ย้อนไปเมื่อหลายปีที่แล้ว บันไดเลื่อนคนไทยมีใช้กันมานานแต่ส่วนใหญ่นั้น
ก็จะอยู่แต่ในห้างสรรพสินค้าซึ่งแน่นอนเลยว่าคนที่ใช้ก็จะไม่มีความรีบร้อนสักเท่าไร
นอกจากจะไม่ทันรอบหนังที่จองไว้อย่างที่ จขกท ว่า
ส่วนในบันไดเลื่อนในดอนเมือง ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้เดินทางก็จะไม่ทราบกฎนี้นะคะ
เข้าใจว่าคนที่เดินทางในดอนเมือง ด้วยความที่ดอนเมืองมันเล็กเลยไม่ต้องรีบมากก็ทัน ไม่ตกเครื่อง
ต่อมาก็มีสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งใหญ่มาก จำจำเป็นต้องรู้กฎกติกาสากลข้อนี้ค่ะ
และไหนจะเราเริ่มมีรถไฟฟ้่าและ subway ใช้ ยิ่งจำเป็นต้องรู้กฎข้อนี้เลยทันทีนะคะ
เพราะในความเร่งรีบ เพียงแค่ 1 วินาทีก็พลิกชีวิตได้เลยค่ะ
เราว่าไม่แปลกที่ จขกท เค้าจะไม่ทราบกติกาสากลข้อนี้ คนไม่รู้ไม่ผิดนะคะ
อาจจะด้วยธรรมเนียมคนไทย หยวนๆ ไม่ได้เร่งรีบ ทำมาหากินเหมือนคนต่างประเทศ
คนไทยจึงไม่ได้ปฎิบัติกันจนเป็นธรรมเนียมสากล
ไทยเรามีรถไฟฟ้าและ subway มากี่ปีเองคะ แล้วต่างประเทศเค้ามีมากี่ปี
เค้าปลูกฝังกันมานานค่ะ ในขณะที่บ้านเราเพิ่งจะมารณรงค์นะคะ
อีกอย่าง จขกท เองอาจจะยังไม่เคยได้ไปต่างประเทศ จึงไม่ทราบกติกาข้อนี้
มันจำเป็นด้วยหรือคะที่คนเราต้องรู้อะไรๆเท่าๆกันหมด
ถ้ายังงั้นคงไม่ต้องมีครู มีโรงเรียน และมหาวิทยาลัยหรอกนะคะ
ผิดหวังกับหลายคอมเม้นท์ที่ไปว่าเค้าอย่างกับคนเก็บกด แค่เพียงให้เค้ามีความรู้เพิ่ม
เราก็ได้ทั้งบุญและความสุขใจค่ะ
ปล.น้อง จขกท เมื่อก่อนพี่ก็เป็นกะเหรี่ยงค่ะ ยืนขวางทางเค้าใน Subway ที่ฮ่องกง
เพราะไม่ทราบกฎข้อนี้เหมือนกัน แต่อย่างที่บอกค่ะ เค้ามีป้ายบอกชัดเจนว่าให้เราเดินฝั่งไหน
ยืนตรงไหนเลยทำให้เราเข้าใจมากขึ้น เพราะในไทยไม่ค่อยมีป้ายบอกนี่เนอะ
เพิ่งจะมารณรงค์กันมาไม่นานนี่เอง
ยังไงก็ขอชื่นชมน้องที่เข้าใจและยอมรับกฎข้อนี้อย่างดีนะคะ