4.คบเพื่อนที่เรียนเก่ง เพื่อนที่ขยันทำงานหรือแฟนที่ชวนกันเรียน ถ้าเรามีเพื่อนที่เรียนเก่งเราสามารถถามปัญหาที่เราสงสัยหรือชวนกันคุยเกี่ยวกับเรื่องเรียนได้ ส่วนเพื่อนที่ขยันทำงานจะช่วยเตือนให้ทำงานส่งอยู่เสมอ เวลาทำงานกลุ่มก็ช่วยกันทำงาน งานที่ทำก็จะเสร็จเร็วและมีคุณภาพ
5.เวลาเรียนหากไม่เข้าใจให้ถามอาจารย์ในห้องได้เลย ไม่ต้องอายเพื่อนกลัวว่าตัวเองจะโชว์โง่ ให้คิดว่า เราโง่ในวันนี้เราจะฉลาดในวันหน้าเพราะว่าเราขี้สงวัย แต่ถ้ามีคำถามจำนวนมากก็แบ่งออกมาถามหลังเลิกคาบเรียนก็ได้ ถ้าถามบ่อยเกินไปอาจารย์จะไม่ได้สอนเนื้อหากันพอดีแถมเพื่อนๆจะรำคาญและเกลียดขี้หน้าเราด้วย
6.ในช่วงก่อนสอบ 1-2 สัปดาห์ให้อ่านเนื้อหาทั้งหมดอีกครั้งแล้วทำสรุป จะสรุปเป็นข้อๆหรือเป็นแผนผังความคิด(Mind Mapping)หรือจดเป็นสีๆก็ได้แล้วแต่ถนัด ห้ามอ่านทั้งคืนก่อนสอบเพราะจะเกิดผลเสียต่อร่างกายและสุขภาพของสมองในระยะยาว นำสรุปมาทบทวนและท่องจำได้ถึงสี่ทุ่มเท่านั้นหรือจะตื่นมาทบทวนตอนเช้าก็ได้ ก่อนสอบอย่ากินอาหารหนักมากเกินไป ควรเน้นอาหารที่เผาผลาญได้เร็วจำพวกคาร์โบไฮเดรตเช่น น้ำตาล น้ำหวาน ผลไม้
เทคนิคการคิด
เทคนิคนี้เป็นเทคนิคสำคัญที่ต้องทำควบคู่ไปกับเทคนิคแรก เราจะเห็นได้ว่าคนที่อ่านหนังสือเยอะๆก็ไม่ได้เรียนเก่งเสมอไป บางครั้งคนอ่านน้อยกว่าก็ทำข้อสอบได้ดีกว่า เพราะเขามีพื้นฐานมาดีหรือเทคนิคการคิดที่ดี หากเขาใช้เทคนิคแรกร่วมด้วยลองคิดดูว่าเขาจะเก่งแค่ไหน
7. เปิดใจ สนใจและเห็นความสำคัญของเนื้อหาที่จะเรียน การเปิดใจจะทำให้เรามีทัศนะคติทางบวกกับการเรียน จะเห็นได้ว่าคนที่ เกลียดวิชาเลขหรืออังกฤษจะไม่มีวันเข้าใจวิชานั้นๆได้เลย เพราะปิดกั้นตัวเองตั้งแต่แรก ให้ลองคิดว่าวิชานี้สำคัญอย่างไร สามารถเอาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร ความสำคัญของวิชามักจะเขียนไว้ในบทที่ 1 ของหนังสือที่หลายๆคนมักมองข้ามไปนั่นแหละครับ ถ้าไม่มีก็ลองถามรุ่นพี่หรืออาจารย์ผู้สอนก็ได้ครับ แต่ว่าบางวิชาก็ไม่สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ เพราะเป็นวิชาพื้นฐานสำหรับต่อยอดวิชาต่อๆไปเช่น วิชาคณิตศาสตร์เบื้องต้น
8.ตั้งข้อสงสัยและขบคิดหาคำตอบในเนื้อหาวิชาเป็นประจำเมื่อมีเวลาว่าง วิธีนี้นักคิดระดับโลกหลายๆคนใช้อย่าง อัลเบิร์ต ไอสไตน์ มักครุ่นคิดอยู่กับแนวคิดกาลอวกาศ เราจะเห็นได้ว่าคนเรียนเก่งบางคนมักจะพูดน้อย เหม่อลอย จริงๆแล้วเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ครับ
หากเรามีเวลาว่างเช่น ทานข้าว นั่งรถเมล์ รถไฟฟ้า ซักผ้าล้างจาน อาบน้ำ ออกกำลังกาย ก็ลองตั้งข้อสงสัยและลองคิดหาคำตอบดู หรือลองใช้คำว่า ถ้า ดูครับเช่น ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ หรือลองกลับสมการปกติย้ายข้างไปมาและลองตีความหมายของสมการนั้นดู หรือลองคิดอะไรแปลกเลยก็ได้เพราะอย่างที่ไอน์สไตน์ว่า จิตนาการสำคัญกว่าความรู้
9.ลองเอาความรู้มาทดลองใช้ในชีวิตประจำวันหรือใช้ในสถานการณ์ต่างๆ วิธีนี้เป็นการฝึกฝนการใช้ความรู้อยู่เสมอ ทำให้เราเชี่ยวชาญถึงแม้จะยากในบางสถานการณ์ ก็ลองปรึกษากับเพื่อนๆ หรืออาจารย์ดูก็ได้