ฝากขึ้นกระทู้แนะนำครับ ตุ๋นทองที่อำเภอท่าชนะ มีคนโดนเเล้วหลายสิบราย
|
 |
คดีฉ้อโกงประชาชนหลอกลวงทำสัญญานำทองคำมาลงทุน เหตุการณ์เกิดขึ้นที่อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีผู้เสียหายนับสิบรายเข้าแจ้งความต่อร้อยเวรเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2555 เรื่องโดนหลอกลวงจากนายธนัท อินทร์งาม (หมายจับเลขที่ 64/2555 ศาลจังหวัดไชยา) ความเสียหายหลายล้านบาท โดยนายธนัทมีวิธีหลอกลวงผู้เสียหาย ดังนี้
1. หลอกลวงลงทุนในหนังสือสัญญาทองคำ นายธนัทหลอกลวงว่าเป็นหุ้นส่วนของร้านทองเฮียบเฮงหลี 2 และทางร้านแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนหาคนมาร่วมลงทุนในทองคำในราคาเพียงบาทละ 20,000 บาท ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับเงินปันผลจำนวนมากเช่น ถ้าลงทุน เป็นจำนวนเงิน 120,500 บาท ก็จะได้รับเงินปันผลแรกเข้าทันที 10,000 บาท+ทองรูปพรรณ 1 บาท หลังจากนั้นรับปันผลทุกเดือนอีก 6 เดือน และเดือนสุดท้ายรับเงินปันผลพิเศษ 30,000 บาท + เงินต้น 120,500 บาท (หรือรับเป็นทองคำแท่ง 6 บาท)โดยเซ็นเช็คของธนาคารไทยพาณิชย์ไว้ให้ล่วงหน้าตลอดสัญญา
2. หลอกลวงลงทุนในกองทุนของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี นายธนัทแอบอ้างว่ารู้จักคนสนิทของ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีซึ่งพระองค์ทรงต้องการระดมเงินทุนเพื่อนำเงินไปซื้อที่ในจังหวัดภูเก็ตเพื่อเก็งกำไร ซึ่งจะได้กำไรจากการซื้อขายที่ดินในครั้งนี้เป็นเงินจำนวนมาก ผู้ร่วมลงทุนจะได้เงินปันผลเหมือนลงทุนในสัญญาทองคำและได้เข้าเฝ้าพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีด้วย มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้วจำนวน 10 ราย
1. นางสาวเซียมง้อ แซ่เจีย จำนวนเงิน 1,000,000บาท 2. นางสาวอนุรัตน์ กัลปนายุทธ จำนวนเงิน 400,000 บาท 3. นางปัทมาพร พิริเยศยางกูร จำนวนเงิน 400,000 บาท 4. นายอรุณ ประสงค์จินดา จำนวนเงิน 160,000 บาท 5. นางเกศินี ศรีมหาดไทย จำนวนเงิน 100,000 บาท 6. นายอนวัฒน์ รัตนอมตกุล จำนวนเงิน 250,000 บาท 7. นางสาววรัติญา มีแก้ว จำนวนเงิน 120,500 บาท 8. นางสาวพรรณนีย์ หวัดสนิท จำนวนเงิน 250,000 บาท 9. นายนิธิทรรศ ปันส่งเสริม จำนวนเงิน 50,000 บาท 10. นางสาวอริยา หมันหลิน จำนวนเงิน 50,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีกนับสิบรายที่โดนนายธนัทหลอก และยังไม่ได้เข้าแจ้งความ เช่นถูกนายธนัทโกงแชร์ หลอกเอาทองคำของผู้เสียหายไป และนายธนัทยังถูกแจ้งความในคดีเช็คเด้งด้วย !! คดีไม่คืบหน้า ตำรวจไม่ให้ความสนใจ!! เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน2555 ผู้เสียหายได้เข้าไปพบตำรวจที่ สภอ. ท่าชนะเพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีกลับถูกตำรวจแสดงความไม่พอใจและบอกว่าผมไม่รู้หรอกว่าผู้ต้องหาไปอยู่ไหน ไว้ถ้าจับตัวได้ค่อยมาแล้วกัน และยังบอกให้ผู้เสียหายกลับไปลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซะ แล้วค่อยกลับมาให้ปากคำทีหลัง ก็แล้วกัน ในเมื่อตำรวจท้องที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ ผู้เสียหายจึงเห็นว่าคงมีทางเดียวคือต้องการให้ออกข่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์เพื่อไม่ให้คนอื่นโดนหลอกแบบเดียวกันนี้ และหวังว่าจะมีพลเมืองดีที่พบเห็นผู้ต้องหาจะได้ให้เบาะแสเพื่อจับกุมคนร้ายต่อไป
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 08:10:01
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 55 08:09:38
จากคุณ |
:
โยชิซึเนะ
|
เขียนเมื่อ |
:
11 มิ.ย. 55 08:09:07
|
|
|
|