encircle เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 02:57:20

ความคิดเห็นที่ 22 เราเคยแอบชอบคนหนึ่ง ตอนนั้นแค่ 12 ขวบเอง จะว่าแก่แดดก็ได้ แต่ว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่เด็ก แต่ที่ชอบก็เป็นความชอบแบบเด็กๆ นะค่ะ พอเรา 15 เราก็บอกเค้าว่าเราเคยชอบเธอแบบเด็กๆ ก็ไม่มีอะไร ก็ยังสนิทกันมากๆ ถึงตอนนี้ แต่ตอนเราอายุ 24 มันมาบอกเราว่ามันเป็นเกย์ โอ๊ย ตกใจมาก คนทั่วๆ ไปก็มองไม่ออก ญาติเค้าญาติเราก็คอยเชียร์ให้เป็นแฟนกัน แต่ก็รู้กันมานานแล้วว่ายังไงก็เพื่อน 555 จากคุณ : yeahbaby เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 07:03:59

ความคิดเห็นที่ 23 อยากสมหวังกะเขาบ้างจัง แต่มันผ่านมานานมากละ กลับไปคิดถึงทีไรก็เสียใจทุกที :) จากคุณ : NiChaCaramel เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 16:27:26

ความคิดเห็นที่ 24 จากรุ่นพี่สัน+รุ่นน้องสมัย4ปีที่แล้ว ก็ไม่ได้สนิทกันเลยค่ะ มาเจอะกันโดยบังเอิญก็นั่งคุยๆกันไปเรื่อย ตามด้วยแลกเฟสบุคคุยกันต่อถึงได้รู้ว่าบ้านเค้า/อพาทเมนท์เรามันใกล้กัน ไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน ออนไลน์คุยกันตลอด จากแค่รุ่นพี่ห่างๆก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น แต่คุยกันปรกติแบบรุ่นพี่รุ่นน้องจริงๆ คือไปไหนมาไหนด้วยกัน นอนดูหนังกันแต่ไม่มีการจับเนื้อต้องตัวหรือจับมือเด็ดขาด (กับคนที่ไม่ได้คบเป็นแฟนเราจะถือมาก ใครมาจับเนื้อตัวโดยไม่ขออณุญาตก่อนน่ะไม่ว่าจะสนิทแค่ไหน เขาจะกลายเป็นคนฉวยโอกาส/หลอกแต๊ะอั๋งในสายตาเราทันที แต่ถ้าคบเป็นแฟนกันแล้ว จัดหนักครับพี่น้อง) หลายวันผ่านไป เริ่มรู้ตัวว่าตื่นนอนมาจะนึกถึงเค้าก่อนเป็นคนแรก และไม่ว่าจะทำอะไรก็จะมีเค้าตลอด จนวันนึงเค้าก็สารภาพว่าชอบเรา.... และแล้วก็ได้เค้ามาไว้ในกำมือ หืดหาดหืดหาด เอ้ย ได้คบเป็นแฟนกัน จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 01:29:25