เรือต่อรถ รถต่อเรือ ช่วยเหลือชาติ


    เปล่าครับ …


    ที่ตั้งกระทู้นี่ผมไม่ได้ว่างอะไรหรอกนะครับ แต่เวลานั่งรอเอกสารนิดๆ หน่อยๆ ก็มาปั่นกระทู้สะสมไว้ทีละบรรทัด สองบรรทัดให้อ่านเล่นๆ กัน ซึ่งด้วยยี่ห้อผมแล้ว รับประกันความยาวครับ




    ความที่ผมทำงานอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองอย่างย่านสีลม-สาทร ก็หลีกเลี่ยงที่จะเป็นขาประจำของรถไฟฟ้ากับเรือด่วนเจ้าพระยาไม่ได้นะครับ คือถ้าทำงานเลิกค่ำ เรือหมดก็ต้องพึ่งรถไฟฟ้าบ้าง บางวันเลิกงานเร็วก็นั่งรถไฟฟ้าไปต่อเรือด่วน ก็แล้วแต่โอกาสละครับ


    สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า คงเคยสังเกตที่ชานชาลานะครับ ว่าเค้าจะมีเส้นเหลือง ที่ห้ามคนล้ำเข้าไป กับแนวปูกระเบื้องสีที่พื้น ซึ่งเวลารถเข้าสถานี ประตูรถก็มักจะหยุดตรงระหว่างกลางแนวกระเบื้องนี้พอดี ประมาณว่าตามมารยาทที่ดี ควรจะยืนข้างๆ แนว รอให้คนในรถก้าวออกมาก่อน แล้วค่อยขึ้นรถ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ที่คนไทยร้อยละ 80 ไม่มีมารยาทแบบที่ว่า จนที่สถานีสยาม ตอนเย็นๆ ต้องมีเจ้าหน้าที่มายืนขวางตรงกลางแนว คอยจัดระเบียบเหมือนเด็กอนุบาลเลย


    แล้วมันก็เหมือนเด็กอนุบาลจริงๆ ครับ คือพอคุณครู (เจ้าหน้าที่) เดินถอยออกจากแนว เด็กอนุบาลก็จะแตกฮือพุ่งเข้าไปที่ประตูเพื่อขึ้นรถทันที คนข้างในจะออกไม่ได้ก็ช่างหัวบิดามัน ขอชั้นเข้าไปก่อนละกัน ทั้งๆ ที่เข้าไปแล้วก็ต้องยืนเหมือนกันนั่นแหละ จะรีบเข้าไปจองเสาเหมาะๆ สำหรับรูดประกอบริงโทนเพลง Cherry Pink หรือไงผมก็ไม่อาจทราบได้


    ทีนี้ผมเลยเกิดความคิดที่จะสรุปรูปแบบการขึ้นรถขึ้นเรือของผู้คนที่ผมพบเห็นบ่อยๆ มาได้ตามธรรมชาติดังนี้ครับ





    พวกผู้รักษาประตู

    พวกนี้ถ้าเปลี่ยนอาชีพไปเล่นฟุตบอล ผมว่าอลัน เชียร์เรอ ยอดศูนย์หน้าที่ว่าแน่ๆ ยังต้องท้อใจครับ ไม่รู้จะผ่านแกไปได้ยังไง เพราะเจาะเข้ายากจริงๆ พวกเค้าจะรักประตูยิ่งชีพ เห็นประตูนี่ไม่ได้เลยครับ ก่อนขึ้นรถก็จะยืนจังก้าขวางประตูแบบไม่ยอมให้บอลหรือใครผ่านเข้าไปได้ก่อนเค้าอย่างเด็ดขาด คนข้างในก็ไม่มีปล่อยให้ออกมาง่ายๆ ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นก็คือ พอเข้ารถไปได้แล้ว ก็จะเฝ้าเสาประตูอย่างเหนียวแน่น ขึ้นสะพานควาย (บ้านเกิดเค้า) จะไปอ่อนนุช ถ้าตราบใดไม่ได้ที่นั่ง พี่แกก็จะเฝ้าประตูอยู่นั้นแหละครับ ต้องยอมรับในความแน่วแน่ของเค้าจริงๆ เห็นพวกนี้แล้วผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกกระเป๋ารถเมล์ชอบพูดติดปากว่า “ชิดในหน่อยเพ่ ตัวเห้ยืนขวางประตู”


    พวกกองหลัง

    พวกนี้ก็สุดยอดครับ ไม่รู้ไปเรียนแทคติกฟุตบอลสมัยใหม่มาจากไหน เน้นเกมเพรสซิ่งเป็นหลัก คือกด และดันทุกอย่างที่ขวางหน้าครับ ตอนรถยังไม่เข้าสถานีก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอรถมาเท่านั้นแหละครับ เค้าจะเข้าประกบเร็วทันที แบบหายใจรดต้นคอคุณเลยทีเดียว เหมือนกองหลังประกบตายศูนย์หน้ายังไงยังงั้น ดีไม่ดีมีทั้งดึงทั้งผลัก เล่นตุกติกทุกรูปแบบ เป้าหมายเดียวของเค้าคือต้องถึงบอลก่อน … เอ๊ย … ต้องได้ขึ้นรถก่อน


    พวกตัวริมเส้น วิงแบ๊ค ปีก

    ประเภทนี้จะเห็นได้ชัดในชั่วโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะตามท่าเรือด่วนเจ้าพระยาครับ คือเรือด่วนเวลาเทียบท่าเรือเนี่ย มันขึ้นทางท้ายเรือได้ช่องเดียว ความกว้างราวๆ 2-3 เมตร แรกๆ พวกนี้จะยืนรอบอลอยู่แถวริมเส้นครับ แต่พอเรือหรือรถไฟฟ้าเข้าเทียบปั๊บ พี่แกจะปาดหน้าแถวที่เค้ารอกันอยู่ ตัดเข้าในจู่โจมจุดโฟกัสแบบไม่ให้ระวังตัวทันที คือคุณจะเข้าแถวหรือยืนรอมาก่อนนานแค่ไหนพี่เค้าไม่สนหรอก เป้าหมายคือต้องได้ขึ้นรถก่อน บางคนนี่น่ารักหนักเลยครับ คือปาดหน้าเค้ามาแล้วยืนกั๊กมันดื้อๆ ยังงั้นแหละ ไม่มีปัญญาก้าวข้ามขึ้นไปเร็วๆ หรอก สัปดาห์ที่แล้วผมเห็นกะตาคนนึง obstruction แบบนี้แหละครับ ผลคือโดนใบแดง ลงไปอาบน้ำก่อนเพื่อน


    ศูนย์หน้าตัวเป้า

    ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของพวกนี้คือการหาที่ว่างเข้าทำประตูครับ คือถึงแม้จะมีคนยืนอยู่ข้างหน้าเค้าเท่าไหร่ เค้าก็จะสามารถหาที่ว่างแทรกตัวเข้าไปยืนอยู่ในตำแหน่งทำประตูได้เสมอ บางคนแทรกเข้าไปเองไม่ได้ก็ทำทางให้เพื่อนครับ คือถ้าพี่เค้าจูงลูกมาด้วย เค้าจะดันลูกเค้าเข้าไปแบบสุดๆ นัยว่าวัดกันไปเลย ว่าบรรดาผู้ใหญ่ที่ยืนเกะกะทั้งหลายนี่จะกล้าเบียดหรือตบกบาลเด็กรึเปล่า แต่เด็กพวกนี้เค้าก็ฝึกมาดีนะครับ แทรกเข้าไปได้ก็จะเข้าไปทำทางกั๊กที่ไว้ด้วยกระเป๋า (หรือบางคนก็นอนขวางเอาดื้อๆ เลย) เข้าข่ายอภิชาตบุตร นับว่าน่าเอ็นดูไม่น้อย บางคนไม่มีลูกเล็กๆ ก็ใช้ดันแฟนนี่แหละครับ ช่วยกันทำมาหากินเข้า เป้าหมายคือต้องได้นั่งที่ชอบๆ ก่อนใคร




    ที่กล่าวมาเนี่ย จริงๆ ผมเชื่อว่าเป็นส่วนน้อยนะครับ ไม่ได้เหมารวมว่าคนไทยเป็นแบบนี้กันหมด ก็แค่เห็นว่ามันเป็นแบบนี้กันแทบทุกคนเท่านั้นเอง (เอ๊ะ ยังไง ชักเริ่มงง) เจอจนชินขนาดว่าบางคืนผมเก็บไปฝันเลยครับ ฝันว่าคนไทยมีระเบียบ มาก่อนยืนเข้าแถว มาทีหลังก็ต่อแถว ไม่แย่งกันขึ้นรถขึ้นเรือเหมือนสัตว์บางชนิดแย่งเศษกระดูก ถ้ามีคนลงก็หลีกทางให้ก่อน ฝันว่าบริษัทที่ทำรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขาย เค้าแถมมารยาทการขับขี่ให้ลูกค้าด้วย ไม่มีใครขับคร่อมเลน เห็นไฟเหลืองแล้วเบาเครื่องเตรียมหยุด ไม่ใช่ไฟแดงไปแล้วสามวินาทียังยัดเกียร์แหกมาหน้าตาระรื่น ฝันว่าคนขับรถฉลาดขึ้น ใช้ไฟเลี้ยวบอกล่วงหน้าก่อนเปลี่ยนเลนกันทุกคน …




    แต่ผมฝันแบบนี้ทีไร … ม่างสะดุ้งตื่นก่อนทุกที !!!




    ถ้าฝันต่อจนจบ ผมเดาว่าตอนท้าย ผมจะทันได้เห็นประเทศไทยเป็นมหาอำนาจในโลกพอดีเลยครับ

    จากคุณ : (แมลงสาบ) - [ 23 ธ.ค. 46 16:16:39 ]