Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปราบ เลาหะโรจนพันธ์ : เรื่องเสียดาย 3 เรื่องในช่วงรับปริญญา ติดต่อทีมงาน

(หมายเหตุ: ผู้เขียนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรควบบริหารธุรกิจ (การจัดการแบบบูรณาการ) และวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)


เห็นช่วงนี้รุ่นพี่ทยอยรับปริญญากัน บ้างก็ถ่ายรูปกันสนุกสนาน



เห็นแล้วอดร่วมยินดีอยู่ในใจลึกๆ ไม่ได้



มันคงเป็นเส้นทางที่ยาวนานเหลือกันนับตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรี 



ที่เราได้เติบโตร่วมกันใน "พื้นที่ปลอดภัย" 

ก่อนจะถึงเวลาไปเรียนรู้กันต่อในโลกแห่งความเป็นจริง



ที่ไม่ได้มีโอกาสล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ได้ง่ายๆ เหมือนตอนนี้



อย่างไรก็ตาม
ตัวผมเองที่เหลือเวลาอีกไม่ถึงปีในชีวิตการเป็นนักศึกษา


ก็เริ่มได้คิดอะไรบ้างอย่างเกี่ยวกับตัวเอง ว่าหากเมื่อถึงเวลาไปอยู่ตรงนั้น
เราจะรู้สึกอย่างไร

แต่คำตอบที่ได้ กลับเป็น "เรื่องเสียดาย 3 เรื่องในช่วงรับปริญญา" 
ที่คิดล่วงหน้าแล้วยังไงก็หนีไม่พ้น 
(แต่อยากเล่าสู่กันฟังครับ)


-------------



..ข้อหนึ่ง
หากผมไปรับปริญญา มีน้องๆ มาบูมแสดงความยินดีแล้วยื่นกล่องบริจาคให้ผม
ผมจะดูใจดำมั้ยหากผมไม่มีซองเงินเผื่อติดตัวไว้ให้


น้องๆ เขาจะนินทาเรามั้ยว่าเรางกหรือใจดำ?

 ผมไม่ได้งก
แต่ผมก็ไม่ได้รวย



เพียงแต่ผมไม่มั่นใจว่าเงินที่ให้ไปมันจะถูกใช้อย่างที่มันควรถูกใช้



ในตอนปีหนึ่ง 
ผมวิ่งเข้าไปล้อมรุ่นพี่ที่ใส่ชุดครุยคณะบัญชีร่วมกับทีมเชียร์ลีดเดอร์ 
แล้วเต้นเพลงบูมคณะล้อมรอบตัวเขา 



เขายื่นซองเงินมาให้



ต่อมาเงินเหล่านี้ถูกใช้ไปกับชุดเชียร์ลีดเดอร์ของผม
ส่วนกลุ่มอื่นๆ บ้างถูกใช้ไปกับงานสังสรรค์ในโรงแรม
กิจกรรมแสงสีเสียงเพื่อความบันเทิงกันเองในหมู่คณะ



ผมกำลังคิดต่อว่าจริงๆแล้วผมยินดีกับพวกพี่เขาหรือเปล่า
หรือเพียงเพราะต้องการเงิน 
ที่รุ่นพี่ (ซึ่งยังเรียนอยู่) บอกเราว่าเราต้องการมันเท่านั้น



เงินคงมีคุณค่ากว่านี้หากมันอยู่ในมือของคนที่ต้องการจริงๆ 
อย่างน้อยที่สุด มันคงมีค่ากว่าหากเงินเหล่านี้ไปอยู่ในกระเป๋าพี่ที่เรียนจบ (หรือพ่อแม่ของเขา)

 ไว้ตั้งตัวเขาเอง ในวันที่เริ่มใช้ชีวิตนอกรั้วมหาวิทยาลัย



แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายเสียแล้ว หากย้อนเวลาไปคงไม่ทำอีก
และเมื่อถึงเวลาที่เราต้องเป็นผู้ถูกล้อมบ้าง
คงมีทางเลือกเพียงแค่ไม่ไปงานรับปริญญา 
หรือไปหลบอยู่ในมุมแคบๆ เพื่อถ่ายรูปกันเองเป็นการภายในเท่านั้น



..ข้อสอง
ผมเสียดายที่ไม่ได้ "ใส่รองเท้าเตะ" เข้ารับปริญญาครับ



เห็นบัณฑิตของ Harvard ใส่ไปกว่าครึ่ง 
มหาวิทยาลัยชั้นนำเขาทำอย่างนี้ ผมก็อยากทำบ้าง



ชุดครุยของเรามันศักดิ์สิทธิ์หรือสำคัญแค่ไหนกันเชียวเมื่อเทียบกับประสบการณ์ตลอดการเป็นนักศึกษาของเรา



ประสบการณ์หนึ่งให้บทเรียนที่มีค่ายิ่งกับผม 
ว่ามันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องมาตลอด
ที่เราถูกสอนว่า "เรียนสูงๆ นะ จะได้มาเป็นเจ้าคนนายคน" 

มีคนหนึ่งพูดไว้ และสอนผมใหม่ว่า
 "เรียนสูงๆ นะ จะได้จบมารับใช้ประชาชน" 

ฉะนั้นต้องร้องเท้าแตะครับ ไม่ใช่รองเท้าหนัง (ฮาาาา)



..และข้อสุดท้าย
เมื่อวัฒนธรรมการเรียนจบของบ้านเราหยุดอยู่ที่งาน 

"รับฯ ปริญญาบัตร" 

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเหลือเกินที่ในห้วงแห่งความยินดีของพิธีจบการศึกษา



ผมจะไม่มีโอกาสได้ฟังสุนทรพจน์จาก idol ของเรา หรือคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ในสังคมของเรา

 ผมอยากฟังคุณตัน 
อยากฟังคุณโน้ส อุดม 
อยากฟังเสี่ยธนินท์
ฯลฯ



มันคงเป็นคำกล่าวซึ่งกลั่นจากประสบการณ์อันมีค่าที่สุด



จากสามัญชนที่ปากกัดตีนถีบก่อนจะประสบความสำเร็จในสังคมข้างนอกนั่น 
นอกรั้วมหาลัยนั้น



ถึงว่าที่บัณฑิตที่ปากอาจโดนถีบ ตีนอาจโดนกัด



ก่อนจะรู้ตัวเมื่อสาย



ว่าวัฒนธรรมการเรียนจบของเรา
ไม่ได้ทำให้เรา "พร้อม" เผชิญโลกภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียว



ขอแสดงความยินดีพี่ๆ ที่รักทุกคน 


น้องๆ คิดถึง


ไว้พบกันปีหน้า (ถ้าจบ) ที่ "โลกอันโหดร้าย แต่เป็นความจริง"


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1341706920&grpid=&catid=02&subcatid=0200

เอาพอดีๆ อย่าใช้จ่ายให้ฟุ่มเฟือย เก็บตังค์ไว้สู้ชีวิตวันหน้าดีกว่า

จากคุณ : หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:01:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com