##### แทบตายกันเลยดีเดียว #####
|
|
เมื่อวานผมนั่งรถตู้กลับบ้านโดยขึ้นเป็นคนสุดท้ายไปนั่งข้างสาวคนหนึ่ง สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเพราะผมรู้สึกมึนหัวมากจากกลิ่นน้ำหอมของสาวผู้นั้น จะว่าหอมก็หอมนะแต่การฉีดเยอะเกินไปคนอาจเข้าใจผิดว่าที่บ้านใช้น้ำหอมอาบน้ำแทนน้ำประปา เหมือนเวลาเราเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวแค่ยืนไกลๆดมกลิ่นหอมจากน้ำซุปก็ชื่นใจแล้ว คงไม่มีใครเอาหัวจุ่มลงไปในหม้อต้มเพื่อดมกลิ่นใกล้ๆหรอกใช่ไหมครับ ไอ้ครั้นจะกลั้นหายใจได้20นาทีเหมือนพะยูนก็ทำไม่ได้ถึงหน้าตาจะคล้ายกันก็เถอะ แต่ด้วยมันสมองระดับ"ดื่มแบรนด์ทุกวันนะครับ"ตามคำพูดของนิชคุณในโฆษณาทำให้ผมเริ่มคิดแก้ปัญหา ขอนอกเรื่องนิด ผมชอบเพลงของนิชคุณมากโหลดจาก4sharedมาฟังประจำ ถ้าเจอครั้งหน้าจะไรท์เพลงลงแผ่นมาขอลายเซ็นนิชคุณซะเลย(ทำตัวแอบเลว 5555) เข้าเรื่องผีป่าซาตานตนใดเข้าสิงมิอาจทราบได้ืทำให้ผมทำเรื่องที่แสนบ้าบอ คือเอานิ้วไปหนีบไว้ที่จั๊กกะแร้และทำการถูสปีดนิ้วเต็มกำลังแขน เมื่อใต้วงแขนเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากแรงเสียดสีสิ่งที่ตามมาคือเหงื่อพร้อมกลิ่น ผมชักนิ้วออกมาเอาไปดมผ่านๆ แหวะจะอ้วกแต่ณ.วินาทีนั้นผมคงคิดได้แต่เพียงว่า กลิ่นจั๊กกะแร้ตัวเองคือกลิ่นที่หอมที่สุดในโลกโดยที่ไม่นับกลิ่นตดที่พยายามเบ่งแล้วแต่ไม่ออก ผมลองหันไปใช้วิธีหายใจทางปาก ฮา ฮืด ฮา ฮืด ฮา รู้สึกทุเรศตัวเองจนต้องหยุดเพราะเสียงเหมือนคนโรคจิตกำลังช่วยตัวเองข้างตู้โทรศัพท์ เมื่อเซลล์ประสาทรับกลิ่นผมเริ่มคุ้นชิิ้นกับกลิ่นน้ำหอมที่ฉุนสุดๆของเธอ ผมเริ่มสงบใจน้ำลายไหลน้อยลง มือหายเย็น ทวารหนักที่เกร็งเริ่มผ่อนคลาย แต่แม่เจ้าพระคุณรุณช่อง!!! กลิ่นน้ำหอมเธอกลับยังไม่ยอมตายง่ายๆเหมือนผีปอบที่ออกฉายมาได้ตั้ง14ภาค คุณเธอทำการสะบัดผมเพื่อสร้างมวลอากาศพัดเอากลิ่นน้ำหอมเข้ามาโจมตีผมอีกครั้ง ผมตัดสินใจให้เซลล์ประสาทรับกลิ่นได้เข้าสู่กระบวนการวิวัฒนาการและนี้คือช่วงเวลาที่น่าจดจำของมวลมนุษยชาติ!!! หลังจากลองให้ร่างกายได้พัฒนาตัวเองไป10นาทีผมก็แทบอ้วกออกมาเป็นทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน มันเป็นเรื่องโง่ๆอีกเรื่องที่ผมคิดเองว่ามนุษย์เราจะสามารถวิวัฒนาการตัวเองได้ผ่านในครึ่งชั่วโมง ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็แทรกเข้ามาในความมืดบนรถตู้ "จอดใต้สะพานลอยหน้าด้วยค่ะ" นั้นคือเสียงของเธอที่ทำให้ผมหลุดจากภวังค์อาการมึนเมาน้ำหอมกลิ่นข้าวคั่วบดของเธอ(ตั้งชื่อกลิ่นเอง) หลังจากเธอลงรถไปผมหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อด้วยความโล่งใจ อ้าว.. มีผ้าเช็ดหน้าอยู่แล้วทำไมไม่หยิบมาใช้ปิดจมูกแต่แรกฟร่ะ พอรถตู้ถึงที่หมายสมองหายมึนท้องก็เริ่มหิวผมออกเดินทางหาซื้อของกิน เดินผ่านร้านหอยทอด เฮ้ย.. ไม่ได้กลิ่นอะไร ไหนลองไปอีกร้านซิก็ไม่ได้กลิ่น เช็ดดดดดด นี้ร่างกายตูมันวิวัฒนาการไปแล้วหรือเซลล์ประสาทรับกลิ่นตูพังกันแน่ฟร่ะเนี๊ย ว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าที่อ่านไปมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อตัวคุณและโลกเลย 5555
จากคุณ |
:
Don't try this at home.
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ต.ค. 55 19:51:50
|
|
|
|