ความคิดเห็นที่ 1 ความรักที่เค้าบอกว่ามี. แต่เราสัมผัสไม่ได้ เค้าควรจะพยายามกว่านี้ืหรือเราคาดหวังมากไปคะ คือเราก็บอกเค้าไปว่า เรายอมรับว่าเรามีความรักที่คาดหวัง ไม่ได้หวังสิ่งของ เงินทอง จากเค้า แต่เราต้องการความเอาใจใส่ การสังเกตความรู้สึกเรา การดูแล การทำให้รู้สึกดี ต้องการอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน มีกระหนุงกระหนิงกันบ้างตามประสา โอกาสพิเศษก็ทำอะไรกุ๊กกิ๊กให้กัน น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในยามเดือดร้อน เราทำดีก็อยากได้คำชม อยากได้รอยยิ้ม อยากได้ความอบอุ่น ความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ด้วย อยากได้ความมั่นคงทางอารมณ์  คือ ไม่ได้คาดหวังทุกขณะ แต่เมื่อมีโอกาส หรือโอกาสอันควร ซึ่งเราก็มั่นใจว่าเราให้เค้าได้ในระดับหนึ่ง อาจจะมีเหนื่อยมีอารมณ์เสียจากที่อื่นมาบ้าง แต่ก็พยายามทำดีที่สุด เราเห็นแก่ตัวนะ ที่อยากเป็นฝ่ายรับบ้าง เราว่ามันทำให้ เรารักกันมากขึ้น เหมือนเป็นพลังส่งให้กัน แต่ตอนนี้ พลังเราเริ่มจะหมดละ เราคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่เกินพอดีหากจะคาดหวังจากคนรักหรือคนพิเศษของเรา หรือคุณคิดอย่างไรกันคะ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 01:00:29

ความคิดเห็นที่ 2 อืม ..  อย่างที่เจ้าของกระทู้บอกอะคับ ผมว่า ความคาดหวังกับความอดทน แต่ละคนก็คงมีไม่เท่ากัน  บางทีก็ต้องการบางสิ่งบางอย่างเพื่อที่จะมาเชื่อมต่อ รึจูนสิ่งที่ต้องการต่างๆ แบ่งปันกัน เติมให้กันและกัน ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองว่า จะลองปรับตัวรึเดินหน้าทำอย่างที่คาดหวัง บางทีถ้าลองได้พูดได้ทำความเข้าใจ ถึงแม้อาจจะไม่เป็นแบบที่หวัง แต่ถ้าเค้ารักคุณจริง ๆ ผมว่าเค้าก็ต้องพยายามรึปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าจะทำอะไรเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข ยังไง เจ้าของกระทู้ ก็ลองปรับความเข้าใจกับเค้ารึว่าให้เวลามันพิสูจน์ ความรักคือการเดินไปข้างหน้าพร้อมกับความสุขนะคับ พยายามเข้านะคับ สู้ ๆ คับ จากคุณ : koba555 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 01:48:38

ความคิดเห็นที่ 3 เพื่อนผู้ชายสมัยเรียนคนหนึ่ง มีบุคลิกคล้ายๆกันแบบนี้นะครับ.. จนเพื่อนๆสมัยนั้นคุยกันเล่นๆว่า คนแบบนี้ ไม่มีทางมีเมียได้แน่ๆ เงียบๆ ขรึมๆ พูดจาไม่ค่อยเก่ง เข้าสังคมไม่ค่อยเป็น จะพูดอะไรออกมาแต่ละครั้ง เล่นเอาวงแตกกันบ่อยๆ เรื่องจีบผุ้หญิงไม่ต้องพูดถึง เพราะตัวเขาเองไม่เคยเอ่ยถึงผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลย แม้แต่คุยทะลึงๆ เขาก็ไม่เคยคุยด้วยเลย ได้แต่นั่งฟังเงียบๆของเขาคนเดียว ที่บ้านเขาค่อนข้างฐานะดี พื้นฐานน่าจะถูกตามใจมาแยะมากๆ ไม่แคร์ใครเลย ถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะเถียงกับครูในชั้นเรียน แล้วพวกเดินออกไปยืนชี้หน้าเถียงกับครูตรงหน้าห้อง ต่อหน้านักเรียนห้าสิบกว่าคนที่กำลังนั่งเรียนอยู่ เชิญผู้ปกครองมา แทนที่พ่อเขาจะมาขอโทษแทนลูก และขอร้องให้ลูกได้เรียนต่อ พ่อเขากลับบอกว่า มันไม่ให้เรียน..ก็ออก ออกก็ออก..ไม่ต้องเรียน หัวรุนแรงมาก คุยเรื่องการเมืองด้วยไม่ได้เด็ดขาด จะกลายเป็นเหมือนคนโรคจิตไปเลย เขาจะเริมคุมตัวเองไม่อยู่ สามารเถียงกับเพื่อนขนาดล้มโต๊ะในผับแล้วชกต่อยเพื่อนได้อย่างสบายๆเลย หลังจากที่เขาถูกไล่ออกมาแล้ว ก็ยังเจอยังเที่ยวกันอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆครับ มารู้ทีหลังว่ามีนักเรียนหญิงคนหนึ่งไปชอบเค้า แล้วเหมือนเพื่อนผู้หญิงคนนั้นเป็นฝ่า่ยไปจีบหมอนี่่ก่อน เพื่อนๆก็งงมากๆ เพราะผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างเป็นเด็กเรียนเรียบร้อย แต่กลับไปชอบหมอนี่ที่ออกแนวเพี้ยนๆ ไปเที่ยวกันหมอนี่ไม่เคยพาแฟนมาด้วยเลยครับ ใครถามถึงแฟน เขาก็จะไม่เคยเอ่ยปากเล่าเรื่องแฟนให้ใครรู้ทั้งสิ้น แฟนเขาจะไม่มีตัวตนเลยในสังคมของเพื่อนของเขา จนเข้าสู่วัยทำงาน ถึงมีคนมาเล่าว่า เพื่อนผู้หญิงคนนี้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านหมอนี่แล้ว จน..มีโอกาสไปเที่ยวผับกัน เป็นมีทติ้งรวมเพื่อนเก่าๆ หมอนี่ก็ไปแต่ไม่ได้ไปพร้อมกับแฟน แต่แฟนของเขา เธอกลับตามมากับกลุ่มผู้หญิงทีหลัง ในผับเกิดมีปากเสียงกัน ระหว่างหมอนี่กับแฟน ไม่มีใครทราบว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร รู้แต่มีการฉุดกระชากกันในผับ แล้วออกมาทะเลาะต่อกันหน้าผับ เพื่อนๆก็ตามออกมาดูอยู่ห่างๆ ขณะที่สองคนนี่ยืืืนทะเลาะยืนเถียงกันอยู่หน้าผับ อยู่ๆหมอนี่ก็..ถีบแฟนตัวเอง ตกบรรไดลงไปสามสี่ขั้นได้ แล้วเธอก็ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นถนน พร้อมกับตะโกนตามไปว่า ใครเป็นแฟนกับมรึง กรูเคยบอกเหรอ ว่ากรูรักมรึง มรึงมา.มรึงก็มาของมรึงเอง ไสหัวไป อยากไปไหนก็ไป ไปไกลๆทีนกรู.... ประโยคนี้หลุดออกจากปากของเขา ทั้งๆที่เพื่อนๆเกือบทุกคน ก็รู้กันอยู่ ว่าเขากับเธออยู่กินด้วยกันประหนึ่งผัวเมียมาเป็นปีแล้ว ผ่านไปเป็นสิบปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า คืนนั้นเกิดอะไรขึ้น เพราะหมอนี่ไม่เคยเล่า.. เล่าให้ฟัง เพื่ออยากให้คุณนำไปลองเปรียบเที่ยบบุคลิกลักษณะ และพฤติกรรมดูครับ ว่ามีส่วนที่คล้ายกันมากน้อยแค่ไหน... เรื่องบางเรื่องคุณอาจจะไปได้คำตอบเอาจากพฤติกรรมในอดีต หรือในวัยเด็กของเขา ส่วนตัวคิดว่า พื้นฐานครอบครัวของคนแบบนี้ น่าจะมีส่วนที่ผลักดันให้เขากลายเป็นคนลักษณะนี้ และมีพฤติกรรมแบบนี้ น่าจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง ที่ส่งผลให้เขากลายเป็นมีพฤติกรรมแบบนี้ครับ.. เพียงแต่อยากให้ข้อคิดไว้นิดหนึ่งครับว่า.. ที่ผมรู้สึกว่าเพื่อนคนนี้แปลกแล้ว แต่ที่แปลกมากกว่าก็คือ ผู้หญิงแบบไหนกัน ที่พาตัวเองเข้าไปเลือกคบหากับผู้ชายแบบนี้.. และเข้าไปทนกับพฤติกรรมของผู้ชายแบบนี้อยู่ได้ยังไง เขารักเธอ หรือเขาแค่ไม่อยากเหงา หรือเขาเห็นเธอเป็นแค่ทาส ที่เอาไว้รองรับอารมณ์ให้กับเขา ทุกวันนี้ผมก็หาข้อสรุปให้กับเพื่อนคนนี้ไม่ได้ มีแต่ความรู้สึกว่า.. เขากับแฟนของเขา เป็นคู่กรรมมากกว่าเป็นคู่รัก เป็นเจ้ากรรมนายเวรกัน มากกกว่าจะเป็น คนสองคนที่รักกัน.... จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 02:14:00 A:58.9.40.230 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วตอนจีบกันมันยังไงเนี่ย คุณก็ดูจะติดแฟนไปนะ รักไม่จำเป็นต้องบอก แล้วนิสัยเค้าเป็นอย่างงั้นหรือเปล่า ถ้าเป็นคนนิสัยอย่างงั้นคุณเปลี่ยนไม่ได้หรอก อย่าพยายามเปลี่ยนใครเพื่อตัวเอง แล้วตอนคบกันไม่รู้เหรอว่าแฟนนิสัยเงียบอย่างงี้ = ='' มีทางเลือก 2 ทาง เปลี่ยนตัวคุณเอง กับ เดินไปจากชีวิตเค้าสะ จากคุณ : msonline1234 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 03:52:19

ความคิดเห็นที่ 5 ต้องกลับมาถามตัวเองแล้วหละ ว่าที่เป็นอยู่มีความสุขดีหรือไม่ จริงอยู่แหละแฟนกันอาจไม่ต้องพูดอะไรกันมากมาย งั้นฉันไม่พูดว่ารักเธอบ้างได้ไหมหละ อยู่กันไปอย่างนี้? ถ้าเราเป็นเจ้าของกระทู้ เราจะลดระดับความสัมพันธ์ไว้ในใจ จัดไว้ให้อยู่ในฐานะเพื่อนไปเลยค่ะ อย่าลืมนะคะ อย่างที่หลายๆความเห็นบอก คุณรักแฟนได้ แต่อย่าลืมรักตัวเองด้วย จากคุณ : ipatty019 (ipatty019) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 06:32:52

ความคิดเห็นที่ 6 อย่างงี้เขาไม่เรียกว่า "รัก" แต่น่าจะเป็น "สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า กั๊ก" ... ถ้าจะรัก เขาคงจะรักแค่ตัวเอง เพราะนั่นคือการกระทำของคนที่เห็นแก่ตัว เขาไม่ได้รักคุณแล้ว แต่เขาก็ไม่อยากโดดเดียว ประมาณว่ามีไว้ดีกว่าไม่มี แต่เมื่อไมรักจึงไม่มีการดูแล เมื่อไม่รักจึงไม่เคยที่จะบอกรัก ถ้ายิ่งไม่หึงเวลามีคนมาตอมคุณด้วย อันนี้ยิ่งชี้ชัดว่าหมดรักแล้วแน่ๆ แสดงว่าเขาไม่ได้ต้องการคุณไว้เป็นคนรัก แต่เขาต้องการคุณไว้ในฐานะ "ตุ๊กตาแฟน" เอาไว้เพื่อเสริมสร้างฐานะทางสังคมของเขาเอง (การมีแฟนของผู้ชาย มีผลต่อสถานะภาพทางสังคมและความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง) .... ฉะนั้น ผมว่ากับคนๆนี้ คุณคงไม่ใช่คนรักของเขา ไม่ใช่แม้กระทั่งเพื่อน เป็นได้เพียง "คนแปลกหน้าที่เคยรู้จักดี" ก็เท่านั้น สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือ "ไม่มีอะไรจะหยุดคุณได้ หากคุณเลือกที่จะไป" สิ่งที่ยึดคุณกับเขาไว้ด้วยกันตอนนี้ไม่ใช่การกั๊กของเขา แต่เป็น "ใจของคุณ" ต่างหาก ที่คิดว่าจะสามารถทำให้รักดีขึ้นได้ ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเพราะคุณเห็นแก่ตัวหรอกนะ เพราะถ้าจะพูดอีกอย่างหนึ่ง สิ่งเดียวกันนี้เองก็เรียกว่า "การศรัทธาในความรัก" ได้เช่นกัน (แต่กรณีของเขานี่เห็นแก่ตัวชัดๆ) ทั้งหมดมันเลยขึ้นอยู่กับคุณ ว่าจะปล่อยมือหรือศรัทธาต่อไป มันไม่มีอะไรผิดหรือถูก แค่ขอให้รู้ไว้ว่าเขาไม่ได้ให้ความรักกับคุณแล้วก็เท่านั้น ... แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 06:50:34 จากคุณ : Draconyz เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 06:48:32

ความคิดเห็นที่ 7 เราเคยมีแฟน ไม่แสดงออกว่ารัก ไม่เทคแคร์ เวลาอยู่กับเพื่อนลืมเราไปเลย ฯลฯ เราก็ก็พยายามสอนเค้าว่า แฟนที่ดี ผู้ชายที่ดี ควรดูแลผู้หญิงอย่างไร สุดท้ายเราเลิกค่ะ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้หรอก เรื่องอื่น พอเราตัดใจเลิก ผ่านมาปีนึง เค้ายังตัดใจจากเราไม่ได้เลย รักเรามากกว่าเรารักเค้า แต่การดูแลไม่ดี แสดงออกไม่เป็น เพราะฉะนั้น คำพูดและการกระทำ มันวัดความรู้สึกรักไม่ได้สำหรับบางคน แต่อยากจะให้ข้อคิดว่า แม้เค้าจะรักคุณจริง แต่ถ้าเค้าไม่ทำให้คุณสัมผัสได้ หรือไม่พยายามทำให้คุณมีความสุข สำหรับเรา ความรักนี้ ไม่ดีพอ ไม่น่าได้รับการพัฒนาต่อเลยอ่ะ เราเลิกมา ถามว่าเสียใจไหม ก็เสียดายที่ต้องบอกเลิกคนที่รักเรามากที่สุดคนหนึงไป แต่ความสบายใจมันมากขึ้นเยอะ ไม่ต้องไปคอยคาดหวังความใส่ใจจากคนที่ไม่ละเอียดอ่อนพอ ความรักเป็นแค่ส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง อุปนิสัย ทัศนคติที่คล้ายกันก็สำคัญมากๆที่จะครองรักให้เป็นสุข ไม่รู้สิ ถ้าเค้าทำให้คุณมีความสุขหรืออย่างน้อยสุขมากกว่่ทุกข์ไม่ได้ ก็ไม่รู้จะคบไปทำไม แล้วตอนเค้าจีบ มาจีบคุณติดได้ยังไงกัน หมดโปรแลัวหรอ ถ้ามีโปร ก็ไม่เสมอต้นเสมอปลายแล้วนะ แต่ถ้าตอนจีบก็เป็นอย่างนี้ แสดงว่าเค้าก็จริงใจอยู่ แล้วคุณยอมให้เค้าเป็นแฟนตั้งแต่แรก ก็แสดงว่าคุณรับเค้าได้ตั้งแต่แรกหนิ จากคุณ : tfc_14 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 08:38:05 A:140.206.255.248 X: TicketID:359416

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ สำหรับคำแนะนำ เราเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่า เราเองจะเอายังไง คือ เค้าเป็นเหมือน... จะเปรียบเทียบยังไงดี  เหมือนน้ำเต็มแก้วมั้งคะ ที่ถ้าคุณอยากจะดื่มน้ำนั้น โดยผสมอะไรสักอย่าง คุณต้องดึงเอาส่วนผสมเดิมออกมาก่อน ถึงจะใส่อย่างอื่นลงไปได้ เช่น ตอนที่คบกันแรก ๆ เค้าพูดน้อยกว่านี้มาก ๆ แต่ก็หวานกว่านี้ เราเคยบอกว่า มีอะไรก็พูดกับเราได้นะ เราเป็นคนเปิด เล่าสู่กันฟัง แชร์กัน คือ เค้าจะสุข จะทุกข์ จะเจออะไรมาแทบไม่เคยเอ่ยปาก ซึ่งเค้าบอกว่ายังไม่ค่อยสนิทมาก เดี๋ยวนี้เค้าคุยมากขึ้น เฮฮากับเรามากขึ้น แชร์มากขึ้น ซึ่งเราก็ดีใจนะคะ แต่ความหวานมันลดลง หลาย ๆ อย่าง เรารู้ว่าเค้าก็พยายามปรับเพื่อเรา อย่างเช่น เรื่องช่วยงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างแต่ก่อน เราทำความสะอาดบ้าน ซัก ตากผ้า ทำกับข้าว ล้างจาน เค้าจะนั่งเฉย หรือทำกิจกรรมของเค้าโดยไม่สนใจ ว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหน แต่พอเราพูดว่า อยู่ด้วยกันมันต้องช่วยกันนะ ไม่ต้องทุกอย่าง ทั้งหมด แต่ต้องมีบ้าง ต้องหัดแสดงน้ำใจให้เป็นนิสัย จากนั้นมา เค้าก็จะช่วยเราในสิ่งที่เค้าทำได้ โดยเราไม่ต้องบอก ซึ่งเราดีใจมาก ๆ คือ จริง ๆ ก็ทำเองได้นะคะ แต่มันจะรู้สึกดีถ้าเค้าอยากช่วย อย่างเรื่องที่เค้าต้องขับรถกลับ ตจว คบกันใหม่ ๆ ก็โทรบอกกันว่า ถึงแล้ว กลับมาแล้ว ปลอดภัยนะ หลัง ๆ ก็เงียบ ทำตัวเป็นนินจา ทั้งที่เราก็รอให้ส่งข่าวด้วยความเป็นห่วง จนต้องขอกันใหม่ ว่าเราห่วงนะ เค้าก็ปรับนะคะ แต่อาจจดีเลย์ไปบ้าง สีกชั่วโมงสองชั่วโมง ส่วนใหญ่เราจะกะเวลาแล้วติดต่อไปก่อนทุกที แต่ก่อน เวลาเค้าจะไปไหน หือมีแผนอะไรในใจ เค้าก็ไม่ค่อยพูด อาจจะบอกเราครั้งเดียว แต่เราก็จำได้แหละ ว่าไปโน่นนี่นะ กลับมืดนะ แต่หากมีเปลี่ยนแผน เค้าก็จะไม่ค่อยบอก ไม่อัพเดท คือเราไม่เคยห้าม เค้าจะไปไหน แต่ก็อยากรู้ด้วยความห่วงอีกแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ดีขึ้น ถ้าดึก ก็บอกเป็นระยะ ๆ จะไปไหนยังไงกับใครเรารู้มากขึ้น มีบ้างเรื่องออนไลน์ เรื่องผู้หญิง เรื่องติดต่อกับแฟนเก่าแล้วปิดบังเรา การกระทำที่เรารับไม่ได้ เค้าก็เลิกให้ หรือทำไม่ให้เราจับได้ก็ไม่รู้นะ ที่เล่าให้ฟัง จะเห็นว่าเค้าเองก็ปรับเพื่อเรานะคะ แต่จะต้องเป็นสิ่งที่เราเอาขึ้นมาเป็นประเด็น เค้าจะดีขึ้นในเรื่องนั้น ๆ จนเรามาคิดว่า แล้วถ้าเราไม่พูด เค้าอยากจะทำอะไรเพื่อเราบ้างมั้ย ทุกสิ่งเราต้องเอ่ยปาก แม้แต่เรื่องเล็กน้อย ต้องขอ ต้องบอก เค้าไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เล่นการพนัน ไม่นินทาว่าร้ายใคร จิตใจดี ไม่สกปรก รกบ้างแต่ก็ไม่มาก เป็นคนง่าย ๆ บ้าน ๆ อยากได้อยากมีนู่นนี่นั่น แต่ไม่ฟุ้งเฟ่อ ไม่วิ่งตามโลก อยู่แบบพอดี ไม่มีปากมีเสียงกับใคร (นอกจากเรามั้ง) มีความรับผิดชอบในตัวเอง ไปทำงานไม่สาย ไม่หยุดบ่อย นี่คือข้อดีของเค้าที่เราโอเคค่ะ ตามที่หลายคนถามว่า ทำไมเราถึงรักเค้า ทำไมถึงยังคบได้ ก็เพราะความพอดีกันในหลาย ๆ เรื่อง เค้ายอมที่จะปรับบางอย่างให้เรา นึกถึงสิ่งเหล่านี้แล้วทำให้เราให้โอกาสความสัมพันธ์ของเราค่ะ แต่ ในขณะเดียวกัน ก็อย่างที่เราเล่าไปค่ะ ทุกอย่างเราต้องเอ่ยปาก บางสถานการณ์ เคยรอให้เค้าพูดเอง คิดเอง offer อะไรให้เราบ้าง ก็เงียบ ไร้วี่แวว อย่างวันเกิดเราปีที่แล้ว เราก็เอ่ยปากชวนกินข้าวเอง ปีนี้เราเงียบ เค้าก็เงียบ อย่างเวลาที่เค้าว่าง แต่เราไปทำงาน ไม่ได้เอารถไป เค้าก็ไม่เคยแบบว่า ไปรับมั้ย เราเป็นผู้หญิงที่ช่วยเหลือตัวเองได้มากอยู่ แต่ก็อยากมีโมเมนท์เล็ก ๆ บ้าง แต่เค้าจะประมาณว่า ขี้เกียจ กลับเองได้ก็กลับสิ ไปไหนเองได้ก็ไปสิ แม้แต่ไปซ่อมรถ เรายังต้องไปเอง เอาเรื่องใหญ่ ๆ บ้าง เราไป รพ หมอตรวจพบว่ามีก้อนในรังไข่ ไม่รู้ว่าเป็นเนื้อหรือเป็นน้ำ แต่ขนาดใหญ่สามก้อน เราโทรบอกเค้าว่า เราอยู่ รพ เค้าเองก็อยู่ใกล้ ๆ แล้วเราก็นัดกันไว้ตอนเย็น ถ้าเป็นเรา เราคงรีบขับรถมาหาแล้ว มาอยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจ แต่เค้าไม่ แล้วก็ไม่ถามว่า เราเป็นอะไรยังไง รอให้เราเล่าเอง บ้านเค้าอยู่ ตจว ทางบ้านมีโนทิสมาว่า อยากให้กลับไปอยู่บ้าน จริง ๆ ภายในสิ้นปีนี้ เราถามเค้ามาตั้งแต่ปีที่แล้วมว่า มีแผนหรือยัง จะเอายังไงดี จะทำยังไงกับเรา วางแผนเผื่อเรามั้ย เสนอมา มาคิดกัน เค้าก็ว่ายังไม่มี เร็ว ๆ นี้ เราถามเค้าอีก เค้าว่า อาจจะอยู่ต่อสักถึงสิ้นปีหน้า (อ้าว แผนเปลี่ยน ถ้าเราไม่ถาม คงไม่รู้) แต่ปีหน้าก็ใช่ว่านาน น่าจะคิดอะไรกันไว้นะ แต่เค้าก็ไม่ เคยถามว่าถ้าเค้ากลับไป จะมาหาเราได้บ่อยแค่ไหน (ขับรถประมาณสองสามชัวโมง) เค้าเองก็ตอบไม่ได้ แต่เราคิดไปแล้วล่ะว่า คนอย่างเค้า ถ้าเราไม่ขอให้มา ก็คงไม่มา หรือไม่เราก็ต้องไปหาเอง บางสถานการณ์ ที่เราอยากให้เค้าได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าเค้ามีความคิดที่อยากจะทำอะไรให้เรา แต่เค้าก็ไม่ทำ ไม่พูด เราเคยถามว่า เคยคิดอยากทำ อยากพูด อะไรดี ๆ อยากช่วยเหลืออะไรเรามั้ย เค้าบอกว่าคิด แต่...ไม่ได้ทำ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เวลาที่เราอยากได้กำลังใจ อยากได้ความคิดเห็น เค้าก็มักจะบอกว่า ไม่รู้ ถามไปถามมา เค้าบอกว่า เค้าช่วยอะไรเราไม่ได้ เลยไม่อยากยุ่ง แต่สำหรับเรา ถึงแม้จะไม่ได้ให้เค้าช่วยร้อยเปอร์เซนต์ แต่ถ้าเค้ามีเพียงแค่หนึ่ง ที่จะสามารถมาเติมเต็มเราได้ เราก็ยินดี  แต่เค้ามักจะบอกว่า เราเก่งเราทำเองได้ :( เรื่องสุดท้ายที่ทำให้เราคิดมากคือ เราอยู่ด้วยกัน แต่เราไม่มีเรื่องนั้นกันมาเกือบปีแล้ว เราพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรา เค้าว่า ไม่มี  มีคนอื่นเหรอ ก็ไม่มี หมดรักเหรอ เบื่อเหรอ ก็เปล่า เราพยายามหาคำตอบ พยายามแก้ไข รอบแรกเค้าบอกว่า เห็นเราไม่สบายกลัวเจ็บ อีกครั้งบอกว่าเค้าเหนื่อย แต่เราไม่เชื่อทั้งสอง เสาร์อาทิตย์เค้าก็ได้พัก ความรับผิดชอบ ต่องานไม่ได้สูงอะไร กลับมาตอนเย็นมีแรงเล่นเกมส์ เล่นเน็ตถึงดึก เสาร์อาทิตย์ที่กบับบ้านก็ปั่นจักรยานอีก  สรุปแล้วมันเพราะอะไรคะ แต่ก็มีหยอกเอินกันบ้าง เค้าชอบทำทะลึ่งตึงตัง แต่ก็แค่นั้น สรุปคือ เราสับสนกับความรู้สึกตัวเอง และการกระทำของเค้า กำลังเรียบเรียงส่วนหนักส่วนเบาด้วยสติแล้วปรับกันไปเรื่อย ๆ เพราะความรักคือการให้โอกาสกัน พยุงกันไป หรือ จะหยุดทุกอย่าง เราเองนี่ไม่ใช่รักครั้งแรก เราเคยเดินออกมาจากชีวิตคนถึงสองคน โดยที่ก็คบกันมาหลายปี โดยที่เราไม่ได้เสียดายเวลาและความรู้สึกเลย เพราะเรารู้ว่าเราสมควรที่จะออกมา แต่สำหรับครั้งนี้ มันมีอะไรรั้งเราไว้ หรือว่ามันยังไม่ถึงจุดหมดรักหมดเยื่อใย ซึ่งเราเองก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 09:43:15 จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 09:40:37

ความคิดเห็นที่ 9 มีคำถามว่า แล้วตอนจีบกัน เค้าเป็นแบบนี้มั้ย เค้าก็เป็นคนเฉย ๆ ค่ะ ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่ก็แอบมีหวานบ้างเล็ก ๆ ให้ยิ้มได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเลย เคยส่งข้อความ เคยบอกรักบอกคิดถึง เดี๋ยวนี้ต้องถามเอาเอง เรื่องที่เค้าไม่ค่อยเทคแคร์ ก็เป็นมาอยู่ก่อน แต่ไม่มากขนาดนี้ เดี๋ยวนี้ต้องพูดต้องขอกัน ขอมาก ๆ ก็สมเพชตัวเอง เราเข้าใจนะว่าเค้าเทคแคร์ไม่เป็น สังเกตจากไม่ว่าจะอยู่กับใคร อย่างเห็นป้าถือของหนัก ๆ มา เป็นเราจะวิ่งเข้าไปช่วยแล้ว แต่เป็นเค้า จะเก้ ๆ กัง ๆ ไปดีไม่ไปดี ต้องผลักต้องดันเข้าไป สุดท้ายป้าถึงที่หมายแล้ว คือ จิตใจดี แต่ไม่มีแอคชั่น สรุปคือ เรารับได้ที่เคยเป็นคนเฉย ๆ ตอนนั้นค่ะ แต่ตอนนี้อาการหนักกว่าเก่า ปฏิสัมพันธ์ทางด้านอื่น เช่น การพูดคุย การเล่าสู่กันฟัง มีเรื่องโจ๊กมาเล่า เรื่องที่ได้ไปเจอมาเยอะขึ้น สนิทกันมากขึ้น เล่นหัวกันมากขึ้น แต่ความเอาใจใส่ลดลง เราแอบคิดว่า ถ้าให้เค้าเอาใจใส่เรามากขึ้น อีกด้านของเค้าจะลดลงมั้ย เหมือนน้ำเต็มแก้วแบบที่บอกไปค่ะ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:04:00

ความคิดเห็นที่ 10 วันเกิดคุณ ถ้าคุณไม่เป็นคนเอ่ยปาก เค้าก็จะไม่สนใจ.. ทีสำคัญสุดคือ เวลาที่คุณไม่สบาย เวลาที่คุณป่วย เขาไม่คิดแม้แต่จะเอ่ยปากถาม ว่าคุณเป็นยังไง ซีเรียส์แค่ไหน.. คุณบอกว่า หนึ่งในข้อดีของเขาคือ เขาปรับตัวเองทุกครั้งเพื่อคุณ แต่ในความเป็นจริงจากมุมมองของผมคือ เขาก็ทำเฉพาะทุกๆครั้งที่คุณต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปาก.ขอ.. ภาพที่เห็นคือ เหมือนคุณแคร์เขา มากกว่าที่เขาแคร์คุณอยู่นะครับ คุณให้เขาเต็มร้อย แล้วลองถามตัวเองดูบ้างครับ ลองให้คะแนนเค้าดูว่า เขาให้คุณกลับ ถึงครึ่งกับที่คุณให้เขาไปบ้างหรือปล่าว ช่วงเอาใจแรกๆ สมัยจีบกันใหม่ เป็นแฟนกันใหม่ๆ เป็นเรื่องปกติครับ ที่จะเรียกว่าช่วงโปรโมชั่น แต่หลังจากหมดโปรโมชั่นแล้วนั่นแหละ คือตัวตนจริง เสียงจริง ความรู้สึกจริง ความดีจริง รวมไปถึงความเห็นแก่ตัวจริง ดูให้ดีดีครับ ว่าเขาคบคุณเอาไว้แค่แก้เหงาหรือปล่าว ที่สำคัญอีกอันคือ ดูให้ละเอียดครับ ว่าที่เขาคบคุณนั้น เพราะเขากำลังใช้คุณเป็นร่างทรงเพื่อมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไปจากแฟนเก่าของเขา แค่นั้นเองหรือปล่าว ถ้าคุณคือน้องสาวผม หมอนี่ไม่ผ่าน ผมให้สอบตกทันที ตั้งแต่นาทีที่คุณป่วยแล้วเค้าไม่สนใจคุณ แล้วครับ จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:23:34 A:58.9.65.86 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาให้กำลังใจ คนหัวอกเดียวกันค่ะ  ยิ่งเล่ายิ่งเหมือนกันค่ะ เราก็นิสัยคล้ายๆ จขกท ส่วนแฟนเราก็เหมือนแฟนคุณมากๆเลยค่ะ เผ่าพันธ์นี้มีอยู่จริงเนอะ ^^ จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 10:58:08

ความคิดเห็นที่ 12 อืมมมมม................................ อ่านแล้ว คล้ายๆเรา แต่ต่างกันตรงที่ เค้าบอกว่ารัก แต่การกระทำสวนทาง อาการก้เหมือนจขกท.คะ สุดท้าย เราขอเลิก T.T แต่ก็ดันกลับไปง้อเค้า เกือบ สองเดือน จนเราเกือบโดนฉุด แต่เค้าพูดแค่ "อืม....." เราเลยถอย และไม่กลับไปง้ออีก >.< จากคุณ : อัจฉสวัสดิ์ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 11:08:23

ความคิดเห็นที่ 13 *** นึกถึงเพลงนี้ *** จากคุณ : สมาชิกหน้าเหลือง เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:28:38

ความคิดเห็นที่ 14 เวลาที่เราบอกเรื่องเราน้อยใจ สิ่งที่เราอยากได้ยิน คือ เค้าไม่ได้ตั้งใจ จะทำให้ดีกว่าเดิม หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น แต่ในความเป็นจริง คือ ความเงียบ เราเหมือนบ้าที่พูดคนเดียว จะมีบ้างก็คือ ยกเอาเหตุผลต่างๆ นานานมาเถียงเรา แต่เค้าจะรู้มั้ยว่านี่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก เวลาที่เรารู้สึกแย่มาก ๆ ผ่านไปสักแป๊บเค้าจะมาง้อด้วยการกอด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่สิ่งที่เราสัมผัสได้จากตรงนั้นคือ เหมือนเค้าจะรู้ว่าเรากำลังจะไป กอดของเค้าบอกเราว่า อย่าไปไหนนะ แต่เราอยากเปลี่ยนสิ่งนั้น เป็นการกระทำที่สมำ่เสมอมากกว่า อย่ามาทำในวันที่ใกล้จะเสียไป จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:57:51

ความคิดเห็นที่ 15 อีกอย่างคือ นิสัยเค้าเป็นคนเงียบ คุณอย่าคาดหวังแล้วเอามาตรฐานตัวเองมาตัดสิน แล้วจากที่อ่านมาทั้งหมดพบว่าเค้าเสมอต้น ปลายดี แถมยังทำเพื่อคุณมากมาย เป็นคนดี แต่ความรักของ จขกท กลับสั่นคลอน จริง ๆ แล้วคุณต้องการอะไรกันแน่ จำไว้ ไม่มีใครดี 100% คุณเลือกเค้ามาแล้วคุณก็ช่วยกันสิ คุณพูดเหมือนความดีของเค้ายังไม่พออีก จากคุณ : Xxx (msonline1234) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 14:34:07

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ msoline1234 เราถึงบอกว่าเรากำลังสับสนค่ะ เค้าเป็นคนดีสำหรับเรา มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น ทำให้เราเกือบจะเลิก แต้ก็ไม่เลิก ก็เพราะความดีของเค้าค่ะ เพราะเราคิดว่าทุกคนผิดพลาดกันได้ เราเองไม่พลาดวันนี้ ก็อาจจะพลาดวันหน้า และก็อยากจะให้เค้าอภัยให้เรา เหมือนกัน ยอมรับนะคะว่าเราคาดหวัง ไม่ได้อยากให้เค้ามาหวานฉ่ำ หรือพูดอะไรมากมาย แค่เวลาที่เราเข้าใจผิดกัน หรือเวลาที่เราต้องการคำอธิบายในสิ่งที่เค้าเป็น อยากให้เค้าบอกให้เราได้รู้บ้างว่าคิดอะไรอยู่ ไม่ต้องเป็นคำพูดที่สวยหรู แค่หันหน้าคุยกันว่าสิ่งที่เค้าเป็นอยู่นี้ คืออะไร จะรักต่อ จะเลิกลา รัก แต่แสดงออกไม่เป็น หรือ อยู่กันไปเพราะเหงา อะไรก็ว่ามาค่ะ เรารับได้หมด แต่เป็นอยู่แบบตอนนี้มัน อึน ๆ เหมือนรักก็รักได้ไม่เต็มที่ ละให้เลิกไปมันก็ไม่เคลียร์ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 15:00:52

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วเหนื่อยแทนเนอะ ,,, จากคุณ : น้องหนูตัวเล็กตัวน้อย เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 17:10:51

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือนกำลังจะเดินหลงไปเจอคนเผ่าพันธุ์นี้ ตะหงิดๆ =_=' จากคุณ : bameegyo เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 20:01:19

ความคิดเห็นที่ 19 เหมือนอ่านเรื่องตัวเองอยู่ชัดๆเลย  สงสัยเผ่าพันธุ์นี้มีอยู่จริงๆค่ะ เราเข้าใจความรู้สึกของ จขกท มากๆนะคะ  เพราะตอนนี้เราก็กำลังเผชิญอยู่ แฟนเราก็แบบนี้ นิ่งๆเฉยๆ ไม่หวาน เราสัมผัสความรู้สึกจากเค้าไมได้ ว่าเค้าคิดยังไง แต่มันก็มีข้อดีมาหักล้าง  เค้าก็ยังโทรหาทุกวัน  แม้จะคุยกันไม่นานเหมือนเมื่อก่อน ยังชอบชวนไปเดินช้อปปิ้ง พาไปร้านอาหารที่เราอยากกิน (แต่ก็ไม่บ่อย) อยู่ด้วยกันมันก็ดีทุกที  แต่พอไม่ได้เจอกัน เหมือนความรู้สึกๆค่อยๆห่างออกไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ  ตอนนี้เราเลยพยายาม(สุดๆ) ที่จะไม่คิดมาก ไม่ระแวง เชื่อใจ นิ่งให้เยอะขึ้น  อาไรจะเกิดก็ต้องเกิดค่ะ สู้ๆๆค่ะ จากคุณ : Poon_hOnG เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 00:44:23

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องให้เค้าฟัง if tomorrow never come ซะแล้ว แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 11:35:11 จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:44:31

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนของเรา พยายามมากๆที่จะคิดบวกค่ะ แต่มันยากมากนะคะ ไอ่การอยู่กับความเย็นชาแบบนี้ พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยไหวอยู่ดี บางทีแอบบ่นเล่นๆกับเพื่อนว่า แฟนชั้นมันเหมาะกับการฝากชีวิตไว้ แต่ไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่ด้วยอะ จากคุณ : JaE-Ny ThE PiG เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:47:11

ความคิดเห็นที่ 22 สรุปว่าเราคงห่างกันไปค่ะ คุยกันแล้ว เค้าเองก็รู้สึกว่าอะไร ๆ มันไม่เหมือนเดิม เราเองก็รู้สึกมานานแล้ว เค้าเองก็รู้สึก แต่ไม่บอกเราแค่นั้นเอง ก็ดีค่ะ ที่ต่างคนต่างเผยความรู้สึกตัวเอง อะไรจะได้ดีขึ้น แต่ เราว่า เรารู้คำตอบตอนจบแล้วล่ะ ตอนนี้ก็ฝืนยิ้มทั้งน้ำตาไป ไม่อยากจบแบบไม่ดีค่ะ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 21:39:45

ความคิดเห็นที่ 23 โอเคหรือปล่าวคุณ UnidentifiedD~GirL ในแง่สภาพจิตใจของคุณ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ ้ใช้เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนให้บ่อยๆ หากิจกรรมอะไรใหม่ๆทำให้แยะๆนะครับ แล้วน่าจะดีขึ้นในเร็ววัน จากคุณ : G เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 22:56:29 A:115.87.135.198 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณค่ะคุณ G สภาพตอนนี้เหมือนคนบ้าค่ะ เดี๋ยวร้อง เดี๋ยวเลิก เดี๋ยวก็ฟุ้งซ่าน รู้สึกตัวก็ขจัดมันทิ้งไปให้ว่างเปล่า ก็คุยกับเพื่อนสนิทค่ะ แต่คงไม่อยากเจอใครตอนนี้ ส่วนกับเค้า ก็ยังไม่จบซะทีเดียว แต่แค่ห่างกันไปก่อน ก็ไม่รู้ว่าเราจะเสียใจทำไม คงเป็นเพราะตั้งใจมากกับครั้งนี้ คิดมาตลอดว่ามันดี ไม่อยากให้เป็นเหมือนครั้งก่อน ๆ แต่อะไรจะเกิดก็ต้องทำใจค่ะ แค่เสียศูนย์ไปสักพัก โดนหนัก ๆ มาเยอะ รักครั้งต่อไป มันก็คงเป็นแบบพิการ ๆ มั้งคะ จากคุณ : UnidentifiedD~GirL เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 11:28:27

ความคิดเห็นที่ 25 พยายามเข้มเแข็งนะครับ เอาใจช่วย ขอให้ผ่านวันอันแสนย่ำแย่เหล่านี้ไปให้ได้โดยเร็ววัน จากคุณ : G เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 14:53:54 A:58.9.98.60 X: TicketID:070157

ความคิดเห็นที่ 26 ตามมาจากกระทู้ที่แล้ว ตามมาเป็นกำลังใจให้ค่ะ ในฐานะคนที่เจอมาคล้ายๆ กัน เหอะๆ  ที่เราลองทำตอนนี้คือลองไปไหนแบบไม่มีเค้าดู ล่าสุดเราเพิ่งไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อน โดยไม่ได้ชวนเค้าค่ะ ปรากฏว่าพอใกล้วันเค้ากลับมาชวนเราไปเที่ยว และดันเป็นจังหวัดเดียวกับที่เราจะไปกับเพื่อนด้วย เราเลยบอกเค้าไปว่าเรานัดจะไปกับเพื่อนแล้ว เค้าก็เลยงอนๆ ไป แต่ระหว่างที่เราไปเที่ยว จากที่เค้าไม่ค่อยจะโทรหาเรา กลายเป็นว่าเค้าโทรมาทุกวันเลยค่ะ ก็เลยใจชื้นขึ้นนิดนึง ล่าสุดวันนี้เค้าก็เป็นคนชวนเราไปทำบุญด้วยกัน ก็ยังดีที่ยังเทคแคร์บ้าง ถือกระเป๋าให้ เอาน้ำมาให้ เราก็คิดซะว่าได้แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ดีกว่าเค้าไม่ทำอะไรเลย ที่เคยบอกว่าเวลาไปไหนด้วยกันเค้ามักจะเดินเร็วๆ นำหน้าอยู่คนเดียว วันนี้เราเลยทำบ้างค่ะ เดินเร็วๆ นำหน้าแบบไม่สนใจเค้า กลายเป็นว่าเค้าก็จะรีบๆ เดินมาเดินข้างๆ เราแทน ไปเวียนเทียนเราก็เดินแบบไม่ดูเค้าเลย ก็เพิ่งมาเห็นว่าเค้าก็พยายามเดินตามมาให้ติดๆ กับเรา แต่มันก็มีเหตุการณ์เหมือนเดิมนะที่เค้าเดินนำหน้าไปแบบไม่สนใจเรา คราวนี้เราก็จะหยุดเดินเลยค่ะ แล้วสักพักก็จะเห็นอีตานี่ยืนรออยู่ลิบๆ (แต่ไม่มีการเดินกลับมาหานะ - -") สงสัยคราวหน้าคงต้องแอบไปซ่อนตัวอยู่ตามซอกตามหลืบละ ดูซิว่าจะตามหาชั้นมั้ย !!! จากคุณ : แมวน้ำตัวเล็ก เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 21:42:55