Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
5 กิจกรรมที่ผมไม่อยากทำตอนโสด#1 ติดต่อทีมงาน

ธัมมะ สวัสดีครับ

เป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้วนะครับที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานสมาคมคนโสดแห่งประเทศไทยและประชาคมอาเซียน ซึ่งสมาคมนี้จัดตั้งขึ้นโดยผมเอง มีประธานสมาคมคือผมเอง และมีสมาชิกคนเดียวคือผมเอง ถึงจะเป็นการดำรงตำแหน่งแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่ก็ตั้งใจจะอยู่ให้ครบวาระ ซึ่งวาระในที่นี้คือไม่เกิน 1 ปีนะครับ มีน้องคนนึงถามว่าพี่อุ๊ยจะดำรงตำแหน่งนี้ไปตลอดชีวิตเลยเหรอ อยากจะกระโดดถีบขาคู่ใส่มันมาก ๆ  

วันเวลาของคนโสดมันนี่ผ่านไปเร็วนะ แต่มันจะผ่านไปแบบเทา ๆ ทึม ๆ เรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ แต่ละวันไม่ค่อยมีความหมายไม่มีอะไรให้ลุ้นให้ตื่นเต้นซักเท่าไร ต่างจากตอนมีแฟนที่มันจะมีเรื่องจุ๊ก จิ๊ก กุ๊ก กิ๊ก ยุก ยิก เช่น เวลานั่งทำงานก็อยากให้ถึงตอนเย็นเร็ว ๆ จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน วันธรรมดาก็อยากให้ถึงวันเสาร์อาทิตย์จะได้ไปดูหนังกัน นั่งนับวันให้ถึงมะรืนนี้จะครบรอบ 14 เดือน 9 วันที่เป็นแฟนกัน ฯลฯ แต่พอโสดนี่ชีวิตมันต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ตื่นเช้า ทำงาน กลับบ้าน แทะกวยจี๊ ดูแรงเงากับแม่ นอน ตื่นเช้า ทำงาน กลับบ้าน แทะกวยจี้ ดูแรงเงากับแม่ นอน วนเวียนซ้ำ ๆ ไปแบบนี้ ใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้านทหารบกตอนสามีเข้าเวรมาก ๆ

แต่จะทำยังไงได้ ผู้ชายกลาง ๆ อย่างเราจะไปมีสิทธิเลือกอะไร ไม่ได้หล่อระดับเคน ภูภูมิ อยู่แค่ระดับภูธร สุดแต่กรรมจะนำไปแล้วกัน

เอาล่ะครับ วันนี้ผมจะมาเล่าถึง "5 กิจกรรมที่ผมไม่อยากทำตอนโสด" จะตรงกับหนุ่มสาวโสดท่านใดบ้าง ลองอ่านดูนะครับ

5 กิจกรรมที่ผมไม่อยากทำตอนโสด มีดังนี้



1. ดูหนัง

ผมเป็นคนที่มีความเชื่อที่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง คือเชื่อว่าการดูหนังเป็นกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อคนสองคน ไม่ได้สร้างมาเพื่อเป็นกิจกรรมหมู่ หรือมีไว้ให้ทำเพียงลำพังแต่อย่างใด

ผมเคยไปดูหนังอยู่ที่นึง นั่งอยู่ซักพักก็มีเด็กมัธยมต้น ผู้ชายหัวเกรียน ผู้หญิงผมเตียนถึงติ่งหู เข้ามาประมาณ 40 กว่าคนนั่งเต็มแถวเรียงกันเป็นพืดแล้วก็ส่งเสียงดังเฮฮา ซึ่งผมงงมากว่านี่เมิงมาดูหนังหรือขึ้นแสตนด์เชียร์กีฬาสี มาอะไรกันเยอะแยะขนาดนั้น

ผมว่าไอ้การดูหนังเนี่ย อย่างมากเราก็มีปฏิสัมพันธ์กับสองคนข้าง ๆ เท่านั้นแหละครับ มากันเยอะก็คุยอะไรกันไม่ได้ ไม่รู้จะแห่กันมาทำไม แต่ก็มองในแง่ดีว่าน้องเขาคงมีความสามัคคีกันมาก รักกันประหนึ่งพี่น้องคลานตามกันมา ไม่รักกันจริง ก็คงไม่อยากดูหนังเรื่องเดียวกันหรอก จริงมั้ย

ผมเองเป็นคนไม่ค่อยติดเพื่อนอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยได้ไปดูหนังกับเพื่อนซักเท่าไร จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ดูหนังกับเพื่อนนี่คือตอนสมัยมัธยมเลย ตอนนั้นสอบเสร็จหัวหน้าห้องเลยชวนไปดูหนัง (อ้าว เมิงก็เคยแห่ไปดูหนังทั้งห้องเหมือนกันแหละ ทำเป็นว่าน้องเขา) หลังจากวันนั้นมาก็ไม่เคยดูหนังกับเพื่อน ไปกับแฟนอย่างเดียว การที่ต้องกลับมาเป็นโสดอีกครั้งเลยไม่ค่อยชินเท่าไร การดูหนังเลยเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ผมไม่อยากทำมากที่สุด

แต่ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง หลังจากที่เลิกกับแฟนไม่กี่วัน ผมก็:-)โชคดีได้บัตรดูหนังฟรี แหม่ แล้วก็:-)ได้มา 2 ใบซะด้วย

ตอนแรกกูก็ไม่ฮานะ แต่พอกูฮาเท่านั้นแหละ :-)ฮาเลย

ภาพตัดไปที่ผมยืนอยู่บนดาดฟ้าตึก ชิ้วนิ้วขึ้นฟ้าแล้วร้องตะโกนว่า


"ตอนมีแฟนก็ไม่เคยได้ตั๋วหนังฟรี พอเลิกกันปุ๊บล่ะ:-)โชคดีขึ้นมาเชียว คอยดู ผมจะไม่ไปดูหนังเรื่องนี้เด็ดขาดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"


ตอนแรกผมรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา เลยกะว่าจะไม่ไปเต็มที่ แต่สองสามวันต่อมาก็คิดได้ว่าแทนที่เราจะมัวน้อยใจไร้สาระ เราพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ชวนสาวไปดูดีกว่า!!

หลักแหลมนะเราเนี่ย หลักแหลม

หลังจากที่คิดได้ ผมก็ติดต่อเพื่อนสาวไปประมาณ 10 คน

มันติดธุระทั้ง 10 คน!!

อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น!!

ตอนนั้นเริ่มน้อยใจในโชคชะตาอีกครั้ง เลยตัดสินใจว่าไม่ไปแล้ว วันเวลาผ่านไป จนกระทั่งถึงวันงาน ก็เกิดอยากไปขึ้นมากะทันหัน เลยชวนพี่ที่ออฟฟิศไปดูด้วยกัน

พี่คนนั้นชื่อ "พี่หนู"

อย่าครับ อย่าคิดว่ามันจะมีความรักอะไรเกิดขึ้น ผมนับถือพี่หนูเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่คนนึง การไปดูหนังวันนั้นให้ความรู้สึกเหมือนไปดูคอนเสิร์ตครบรอบ 100 ปีวงสุนทราภรณ์กับแม่

ผมนั่งทอดอาลัยอยู่บนเบาะนิ่ม ๆ ในโรงหนัง แอร์เย็น ๆ ต้องผิวกาย สะท้อนใจว่านี่มันหมดยุครุ่งเรืองของผมแล้วหรือนี่ นายอุ๊ย!! บล็อกเกอร์หน้ามนคนซื่อแห่ง Exteen.com แม้จะไม่ แก่ ใจดี สปอร์ต กทม. แต่ก็ หนุ่ม จน ไม่หล่อ รักจริง

อะไรกัน นี่มันประเทศไทยหรือใบพุทธา อยากจะดูแลใครทำไมมันยากเย็นขนาดนี้

ผมหันไปด้านซ้าย เห็นพี่หนูกำลังส่งสายตาเย้ยหยันมาให้ผม ประมาณว่า หึหึ ในที่สุดเมิงก็ต้องชวนกูมา ผมเลยกระซิบบอกพี่หนูว่า


"พี่หนู เก้าอี้ด้านขวาอุ๊ยยังว่าง ถ้ามีสาวสวยมานั่ง ก็พออนุมานเอาได้ว่ามาดูหนังด้วยกัน เอาวะ ยังมีหวัง ยังมีหวัง"


พี่หนูเปลี่ยนจากสายตาเย้ยหยันเป็นสายตาเอือมระอา




หนึ่งชั่วโมงผ่านไป




เก้าอี้ด้านขวาของผมยังคงว่างเปล่า

มันไม่ได้ว่างธรรมดาด้วย แต่โคตรว่าง

คือเก้าอี้ทั้งแถวมี 24 ตัว ผมนั่งตัวที่ 12 คืออยู่ตรงกลางจอพอดีเด๊ะ แล้วตั้งแต่เก้าอี้ตัวที่ 1 จนถึงเก้าอี้พี่หนูนี่คนแน่นเอี๊ยดดดยังกะมารอจองบัตรคอนเสิร์ต บี้ เดอะสตาร์ แต่พอถัดจากผมไป กลับไม่มีแม้แต่กลุ่มพลังงานให้คุณเจน ญาณทิพย์ ได้ใช้จิตสัมผัสอะไรเลย คือถ้าอย่างน้อยมีเศษป๊อบคอร์นตกอยู่ เราก็ยังรู้สึกดีว่าอย่างน้อยก็ยังมีเศษป๊อบคอร์นอยู่ข้าง ๆ (โอย ชีวิตเมิงรันทดมาก) แต่นี่อะไรว้า แม้แต่คนแปลกหน้าข้าง ๆ ก็ยังไม่มี

โอ้โชคชะตา นี่เมิงจะฮาเกินไปแล้ว

หนังนี่ก็:-)ไม่สนุกอีก ดู ๆ อยู่ก็ตัดจบไป แบบ อ้าว นี่เมิงจบแล้วเหรอ ต้องกลับไปจินตนาการเรื่องราวต่อเองที่บ้าน

การดูหนังครั้งแรกในสถานภาพโสดจบลงอย่างหงอยเหงา

เก้าอี้ข้าง ๆ ก็ยังคงไม่มีใคร

หนังจบ คนไม่จบ

กลับไปดูแรงเงาไม่ทันอีก

หลายเด้งมาก ๆ ชีวิต



2. ไปงานแต่งงาน


ปีนี้เป็นปีที่คนแต่งงานกันเยอะมากกกกกก มีคนรู้จักของผมแต่งงานไปประมาณ 10 กว่าคู่ได้ แต่งงานกันอย่างบ้าคลั่ง แต่งงานกันจ้าละหวั่น แต่งงานกันประหนึ่งสามารถเอาค่าใช้จ่ายจากการแต่งงานไปลดหย่อนภาษีได้

ผมเข้าใจว่าบางคู่ถูกพิษน้ำท่วมเลยเลื่อนมาจากปีที่แล้ว บางคู่ก็อยากมีลูกให้ทันปีมังกรทอง ผมว่าประชากรวัยเด็กปีนี้ต้องโป่งพองขึ้นแน่ ๆ อาจเรียกได้ว่าเป็น baby boom ขนาดย่อม ๆ ได้เลยทีเดียว

การไปร่วมงานแต่งงาน ไอ้เราก็ยินดีกับเพื่อนแหละครับ เพื่อนย่อมดีใจที่เห็นเพื่อนมีความสุข แต่ลึก ๆ ในใจของคนโสด มันแอบเหงานะ

ดูสิ ขนาดเหงายังต้องแอบ ๆ เลย รันทดขนาดไหน

บรรยากาศชื่นมื่น อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก โลกไม่ได้เป็นสีฟ้าเหมือนภาพถ่ายแต่กลับกลายเป็นสีชมพู หนุ่มสาวออดอ้อนออเซาะ ดอกไม้แห่งความหวานโรยไปทั่ว.....ทั่วทั้งหัวใจ

แต่อนิจจา อนิจจัง อนิจซัง อนิจคุง

ดูตัวเราสิ มีแขนถึงสองข้าง ขวา-ซ้าย แต่กลับไม่มีใครควงซักคน

สองมือก็ได้แต่ล้วงกระเป๋า ไม่เหมือนใครเขาที่เค้าจูงมือกัน

เดี๋ยวนะ ผมเริ่มสะอิดสะเอียนกับสำนวนภาษาของผมละ ขอกลับไปเล่าแบบเดิมแล้วกัน

สรุปคือ งานแต่งของเขาแต่เป็นงานเหงาของฉัน จริง ๆ

นอกจากความเหงาในงานแล้ว ภาพ pre wedding เหล่านั้นก็ยังคงตามมาหลอกหลอนแม้แต่ใน Facebook

รูปบ่าวสาวเคียงคู่ใกล้ชิด แนบสนิทยิ่งกว่าแฝดสยามอินจัน กลืนกินกันได้คงกลืนกินกันไปแล้ว

เหลือบไปดูรูป Profile เราบ้าง อนาถาสุด ๆ เมื่อก่อนมันก็เคยเป็นรูปคู่กับคนรู้ใจนะ แต่ตอนนี้ก็เป็นรูปหมารูปแมวห่านอะไรแล้วก็ไม่รู้  

ปีนี้น้ำไม่ท่วม ปีหน้าก็เป็นปีงูเล็กอีก หวังว่างานแต่งงานคงจะบางเบาลงบ้าง

เห็นใจคนโสดอย่างพวกเรามั่งนะ



To be continued


Credit: นายอุ๊ย!!

http://dekwad.exteen.com/20121101/entry

จากคุณ : dekwadjomtalen
เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 55 22:10:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com