***เมื่อ...ตามตะวัน...ไม่ขึ้นรถไฟ (หวังว่าคงไม่ใช่ขบวนสุดท้าย)***

    .......เมื่อสองปีก่อน....หัวใจที่แตกสลายดวงหนึ่ง...กำลังมองหาที่พักพิงซ่อมแซมตัวเองให้หายดี...

    แล้วใครคนหนึ่งก็เข้ามาโดยบังเอิญ.....มาเป็นที่พักพิงและช่วยดูแลเจ้าของหัวใจดวงนั้นให้เข้มแข็ง...

    จากการพูดคุย ปลอบโยนและให้กำลังใจเราตลอดเวลา...
    ทำให้หัวใจที่เศร้าหมองพอจะคลายเศร้าไปได้...เหมือนเค้าเข้ามาจุดไฟกองเล็ก ๆ ให้หัวใจเยียบเย็นอบอุ่น...

    ตอนนั้นยอมรับว่าเค้าเป็นคนหนึ่งที่เหมือนหลักให้เรายืนอยู่ได้ตอนที่เราอ่อนแอ...
    และยอมรับว่าเมื่อเวลาผ่านไปเราก็ "รอ" คำพูดบางคำจากปากเค้า...
    มันอาจจะดูไม่ยุติธรรมแต่มันก็เป็นความจริงที่ว่าความรู้สึกของเราไม่ใช่ "รัก"
    แต่เพราะเราไม่อยากเจ็บและเหน็บหนาวคนเดียวอีกต่อไป..ในเมื่อ.ตอนนั้นเราทั้งหวั่นไหวและอ่อนแอ...
    กับภาพของใครคนนั้นกับแฟนใหม่อยู่ด้วยกันทุกวัน...

    ถึงแม้เค้าจะบอกเราว่าเค้ารู้สึกยังไงกับเราบ้าง..
    .คำหวาน ๆ ที่เค้าโทรบอกเราทุกวัน...ย่อมทำให้เราไหวหวั่นอย่างห้ามไม่ได้...
    แต่เมื่อเราถามว่าเค้าคิดยังไงกับเรากันแน่...
    เค้ากลับบอกเราว่า "ยังไม่ถึงเวลา" และ "เราไว้ใจเค้าพอแล้วหรือ"

    เราก็รู้หรอกว่ามันคงจะเร็วเกินไปที่จะคาดหวังอะไรจากเค้า
    และละอายใจกับความคิดที่จะเพียงหาหลักยึดเพื่อจะยืนหยัดให้ได้
    หรือเพื่อจะแสดงให้ใครอีกคนเห็นว่าฉันไม่ตายถ้าไม่มีเธอ...
    ฉันยังมีความหมายกับใครต่อใครอีกมากมาย...
    มีคนที่เค้าเป็นค่าฉันมากกว่าเธอ...
    ดังนั้น..วันหนึ่งฉันจึงเลิกที่จะคิดอะไรกับเค้ามากไปกว่าเพื่อน...

    อัตราการโทรศัพท์ของเราห่างขึ้น จากทุกวันเป็นวันเว้นวัน
    อาทิตย์ละวันและกลายมาเป็นเดือนละครั้งหรือสองครั้ง..ซึ่งตอนแรกมันก็เหงาบ้างแต่พอเวลาผ่านไป มันก็ไม่มีผลอะไรอีกเพราะเวลาทำให้หัวใจฉันแข็งแรงขึ้นมาก..

    ตอนนี้ฉันเข้มแข็งขึ้น และไม่ได้มองเค้าไปมากกว่าเพื่อนกัน..
    ทุกครั้งที่คุยกันเค้าจะเป็นฝ่ายโทรมา และคุยกันนานๆ
    ฉันดีใจที่เค้ายังคงให้ฉันเป็นที่ปรึกษาเรื่องสำคัญ ๆ ในชีวิต เรื่องงาน เรื่องเรียนต่อ ฯลฯ

    แต่คืนวันก่อนนั้นเค้าเปลี่ยนไปพูดกับเราหวานขึ้นกว่าเดิม.
    .และ.เพราะคำขอบางคำของเค้า ทำให้ฉันตกใจ
    "เราเป็นแฟนกันเถอะ"
    คำพูดที่ฉันเคยอยากได้ยินเมื่อสองปีก่อน หลุดออกมาจากปากเค้า
    คำพูดรบเร้า..พร้อมด้วยเหตุผลมากมายถูกยกขึ้นมา
    ฉันได้แต่รับฟังเฉย ๆ และบอกเค้าไปว่า "ไม่มีทาง"
    พร้อมกับคำถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เธอบ้าไปหรือเปล่า มาบอกอะไรป่านนี้"
    เค้าเงียบไปนานก่อนจะบอกว่า "ถ้าเราถามตั้งแต่ตอนนั้น จะตอบตกลงหรอ เราไม่น่ารอเลย ตอนนี้เราอยากให้ตกลง"
    เราเป็นฝ่ายเงียบไปนานมาก ก่อนจะตอบไปอย่างหนักแน่นว่า "ไม่"

    มันคงไม่ยุติธรรมกับเค้า เมื่อเราสำรวจความรู้สึกของเราแล้วมันไม่ใช่ความรัก..แต่มันเป็นความหวังดีและปรารถนาดีให้เพื่อนมีความสุข..

    "งั้นเราจะรอ.....แล้วจะมาถามใหม่" แล้วเค้าก็วางหูไปอย่างรวดเร็ว...เกินกว่าที่เราจะทันทัดทานเค้าไว้

    คืนนั้นคำถามที่เราตอบเค้าไปแล้ว วนเวียนไปมาอยู่ในหัว...
    ตอนนี้หัวใจเราเข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวแล้ว
    ความสุขของเราก็หาได้ง่าย ๆ จากเพื่อน ๆ รอบข้าง ...

    และ....


    ตอนนี้เราปล่อยให้รถไฟขบวนหนึ่ง วิ่งผ่านหน้าไปแบบเฉียดฉิว.....

    เอาเหอะ หวังว่าคงไม่ใช่ขบวนสุดท้ายน๊ะ...

    อิอิ






    จากคุณ : ตามตะวัน <Follow the sun only> - [ 8 ธ.ค. 46 15:16:12 ]